กลุ้มใจกันทั้งบ้าน...น้องชายเรียนจบวิศวะไม่ยอมทำงาน

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 1:33 pm

ผมได้สมัครสอบทำงานเอาไว้ที่สภากาชาดไทย เนื่องจากทางนั้นเขารับตำแหน่งที่ตรงกับคณะที่ผมจบมา เป็นงานเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ สื่อสารมวลชน ก็รับแค่ 2 อัตรา มีคนร่วมสอบแข่ง 32 คน ผมก็เป็นหึ่งในนั้น จะสอบวันที่ 29 ตุลาคมนี้ครับ มีต้องเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ด้วยครับ ไม่ได้เรียนวิชาตั้งแต่อยู่ ม.4 แล้ว เขาจะสอบเกี่ยวกับเรื่อง อนุกรม ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วก็สอบเกี่ยวกับ อุปมาอุปไมย ภาษาไทย และความรู้เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำข้อสอบได้มากน้อยแค่ไหน ก็พยายามให้กำลังใจตนเองว่า เคยผ่านการสอบที่คู่แข่งเยอะกว่านี้มาแล้วสองครั้ง ยังทำได้เลย แต่ก็ยังห่วงในวิชาที่ไม่เคยเรียนมา คงต้องใช้การเดาเท่านั้น (ขอให้ผมเดาถูกด้วยเถิด) ขอสอบเป็นแบบปรนัย

ส่วนงานที่ผมสมัครไว้ในหน่วยงานของพระศาสนจักร ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เค้าก็ไม่เรียกไปสัมภาษณ์สักที รอมาหลายเดือนแล้ว ผมก็พยายามติดต่อไถ่ถามทางนั้นตลอด เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ก็อยากมีคนมาร่วมงาน แล้วพนักงานอีกคนก็กำลังจะลาออกสิ้นเดือนนี้ด้วย ผมคิดว่ามันอาจจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะผมสนิทกับพี่คนที่ทำงานนี้มานาน แต่บางทีคุณพ่อที่รับผิดชอบอาจจะอยากได้คนของเค้ามาทำงานก็ได้ แต่พี่ที่อยู่มานานก็ไม่อยากสอนงานคนใหม่ หรือว่าเค้าจะปิดแผนกนี้ก็ไม่ทราบ เพราะคุณพ่อที่รับผิดชอบแผนกนี้ ไม่ค่อยมาทำงานที่สำนักงาน จึงไม่ค่อยมีผลงานอะไรออกมาเหมือนอย่างที่คุณพ่อท่านก่อนรับผิดชอบอยู่
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ เสาร์ ต.ค. 24, 2009 10:24 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 3:40 pm

จะสวดให้นะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 3:46 pm

สู้ๆคับ มองหลายๆทาง ได้ก็ดีอ่า ^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 9:22 pm

ผมเองก็สวดขอมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วครับ เกี่ยวกับเรื่องงาน พอดีในหน่วยงานของพระศาสนจักรที่ผมสมัครงานไว้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างช่วงกลางปีที่ผ่านมา เค้าก็เลยยังไม่สนใจเรื่องรับบุคลากรใหม่ ที่จริงแผนกอื่นก็มีประกาศรับพนักงาน แต่ผมไม่ถนัดในสายงานอื่น คิดว่าคงไม่เหมาะสมกับบุคคลิกและความถนัด ไม่ได้คิดเองนะครับ ผมได้ปรึกษากับพี่ ๆ ที่ทำงานที่นั้นบางคนแล้ว เค้าก็ให้กำลังใจและขอให้ผมอดทนรอนิดนึง ผมก็รอมาหลายเดือนจนยังไม่รู้ว่าจะรอไปถึงเมื่อไร ก็พอดีเจอประกาศของกาชาดที่รับเจ้าหน้าที่ ก็เลยอยากลงสอบดู เพราะผมก็อยากทำงานกับองค์กรการกุศลมากกว่าจะทำงานบริษัท เพราะจะได้มีโอกาสช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่ฝ่ายกายก็ฝ่ายจิต แต่ถ้าสอบไม่ติดก็คงต้องหาลู่ทางอื่นครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ เสาร์ ต.ค. 24, 2009 10:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

เสาร์ ต.ค. 24, 2009 10:44 pm

ผมไม่อยากตั้งกระทู้เพิ่ม เลยขอเบนประเด็นหน่อยครับ

ตอนนี้ที่บ้านผม พ่อแม่และผมเองก็มีเรื่องปวดหัวที่แก้ไม่ได้ คือผมมีน้องชายสองคน น้องชายคนกลางเรียบจบวิศวะไฟฟ้ามาแล้วสองปี แต่ไม่ยอมทำงานประจำ เคยให้ไปทำงานแค่สามสี่เดือนเค้าก็ลาออกไม่ไปทำงานดื้อ ๆ แถมไม่ได้เขียนจดหมายลาออกซะด้วย พ่อของผมก็มีเพื่อนที่รู้จักกันเป็นเจ้าของกิจการ เค้าก็ชวนให้น้องผมไปทำงานกับเค้า แต่น้องผมก็ไม่ยอมไป น้องผมอ้างว่า อยากทำธุรกิจขายตรง เพราะทำงานประจำได้เงินเดือนแค่หมื่นกว่า ๆ ทำงานสิบปีถึงจะได้เงินล้านนึง แต่เห็นคนทำขายตรงไม่กี่เดือนก็มีรายได้เป็นแสน น้องผมเลยไปสมัครสมาชิกขายตรง 2 ยี่ห้อเลย แต่วัน ๆ ก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไม่รู้ทำอะไร ช่วงที่ยังเรียนอยู่ก็ติดเล่นเกมส์จนต้องใช้เวลาเรียนถึง 6 ปี กว่าจะจบปริญญาตรี ส่วนรายได้จากการขายตรงยังไม่เห็นมี มีแต่รายจ่ายซึ่งต้องซื้อสินค้ามาเก็บไว้ ที่จริงเค้าให้ซื้อเพื่อเอาไปขาย แต่น้องผมเป็นคนไม่มีเพื่อนมีฝูง รู้จักแค่ญาติพี่น้องเท่านั้น จึงไม่ค่อยได้เอาสินค้าไปขายหรือแนะนำให้ใคร ผมและทุก ๆ คนในครอบครัวก็แนะนำให้เค้าไปทำงานประจำด้วย จะได้รู้จักคนมากขึ้น ซึ่งมันจะช่วยให้ทำงานขายตรงง่ายขึ้นด้วย แต่น้องผมก็ไม่ยอมเชื่อ ยังเถียงว่า ไม่อยากไปเสียเวลา หาเวลาทำงานประจำเดี๋ยวก็ไม่มีเวลาทำงานขายตรงพอดี แต่และวันผมก็เห็นเค้าอยู่แต่บ้าน อาจจะออกไปรับการอบรมที่บริษัทขายตรงบ้างบางวัน

