ขอปรับทุกข์ของตัวเองแล้วก้อขอคำภาวนาให้คุณย่าหายป่วยไวๆค่ะ

[nongyouza]

เริ่มจากการปรับทุกก่อนนะค่ะ เรื่องที่ต้องการจะปรับทุกข์มันเป็นเรื่องของย่านี่แหละค่ะ คือคย่านับถือศาสนาพุทธค่ะ แล้วก้อตอนนี้กำลังบวชเป็นแม่ชีอยู่ด้วยท่านบวชมาได้1ปีแล้วค่ะ ออตอนนี้ท่านอายุ80ค่ะ บวชจนใกล้จะสึกแล้วค่ะ ท่านบวชอยู่ที่ปราณบุรีค่ะ แต่ว่าบ้านจริงๆอยู่ที่เพชรบุรี ท่านจะไปมาบ้านกับวัดเป็นประจำค่ะ ล่าสุดท่านกลับมาที่บ้านเรื่องพวกนี้ก้อเกิดขึ้นค่ะ ท่านกลับมาบ้านได้3วันท่านก้อป่วยเลยค่ะ ซึ่งอาการป่วยครั้งนี้ยูคิดว่ามันไม่ใช่การป่วยธรรมดา แต่มันเป็นการฆาตกรรม เหตุการณ์วันนั้นมันมีอยู่ว่า มีสายmisscallเข้ามาที่โทรศัพท์ยู ซึ่งเบอร์นั้นก้อเป็นเบอร์ของย่าแต่โทรมานานแล้ว พอยูโทรกลับไปปรากฎว่าย่าไม่ได้รับยัแต่น้องของย่าหรือย่าคนเล็กรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากๆเพราะปกติย่าคนเล็กช่วงนี้เค้าต้องอยู่ที่กทม. แล้วก้อถ้าอยู่ที่เพชรบุรีก้อจะมาวันศุกร์แต่วันนี้แปลก เขามาหาย่าติดๆ2วันแล้วตั้งแต่พุธ-พฤหัส คำพูดแรกที่ย่าคนเล็กเค้าถามคือบัตรประชาชนย่าอยู่ไหนจะพาย่าไปหาหมอ ยูก้อได้แต่ตอบไม่ทราบเพราะว่าไม่เคยยุ่งกับเอกสารของย่า หลังจากวางสายยูก้อเลยไปดูอาการย่าที่บ้านทันที ภาพที่เห็นคือย่านอนไม่ได้สติ ปลุกยังไงก้อไม่ตื่น ส่วนภาพอีกมุมหนึ่งที่เห็นคือย่าคนเล็กกำลังค้นเอกสารของย่าทั้งหมดกระจัดกระจาย พร้อมกับมีเสียงกระซิบจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าว่าย่าคนเล็กได้ถอดสร้อย เข็มขัด แหวน ที่ย่าได้ใสอยู่ พร้อมเก็บเงินของย่าในกระเป๋าตังค์ไปหมดแล้ว พอได้เห็นภาพแล้วก้อได้ทราบข้อมูลแล้วก้อตกใจ ยูก้อได้แต่ถามย่าคนเล็กว่าทำไมไม่พาย่าไปหาหมอ คำตอบที่ได้กลับมาคือ หาบัตรประชาชนอยู่ แล้วก้อรอให้5โมงเย็นก่อนรอคลีนิคหมอเปิด ซึ่งถ้าทุกคนได้เห็นสภาพของย่าในตอนนั้นแล้วคงจะต้องพูดเหมือนยูแน่นอนว่า จะรออะไรล่ะทำไมไม่ส่งโรงพยาบาล อ่อเวลาตอนนั้นคือ15.00 น. ถ้ามานั่งรอก้อต้องอีก2ชั่วโมง ยูเลยโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลมารับ แต่ด้วยความตกใจพลาดไปนิด โทรไปเรียกโรงพยาบาลรัฐบาลซะงั้น รักษาฟรีทุกโรค พอรถพยาบาลมารับย่าเค้าก้อกระตุนให้ย่าตื่นขึ้นมา ระหว่างขับรถตามรถพยาบาลย่าคนเล็กได้ตามมาด้วย เค้าได้พูดประโยค1ว่า ดีนะได้ยูเค้าอะทำอะไรไม่ถูกเลยตือไปหมด แต่ยูก้อมีคำถามที่คาใจอยู่นะค่ะว่าทำอะไรไม่ถูกจริงๆหรอ ถ้าทำอะไรไม่ถูกจริงๆทำไมถึงค้นแค่เอกสารของย่าล่ะ พอย่าถึงโรงพยาบาล เข้าห้องฉุกเฉิน คุณหมอบอกว่าย่าเส้นเลือดในสมองตีบ ต้องนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลอาการที่เห็นหลังจากที่ย่าตื่นคือ ย่าสับสนไม่มีสติ พูดแต่คำว่า ออกไปไกลๆอย่ามายุ่ง จะอะไรนักหนา อย่ามาวุ่นวาย ออกไปไกลๆ แล้วเวลายูจะป้อนน้ำ แค่หลอดเปล่าๆ โดนปากเค้าก้อพ้นน้ำลายออกมา อาการอย่างนี้มันแปลกๆ จริงไม่ค่ะ ใครเห็นก้อคงต้องคิดแบบยูใช่ป่าวค่ะ เรื่องมันยาวมากค่ะ เด๋วพรุ้งนี้มาเล่าต่อนะค่ะ

