ทำไมพระเจ้าถึงขีดเขียนชะตากรรมของมนุษย์ตามอำเภอใจ

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

ศุกร์ ก.พ. 01, 2013 12:21 am

ตามนั้น.....
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

ศุกร์ ก.พ. 01, 2013 5:21 pm

เพราะเจ้าจะเตรียมหนทางที่ดีที่สุดให้เราเเม้ว่ามันจะมีควากหนามบ้างอะไรบ้างมันก็เป็นธรรมดาเพราะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปหรอกค่ะ :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

ศุกร์ ก.พ. 01, 2013 6:58 pm

เมจิ เขียน:เพราะเจ้าจะเตรียมหนทางที่ดีที่สุดให้เราเเม้ว่ามันจะมีควากหนามบ้างอะไรบ้างมันก็เป็นธรรมดาเพราะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปหรอกค่ะ :s012:
"ดีที่สุด" ในแบบของใคร ถามเราสักคำรึยัง

แค่คำว่าขวากหนามน่ะไม่ว่าหรอกเพราะยังไงก็ต้องมี แต่.....ตอนนี้สถานการณ์มันเหมือนกับว่า คาดเดาตอบจบได้ไม่ยาก แต่ตอนจบพรรค์นั้นมัน...... ชวนให้ล้มกระดานซะยังเข้าท่ากว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

ศุกร์ ก.พ. 01, 2013 8:13 pm

มีอยู่เรื่องหนึ่งเล่าว่า...
ชายคนหนึ่งเกิดมา ไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้ง มีแต่ความทุกข์กังวล หนี้สินมากมาย ร้องไห้มาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง จนสุดจะทนที่จะมีชีวิตอยู่ เขอต่อว่าพระเจ้าทำไมพระองค์จึงทำเช่นนี้ลืมลูกไปแล้วหรือ..

คืนวันนั้นหลังจากที่เขาเข้านอน เขาได้ฝันว่าเขาได้ไปที่ๆหนึ่ง อยู่กลางทะเลทราย ในบ่าของเขามีกางเขนหนึ่งอัน ซึ่งอันใหญ่และหนักมากเหลือเกิน เขามองไปข้างๆ ก็มีคนที่แบกกางเขนเหมือนเขาเป็นล้านคน ขนาดเดียวและน้ำหนักเดียวกัน เขาคิดว่ากางเขนนี้เป็นต้นเหตุของความทุกข์ หลังจากนั้นเขาเริ่มแบกกางเขนและเดินตามขบวนนั้นไปเรื่อยๆอย่างช้าๆเพราะกางเขนหนักมาก และเขาก็เดินไปพร้อมๆกับทุกคน ขณะที่เดินไปได้สักพัก ก็เห็นร้านๆหนึ่ง มีปีศาจยืนอยู่กับเลื่อยอันนึง เขาจึงนึกขึ้นได้ว่าเขาเนี่ยจะโง่ทำไมแบกกางเขนหนักๆเนี่ย ก็เลยเดินเข้าไป เอาเลื่อยมาเลื่อยกางเขน ให้มีขนาดเล็กลง แล้วเขาก็ลองนำขึ้นบ่า เขารู้สึกว่าเบามากๆ หลังจากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อย เดินได้ฉิวเลย แซงหน้าใครต่อใครไปเป็นร้อย เป็นพัน จนสุดท้าย ก็มาถึงปราสาทหลังหนึ่ง มีชื่อเขียนว่า ปราสาทแห่งสันติสุข เขาคิดว่าที่นี่คือจุดหมายปลายทางของเขา เขาดีใจมากๆ แต่แล้วเขาก็เห็นบางอย่าง ซึ่งที่เขาเห็นคือ เป็นเหวลึกกั้นระหว่างจุดที่เขายืนอยู่กับปราสาท เขาครุ่นคิดอยู่ว่าจะทำไงดี เขาเหลือบไปดูคนข้างซึ่งเป็นผู้แบกกางเขนอันใหญ่และหนักมาตั้งนานจนถึงปราสาท คนข้างๆคนนั้น นำกางเขนมาพาดไว้ระหว่างจุดที่ยืนถึงฝากปราสาทแล้วค่อยๆคลานไปถึงปราสาท ซึ่งกางเขนนั้นมีความยาวพอดีเลยเขาเข้าไปอย่างมีความสุข ชายคนนี้จึงลองทำตามบ้างเขานำกางเขนที่ถูกตัดซะเหลือนิดเดียวพาดลง แล้วกางเขนนั้นก็ตกลงไปในเหวเพราะขนาดเล็กมาก เขาเสียใจกับสิ่งที่เขาทำไป ทันใดนั้นเขาก็ตื่นสำนึกผิดขึ้นได้ แล้วเขาก็ปฎิติบัติตนเป็นคนดี ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและดำรงชีวิตอย่างดี