เวลาที่พ่อแม่หรือผมพูดชักชวนเค้าให้มาทำงานประจำ ก็จะต้องมีเรื่องทะเลาะกันทุกครั้ง โดยเฉพาะกับพ่อผม ผมก็ไม่รู้ว่าน้องคนนี้เป็นอะไร เค้าถึงมีอคติกับการทำงานประจำ และชื่นชอบแต่การขายตรง ซึ่งเวลานี้ เงินทุกบาทที่เค้าเอาไปซื้อของก็ต้องขอจากพ่อ แม้แต่ค่าเติมแก๊สรถยนตร์ก็ยังขอพ่อ จนตอนนี้พ่อจะไม่ให้เงินเค้าแล้ว เพราะทนไม่ได้จริงๆ ที่เห็นเค้าทำตัวแบบนี้

มีช่วงหนึ่งก่อนที่เค้าทำงานประจำในครั้งนั้น เค้าก็ทำขายตรงญี่ห้อหนึ่ง เป็นบริษัทคนไทย และพอมีรายได้ประมาณเดือนละหมื่นกว่าๆ แล้วพ่อผมก็ให้เขามาทำงานประจำ เค้าก็ยอมไปทำทั้ง ๆ ที่ไม่เต็มใจ เค้าโกรธพ่อมากเลย และในที่สุดบริษัทขายตรงนั้นก็ปิดกิจการไป เนื่องจากมีปัญหาภายใน น้องผมก็ทนทำงานประจำอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งเค้าก็บ่นตลอดว่างานหนัก เงินเดือนน้อย จนในที่สุดเค้าก็ออกจากงาน

ทุนวันนี้ คุณพ่อก็พูดเรื่องงานกับเค้าไม่ได้เลย ผมก็พูดไม่ได้เช่นกัน ส่วนคุณแม่ก็ต้องทุกข์ใจและยอมรับสภาพของลูกชายคนนี้ น้องเค้ายังขู่ว่า ถ้าบังคับให้เค้าทำงานประจำอีก เค้าจะขับรถไปชนรถสิบล้อให้ตาย ๆ ไปเลย ที่บ้านจะได้เงินประกันชีวิต เพราะตอนนี้ที่บ้านก็มีภาระทางการเงินกับทางธนาคารอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องผ่อนชำระทุก ๆ เดือน

ผมก็ไม่รุ้จะปรึกษาใคร หรือให้ใครมาช่วยพูดเกลี้ยกล่อมน้องคนนี้ของผมที ให้เค้าเข้าใจและตาสว่าง ไม่ฝันลมๆ แล้ง ๆ เพราะเค้าเองก็ดูไม่จริงจังกับการขายตรงสักเท่าไรเลย เพียงแค่ไม่อยากลำบากทำงานเท่านั้น นี่ก็ออกจากงานมาห้าเดือนแล้ว ยังไม่มีรายได้จากขายตรงเลย
Jesus loves You
โพสต์: 740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm

เสาร์ ต.ค. 24, 2009 10:49 pm

สู้ๆ ครับ อธ .เผื่อเยอะๆ ::022::
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ ต.ค. 24, 2009 11:18 pm

เรื่องอนุกรม คงไม่น่าออกยากมากนะคะ คงออกแนวทดสอบไอคิวมั้งคะ

เช่น 1/2, 1/4, 1/8, ......  แล้วให้เติมว่า ต่อไปเป็นอะไร ประมาณนั้น (1/16)

เรื่องน้องชาย คิดว่า เค้าไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบอะไรนะคะ น่าจะให้เค้าไปคุยกับคุณพ่อที่วัด หรือคนที่ให้คำปรึกษาจิตวิืทยา ลึกๆคงกลัวที่จะไปเผชิญโลกกว้างน่ะค่ะ  แต่เก็บไว้ข้างใน ... และก็เหมือนเด็กที่ยังไม่ยอมโต ต้องโตแล้วแต่ไม่พร้อม ซึ่งจริงๆก็คือ "กลัว" น่ะค่ะ

สวดให้นะคะ 

พระอวยพรค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ต.ค. 25, 2009 11:46 am

ถ้าเขาบอกว่าอยากทำขายตรงจริงๆ

ยศว่า พี่เพชร "ผลักดัน"ให้เขาทำขายตรงจริงๆจังๆไปเลยครับ

ลองโทรคุยปรึกษากับ upline/หัวหน้าของเขาในธุรกิจขายตรง ให้ช่วยผลักดันก็ดี


จะทำธุรกิจขายตรง หรืองานประจำ ก็ต้องขยันครับ : emo073 :
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

อาทิตย์ ต.ค. 25, 2009 12:23 pm

สวดให้ละกันค่ะ : emo045 : ลำบากใจแทนนะคะ ::044::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อาทิตย์ ต.ค. 25, 2009 3:34 pm

เรื่องเตรียมตัวสอบ วันนี้ผมก็ไปซื้อหนังสือคู่มือเตรียมสอบมาดู ก็ตั้งใจว่าจะพยายามอ่านทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด มีเวลาแค่สามวัน

