ผมชอบคนคริสต์อ่าครับ
คือว่าผมแอบคนคริสต์
ไม่ทราบว่า ถ้าผมภาวนาแล้วท่านจะช่วยผมหรือไม่ครับ
คือผมชอบมานานแล้วอ่าครับ
แล้วถ้าผมแต่งงานเนี่ย
เค้าเปลี่ยนศาสนากันยังไงเหรอครับ
ไม่ทราบว่า ถ้าผมภาวนาแล้วท่านจะช่วยผมหรือไม่ครับ
คือผมชอบมานานแล้วอ่าครับ
แล้วถ้าผมแต่งงานเนี่ย
เค้าเปลี่ยนศาสนากันยังไงเหรอครับ
แล้วคนที่คุณชอบง่ะ เป็นคริสตัง(โรมันคาทอลิก) หรือคริสเตียน(โปรแตสแตนด์)งุ่ะครับ จะได้แนะแนวทางไดู้ถูก เพราะต่างละนิกาย มีความคิด เกี่ยวกับเรื่องคู่ครองที่ไม่เหมือนกัน(แต่ไปทางแนวเดียวกัน)
ขอพระอวยพรคุณครับ
ขอพระอวยพรคุณครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ทำไมต้องแอบ ฮะ แอบชอบใช่ป่าวsuwijuk เขียน: โปรแตสแตนด์ อ่ะครับ
ต้องทำยังไงมั่งเหรอครับ
อยากเป็นโปรฯ เริ่มแรก ให้ไปโบสถ์คร้าบ ใกล้ที่ไหนล่ะน้องเจี๊ยบจะแนะนำให้ คร้าบ :cheesy: ลองเข้าไปศึกษา ร่วมนมัสการ และเข้ากลุ่ม
ถ้าชอบแบบเรียบๆ หนักแน่นมั่นคง ก็ไปคริสตจักรสายสภาคริสตจักร ถ้าชอบโลดโผน แอคชั่นเยอะๆ ให้ไป ที่ความหวัง หรือ ใจสมาน
- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
แนะนำว่าจะถ้าจะเปลี่ยนเพราะเรื่องนี้ก็ควรศึกษาดูให้ดีด้วยว่าตัวเราเหมาะกับนิกายไหนเช่นกัน ชั่งน้ำหนักทั้งเรากับฝ่ายนั้นครับ
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการเปลี่ยนมาเป็นคริสตชนนั้น ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนศาสนาในบัตรประชาชนเท่าหรือทะเบียนราษฎร์นั้น หากแต่หมายถึงการละทิ้งความคิดแบบเดิม ความเชื่อแบบเดิม วิถีชีวิตแบบเดิม มาสู่ความคิดแบบใหม่ ความเชื่อแบบใหม่ และวิถีชีวิตแบบใหม่ที่มีองค์พระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลาง มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย หากแต่เป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว ควรจะศึกษาให้มากก่อนตัดสินใจ
francisco xavier เขียน: ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการเปลี่ยนมาเป็นคริสตชนนั้น ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนศาสนาในบัตรประชาชนเท่าหรือทะเบียนราษฎร์นั้น หากแต่หมายถึงการละทิ้งความคิดแบบเดิม ความเชื่อแบบเดิม วิถีชีวิตแบบเดิม มาสู่ความคิดแบบใหม่ ความเชื่อแบบใหม่ และวิถีชีวิตแบบใหม่ที่มีองค์พระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลาง มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย หากแต่เป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว ควรจะศึกษาให้มากก่อนตัดสินใจ
ใช่ครับ การเริ่มต้นความเชื่อใหม่ในพระเยชูนั้น มันมากกว่าการเปลี่ยนศาสนาบนบัตรประชาชนนะครับ ผมเดานะ สาวที่คุณคบอยู่ตอนนี้ คงชวนคุณยิกยิกยิก ให้รับเชื่อในพระเยชูเจ้า ผมเองเข้าใจคุณนะ บางทีคุณรักแฟนคุณ เลยจำใจต้องเออ ออ ห่อหมก ทำตามที่แฟนคุณปรารถนา แต่..........ลึกๆแล้ว คุณคงไม่ได้อยากมาเิป็นคริสตด้วยซ้ำ(หากพูดตรงเกินไป อภัยให้ผมนะครับ) ที่ผ่านมาทำเพราะจำใจ จำยอม จำทน(ด้วย) ใช่ไหมครับ ผมเป็นคริสตชนที่ชอบไปวัีดคาทอลิกก็จริง และชอบกิจศรัทธาในศาสนานี้ แต่ก็รู้สึกอึดอัด และไม่พอใจ แทนคุณพอสมควรหากใจลึกๆทำเพราะรัก ไม่ได้ทำเพราะศรัทธาจริงๆ เพราะตรงจุดนี้คริสเตียนจะค่อนข้างต่างจากคริสตังแบบผม
ศาสนา ความเชื่ือ วิญญาณ และอุดมการณ์ ต้องมาจากใจของเจ้าตัวอย่างแท้จริงครับ ทำกิจศรัทธา ด้วยความจำใจ จำยอม จำเป็น ดูแล้วผมไม่พอใจแทนคุณจริงๆครับ(ที่ถูกกดขี่และบังคับทางความเชื่อทางแฟนสาวของคุณ)คุณทำไปก็เหมือนหน้าไหว้หลังหลอกคนในโบสถ์และแฟนคุณด้วย พระเจ้าเป็นความรักครับ ในความรัก ไม่มีคำว่าบีบบังคับจิตใจอยู่แล้วครับ
