ระหว่างความสุขกับความทุกข์ คุณมีอันไหนมากกว่ากัน

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
Kenneth
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 2:23 pm

อังคาร ส.ค. 30, 2011 3:10 am

ช่วงนี้เป็นช่วงขาลงของผม ทำอะไรก็มีแต่ล้มเหลว ความโชคดีไม่ค่อยได้พบเจอ
ผมสารภาพว่าผมมีความทุกข์ในทุกๆเรื่องครับ ผมขาดกำลังใจ มีแอบน้อยใจพระเจ้าด้วยที่ทำไมปล่อยให้ชีวิตของผมตกต่ำถึงขนาดนี้ แอบคิดว่าพระเจ้าทนเห็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับสิ่งสร้างของพระองค์ขนาดนี้ได้อย่างไร คิดไกลไปถึงจุดประสงค์ของพระเจ้าที่สร้างเราขึ้นมา หรือว่าจุดประสงค์ที่สร้างเราขึ้นมาเพื่อให้ได้รับความทุกข์ในโลกอันโหดร้ายนี้ แล้วก็เฝ้ามองเราอยู่ด้านบน คอยดูแลกำกับอยู่ด้านบน เปรียบเหมือนเกมส์ดังที่ชื่อว่า The sims หรือเปล่า

ผมเข้าใจดีว่าทุกคนต่างก็มีทั้งความทุกข์และความสุขผสมปนเปกันไปตลอดชีวิต
ตลอดทั้งชีวิตของผม ผมเห็นคนรู้จักหลายต่อหลายคนที่เขามีความสุข เราเห็นว่าเขามีความสุขจริงๆ ความทุกข์ก็เห็นบ้างแต่ว่าเบาบางเหลือเกิน อยากจะถามเขาจังว่าคุณเคยมีความทุกข์อะไรเข้ามาในชีวิตบ้างไหม ก็ไม่กล้าถาม หรือจะมีเราแค่คนเดียที่มีความทุกข์มากกว่าความสุข
ความทุกข์ของผมมันหนักหนาเหลือเกิน ตลอดชีวิตผม พบเจอมาเยอะ เริ่มตั้งแต่ครอบครัวแตกแยก มีพี่ชายติดยาทุบตีแม่ ผมโดนล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ไม่ถึง 5 ขวบ และก็โดนเรื่อยมาอีกหลายต่อหลายครั้งจนโต สร้างตราบาปให้ผมแบบไม่มีวันลบเลือนไปได้ ทุกวันผมตื่นขึ้นมาผมจะนึกถึงตราบาปเหล่านี้เป็นอย่างแรก
โตขึ้นมาหน่อยงานการก็ไม่มีเป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่มีเพื่อนฝูง ขาดมนุษย์สัมพันธ์
ความทุกข์ที่ผมพบจะให้เล่าให้หมดว่ามีอะไรบ้าง ผมก็ยินดีจะเล่า แต่ผมคงนั่งพิมพ์อยู่อย่างนี้เป็นเดือนๆกว่าจะจบ

เข้าประเด็นตามหัวข้อเรื่อง
ผมแค่อยากรู้ว่า จะมีเพื่อนมนุษย์มากน้อยสักเท่าไหร่ที่คิดเหมือนผม
ต่อไปนี้ผมอยากให้ทุกท่านโปรดตอบกระทู้ผม โดยบอกเป็นเปอร์เซนต์ว่าท่าน มีความทุกข์และสุขเฉลี่ยเป็นเปอร์เซนต์ กี่เปอร์เซนต์ ขอให้ท่านคำนวนโดยใช้ความรู้สึกว่าตลอดทั้งชีวิตของท่านตั้งแต่เกิดมาจนถึงวินาทีนี้ว่าท่านเป็นอย่างไร โดยรวมเอาความทุกข์และความสุขเล็กๆน้อยไปถึงใหญ่รวมไว้ด้วยกัน ปัญหาครอบครัว การเรียน การสังคม การงาน ความรัก และอื่นๆ
ของผม
ทุกข์ 80 %
สุข 20 %
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

อังคาร ส.ค. 30, 2011 11:30 am

เรามีสุข50เปอร์เซ็น :s021:
ทุกข์50เปอร์เซ็นค่ะ ::007::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พุธ ส.ค. 31, 2011 11:18 am

