มาแล้ว มาแบ่งปันเรื่องวันเสาร์ที่ผ่านมา "ครอบครัวสุขสันต์"

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2012 2:38 pm

เนื่องด้วยวันเสาร์ที่ผ่านมาได้ไปนั่งฟังบรรยายเกี่ยวกับครอบครัวสุขสันต์ที่ทางวัดในเขต 2 จัดที่วัดที่เราเป็นลูกวัดเลยคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดี แต่ก็ตะขิด ตะขวงใจว่า เราจะไป ๆ คนเดียว ว้าเหว่เอกาเหมือนกันนะ เพราะว่าครอบครัวคือว่ามี พ่อ แม่ ลูก มันไม่สุขสันต์ ซะแล้ว มันสยองแยกย้ายกันไปซะแล้ว แต่… พอมองๆ นึกๆ ไป การที่ครอบครัวเราล่มไม่เป็นท่า แต่ถ้าเราเข้าไปฟังอาจจะเก็บอะไรดีๆ มาบอก มาสอนลูกเราหรือว่า คนอื่นๆ ได้นี่นา ก็เลยตัดสินใจว่าเอาหล่ะ ไปละกันโอกาสอย่างนี้ไม่ได้มีมาถึงหน้าประตูบ้านบ่อยๆ อย่าไปคิดมาก เผื่อว่าจะมี ชายหนุ่มมาเดี่ยว ฮี่ๆๆ เปล่าเปลี่ยวหัวใจเหมือนกันอาจจะได้มีเพื่อน เพิ่มอีกคน ดู ดู๊ ดู มิวายๆ มีแอบแฝงนิสๆ ฮ่าๆๆ

เมื่อพิธีเริ่ม คนมาจากหลายๆ ที่แต่ล้วนแล้วแต่เป็น สว ผู้อาวุโสกันทั้งนั้น ประมาณว่า 60+ เอ้าจริงๆ นะ มีเรานี่หล่ะสาวสุดหล่ะ กิกิ

คุณพ่อเจ้าวัด เปิดงานพิธี และมีคำเล่าในบทเทศน์ที่น่าสนใจมากคือว่า
“ตอนที่อดัม อยู่คนเดียวก็เกิดอาการเหงา และบอกกับพระเจ้าว่าตนเองนั้นเหงา พระเจ้าเลยบอกว่าจะสร้างผู้หญิงมาให้กับเจ้า ผู้หญิงคนนี้จะเข้าใจ เอาใจและ รู้ใจเจ้าซะยิ่งกว่าเจ้า รู้ใจตัวเอง ซะอีกนะ แต่ว่าเจ้าจะต้องถูกแบ่งร่างกาย ออกครึ่งนึง แขนข้างหนึ่ง ขาข้างหนึ่ง หู ตา ปาก แม้แต่ลมหายใจ ก็ต้องให้รูจมูกข้างนึง ด้วย ทางฝ่ายอดัมไม่ใจ เราขอเรียกอย่างนั้นนะ ไม่ยอม บอกว่าจะให้ได้แค่ซี่โครงของตัวเอง เพียงซี่เดียวเท่านั้น และพระเจ้าก็ได้ทรงสร้าง
ผู้หญิงมาให้แต่แทนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นอย่างที่ พระเจ้าได้บอกกลับตรงกันข้าม จู้จี้ ขี้บ่น ไม่เอาใจ” เพราะฉะนั้นแล้วเวลาเราจะทำอะไรให้ใครก็ขอให้ทำให้เต็มที่ เมื่อเราเต็มที่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็จะเต็มร้อย ( เรานั่งคิดไป ผู้ชายนี่มันเห็นแก่ตัวตั้งแต่ โน้นนนน สมัยพระเจ้าสร้างสวรรค์เลยหรอ หว่าเนี่ย )
และเนื่องด้วยงานวันนี้คุณพ่อได้กล่าวติดตลกไว้อีกว่า การที่ได้มาฟังวันนี้ ก็เผื่อว่า กำลังละเหี่ยใจใน สามี ภรรยา ก็ขอให้ได้รับอะไรไป เพื่อปรับปรุง เป็นกำลังใจให้ เป็นครอบครัวสุขสันต์