สมมุตินะ หากผมเป็นหัวหน้าCell(หรือ ศบ.)ของแฟนคุณนะ จะเรียกแฟนคุณมาด่าให้เช็ดขึ้เช็ดเยี่ยวไม่ออกเลย ขอบคุณครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
เอาล่ะครับ ถ้าเป็นตามที่ suwijuk เล่าจริง นั่นเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว
ไม่ทราบว่าเคยเข้าโบสถ์หรือยัง ถ้ายังก็อาจจะลองเข้าโบสถ์ดู ไปกับคนที่คุณชอบน่าจะดีนะครับจะได้มีเพื่อน จากนั้นพอเข้าโบสถ์ได้ระยะหนึ่งแล้ว ความรู้สึกว่าศรัทธายังมีหรือมีมากขึ้นก็ลองติดต่อศิษยาภิบาลของคริสตจักรนั้น บอกท่านว่า "ผมอยากเป็นคริสเตียน ครับ" ท่านคงมีแนวทางที่ดีสำหรับ suwijuk ครับ จากนั้นถ้าท่านบอกว่าต้องเรียนอะไรอย่างไร ใครเป็นคนสอน ท่านก็คงจะแนะนำ suwijuk ต่อไปเอง
ขอเตือนก่อนว่าชีวิตคริสตชนไม่ง่ายนัก มีความทุกข์ลำบากและการทดลองมากมายรออยู่เบื้องหน้า แต่สิ่งที่ทำให้คริสตชนมีความสุขได้ท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก ก็คือ ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ในทั้งสามสิ่งนี้ ความรักใหญ่ที่สุด
ขอหนุนใจ suwijuk ให้เข้มแข็งและกล้าหาญนะครับ
ขอพระเป็นเจ้าอวยพระพร
ไม่ทราบว่าเคยเข้าโบสถ์หรือยัง ถ้ายังก็อาจจะลองเข้าโบสถ์ดู ไปกับคนที่คุณชอบน่าจะดีนะครับจะได้มีเพื่อน จากนั้นพอเข้าโบสถ์ได้ระยะหนึ่งแล้ว ความรู้สึกว่าศรัทธายังมีหรือมีมากขึ้นก็ลองติดต่อศิษยาภิบาลของคริสตจักรนั้น บอกท่านว่า "ผมอยากเป็นคริสเตียน ครับ" ท่านคงมีแนวทางที่ดีสำหรับ suwijuk ครับ จากนั้นถ้าท่านบอกว่าต้องเรียนอะไรอย่างไร ใครเป็นคนสอน ท่านก็คงจะแนะนำ suwijuk ต่อไปเอง
ขอเตือนก่อนว่าชีวิตคริสตชนไม่ง่ายนัก มีความทุกข์ลำบากและการทดลองมากมายรออยู่เบื้องหน้า แต่สิ่งที่ทำให้คริสตชนมีความสุขได้ท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก ก็คือ ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ในทั้งสามสิ่งนี้ ความรักใหญ่ที่สุด
ขอหนุนใจ suwijuk ให้เข้มแข็งและกล้าหาญนะครับ
ขอพระเป็นเจ้าอวยพระพร
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
จะภาวนาให้ละกันครับ
คริสเตียนกับคริสตังแท้จริงแล้วไม่ต่างกันครับ เพราะเราต่างเป็นลูกของพระเจ้า และศิษย์ของพระเยซูคริสตเจ้าเหมือนกันครับ
คริสเตียนกับคริสตังแท้จริงแล้วไม่ต่างกันครับ เพราะเราต่างเป็นลูกของพระเจ้า และศิษย์ของพระเยซูคริสตเจ้าเหมือนกันครับ
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
เอ่อ ในความเชื่อของศาสนาคริสต์ไม่มีนางฟ้า หรือ เทพธิดาครับ มีแต่เทวดาหรือทูตสวรรค์
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
(1)พุทธศาสนานิกายเถรวาท ไม่มีการให้ระลึกถึงด้วยวัตถุ แต่เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจอนุโลมให้มีได้ แต่ต้องอยู่ในทางสายกลาง เป็นการระลึกในคุณความดีเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันความหมายนี้ผิดเพี้ยนไปมากsuwijuk เขียน: คุณอย่าพูดแบบนั้นสิครับ
เค้าไม่ได้ชวนหรอกครับ
แต่ผมเพิ่งค้นพบว่า ผมศรัทธามานานแล้วตั้งหากล่ะ
งั้นผมเล่าให้ฟังละกัน =_+
พ่อผมเคร่งศาสนาพุทธมาก และก็ใส่เครื่องรางเต็มตัวไปหมด
จนบางทีผมถามตัวเองว่า ทำไมนะ ทำไมพระพุทธเจ้าเป็นผู้กำเหนิดพระพุทธศาสนา คนถึงไม่คล้องกัน ~?? ต้องคล้องเฉพาะพระดังๆ
(ขออภัยหากพูดเกินไป) แต่คริสต์ ผู้คนคล้องแต่ไม้กางเขน อย่างเดียว??? และนับถือพระเจ้าและพระเยซู ??