หลายครั้งที่เราคิดว่าความทุกข์ต่างๆที่ได้รับมันเป็นสิ่งที่เกินมากไปที่พระเจ้ามอบให้ แต่ในบางครั้งความทุกข์ก็นำเราเข้าสู่พระราชัยของพระองค์ ... พระองค์ไม่ได้ขีดเขียนชะตากรรมของมนุษย์ตามอำเภอใจ แต่พระองค์มอบกางเขนนั้น เพื่อให้เราแบกไปสู่พระราชัย ของพระองค์..... :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

ศุกร์ ก.พ. 01, 2013 11:00 pm

ขอบคุณ เป็นคำตอบที่ดี

แต่.....ขออภัยด้วย ดูเหมือนว่ารูโหว่ของเรามันใหญ่ไปหน่อยเลยใส่ให้เต็มไม่ได้

มันมีเรื่องมากกว่านั้นอีกที่ทำให้เราไม่พอใจและตัดพ้อพระองค์ แต่จริง ๆ เคยพูดไปเกือบหมดแล้ว ก็มีบ้างที่ตอนนี้เพิ่มเข้ามาและยังไม่ได้พูด แต่มันยาก.....
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

เสาร์ ก.พ. 02, 2013 2:44 pm

เราอย่าไปเลื่อยกางเขนนั้นให้เล็กลงเลย ให้กางเขนนั้นมีความใหญ่เถิด เพื่อเราจะได้ไปสู่ปราสาทแห่งสันติได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

เสาร์ ก.พ. 02, 2013 7:35 pm

sunofgod เขียน:เราอย่าไปเลื่อยกางเขนนั้นให้เล็กลงเลย ให้กางเขนนั้นมีความใหญ่เถิด เพื่อเราจะได้ไปสู่ปราสาทแห่งสันติได้
เรามีสิ่งที่ต้องการ มากกว่าการได้อยู่ในปราสาทหลังนั้นนี่นา.....
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

เสาร์ ก.พ. 02, 2013 8:20 pm

sunofgod เขียน:มีอยู่เรื่องหนึ่งเล่าว่า...
ชายคนหนึ่งเกิดมา ไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้ง มีแต่ความทุกข์กังวล หนี้สินมากมาย ร้องไห้มาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง จนสุดจะทนที่จะมีชีวิตอยู่ เขอต่อว่าพระเจ้าทำไมพระองค์จึงทำเช่นนี้ลืมลูกไปแล้วหรือ..