สำหรับผม ขอไม่บอกเป็น%นะครับ แต่อยากตั้งคำถามกลับว่า

-คนที่สุข80% ทุกข์20%
โดยที่ช่วยวุ่ยหนุ่มเขาสุข80% แล้วตลอดบั้นปลายชีวิต เขามีแต่ความทุกข์
คุณว่าจะทุกข์หรือสุข?
-ตรงกันข้ามอีกคนหนึ่ง
ทุกข์มาตลอดชีวิต 90% แต่บั้นปลาย10% พบความสุข
เขาเป็นสุขหรือทุกข์?

กลับมาที่ตัวผมเอง

ผมคิดว่าตัวเองก็เป็นคนธรรมดามีทั้งความสุขและทุกข์ปะปนไป

ถ้ามองแบบเชิงไม่บวกไม่ลบ ผมก็จะบอกว่าความทุกข์ในอดีต(และปัจจุบัน) มันเยอะเหมือนกันนะ :s008:

ส่วนความคิดเชิงบวก....ก็ไม่ได้หักล้างกับคำตอบแบบกลางของผมนะ
แต่มันบอกผมว่า

"ไม่สำคัญหรอกว่าเรา ผ่านความทุกข์กับความสุข์มามากแค่ไหน..
แต่วันนี้ ฉันอยู่กับความจริงว่ามีพระเจ้าอยู่ด้วย
..ฉันอาจจะเจอความทุกข์ ก็ยังมีพระเจ้าเป็นความสุขนิรันดร์ของฉัน :s015: "

เรื่องความทุกข์อื่นๆของคุณ จะเล่าหรือไม่ ก็แล้วแต่นะครับว่าคุณยินดีและจะสบายใจขึ้นเมื่อเล่าหรือไม่

แต่ผมขอชื่นชมครับว่าคุณกล้าหาญมาก ::004:: ที่เปิดแผลใจของคุณให้พวกเรา

ขอพระเจ้า แพทย์ผู้ประเสิรฐ ทรงรักแผลนี้และแผลอื่นๆของคุณครับ
Kenneth
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 2:23 pm

พุธ ส.ค. 31, 2011 5:32 pm

ขอบคุณครับทุกท่านที่สละเวลามาตอบกระทู้พูดคุยกับผม
ผมแค่เบื่อที่จะอยู่ในโลกนี้แล้วอะครับ ผมจะดีใจมากถ้าพรุ่งนี้ผมตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในนรก ถึงมันจะเป็นนรกแห่งความโหดร้ายจากไฟชำระ แต่ในใจผมผมคงเป็นสุขที่ได้จากโลกอันแสนขมขื่นนี้ไป รับการชำระด้วยไฟจากใจที่ยอมรับ เพราะผมรู้ดีว่าความเป็นมนุษย์คนบาปมันสุดปลายทางของตัวมันเองแล้ว รีบๆชำระด้วยไฟ เมื่อชำระแล้ว คงได้ไปอยู่กับพระเป็นเจ้า
เพราะฉนั้น ผมจะฆ่าตัวตายเลยจะได้ไหม และผมยินดีด้วยใจเป็นสุขจะยอมรับความผิดอันนี้เองในไฟชำระ ผมขอแค่ให้จากโลกนี้ไปเป็นพอ
ขอบคุณที่ชื่นชมในความกล้าหาญเรื่องแผลในใจ ถึงวินาทีนี้ผมไม่จำเป็นต้องปกปิดมันอีกต่อไปแล้ว ผมควรจะเปิดเผยมันให้คนอื่นรับรู้ถึงความโหดร้ายนี้บ้างไม่ใช่หรือ
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2011 11:47 am

คุณเคนเนสค่ะลองอ่านเรื่องชีวประวัติของนักบุญเอมีลี เดอ วีอาลาร์ ซิค่ะ
แล้วคุณก็จะรู้สึกดีขึ้นเองค่ะ
ลองไปหาซื้อมาอ่านนะค่ะ
::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6004
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2011 3:53 pm