2.ผมอยากเข้าก็เลย มองหาคนเป็นคริสต์ เพื่อที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเขา
3.ผมศรัทธาด้วยใจ ไม่ไช่เพราะว่ามีสิ่งโน้มนาว ผมศรัทธามาตั้งแต่ก่อนจะเจอผู้หญิงคนนี้อีก
3.1 สาเหตุที่ผมศรัทธา เพราะผมรู้สึกว่า ครอบครัวคริสต์อบอุ่น สามารถปรึกษาในเรื่องที่สำคัญต่างๆได้
3.เพราะผมเห็นความสำคัญกับคำว่า "ให้อภัย"
4.อาจจะเป็นเพราะผมชอบเธอมานาน จึงเกิดศรัทธาขึ้นเป็นผลตามมา
แต่ขอรับประกันนะ ว่าเธอไม่เคยพูดโน้มน้าวผมเลย
เชื่อผมเถอะนะ ผมนับถือจริงๆ
ใครเล่นเอ็มเอสเอ็น แอ้ดเมล์ผมทีนะครับ ผมอยากคุยด้วย T~T
(2)คริสตชนเรา ห้อยไม้กางเขนเพื่อเป็นการระลึกถึงธรรมล้ำลึกของ"การสิ้นพระชนม์ การกลับคืนพระชนมชีพ และการจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง"ซึ่งเดี๋ยวนี้ ก็มีห้อยกันเกร่อ(คนพุทธ)โดยไม่ได้รู้ความหมายที่แท้จริง
(3)เพื่อความเข้าใจที่ดี ศาสนาพุทธก็มีคำสอนเรื่อง"ให้อภัย"และครอบครัวพุทธมากมายเหลือเกินที่อบอุ่น ผมไม่อยากให้ชาวพุทธนึกไปว่า ศาสนาตัวเองไม่ค่อยดี แต่ให้เป็น "ศาสนาพุทธไม่เหมาะกับจริตคุณ"ดีกว่านะครับ
(4)เรื่องการเป็นคริสตเตียนก็มีหลายแนวความเชื่อนะครับ?คำว่าคริสตเตียนของคุณนี้ เจาะจงหรือเปล่าว่าเป็น เอ่อ นิกายอะไร บางนิกายคำสอนจะหาจุดร่วมกับคาทอลิกยากเพราะตีความคนละแบบ
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
ไม่จำเป็นต้องห้อยกางเขนก็ได้นะ มันอยู่ที่ใจเราน่ะ บางคนห้อยเพราะมันเป็นแฟชั่นก็มีเยอะแยะ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ผมคนนึงล่ะ เป็นคริสต์คนเดียวในบ้าน แถว เป็นคริสต์โปร มา คาทอลิกอีกsuwijuk เขียน: ไม่รู้สิครับ
พ่อผมคงไม่ยอม -*-
ช่วยภาวนาให้หน่อยละกันนะครับ ขอให้ผมจีบสาวคนนั้นติด
แล้วผมจะได้บอกกับพ่อว่าผมจะได้ปรับตัวให้เข้ากับแฟน
ได้โปรด ช่วยผมด้วยนะครับ T~T
ก่อนหน้านั้น อาชาย เคยด่า ว่าชายสามโบสถ์ ตอนนั้นด้วยความวัยเอ๊าะและไม่เคารพคนอกตัญญูต่อตายาย เลยบอกว่า ก็ไม่อยากคุยกับคนนอกโบสถ์เหมือนกัน
อือ จะหนุนใจว่า ทุกอย่างอยู่ที่ใจเราอะ ภายนอกไม่สำคัญเท่าภายใน
ที่สำคัญคือ พระเจ้าไม่มองภายนอกจริงๆครับ พระเจ้ามองภายในเน้นเป็นหลักเป็นแก่นเลย
ดังนั้น จะรับพระพรใดๆ ก็ต้องเริ่มจากภายในใจส่วนลึกของตัวคุณครับ... นี่เป็นคำพยานที่ไม่ได้บอกเล่าประสบการณ์นะ :cheesy:
ส่วนเรื่อง นิกาย นับถือคริสต์ตามแฟน
เรื่องนี้ อืม... แฟนผมเป็นโปรเตสแตนอ่ะ ผมเป็นคาทอลิก แต่เราก็คุยกันได้อ่ะ
เพราะว่า โดยแก่น และความหมายต่างๆนั้น ไม่มีอะไรแตกต่างกันอ่ะครับ คือคัมภีร์เล่มเดียวกัน ต่างกันแค่จารีต และรูปแบบ ไรทำนองนั้น
ก็ขอพระเจ้าอวยพรนะ ให้สมหวังดังปรารถนา
สุดท้ายแล้วคู่พระพรนั่นแหละ ดีสุดล่ะ
ของผมเอง ล่ะ ก็เริ่มใจชาๆเหมือนกัน รักไปเจ็บไป เบื่อจริง พวกผู้หญิงบริหารเสน่ห์เนี่ย
เอ่อ อีกเรื่องนึง (แม๊ฯ เป็นคนชอบพิมพ์ เพราะปกติพูดน้อย เก็บกฏ อิอิอิ)
ก่อนผมรับพระคริสต์เข้ามาในชีวิตเนี่ย ก็เจ้าชู้อยู่ไม่น้อย ผู้หญิงที่คบตอนนั้นก็ไม่เป็นสุขเท่าไรนะ
แต่พอมาคนนี้ ผมไม่เจ้าชู้เลย รักเดียวใจเดียว มีมโนธรรม ไหงมันบอกให้ผมเจ้าชู้เนี่ย เหอๆ
ตายล่ะ สับสนทางลีลา
บ่นยาวไปล่ะอ่ะ ไปดีก่า อิอิ
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ผมก็ไม่ได้ห้อยไม้กางเขนนะครับ(ผมเป็นคริสเตียนเน้อ) ที่จริงเคยใส่สร้อยกางเขนอยู่พักนึง แต่บอกๆตรงๆมันรำคาญคอ(คนไม่ชอบใส่เครื่องประดับ เมื่อก่อนแม่เอาพระมาให้แขวนก็ถอดไว้เหมือนกัน) ตอนนี้เลยเลิกใส่ครับ เพราะผมพกเเต่พระคัมภีร์ตลอดเวลา(สิ่งสำคัญที่สุด)Rakkypoko! เขียน: ไม่จำเป็นต้องห้อยกางเขนก็ได้นะ มันอยู่ที่ใจเราน่ะ บางคนห้อยเพราะมันเป็นแฟชั่นก็มีเยอะแยะ
- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
