ผมจะออกจากวงจรบาปได้ยังไง

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
pelouse
โพสต์: 19
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 12, 2008 6:14 pm

อังคาร พ.ค. 13, 2008 10:18 am

สวัสดีครับทุกท่าน

ผมมีปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับวิญญาณ ผมชอบทำบาป แต่ก็มิได้ละทิ้งพระ ผมไปวัดทุกอาทิตย์ ผมตัดไม่ได้ที่จะทำ ทุก ๆ ครั้งที่ทำก็จะไปรับศีลอภัยบาป

ในเวลานั้นก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไปทำอีกเลย แต่พอเวลาล่วงผ่านไปก็กลับมาทำอีก ตอนนี้ผมไปแก้บาปทุกอาทิตย์เลย นานมา 2 -3 เดือนแล้ว

มันเหมือนมีแรกผักดันภายในที่ทำให้ผมต้องทำบาป มันเป็นตัณหาภายในตัวเอง ในเวลาที่จะทำบาปพระองค์พยายามเข้ามาเตือนในความคิดแต่ผมก็ได้

ปฎิเสธ เพราะเห็นแก่ความสุขชั่วขณะ หลังจากที่ทำก็ต้องมาทุกข์ ทำไมอะ ทำไมต้องทำ ผมเคยลองไม่ทำครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้น 1 วัน

ผมก็กลับมาทำเหมือนเดิม พอผมไม่ทำ มันก็มีแรงผลักดันในความคิดเสมอว่า ทำสิ ทำสิ มันสนุกนะ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ เหมือนวงล้อหยุดไม่ได้

ไม่ทราบว่าผมจะหยุดมันได้ยังไง มีใครในบอร์ดนี้เป็นแบบผมไหม ผมรู้สึกสงสารพระ เหมือนกับโกหกพระองค์ว่าจะไม่ทำ แต่ก็ทำอีก

ผมอดที่จะทำมันไม่ได้ บาปที่ทำนับวันมันก็จะหนาขึ้นเรื่อย ๆ ผมกลัวว่าถ้าตายไปจะต้องใช้โทษในไฟชำระอีกนานกว่ากลับไปหาพระ

ผมอาจจะไม่ได้ไปนรกเพราะทุกครั้งที่ทำบาปก็ไปรับศีลอภัยบาปพอจะมีอะไรทีทำห้ผมใช้โทบาปได้ไหม แล้วผมจะออกจากวงจรนี้ได้อย่างไร

ปล.จำเป็นไหมที่จะต้องบอกว่าบาปที่ทำคือะไร ถ้าจำเป็นผมก็ยินดีจะบอก

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำ
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อังคาร พ.ค. 13, 2008 12:15 pm

แค่คุณรู้สึกผิดและละอายใจในสิ่งที่คุณทำ รวมทั้งแน่วแน่ที่จะตั้งใจกลับตัว ผมว่าพระท่านทรงเห็น และทรงเข้าใจแล้วล่ะครับ พระองค์ใจกว้างเสมอ พระทรงเป็นความรักครับ ความรักคือความเข้าใจ และเห็นใจครับ อย่าลืมสิครับ เราคือศิษย์พระเยชูเจ้า มิใช่ขึ้ข้าฟารีสีปากพล่อย ขอบคุณครับ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร พ.ค. 13, 2008 1:42 pm

ขอหนุนใจนะครับ

บาป ไม่ใช่อาชญากรรม แต่เป้นแค่ความป่วย
ทุกคนป่วยได้ แต่คริสตชนคือผู้ที่ยอมรับการรักษาอาการป่วย
ไม่ใช่อาการป่วยทุกอันจะหายทันที แต่จะค่อยเป็นค่อยไป
บ้างก็ทรงตัว บ้างก็ดีขึ้น อยู่ที่กำลังความเชื่อของเรา
ทุกคนมีอาการป่วยที่เรื้อรัง เช่น"ความโกรธ ความโลภ การทำอุลามก"
ถ้าเป็นอาการป่วยฝ่ายกายนานกว่าจะรักษาได้ หรือได้แก้อาการ
บาปก็เช่นเดียวกัน นานกว่าจะตัดหายไป หรืออย่างน้อยจากอาการบาปนั้นก็ไม่ทำบาปต่อไปจากบาปดังกล่าวอีก

พระเจ้าอวยพรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร พ.ค. 13, 2008 3:28 pm

คุณแม่เทเรซ่า แห่งกัลกัตตา แก้บาปอาทิตย์ละ2ครั้ง ครับ


เราทุกคนเป็นคนบาป อันนี้คือความจริง ดังนั้น คนที่จะสามารถไม่ทำบาปอีกเลยคงจะหาได้ยากมากถึงไม่มีเลย