คืนวันนั้นหลังจากที่เขาเข้านอน เขาได้ฝันว่าเขาได้ไปที่ๆหนึ่ง อยู่กลางทะเลทราย ในบ่าของเขามีกางเขนหนึ่งอัน ซึ่งอันใหญ่และหนักมากเหลือเกิน เขามองไปข้างๆ ก็มีคนที่แบกกางเขนเหมือนเขาเป็นล้านคน ขนาดเดียวและน้ำหนักเดียวกัน เขาคิดว่ากางเขนนี้เป็นต้นเหตุของความทุกข์ หลังจากนั้นเขาเริ่มแบกกางเขนและเดินตามขบวนนั้นไปเรื่อยๆอย่างช้าๆเพราะกางเขนหนักมาก และเขาก็เดินไปพร้อมๆกับทุกคน ขณะที่เดินไปได้สักพัก ก็เห็นร้านๆหนึ่ง มีปีศาจยืนอยู่กับเลื่อยอันนึง เขาจึงนึกขึ้นได้ว่าเขาเนี่ยจะโง่ทำไมแบกกางเขนหนักๆเนี่ย ก็เลยเดินเข้าไป เอาเลื่อยมาเลื่อยกางเขน ให้มีขนาดเล็กลง แล้วเขาก็ลองนำขึ้นบ่า เขารู้สึกว่าเบามากๆ หลังจากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อย เดินได้ฉิวเลย แซงหน้าใครต่อใครไปเป็นร้อย เป็นพัน จนสุดท้าย ก็มาถึงปราสาทหลังหนึ่ง มีชื่อเขียนว่า ปราสาทแห่งสันติสุข เขาคิดว่าที่นี่คือจุดหมายปลายทางของเขา เขาดีใจมากๆ แต่แล้วเขาก็เห็นบางอย่าง ซึ่งที่เขาเห็นคือ เป็นเหวลึกกั้นระหว่างจุดที่เขายืนอยู่กับปราสาท เขาครุ่นคิดอยู่ว่าจะทำไงดี เขาเหลือบไปดูคนข้างซึ่งเป็นผู้แบกกางเขนอันใหญ่และหนักมาตั้งนานจนถึงปราสาท คนข้างๆคนนั้น นำกางเขนมาพาดไว้ระหว่างจุดที่ยืนถึงฝากปราสาทแล้วค่อยๆคลานไปถึงปราสาท ซึ่งกางเขนนั้นมีความยาวพอดีเลยเขาเข้าไปอย่างมีความสุข ชายคนนี้จึงลองทำตามบ้างเขานำกางเขนที่ถูกตัดซะเหลือนิดเดียวพาดลง แล้วกางเขนนั้นก็ตกลงไปในเหวเพราะขนาดเล็กมาก เขาเสียใจกับสิ่งที่เขาทำไป ทันใดนั้นเขาก็ตื่นสำนึกผิดขึ้นได้ แล้วเขาก็ปฎิติบัติตนเป็นคนดี ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและดำรงชีวิตอย่างดี

หลายครั้งที่เราคิดว่าความทุกข์ต่างๆที่ได้รับมันเป็นสิ่งที่เกินมากไปที่พระเจ้ามอบให้ แต่ในบางครั้งความทุกข์ก็นำเราเข้าสู่พระราชัยของพระองค์ ... พระองค์ไม่ได้ขีดเขียนชะตากรรมของมนุษย์ตามอำเภอใจ แต่พระองค์มอบกางเขนนั้น เพื่อให้เราแบกไปสู่พระราชัย ของพระองค์..... :)
เหมือนในการ์ตูนเลย :s012:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

เสาร์ ก.พ. 02, 2013 11:44 pm

Valkyrie Zero Number เขียน:
sunofgod เขียน:เราอย่าไปเลื่อยกางเขนนั้นให้เล็กลงเลย ให้กางเขนนั้นมีความใหญ่เถิด เพื่อเราจะได้ไปสู่ปราสาทแห่งสันติได้
เรามีสิ่งที่ต้องการ มากกว่าการได้อยู่ในปราสาทหลังนั้นนี่นา.....
แล้วอะไรที่คือสิ่งต้องการมากกว่าพระราชัยล่ะครับ :s030:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

เสาร์ ก.พ. 02, 2013 11:45 pm

เมจิ เขียน:
sunofgod เขียน:มีอยู่เรื่องหนึ่งเล่าว่า...
ชายคนหนึ่งเกิดมา ไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้ง มีแต่ความทุกข์กังวล หนี้สินมากมาย ร้องไห้มาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง จนสุดจะทนที่จะมีชีวิตอยู่ เขอต่อว่าพระเจ้าทำไมพระองค์จึงทำเช่นนี้ลืมลูกไปแล้วหรือ..

