ป่วยเป็นบูลิเมีย
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
สวัสดีค่ะ
ดิฉันมีปัญหาด้านสุขภาพ+จิตใจ ออกแนวจิตใจแล้วส่งผลต่อสุขภาพ คือ ดิฉันป่วยเป็นโรคบูลิเมีย หลายท่านคงไม่ทราบว่าโรคนี้คืออะไร
เล่าสั้นๆ ละกันนะค่ะ เป็นโรคที่คนกลัวอ้วน แต่ชอบทาน คือจะทานเยอะแต่หลังจากทานก็รู้สึกผิดว่าไม่น่าทานเลยจึงหาวิธีกำจัดออก
เช่น อาเจียนให้หมดหรือวิธีอื่นแล้วแต่
ฉันเป็นมาเกือบ 2-3 ปีแล้ว แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย ดิฉันไม่ใช่คนอ้วนนะ แต่กลัวอ้วน
กินอะไรก็นึกว่ามันจะทำให้อ้วนไปหมด แต่มันก็อาจเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
แล้วก็อาการหนักเข้าไปใหญ่ คือ ทุกอย่างที่ทานก็เอาออกหมดเลย รู้สึกเพลียไม่มีแรง
ปล.โรคเดียวกับนักร้องสาวของวง Carpenter เป็น(นึกชื่อไม่ออกค่ะ) แล้วเสียชีวิต ไม่อยากตาม she ไปอะ
จะเลิกยังๆไงดีค่ะ ช่วยคิดหน่อยสิค่ะ
ดิฉันมีปัญหาด้านสุขภาพ+จิตใจ ออกแนวจิตใจแล้วส่งผลต่อสุขภาพ คือ ดิฉันป่วยเป็นโรคบูลิเมีย หลายท่านคงไม่ทราบว่าโรคนี้คืออะไร
เล่าสั้นๆ ละกันนะค่ะ เป็นโรคที่คนกลัวอ้วน แต่ชอบทาน คือจะทานเยอะแต่หลังจากทานก็รู้สึกผิดว่าไม่น่าทานเลยจึงหาวิธีกำจัดออก
เช่น อาเจียนให้หมดหรือวิธีอื่นแล้วแต่
ฉันเป็นมาเกือบ 2-3 ปีแล้ว แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย ดิฉันไม่ใช่คนอ้วนนะ แต่กลัวอ้วน
กินอะไรก็นึกว่ามันจะทำให้อ้วนไปหมด แต่มันก็อาจเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
แล้วก็อาการหนักเข้าไปใหญ่ คือ ทุกอย่างที่ทานก็เอาออกหมดเลย รู้สึกเพลียไม่มีแรง
ปล.โรคเดียวกับนักร้องสาวของวง Carpenter เป็น(นึกชื่อไม่ออกค่ะ) แล้วเสียชีวิต ไม่อยากตาม she ไปอะ
จะเลิกยังๆไงดีค่ะ ช่วยคิดหน่อยสิค่ะ
- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
ลองปรึกษาจิตแพทย์ดูนะครับ
ขอพระอวยพร แล้วจะภาวนาช่วยครับ
ขอพระอวยพร แล้วจะภาวนาช่วยครับ
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
อ๋อ ให้หลอกตัวเอง หนีความจริงใช่ปะค่ะ 55555แบกะดิน เขียน: อาจจะเปลี่ยนความคิดการกินดู
ให้คิดว่ายิ่งกินยิ่งผอม 555 (อาหารมีประโยชน์เท่านั้นน้ะจ๊ะ)
แล้วจากเดิมที่ผอมกลายเป็นอ้วนใหญ่ 55555
ขอบคุณทุกคนค่ะ สำหรับข้อเสนอแนะและคำภาวนา จะลองดูค่ะ
เคยอ่านเจอ ไม่ทราบที่ไหนนานมากแล้วJacqueline เขียน: สวัสดีค่ะ
ดิฉันมีปัญหาด้านสุขภาพ+จิตใจ ออกแนวจิตใจแล้วส่งผลต่อสุขภาพ คือ ดิฉันป่วยเป็นโรคบูลิเมีย หลายท่านคงไม่ทราบว่าโรคนี้คืออะไร
ฉันเป็นมาเกือบ 2-3 ปีแล้ว แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย ดิฉันไม่ใช่คนอ้วนนะ แต่กลัวอ้วน
จะเลิกยังๆไงดีค่ะ ช่วยคิดหน่อยสิค่ะ
น้องกลัวอ้วน เพราะสังคมกำหนดว่า
คนผอมจะสวย คนอ้วนไม่สวย
ลองดูภาพคนที่อ้วนท้วน เก่ง ประสบความสำเร็จ มาดู