และการที่เราสำนึกเสียใจทุกครั้งที่ทำก็ถือว่าเป็นเรื่องดีว่า มโนธรรมของเรายังทำงานอยู่

รม 7:14-25  การต่อสู้ภายใน
เรารู้ว่า ธรรมบัญญัติเป็นเรื่องของฝ่ายจิต แต่ข้าพเจ้ามีธรรมชาติมนุษย์ที่ถูกขายเป็นทาสของบาป  ข้าพเจ้าไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าพเจ้ากระทำ สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากทำข้าพเจ้ากลับไม่ทำ สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่อยากทำข้าพเจ้ากลับทำ  ถ้าข้าพเจ้าทำสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่อยากทำข้าพเจ้าก็ยอมรับว่าธรรมบัญญัตินั้นดี  ดังนั้น จึงไม่ใช่ข้าพเจ้าที่กระทำกิจการนั้น แต่เป็นบาปซึ่งอาศัยในตัวข้าพเจ้า  เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าในตัวข้าพเจ้านั้น ธรรมชาติมนุษย์ของข้าพเจ้าไม่มีความดีอยู่เลย เพราะความปรารถนานั้นมีอยู่แล้ว แต่ขาดพลังที่จะกระทำ  เพราะ ข้าพเจ้าไม่ทำความดีที่ข้าพเจ้าปรารถนา กลับทำความชั่วที่ไม่ปรารถนาจะทำ  ถ้าข้าพเจ้าทำสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะทำ การกระทำนั้นก็มิใช่การกระทำที่แท้จริงของข้าพเจ้า แต่เป็นการกระทำของบาปซึ่งแฝงอยู่ในตัวข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าจึงพบกฎนี้ว่า เมื่อใดที่ข้าพเจ้าอยากทำดี เมื่อนั้นความชั่วก็มาอยู่ใกล้ข้าพเจ้าเสมอ  ในส่วนลึกของจิตใจ ข้าพเจ้านิยมชมชอบธรรมบัญญัติของพระเจ้า  แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า มีกฎอีกข้อหนึ่งในร่างกายของข้าพเจ้า ซึ่งสู้รบกับกฎแห่งจิตใจของข้าพเจ้า และล่ามข้าพเจ้าไว้กับกฎของบาปซึ่งอยู่ในร่างกายของข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าช่างเป็นคนน่าสมเพชจริงๆ ใครจะช่วยดึงข้าพเจ้าออกมาให้พ้นจากร่างกายที่จะต้องตายนี้เล่า  ขอขอบพระคุณพระเจ้า เดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา  ดังนั้น ในส่วนลึกของจิตใจ ข้าพเจ้ารับใช้ธรรมบัญญัติของพระเจ้า แต่ในธรรมชาติที่บกพร่อง ข้าพเจ้ากลับรับใช้กฎของบาป
sGunKk
โพสต์: 32
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ย. 13, 2007 2:38 am

อังคาร พ.ค. 13, 2008 6:51 pm

ปัญหาเรื้อรังเหรอ  เราก็มีกันทุกคนนะแหละจ๊ะ
แม่บอกไม่ให้เราไว้ใจตัวเอง เพราะเมื่อเราตั้งใจว่าจะไม่ทำบาปนั้นอีก แต่ด้วยความที่มันเป็นธรรมชาติและความเคยชินที่ตั้งแต่โตมาก็ทำไม่เคยขาด
ผมนะเคยมั่นใจนับร้อยนับพันว่าจะไม่ทำอีก ไม่ทำเด็ดขาด.... แต่ก็นะมันจะมีบาปและความสุขแบบใหม่น่าตื่นเต้นและสนุกเย้ายวนขึ้นไปทุกทีซิน่า!!
เรายังหน้าด้านขอให้พระอภัยนั้นแหละเรื่องดี  เพราะเมื่อไหร่ที่ละอายจนไม่พึ่งพระและละก็...... เข้าทางเธอเลยใช่มั้ย(มารนะ อิอิ)
ก็ แม่สอนให้พูดเสมอๆว่า 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

อังคาร พ.ค. 13, 2008 7:01 pm

Holy เขียน: คุณแม่เทเรซ่า แห่งกัลกัตตา แก้บาปอาทิตย์ละ2ครั้ง ครับ


เราทุกคนเป็นคนบาป อันนี้คือความจริง ดังนั้น คนที่จะสามารถไม่ทำบาปอีกเลยคงจะหาได้ยากมากถึงไม่มีเลย

