สวัสดีค่ะหนูชื่อ แตงโม อายุ 15
คือว่าหนูอยากเปลี่ยนศาสนาจากพุทธเป็นคริสต์
แต่แม่ไม่ให้เปลี่ยน หนูก็พยายามอธิบายว่า
"อยากเปลี่ยนเพราะหนูศรัทธา หนูชอบในคริสต์ศาสนา
ชอบในคำสอน" แต่แม่ไม่ฟังหนูเลย ปากก็บอกว่าไม่ๆๆๆ อย่างเดียว
หนูก็อุตส่าห์บอกแล้วว่า "ไม่ให้เปลียนก็ไม่เป็นไรแต่ขอไปโบสถ์
ไปศึกษาในเรื่องนี้พลางๆก่อนได้มั๊ย" คำตอบของแม่ก็คือ ไม่
โมจะพูดกับแม่ยังไงดีค่ะ แม่ถึงจะเข้าใจ
หนูพูดกับแม่ทุกวันๆ เพื่อแม่จะเปลี่ยนใจ...แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม
จะพูดกับแม่ยังไงดีค่ะ
ของผมด้วย รุนแรงกว่านี้อีก แต่ว่าอย่างไรก็ตาม พระประสงค์ของพระเจ้าแล้วก็ไม่แคล้วหรอกครับ ไม่มีใครจะรักพระเจ้า หรือ เป็นคริสตชน อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า หรอกครับ ทุกอย่างพระเลือกสรรไว้ ต้องอดทน อดทนมากๆๆๆ ด้วย สวดภาวนาอย่างเสมอ ศึกษาติดตาม ข่าวสาร ศาสนา ทางอินเตอร์เน็ตไป ถึงที่สุดจิงๆต้องรอถึงบรรลุนิติภาวะก่อน เราก็รีบรับศีลล้างบาปเลย(เป็นคริสเตียน หรือ คาทอลิกครับ) ขอพระเจ้าอวยพรครับ
- siritawatss
- โพสต์: 559
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 18, 2012 8:11 pm
- ที่อยู่: อ มะขาม จ จันทบุรี
- ติดต่อ:
กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ให้คุณเเม่ท่านเห็นเองครับ ว่าเราเเน่วเเน่เเค่ไหน จริงจังเเค่ไหน การกระทำของเราก็ช่วยใด้มากครับ เช่น เราพูดถึงศาสนาคริสต์เเล้ว เราเป็นเด็กดีขึ้น ช่วยงานบ้านมากขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น เเละอื่นๆ จะช่วยทำให้คุณเเม่เห็นใจเเละเข้าใจเรามากขึ้นครับ ช่วงเเรกนี้ก็หัดสวดภาวนาไปก่อนครับ อฐิษฐานคุยกับเเม่พระกับพระเยซูบ่อยๆ จะออกเสียงหรือในใจก็ได้ครับ ท่านรับรู้ได้ครับ เเล้วก็ อ่านกระทู้ในนี้ด้วยครับ เราจะได้รู้จักพระองค์มากขึ้นครับ เพราะ ขนาดของรักขึ้นอยู่กับ ขนาดของความรู้จักครับ ขอให้พระเจ้าอวยพรครับ
ปกติแล้วขนาดของความรักขึ้นอยู่กับขนาดของความรู้จัก ฉะนั้น ยิ่งเรารู้จักอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางมากขึ้นเท่าใด เราก็จะยิ่งมีความรักมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อความรักของเราต่อพระเจ้ามีขนาดใหญ่โต เราก็จะรักพระองค์เท่ากันไม่ว่ายามที่เจ็บปวดหรือสุขสำราญ จากหนังสือ (The Practice of The Presence of God) โดย Nicholas Herman of Lorraine (Brother Lawrence)
ปกติแล้วขนาดของความรักขึ้นอยู่กับขนาดของความรู้จัก ฉะนั้น ยิ่งเรารู้จักอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางมากขึ้นเท่าใด เราก็จะยิ่งมีความรักมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อความรักของเราต่อพระเจ้ามีขนาดใหญ่โต เราก็จะรักพระองค์เท่ากันไม่ว่ายามที่เจ็บปวดหรือสุขสำราญ จากหนังสือ (The Practice of The Presence of God) โดย Nicholas Herman of Lorraine (Brother Lawrence)
เห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ค่ะsiritawatss เขียน: กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ให้คุณเเม่ท่านเห็นเองครับ ว่าเราเเน่วเเน่เเค่ไหน จริงจังเเค่ไหน การกระทำของเราก็ช่วยใด้มากครับ เช่น เราพูดถึงศาสนาคริสต์เเล้ว เราเป็นเด็กดีขึ้น ช่วยงานบ้านมากขึ้น ตั้งใจเรียนมากขึ้น เเละอื่นๆ จะช่วยทำให้คุณเเม่เห็นใจเเละเข้าใจเรามากขึ้นครับ ช่วงเเรกนี้ก็หัดสวดภาวนาไปก่อนครับ อฐิษฐานคุยกับเเม่พระกับพระเยซูบ่อยๆ จะออกเสียงหรือในใจก็ได้ครับ ท่านรับรู้ได้ครับ เเล้วก็ อ่านกระทู้ในนี้ด้วยครับ เราจะได้รู้จักพระองค์มากขึ้นครับ เพราะ ขนาดของรักขึ้นอยู่กับ ขนาดของความรู้จักครับ ขอให้พระเจ้าอวยพรครับ