หลังจากที่นั่งฟังไปเรื่อย ที่คุณพ่อได้เกริ่นนำ เรื่องความรัก
คุณพ่อ บรรจงได้บอกว่า “ความรัก อย่ามองให้เป็นสีชมพู รักแบบโรแมนติก มันหมดไปตั้งแต่ตอนที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ขอให้มองความรักให้เป็นสีขาว (ใจคิดสีขาว? คืออะไรนะ บริสุทธิ์หรอ) คุณพ่อได้เสริมต่อว่า สีขาวในที่นี้หมายถึง การที่จะเกิดสีขาวได้คือการรวมกันของสีรุ้ง เจ็ดสี อย่างที่เคยเห็นกันในการทดลองที่ระบายสีรุ้งในกระดาษวงกลมแล้วร้อยเชือก พอหมุนๆๆ ติ้ว สีทั้งเจ็ดจะรวมกันเป็น สีขาว (โอ้แม่เจ้า คุณพ่อช่างเปรียบเปรยแล้วมันคือ? ยังคงงงต่อไป) นั่นหมายถึงการให้ความรัก มีหลากหลายสี วันไหนมีความสดชื่อความรักก็จะเป็นสีเขียว ในวันเศร้า ความรักก็สีอื่น ไม่ได้ ตายตัวว่าจะต้องเป็นสีชมพูตลอดเวลา (หูยยยย จริงด้วยเนอะ) เพราะว่าความรัก แรกๆ ใหม่ๆ ก็ดี ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ แต่พออยู่กันไปก็ไม่มีทางที่จะเป็นสีชมพูอย่างนั้นตลอดไป”
คุณพ่อยังเสริมอีกว่า ความรัก ของเราๆ มนุษย์ต่างกับพระเจ้า ความรักของเรา สะกดด้วย “ร.เรือ” “ไม้หันอากาศ” และ “ก.ไก่” แต่ความรักของ “พระ” สะกดด้วย “สงสาร/ให้อภัย/เข้าใจและ ยอม” ((( T_T อย่างโดนใจมากๆๆ )))

เริ่มมีคนถามคำถาม เกี่ยวกับเรื่องที่ต่างสงสัย และคุณพ่อได้เล่าจากประสบการณ์คำถามที่เคยพบจากการไปบรรยาย
ก็เลยนั่งๆ ฟังไปและก็สะกิดใจเรื่องของตัวเอง ว่าเออ เราก็มีคำถามนี่นา ไหนๆ ก็เป็นโอกาสดีแล้วนะ เขียนไปเลยละกัน หุหุ
คำถามที่ 1 : คุณแม่ของเรา แต่งงานเข้าโบสถ์รับศีลสมรสเรียบร้อย กับสามีคนแรก คือคุณพ่อ ซึ่งเป็นคนพุทธ แล้วปรากฏว่า เค้าได้เลิกกันไปเมื่อสามสิบปีก่อน และคุณแม่ได้แต่งงานใหม่ คุณแม่บอกว่าไม่สามารถรับศีลได้ เราก็ไม่เข้าใจจะทำยังไงให้คุณแม่ได้กลับไปรับศีล
คำตอบคือ คุณแม่รับศีลไม่ได้เพราะว่า ได้แต่งงานใหม่ ถ้าจะให้รับศีลได้ โดยไม่ทุราจานศีล ต้องทำให้ถูกต้องโดยการไปยื่นเรื่องเพื่อขอให้การแต่งงานครั้งแรกเป็นโมฆะเสียก่อน และทำพิธีกับคนที่สองให้ถูกต้อง อาจจะไม่ต้องจัดอะไรใหญ่โต แค่ทำการแลกแหวนกันก็พอ ก็ได้ ซึ่งการไปดำเนินการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร มีพยาน 2 คน เพื่อไถ่ถามและให้สามีคนแรกของคุณแม่ ตอบแบบสอบถาม เพื่อดูว่าเป็นการสมรสที่มีจุดให้ต้องเป็นโมฆะไหม แต่ถ้าคุณแม่ไม่ได้แต่งงานใหม่ ไม่มีสามีใหม่ คุณแม่ก็สามารถ แก้บาปรับศีลได้ปกติ เพราะว่าไม่ได้ อยู่กินฉันสามี ภรรยากับใคร แม้สามีเก่าจะไม่ได้อยู่กินกันแล้ว และยังมีชีวิต
(( ก็เพิ่งรู้เนอะว่า มันยุ่งยากขนาดนี้ แต่ก็เพื่อวิญญาณของตัวแม่เรา ๆ ก็จะได้ไปบอกกับแม่ให้แม่เข้าใจ แม่จะได้สบายใจ แก้บาป รับศีลได้อย่างถูกต้องซะที ))
คุณพ่อได้เสริมนอกรอบว่า ทางพระศาสนจักรจะช่วยทุกทางเพื่อที่จะได้ให้คนที่เจอกับปัญหาอย่างนี้ได้จัดการให้ถูกต้องเรียบร้อยจะได้แก้บาปรับศีลได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะไม่มามิสซา เพราะว่าไม่สามารถรับศีลได้และที่สุดก็จะไม่มาวัด (อืมม์ เราว่าก็น่าเศร้านะและคิดว่ายังมีอีกหลายคนที่เพราะว่าความไม่รู้และความไม่ร่วมมือของผู้ชาย อีกนั่นแหล่ะ) เลยถามคุณพ่อ แต่ก็ไม่ได้แปลว่า จะต้องตกนรกใช่ไหมคะ คุณพ่อบอกว่าไม่มีข้อบอก แต่ว่าเพื่อความถูกต้อง เพราะว่าเรื่องการแต่งงานเข้าวัด การรับศีลศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนาเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากและ ไม่อยากให้อยู่กันไปก่อน เรื่อยๆ คิดไปว่าไม่เป็นไร ซึ่งมันไม่ถูก เพื่อที่เราจะได้อยู่ในชีวิตพระหรรษทาน ก็ต้องทำให้ถูกต้อง