........ น้องK..n มีความทุกข์เห็นใจมากๆ สู้ๆค่ะ อย่าท้อแท้ เข้มแข็งไว้ คนเรามีทุกข์คนละแบบ
สุขทุกข์คละกันไป พี่ก็เคยมีความทุกข์มากๆบางครั้งคิดอยากจะหายตัวไปจากโลกนี้ บางทีต่อว่า
พระว่าทำไมเราต้องมารับผิดชอบอะไรมากมาย ทั้งเงินทอง หนี้สิน หน้าที่การงาน ครอบครัว
สุขภาพต่างๆ แต่ในที่สุดก็ฟันฝ่ามาได้ ขอบคุณพระองค์ทั้งน้ำตา พระองค์ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น
พระองค์ได้ตระเตรียมสิ่งดีๆมากมายให้กับเรา เมื่อเวลาผ่านไปหันกลับไปดูชีวิตว่าผ่านเหตุการณ์
ต่างๆมาได้อย่างไรเราจะยิ้มทั้งน้ำตา พระองค์ไม่ทอดทิ้งเรา แม้นเราจะทุกข์ลำบากอย่างไร เรียกหาพระองค์เสมอ อภัยให้กับผู้อื่นและโดยเฉพาะตัวเอง อดทนๆจนถึงที่สุด จนกว่าจะถึงเส้นชัย โลกนี้มีความทุกข์ยาก แต่ในสวรรค์พระบิดาจะซับน้ำตาเราทุกหยดจะกอดเราไว้แนบอก พระองค์จะบอกว่าพ่อรักลูกมาก ลูกอดทนทุกอย่างมาอยู่กับพ่อในสวรรค์ ที่ๆมีแต่ความรักและ สันติสุข.....
.....พยายามลืมสิ่งไม่ดีต่างๆในชีวิต เริ่มต้นใหม่ให้เวลา ฟ้าหลังฝนมันสว่างไสว งดงาม
..................และอย่าลืมพระองค์อยู่กับเราเสมอ..... :s005:
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ ก.ย. 02, 2011 10:59 pm

ผมก็มีความทุกข์นะครับ แต่ก็อาจจะน้อยกว่า ผมเกิดมาครอบครัวก็ดูเหมือนจะอบอุ่นนะครับ ถึงที่บ้านพ่อแม่ไม่ค่อยจะทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่ พ่อ แม่ต้องทำงานนอกบ้าน จำได้ว่าต้องดูแลตัวเองตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว ผมก็ต้องอยู่บ้านญาติๆ มาตลอด แต่เกิดเลยมั่งจนตอนนี้ก็ยังอยู่บ้านญาติ เคยคิดว่าอืมบางคนเค้าก็ไม่ได้รวยอะไรนะ แต่เค้าก็มีบ้าน บางครั้งเจออะไรนอกบ้านมา ก็ยังมีที่กลับไป อยู่บ้านเค้าก็ต้องพยายามทำตัวดีๆ แต่ว่าหลายๆ ครั้ง ก็อาจจะดีไม่พอในสายตาของผู้ใหญ่ มีปัญหาบ้างอะไรบ้า่ง บางครั้งทำผิดไป ก็ดูเหมือนว่าความผิดครั้งเดียว หรือไม่กี่ครั้ง กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเริ่มไม่ชอบเรา หลายครั้งที่เราเป็นเด็กเราก็ผิดจริงๆ แต่ก็รู้สึกน้อยใจอยู่เหมือนกัน ทำไมเขาไม่มองที่ความดีเราบ้าง