ส่วนเรื่องน้องชาย เค้าจะเป็นคนไม่เอาจริงเอาจังมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ช่วงนี้เค้าก็พยายามตื้อให้ญาติพี่น้องมาสมัครขายตรงต่อจากเค้า แต่ก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะสมัคร อย่างมากก็แค่ช่วยซื้อสินค้า เพราะก็เห็นมัวแต่เปลี่ยนจากบริษัทนึงไปอีกบริษัทนึง ไม่รู้จะเอาจริงจังกับตัวไหนกันแน่ รายได้ก็ยังไม่เกิดให้เห็นเลย ถ้าขืนไปสมัครต่อจากเค้าก็ไม่มีอะไรที่มั่นคง ผมเองก็ไม่เอาด้วยหรอก ตอนนี้ญาติ ๆ ก็ได้พูดบอกเค้าแล้วว่าโตเป็นผู้ใหญ่อายุเกือบจะสามสิบอยู่แล้ว ควรทำงานเป็นหลักเป็นฐานได้เสียที ไม่ควรขอเงินพ่อแม่ พ่อก็อุตส่าห์หางานประจำมาให้ ก็ไม่ยอมทำ จะได้มีรายได้ทางนึง ส่วนจะทำขายตรงก็ดีจะได้มีรายได้อีกทางหนึ่งด้วย ทุก ๆคนพยายามเกลี้ยกล่อมแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเค้าจะมองเห็นว่าทุกคนหัวโบราณ คิดแต่จะทำงานรับเงินเดือนประจำ เค้าเห็นเพียงแค่การขายตรงที่จะเป็นช่องทางทำมาหากินได้เท่านั้น งานอื่น ๆ ไม่แตะเลย รวมทั้งงานบ้าน งานที่ต้องแสดงน้ำใจให้ฟรี ๆ เค้ายิ่งไม่เอาเลย ที่จริงทางบ้านผมก็มีกิจการธุรกิจของครอบครัว เค้าก็ไม่เคยคิดจะช่วยงานที่บ้านเลย มีแต่น้องคนเล็กที่เรียนจบมาและช่วยงานที่บ้านอย่างเต็มตัว ส่วนน้องคนกลางก็พยายามชักชวนพ่อให้เลิกกิจการที่ทำ แล้วไปช่วยเค้าทำขายตรง เนื่องจากพ่อรู้จักคนเยอะ เค้าจะอาศัยการที่พ่อรู้จักคนเยอะ เป็นช่องทางในการหาลูกค้า ซึ่งพ่อผมก็ไม่เอาด้วยอย่างแน่นอน ทุกวันนี้ เค้าก็ยังขอเงินจากที่บ้านใช้ ตั้งแต่เงินซื้อสินค้าขายตรง ค่าแก๊ส ค่าซ่อมรถ ฯลฯ ผมก็เตือยเขาว่า ในเมื่อยังไม่มีรายได้ก็ไม่ควรขับรถเอง เพราะค่าใช้จ่ายสูง ควรนั่งรถประจำทาง เค้าก็เถียงว่า ถ้าไม่ให้ขับรถ เค้าก็จะอยู่แต่ที่บ้านไม่ออกไปไหน นั่งเล่นเกมส์คอมฯ ทุกวัน  ผมก็ไม่รู้ว่าจะหาใครมาเตือน มาเปิดตาของเค้าดี เค้าบอกว่าคนอื่น ๆ ไม่ยอมเปิดใจ ไม่ยอมรับธุรกิจขายตรง แต่ทุก ๆ คนก็เห็นว่า ตัวเค้าเองต่างหากที่ปิดใจไม่รับฟังคำแนะนำของคนอื่น  น้องคนนี้เป็นคนเดียงที่ทำให้พ่อหนักใจ ทำให้แม่ร้องไห้ ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ผมไม่อยากเลี้ยงน้องแบบนี้นะครับ ร่างกายก็ไม่พิการ สมองก็ดี น่าจะพึ่งตนเองได้ตั้งนานแล้ว

ผมขอบคุณมากนะครับ สำหรับทุก ๆ คนที่สวดภาวนาให้ ผมก็เข้าใจดีว่าทุก ๆ ครอบครัวล้วนก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น เราก็สวดภาวนาเผื่อกันและกันและพูดคุยปรึกษากัน เพื่อหาทางแก้ไขครับ
~ฮีUโปฟัuxaoxน้ๅโJ™~
โพสต์: 1653
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-

อาทิตย์ ต.ค. 25, 2009 3:41 pm

เวลาผมมั่ว - -;

ผมมักเอาคำตอบแรกที่พุดขึ้นมาในสมองอ่ะคับ*-*
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

อาทิตย์ ต.ค. 25, 2009 5:52 pm

คุณ Andreas คะ จริงๆ แล้วไม่ค่อยอยากแตะเรื่องการขายตรงซักเท่าไหร่นัก

เพราะอาจจะไปกระเทือนเพื่อนบางคนเข้า ( ขอโทษนะคะใครที่ขายตรงอยู่ )

แต่จำเป็นจะต้องพูดละค่ะ เห็นคุณและครอบครัวเดือดร้อนขนาดนี้

ระบบการขายตรงหรือ MLM ของหลายๆ บริษัท ( ย้ำว่าหลายๆ แต่ไม่ใช่ทุกบริษัท )

สินค้าที่ขายคุณภาพไม่ตรงกับราคาที่ตั้งไว้สูงๆ ขายแพงแต่คุณภาพสินค้าไม่สมราคา

ส่วนมากก็จะเอาไปจ่ายให้กับพนักงานขายซะเยอะมากกว่า

แล้วก็จะสอนให้ไปหาลูกค้าจากญาติจากคนใกล้ชิด ( ซึ่งเขาก็ไม่ได้รับรู้เรื่องความลำบากใจของคนใกล้ตัวเลย )

บางบริษัททำโฆษณาว่านักเรียนพึ่งจะจบใหม่ขับรถสปอร์ตหรูๆ มีรายได้มากๆ

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงจะมีซักกี่คนที่ทำได้ขนาดนั้น เค้าจะสร้างภาพของมายาคติต่างๆ นานา

เช่น การถ่ายรูปเวลาไปรับเงินก็กางเงินออกมาเป็นรูปพัดใหญ่ๆ ( ก็จะถ่ายเฉพาะคนที่ได้ลูกทีมเยอะๆ ขายได้เยอะ )

คนที่ไม่เข้าใจก็จะหลงไปในบ่วงที่เค้ามาดักเราไว้ เข้าใจว่าน้องคุณไปตกกับดักการฝังความคิดที่จะหารายได้ง่ายๆ

โดยที่ไม่ต้องทำอะไรมากแบบที่เค้าโฆษณา  สอนให้นึกถึงผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้ฝ่ายเดียว

ในสังคมปัจจุบันจะมีบริษัทต่างๆ มากมายที่เปิดมาแล้วใช้คนหนุ่มสาวเหล่านี้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความร่ำรวยให้เจ้าของบริษัท