คำถามที่สอง : คำถามข้อสงสัยของเราเองงง เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า เราเนี่ยเคยอยู่กินมีสามี เมื่อยี่สิบปีก่อนแต่งงานตามกฎหมายแต่ไม่ได้เข้าวัด รับศีลสมรส แต่ ณ วันนี้เลิกรากันไปนานแล้ว เลิกขาด เราจะสามารถรับศีลได้ไหม และเราจะทำอย่างไรกับ อดีตสิ่งเก่าที่เคยเกิดขึ้นคือการมี สามีกับคนนั้นเมื่อสมัยโน้น และขณะนี้เราเองก็ไม่ได้มีใครใหม่ ไม่ได้คบกับใคร จะรับศีลได้ไหม และจะทำยังไง กับเรื่องเก่า
คุณพ่อได้ตอบว่า กับสามีคนเก่าที่ไม่ได้เข้าวัดทำพิธี ก็คือจบไปแล้ว ให้เราไปแก้บาป บอกเล่าเรื่องนี้คร่าวๆ ให้กับคุณพ่อฟัง และบอกว่าเราต้องการจะแก้บาปนี้ ที่เราได้ทำไว้เมื่อครั้งโน้น อืมม์ เข้าไปเล่าเลยหรอคะ ใช่เข้าไปเล่า แล้วคุณพ่อจะโปรดบาปให้ และก็ทำกิจใช้โทษบาปไป ส่วนเรื่องการรับศีล เมื่อครั้งที่สามี อยู่กินกันตอนนั้น ถ้าเราได้ไปวัด เราไม่สมควรจะรับศีล เพราะว่าเรายังไม่ได้จัดการให้ถูกต้อง .. และในปัจจุบันนี้ เมื่อเลิกกับเค้าไปแล้ว ถ้าเราไม่ได้มีใครคบกัน แบบแฟน สามีภรรยา เราก็สามารถแก้บาป รับศีลได้
** งั้นตอนนี้ เราก็ไปแก้บาปกับบาปเก่า ก็เป็นอันเรียบร้อย แต่เมื่อใดที่คบอยู่กินกับใครก็ต้องเข้าพิธีให้ถูกต้อง งืมๆ ปูนนี้แล้ว คงไม่มีแล้วม๊างงงง อยู่กับพระนี่หล่ะ รักแท้ **
และคุณพ่อประจักษ์ได้เสริมว่า เคยมีคำถามๆ ว่า แล้วผู้ชายที่แต่งงานเข้าวัดทำพิธีเรียบร้อย แต่ว่าไปมีชู้ กิ๊ก หรือเมียน้อย แบบเลี้ยงกันเป็นล่ำเป็นสันหล่ะ จะรับศีลได้ไหม คุณพ่อได้เล่าต่อไปว่า เค้าคนนั้นไม่สามารถรับศีลได้เพราะว่าเค้ากำลังนอกใจ ภรรยาของตัวเองอยู่ ทำให้ไม่สามารถไปรับศีลได้ แต่ ผู้ชายคนนั้นบอก ผมก็ไม่ได้ไปอยู่ด้วยทุกวัน โดยไปแค่อาทิตย์ละ สองครั้ง คุณพ่อบอก นั่นไงหล่ะคือว่า ตั้งใจ ว่าจะไป แม้ว่าจะแค่ แต่ก้เหมือนกับว่า ตั้งใจและเป็นการส่งเสียงเลี้ยงดูกันอย่างถาวร ( ผู้ชายนี่มันขาดิ้นจริงๆ เลย เชียว )
ต่อมาในอีกกรณีนึง ถ้าผู้ชายแต่งงานเข้าวัด ตามพิธีเรียบร้อย แต่ว่าด้วยอารม ด้วยความอ่อนไหว ของมนุษย์และได้ไปมีความสัมพันธ์ ชั่วครั้ง ชั่วคราวหล่ะ เค้าจะสามารถ รับศีลได้ไหม คำตอบคือว่า ได้ แต่เค้าก็ต้องแก้บาป ให้เรียบร้อยและสำนึกในบาปที่ไป พลั้งเผลอ และทำไป

