พาเจ้านายพ่อไปทำบุญ
-
- โพสต์: 31
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:12 pm
- ที่อยู่: 48/89
ผมหายไปเป็นอาทิตย์เลย ช่วงนี้รู้สึกเริ่มไม่ชอบคนศาสนาอื่นเอามากๆเลยครับ รู้สึกว่าอยากจะไปฟันและทำให้หมดไปจากโลก
นี่หายไปนานเลยครับ เพราะผมต้องพาเจ้านายพ่อเป็น10ๆคนเลย ไปอุดร เอาพระองค์ใหญ่ไปให้วัด ผมไม่รู้ว่าจะทำพระไปทำไมให้เสียเงินเป็นแสน
ความจริงผมก็ไม่อยากไป แต่ต้องไปเพราะเจ้านายพ่ออยากเจอ และเพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของพ่อผมจึงจำต้องไป
แค่นั้นยังไม่พอ ขับรถไปกลับรวมแล้ว ขาไป12ชั่วโมง ขากลับอีก12ชั่วโมง แค่เวลาเดินทางก็กินระยะไป วันนึงเต็มแล้ว แล้วจากนั้นพอเข้าวัดไป ผมก็ต้อง
ไปนั่งฟังพระสวด จากนั้นพ่อผมก็ไปกราบไหว้พระ ไม่พอพ่อผมเป็นพุทธ และยังพาผมไปจับสายสิน(เขียนไม่ถูกขออภัย) ผมบอกว่าไม่เอาๆ แต่ผมก็ไม่กล้าพูดดัง เจ้านายพ่อผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมเป็นคริสต์ ผมก็ไม่กล้าบอก ผมก็เลยต้องไปนั่งจับสายสิน พ่อบอกว่าไม่เป็นไรแค่ไปเอาส่วนกุศล
กุศงกุศลไร ** ********** ***** จากนั้นผมก็ไม่แสดงกิริยาออกไป ผมก็เฉยๆ กลับมาผมก็ยิ่งไม่ชอบศาสนานี้เข้าไปใหญ่ และยังมีการ
ที่ไปต่อยอดเพิ่มตังให้พระอีก พ่อผมเท่าที่จำได้พ่อผมเสียตังไป3500 เจ้านายพ่อผมรวมกันแล้วเสียไปหลายแสนเลย ขากลับยังดีมีรถตู้คันใหญ่ป้ายแดง(ตอนขามาด้วย)ให้นั่ง สบายก้นทั้ง12ช.ม. ตอนที่ขี่มาระหว่างขากลับ ดันเลยไปอีกทางไปแวะหนองคายชมลาวอีก เซ็งเลย ยิ่งเพิ่มระยะเวลาในการเดินทาง และเสียเวลาในการเล่นเกมส์ และมาอ่านพระคัมภีร์ของผมตั้งเยอะแยะ
ระหว่างตอนที่พัก อยู่ที่รีสอร์ตริมแม่น้ำโขง เจ้านายพ่อคนนึงซึ่งก็เป็นคนใหญ่คนโตถึงขนาดเรียกเจ้าของรีสอร์ตมาคุยกันได้ด้วย คุยกันไปคุยกันมา พูดกันถึงประเด็นพญานาค แล้วก็ว่ากันอย่างงู้นอย่างงี้ ผมเซ็งมากจนอยากจะตะโกนออกไปว่า "มันไม่มีจริงหรอก **ไปกันใหญ่แล้วพวก**" แต่พวกคุณตาคุณยายเขาก็ยังดีกับผม ชวนผมกินตลอดทาง ไม่พอยังถามจะเอาอันนี้รึเปล่า อันนู้นรึเปล่า แถมผมได้ตังอีก200 ด้วย ก็ยังดีครับ อย่างน้อยชาวพุทธก็ไม่แย่ไปทุกคน
ปล.หวังว่าคงไม่ผิดกฏข้อใดในบอร์ดนะครับ -*-
นี่หายไปนานเลยครับ เพราะผมต้องพาเจ้านายพ่อเป็น10ๆคนเลย ไปอุดร เอาพระองค์ใหญ่ไปให้วัด ผมไม่รู้ว่าจะทำพระไปทำไมให้เสียเงินเป็นแสน
ความจริงผมก็ไม่อยากไป แต่ต้องไปเพราะเจ้านายพ่ออยากเจอ และเพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของพ่อผมจึงจำต้องไป
แค่นั้นยังไม่พอ ขับรถไปกลับรวมแล้ว ขาไป12ชั่วโมง ขากลับอีก12ชั่วโมง แค่เวลาเดินทางก็กินระยะไป วันนึงเต็มแล้ว แล้วจากนั้นพอเข้าวัดไป ผมก็ต้อง