และการที่เราสำนึกเสียใจทุกครั้งที่ทำก็ถือว่าเป็นเรื่องดีว่า มโนธรรมของเรายังทำงานอยู่

รม 7:14-25  การต่อสู้ภายใน
เรารู้ว่า ธรรมบัญญัติเป็นเรื่องของฝ่ายจิต แต่ข้าพเจ้ามีธรรมชาติมนุษย์ที่ถูกขายเป็นทาสของบาป  ข้าพเจ้าไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าพเจ้ากระทำ สิ่งที่ข้าพเจ้าอยากทำข้าพเจ้ากลับไม่ทำ สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่อยากทำข้าพเจ้ากลับทำ  ถ้าข้าพเจ้าทำสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่อยากทำข้าพเจ้าก็ยอมรับว่าธรรมบัญญัตินั้นดี  ดังนั้น จึงไม่ใช่ข้าพเจ้าที่กระทำกิจการนั้น แต่เป็นบาปซึ่งอาศัยในตัวข้าพเจ้า  เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าในตัวข้าพเจ้านั้น ธรรมชาติมนุษย์ของข้าพเจ้าไม่มีความดีอยู่เลย เพราะความปรารถนานั้นมีอยู่แล้ว แต่ขาดพลังที่จะกระทำ  เพราะ ข้าพเจ้าไม่ทำความดีที่ข้าพเจ้าปรารถนา กลับทำความชั่วที่ไม่ปรารถนาจะทำ  ถ้าข้าพเจ้าทำสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะทำ การกระทำนั้นก็มิใช่การกระทำที่แท้จริงของข้าพเจ้า แต่เป็นการกระทำของบาปซึ่งแฝงอยู่ในตัวข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าจึงพบกฎนี้ว่า เมื่อใดที่ข้าพเจ้าอยากทำดี เมื่อนั้นความชั่วก็มาอยู่ใกล้ข้าพเจ้าเสมอ  ในส่วนลึกของจิตใจ ข้าพเจ้านิยมชมชอบธรรมบัญญัติของพระเจ้า  แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า มีกฎอีกข้อหนึ่งในร่างกายของข้าพเจ้า ซึ่งสู้รบกับกฎแห่งจิตใจของข้าพเจ้า และล่ามข้าพเจ้าไว้กับกฎของบาปซึ่งอยู่ในร่างกายของข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าช่างเป็นคนน่าสมเพชจริงๆ ใครจะช่วยดึงข้าพเจ้าออกมาให้พ้นจากร่างกายที่จะต้องตายนี้เล่า  ขอขอบพระคุณพระเจ้า เดชะพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา  ดังนั้น ในส่วนลึกของจิตใจ ข้าพเจ้ารับใช้ธรรมบัญญัติของพระเจ้า แต่ในธรรมชาติที่บกพร่อง ข้าพเจ้ากลับรับใช้กฎของบาป
กินใจมากๆ บทนี้ เพราะกำลังเป็นอยู่ " ต่อสู้กับปีศาจในตัวเอง "  : emo031 :
เคยอ่าน....แต่จำไม่ได้ว่าอ่านจากบทไหน

ขอบพระคุณพระองค์ที่ส่งคุณ Holy มาเตือนสติ  : xemo023 :
pelouse
โพสต์: 19
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 12, 2008 6:14 pm

อังคาร พ.ค. 13, 2008 8:15 pm

ขอบคุณครับสำหรับขอเสนอแนะดี ๆ ขอบคุณทุกคนเลย

ตกลงวิญญาณผมบกพร่องแต่ไม่ผิดปกติใช่ไหม คุณทุกคนก็เป็นแบบผมเหรอ แต่ผมแก้บาปทุกอาทิตย์เลยนะ

แล้วมีใครพอจะทราบไหมว่ายังไงจะหายขาด พระเป็นเจ้าจะไม่เบื่อผมเหรอ กับการกระทำที่ซ้ำซาก เหมือนกับไม่ได้ปรับปรุง

แต่ความจริงผมก็พยายามอยู่ แล้วผมจะทำยังไงกับโทษของบาปเหล่านั้นดีครับ ผมไม่อยากไปไฟชำระอะอยากแบบว่าตายแล้วไปหาพระเลย

