เอาข้อรำพึงสวดสายประคำ ชุดใหญ่มาให้ค่ะ

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 3:38 pm

เนื่องด้วย เพิ่งรู้ว่า สายประคำจริงๆ ไม่ได้มี 50 เม็ด
มี 200 เม็ด เรียกว่า ชุดใหญ่จัดหนักๆ เลย
คุณพ่อ พูดติดตลกว่า ถ้าให้สวด 200 คนคงจะท้อ
แต่ว่า สายเต็มคือ 200 เม็ด
ก็เลย ไปลองหาดูว่า แล้วบท รำพึงหล่ะจะใช้สองทบ ของแต่ละัวันสองทีหรืออย่างไร
ปรากฎว่า ไม่ใช่นะ ก้อมี อีก 20 บท คล้ายๆ กัน แต่ก็มีเพิ่มมา เลยไปหามา
แต่ว่า มันเป็นเสียงอ่ะ ซิ ก็โหลดฟังดู บทขยาย ดีมากๆ
เมือ่เช้าเลยเอาลง ไอพอด ระหว่างเดินก็ได้สวดไปด้วย

ถ้าอยากโหลดเสียงไปที่เวปข้างล่างนี้ได้่เลยนะคะ แต่ว่า มันเป็น file WMA เอาลง ipod ไม่ได้
เมื่อเช้าเราก้อแปลงไปเป็น mp3 ยังไงคนที่นี่เก่งๆ คงแปลงกันได้แหล่ะนะ แต่ว่าถ้าไม่ได้บอกนะ
จะเอาที่ เราแปลงแล้วไปอัพโหลดไว้ให้จ๊ะ

เวปที่โหลด
http://louismariebangkae.wordpress.com/ ... %E0%B8%B3/

หูย ยาววว ดีแท้
อ้อ ... แล้ว เราก้อพยายามค้นหา ขุดสุดๆ จากในเน็ทไม่มีเลยที่คนพิมเอาไว้
เราเลยกะว่า จะถอดเสียงเองนะ เดี๋ยวจะเอามาฝากค่ะสู้ๆ อิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 3:43 pm

พระธรรมล้ำลึกน่ายินดี
ข้อรำพึงที่ 1 ทูตสวรรค์แจ้งข่าวแก่พระนางมารีย์
พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อเมืองนาซาเร็ท เพื่อมาพบกับหญิงพรหมจารีย์คนหนึ่ง ซึ่งชื่อว่า มารีย์ ซึ่งเป็นคู่หมั้นของโยเซฟ เชื้อสายกษัตริย์ดาวิด ทูตสวรรค์เข้ามาในบ้านของมารีย์ และกล่าวกับเธอว่า มารีย์จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปราน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน เมื่อมารีย์ได้ยินดังนั้น ก็ตกใจและวุ่นวายพระทัยยิ่งนัก จึงกล่าวกับทูตสวรรค์ว่า สิ่งที่ท่านพูดหมายความว่าอย่างไร ทูตสวรรค์กล่าวว่าอย่ากลัวเลยมารีย์ ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปราน ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่า “เยซู” เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และพระเจ้าสูงสุด จะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ เมื่อมารีได้ยินดังนั้น จึงตรัสว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามที่ท่านกล่าวเถิด
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระหรรษทานของพระองค์ช่วยเปิดจิตใจของพวกเราทุกคน ต่อพระประสงค์ของพระองค์ ดังเช่นที่พระนางมารีย์ทรงเปิดใจตอบรับ พระประสงค์ของพระองค์ด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 2 พระนางมารี เสด็จเยี่ยมนางเอลิซาเบ็ธ
เมื่อทรงทราบข่าวการตั้งครรภ์ของนางเอลิซาเบ็ธ พระนางมารี ก็ออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาในแคว้นยูเดีย เพื่อเยี่ยมนางเอลิซาเบ็ธ ทันที เมื่อไปถึง พระนางได้เสด็จเข้าไปในบ้าน และทักทายนางเอลิซาเบ็ธ เมื่อนางเอลิซาเบ็ธ ได้ยินคำทักทายของพระนางมารี ทันใดเด็กที่อยู่ในครรภ์ของนางก็ดิ้น นางเอลิซาเบทจึงพูดกับพระนางมารีว่า เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใดๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาของพระเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เพราะเมื่อได้ยินคำทักทายของเธอ ทารกที่อยู่ในครรภ์ของฉัน ก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสกับเธอไว้จะเป็นจริง
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์โปรยปรายพระหรรษทานมายังข้าพเจ้าทุกคน เพื่อจะได้เลียนแบบพระนางมารี ในความเมตตาต่อบุคคลอื่น โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ข้อรำพึงที่ 3 พระเยซูเจ้าประสูติ ที่เมือง เบธเลเฮม
ในค่ำคืนอันหนาวเย็น ณ บริเวณนั้น มีคน เลี้ยงแกะอยู่กลุ่มหนึ่งเลี้ยงแกะของเขาอยู่ ทันใดนั้นทูตสวรรค์ก็ได้มาหาพวกเขาและได้กล่าวว่า เราได้นำข่าวดีมาบอกพวกท่านทั้งหลายเป็นข่าวดี ที่จะทำให้ทุกคนยินดียิ่งนัก วันนี้ในเมืองของกษัตริย์ดาวิดได้มีพระผู้ไถ่ประสูติมาเพื่อพวกท่านแล้ว พระองค์คือพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระพรของพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย มีใจที่ยากจน และถ่อมตนลงเยี่ยงคนเลี้ยงแกะ ยอมรับในข่าวดีที่ทูตสวรรค์ ทรงแจ้งให้ทราบ เหมือนอย่างที่พระนางมารี ทรงถ่อมตนยอมรับการเป็นพระมารดาของพระเจ้าด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 4 พระนางมารี ถวายพระกุมารในพระวิหาร
ที่กรุงเยลูซาเล็มมีชายผู้หนึ่งชื่อ ซีมีโอน เป็นคนชอบธรรม และยำเกรงพระเจ้า พระจิตของพระเจ้าสถิตอยู่กับเขาและทรงเปิดเผยให้เขารู้ว่า เขาจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ บุตรของพระเจ้า พระจิตเจ้าทรงนำ ซีมีโอนเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่โยเซฟพร้อมพระนางมารี นำพระกุมารเข้ามาปฎิบัติตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ ซีมีโอนรับพระกุมารจากพระนางมารีย์มาอุ้มและกล่าวถวายพระพรแด่ พระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์โปรดประทานความร้อนรนในการรอคอยพระผู้ไถ่ที่จะเสด็จมาประทับในดวงใจของข้าพเจ้าทั้งหลาย และนำข่าวดีนี้ไปมอบกับทุกคนดังเช่น พระนางมารี

ข้อรำพึงที่ 5 พระนางมารีย์พบพระกุมารในพระวิหาร
โยเซฟ และพระนางมารีย์ได้เดินทางไปที่กรุงเยลูซาเล็ม ในเทศกาลปัสกาทุกปี และเมื่อพระเยซูเจ้าทรงมีพระชนมายุครบ 12 พรรษา โยเซฟก็ได้พาพระนางมารีย์และพระเยซูเจ้าไปที่กรุงเยลูซาเล็ม ตามธรรมเนียมปฏิบัติ เมื่อวันฉลองสิ้นสุดลง ทุกคนก็เดินทางกลับ แต่พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ที่กรุงเยลูซาเล็ม โดยที่ บิดา และ มารดาไม่รู้ เมื่อการเดินทางผ่านไป 1 วัน ท่านทั้งสองหาพระเยซูเจ้าไม่พบ จึงได้กลับไปที่กรุงเยลูซาเล็ม และท่านทั้งสองได้พบพระเยซูเจ้าที่นั่น ท่ามกลางบรรดาผู้คนมากมาย
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรู้จักที่จะทำหน้าที่ของตนอย่างดีในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน้าที่ของการเป็นคริสตชนที่ดี อย่างพระนางมารีย์ด้วยเถิด