ไปนั่งฟังพระสวด จากนั้นพ่อผมก็ไปกราบไหว้พระ ไม่พอพ่อผมเป็นพุทธ และยังพาผมไปจับสายสิน(เขียนไม่ถูกขออภัย) ผมบอกว่าไม่เอาๆ แต่ผมก็ไม่กล้าพูดดัง เจ้านายพ่อผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมเป็นคริสต์ ผมก็ไม่กล้าบอก ผมก็เลยต้องไปนั่งจับสายสิน พ่อบอกว่าไม่เป็นไรแค่ไปเอาส่วนกุศล
กุศงกุศลไร ** ********** ***** จากนั้นผมก็ไม่แสดงกิริยาออกไป ผมก็เฉยๆ กลับมาผมก็ยิ่งไม่ชอบศาสนานี้เข้าไปใหญ่ และยังมีการ
ที่ไปต่อยอดเพิ่มตังให้พระอีก พ่อผมเท่าที่จำได้พ่อผมเสียตังไป3500 เจ้านายพ่อผมรวมกันแล้วเสียไปหลายแสนเลย ขากลับยังดีมีรถตู้คันใหญ่ป้ายแดง(ตอนขามาด้วย)ให้นั่ง สบายก้นทั้ง12ช.ม. ตอนที่ขี่มาระหว่างขากลับ ดันเลยไปอีกทางไปแวะหนองคายชมลาวอีก เซ็งเลย ยิ่งเพิ่มระยะเวลาในการเดินทาง และเสียเวลาในการเล่นเกมส์ และมาอ่านพระคัมภีร์ของผมตั้งเยอะแยะ
ระหว่างตอนที่พัก อยู่ที่รีสอร์ตริมแม่น้ำโขง เจ้านายพ่อคนนึงซึ่งก็เป็นคนใหญ่คนโตถึงขนาดเรียกเจ้าของรีสอร์ตมาคุยกันได้ด้วย คุยกันไปคุยกันมา พูดกันถึงประเด็นพญานาค แล้วก็ว่ากันอย่างงู้นอย่างงี้ ผมเซ็งมากจนอยากจะตะโกนออกไปว่า "มันไม่มีจริงหรอก **ไปกันใหญ่แล้วพวก**" แต่พวกคุณตาคุณยายเขาก็ยังดีกับผม ชวนผมกินตลอดทาง ไม่พอยังถามจะเอาอันนี้รึเปล่า อันนู้นรึเปล่า แถมผมได้ตังอีก200 ด้วย ก็ยังดีครับ อย่างน้อยชาวพุทธก็ไม่แย่ไปทุกคน
ปล.หวังว่าคงไม่ผิดกฏข้อใดในบอร์ดนะครับ -*-
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เอานะครับ ไม่ชอบก็ถือว่าพลีกรรมนะครับ
ผมพอจะเข้าใจคุณนะครับ แต่อย่าไปถึงขั้นอคติเกี่ยวกับคนศาสนาอื่นๆเลย(เพราะหากเขาปฎิบัติตามทางของเขา สิ่งที่เขาเีบียดเบียนเราด้วยวาจา และการกระทำ รวมทั้งการดูหมิ่นเรา
เขาก็ต้องรับผลกรรมที่เขากระทำต่อเราไปเอง ตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่เขานับถือ) กลับมาเรื่องของคุณ เป็นลักษณะเขาเรียกภาษาชาวบ้าน " น้ำท่วมปาก" หรือ " ตกกระไดพลอยโจน" จริงๆแล้ว ในสถานะการณ์แบบนั้น คุณเป็นรองทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ แถมคุณพ่อคุณก็เบี้ยล่างเขา(ลูกน้องเขา) และคุณเองก็เป็นลูกของคุณพ่อ การแสดงออกซึ่งนำไปสู่การเป็นปฎิปักษ์ในสายตาผู้ใหญ่นั้น(โดยเฉพาะอย่าง คนเป็นเจ้านายของพ่อคุณด้วย อาจส่งผลต่อหน้าที่การงาน และคุณพ่อคุณอาจเสียหน้าได้) คุณก็คงต้องตามน้ำไปก่อน อีกอย่าง คุณพ่อของคุณไม่ทราบด้วยคุณเป็นคริสตชน(แล้ว) ดังนั้นการกระทำกิจกรรมทางศาสนาอื่น เขาอาจให้คุณทำ โดยดูแล้วไม่มีอะไรน่าเสียหาย เอาเป็นว่า คุณอย่าพึ่งไปโมโหโทโสอะไรเลย เห็นแก่พ่อคุณดีกว่า จุดหลักที่ผมเป็นห่วง(มากที่สุด)คือเรื่องหน้าที่การงานของคุณพ่อคุณมากกว่า คุณพ่อคุณคงจำใจต้องทำแบบนั้น ด้วยเหตุผลบางประการ ผมว่านะ ทางที่ดี คุณตั้งสติดีๆนะครับ(หายใจลึกๆ) บอกกับทีี่่บ้านไปเลย ว่าคุณเป็นอะไรแล้วตอนนี้ แม้ว่าอาจจะมีปัญหาบาง แต่ก็ยังดีกว่าคาราคาซังแบบนี้ แล้วคุณก็จะต้องเจอแบบนี้ต่อไป หากคุณยังปกปิดสถานะที่แท้จริงของคุณ
ในสังคมคนไทย เรื่องศาสนา หากคนไม่ใช่ญาติ หรือพวกดูหมิ่นความเชื่อของเรา สังคม(ของคนมีจิตใจสูง) จะไม่มาล่วงละเมิดกับเรามาก(จนเิกินไป)นะครับ ยังมีกรอบของมารยาทและความเกรงใจอยู่ สิ่งที่คุณเจอ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเจอ วันหน้าเล่าให้ฟัง อย่าไปโกรธคนศาสนาอื่นๆเลย เขาทำอะไรกับเรา ยิ่งเรื่องของจิตใจด้วยแล้วนั้น สิ่งที่เขากระทำ มันจะย้อนกลับหาตัวเขาเอง หากเขานับถือและศรัทธาสิ่งที่เขาเชื่อจริงๆ พวกเขาจะไม่มาดูหมิ่น ดูแคลน และพูดนู้น พูดนี้ ว่าของเขาดีกว่าหรอก ขอให้มองคนศาสนาอื่นๆที่เขามีพระคุณแก่น้อง ไม่ว่าคุณครูที่โรงเรียน คนในครอบครัว และคนที่เขาเคยช่วยเหลือคุณในสังคม แล้วคุณจะพบว่า ไอ้พวกชั่วที่มันเหยียบย้ำและดูหมิ่นทางของเรานั้น มีน้อยกว่าคนที่เคยดีกับเรา
ขอบคุณครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
เขาก็ต้องรับผลกรรมที่เขากระทำต่อเราไปเอง ตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่เขานับถือ) กลับมาเรื่องของคุณ เป็นลักษณะเขาเรียกภาษาชาวบ้าน " น้ำท่วมปาก" หรือ " ตกกระไดพลอยโจน" จริงๆแล้ว ในสถานะการณ์แบบนั้น คุณเป็นรองทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ แถมคุณพ่อคุณก็เบี้ยล่างเขา(ลูกน้องเขา) และคุณเองก็เป็นลูกของคุณพ่อ การแสดงออกซึ่งนำไปสู่การเป็นปฎิปักษ์ในสายตาผู้ใหญ่นั้น(โดยเฉพาะอย่าง คนเป็นเจ้านายของพ่อคุณด้วย อาจส่งผลต่อหน้าที่การงาน และคุณพ่อคุณอาจเสียหน้าได้) คุณก็คงต้องตามน้ำไปก่อน อีกอย่าง คุณพ่อของคุณไม่ทราบด้วยคุณเป็นคริสตชน(แล้ว) ดังนั้นการกระทำกิจกรรมทางศาสนาอื่น เขาอาจให้คุณทำ โดยดูแล้วไม่มีอะไรน่าเสียหาย เอาเป็นว่า คุณอย่าพึ่งไปโมโหโทโสอะไรเลย เห็นแก่พ่อคุณดีกว่า จุดหลักที่ผมเป็นห่วง(มากที่สุด)คือเรื่องหน้าที่การงานของคุณพ่อคุณมากกว่า คุณพ่อคุณคงจำใจต้องทำแบบนั้น ด้วยเหตุผลบางประการ ผมว่านะ ทางที่ดี คุณตั้งสติดีๆนะครับ(หายใจลึกๆ) บอกกับทีี่่บ้านไปเลย ว่าคุณเป็นอะไรแล้วตอนนี้ แม้ว่าอาจจะมีปัญหาบาง แต่ก็ยังดีกว่าคาราคาซังแบบนี้ แล้วคุณก็จะต้องเจอแบบนี้ต่อไป หากคุณยังปกปิดสถานะที่แท้จริงของคุณ