เพราะเคยได้ยินว่า ถึงเราจะแก้บาปพระได้อภัยเราแล้วแต่โทษของบาปยังอยู่ ใช่ไหม ผมไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม
แก้ไขล่าสุดโดย pelouse เมื่อ อังคาร พ.ค. 13, 2008 8:22 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร พ.ค. 13, 2008 8:55 pm

pelouse เขียน: ........ผมเคยลองไม่ทำครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้น 1 วัน
ผมก็กลับมาทำเหมือนเดิม พอผมไม่ทำ มันก็มีแรงผลักดันในความคิดเสมอว่า ทำสิ ทำสิ มันสนุกนะ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ เหมือนวงล้อหยุดไม่ได้ ไม่ทราบว่าผมจะหยุดมันได้ยังไง มีใครในบอร์ดนี้เป็นแบบผมไหม ผมรู้สึกสงสารพระ เหมือนกับโกหกพระองค์ว่าจะไม่ทำ แต่ก็ทำอีก ผมอดที่จะทำมันไม่ได้ บาปที่ทำนับวันมันก็จะหนาขึ้นเรื่อย ๆ ผมกลัวว่าถ้าตายไปจะต้องใช้โทษในไฟชำระอีกนานกว่ากลับไปหาพระ................ แล้วผมจะออกจากวงจรนี้ได้อย่างไร
ทำสิสนุก นั่นวิธีการหนึ่งที่มารล่อลวง มนุษย์ให้เห็นด้วยกับสิ่งที่ผิดจากน้ำพระทัยของพระเจ้า

ไม่ต้องสงสารพระ ต้องสงสารตัวเองค่ะ

น.เปาโลเองท่านได้ต่อสู้กับเนื้อหนังมาตลอด ท่านกล่าวว่าสิ่งที่อยากทำไม่ได้ทำ สิ่งที่ไม่คิดจะทำ ก็ทำ

การจะเดินไปกับพระเจ้ามั่นคงนั้น น.เปาโลแนะนำให้ เราสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดค่ะ

เอเฟซัส 6:10-18

11จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า  เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้

12เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด  แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง  ศักดิเทพ  เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้  ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ

13เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้  เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้น  และเมื่อเสร็จแล้วจะอยู่อย่างมั่นคงได้

14เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง  เอาความจริงคาดเอว  เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก

15และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข  ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า

16และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้  จงเอาความเชื่อเป็นโล่  ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย

17จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ  และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ  คือ  พระวจนะของพระเจ้า

18จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง  จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา  ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง  จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน


--------------> เมื่อน้องเริ่มเอาจริงเอาจัง น่าจะเริ่ม ข้อ 17-18  คือใช้พระวาจาของพระเจ้า เป็นดาบของฝ่ายวิญญาณจิต  ต่อมาก็มีชีวิตที่ภาวนา
ภาวนาง่ายๆ เมื่อ อยากทำบาป ว่า "พระเยซูเจ้า โปรดเมตตา ลูกเทอญ" คือ เมื่อคุณร้องประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นการยืนยัน
ความเชื่อ และการพึ่งพา คือ ร้องเรียกพระเยซูเจ้า ขอความเมตตาลูกเทอญ หรือความกรุณาเรื่องที่คุณกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งพระองค์ทรงทราบทุกเรื่อง
ซึ่งคุณวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระองค์
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 13, 2008 10:21 pm

ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกครับ ผมก็เหมือนกันครับ : xemo031 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

พุธ พ.ค. 14, 2008 10:02 am

pelouse เขียน: ขอบคุณครับสำหรับขอเสนอแนะดี ๆ ขอบคุณทุกคนเลย

ตกลงวิญญาณผมบกพร่องแต่ไม่ผิดปกติใช่ไหม คุณทุกคนก็เป็นแบบผมเหรอ แต่ผมแก้บาปทุกอาทิตย์เลยนะ

แล้วมีใครพอจะทราบไหมว่ายังไงจะหายขาด พระเป็นเจ้าจะไม่เบื่อผมเหรอ กับการกระทำที่ซ้ำซาก เหมือนกับไม่ได้ปรับปรุง

แต่ความจริงผมก็พยายามอยู่ แล้วผมจะทำยังไงกับโทษของบาปเหล่านั้นดีครับ ผมไม่อยากไปไฟชำระอะอยากแบบว่าตายแล้วไปหาพระเลย

เพราะเคยได้ยินว่า ถึงเราจะแก้บาปพระได้อภัยเราแล้วแต่โทษของบาปยังอยู่ ใช่ไหม ผมไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม
พระเจ้าไม่เบื่อเรา "คนบาปที่สำนึกผิด"หรอกคะ พระองค์ให้กำลังใจเราผ่านทางลูกๆของพระองค์ที่เดินบนทางสายเดียวกับคุณนี้
เราไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย และพระองค์เห็นใจและเข้าใจ ในความตั้งใจที่จะแก้ไขตัวเราเอง