เห็นด้วยครับ ผมห้อยแต่ไม่เคยเอาออกมาเลย จะใส่ไว้ในเสื้อตลอด เพราะผมถือคติว่าห้อยกางเขนกับเหรียญแม่พระเพื่อตระหนัก เวลาไหนทุกข์ใจก็จับกางเขนIn the name of father เขียน:ผมก็ไม่ได้ห้อยไม้กางเขนนะครับ(ผมเป็นคริสเตียนเน้อ) ที่จริงเคยใส่สร้อยกางเขนอยู่พักนึง แต่บอกๆตรงๆมันรำคาญคอ(คนไม่ชอบใส่เครื่องประดับ เมื่อก่อนแม่เอาพระมาให้แขวนก็ถอดไว้เหมือนกัน) ตอนนี้เลยเลิกใส่ครับ เพราะผมพกเเต่พระคัมภีร์ตลอดเวลา(สิ่งสำคัญที่สุด)Rakkypoko! เขียน: ไม่จำเป็นต้องห้อยกางเขนก็ได้นะ มันอยู่ที่ใจเราน่ะ บางคนห้อยเพราะมันเป็นแฟชั่นก็มีเยอะแยะ
พกพระคัมภีร์จะดีมากครับ แนะนำ
พูดเรื่องนี้สิ เขาน่าจะชอบsuwijuk เขียน: แล้วทำไมเค้าไม่เชื่อเรื่องนางฟ้าเทพธิดาล่ะครับ
เมื่อกี้ผมพูถึงแล้วเค้างอลเลย -*-
พี่ชอบที่คุณเขียนมากsuwijuk เขียน:Man of Macedonia เขียน:(suwijuk เขียน: คุณอย่าพูดแบบนั้นสิครับ
เค้าไม่ได้ชวนหรอกครับ
แต่ผมเพิ่งค้นพบว่า ผมศรัทธามานานแล้วตั้งหากล่ะ
งั้นผมเล่าให้ฟังละกัน =_+
2.ผมอยากเข้าก็เลย มองหาคนเป็นคริสต์ เพื่อที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเขา
3.ผมศรัทธาด้วยใจ ไม่ไช่เพราะว่ามีสิ่งโน้มนาว ผมศรัทธามาตั้งแต่ก่อนจะเจอผู้หญิงคนนี้อีก
3.1 สาเหตุที่ผมศรัทธา เพราะผมรู้สึกว่า ครอบครัวคริสต์อบอุ่น สามารถปรึกษาในเรื่องที่สำคัญต่างๆได้
3.เพราะผมเห็นความสำคัญกับคำว่า "ให้อภัย"
4.อาจจะเป็นเพราะผมชอบเธอมานาน จึงเกิดศรัทธาขึ้นเป็นผลตามมา
แต่ขอรับประกันนะ ว่าเธอไม่เคยพูดโน้มน้าวผมเลย
เชื่อผมเถอะนะ ผมนับถือจริงๆ
ออกมาจากใจทีเดียว
บอกเธออย่างนี้แหละ
พระรักคุณด้วยนะ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
เปลี่ยนใหม่ดิsuwijuk เขียน: ก็เพราะไปแซวว่าเป็นนางฟ้าอ่ะ เค้าเลยมองผมแปลกๆเลย -.-
ช่วยภาวนาให้หน่อยสิครับ
อาเมน
"เธอสวยน่ารักเหมือนฑูคสวรรค์เลย"
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
wow wow wow heheh ::001::
i'll pray for you na...
p.s. i think we do have an angle in christianity also, right??
i'll pray for you na...
p.s. i think we do have an angle in christianity also, right??
-
- โพสต์: 31
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:12 pm
- ที่อยู่: 48/89
ท่านจะเปลี่ยนหรือว่าให้ฝ่ายหญิงเปลี่ยนล่ะครับ ถ้าให้ฝ่ายหญิงเปลี่ยนผมไม่แนะนำนะ-*-
แต่ว่าท่านจะเปลี่ยนเองใช่มั้ย่ละครับ ก็ไม่มีไรมาก แค่เชื่อจากใจจริง ก็ถือว่าเปลี่ยนแล้ว
แต่ไม่ใช่สั่งแต่ว่า เอ้าเชื่อละๆ อะนี่เชื่อจริงๆละ อะนี่ท่องบทสวดได้ นี่ร้องเพลงได้ นี่ไปโบถส์ อ่านพระคำภีร์ ได้ อย่างงี้เรียก ไม่ได้รักฝ่ายหญิงจริง
แต่ว่าท่านจะเปลี่ยนเองใช่มั้ย่ละครับ ก็ไม่มีไรมาก แค่เชื่อจากใจจริง ก็ถือว่าเปลี่ยนแล้ว
แต่ไม่ใช่สั่งแต่ว่า เอ้าเชื่อละๆ อะนี่เชื่อจริงๆละ อะนี่ท่องบทสวดได้ นี่ร้องเพลงได้ นี่ไปโบถส์ อ่านพระคำภีร์ ได้ อย่างงี้เรียก ไม่ได้รักฝ่ายหญิงจริง
- BloodSweatAndTearz
- โพสต์: 254
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 12:49 pm
- ติดต่อ:
เอาแบบจริงจังนะครับ โปร ไม่ค่อย นับเรื่องนางฟ้า หรือเทวทูต เลยครับ ไม่ให้มีรูปเคารพ ไม้กางเขนต้องเป็นไม้กางเขนเปล่าๆ ไม่มีพระอยู่บนนั้น โปร ยึดถือแต่ พระเยซูอย่างเดียว อ้อนวอนโดยตรงถึงท่าน อาจจะเป็นสายเหตุกลายๆครับ ยิ่งเป็น hope ด้วยละช้ายยยเลย ผิดถูกประการใดขอออกตัวไปว้ก่อนครับ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
BloodSweatAndTearz เขียน: เอาแบบจริงจังนะครับ โปร ไม่ค่อย นับเรื่องนางฟ้า หรือเทวทูต เลยครับ ไม่ให้มีรูปเคารพ ไม้กางเขนต้องเป็นไม้กางเขนเปล่าๆ ไม่มีพระอยู่บนนั้น โปร ยึดถือแต่ พระเยซูอย่างเดียว อ้อนวอนโดยตรงถึงท่าน อาจจะเป็นสายเหตุกลายๆครับ ยิ่งเป็น hope ด้วยละช้ายยยเลย ผิดถูกประการใดขอออกตัวไปว้ก่อนครับ
คุณพูดแบบนี้แล้ว ผมก็นึกถึงประโยคนี้เลยอ่ะ
"ความจริงกับสิ่งที่เชื่อมันคนละเรื่อง และ ความจริงที่รู้กับความจริงที่ควรรู้และทำแตกต่างกัน"
แถมยังนึกถึงพระคัมภีร์ที่ว่า "อย่าสร้างรูปปั้นตามอย่างศักดิเทพในฟ้าสวรรค์" อีกหลายเรื่องเลย
เหอๆๆๆ ตายล่ะ ต้องไปเคลียร์หัวใจตัวเองอีกแล้ว...