ในสังคมคนไทย เรื่องศาสนา หากคนไม่ใช่ญาติ หรือพวกดูหมิ่นความเชื่อของเรา สังคม(ของคนมีจิตใจสูง) จะไม่มาล่วงละเมิดกับเรามาก(จนเิกินไป)นะครับ ยังมีกรอบของมารยาทและความเกรงใจอยู่ สิ่งที่คุณเจอ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเจอ วันหน้าเล่าให้ฟัง อย่าไปโกรธคนศาสนาอื่นๆเลย เขาทำอะไรกับเรา ยิ่งเรื่องของจิตใจด้วยแล้วนั้น สิ่งที่เขากระทำ มันจะย้อนกลับหาตัวเขาเอง หากเขานับถือและศรัทธาสิ่งที่เขาเชื่อจริงๆ พวกเขาจะไม่มาดูหมิ่น ดูแคลน และพูดนู้น พูดนี้ ว่าของเขาดีกว่าหรอก ขอให้มองคนศาสนาอื่นๆที่เขามีพระคุณแก่น้อง ไม่ว่าคุณครูที่โรงเรียน คนในครอบครัว และคนที่เขาเคยช่วยเหลือคุณในสังคม แล้วคุณจะพบว่า ไอ้พวกชั่วที่มันเหยียบย้ำและดูหมิ่นทางของเรานั้น มีน้อยกว่าคนที่เคยดีกับเรา
ขอบคุณครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ก็....นะ เราอยู่เมืองพุทธนี่ทำไงได้ ทนๆเอาหน่อยแล้วกันครับ แต่ผมคิดว่าคุณทำถูกแล้วล่ะที่ไม่กระโตกกระตาก ไม่งั้นพ่อคุณการงานวอดวายแน่(แบบนั้นยิ่งซวยหนัก เพราะดีไม่ดีเขาจะหันมาแอนตี้ความเชื่อเราซะอีก)
เรื่องพิธีกรรมของศาสนาอื่นไม่ต้องไปใส่ใจก็ได้ครับ บอกขอโทษพระ(เจ้า) ท่านคงเข้าใจว่าเราจำเป็นจริงๆ(แถมที่ทำไปก็ไม่ได้เชื่อนิ)
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
เรื่องพิธีกรรมของศาสนาอื่นไม่ต้องไปใส่ใจก็ได้ครับ บอกขอโทษพระ(เจ้า) ท่านคงเข้าใจว่าเราจำเป็นจริงๆ(แถมที่ทำไปก็ไม่ได้เชื่อนิ)
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
In the name of father เขียน: ก็....นะ เราอยู่เมืองพุทธนี่ทำไงได้ ทนๆเอาหน่อยแล้วกันครับ แต่ผมคิดว่าคุณทำถูกแล้วล่ะที่ไม่กระโตกกระตาก ไม่งั้นพ่อคุณการงานวอดวายแน่(แบบนั้นยิ่งซวยหนัก เพราะดีไม่ดีเขาจะหันมาแอนตี้ความเชื่อเราซะอีก)
เรื่องพิธีกรรมของศาสนาอื่นไม่ต้องไปใส่ใจก็ได้ครับ บอกขอโทษพระ(เจ้า) ท่านคงเข้าใจว่าเราจำเป็นจริงๆ(แถมที่ทำไปก็ไม่ได้เชื่อนิ)
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ใช่ครับ เราอยู่เมืองพุทธ ประเทศพุทธ และสังคมคนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นพุทธ(ส่วนที่ว่าเป็นชาวพุทธ หรือพุทธตามทะเบียนบ้านนั้น ก็ว่ากันไป) อีกอย่าง ประเทศไทยนั้น มีการรวมศาสนาและวัฒนธรรมเข้าไปด้วยกัน ทำให้หลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับการกระทำกิจกรรมที่คาบเีกี่ยวกับการขัดกับความเชื่อของเรา แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีวิธีปรับหรือมองจุดรวม สงวนจุดต่างได้ ยกตัวอย่างเช่น