จงอย่ากังวลใจ จงอย่าได้กลัวเลย ผู้วางใจพระเจ้า ไม่ขาดสิ่งใดใด
จงอย่ากังวลใจ จงอย่าได้กลัวเลย เพียงพระ-เจ้า เพียงพอ

คิดถึงกันในคำภาวนาคะ :angel:
pelouse
โพสต์: 19
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 12, 2008 6:14 pm

พุธ พ.ค. 14, 2008 4:59 pm

วันนี้ผมลองเปิดอ่านพระวรสาร แล้วผมข้อความที่เขียนไว้ว่า

"ผู้ใดก็ตามที่ได้พ้นความเสื่อมของโลกเมื่อได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ของเราแล้ว 

ถ้าเขากลับไปติดบ่วงและพ่ายแพ้ความเสื่อมนี้อีก ปั้นปลายของเขาจะประสบสิ่งรายยิ่งกว่าตอนต้น

การที่เขาไม่เคยรู้จักทางแห่งความชอบธรรมเลย

ยังดีกว่าการที่เขารู้ทางแห่งความชอบธรรมแล้ว แต่กลับหันหลังให้บทบัญญัติศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทาน

เขาประพฤติตรงกับสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า

สุนัขกลับมากินสิ่งที่มันสำรอก และสุกรทีเพิ่งอาบน้ำกลับไปกลิ้งเกลือกโคลนอีก"  2เปโตร 2:20



นั่นแสดว่าพระองค์กำลังตำหนิผมรึเปล่า ผมได้ปฎิบัติตัวอย่างงั้นจริง ๆ นะ

ทั้งที่ผมรับศีลล้างบาปแล้ว พระองค์ทรงชะล้างผมแล้วแต่ผมกลับไปทำตัวให้เปื้อนมลทินอีก

ในอนาคตผมก็มีแนวโน้มที่อาจจะต้องทำบาปเดิมซ้ำซากอีก  ผมควรจะทำยังไงดี

แล้วผมมีคำถามว่าการที่เราไปรับศีลอภัยบาปแต่ละครั้ง วิญญาณเราจะบริสุทธิ์เหมือนตอนรับศีลล้างบาปใหม่ ๆ รึเปล่า

ขอบคุณสำล่วงหน้าสำหรับคำตอบ  อย่ารำคาญผมนะ  วิญญาณผมกำลังอ่อนแอที่สุด

 
แก้ไขล่าสุดโดย pelouse เมื่อ พุธ พ.ค. 14, 2008 5:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

พุธ พ.ค. 14, 2008 5:29 pm

pelouse เขียน: วันนี้ผมลองเปิดอ่านพระวรสาร แล้วผมข้อความที่เขียนไว้ว่า

"ผู้ใดก็ตามที่ได้พ้นความเสื่อมของโลกเมื่อได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ของเราแล้ว 

ถ้าเขากลับไปติดบ่วงและพ่ายแพ้ความเสื่อมนี้อีก ปั้นปลายของเขาจะประสบสิ่งรายยิ่งกว่าตอนต้น

การที่เขาไม่เคยรู้จักทางแห่งความชอบธรรมเลย

ยังดีกว่าการที่เขารู้ทางแห่งความชอบธรรมแล้ว แต่กลับหันหลังให้บทบัญญัติศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทาน

เขาประพฤติตรงกับสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า

สุนัขกลับมากินสิ่งที่มันสำรอก และสุกรทีเพิ่งอาบน้ำกลับไปกลิ้งเกลือกโคลนอีก"



นั่นแสดว่าพระองค์กำลังตำหนิผมรึเปล่า ผมได้ปฎิบัติตัวอย่างงั้นจริง ๆ นะ

ทั้งที่ผมรับศีลล้างบาปแล้ว พระองค์ทรงชะล้างผมแล้วแต่ผมกลับไปทำตัวให้เปื้อนมลทินอีก ผมควรจะทำยังไงดี

แล้วผมมีคำถามว่าการที่เราไปรับศีลอภัยบาปแต่ละครั้ง วิญญาณเราจะบริสุทธิ์เหมือนตอนรับศีลล้างบาปใหม่ ๆ รึเปล่า