ปกติแล้วขนาดของความรักขึ้นอยู่กับขนาดของความรู้จัก ฉะนั้น ยิ่งเรารู้จักอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางมากขึ้นเท่าใด เราก็จะยิ่งมีความรักมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อความรักของเราต่อพระเจ้ามีขนาดใหญ่โต เราก็จะรักพระองค์เท่ากันไม่ว่ายามที่เจ็บปวดหรือสุขสำราญ จากหนังสือ (The Practice of The Presence of God) โดย Nicholas Herman of Lorraine (Brother Lawrence)
-
- โพสต์: 361
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm
สู้ๆน๊า ผมจะภาวนาช่วยอีกแรง อย่าซีเรียสเลย ถ้าหนูตั้งใจจริงนะ ในที่สุดหนูจะได้รับพระเมตตาแน่นอน เพราะอันที่จริงถ้าหนูแน่วแน่มาตลอด ถึงหนูจะไม่ได้รับศีลล้างบาป(ด้วยน้ำ...ก็จะได้รับการล้างด้วยเลือด เมื่อถึงวันที่พระเจ้าทรงเรียกหนู) แล้วถึงหนูจะไม่มีโอกาสได้รับศีลมหาสนิท พระเจ้าจะทรงพระเมตตา ถ้าหนูมีความเชื่อ ถ้าหนูรักพระเจ้า หนูคุยกับพระองค์ได้ ร้องเรียกพระองค์ เรียกหาแม่พระ และถ้าหนูเปี่ยมด้วยความเชื่อและความรักต่อพระเป็นเจ้า หนูจะได้ในสิ่งที่หนูปราถนาแน่นอน ขอพระเจ้าอวยพรน๊ครั๊ บบ ^^
เวลาของพระเจ้าอาจไม่เหมือนเวลาของเรา เราอาจรู้สึกว่ารอไม่ได้ แต่ขอให้น้องมีความไว้ใจในพระองค์ การกลับใจหรือการเปลี่ยนมาเชื่อข่าวดีของพระคริสต์อยู่ที่ใจเรา ไม่มีใครจะมายื้อแย่งความเชื่อไปจากจิตใจของเราได้หากเราไม่คิดจะทิ้งมันเสียเอง
พระเยซูเจ้าทรงสอนว่าไม่มีพ่อแม่ที่ไหนที่ลูกขอปลาแล้วจะให้งู ดังนั้นพระเจ้าซึ่งทรงรักเราไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ในโลกย่อมจัดหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกของพระองค์เสมอ ขอให้น้องมั่นคงในความเชื่อและภาวนาให้มากครับ
จะภาวนาให้อีกแรงครับ
พระเยซูเจ้าทรงสอนว่าไม่มีพ่อแม่ที่ไหนที่ลูกขอปลาแล้วจะให้งู ดังนั้นพระเจ้าซึ่งทรงรักเราไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ในโลกย่อมจัดหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกของพระองค์เสมอ ขอให้น้องมั่นคงในความเชื่อและภาวนาให้มากครับ
จะภาวนาให้อีกแรงครับ
-
- โพสต์: 119
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 15, 2013 5:37 pm
ยังไงดีค่ะ หนูก็เป็นค่ะ ไม่ทราบว่าพี่แตงโมอยู่ที่ไหนหรอค่ะ(แก่กว่าเราปีนึง) เผื่อบ้านอยู่ใกล้กัน เราก็แอบไปโบสน์กัน2คนก็ได้ ฮิฮิ แม่หนูก็ไม่ให้เหมือนกัน เห็นบอกว่า เป็นพุทธดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนทำไม ตอนนี้หนูไม่กล้าบอกใครเลย กลัวจะโดนหาว่าไร้สาระ ตอนนี้กำลังเกลี้ยกล่อม 555 ถ้าสำเร็จก็ไปโบสน์กัน2คนนะ
ขอพระเจ้าอวยพรนะคะ
ขอพระเจ้าอวยพรนะคะ
บ้านพี่อยู่หาดใหญจ๊ะpreeyanuch20 เขียน:ยังไงดีค่ะ หนูก็เป็นค่ะ ไม่ทราบว่าพี่แตงโมอยู่ที่ไหนหรอค่ะ(แก่กว่าเราปีนึง) เผื่อบ้านอยู่ใกล้กัน เราก็แอบไปโบสน์กัน2คนก็ได้ ฮิฮิ แม่หนูก็ไม่ให้เหมือนกัน เห็นบอกว่า เป็นพุทธดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนทำไม ตอนนี้หนูไม่กล้าบอกใครเลย กลัวจะโดนหาว่าไร้สาระ ตอนนี้กำลังเกลี้ยกล่อม 555 ถ้าสำเร็จก็ไปโบสน์กัน2คนนะ
ขอพระเจ้าอวยพรนะคะ
-
- โพสต์: 119
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 15, 2013 5:37 pm
โหพี่ นั่งแทบตกเก้าอี้ อยู่ซะไกล ไม่มีใครอยู่กรุงเทพเลยเรอะ