การรดน้ำ ดำหัวผู้ใหญ่ อันเป็นที่มาของประเพณีสงกรานต์นั้น เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นการแสดงออกถึงความเคาพผู้่ใหญ่ และเป็นกิจกรรมที่ให้เด็กกับผู้ใหญ่ได้ใกล้ชิดกันด้วย รวมทังเป็นเทศกาลที่ใช้เป็นเวลาของการเจอญาติพี่น้อง ที่ไ่ม่ค่อยได้เจอกัน ซึี่่่งเป็นเรื่องของความสามัคคีและสร้างความใกล้ชิดระหว่างพี่น้องและหมู่เครือญาติ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี สำหรับคนในสังคม ที่นับวัีนก็จะิยิ่งห่างเหินและเย็นชาต่อกัน
แต่............เนื่องจากสังคมไทยนั้น มีลักษณะชอบดึงกิจกรรมและประเพณีไปผูกติดกับศาสนา จากการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ กลายเป็นการส่งน้ำพระพุทธรูป และเทศกาลต่างๆในการนัดเจอพี่น้องนั้น ดึงให้กลายเป็นเทศกาลผ้าป่า หรือทอดกฐิน เป็นต้น แต่หลักๆแล้ว เป็นเรื่องของชุมชม สังคม และวัฒนธรรมมากกว่าครับ โดยอาศัยศาสนาเป็นจุดเชื่อม และในเมื่อคนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ดังนั้นการใช้กิจกรรมทางศาสนา เป็นปัจจัยในการสร้างกิจกรรม และดึงความสามัคคี จึงง่ายและดูดีต่อทุกฝ่ายในสังคมครับ
ดังนั้น เราสามารถร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้ หากพิจารณาแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาอื่นๆโดยตรง ยกตัวอย่างตัวผมเอง ตอนทำรายงานสมัยเรียน(ทั้งภาคภาษาไทยและภาคภาษาอังกฤษ) ก็มักจะทำเกี่ยวกับวัดพระแก้ว และวัดชัียวัฒนาราม และคุ้มขุนแผนเป็นต้น เพราะเนื่องจากหาข้อมูลได้ง่าย และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัีบความเป็นไทย(และผู้ตรวจให้คะแนนรายงาน มีความเข้าใจ และความรู้ในเรื่องที่ผมทำด้วย) เราก็สามารถร่วมได้ และทำได้ ในแง่การศึกษา ประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรมครับ โดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องหรือผิดความเชื่อในศาสนา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ และสติปัญญา กว่าจะรู้ว่าอะไรควร และไม่ควร สำหรับเส้นทางของเรา
แม้จะเดินคนเส้น ไ่ม่จำเป็นต้องขัดแย้งกันเสมอไป หากต่างฝ่าย ให้เกียริต์ และยอมรับในสิ่งแต่และฝ่ายมีความแตกต่าง และมีกรอบของความเกรงใจ และถ้อยทีถ้อยอาศัยซึงกันและกัน ทุกคนก็จะอยู่กันได้อย่างสันติครับผม
ขอบคุณครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
-
- โพสต์: 31
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:12 pm
- ที่อยู่: 48/89
ขอบคุณครับHoly เขียน: คส 4:5