น่าจะพาน้องคุณไปพบกับพ่อคณะเยซูอิตนะคะ พ่อน่าจะแนะนำได้ดีมากกว่านี้

จะภาวนาให้คุณและครอบครัวมากๆ นะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ต.ค. 25, 2009 7:46 pm

แนะนำปรึกษากับคุณพ่อดูนะครับ ท่านมีประสบการณ์
น่าจะปลุกมโนธรรมน้องพี่ตื่นได้

อย่างไรจะภาวนาเผื่อนะครับ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ต.ค. 25, 2009 8:13 pm

ขอพระเจ้าทรงนำและอวยพรในการสอบ และการได้งานที่เหมาะสม เชื่อว่าพระเจ้าที่แสนดีมีเวลาของพระองค์ค่ะ

** เรื่องการไม่ยอม ทำงาน หรือเกี่ยงงาน กำลังเป็นปัญหากับคนยุคใหม่ เพราะเขาอยู่ยุค Instant หรือยุคดิจิตอล
ต้องการได้อะไรแบบนรมิต แบบเทพนิยาย อาจจะเพราะค่าของสังคมที่สร้างให้ ผนวกกับน้องยังอยู่กับพ่อแม่
ถึงไม่ทำงานก็ยังมีกินมีใช้  แต่หารู้ไม่ว่าการปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป ยิ่งทำให้เราหางานยากขึ้นทุกวัน

การขายตรงนั้น ต้องมีของประทานพิเศษ จริงๆ ที่ทำงานพี่ เห็นพวกนี้เข้ามาเมื่อไหร่ รีบเดินหนีเลย
เพราะมันไม่หวาดไม่ไหว มีสมาชิกคริสตจักรหลายคนทำงานขายตรงกับพี่ ขอบคุณพระเจ้า พี่เป็นคนกล้าพูด
บอกว่าอย่ารบกวนพี่เรื่องการขายตรง เพราะช่วยซื้อคนหนึ่งแล้ว คงต้องช่วยทุกคน พี่ขอช่วยเขาในการอธิษฐาน
ขอพระเจ้าทรงอวยพร ในอาชีพเขามากกว่า

คนจะขายตรงต้องมีมนุษยสัมพันธ์มากหน่อย ต้องขยัน จริงๆไม่ว่าเราจะทำอะไรมันต้องขยันอดทน เอาจริง เอาจังทั้งนั้น แหละ : xemo026 : : xemo026 :
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อาทิตย์ ต.ค. 25, 2009 9:48 pm

ยังมองว่า น้องเค้ากลัวนะคะ และก็ไม่เชื่อในศักยภาพตัวเอง แต่ก็อยากพิสูจน์ให้คนเห็นว่า เค้าก็ทำอะไรได้เหมือนกัน แต่บางที พอไม่เคยลงมืออะไรจริงจัง เวลาคิดอะไร มันก็อาจจะดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่

ให้กำลังใจเยอะๆค่ะ ปล่อยให้เค้าทำ ให้พิสูจน์ตัวเอง และก็ต้องมีการต่อรองนิดนึงว่า ถ้าทำแบบเค้าแล้ว มันไม่รุ่ง ต้องทำตามพ่อแม่แล้วนะ

แต่เห็นด้วยกับคุณ sinner นะคะ ให้ไปคุยกับพ่อเยซูอิต หรือไม่ก็พี่นริศก็ได้ค่ะ  : emo045 :

พระอวยพรนะคะ  : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

จันทร์ ต.ค. 26, 2009 1:02 am

หลายวันก่อนเลย์เกือบมีเรื่องกับพวกวิศวะที่มหาลัย  : emo034 :
poloplow
โพสต์: 402
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 11, 2006 11:01 pm

จันทร์ ต.ค. 26, 2009 2:22 pm

ลองตั้งเงื่อนไขดูดีไหมครับ?

อย่างเ่ช่นว่า  จะให้น้องลองทำขายตรงอีกครึ่งปีแต่ต้องทำจริงจัง สนับสนุนทุกอย่าง และไม่ยกเรื่องงานประจำมาพูดอีก  ถ้าไปได้ดีก็แล้วไป

แต่ถ้าครบครึ่งปี(หรือตามเวลาที่กำหนดไว้)ยังหารายได้เลี้ยงตัวเองไม่ได้  ก็ต้องเลิกมาทำงานประจำ  ประมาณนี้่อ่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
KaVe
โพสต์: 60
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 26, 2009 7:38 pm
ที่อยู่: ซ.เรวดี จ.นนทบุรี
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 27, 2009 11:34 pm

เรื่องขายตรงนี่มันขึ้นกับประสบการณ์จริงๆ ครับ ถ้าเค้าเปิดใจรับเพียงด้านเดียว รับรู้แต่สิ่งดีๆ ที่มันเป็นไปได้ยาก (มากๆ) แต่ไม่เคยจะรับรู้ความเดือดร้อนของคนรอบข้างตัวเอง ก็คงลำบากน่ะครับ จะแก้เรื่องนี้ได้คงต้องมีใครสักคนที่เค้าแคร์ มาเตือนครับ คนอื่นไปพูดก็ช่วยลำบากครับ ดีไม่ดีจะเตลิดเปิดเปิงไปใหญ่ (แต่ผมว่านี่ก็มากแล้วนะครับ ถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย)

ถ้าที่บ้านจะเตือนสติเค้า ก็ต้องแสดงให้เค้าเห็นครับว่า การที่ต้องช่วยเค้าซื้อสินค้าของบริษัท มันทำให้ทางบ้านเดือดร้อนอย่างไร มากแค่ไหน ให้เค้าเห็นว่าเงินมันมีค่า กว่าที่เค้าจะได้เงินจากบริษัทขายตรงมา ที่บ้านเสียเงินไปเท่าไรแล้ว แล้วมันคุ้มหรือเปล่า การจะช่วยเตือนสติจะต้องให้เค้ามีอารมณ์ร่วมครับ ว่าที่บ้านลำบากเพราะการกระทำแบบนี้ เกริ่นๆ ไปก็ได้ครับว่าที่ญาติๆ ซื้อ ก็เพราะเค้าเห็นใจน้องพี่ มันไม่ใช่เพราะผลิตภัณฑ์ที่ทำให้คนอยากเสียเงินมาซื้อ