คืนวันนั้นหลังจากที่เขาเข้านอน เขาได้ฝันว่าเขาได้ไปที่ๆหนึ่ง อยู่กลางทะเลทราย ในบ่าของเขามีกางเขนหนึ่งอัน ซึ่งอันใหญ่และหนักมากเหลือเกิน เขามองไปข้างๆ ก็มีคนที่แบกกางเขนเหมือนเขาเป็นล้านคน ขนาดเดียวและน้ำหนักเดียวกัน เขาคิดว่ากางเขนนี้เป็นต้นเหตุของความทุกข์ หลังจากนั้นเขาเริ่มแบกกางเขนและเดินตามขบวนนั้นไปเรื่อยๆอย่างช้าๆเพราะกางเขนหนักมาก และเขาก็เดินไปพร้อมๆกับทุกคน ขณะที่เดินไปได้สักพัก ก็เห็นร้านๆหนึ่ง มีปีศาจยืนอยู่กับเลื่อยอันนึง เขาจึงนึกขึ้นได้ว่าเขาเนี่ยจะโง่ทำไมแบกกางเขนหนักๆเนี่ย ก็เลยเดินเข้าไป เอาเลื่อยมาเลื่อยกางเขน ให้มีขนาดเล็กลง แล้วเขาก็ลองนำขึ้นบ่า เขารู้สึกว่าเบามากๆ หลังจากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อย เดินได้ฉิวเลย แซงหน้าใครต่อใครไปเป็นร้อย เป็นพัน จนสุดท้าย ก็มาถึงปราสาทหลังหนึ่ง มีชื่อเขียนว่า ปราสาทแห่งสันติสุข เขาคิดว่าที่นี่คือจุดหมายปลายทางของเขา เขาดีใจมากๆ แต่แล้วเขาก็เห็นบางอย่าง ซึ่งที่เขาเห็นคือ เป็นเหวลึกกั้นระหว่างจุดที่เขายืนอยู่กับปราสาท เขาครุ่นคิดอยู่ว่าจะทำไงดี เขาเหลือบไปดูคนข้างซึ่งเป็นผู้แบกกางเขนอันใหญ่และหนักมาตั้งนานจนถึงปราสาท คนข้างๆคนนั้น นำกางเขนมาพาดไว้ระหว่างจุดที่ยืนถึงฝากปราสาทแล้วค่อยๆคลานไปถึงปราสาท ซึ่งกางเขนนั้นมีความยาวพอดีเลยเขาเข้าไปอย่างมีความสุข ชายคนนี้จึงลองทำตามบ้างเขานำกางเขนที่ถูกตัดซะเหลือนิดเดียวพาดลง แล้วกางเขนนั้นก็ตกลงไปในเหวเพราะขนาดเล็กมาก เขาเสียใจกับสิ่งที่เขาทำไป ทันใดนั้นเขาก็ตื่นสำนึกผิดขึ้นได้ แล้วเขาก็ปฎิติบัติตนเป็นคนดี ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและดำรงชีวิตอย่างดี

หลายครั้งที่เราคิดว่าความทุกข์ต่างๆที่ได้รับมันเป็นสิ่งที่เกินมากไปที่พระเจ้ามอบให้ แต่ในบางครั้งความทุกข์ก็นำเราเข้าสู่พระราชัยของพระองค์ ... พระองค์ไม่ได้ขีดเขียนชะตากรรมของมนุษย์ตามอำเภอใจ แต่พระองค์มอบกางเขนนั้น เพื่อให้เราแบกไปสู่พระราชัย ของพระองค์..... :)
เหมือนในการ์ตูนเลย :s012:
แต่จริงไหมล่ะ ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.พ. 03, 2013 4:26 pm