จงใช้ทุกโอกาสเพื่อปฏิบัติตนต่อคนต่างศาสนาด้วยความเฉลียวฉลาดรอบคอบ จงให้คำพูดของท่านอ่อนโยนและถูกกาลเทศะอยู่เสมอ จงรู้จักตอบทุกคนอย่างดีที่สุด
แล้วก็ขอบคุณทุกคนด้วยครับ ไม่รู้จะเอาไงดีเหมือนกัน
พ่อผมก็รู้อยู่ แต่พ่อผมจากที่ดูๆแล้ว จะไม่ชอบผมกับแม่ที่เป็นศาสนาคริสต์เอาซะมากๆ ผมก็เลยเอาบ้างแอนติเขา ต่อผมจะลองปฏิบัติตามที่ทุกคนให้คำแนะนำนะครับ
ตอนนี้ผมไม่พูดคำหยาบแล้ว (จากปกติที่พูดตอนที่อยู่นอกบอร์ด) เพราะผมก็เพิ่งได้ทราบมาว่าพูดคำหยาบก็บาปด้วย ผมก็จะพยายามเลิกให้ได้ ตอนนี้เกือบแล้วครับ ยังเหลืออีกนิดหน่อย
อย่าไปเกลียดเขาเลยเน้อครับ
ก็เขาเชื่อของเขาแบบนั้น
อ่านะ
ก็เขาเชื่อของเขาแบบนั้น
อ่านะ
- King Zadin
- โพสต์: 419
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 3:53 am
- ติดต่อ:
เพิ่งเจอมาเหมือนกันเมื่อวันที่ 15 ไปรดน้ำญาติวันสงกราน ตอนแรกก็นึกว่าไปรดน้ำเฉยๆ พอไปถึงวันนั้นเค้าไว้เจ้าที่กันด้วย ก็คิดอยู่ว่าจะทำไงดี แต่สุดท้ายก็แอบหลบมาสวดแล้วคุยกับพระบอกว่าลูกรู้ว่าสิ่งที่ลูกกำลังจะทำอาจจะไม่ถูกต้องแต่ไม่อยากให้บรรยากาศไม่ดี เค้าท่าทางเคร่งมากๆ ถ้าพูดไปว่าผมเป็นคริสต์นะคงจะยาวแน่ แล้วอีกอย่างเค้าอาจจะพลอยพูดจากถากถางต่อว่าพระหรือเปล่าก็ไม่รู้ จากนั้นก็ช่วยจัดของใส่ถาดยกไปตั้งที่โต๊ะที่เค้าจะไหว้กัน แล้วก็แอบมานั่งอ่านหนังสือในบ้านซักพักเค้าก็เรียกออกไป เค้าสวดๆพูดๆขอนู่นนี่..... เราก็ยืนดูเฉยๆซักพักเค้าก็บอกให้เราพนมมือขอพร เอ้าก็เลยพนมมือแล้วก็สวด ข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา ไป สุดท้ายมันอยู่ตอนต้องทานข้าวนี่ ของไหว้ทั้งนั้น ก็เลยสวดเหมือนก่อนกินข้าวขอให้พระเสกอาหารที่ลูกจะกินนี้ให้บริสุทธิ์ด้วยแล้วก็กินไป
แอบแถมนิดนึง เคยมีความคิดว่าบางอย่างมันอาจจะคล้ายกันมั้ย
เมืองไทยเรามี..
เจ้าที่...............คริสต์มี เทวดาประจำบ้าน
ศาลหลักเมือง......คริสต์มี เทวดาประจำเมือง
พระเสื้อเมือง.......คริสต์มี เทวดาประจำประเทศ (เหมือนตอนแม่พระมาประจักษ์ที่ฟาติมา)
ไม่รู้นะจริงๆ แล้วบรรดาเทวดาที่ชาวพุทธไหว้ อาจจะเป็นฑูตสวรรค์ของพระเจ้าก็ได้
แอบแถมนิดนึง เคยมีความคิดว่าบางอย่างมันอาจจะคล้ายกันมั้ย
เมืองไทยเรามี..
เจ้าที่...............คริสต์มี เทวดาประจำบ้าน
ศาลหลักเมือง......คริสต์มี เทวดาประจำเมือง
พระเสื้อเมือง.......คริสต์มี เทวดาประจำประเทศ (เหมือนตอนแม่พระมาประจักษ์ที่ฟาติมา)
ไม่รู้นะจริงๆ แล้วบรรดาเทวดาที่ชาวพุทธไหว้ อาจจะเป็นฑูตสวรรค์ของพระเจ้าก็ได้
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ชอบมุมมองครับKing Zadin เขียน:
เมืองไทยเรามี..