---------------
ปล.คุณเจ้าของกระทู้ ในเมื่อสาวคุณเป็นโปร คุณก็เป็นโปรจิคับ แล้วถ้าคุณเป็นนักดนตรีด้วยยิ่งดีใหญ่
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
suwijuk เขียน:ง่ะ แล้วจะขอโทษยังไงดีล่ะเนี่ยEnjinman เขียน:BloodSweatAndTearz เขียน: เอาแบบจริงจังนะครับ โปร ไม่ค่อย นับเรื่องนางฟ้า หรือเทวทูต เลยครับ ไม่ให้มีรูปเคารพ ไม้กางเขนต้องเป็นไม้กางเขนเปล่าๆ ไม่มีพระอยู่บนนั้น โปร ยึดถือแต่ พระเยซูอย่างเดียว อ้อนวอนโดยตรงถึงท่าน อาจจะเป็นสายเหตุกลายๆครับ ยิ่งเป็น hope ด้วยละช้ายยยเลย ผิดถูกประการใดขอออกตัวไปว้ก่อนครับ
คุณพูดแบบนี้แล้ว ผมก็นึกถึงประโยคนี้เลยอ่ะ
"ความจริงกับสิ่งที่เชื่อมันคนละเรื่อง และ ความจริงที่รู้กับความจริงที่ควรรู้และทำแตกต่างกัน"
แถมยังนึกถึงพระคัมภีร์ที่ว่า "อย่าสร้างรูปปั้นตามอย่างศักดิเทพในฟ้าสวรรค์" อีกหลายเรื่องเลย
เหอๆๆๆ ตายล่ะ ต้องไปเคลียร์หัวใจตัวเองอีกแล้ว...
---------------
ปล.คุณเจ้าของกระทู้ ในเมื่อสาวคุณเป็นโปร คุณก็เป็นโปรจิคับ แล้วถ้าคุณเป็นนักดนตรีด้วยยิ่งดีใหญ่
ผมจะอธิบายยังไงดี ช่วยคิดหน่อยสิคับบบบ
ตั้งแต่ผมพูดแบบนั้น เค้าก็มองผมแปลกๆตลอดมา
ฮืม -*-
งง จังครับ
ทำไม เอาเรื่องศาสนา มาเกี่ยวกับเรื่องแฟน..แบบนี้อ่ะ
ผมคิดว่า เราไม่ควรจะคุยเรื่องศาสนาเวลาจีบ..ใครเลย...นะ ...ถ้าไม่เซลฟ์พออะ..โดยเฉพาะ..กับคนเคร่งศาสนา..ที่มีแนวคิดไม่ตรงกัน...
ผมว่า คุณเป็นคริสเตียนที่สำแดงชีวิตก็พอแล้วครับ...ผมหมายถึงเป็นคนดี...ไม่ต้องดูเคร่งหรือบ้าศาสนา..ไม่ต้องดูโฮลี่จน..เกินเหตุ..คือเป็นคนธรรมดาๆอะครับ...
แต่ภายในใจเราก็อีกเรื่องนึง...
ผมว่า คุณทำหน้าที่สุภาพบุรุษให้ดี จะเหมาะกว่าครับ...
สาวๆของผม..ติดหนึบก็เพราะ..ความอบอุ่นที่ผมมีเนี่ยล่ะ...(แต่มีคนเคยว่า ว่าผมเย็นชาด้วยนะ. - -)
ลีลาหนุ่ม สำคัญกว่าฮะ.... อย่าหลุดประเด็นแล้วกัน
ส่ว่นเรื่องศาสนา ผมกับแฟนก็เห็นไม่ตรงกัน แต่ก็ศาสนาเดียวกัน... อย่าซีเรียดมากฮะ เรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องส่วนตัว
ที่ไม่ควรจะก้าวก่ายกัน ....
เรื่องที่สำคัญคือ เรารักในสิ่งที่เขาเป็น และ เขารัก ในสิ่งที่เราเป็นครับ
อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร แต่จงพยายามปรับปรุงตัวเพื่อรักของคุณทั้งสองคนจะยั่งยืนมั่นคงยาวนานได้อย่างไร..
ฟังดูเป็นเหมือนพูดง่ายทำยาก แต่ลองนำไปพิจารณาก็จะรู้ว่าควรทำไงครับ
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เริ่มจากการเรียนรู้กันและกันครับ...