[ข้า-พระ-เจ้า]

โอ้พระเยซูเจ้า พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ
ลูกกราบวิงวอนอยู่นี้เพื่อขออำนาจความรักอันยิ่งใหญ่
ของพระองค์โปรดประทานหลั่งพระพรอันอุดมแก่ผู้ถูกผจญ
ด้วยความชั่วร้ายทั้งหลาย และเจ็บป่วยด้วยความทรมาน
เพราะเมื่อใดที่พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์รับคำภาวนา
แม้สิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดก็ไม่อาจต้านทานเดชานุภาพแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของพระองค์ได้
โปรดแสดงให้คนบาปทั้งหลายเห็นอีกครั้งถึงความเมตตาของพระองค์
พระผู้ทรงเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธ์ เกรียงไกร เหนือสิ่งสร้างใดๆทั้งปวง

ทรงพระเมตตาเถิด พระเจ้าข้า อาเมน

[nongyouza]

เล่าต่อตอน 2 ค่ะ
ย่ามีอาการแบบนี้ตั้งแต่วันที่ปลุกตื่น คือวันพฤหัสที่16กันยายน เป็นแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมนอน จะปีนเตียงอย่างเดียว พร้อมแสดงอาการแปลกๆที่เล่าข้างต้นอะค่ะ จนถึงคืนวันที่17ย่าได้ย้ายไปที่ห้องพิเศษย่าหลับตลอดๆพร้อมกับโกลนเสียงดังมากๆ แต่ว่ายูกับน้องรู้สึกว่าย่าหลับนานเกินไปแล้วเลยไปเรียกพยาบาลมาดู ปรากฎว่าพยาบาลบอกกับยูว่าเนี่ยไม่ใช่หลับธรรมดาแล้ว พยาบาลรีบเรียกหมอ พร้อมพยาบาลอีกหลายคนเพื่อช่วยย่า โดยการใส่ท่อช่วยหาใจ เวลานั้นยูตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ก้อเลยโทไปหาน้าคนที่เค้าคอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษามาตลอดซึ้งเค้าก้อไม่ใช่ญาติเลย เชื่อมั้ยค่ะเค้ารีบมาภายใน10นาทีเลยค่ะ แต่ก่อนที่น้าเค้าจะมาย่าคนเล็กพร้อมสามี กับลูกชายคนที่ย่าเคยเลี้ยงมาจนโต ซึ้งเป็นลูกชายของย่าคนเล็ก ก้อมาถึง ด้วยความที่ยูตกใจ ยูก้อวิ่งไปบอกย่าคนเล็กว่าย่าแย่แล้วย่าต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากที่ยูพูดไปคือ ความรู้ที่ของเค้าทั้ง3คนคือ ไม่ตกใจ ไม่มีอาการหรือคำพูดที่เป็นห่วง แถมมีสีหน้าที่ยิ้มซึ่งแสดงถึงความดีใจ แล้วก้อมีคำพูดที่พูดมาว่างั้นก้อเอาของกลับได้อะสิ ผ้าห่มเตียงนอน เค้าทั้ง3คนไม่ได้คิดที่จะห่วงคนที่อยู่ตรงหน้าซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ซึ่งเป็นผู้ที่มีบุญคุณกับเค้าเลยสักนิดเดียว เค้าห่วงแต่สิ่งของ น้องของยูก้อรู้สึกไม่พอใจ แต่ยูก้อได้แต่บอกเย็นไว้ๆ ใครทำไงก้อได้งั้นแหละ ยูได้แต่ดูการกระทำของเขาทั้ง3 พอต้องย้ายย่าไปอีกห้อง ซึ่งโรงพยาบาลนี้เค้าเรียกว่าห้องsub icu เค้าเฝ้าสามารถเฝ้าได้แค่1คนเท่านั้น ซึ่งอาการของย่าตอนนี้ถ้าได้อยู่โรงพยาบาลเอกชนคงจะต้องอยู่ห้องicuไปแล้วถูกมั้ยค่ะ ยูเข้าไปคุยกับฝ่ายเอกซเรย์ เค้าบอกว่าต้องเอกซเรย์สมองแล้วก้อต้องฉีดสีด้วย แต่ต้องอดอาหารก่อน12ชั่วโมง ซึ่งวันนั้นก้อตรงกับวันศุกร์ เค้าเลยบอกว่าต้องฉีดอีกที่วันจันทร์ คำถามแรกที่ยูถามเลยคือว่า เร็วที่สุดต้องวันจันทร์เลยหรอค่ะ พนักงานตอบว่าใช่ สาเหตุเพราะติดเสาร์ อาทิตย์ ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ไม่น่าฟังเลยใช่มั้ยค่ะ พรุ้งนี้เล่าให้ฟังต่อนะค่ะ

[เลย์]

ขอพระกุมารแห่งปร๊าก ทรงพระเมตตาเทอญ ..

[nongyouza]

ไม่เล่าแล้วนะค่ะ ตอนนี้คุณย่าเสียแล้ว ขอจบไว้แค่นี้นะค่ะ อยากให้คุณย่าไปอย่างสงบ มีชีวิตที่นิรัน