อันนี้เป็นคำถามนอกรอบ ที่ถามกับคุณพ่อเค้า ไอ้เราคนมีลูกสาวเห็นว่า การที่ไปแต่งเข้าวัดแล้ว ถ้าเกิดเลิกกันดูมันยุ่งเหลือเกิ๊นมีใหม่คา ก็รับศีลไม่ได้ แล้วถ้าแต่งไปหล่ะ เกิดคนนี้ไม่ใช่กว่าจะทำเรื่องโมฆะ ก็ยาวอีก ลูกเราก็รับศีลไม่ได้ดิทีนี้ งี้ให้ลูกสาว อยู่กันไปแล้วค่อยๆ เลือกดีไหมนิ คุณพ่อ ส่ายหน้าและยิ้มๆ ว่า อย่าไประวัง อย่าไปกลัวแทน อย่าไปกลัวว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เพราะงี้เราจึงต้อง สอนให้ลูกรู้คุณค่าในตัวเอง ศึกษาคู่ แฟน ให้ดีก่อนที่จะใช้ชีวิตแต่งงานกันไป แต่ไม่สนับสนุนเด็ดขาดเรื่องการให้อยู่กันไปก่อน แล้วถ้าใช่ค่อยจัดพิธีเข้าวัด อย่างนี้ไม่ได้ เท่ากับว่า เราสนับสนุนให้ลูกทำบาป ผิดประเวณี ศาสนาของเราให้ความสำคัญเรื่องพิธีการแต่งงานมาก