อย่าพยายามปรึกษาใคร แต่จงทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ และเป็นชายพอ คือกล้าพูดกล้าทำกล้าแสดงออก...เนี่ยล่ะ
บทสรุปคือ เป็นตัวคุณครับ
- BloodSweatAndTearz
- โพสต์: 254
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 12:49 pm
- ติดต่อ:
ในบ้างที่เราคิดว่า เป็นเรื่องคน 2 คน แต่คิดดูดีๆนะครับ ตัวแปรของชีวิตมีมากมาย จริงไม๊เอย ดังนั้นเราไปตัดสินไม่ได้หรอกว่า คนโน้นอย่าทำงี้ คนนั้นต้องั้น เราทำได้แค่ให้คำแนะนำเขาจ้า ส่วนตัวผคิดว่า คุณเป็นอย่างที่คุณเป็นเพราะ พระสร้างเรามาอย่างนั้น แฟนคุณเป็นโปร คุณ เป็น คาทอริก มันก้อนะ ผมว่า ไม่แน่ ไม่คุณก็แฟนคุณเป็นไปได้ที่จะเหลี่ยนตามอีกฝ่ายครับ จะทางไหนก็ดีทั้งนั้น แหละ ขอให้เป็นทางที่ หา พระ ก็ พอครับ พระอวยพระพรท่านพี่ๆ P.S.ว่าแต่ ไปเข้าวัเข้าโบสถ์มาบ้างรึยังครับ หากอยากจะไปที่โปร ก็ลองไปกะแฟนนะ ส่วนวัดนนี้ เชิญว่าพี่ๆที่บอร์ดนี้ช่วยได้ ใจดีกันทุกคนครับ อยู่แถวไหนลองบอกมานะครับจะช่วยหาคน ไปเป็นเพื่อนให้ จ้า :afro:
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
อืม ถ้า suwijuk อยากขอโทษใคร ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรมากมายหรอกครับ อาศัยเพียงความกล้าหาญและความจริงใจเท่านั้น
เดินเข้าไปหาเขาแล้วพูดกับเขาอย่างสุภาพและถ่อมใจ "หากเราทำอะไรผิดพลาดไป ทำให้เธอไม่พอใจ ยกโทษให้เราด้วยนะ" แค่นี้ก็ได้แล้วครับ
เรื่องแฟนไม่อยากให้ว้าวุ่นใจกับเรื่องนี้มากนัก เพราะถ้าเป็นที่พอพระทัยพระเป็นเจ้า พระองค์จะทรงจัดเตรียมทุกสิ่งไว้ให้พร้อมสำหรับเราเอง เริ่มต้นความสัมพันธ์ควรเป็นแบบเพื่อน ค่อยเป็นค่อยไป อย่าใจร้อน ศึกษาลักษณะนิสัยใจคอของกันและกันในฐานะเพื่อนไปก่อน แล้วในอนาคตมันจะพัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นหรือไม่ก็คงสุดแล้วแต่น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
ตอนนี้อยากให้ suwijuk เอาใจใส่เรื่องเรียนมากกว่าครับ เรียนให้ดี ใช้ชีวิตอย่างคนมีปัญญา รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของความชั่วร้าย เพื่อตัว suwijuk เองนะครับ
ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าเป็นแฟนกับเขาคนนี้แล้ว จะนำไปอ้างกับคุณพ่อเพื่อที่จะเปลี่ยนศาสนานั้น เป็นเหตุผลเด็ก ๆ มากเลยครับ คือ ไม่มีน้ำหนัก เหมือนกับว่าเราจำต้องเปลี่ยนทั้ง ๆ ที่เราไม่อยากเปลี่ยน ทั้งนี้ก็เพื่อแฟนของเรา
เหตุผลที่จะบอกคุณพ่อนั้นควรเป็นเหตุผลจากชีวิต และความเชื่อของ suwijuk เอง ดังนั้นจึงอยากให้ suwijuk ศึกษากับศาสนานี้ไปก่อน มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมากมายครับ แล้วก็ใช้เวลาช่วงศึกษานี้ค่อย ๆ บอกคุณพ่ออย่างนุ่นนวล สุภาพและถ่อมใจครับ เอาเถอะครับ สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้ครับ
จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
เดินเข้าไปหาเขาแล้วพูดกับเขาอย่างสุภาพและถ่อมใจ "หากเราทำอะไรผิดพลาดไป ทำให้เธอไม่พอใจ ยกโทษให้เราด้วยนะ" แค่นี้ก็ได้แล้วครับ
เรื่องแฟนไม่อยากให้ว้าวุ่นใจกับเรื่องนี้มากนัก เพราะถ้าเป็นที่พอพระทัยพระเป็นเจ้า พระองค์จะทรงจัดเตรียมทุกสิ่งไว้ให้พร้อมสำหรับเราเอง เริ่มต้นความสัมพันธ์ควรเป็นแบบเพื่อน ค่อยเป็นค่อยไป อย่าใจร้อน ศึกษาลักษณะนิสัยใจคอของกันและกันในฐานะเพื่อนไปก่อน แล้วในอนาคตมันจะพัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นหรือไม่ก็คงสุดแล้วแต่น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