ผมว่าส่งเค้าเรียนปริญญาโทก็ดีนะครับ จะได้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น เห็นว่าคนอื่นๆ เค้ารับผิดชอบตัวเองกันได้ขนาดไหนแล้ว ตัวเค้าเองทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ ต้องค่อยๆ เตือนให้เค้ารู้ว่า การที่เค้าเป็นแบบนี้มันทำให้คนที่รักเค้าต้องเสียใจ หรือหนักใจขนาดไหน

ผมว่าถ้าเค้าชอบเล่นเกมมาก ก็ลองไปสมัครบริษัท Asiasoft ก็ได้นะครับ เป็น Game Master คอยดูแลเกมออนไลน์ ก็น่าจะมีความสุขขึ้นกับการทำงานครับ

สู้ๆ นะครับพี่  : emo027 :
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

พุธ ต.ค. 28, 2009 3:06 am

ขอโทษนะครับพี่ ผมว่าคุณพ่อพี่ใจดีเกินไป คงต้องใช้บทโหดก็คือไม่ให้เงินเลยตัดพ่อตัดลูกก็ยอม


ไม่มีงาน = ไม่มีเงิน


พ่อผมก็ใช้บทนี้กับผมตอนเรียนจบใหม่ๆ  แต่ว่าผมก็มีความฝันของผม ผมมีอคติกับงานทำงานออฟฟิศที่พ่อจะให้ไปทำ  พ่อก็ตัดเงินไม่ให้สักกะบาทกะว่าสุดท้ายผมต้องยอมจำนน แต่เปล่าเลยผมกระเสือกกระสนทำตามความฝันจนสำเร็จมาหลายขั้นแล้วจากไม่มีอะไรเลย(แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นสูงสุดที่ตั้งใจ) ทั้งนี้เพราะว่าพ่อผมเล่นบทโหดกับผม

น้องชายพี่ยังไม่เจอบทโหดก็เลยคิดว่า ชิวๆ ตอนนี้ใช้ชีวิตตามปกติอยู่เฉยๆก็มีกินมีใช้  เดีฅ๋ยวลองเจอโหมดนี้เข้าไปจะเหลือทางเลือกแค่ 2 อย่างคือ  ขวนขวาย กับ อดตาย เลือกเอา 555+


ถ้าน้องพี่มีใจรักการขายตรงจริงๆ ต้องสำเร็จแน่ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 28, 2009 11:22 am

พ่อของผมก็ขอให้คนที่น้องผมนับถือ คืออาคนหนึ่งมาพูดโน้มน้าวใจเค้าแล้วครั้งนึง น้องผมก็ยังไม่เชื่อ ที่จริงอาของผมคนนี้ก็เคยเคว้งคว้างในเรื่องงานอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะคุณอาเคยเป็นเณรมาก่อน แต่ตอนนี้คุณอาก็มีการงานที่มั่นคงในบริษัทของญี่ปุ่น และยังเรียนต่อโทอีกด้วย ส่วนภรรยาของคุณอาน้องผมก็นับถือ ตอนนี้กำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ แต่น้องผมมันก็พูดว่า สมัยนี้ขนาดคนเป็นหมอมีรายได้ดี ๆ ยังลาออกมาทำขายตรงมีรายได้เยอะกว่าเลย แถมยังจะชวนให้อาทั้งสองออกมาทำขายตรงอีก อาทั้งสองเลยไม่รู้จะทำยังไงกับน้องผมดี

ส่วนแม่ผมท่านก็ไม่ว่าอะไร ท่านพูดแต่ว่าทำใจได้แล้ว มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน ท่านเคยเป็นพุทธมาก่อน เลยคงคิดว่ามันคงเป็นกรรมเก่า และคนเราก็มีทั้งส่วนดีและไม่ดี ท่านก็เลยขอมองแค่ส่วนดีของเค้า ส่วนไม่ดีก็ไม่อยากสนใจ แต่ใจจริงผมคิดว่า ท่านคงทุกข์ใจไม่น้อยเลย

ผมไม่รู้ว่า การที่ให้น้องคนนี้มามีส่วนในการกู้เงินธนาคารเพื่อซื้อบ้าน เมื่อปีที่แล้ว จะเป็นเหตุให้เค้ามุ่งที่จะทำงานที่มีรายได้สูง ๆ เพื่อมาปลดหนี้หรือเปล่า เพราะพ่อผมใช้ชื่อน้องคนนี้ในการกู้เงินร่วมกับท่าน เพราะพ่อผมอายุ 60 ปีแล้ว แล้วตอนนั้น น้องผมก็ยังทำงานประจำอยู่ ส่วนผมตอนนั้นไปเรียนอยู่ที่สิงคโปร์ น้องผมเลยเครียด กลัวจะหาเงินได้ไม่พอ ที่จริงแล้ว ถ้าทำงานมีเงินเดือนสม่ำเสมอ ก็สามารถชำระหนี้ได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะพี่น้องก็ต้องช่วยกัน แต่น้องผมพอได้ยินคนที่ทำขายตรงมาพูดว่า ทำขายตรงแล้วจะมีรายได้เยอะ จะสามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ ถ้าทำงานประจำก็ต้องใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าจะมีเงินเก็บสักล้านนึง แต่ขายตรง คนนั้นหรือคนนี้ทำแค่สองสามปีก็ปลดหนี้ได้แล้ว แถมยังเป็นงานอิสระ ผมก็คิดว่าเค้าคงฝังหัวในเรื่องนี้มากเกินไป  ผมเห็นแล้วก็เวทนา ตอนนี้ก็ไม่เห็นเค้าจะมีรายได้อะไรจากการขายตรง ตอนนั้นก็ขอเงินพ่อไปซื้อของ พอเอามาขายก็ขายในราคาสมาชิก แล้วก็เอาเงินนั้นใช้เติมแก๊สและเข้า 7/11 ซื้อขนมกิน แค่นี้เงินก็หมดแล้ว แล้วนาน ๆ จะขายของได้สักชิ้น คนที่เค้าซื้อก็ญาติ ๆ กัน ซื้อเพราะเกรงใจ ทำแบบนี้ไม่รุ่งแน่นอน แล้วที่สุดเงินก็จะหมด เพราะเล่นเอาทุนมากิน กำไรก็ไม่มี ผมจะบอกพ่อและแม่ว่าอย่าให้เงินเค้าอีก เพราะบริหารเงินไม่เป็น