เจ้าที่...............คริสต์มี เทวดาประจำบ้าน
ศาลหลักเมือง......คริสต์มี เทวดาประจำเมือง
พระเสื้อเมือง.......คริสต์มี เทวดาประจำประเทศ (เหมือนตอนแม่พระมาประจักษ์ที่ฟาติมา)
ไม่รู้นะจริงๆ แล้วบรรดาเทวดาที่ชาวพุทธไหว้ อาจจะเป็นฑูตสวรรค์ของพระเจ้าก็ได้
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
แต่ชาวคริสต์ไม่กราบไหว้ทูตสวรรค์กันนี่ครับ :huh: (อาจารย์ที่คริสตจักรสอนมา)
ทูตสวรรค์ทำตามคำสั่งของพระเจ้า ไม่ใช่ของมนุษย์ เราจะไปสั่งหรือขออะไรจากทูตสวรรค์ไม่ได้(แต่เราจะอธิษฐานกับพระบิดาโดยตรงแทน)
ผมว่าต่างกันอยู่หน่อยนึงนะ
ทูตสวรรค์ทำตามคำสั่งของพระเจ้า ไม่ใช่ของมนุษย์ เราจะไปสั่งหรือขออะไรจากทูตสวรรค์ไม่ได้(แต่เราจะอธิษฐานกับพระบิดาโดยตรงแทน)
ผมว่าต่างกันอยู่หน่อยนึงนะ
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ถูกครับ ว่าชาวคริสต์ไม่กราบไหว้ทูตสวรรค์In the name of father เขียน: แต่ชาวคริสต์ไม่กราบไหว้ทูตสวรรค์กันนี่ครับ :huh: (อาจารย์ที่คริสตจักรสอนมา)
ทูตสวรรค์ทำตามคำสั่งของพระเจ้า ไม่ใช่ของมนุษย์ เราจะไปสั่งหรือขออะไรจากทูตสวรรค์ไม่ได้(แต่เราจะอธิษฐานกับพระบิดาโดยตรงแทน)
ผมว่าต่างกันอยู่หน่อยนึงนะ
แต่มีข้อสังเกตว่า ความนอบน้อมถ่อมตนของเราเองที่จะไหว้ทูตสวรรค์ เช่น กรณีนักบุญยอห์น แล้วทูตสวรรค์บอกว่าอย่าเลย!(ให้นมัสการพระเป็นเจ้าเถิด)
แต่เราขอให้ท่านคุ้มครองเราได้(คาทอลิก)เพราะ"พระเป็นเจ้าทรงกรุณามอบข้าพเจ้าไว้ในอารักขาของท่าน"
ข้าแต่อารักขเทวดา พระเป็นเจ้าทรงกรุณามอบข้าพเจ้าไว้ในอารักขาของท่าน โปรดส่องสว่าง, พิทักษ์รักษา และคุ้มครอง ข้าพเจ้าตามทางความรอด ณ. วันนี้ (ณ. คืนนี้) ด้วยเทอญ. อาแมน
บ่อยครั้ง คาทอลิกขอทูตสวรรค์(และนักบุญทั้งหลาย)ช่วยวิงวอน เช่นเดียวกับ สนนวิงวอนผ่านแม่พระครับ
อันนี้ก็ต่างอยู่หน่อยนึง
- King Zadin
- โพสต์: 419
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 3:53 am
- ติดต่อ:
เพิ่มเติมครับ ที่บอกไปก่อนหน้านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะให้เกิดการเข้าใจว่าเราจะไปกราบไหว้ฑูตสวรรค์เหมือนชาวพุทธไหว้เจ้าที่ แต่อย่างใด
แต่มุมมองคาทอลิกเราก็จะให้เกียรติฑูตสวรรค์ มีวันฉลองให้บรรดาอัครเทวดา เราวอนขอให้อารักขาเทวดาช่วยคุ้มครองเราตามพระประสงค์ของพระเจ้าครับ
เพียงแต่ลองเปรียบเทียบดูเท่านั้น เพราะเมื่อพวกเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่ง ชาวพุทธพี่น้องเราก็บอกว่าเคยเห็นเทวดา พระภูมิเจ้าที่ ก็อาจจะเป็นจุดร่วมได้เล็กน้อยเท่านั้น
แต่มุมมองคาทอลิกเราก็จะให้เกียรติฑูตสวรรค์ มีวันฉลองให้บรรดาอัครเทวดา เราวอนขอให้อารักขาเทวดาช่วยคุ้มครองเราตามพระประสงค์ของพระเจ้าครับ
เพียงแต่ลองเปรียบเทียบดูเท่านั้น เพราะเมื่อพวกเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่ง ชาวพุทธพี่น้องเราก็บอกว่าเคยเห็นเทวดา พระภูมิเจ้าที่ ก็อาจจะเป็นจุดร่วมได้เล็กน้อยเท่านั้น
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