ตอนนี้อยากให้ suwijuk เอาใจใส่เรื่องเรียนมากกว่าครับ เรียนให้ดี ใช้ชีวิตอย่างคนมีปัญญา รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของความชั่วร้าย เพื่อตัว suwijuk เองนะครับ
ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าเป็นแฟนกับเขาคนนี้แล้ว จะนำไปอ้างกับคุณพ่อเพื่อที่จะเปลี่ยนศาสนานั้น เป็นเหตุผลเด็ก ๆ มากเลยครับ คือ ไม่มีน้ำหนัก เหมือนกับว่าเราจำต้องเปลี่ยนทั้ง ๆ ที่เราไม่อยากเปลี่ยน ทั้งนี้ก็เพื่อแฟนของเรา
เหตุผลที่จะบอกคุณพ่อนั้นควรเป็นเหตุผลจากชีวิต และความเชื่อของ suwijuk เอง ดังนั้นจึงอยากให้ suwijuk ศึกษากับศาสนานี้ไปก่อน มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมากมายครับ แล้วก็ใช้เวลาช่วงศึกษานี้ค่อย ๆ บอกคุณพ่ออย่างนุ่นนวล สุภาพและถ่อมใจครับ เอาเถอะครับ สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้ครับ
จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
อยากแนะนำนิดนึงจ้ะ
คือว่านะ... การบอกใครๆ ว่าเปลี่ยนศาสนาตามแฟน เป็นเรื่องง่าย โดนโวยวายน้อยกว่า เรียกว่ารอดตัวไปได้ง่ายๆ
แต่ผลเสียที่จะตามมาก็คือ ถ้าพ่อแม่ ญาติๆ ไม่เห็นด้วย เค้าก็จะไปลงกับแฟนคุณทันที ดีไม่ดีพาลเกลียดแฟนคุณไปเลยนะคะ
นอกจากนี้ การที่คุณเปลี่ยนศาสนาแล้วใครถามคุณว่า ทำไมถึงเปลี่ยน แล้วตอบว่า "เปลี่ยนตามแฟน"
จะเป็นการตัดบท และปิดโอกาสที่จะได้เล่าเรื่องของพระเจ้าให้คนอื่นรู้
ถ้าคุณบอกว่า "เปลี่ยนเพราะเชื่อศรัทธาและคิดว่าเหมาะกับตัวเรา" จะมีคำถามและข้อขัดแย้งตามมาอีกมากมาย
แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณเปลี่ยนด้วยใจศรัทธา และมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีในลักษณะนิสัย และอื่นๆ คนรอบข้างจะเข้าใจสักวันหนึ่ง
ลูกผูู้้ชายต้องยืดอกรับผลที่จะตามมาจากการกระทำของตัวเอง เราเปลี่ยนเพราะเราเชื่อ ไม่ใช่เพราะแฟนบังคับ
ถ้าเราพูดว่าเราเปลี่ยนเพราะเราเชื่อ คำด่าต่างๆ จากญาติๆ ที่ต่อต้านจะลงมาที่เราเอง เราทำ เรารับ เชื่อเถอะว่าคนที่ถูกข่มเหงเพราะความชอบธรรมจะมีบำเน็จบริบูรณ์ในสวรรค์ค่ะ
แต่ถ้าเราพูดว่าเปลี่ยนตามแฟนปุ๊บ แรงกระแทกต่างๆ จะไปที่แฟนเราทันที อยากให้แฟนมารับแทนเหรอคะ ไม่อยากใช่มั๊ยล่ะ
ดังนั้นเข้ามาศึกษาเถอะ แล้วจนกว่าคุณจะตอบคนรอบข้างได้ว่าเปลี่ยนศาสนาทำไม ค่อยเปลี่ยนนะ
ไม่ต้องรีบ พระเจ้ารอคุณมาเป็นสิบปี ทรงรออีกปีสองปีได้ค่ะ
คือว่านะ... การบอกใครๆ ว่าเปลี่ยนศาสนาตามแฟน เป็นเรื่องง่าย โดนโวยวายน้อยกว่า เรียกว่ารอดตัวไปได้ง่ายๆ
แต่ผลเสียที่จะตามมาก็คือ ถ้าพ่อแม่ ญาติๆ ไม่เห็นด้วย เค้าก็จะไปลงกับแฟนคุณทันที ดีไม่ดีพาลเกลียดแฟนคุณไปเลยนะคะ
นอกจากนี้ การที่คุณเปลี่ยนศาสนาแล้วใครถามคุณว่า ทำไมถึงเปลี่ยน แล้วตอบว่า "เปลี่ยนตามแฟน"
จะเป็นการตัดบท และปิดโอกาสที่จะได้เล่าเรื่องของพระเจ้าให้คนอื่นรู้
ถ้าคุณบอกว่า "เปลี่ยนเพราะเชื่อศรัทธาและคิดว่าเหมาะกับตัวเรา" จะมีคำถามและข้อขัดแย้งตามมาอีกมากมาย
แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณเปลี่ยนด้วยใจศรัทธา และมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีในลักษณะนิสัย และอื่นๆ คนรอบข้างจะเข้าใจสักวันหนึ่ง
ลูกผูู้้ชายต้องยืดอกรับผลที่จะตามมาจากการกระทำของตัวเอง เราเปลี่ยนเพราะเราเชื่อ ไม่ใช่เพราะแฟนบังคับ
ถ้าเราพูดว่าเราเปลี่ยนเพราะเราเชื่อ คำด่าต่างๆ จากญาติๆ ที่ต่อต้านจะลงมาที่เราเอง เราทำ เรารับ เชื่อเถอะว่าคนที่ถูกข่มเหงเพราะความชอบธรรมจะมีบำเน็จบริบูรณ์ในสวรรค์ค่ะ