พระเยซูเจ้าตรัสแล้วว่า "ใครเป็นศิษย์ของพระองค์จะต้องแบกกางเขนของตนติดตามพระองค์"
ก็คือภาระหน้าที่ในชีวิตประจำวันของเรา สุข ทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง หรืออะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามา
ในชีวิตเรา ซึ่งบางครั้งยินดี บางครั้งก็เจ็บปวด ทุกข์สาหัส แต่เราก็ยอมรับตามน้ำพระทัย
อดทนเพื่อพระองค์ ไม่บ่นต่อว่าพระองค์ เราจะมีพระพรมากมาย แม้นอยู่ในความทุกข์ยากลำบาก
พระองค์ให้อิสระเสรี กับมนุษย์ว่าจะเลือกอะไร ไม่มีใครบังคับ แต่อย่าลืมเรียกหาพระองค์เสมอๆ
ทั้งในเวลาสุขและยิ่งในเวลาเราทุกข์ยาก พระองค์รักลูกทุกๆคน แต่ลูกๆรักพระองค์แท้จริงหรือเปล่า
......มีเรื่องเล่าแต่ย่อๆนะ
มีเด็กคนหนึ่งน่ารักศรัทธา สวดขอพระเจ้าทุกวันเป็นเด็กดี เชื่อฟังช่วยทำงานต่างๆ
แต่อยู่มาวันหนึ่งเดินมาอยู่ดีๆ มีก้อนหินตกใส่หัว หัวแตกเลือดไหล ก็โมโห โกรธมาก
ต่อว่าพระเจ้าว่าเราทำดีทุกอย่าง สวดขอให้คุ้มครอง ปลอดภัย ทำไมไม่คุ้มครองปล่อยให้ก้อนหิน
ตกใส่หัวแตก แล้วก็บ่นร้องไห้
แต่ในขณะเดียวกันถ้าเขาเงยหน้าขึ้นไปมอง เขาจะเห็นพระเยซูเจ้าแบกรับก้อนหิน ก้อนมหึมาอยู่
มีเพียงเศษก้อนหิน ที่มันกระเด็นตกมาใส่หัวนิดหน่อยเท่านั้น ถ้าพระองค์ไม่แบกรับไว้มีหวังจมดินเลย
ดังนั้น บางครั้งเราต้องมองกลับกัน พระองค์ไม่ให้ภาระหนักเกินกำลังของเรา ถึงแม้นทนไม่ไหว
ก็ถวายแด่พระองค์ เราจะฝ่าฟันอุปสรรค์ต่างๆไปได้ด้วยดี ถ้าเรามีความวางใจในพระองค์
:s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อาทิตย์ ก.พ. 03, 2013 6:59 pm

เรื่องบางเรื่องถ้าเราถอดใจก็เท่ากับตาย..... ถึงตอนนี้ก็แทบจะตายทั้งเป็นอยู่แล้วก็เถอะ

เรื่องมันยาว แต่ถือว่าเราพูดไปเกือบทั้งหมดแล้วล่ะ......

ที่แน่ ๆ จะเป็นน้ำพระทัยหรือไม่ แต่ความเป็นไปที่เป็นอยู่ตอนนี้..... เราไม่คิดว่ามันถูกต้องเอาซะเลยค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

จันทร์ ก.พ. 04, 2013 12:07 am

ตอนนี้ไม่ว่าพิจารณาจากอะไร ด้วยเหตุผลในแง่มุมไหน

เราก็รับไม่ได้จริง ๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่ากางเขนหนัก แต่.....จุดหมายปลายทางของมันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการตอนนี้

ตอนนี้สิ่งที่ลำบากใจยิ่งกว่าคือ การที่ตัวเองต้องฝากชีวิตไว้กับพระเจ้าที่ไม่สามารถเชื่อและวางใจได้เต็มที่ และเราไม่สามารถเห็นดีด้วยได้กับสิ่งที่พระองค์คิดและทำในขณะนี้และแนวโน้มข้างหน้า

.......รู้สึกเหมือนถูกหักหลังและโดนทิ้งให้ตายมากกว่า..... เหมือนสมุนตัวร้ายที่หมดประโยชน์แล้วถูกกำจัดทิ้งให้นอนจมกองเลือดยังไงยังงั้น