ส่วนที่จะให้เค้าไปคุยกับคุณพ่อเยสุอิตนั้น ทางบ้านผมไม่รู้จักกับคุณพ่อคณะนี้เลย ไม่ทราบว่า ขอเป็นคุณพ่อเจ้าวัดที่น้องผมไปวัดเป็นประจำได้ไหมครับ ที่วัดผมก็คุณพ่ออนุชา ชาวแพรกน้อย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 28, 2009 11:33 am

ผมว่าลองขอปรึกษากับคุณพ่อท่านใด ก็ไม่เสียหายครับ
แค่เจาะจงว่าเยซูอิตมีสไตล์ที่พิเศษอยู่เท่านั้นเอง : xemo017 :

ปล.ขายตรงมันก็มีหลายประเภทนะครับ ทั้งที่ดีและผิด
ต่อให้ของดีจริง แต่ขายผิดวิธี มันก็ไม่ไหวนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ ต.ค. 28, 2009 12:03 pm

ตามที่พี่ยศบอกครับ


***
ขายตรง ดูด้วยว่า ทำกับบริษัทอะไร?  ทำยังไง? กับใคร?
ที่สำคัญต้องดูด้วยว่า ทิศทางน้องของคุณเค้าเป็นยังไง? มีแววจะโดนหลอกหรือไม่?
เอาเป็นว่า ดูแนวคิดเค้าครับ (ผมบอกแบบนี้ก็หนักใจ เพราะเหมือนคนรอบตัวเค้าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน รึเปล่า)

***

ถ้าบอกว่า สมัครขายตรง 2 ยี่ห้อ และนั่งหน้าคอมอยู่บ้าน
ลองทำเป้นสนใจไปหลอกถามดูครับ
หากเป็นธุรกิจเครือข่ายออนไลด์ โพสต์เว็บ ส่งเมล์ กินหัวคิว สมัครต่อกินคอมฯ อะไรอย่างใดอย่างหนึ่งพวกนี้
หักดิบมันไปเลยครับ เสียเวลาทำ ไม่เจริญหรอก

แต่หากเป็น Amway Giffarine ที่เป็นขายตรง ลักษณะ ต้องออกไปประชุมทุกสัปดาห์ มีการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค
พวกนี้ ทำจริงจัง มีโอกาสรุ่งเรืองครับ

ถ้ามันอยากได้เงินมากๆ แต่มันคิดไม่เป็น มันจะนั่งฝันหวานอยู่อย่างนั้นแหละ หุหุหุ

***
ยิ่งถ้าใช้คอมเล่นเกม นะ ^ ^" 
ปล่อยให้มันนอนหมดสภาพความเป็นคนก็ได้ ไม่น่าจะนานเกินรอ มันคิดได้เองแน่ๆ

น้องคุณน่าจะไปรับแนวคิดและปรัชญาทางธุรกิจมา แต่ขาดความเข้าใจและวิธีการที่ถูกต้องอ่ะครับ หรือไม่ก็คิดเป็น ทำไม่เป็น อย่างใดอย่างหนึ่ง

ได้เวลาสั่งสอนล่ะครับ ไม่งั้นจะเสียเวลาอีกนาน

ด้วยความปรารถนาดี หุหุหุหุ

***
ขออภัยหากความเห็นแรง อิอิ  : xemo026 :

จะสวดเผื่อให้วันนี้ครับ  : emo045 :
~ฮีUโปฟัuxaoxน้ๅโJ™~
โพสต์: 1653
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-

พุธ ต.ค. 28, 2009 12:49 pm

คนละคนแล้วครับ เขียน: ***
ยิ่งถ้าใช้คอมเล่นเกม นะ ^ ^" 
ปล่อยให้มันนอนหมดสภาพความเป็นคนก็ได้ ไม่น่าจะนานเกินรอ มันคิดได้เองแน่ๆ

น้องคุณน่าจะไปรับแนวคิดและปรัชญาทางธุรกิจมา แต่ขาดความเข้าใจและวิธีการที่ถูกต้องอ่ะครับ หรือไม่ก็คิดเป็น ทำไม่เป็น อย่างใดอย่างหนึ่ง

ได้เวลาสั่งสอนล่ะครับ ไม่งั้นจะเสียเวลาอีกนาน

ด้วยความปรารถนาดี หุหุหุหุ

***
ขออภัยหากความเห็นแรง อิอิ  : xemo026 :

จะสวดเผื่อให้วันนี้ครับ  : emo045 :

เห็นด้วย- -

เป็นตอนปิดเทอม สักรึ่งเดือน แล้วครึ่งเดือนหลังหายสนิท
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 28, 2009 1:24 pm

สมาชิกในครอบครัวผม ส่วนมากก็จะมีกิจการของตนเอง แต่ก็ไม่ใช่กิจการใหญ่โต ร่ำรวยอะไร ส่วนผมเองก็ตั้งใจว่าจะทำงานทั้งแบบที่มีเงินเดือนและธุรกิจส่วนตัวเล็ก ๆ ควบคู่กันไป น้องผมคนนี้ก็ไม่ชอบงานที่บ้านทำ จนถึงขนาดพูดว่าจะให้คนที่ชวนเค้าทำขายตรงยี่ห้อล่าสุดที่เค้าสมัครมาพูดกับพ่อให้พ่อทำขายตรงด้วย น้องผมคนนี้ก็เคยทำขายตรง Top of Mind แล้วรุ่งอยู่พักนึง เพราะแม่ทีมดี คอยกระตุ้นเนื่องจากเค้ารู้นิสัยน้องผมว่าเป็นคนเฉื่อย ๆ ก็เลยได้รายได้เป็นหมื่นอยู่พักนึง แต่พ่อผมไม่อยากให้น้องผมทำขายตรง เพราะเห็นว่าเป็นงานที่ไม่มั่นคง จึงบังคับให้น้องผมทำงานตามที่เรียนมา เค้าก็ยอมทำอยู่หลายเดือน แต่ประสบการณ์ที่ได้จากงานประจำคือ งานหนัก เงินเดือนน้อย ไม่มีเวลาว่าง อันตราย เค้าว่าอย่างนี้ และที่สุดก็จึงลาออก ซี่งในระหว่างที่ทำงานประจำ บริษัทขายตรงที่เค้าเคยทำก็เลิกกิจการไป สมาชิกก็ต้องไปหาบริษัทอื่นทำ แม่ทีมก็ไปเจอบริษัทหนึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน We Believe เลยชวนน้องผมให้มาสมัคร เมื่อออกจากงานประจำนั้น เขาจึงไปสมัคร แต่เขาก็เห็นว่าบริษัทนี้ มีสินค้าน้อย และขายยาก จึงค่อย ๆ ถอนตัวออกมา ซึ่งแม่ทีมก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไร เขาจึงตัดหางปล่อยวัด ทีนี้ก็มีคนมาแนะนำให้ไปสมัครสมาชิก Aim Star  เพราะเห็นว่ามีสินค้าเยอะ แผนการตลาดคล้าย ๆ กับเจ้าก่อนที่เคยทำ แล้ววันหนึ่งคนในนั้นก็ชวนน้องผมให้สมัครอีกบริษัทนึงด้วย  Prima Life คนที่แนะนำให้ทำ Aim Star จึงไม่สนใจดูแลน้องผม ส่วนใครก็ไม่รู้ที่แนะนำบริษัทหลังสุดนี้ น้องผมก็เลยทำขายตรงไม่ไปถึงไหน ซึ่งแต่ละบริษัทก็ดีทั้งนั้น มันอยู่ที่คนทำว่าเข้าใจวิธีการและขยันมากแค่ไหน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ ต.ค. 28, 2009 1:37 pm