ผมเคยโดนล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ 7 ขวบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นมันคืออะไร โตขึ้นมาถึงได้รู้ บางทีก็เคยน้อยใจพระเหมือนคุณนะ ว่าทำไมต้องเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นกับผม มีส่วนทำให้ผมเดินทางผิดเป็นพวกเบี่ยงเบนทางเพศ คิดว่าเวลาที่ถูกทำแบบนั้นคือ เค้ารักเรา คิดแบบเด็กๆ พ่อแม่ ไม่ยอมรับที่เป็นแบบนั้น เลยฆ่าตัวตาย รู้สึกว่าขนาดพ่อแม่ยังรับไม่ได้เลย แล้วคนอื่นใครจะยอมรับเราได้ยังไง แต่ดันไม่ตาย ทรมานมากต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ชอบมีคนมาถามพ่อแม่ว่า เลี้ยงยังไงทำไมลูกเป็นแบบนี้ พ่อก็เครียดว่าแม่ตลอด พ่อไม่คุยกับผมเลย แม่ก็เครียดติดเหล้าจนเป็นแองกอฮอลิสซึ่ม ผมว่าผมก็พยายามทำดีอย่างอื่นมาทดแทน ไม่เคยติดยา กินเหล้า สูบบุหรี่ก็ไม่เอา ไม่เคยสร้างปัญหา ใหญ่ๆ อะไรเลย ส่วนพี่สาว กับน้องชายผมเค้าดีกว่าหมดทุกอย่างเรียนก็เก่ง ฉลาด มีความคิดทำอะไร ก็ดีกว่าผมมาก ผมเรียนไม่เก่ง บื้อมาก ทำอะไรก็ไม่ค่อยจะสำเร็จ เวลาผมพูดอะไรไม่เคยถูกเลย พ่อแม่จะฟังพี่สาว กับน้องชายผม มากกว่า มันเลยดูเหมือนว่าผมเรียนก็ไม่เก่ง เป็นตุ๊ดอีก อะไรแบบนั้น ครอบครัวก็ไม่ได้ถึงกับว่าแย่มากๆ หลายคนอาจจะแย่กว่านี้อีก แต่ครอบครัวผมก็ไม่ได้มีความสุขกับครอบครัวอะไรขนาดนั้น ชีวิตนอกบ้านก็ไม่ได้่เติมเต็มความสุขให้เรา จนถึงจุดหนึ่งที่ผมเริ่มรู้สึกว่าความสุขจริงๆ มันอยู่ที่ไหน

ผมเริ่มกลับใจมาหาพระเจ้า คิดทบทวนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าเวลาผมไม่มีใคร ผมยังมีพระองค์ที่รักผมมาก เข้าใจ และให้กำลังใจผม ช่วยเหลือผมเสมอ ทำให้จากที่ผมตาบอดจากที่ยอมมองอะไร ผมก็ได้เห็นความรักของพระองค์ ผมเป็นคริสต์มาตั้งแต่เกิด เพิ่งจะมาเข้าใจตอนโตว่า บนไม้กางเขนนั้น พระองค์รักผมมากมายขนาดยอมตายเพื่อผม ที่พระองค์ต้องทรมานต่างๆ ทั้งที่ไม่มีความผิดเลย ได้เป็นกำลังใจอย่างแท้จริงว่า พระองค์เองยังทำได้ ทั้งที่พระเจ้าไม่จำเป็นต้องยอมให้มนุษย์มาลบหลู่แบบนั้นก็ได้ พระองค์ต้องอดทนมากขนาดไหน แต่ยังรับไว้ด้วยใจยินดี ซึ่งพระบิดาไม่ได้บังคับพระองค์ว่าต้องทำไถ่บาปนะ เหมือนที่พระองค์บอกตลอดว่าเราไม่ได้มาตามใจของเรา แต่เราทำตามผู้ที่ส่งเรามา มาแบบรักจัดหนักสุดๆ เป็นแบบอย่างให้เดินตาม ไม่ได้เป็นพระเจ้าแบบสบายๆ อยู่บนสวรรค์ทั้งๆ ที่จะอยู่แบบนั้นแล้วช่วยมนุษย์ก็ได้ แต่ก็ยังถ่อมองค์ลงมาหาเรา ด้วยความรักมากมายขนาดนั้น ผมพยายามไม่เป็นตุ๊ด เกย์ กระเทย หรืออะไรที่เค้าจะเรียกกัน ก็ยังมีคนว่ามาตลอดว่า โอ้ยมันเลิกไม่ได้หรอก จะฝื่นได้กี่น้ำ ทำเป็นเอาใจบ้านญาติที่ไปอยู่ด้วย เพื่อนๆ ก็หาว่าบ้าบ้าง อะไรบ้าง งงไปตามกัน จิงๆก็อาจจะไม่ได้ทุกข์กายอะไร แต่เหมือนอยู่ในโลกที่ไม่มีใครเข้าใจเราเลย มีแต่คนอยากให้เราเป็นอย่างที่เค้าชอบ จนถึงตอนนี้ผมคิดว่า ผมจะพยายามเป็นในสิ่งที่พระเจ้าชอบให้มากที่สุด เท่าที่ผมจะทำได้ ใครจะไม่ชอบผมคงไปบังคับเค้าไม่ได้ เลยทำให้ความทุกข์ของผมไม่ได้เป็นความทุกข์จริงๆ หรอก เพราะความทุกข์ของผมได้ชดเชยบาปที่ตัวเองก่อ ได้ช่วยคนอื่นด้วย เรียกได้ว่าเป็นความทุกข์ที่มีแต่ความรักจริงๆ

พระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเจ้าบนสวรรค์ และมนุษย์ที่พระองค์โปรดปรานจงประสบสันติสุขบนแผ่นดิน

พระเจ้าอวยพรครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
Kenneth
โพสต์: 73
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 07, 2009 2:23 pm

ศุกร์ ก.ย. 02, 2011 11:27 pm

ขอบคุณทุกข้อความที่ให้กำลังใจผม ผมขอรับน้ำใจจากทุกท่านที่ส่งให้ผม
ข้อความของทุกท่านช่วยให้ผมมีกำลังใจดีขึ้นบ้าง ทำให้ผมลดน้ำตาที่ไหลรินได้บ้างส่วนนึง
ถึงแม้ในชีวิตจริงจะไม่มีใครมาคอยปลอบใจผม แต่อย่างน้อยก็ได้ข้อความของทุกท่านปลอบใจผมแทน

ถึงวินาทีนี้ ความทุกข์ของผมดูเหมือนไม่ลดลงแล้ว กลับมีเรื่องแย่ๆซ้ำร้ายลงกว่าเดิมทุกวันๆ
วินาทีนี้ผมขอมีแต่พระเท่านั้นที่เป็นที่พึ่ง ซึ่งผมพยายามวอนขอให้พระองค์คอยปลอบประโลมผมบ้าง แบ่งเบาภาระในใจของผมบ้าง แต่ดูเหมือนพระองค์จะยังคงไม่ได้ยินเสียงคำร้องขอจากผม

ขอบคุณทุกท่านจากใจครับ

ปล.ขอบคุณข้อความด้านบนที่ตั้งใจแบ่งปันเรื่องราว ทำให้ผมได้รู้ว่ามีคนอื่นที่โชคร้ายกับเรื่องน่าอายเหมือนกับผมด้วยเหมือนกัน ขอบคุณที่แบ่งปันจริงๆครับ
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

เสาร์ ก.ย. 03, 2011 2:02 pm

เรายินดีเป็นกำลังใจให้กับทุกคนอยู่แล้วจ้า
ใครที่เดือดร้อนอะไรเราก็จะช่วยปลอบใจให้นะ
::004::
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

จันทร์ พ.ย. 21, 2011 9:21 pm

มีสุขมีทุกข์ ไม่สำคัญ
ไม่มีสุขก็อยู่ได้ มีแต่ทุกข์ก็ยังอยู่ได้
ไม่มีพระเยซูอยู่ด้วย อันนี้อะ อยู่ไม่ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
garuda
โพสต์: 116
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 12, 2011 11:22 pm

อังคาร พ.ย. 22, 2011 7:06 pm

ผมคละปะปนกันไป น่าจะทุกข์40สุข50และไม่รู้สึกอะไรเลย10(ตอนปิดห้องสวดมนต์ภวนา)
y1961
โพสต์: 48
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 20, 2011 9:28 am

เสาร์ เม.ย. 28, 2012 5:22 pm

มีแต่ความสุขค่ะ ความทุกข์เหมือนแมลงวันตอม เพราะกางเขนของแต่ละคนจะไม่เกินกำลังของคนๆ นั้นที่จะแบก เมื่อมีกางเขน พระก็จะประทานพละกำลังให้ด้วย แต่บ่อยครั้งที่พระแบกกางเขนนั้นแทนเรา เหมือนเรื่องรอยเท้าบนผืนทราย ที่พบรอยเท้าเหลือเพียงคู่เดียว ทีแท้คือรอยพระบาทของพระเยซู ที่ไม่มีรอยเท้าของเราเพราะพระองค์อุ้มเราไว้
ตอบกลับโพส