มันไม่ได้ลำบากแบบ..... เป็นหนี้สิน ร่างกายพิการ หรือแค่อดข้าวอดน้ำหรอกนะ..... บางทีแบบนั้นอาจจะโชคดีกว่าซะด้วยซ้ำ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

จันทร์ ก.พ. 04, 2013 1:48 pm

11:9 เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน
11:10 เพราะว่าทุกคนที่ขอก็จะได้ ทุกคนที่แสวงหาก็จะพบ และทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
11:11 มีผู้ใดในพวกท่านที่เป็นบิดา ถ้าบุตรขอขนมปังจะเอาก้อนหินให้เขาหรือ หรือถ้าขอปลาจะเอางูให้เขาแทนปลาหรือ
11:12 หรือถ้าเขาขอไข่จะเอาแมงป่องให้เขาหรือ

11:13 เพราะฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนชั่ว ยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ จะทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์”
แต่อย่างเรา..... ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเรื่องอะไร ขอขนมปังได้ก้อนลาวา ขอปลาได้อนาคอนด้า ทั้งนั้นเลย ไม่ว่าพระองค์หรือพ่อแม่แท้ ๆ ตัวเอง ไม่ว่าพวกนั้นจะรู้ตัวหรือไม่ก็เถอะ แต่พูดไปก็โดนหาข้ออ้างยกให้ตัวเองถูกและเราผิดประจำ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ก.พ. 08, 2013 11:06 am

ถ้ามีความเชื่อ ความวางใจ น้อมรับน้ำพระทัย แอกหนักๆที่แบกไว้ก็จะผ่อนคลาย
ลูกไม่สบาย หรือไม่แข็งแรง พ่อแม่เอายาให้กินถึงแม้นจะขมมากๆ ลูกไม่เข้าใจร้องไห้
ไม่กินยา วิ่งหนี นึกว่าพ่อแม่ใจร้ายทำไมทำแบบนี้ ไม่รู้ความรักความหวังดีของพ่อแม่
เช่นกัน พระองค์ให้เรา ทุกข์ยาก ลำบาก หรือไม่ได้ดังใจ ก็เพื่อตัวเราทั้งนั้นจะได้แข็งแกร่ง
ผ่านความทุกข์ต่างๆมาได้ จะได้เป็นตัวอย่าง ช่วยเหลือเป็นกำล้งใจให้กับผู้อื่น
...ขอให้มีความยำเกรงพระเจ้า อย่าต่อว่าพระ หรืออะไก็ตามที่ไม่ได้ดั่งใจ แล้วต่อว่าเป็นพระเจ้าทำ
ขอให้มองพระองค์ในแง่บวก
... คุณยังไม่ได้เรียนคำสอน หรือล้างบาป ยังไม่เข้าใจ พระองค์ให้อภัยคุณเสมอ
แต่กรุณาศึกษาอ่านพระคัมภีร์ หรือเรียนคำสอน ภาวนาเสมอๆ จะมีสิ่งดีๆเกิดกับตัวคุณมากมาย
....อย่าเอาพระเจ้ามาเป็นที่รองรับอารมย์หรืออะไรก็ตามที่ไม่ถูกใจ
พระบัญญัติประการที่2 อย่าออกพระนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ

:s005:
MIYUKIJUNG
โพสต์: 33
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 27, 2013 8:47 pm

พฤหัสฯ. ก.พ. 14, 2013 4:44 pm

สวัสดีค่ะเรา YUKI เล่นได้ไม่นานค่ะอยากจะขอแสดงความเห็น จากที่คุณพูดมานั้นเราเข้าใจว่าเป็นอารมณ์เหนือยและท้อแท้ ไม่มีความสุขในชีวิตเพราะเห็นอะไรก็บอกว่ามันต้องทำไปเสียหมดคุณก็ลองช่างน้ำหนักดูว่าถ้าไม่ทำมันจะเสียหน้าหรือไม่ บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆหรอกค่ะ ถ้าเราบ่นว่าตรงนี้ไม่ไหวต้องแบกกางเขนไปหาจุดหมายมันหนัก แล้วกับการไม่อดทนแล้วไปเริ่มต้นใหม่ บนหนทางใหม่ก็ต้องแบกแอกอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน พระเจ้าไม่ได้ทำให้คุณหนักใจหรอกค่ะ แต่บาปต่างหากที่ทำให้คุณหนักใจ หนักใจที่บังเอิญเผลอเอามาเป็นนายโดยที่ไม่รู้ตัว :s004:
Tk Spoolport
โพสต์: 21
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 13, 2011 11:28 am