Andreas เขียน: สมาชิกในครอบครัวผม ส่วนมากก็จะมีกิจการของตนเอง แต่ก็ไม่ใช่กิจการใหญ่โต ร่ำรวยอะไร ส่วนผมเองก็ตั้งใจว่าจะทำงานทั้งแบบที่มีเงินเดือนและธุรกิจส่วนตัวเล็ก ๆ ควบคู่กันไป น้องผมคนนี้ก็ไม่ชอบงานที่บ้านทำ จนถึงขนาดพูดว่าจะให้คนที่ชวนเค้าทำขายตรงยี่ห้อล่าสุดที่เค้าสมัครมาพูดกับพ่อให้พ่อทำขายตรงด้วย น้องผมคนนี้ก็เคยทำขายตรง Top of Mind แล้วรุ่งอยู่พักนึง เพราะแม่ทีมดี คอยกระตุ้นเนื่องจากเค้ารู้นิสัยน้องผมว่าเป็นคนเฉื่อย ๆ ก็เลยได้รายได้เป็นหมื่นอยู่พักนึง แต่พ่อผมไม่อยากให้น้องผมทำขายตรง เพราะเห็นว่าเป็นงานที่ไม่มั่นคง จึงบังคับให้น้องผมทำงานตามที่เรียนมา เค้าก็ยอมทำอยู่หลายเดือน แต่ประสบการณ์ที่ได้จากงานประจำคือ งานหนัก เงินเดือนน้อย ไม่มีเวลาว่าง อันตราย เค้าว่าอย่างนี้ และที่สุดก็จึงลาออก ซี่งในระหว่างที่ทำงานประจำ บริษัทขายตรงที่เค้าเคยทำก็เลิกกิจการไป สมาชิกก็ต้องไปหาบริษัทอื่นทำ แม่ทีมก็ไปเจอบริษัทหนึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน We Believe เลยชวนน้องผมให้มาสมัคร เมื่อออกจากงานประจำนั้น เขาจึงไปสมัคร แต่เขาก็เห็นว่าบริษัทนี้ มีสินค้าน้อย และขายยาก จึงค่อย ๆ ถอนตัวออกมา ซึ่งแม่ทีมก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไร เขาจึงตัดหางปล่อยวัด ทีนี้ก็มีคนมาแนะนำให้ไปสมัครสมาชิก Aim Star  เพราะเห็นว่ามีสินค้าเยอะ แผนการตลาดคล้าย ๆ กับเจ้าก่อนที่เคยทำ แล้ววันหนึ่งคนในนั้นก็ชวนน้องผมให้สมัครอีกบริษัทนึงด้วย  Prima Life คนที่แนะนำให้ทำ Aim Star จึงไม่สนใจดูแลน้องผม ส่วนใครก็ไม่รู้ที่แนะนำบริษัทหลังสุดนี้ น้องผมก็เลยทำขายตรงไม่ไปถึงไหน ซึ่งแต่ละบริษัทก็ดีทั้งนั้น มันอยู่ที่คนทำว่าเข้าใจวิธีการและขยันมากแค่ไหน
ใช่เลยครับ
หักดิบน้องไปเลย

อัพไลด์ที่ดี กับธุรกิจตัวจริง ดีจริง
จะไม่โยกสายงานไปทำธุรกิจตัวใหม่ๆเรื่อยๆครับ

ใครจะทำขายตรง MLM ผมให้ความรู้ไว้นะตรงนี้นะครับ
พื้นฐานความมั่นคงของธุรกิจเครือข่าย MLM ขายตรง มาจากการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ไต่ขึ้นมาคือการทำงานเป็นทีม ครับ
ไม่ใช่!!! การโยกสายงานไปสมัครต่อ หรือสมัครซื้อสินค้า เพื่อรับรายได้จากการมีคนมาสมัครฯ นั้น (ทำแบบนี้ เสียเวลาครับ ได้แต่เงินฉาบฉวย)

และก็อย่างที่ ครูโปรดปราน บอกนั้น ที่มีคนมาขอให้ช่วยซื้อนั้น พวกนั้นก็ทำธุรกิจผิดวิธีเหมือนกัน  : xemo026 :


คุณAndreas ลองทำความเข้าใจแล้วไปอธิบายให้น้องชายดูดิครับ เผื่อเค้าจะเข้าใจมากขึ้น อิอิ  : xemo026 :


ปล.ผมไม่ได้ทำขายตรง ไม่มีผลประโยชน์ในการโพสต์นะ อิอิ  : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 :

ขอพระเจ้าช่วยนะ สงสารพ่อจัง  : xemo017 :
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

พุธ ต.ค. 28, 2009 1:56 pm

ฝากเบอร์พ่อไว้หลังไมล์แล้วค่ะ : xemo026 :
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ ต.ค. 28, 2009 9:15 pm