ขอบคุณสำล่วงหน้าสำหรับคำตอบ  อย่ารำคาญผมนะ  วิญญาณผมกำลังอ่อนแอเป็นที่สุด

 
วินาทีนี้คุณยังคงเสียใจกับสิ่งที่มโนธรรมในใจบอกว่าผิด ซึ่งขัดแย้งกับการกระทำที่เราทำ "บาป"
วันนี้คุณรู้สึกเสียใจ และพยายามที่จะแก้ไขตนเอง แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่สำเร็จตามความตั้งใจก็ตาม ทั้งยังพร้อมที่จะชดเชยบาป
จากที่คุณเล่าว่าคุณแก้บาปบ่อยๆสมำ่เสมอ คุณพ่อที่ฟังแก้บาปนั้น คงจะแนะนำอะไรบ้างและบอกวิธีใช้กิจโทษบาปในแต่ละครั้ง

...สิ่งแรกที่พระเยซูเจ้าทรงเทศน์สอนเมื่อเริ่มต้นภารกิจคือ "จงเป็นทุกข์ กลับใจ"

ดังนั้นความหมายก็คือ "เป็นบุญของผู้โศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เห็นว่าบาปของเรานั้นได้ทำร้ายพระเยซูเจ้าและทำให้ต้องพลัดพรากจากพระองค์
จึงเป็นทุกข์-กลับใจและได้รับการให้อภัยจากพระองค์"

"ข้าแต่พระเจ้า เครื่องบูชาของข้าพเจ้าคือดวงจิตที่เป็นทุกข์ ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ไม่ทรงรังเกียจใจที่เป็นทุกข์และถ่อมตน" (สดด.51:17)

ส่วนรายละเอียดที่ลึกไปกว่านี้...คงต้องรอให้พี่ๆน้องๆในเว็บช่วยกันตอบและหนุนใจกันต่อไปนะคะ
อย่าท้อใจเลย ทุกคนให้กำลังใจและหนุนใจ พร้อมจะก้าวไปด้วยกันนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

พุธ พ.ค. 14, 2008 5:35 pm

จะภาวนาขอพระประทานพละกำลังช่วยอีกแรงนะครับ
pelouse
โพสต์: 19
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 12, 2008 6:14 pm

พุธ พ.ค. 14, 2008 10:25 pm

ขอบคุณสำหรับคำภาวนาและกำลังใจของทุกคนครับ ผมเริ่มดีขึ้นแล้ว จะพยายามสู้ต่อไปครับ

ครั้งนี้ ครั้งหน้า จิตใจอาจจะอ่อนแอ แต่ต้องมีสักครั้งที่ผมสู้มันได้ และผมก็เชื่อว่าพระเยซูจะรักษาผมจนหาย

ในเมื่อพระองค์เคยตรัสไว้ว่า "เรามาเพื่อคนบาป"

มาโพสต์กันเยอะ ๆ เลยครับ การที่ผมมาอ่านมันเป็นแรงและกำลังใจ

สิ่งที่อยากทราบมากที่สุดในตอนนี้คือ จะจัดการยังไงกับโทษบาปที่ผ่านมา ใครทราบบ้าง?
แก้ไขล่าสุดโดย pelouse เมื่อ พุธ พ.ค. 14, 2008 10:28 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ค. 14, 2008 10:42 pm

pelouse เขียน: ขอบคุณครับสำหรับขอเสนอแนะดี ๆ ขอบคุณทุกคนเลย

ตกลงวิญญาณผมบกพร่องแต่ไม่ผิดปกติใช่ไหม คุณทุกคนก็เป็นแบบผมเหรอ แต่ผมแก้บาปทุกอาทิตย์เลยนะ

แล้วมีใครพอจะทราบไหมว่ายังไงจะหายขาด พระเป็นเจ้าจะไม่เบื่อผมเหรอ กับการกระทำที่ซ้ำซาก เหมือนกับไม่ได้ปรับปรุง

แต่ความจริงผมก็พยายามอยู่ แล้วผมจะทำยังไงกับโทษของบาปเหล่านั้นดีครับ ผมไม่อยากไปไฟชำระอะอยากแบบว่าตายแล้วไปหาพระเลย

เพราะเคยได้ยินว่า ถึงเราจะแก้บาปพระได้อภัยเราแล้วแต่โทษของบาปยังอยู่ ใช่ไหม ผมไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม
ทำกิจใช้โทษบาปต่างๆเช่น การถือศีลอดอาหาร
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

ศุกร์ พ.ค. 16, 2008 5:21 pm

pelouse เขียน: สิ่งที่อยากทราบมากที่สุดในตอนนี้คือ จะจัดการยังไงกับโทษบาปที่ผ่านมา ใครทราบบ้าง?