จันทร์ ก.พ. 18, 2013 3:27 pm

มันไม่ได้ลำบากแบบ..... เป็นหนี้สิน ร่างกายพิการ หรือแค่อดข้าวอดน้ำหรอกนะ..... บางทีแบบนั้นอาจจะโชคดีกว่าซะด้วยซ้ำ
อย่าเพิ่งแน่ใจอย่างนั้นเลยครับ ถ้าคุณเป็นอย่างนั้นจริง คุณอาจยอมกลับมาเป็อย่างทุกวันนี้

เป็นกำัลังใจให้นะครับ เข้มแข็งในความเชื่อครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tuztiz
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 19, 2007 7:45 pm

จันทร์ มิ.ย. 10, 2013 7:47 pm

เพราะพระเจ้าสร้างเราค่ะ และที่สำคัญ พระองค์ให้ใจอิสระ ในการเลือกที่จะทำอะไรก็ได้
พระองค์ไม่ได้ต้องการให้เราเจอเรื่องที่ดีที่สุด และ ร้ายที่สุด แต่ทุกเหตุการณ์ เพื่อให้เราได้รู้จักชีวิตค่ะ
ที่สุด พระองค์ต้องการให้เราตัดสินใจเอง ด้วยใจอิสระ แม้แต่เกิดมาแล้ว พระองค์ก็ไม่ได้บังคับเป็นสูตรว่า
จะต้องมาเป็นคาทอลิค แต่ให้เราตัดสินใจเลือกเอง เพื่อที่พระองค์จะได้ ความรัก จากเราด้วยหัวใจที่รักๆๆ พระองค์
ภาพประจำตัวสมาชิก
dark-kanita
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm

ศุกร์ มิ.ย. 14, 2013 3:06 am

Valkyrie Zero Number เขียน:
11:9 เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน
11:10 เพราะว่าทุกคนที่ขอก็จะได้ ทุกคนที่แสวงหาก็จะพบ และทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
11:11 มีผู้ใดในพวกท่านที่เป็นบิดา ถ้าบุตรขอขนมปังจะเอาก้อนหินให้เขาหรือ หรือถ้าขอปลาจะเอางูให้เขาแทนปลาหรือ
11:12 หรือถ้าเขาขอไข่จะเอาแมงป่องให้เขาหรือ

11:13 เพราะฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนชั่ว ยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ จะทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์”
แต่อย่างเรา..... ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเรื่องอะไร ขอขนมปังได้ก้อนลาวา ขอปลาได้อนาคอนด้า ทั้งนั้นเลย ไม่ว่าพระองค์หรือพ่อแม่แท้ ๆ ตัวเอง ไม่ว่าพวกนั้นจะรู้ตัวหรือไม่ก็เถอะ แต่พูดไปก็โดนหาข้ออ้างยกให้ตัวเองถูกและเราผิดประจำ
พ่อพวกเรา เอ้ย พระเจ้าของพวกเรา ท่านมความคิดที่เราไม่อาจเดาได้ และที่สำคัญเราเป้นสิ่งสร้างของเขา เขาจะทำยังไงกับสิ่งที่เป้นของเขาก็ได้นิครับ

ข้อความพวกนี้ข้างบน สำหรับเราแล้ว เรารู้ว่าท่านพูดจริง เจอกับตัวเงอเลยละน้า ตอนแรกๆก็นั่งด่าท่านเหมือนกัน แต่หลังๆมานี้นั่งขอบคุณ "ขอ หา เคาะ" :s012:
ตอบกลับโพส