พระธรรมล้ำลึกพระทรมาน
ข้อรำพึงที่ 1 พระเยซูเจ้าทรงเข้าตรีทูตในสวน เกทเสมนี
พระเยซูเจ้าทรงเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ บรรดาศิษย์ตามเสด็จไปด้วย เมื่อเสด็จไปถึง พระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า จงอธิษฐานภาวนาเถิด เพื่อจะไม่ถูกทดลอง ตรัสดังนี้เสร็จแล้ว พระองค์ทรงเสด็จออกไปห่างจากพวกเขา เพื่อทรงอธิษฐานภาวนาต่อพระบิดา ๆเจ้าข้า ถ้าพระองค์มีพระประสงค์โปรดนำถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้า เถิด แต่อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด พระองค์ทรงภาวนาจนเหงื่อไหลออกมาเป็นโลหิต เมื่อทรงภาวนาเสร็จแล้วก็ดำเนินกลับมาที่บรรดาสาวกและทรงเห็นพวกเขาหลับอยู่ จึงตรัสว่า จงลุกขึ้นอธิษฐานภาวนาเถิดเพื่อ จะไม่ตกอยู่ในการทดลอง
ข้าแต่พระเจ้า ความทุกข์ต่างๆ ที่เกิด กับข้าพเจ้า ขอโปรดให้พวกข้าพเจ้าทั้งหลาย มีความเข้มแข็งอดทน โดยเชื่อมั่นว่า สักวันหนึ่งจะได้รับการปลอบประโลมจากพระองค์ เยี่ยงพระนางมารีย์ด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 2 พระเยซูเจ้าทรงถูกเฆี่ยน
ทุกๆ ปีในเทศกาลปัสกา ปิลาตจะต้องปล่อยนักโทษคนหนึ่งตามคำขอของประชาชน และเมื่อปิลาตถามประชาชนว่า จะให้ปล่อยใครระหว่างพระเยซูเจ้า หรือบาราบัส ประชาชนที่ถูกหัวหน้าสมณะเสี้ยมสอน ก็ร้องตะโกนเสียงดังว่า ปล่อยบาราบัส ปิลาตถามประชาชนอีกว่า จะให้ทำอย่างไรกับพระเยซูเจ้า ประชาชนจึงร้องตะโกนอีกว่า เอาไปตรึงกางเขน ปิลาตจึงปล่อยให้ประชาชน นำพระเยซูเจ้าไปโบยตีแล้วนำไปตรึงกางเขน และก็ปล่อยบาราบัสไป
ขอพระองค์โปรดประทานใจที่อ่อนโยน แทนใจที่แข็งกระด้างของพวกข้าพเจ้าทั้งหลาย และขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรู้จักสงบสติอารม ระงับความโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เยี่ยงพระนางมารีย์ด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 3 พระเยซูเจ้าทรงถูกสวมมงกุฎหนาม
เมื่อปิลาตทรงสั่งให้นำพระเยซูเจ้าไปเฆี่ยน บรรดาทหารก็ได้เอาหนามมาสานทำเป็นมงกุฎสวมพระเศียรให้พระองค์ แล้วตบตีพระองค์ เยาะเย้ยพระองค์ต่างๆ นานา ปิลาตออกมาข้างนอกอีกครั้ง พูดกับประชาชนว่า ดูเถิดเรานำชายผู้นี้ออกมาให้ ท่านทั้งหลายรู้ว่า เขาไม่มีความผิดประการใด เมื่อประชาชนเห็นพระองค์ จึงตะโกนว่า เอาไปตรึงกางเขนๆ ปิลาตจึงปล่อยให้ประชาชนนำพระเยซูเจ้าไปตรึงกางเขน
ข้าแต่พระเจ้า ความรักที่พระองค์ทรงสอน และกระทำเป็นแบบอย่างแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอพระองค์โปรดประทานแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด เพื่อพวกข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้รัก และรู้จักที่จะให้อภัยผู้อื่นเสมอ