ก็ทำใจว่าง ๆ บ้างซี่ จะไปคิดนู่นคิดนี่ให้มีอารมณ์ขุ่นมัวทำไม ก็คิดว่าเป็นมารยาท ที่ต้องเคารพความเชื่อของกันและกัน เป็นมารยาทที่ต้องรักษาน้ำใจกัน ก็ทำไปตามเหตุผลที่มี ไม่มีใครมาพรากความเชื่อไปจากเราได้หรอก ขอเรามีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็พอ แค่ร่วมพิธีกรรมกับเขาจะนับเป็นอะไรได้
แวะมากินส้มตำกันไหมน้องLord Kan Warrock เขียน: ผมหายไปเป็นอาทิตย์เลย ช่วงนี้รู้สึกเริ่มไม่ชอบคนศาสนาอื่นเอามากๆเลยครับ รู้สึกว่าอยากจะไปฟันและทำให้หมดไปจากโลก
นี่หายไปนานเลยครับ เพราะผมต้องพาเจ้านายพ่อเป็น10ๆคนเลย ไปอุดร เอาพระองค์ใหญ่ไปให้วัด ผมไม่รู้ว่าจะทำพระไปทำไมให้เสียเงินเป็นแสน
ความจริงผมก็ไม่อยากไป แต่ต้องไปเพราะเจ้านายพ่ออยากเจอ และเพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของพ่อผมจึงจำต้องไป
แค่นั้นยังไม่พอ ขับรถไปกลับรวมแล้ว ขาไป12ชั่วโมง ขากลับอีก12ชั่วโมง แค่เวลาเดินทางก็กินระยะไป วันนึงเต็มแล้ว แล้วจากนั้นพอเข้าวัดไป ผมก็ต้อง
ไปนั่งฟังพระสวด จากนั้นพ่อผมก็ไปกราบไหว้พระ ไม่พอพ่อผมเป็นพุทธ และยังพาผมไปจับสายสิน(เขียนไม่ถูกขออภัย) ผมบอกว่าไม่เอาๆ แต่ผมก็ไม่กล้าพูดดัง เจ้านายพ่อผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมเป็นคริสต์ ผมก็ไม่กล้าบอก ผมก็เลยต้องไปนั่งจับสายสิน พ่อบอกว่าไม่เป็นไรแค่ไปเอาส่วนกุศล
กุศงกุศลไร ** ********** ***** จากนั้นผมก็ไม่แสดงกิริยาออกไป ผมก็เฉยๆ กลับมาผมก็ยิ่งไม่ชอบศาสนานี้เข้าไปใหญ่ และยังมีการ
ที่ไปต่อยอดเพิ่มตังให้พระอีก พ่อผมเท่าที่จำได้พ่อผมเสียตังไป3500 เจ้านายพ่อผมรวมกันแล้วเสียไปหลายแสนเลย ขากลับยังดีมีรถตู้คันใหญ่ป้ายแดง(ตอนขามาด้วย)ให้นั่ง สบายก้นทั้ง12ช.ม. ตอนที่ขี่มาระหว่างขากลับ ดันเลยไปอีกทางไปแวะหนองคายชมลาวอีก เซ็งเลย ยิ่งเพิ่มระยะเวลาในการเดินทาง และเสียเวลาในการเล่นเกมส์ และมาอ่านพระคัมภีร์ของผมตั้งเยอะแยะ
ระหว่างตอนที่พัก อยู่ที่รีสอร์ตริมแม่น้ำโขง เจ้านายพ่อคนนึงซึ่งก็เป็นคนใหญ่คนโตถึงขนาดเรียกเจ้าของรีสอร์ตมาคุยกันได้ด้วย คุยกันไปคุยกันมา พูดกันถึงประเด็นพญานาค แล้วก็ว่ากันอย่างงู้นอย่างงี้ ผมเซ็งมากจนอยากจะตะโกนออกไปว่า "มันไม่มีจริงหรอก **ไปกันใหญ่แล้วพวก**" แต่พวกคุณตาคุณยายเขาก็ยังดีกับผม ชวนผมกินตลอดทาง ไม่พอยังถามจะเอาอันนี้รึเปล่า อันนู้นรึเปล่า แถมผมได้ตังอีก200 ด้วย ก็ยังดีครับ อย่างน้อยชาวพุทธก็ไม่แย่ไปทุกคน
ปล.หวังว่าคงไม่ผิดกฏข้อใดในบอร์ดนะครับ -*-
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
เข้าใจเจตนาครับKing Zadin เขียน: เพิ่มเติมครับ ที่บอกไปก่อนหน้านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะให้เกิดการเข้าใจว่าเราจะไปกราบไหว้ฑูตสวรรค์เหมือนชาวพุทธไหว้เจ้าที่ แต่อย่างใด
แต่มุมมองคาทอลิกเราก็จะให้เกียรติฑูตสวรรค์ มีวันฉลองให้บรรดาอัครเทวดา เราวอนขอให้อารักขาเทวดาช่วยคุ้มครองเราตามพระประสงค์ของพระเจ้าครับ
เพียงแต่ลองเปรียบเทียบดูเท่านั้น เพราะเมื่อพวกเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่ง ชาวพุทธพี่น้องเราก็บอกว่าเคยเห็นเทวดา พระภูมิเจ้าที่ ก็อาจจะเป็นจุดร่วมได้เล็กน้อยเท่านั้น