แต่ถ้าเราพูดว่าเปลี่ยนตามแฟนปุ๊บ แรงกระแทกต่างๆ จะไปที่แฟนเราทันที อยากให้แฟนมารับแทนเหรอคะ ไม่อยากใช่มั๊ยล่ะ
ดังนั้นเข้ามาศึกษาเถอะ แล้วจนกว่าคุณจะตอบคนรอบข้างได้ว่าเปลี่ยนศาสนาทำไม ค่อยเปลี่ยนนะ
ไม่ต้องรีบ พระเจ้ารอคุณมาเป็นสิบปี ทรงรออีกปีสองปีได้ค่ะ
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
จะยังไง ก็จะยังคงภาวนาให้ suwijuk ต่อไปนะครับ ขอพระเป็นเจ้าอวยพร
เรื่องคณะที่จะเรียนไม่ทราบว่าตัดสินใจได้ละยัง ถ้าอยากถามเกี่ยวกับวิชาชีพเภสัชกรรมก็ถามได้นะครับ ยินดีให้คำปรึกษา
e-mail : pantharaks@hotmail.com
เรื่องคณะที่จะเรียนไม่ทราบว่าตัดสินใจได้ละยัง ถ้าอยากถามเกี่ยวกับวิชาชีพเภสัชกรรมก็ถามได้นะครับ ยินดีให้คำปรึกษา
e-mail : pantharaks@hotmail.com
ค่อยๆ ศึกษาไปนะคะ จะเป็นกำลังใจให้
ถึงสาวจะไม่รัก แต่พระเจ้ารักคุณขนาดยอมลงมาตายแทนคุณนะคะ
พระเจ้าบอกว่า
ผู้หญิงจะลืมบุตรที่ยังกินนมของนาง และจะไม่เมตตาบุตรชายจากครรภ์ของนางได้หรือ แม้ว่าคนเหล่านี้ยังลืมได้ กระนั้นเราก็จะไม่ลืมเจ้า
อสย. 49:15
ถึงสาวจะไม่รัก แต่พระเจ้ารักคุณขนาดยอมลงมาตายแทนคุณนะคะ
พระเจ้าบอกว่า
ผู้หญิงจะลืมบุตรที่ยังกินนมของนาง และจะไม่เมตตาบุตรชายจากครรภ์ของนางได้หรือ แม้ว่าคนเหล่านี้ยังลืมได้ กระนั้นเราก็จะไม่ลืมเจ้า
อสย. 49:15
-
- Arch Guardian
- โพสต์: 297
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 09, 2006 8:19 pm
- ที่อยู่: ดินแดนอันไกลโพ้น
เห็นด้วยกะ คุณ Enjinman นะครับ
แต่ ลองใช้วิธี ของผมดูมั้ย
- เมื่อคุณอยากเป็นคริสต์ อยู่แล้ว และ ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคริสต์อยู่ด้วย
1. ไปหาเธอและ พูดคุย (ก่อนอื่นควรขอโทษก่อนนะครับ)
2 บอกเธอถึงสิ่งที่ปราถนา เช่น "เอ่อ...คือ ผมสนใจจะเปลี่ยนศาสนา น่ะแต่ไม่รู้จักใครที่โบสถ์เลย พอดีรู้มาว่าตัวเอง เป็นคริสต์อยู่ อาทิตย์ไหนว่างๆ
พาเค้าไปหน่อยได้มั้ยเอ่ย"
3 หลังจากนั้น ถ้า เธอถามถึง สาเหตุ ให้บอกสาเหตุจริงที่ได้เขียนไว้ในนี้ไปเลยครับ
4 อ่านพระคำภีร์ เยอะๆ ครับแต่ย้ำไว้อย่างไม่ใช่แค่ท่องจำ อ่านให้เข้าใจ ไม่เข้าใจ ให้พยายามทำความเข้าใจ แล้วไปหา เธอ เช่น "นี่ เค้าอ่านข้อนี้แบบนี้
เข้าใจว่า .............ถูกมั้ยอ่ะ หรือ ว่าจริงๆ มันเป็นยังไงอ่ะ"(รับรองคุณณจะเป็นคนที่เรียนคำสอนที่มีความสุขที่สุดเลยล่ะ ^^)
5 ในขณะที่คุณ ได้เรียนคำสอนจริงๆ กับครูคำสอน ที่โบสถ์ อย่าลืมตั้งใจเรียนนะครับ (ถ้าคุณเป็นคน จริงจัง จริงๆ ผมเชื่อว่าคุณทำได้ ผู้หญิงชอบคนจริงจังนะครับ)
แต่ ลองใช้วิธี ของผมดูมั้ย
- เมื่อคุณอยากเป็นคริสต์ อยู่แล้ว และ ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคริสต์อยู่ด้วย
1. ไปหาเธอและ พูดคุย (ก่อนอื่นควรขอโทษก่อนนะครับ)
2 บอกเธอถึงสิ่งที่ปราถนา เช่น "เอ่อ...คือ ผมสนใจจะเปลี่ยนศาสนา น่ะแต่ไม่รู้จักใครที่โบสถ์เลย พอดีรู้มาว่าตัวเอง เป็นคริสต์อยู่ อาทิตย์ไหนว่างๆ
พาเค้าไปหน่อยได้มั้ยเอ่ย"
3 หลังจากนั้น ถ้า เธอถามถึง สาเหตุ ให้บอกสาเหตุจริงที่ได้เขียนไว้ในนี้ไปเลยครับ
4 อ่านพระคำภีร์ เยอะๆ ครับแต่ย้ำไว้อย่างไม่ใช่แค่ท่องจำ อ่านให้เข้าใจ ไม่เข้าใจ ให้พยายามทำความเข้าใจ แล้วไปหา เธอ เช่น "นี่ เค้าอ่านข้อนี้แบบนี้
เข้าใจว่า .............ถูกมั้ยอ่ะ หรือ ว่าจริงๆ มันเป็นยังไงอ่ะ"(รับรองคุณณจะเป็นคนที่เรียนคำสอนที่มีความสุขที่สุดเลยล่ะ ^^)
5 ในขณะที่คุณ ได้เรียนคำสอนจริงๆ กับครูคำสอน ที่โบสถ์ อย่าลืมตั้งใจเรียนนะครับ (ถ้าคุณเป็นคน จริงจัง จริงๆ ผมเชื่อว่าคุณทำได้ ผู้หญิงชอบคนจริงจังนะครับ)