ข้อรำพึงที่ 4 พระเยซูเจ้าทรงแบกกางเขน
เมื่อปิลาต มอบพระองค์ให้ประชาชนแล้ว บรรดาทหารก็ให้พระเยซูเจ้าทรงแบกกางเขน เสด็จออกไปยังสถานที่ๆ เรียกกันว่า เนินหัวกะโหลก และภาษาฮีบรูว่า กลโกธา เขาได้ตรึงพระองค์ไว้ที่นั่น พร้อมกับนักโทษอีกสองคน อยู่คนละข้าง พระเยซูเจ้าทรงอยู่ตรงกลาง แล้วปิลาตเขียนป้ายติดไว้บนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าว่า เยซูชาวนาซาเรท กษัตริย์ของชาวยิว
ข้าแต่พระเจ้า บาปของข้าพเจ้าทั้งหลาย เป็นเหตุให้พระองค์ทรงได้รับทรมาน ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรู้จักที่จะเป็นฝ่ายสละตัวเองเพื่อความสุขของคนอื่น เยี่ยงพระนางมารีย์ด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 5 พระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
พระมารดาของพระเยซูเจ้า และศิษย์ที่พระองค์ทรงรักได้ยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระองค์ ๆ จึงทรงตรัสกับพระมารดาว่า “แม่ นี่คือลูกของแม่” และตรัสกับศิษย์ ผู้นั้นว่า “นี่คือแม่ของท่าน” นับตั้งแต่นั้น ศิษย์ผู้นั้นก็รับพระนางเป็นมารดาของตน หลังจากนั้นเมื่อพระองค์ทรงทราบว่า ทุกอย่างสำเร็จแล้ว จึงตรัสว่า “เรากระหาย” ทหารจึงนำฟองน้ำชุบน้ำองุ่นเปรี้ยว ยื่นถึงพระโอษฐ์พระองค์แล้วพระองค์จึงตรัสว่า “สำเร็จบริบูรณ์แล้ว” แล้วก็สิ้นพระชนม์
ข้าแต่พระเจ้า ดวงพระทัยอันนิรมลของ พระนางมารีย์ทรงเป็นทุกข์อย่างใหญ่หลวง เพราะการถูกทรมาน และการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า ใครเล่าที่เป็นเหตุให้พระองค์ทรงรับเช่นนี้ ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรู้จักที่จะสำนึกในความผิดของตนเองด้วยเถิด

พระธรรมล้ำลึกแห่งพระสิริรุ่งโรจน์
ข้อรำพึงที่ 1 พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ
เช้าตรู่วันอาทิตย์ บรรดาสตรีได้นำเครื่องหอมที่เตรียมไว้มาที่พระคูหา เมื่อไปถึงพวกเขาพบว่า ก้อนหินที่ปิดปากถ้ำถูกเปิดออกไป จากพระคูหาแล้ว เมื่อเข้าไปในพระคูหา ก็ไม่พบพระศพของพระเยซูเจ้า พวกเขาพากันตกใจ ขณะนั้นเอง ทูตสวรรค์ของพระเจ้ามาหาพวกเขาและกล่าวว่า พระองค์ไม่ได้ประทับอยู่ที่นี่แล้ว พระองค์ได้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพแล้ว
ข้าแต่พระเจ้า หลายครั้งความวิตกกังวล ตามประสามนุษย์ได้เข้ามาครอบงำจิตใจของพวกข้าพเจ้าทั้งหลาย จนลืมนึกถึงพระองค์ ดังนั้น ข้าพเข้าขอวิงวอนพระองค์โปรดเสด็จเข้ามาประทับอยู่ในจิตใจของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด



ข้อรำพึงที่ 2 พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์
ขณะที่บรรดาศิษย์กำลัง สนทนากันถึงเรื่องของพระเยซูเจ้าอยู่นั้น พระเยซูเจ้าได้เสด็จมาท่ามกลางพวกเขา ตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” แล้วพระเยซูเจ้าได้ทรงนำบรรดาศิษย์ออกไปใกล้หมู่บ้านเบธานี ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพร แล้วเสด็จสู่สวรรค์ต่อหน้าต่อตาพวกเขา บรรดาศิษย์ได้กราบนมัสการพระองค์และกลับไปที่กรุงเยลูซาเล็ม ด้วยความยินดี
ข้าแต่พระเจ้า หลายครั้งที่ข้าพเจ้าทั้งหลายสับสน พระองค์ทรงเสด็จมาบรรเทาใจ หลายครั้งที่ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นทุกข์ พระองค์ทรงเสด็จมาทำให้ยิ้ม และหัวเราะ ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายนำพระพรที่พระองค์ประทานให้นี้ ไปมอบให้แก่ทุกคนด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 3 พระจิตเสด็จมา
เมื่อวัน เปกอสเตมาถึง บรรดาศิษย์ทุกคนมาชุมนุมในสถานที่เดียวกัน ทันใดนั้นมีเสียงจากฟากฟ้า เหมือนเสียงลมพัดแรงกล้า ทุกคนที่อยู่ในบ้านได้ยิน เขาเห็นเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้น แยกไป อยู่เหนือศรีษะของเขาแต่ละคน ทุกคนได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมและเริ่มพูดภาษาต่างๆ ได้ ตามที่พระจิตเจ้าประทานให้พูด ผู้คนหลายชาติ หลายภาษา ที่มาชุมนุมกันที่กรูงเยลูซาเล็มต่างพากัน ฉงนสนเท่ ที่ได้ยินภาษาของตนเอง จากบรรดาอัครสาวก
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์โปรดส่งพระจิต เสด็จลงมาใน ข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อให้ข้าพเจ้า เป็นหนึ่งเดียวกันในคำภาวนา พร้อมกับพระนางมารีย์ และร่วมมือกันอย่างดีในการประกาศพระวรสาร สู่นานาชาติด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 4 พระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์
พระนางมารีย์ตรัสว่า วิญญาณข้าพเจ้า ประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า จิตใจข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทอดพระเนตร ผู้รับใช้ผู้ต่ำต้อย ของพระองค์ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะกล่าวว่า ข้าพเจ้าเป็นสุข พระผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่สำหรับข้าพเจ้า พระนามของพระองค์ ศักดิ์สิทธิ์ พระกรุณา ต่อผู้ยำเกรงพระองค์ แผ่ไปทุกยุค ทุกสมัย พระองค์ทรงยกพระกร แสดงพระอานุภาพ ทรงขับไล่ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูง ให้กระจายไป ทรงคว่ำผู้ทรงอำนาจจากบังลังก์ และทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก ทรงส่งเศรษฐีให้กลับไปมือเปล่า พระองค์ทรงช่วยเหลือ อิสราแอลผู้รับใช้พระองค์ โดยทรงระลึกถึงพระกรุณา ดั่งที่ ทรงสัญญาไว้ กับบรรพบุรุษของเรา แก่อับราฮัม และ บุตรหลานตลอดไป
ข้อแต่พระเจ้า พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์คือแบบอย่างที่ดี ในความนบนอบต่อแผนการของพระองค์ จนนำมาสู่ชัยชนะ ที่เราทุกคนมีเหนือบาปและความตาย โดยอาศัยพระคริสตเจ้า พร้อม กับพระคริสตเจ้า

ข้อรำพึงที่ 5 พระนางมารีย์ได้รับมงกุฎในสวรรค์
เครื่องหมายที่ยิ่งใหญ่ ปรากฏในสวรรค์ คือ สตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศรีษะ
ข้าแต่พระเจ้า พระนางมารีย์ ควรค่าแก่ตำแหน่งราชินีสวรรค์ พระนางเป็นราชินีของหัวใจทุกดวง ที่เฝ้าเสนอวิงวอนต่อพระองค์ โดยผ่านทางพระนาง โอ้พระมารดา ราชินีผู้น่ารักยิ่ง ราชินี ของปวงชนทั้งหลาย โปรดโปรยปรายความรักจากดวงพระทัยอันนิรมลของพระแม่ แก่พวกลูกทุกคนด้วยเถิด

พระธรรมล้ำลึกแห่งความสว่าง
ข้อรำพึงที่ 1 พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างที่แม่น้ำจอร์แดน
พระเยซูเจ้าเสด็จมาจากแคว้นกาลิลี ถึงแม่น้ำจอร์แดน เพื่อทรงรับพิธีล้างจากยอห์น เมื่อพระองค์ทรงรับพิธีล้างแล้ว ก็เสด็จขึ้นจากแม่น้ำจอร์แดน ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก พระองค์ทรงเห็นพระจิตของพระเจ้า เสด็จลงมาหาพระองค์ดุจนกพิราบ และมีเสียง จากสวรรค์กล่าวว่า ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา
ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดให้ชีวิตคริสตชนของข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้ชิดสนิท กับพระองค์มากยิ่งขึ้นและโดยทางศีลล้างบาป ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายปฏิบัติตามพันธะกิจ ที่พระองค์ทรงมอบให้ ดังเช่น พระนางพรหมจารีย์มารีย์ด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 2 พระเยซูเจ้าทรงเผยพระองค์เอง ในงานมงคลสมรส ณ หมู่บ้านคานา
พระเยซูเจ้าทรงเสด็จมาที่หมู่บ้านคานา ในแคว้นกาลิลี เพื่อทรงร่วมงานมงคลสมรส พระมารดาของพระองค์ก็ทรงอยู่ในงานมงคลสมรสนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดา จึงมาทูลพระองค์ว่า เขาไม่มีเหล้าองุ่นเหลือแล้ว พระเยซูตรัสว่า เวลาของเรายังมาไม่ถึง พระมารดาจึงกล่าวกับคนรับใช้ว่า ท่านบอกอะไรก็จงทำตามที่ท่านสั่ง ที่นั่น มีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม พวกเขาก็ตักน้ำใส่โอ่งจนเต็ม แล้วพระองค์ก็ตรัสอีกว่า จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงตรัสว่า จงขอแล้วจะได้รับ เหตุว่าพระองค์ทรงฟังคำภาวนาของเราอยู่เสมอ ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรู้จักวอนขอเพื่อผู้อื่น เยี่ยงพระนางมารีย์ด้วยเถิด