มีเวลาได้ไปนั่งคุยปรึกษากับคุณพ่อตามลำพังเลือกที่จะเข้าไปพบกับคุณพ่อเล็ก คุยกันเยอะแยะถามหลายเรื่อง ที่สุดเรื่องเกี่ยวกับที่ว่า คนแม้ว่าจะทำบาปมาทั้งชีวิต แต่ถ้าเค้าได้สำนึกในนาทีสุดท้าย เค้าก็สามารถที่จะดิ่งไปสวรรค์ได้ ภายใต้ condition ที่ได้คุยกับคุณพ่อ ** เลยถามคุณพ่อเล็กว่า ทำไมพระของเราใจดีจัง ให้โอกาสตลอดเลย
คุณพ่อเล็ก ตอบว่า เพราะว่าแม้ วิญญาณสักดวงก็มีค่า พระองค์อยากได้วิญญาณ จึงให้โอกาส ให้อภัย ***
คุยกับคุณพ่อเล็ก คุยไปถึงพระคุณการุณย์ บริบูรณ์ ไม่ครบบริบูรณ์ และศีลทาน้ำมัน กลับมาสั่งเสียเป็นที่เรียบร้อยกับลูก ว่า เนี่ยถ้าแม่กำลังจะตายนอน ปะงาบอยู่บนเตียง (ศีลนี้ต้องได้รับในช่วงที่สุดๆ ของชีวิตจริงๆ) ลูกต้องไปตามคุณพ่อมาให้ได้นะ (คุณพ่อเล็กบอกว่า พระสงฆ์ available 24 hrs. สุดยอดเลย) ไปรับมาเจิมศีลสุดท้ายให้แม่ๆ ได้รับพระคุณการุณย์ ครบบริบูรณ์ บาปทั้งหมด และโทษของแม่ๆ ได้รับการยกแม่จะได้ไปสวรรค์
ลูกสาวคนนึงบอก ทำไมแม่พูดอย่างนั้น แม่พูดเรื่องความตายของตัวเอง
ส่วนอีกคนหันมาบอกว่า ถ้าให้พ่อมาแล้วแม่ไม่ตายหล่ะ แล้วถ้าพ่อมาให้แล้วแม่ตายหล่ะ
โธ่ลูก แม่ถึงเวลาก็ตาย ไม่ได้ หมายความว่า พ่อมาโปรดแล้วแม่ถึงตายนะ แหะๆ
แต่ถ้า พระยังไม่อยากรับแม่ไป หลังคุณพ่อโปรดศีล แม่ก็อาจจะไม่ตายก็ไม่เป็นไรนี่
จบการสนทนาด้วยว่า “ลูกอย่าลืมนะ นี่คือความต้องการของแม่”
ถ้าไม่ทำ เรารู้ตัวดีว่าเราบาปหนา คิดๆ ดูแล้ว คงต้องลงในไฟชำระสัก 800 ปี เล่าให้คุณพ่อเล็กฟัง คุณพ่อ อมยิ้มถามว่า ใครบอกว่า ต้องลงไปในไฟชำระกี่ปี บอก คุณพ่อไปว่า ไม่ใครที่ไหนหรอกค่ะ หนูนี่หล่ะรู้ตัวหนูดี คุณพ่อบอก เออดีนะที่รู้ตัว รู้ซิคะ เรานี่หล่ะรู้ตัวเราเองดีที่สุด

เช้าวันอาทิตย์ เราได้ไปแก้บาปที่คาเก่ายกมา สมัยพระเจ้าเหาเรียบร้อยแล้ว (พร้อมจะตาย อั๊ยยะ ไม่ช่ายละ) ก็สบายใจมากว่า บาปนั้น คือบาปหนักในอดีตที่เราได้รับอภัยไปแล้ว แอบกระซิบ เป็นการสวดทำกิจใช้โทษบาปที่เยอะที่สุดเท่าที่เคยแก้บาปมาเลยทีเดียว หล่ะ

ท้ายที่สุด ** พระยังรักเรา ยังให้โอกาสเรา ยังอยากได้วิญญาณของเราคนนี้เลยทำให้เรา กล้าที่จะไป กล้าที่จะถาม และได้เข้าใจ ในสิ่งที่ถูกต้อง สมควรที่จะเป็น **

ขอสรรเสริญพระองค์ ที่สุดของหัวใจ
และขอพระเจ้าอวยพร ทุกๆคน ค่ะ :s005:
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2012 2:40 pm

คิดดู หนก่อน พิมได้ จนถึงคำถามของตัวเอง แล้วกดส่งไป ลบเกลี้ยง
เสียใจ แต่ก้อไม่ยอมแพ้ ว๊ากๆๆ :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
salvation7
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 522
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
ติดต่อ:

อังคาร ก.ย. 18, 2012 3:13 pm

เย้ ยาวได้ใจ จริง ๆๆ
แบ่งปันดีค่ะ....
ได้ความรู้เพิ่มเติมด้วย :s027: :s027: :s027:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2012 4:45 pm

:s015:
belive13
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 6:16 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2012 5:24 pm

ได้ความรู้ดีๆเพียบเลย ขอบคุณนะค้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2012 5:42 pm

:s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2012 6:23 pm

เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันค่ะ :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 9:35 am

ยินดีค่า เดี๋ยวมีอะไรจะเอามาแชร์อีกนะคะ
ตอบกลับโพส