ตั้งใจแก้บาปอย่างดี และทำกิจใช้โทษบาปอย่างจริงใจ พี่เชื่อว่า พระองค์รอคอย และให้อภัยลูกที่รักเสมอจ๊ะ  ::004::
pelouse
โพสต์: 19
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 12, 2008 6:14 pm

จันทร์ พ.ค. 19, 2008 10:14 am

ขอบคุณเพื่อนพี่น้องทุกคนอีกครั้งหนึ่งครับ

เมื่อวานผมได้ไปวัดแล้วรับศีลอภัยบาปเรียบร้อยแล้ว ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย

แต่ผมยังมีคำถามอยู่ว่า ทำไมเราทำบาปแล้วไปรับศีลอภัยบาปมันดูง่ายจัง แต่พระยกโทษเราจริง ๆ ใช่ไหม มีใครไหมที่รับศีลนี้แล้วพระไม่อภัย

ผมเคยแอบคิดซึ้งไม่รู้ว่าถูกรึเปล่านะครับ ว่าการถ้าพระสงฆ์ยกบาปเราเป็นไปได้ไหมที่พระจะไม่ยกให้ หากพระยังเคืองเราอยู่

แค่คิดนะ ก็เลยลองถามกันดู มันเป็นความสงสัยเล็กน้อย
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ พ.ค. 19, 2008 5:53 pm

pelouse เขียน: ขอบคุณเพื่อนพี่น้องทุกคนอีกครั้งหนึ่งครับ

เมื่อวานผมได้ไปวัดแล้วรับศีลอภัยบาปเรียบร้อยแล้ว ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย

แต่ผมยังมีคำถามอยู่ว่า ทำไมเราทำบาปแล้วไปรับศีลอภัยบาปมันดูง่ายจัง แต่พระยกโทษเราจริง ๆ ใช่ไหม มีใครไหมที่รับศีลนี้แล้วพระไม่อภัย

ผมเคยแอบคิดซึ้งไม่รู้ว่าถูกรึเปล่านะครับ ว่าการถ้าพระสงฆ์ยกบาปเราเป็นไปได้ไหมที่พระจะไม่ยกให้ หากพระยังเคืองเราอยู่

แค่คิดนะ ก็เลยลองถามกันดู มันเป็นความสงสัยเล็กน้อย
พระองค์ทรงยกบาปให้เราผ่านทางพระสงฆ์แล้วครับ แต่ว่าเราเองต้องทำกิจใช้โทษบาปของเรามากขึ้น ไม่ใช่แค่ที่พระสงฆ์กำหนดให้ทำครับ

การแก้บาป เหมือนกับการที่เรากลับไปขอคืนดีกับพระ พระทรงคืนดีกับเรา แต่โทษบาปยังอยู่นะครับ
sGunKk
โพสต์: 32
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ย. 13, 2007 2:38 am

อังคาร พ.ค. 20, 2008 11:49 pm

  เพิ่มแรงกดดันอีกซีฮะ  ทุกครั้งที่เราขอให้พระอภัย พระองค์ทรงสอนให้เราเป็นลูกผู้ชาย ลูกของพระองค์
กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ในไฟชำระนั่นแหละฮะ เพราะเราคิดอะไรแบบเด็กๆอยู่นะซี ความสัมพันธ์ กับพระองค์เลยไม่เป็นแบบผู้ใหญ่ซะที
ความตั้งใจเด็กๆแบบมนุษย์ช่างไร้เรียงสา ถึงเวลาแล้วที่เราจะโต แบกรับความรู้สึกของดวงวิญญาณในไฟชำระบ้าง
    เหล่าพี่น้อง พวกเค้าต้องภาวนาและเอาใจช่วยแค่ไหน..... พี่คับ ตอนเรากำลังทำบาปอยู่ พี่ ค ง ไม่ เ ห็ น น้ำ ต า ข อ ง พ ว ก เ ค้า
ข้างๆพี่ นะแหละ      ลูกผู้ชายที่ไหนทำให้สุภาพสตรีร้องไห้กัน!!!!
                                                                            บ๊ะ  พูดแล้วเคืองตัวเอง
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

พุธ พ.ค. 21, 2008 10:55 am

แค่คุณสำนึกผิด และกลับใจไม่อยากจะทำอีก พระท่านก็ยิ้มแล้วครับ เราเป็นมนุษย์นะครับ ไม่ใช่เทวดา ทำได้แค่นี้ พระท่านเข้าใจเสมอครับ สบายใจได้ ขอบคุณครับ

ขอพระอวยพรคุณครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jira
โพสต์: 213
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 21, 2007 11:21 am

อาทิตย์ พ.ค. 25, 2008 12:14 pm

เราก็ทำบาปอยู่เรื่อยค่ะ กำลังเสียใจกับบาปที่ตัวเองได้ก่อไว้อยู่ค่ะ ทกุข์ใจไม่สบายใจเลยคะ่ เสียใจมากค่ะที่ตัวเองทำบาปอยู่เรื่อย ไม่อยากทำบาปเลยค่ะ
pelouse
โพสต์: 19
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 12, 2008 6:14 pm