ข้อรำพึงที่ 3 พระเยซูเจ้าทรงประกาศพระอาณาจักของพระเจ้าและทรงเรียกผู้คนให้กลับใจ
พระเยซูคริสตเจ้าเสด็จไปทั่วแคว้นกาลิลี ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บป่วยทุกชนิด กิตติศัพท์ของพระองค์เลื่องลือไปถึงแคว้นซีเรีย ประชาชน จึงนำผู้ที่ป่วยด้วยโรคต่างๆ ผู้ที่ถูกความทุกข์เบียดเบียน ผู้ที่ถูกผีสิง และผู้ที่ต้องการให้พระองค์รักษามาหาพระองค์ และพระองค์ทรงรักษาคนเหล่านั้นให้หายเป็นปกติทุกคน
ข้าแต่พระเจ้า ด้วยอัศจรรย์ที่พระองค์ได้ทรงสำแดงแก่มวลมนุษย์นี้ ได้ทวีความเชื่ออย่างแน่นเฟ้นยิ่งขึ้นต่อข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้ตอบสนองแผนการของพระองค์ดังเช่นพระนางมารีย์

ข้อรำพึงที่ 4 พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระกายอย่างรุ่งโรจน์ ณ ภูเขาทาบอร์
พระเยซูเจ้าได้เสด็จขึ้นไปบนภูเขา พร้อมกับเปโตร ยากอบ และ ยอห์น ตามลำพัง ทันใดนั้น พระวรกายของพระองค์ ก็ทรงเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตา ของพวกเขา ฉลองพระองค์กลับมีสีขาว เจิดจ้า แล้วประกาศก เอลียาห์ และโมเสส ได้มาสนทนากับพระเจ้า เปโตร จึงพูดกับพระเยซูเจ้าว่า พระอาจารย์เจ้าข้า เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิด หลังหนึ่งสำหรับ พระองค์ หลังหนึ่งสำหรับ เอลียาห์ และอีกหลังหนึ่ง สำหรับ โมเสส ขณะที่เปโตรพูดอยู่นั้น ได้มีเมฆก้อนหนึ่ง มาปกคลุมเขาไว้ และมีเสียงดังขึ้นว่า ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงเชื่อฟังท่านเถิด
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์โปรดสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ ต่อข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด เพื่อข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้เข้าใจในน้ำพระทัยของพระองค์ และยอมแบกกางเขนที่พระองค์ทรงมอบให้ในชีวิตประจำวัน ตามแบบอย่างของพระนางมารีย์

ข้อรำพึงที่ 5 พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท เพื่อเป็นเครื่องหมายของธรรมล้ำลึกปัสกา
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงนั่งอยู่ท่ามกลางสาวกนั้น พระองค์ทรงหยิบถ้วยขึ้น ทรงขอบพระคุณ ตรัสว่า จงรับถ้วยนี้ไปดื่มให้ทั่วกัน เราบอกท่านทั้งหลายว่า ตั้งแต่นี้ไปเราจะไม่ดื่มเหล้าจากผลองุ่นอีก จนกว่าพระอาณาจักรของพระเจ้าจะมาถึง แล้วทรงหยิบขนมปัง กล่าวขอบพระคุณตรัสว่า นี่เป็นกายของเราที่ถูกมอบแก่ท่านทั้งหลาย จงทำดังนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด ในทำนองเดียวกันเมื่อทรงทานอาหารเสร็จแล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วยเหล้าองุ่นตรัสว่า ถ้วยนี้เป็นโลหิตของเราเป็นพันธะสัญญาใหม่ ที่ได้หลั่งออกมาเพื่อท่านทั้งหลาย
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงมอบพระองค์เองเป็นบูชาเพื่อข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้มีส่วนร่วมในโต๊ะอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ด้วยเถิด ทั้งนี้โดยอาศัยคำเสนอวิงวอนต่อพระเจ้า ของพระนางมารีย์เพื่อข้าพเจ้าทั้งหลาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 3:45 pm