Andreas เขียน: สมาชิกในครอบครัวผม ส่วนมากก็จะมีกิจการของตนเอง แต่ก็ไม่ใช่กิจการใหญ่โต ร่ำรวยอะไร ส่วนผมเองก็ตั้งใจว่าจะทำงานทั้งแบบที่มีเงินเดือนและธุรกิจส่วนตัวเล็ก ๆ ควบคู่กันไป น้องผมคนนี้ก็ไม่ชอบงานที่บ้านทำ จนถึงขนาดพูดว่าจะให้คนที่ชวนเค้าทำขายตรงยี่ห้อล่าสุดที่เค้าสมัครมาพูดกับพ่อให้พ่อทำขายตรงด้วย น้องผมคนนี้ก็เคยทำขายตรง Top of Mind แล้วรุ่งอยู่พักนึง เพราะแม่ทีมดี คอยกระตุ้นเนื่องจากเค้ารู้นิสัยน้องผมว่าเป็นคนเฉื่อย ๆ ก็เลยได้รายได้เป็นหมื่นอยู่พักนึง แต่พ่อผมไม่อยากให้น้องผมทำขายตรง เพราะเห็นว่าเป็นงานที่ไม่มั่นคง จึงบังคับให้น้องผมทำงานตามที่เรียนมา เค้าก็ยอมทำอยู่หลายเดือน แต่ประสบการณ์ที่ได้จากงานประจำคือ งานหนัก เงินเดือนน้อย ไม่มีเวลาว่าง อันตราย เค้าว่าอย่างนี้ และที่สุดก็จึงลาออก ซี่งในระหว่างที่ทำงานประจำ บริษัทขายตรงที่เค้าเคยทำก็เลิกกิจการไป สมาชิกก็ต้องไปหาบริษัทอื่นทำ แม่ทีมก็ไปเจอบริษัทหนึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน We Believe เลยชวนน้องผมให้มาสมัคร เมื่อออกจากงานประจำนั้น เขาจึงไปสมัคร แต่เขาก็เห็นว่าบริษัทนี้ มีสินค้าน้อย และขายยาก จึงค่อย ๆ ถอนตัวออกมา ซึ่งแม่ทีมก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไร เขาจึงตัดหางปล่อยวัด ทีนี้ก็มีคนมาแนะนำให้ไปสมัครสมาชิก Aim Star  เพราะเห็นว่ามีสินค้าเยอะ แผนการตลาดคล้าย ๆ กับเจ้าก่อนที่เคยทำ แล้ววันหนึ่งคนในนั้นก็ชวนน้องผมให้สมัครอีกบริษัทนึงด้วย  Prima Life คนที่แนะนำให้ทำ Aim Star จึงไม่สนใจดูแลน้องผม ส่วนใครก็ไม่รู้ที่แนะนำบริษัทหลังสุดนี้ น้องผมก็เลยทำขายตรงไม่ไปถึงไหน ซึ่งแต่ละบริษัทก็ดีทั้งนั้น มันอยู่ที่คนทำว่าเข้าใจวิธีการและขยันมากแค่ไหน
เรื่องอันตราย ก็เป็นไปได้อย่างที่น้องว่านะคะ มีเพื่อนเรียนโยธา ไปฝึกงาน บางทีต้องเดินบนคานที่ยังไม่ได้ปูพื้น ซึ่งมันเป็นคานของตึกสิบชั้น  : emo036 :  อันตรายสุดๆ มันก็เสี่ยงเหมือนกันค่ะ บางที น้องอาจจะคิดดีแล้วก็ได้ ให้โอกาสเค้าหน่อย  : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 28, 2009 9:27 pm

น้องชายผมจบวิศวะไฟฟ้า ประมาณสองเดือนที่แล้วพระคุณเจ้าประธานได้บอกพ่อผมว่า อยากได้ลูกชายคนที่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ไปช่วยงานที่สังฆมณฑลสุราษฎร์ ซึ่งทีแรกท่านคิดว่าผมเก่งคอมพิวเตอร์ เพราะท่านเห็นผมทำงานที่สภาพระสังฆราชฯ ท่านอยากได้คนดูแลเว็บไซต์ แต่ผมเองไม่ค่อยรู้เรื่องการทำเว็บไซต์ จึงแนะนำน้องชายคนนี้ให้พระคุณเจ้า ทีแรกน้องผมก็สนใจ แต่เค้าก็เรียกเงินเดือนแบบวิศวะ ก็เกือบหมื่นห้าครับ ทางคุณพ่อที่ดูแลเรื่องนี้ก็คงไม่ไหว เพราะเรียกเงินเดือนสูงไป ทีแรกผมก็บอกน้องผมแล้วว่าอย่าเรียกเงินเดือนสูง เพราะไปทำงานที่นั่นก็มีที่พักให้ฟรี อาหารก็มีให้ฟรีเช่นกัน ผมยังอยากไปเลย ขนาดตอนผมทำงานที่สภาพระสังฆราช ยังได้เงินเดือนแค่เก้าพัน แถวยังต้องเสียค่าที่พัก ค่าอาหารเองด้วย ที่สุดน้องผมก็เลยไม่ได้ไปทำงานที่สุราษฎร์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ ต.ค. 28, 2009 9:53 pm

อ่านไป อ่านมา แล้ว งง
ตกลงจะทำขายตรง แต่จะไปทำงานกินเงินเดือน อ่านอีกทีจะส่งไปรับใช้พระคุณเจ้า...


แง่มๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 28, 2009 10:08 pm

BOYZ เขียน: อ่านไป อ่านมา แล้ว งง
ตกลงจะทำขายตรง แต่จะไปทำงานกินเงินเดือน อ่านอีกทีจะส่งไปรับใช้พระคุณเจ้า...


แง่มๆ
งงหรอ ขอโทษด้วยที่ยิ่งเล่าแล้วยิ่งทำให้งง

สรุปสั้น ๆ  ตอนนี้น่าจะกล่าวได้ว่า น้องชายผมเค้าไม่ได้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราว เค้าอ้างแต่ว่าจะทำขายตรง แต่ก็ไม่เห็นทำให้มันเกิดผลขึ้นมา ทางครอบครัวก็พยายามหางานประจำให้ น้องผมก็ไม่เอา อย่างกรณีงานที่สุราษฎร์ก็เรียกเงินเดือนสูง เพื่อจะได้ไม่ต้องไปทำ
ตอบกลับโพส