อาทิตย์ พ.ค. 25, 2008 5:52 pm

ไปแก้บาปครับ  แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น  ผมก็เคยเป็นเหมือนคุณ ลองมาแล้ว  เชื่อผมสิ

ขอให้พระเจ้าอวยพรครับ
chaicat80
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2008 12:55 am
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
ติดต่อ:

จันทร์ พ.ค. 26, 2008 9:27 am

ผมเข้าใจและเห็นใจคุณ pelouse มากๆเลย
ผมก็เป็นคนนึงที่ยังไม่สามารถออกจากวงจรของบาปได้เหมือนกัน
ก็มนุษย์ทุกคนเกิดมาในความบาป มีธรรมชาติของบาปติดตัวมา

ี่สิ่งที่ผมเคยทำเมื่อมีความรู้สึกแย่มากๆ ก็มี
ถือศีลอดอาหาร หรือถ้ามีเวลา ก็ไปเข้าเงียบส่วนตัว
ถ้าทำได้ ผมก็อยากไปฝึกปฏิบัติจิต
ไม่ก็เข้าเงียบแบบจริงจัง สัก 7 วัน(ตามแบบนักบุญอิกญาซิโอ)
แต่ขอยอมรับว่า ช่วงนี้ตัวผมเองก็แพ้ต่อบาปอยู่เช่นกัน
ก็ ภาวนาให้กันและกันนะครับ

Chai_Cat
pelouse
โพสต์: 19
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 12, 2008 6:14 pm

อังคาร พ.ค. 27, 2008 8:01 pm

อะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ไปแก้บาปละยัง แล้วจะดีขึ้น

เราเป็นเหมือนคนที่เดินทางร่วมกันนะครับ หัวอกเดียวกัน

แล้วจะช่วยภาวนา

จริงอย่างที่คุณพูด "มนุษย์ทุกคนเกิดมาในความบาป มีธรรมชาติของบาปติดตัวมา"

หายไว ๆ ครับ

แล้วมาคุยกันอีก ถ้าอย่างคุยส่วนตัว PM มาก็ด้าย ยินดีที่ด้ายรู้จักครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ŤaşArĐűŕ
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 31, 2008 1:10 am
ติดต่อ:

ศุกร์ ก.ค. 04, 2008 4:33 pm

คุณมีจิตสำนึกหรือเปล่าละครับ ??

แล้วรู้สึกละอายบ้างมั้ย
ละอายแล้วจะทำๆไมล่ะครับ

มันก็อยุ่ที่ตัวคุณด้วยนะคับ
แก้ไขล่าสุดโดย ŤaşArĐűŕ เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 04, 2008 4:38 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
maria phol
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 04, 2008 9:20 am

ศุกร์ ก.ค. 04, 2008 7:13 pm

[quote="pelouse"]
ความรู้สึกละอายเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับใจนะ  เราคิดว่าแต่ละคนมีจุดอ่อนและจุดแข็งแตกต่างกันตามสิ่งที่ถูกสั่งสอนมา  การมีมโนธรรมติเตียนตัวเองเป็นสิ่งที่ดี  เราเคยถูกสอนมาว่า  เราจะชนะอะไรก็ไม่เท่ากับชนะใจตนเอง  แต่ตามที่เรารู้มา  ความละอายใจไม่พอสำหรับการกลับใจ  แต่การยอมรับว่าเราเป็นคนบาปและสวดภาวนาขอพระองค์ทรงช่วยเราให้สามารถเอาชนะนำใจของเรานี่สิ  เป็นสิ่งสำคัญ  เราเชื่อว่าผู้ที่วอนขอก็จะได้รับ  เมื่อเราขอสิ่งดีๆพระเป็นเจ้าทรงพระทัยดีเสมอ  พระองค์ทรงรู้ว่าเราเป็นคน  และพระองค์ก็รู้ว่าเราจะทำอะไรก่อนที่เราจะทำซะอีก  แต่พระองค์ก็ให้อำเภอใจกับเรา  ให้เราตัดสินใจทำด้วยตัวเอง  เพราะพระองค์ทรงรักเราอย่างที่เราเป็นต่างหาก  นี่แหละคือความหมายของความรักของพระเจ้า  ดังนั้น  เราคิดว่าการยอมรับความผิดบาปและการสวดภาวนาจะช่วยคุณได้เยอะทีเดียว
ตอบกลับโพส