:s002:

ขอพระเจ้าอวยพร ทุกคนที่เข้ามา อ่าน และ เป็นกำลังใจให้นะคะ (( ฮี่ๆๆ แอบอ้างสุดๆ ))

ยังติดหนี้สิน เรือ่ง บนบาน กับ สาบาน

เพราะว่า วันนี้มัว แต่มันกับการถอดเสียง ตั้งแต่เที่ยง

ไปแระค่า ต้องไปรับลูกๆ แล้ว :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 4:30 pm

ขอบคุณมากครับ :s015: แต่ผมได้ยินว่ามี150เม็ดแต่เป็น200เม็ด เราต้องเขาใจใหม่ละ :s013:
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 7:28 pm

เรานึกว่ามี 50 เม็ดมาตลอดทั้งชีวิต :s008: น่าเศร้าม๊ะหล่ะ
แต่พอรู้ว่า สายเต็ม คือเท่านี้ก้อจะตั้งใจ จัดหนัก แหะๆ :s002:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 8:24 pm

:s013: :s012: :s015:
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2012 10:16 pm

เดิมมี 153 บทครับสำหรับวันทามารีอา รวม 3 เม็ดแรกที่รำพึงถึงพระตรีเอกานุภาพด้วย

ไม่กี่ปีหลังมานี้มีการเพิ่มข้อรำพึงในวันพฤหัสเข้าไปใหม่เป็นเรื่องเกี่ยวกับช่วงที่พระเยซูออกเทศสอนประกาศศาสนา จากเดิมที่รำพึงเหมือนวันจันทร์ และเลื่อนข้อรำพึงภาคชื่นชมยินดีจากเดิมวันจันทร์และพฤหัสมาเป็นจันทร์กะเสาร์แทน ซึ่งเดิมวันเสาร์จะรำพึงเหมือนกับวันอาทิตย์ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

ศุกร์ ก.ย. 21, 2012 12:56 pm

ขอบคุณค่ะ คุณsansrepos

เราก็เพิ่งจะรู้ว่าเต็มๆ คือ 200 พยายามตั้งใจจะสวดค่ะ

ชอบบทขยาย เมื่อเช้าฟังรำพึง เข้าใจและเห็นภาพตามดีเลยทีเดียว
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

ศุกร์ ก.ย. 21, 2012 3:45 pm

พึ่งรู้เเฮะ :s013: :s013:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

ศุกร์ ก.ย. 21, 2012 4:52 pm

:s015:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

ศุกร์ ก.ย. 21, 2012 5:41 pm

พี่ซันก้พึ่งรู้ใช่มะ :s023: :s023: :s013:
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

เสาร์ ก.ย. 22, 2012 8:27 am

ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาเพราะข้อรำพึงเพิ่มจากเดิมค่ะ
ข้อรำพึงของเก่ามี 15 แล้วมีเพิ่มเข้ามาในสมัยโป๊ป JP2 อีก 5 เป็น 20 ข้อค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

เสาร์ ก.ย. 22, 2012 9:27 pm

:s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.ย. 23, 2012 1:32 am

ถ้าจะอิงตามประวัติศาสตร์จริงๆ
คือ150เม็ดครับ ตามจำนวนบทสดุดี150บท

แต่จะให้ร้อย150เม็ด
(ยังมีทฤษฎีว่าเมื่อก่อน
นับลูกประคำโดยการนำ ลูกหินใส่ถุงไว้ แล้วเวลานับก็เทออกมา)
ก็เปลือง เลยปรับมาเป็น50เม็๋ด และวน3รอบ

แล้วมาแบ่ง3ธรรมล้ำลึก

อย่างไรก็ ธรรมล้ำลึกแห่งความสว่าง ที่พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่2 ประกาศเมื่อปี2002

ก็เป็นธรรมล้ำลึกที่ดีเช่นกันครับ
ตอบกลับโพส