และมองหาความงามของเขาเหล่านั้น
(ทุกคนงามหมดไม่ว่า อ้วนหรือผอม เราโดนสังคมหลอก)
และบอกตัวเองว่า เขายังอ้วนกว่าฉัน เขาก็เก่ง เป็นที่นับหน้าถือตา
ไม่เห็นต้องผอมเลย ไม่เคยมีใครไปถามนน.เขา
แล้วจะเป็นอะไรถ้าฉันจะมีน้ำหนักเพิ่มอีกสักหน่อย
อ้วนก็สวยได้ อ้วนก็เก่งได้ เชื่อพี่เถอะ
และถ้าจะอ้วนบ้างจะเป็นอะไรไป
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
มันก็จริงนะค่ะตามที่พี่บอก แต่ว่าในสังคมปัจจุบัน เราก้อมองว่าคนอ้วนเค้าไม่สวยเท่าคนผอม จริงป่าวค่ะ
งั้นลองเอาคนมากสัก 10 คนแล้วถามว่าชอบคนอ้วนหรือผอมมากกว่ากัน น้องว่าคนผอมมากกว่าน้าค่ะ
อันนี้ไม่ได้แย้งพี่นะค่ะแต่ว่า มันเป็นความรู้สึกของน้องแล้วมันก็น่าจะเป็นอย่างงั้น (ไม่รู้สิค่ะ)
น้องไม่ได้อ้วนเลยค่ะ(น่าจะน่า)แต่แค่กลัวเฉย ๆ ตอนนี้น้ำหนัก 48 คิดว่าเป็นไงค่ะ 55
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิด
งั้นลองเอาคนมากสัก 10 คนแล้วถามว่าชอบคนอ้วนหรือผอมมากกว่ากัน น้องว่าคนผอมมากกว่าน้าค่ะ
อันนี้ไม่ได้แย้งพี่นะค่ะแต่ว่า มันเป็นความรู้สึกของน้องแล้วมันก็น่าจะเป็นอย่างงั้น (ไม่รู้สิค่ะ)
น้องไม่ได้อ้วนเลยค่ะ(น่าจะน่า)แต่แค่กลัวเฉย ๆ ตอนนี้น้ำหนัก 48 คิดว่าเป็นไงค่ะ 55
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิด
อย่ายอมให้สังคมเป็นผู้กำหนดเราJacqueline เขียน: มันก็จริงนะค่ะตามที่พี่บอก แต่ว่าในสังคมปัจจุบัน เราก้อมองว่าคนอ้วนเค้าไม่สวยเท่าคนผอม จริงป่าวค่ะ
งั้นลองเอาคนมากสัก 10 คนแล้วถามว่าชอบคนอ้วนหรือผอมมากกว่ากัน น้องว่าคนผอมมากกว่าน้าค่ะ
อันนี้ไม่ได้แย้งพี่นะค่ะแต่ว่า มันเป็นความรู้สึกของน้องแล้วมันก็น่าจะเป็นอย่างงั้น (ไม่รู้สิค่ะ)
น้องไม่ได้อ้วนเลยค่ะ(น่าจะน่า)แต่แค่กลัวเฉย ๆ ตอนนี้น้ำหนัก 48 คิดว่าเป็นไงค่ะ 55
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิด
พระไม่เลือกรักคนผอมหรืออ้วน
ความเป็นมนุษย์ไม่ใช่อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอก
อยู่ที่เกียรติภูมิของเรา
(จากคนอ้วน)
ลองไปปรึกษาบราเดอร์ซาเลเซียนท่านหนึ่งสิครับ ปกติท่านจะอยู่ที่วัดดอนบอสโก ท่านมีพระพรพิเศษในด้านการรักษา แต่ต้องใช้เวลาต่อเนื่องหน่อย มีรุ่นน้องที่ผมรู้จักคนหนึ่งป่วยเป็นโรคตรงกันข้ามกับคุณ เขาไม่กลัวอ้วน ไม่กลัวผอม แต่จะกินแหลก กินๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่อ้วน ร่างกายเธอเผาผลาญมันยังไงไม่รู้ เธอกินๆ แม่ของเธอขายข้าวแกง เธอไปช่วยล้างจาน ถ้ามีของเหลือติดจานเธอยังต้องกินมัน เธอไปหาบราเดอร์ท่านนี้และรักษาจนทุเลา(จะหายขาดหรือไม่ ไม่ทราบเพราะว่าผมย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียก่อน แต่ว่าตอนที่ยังติดต่อกันอยู่แม่เธอยืนยันว่าเธอทุเลาลงเยอะ)Jacqueline เขียน: สวัสดีค่ะ
ดิฉันมีปัญหาด้านสุขภาพ+จิตใจ ออกแนวจิตใจแล้วส่งผลต่อสุขภาพ คือ ดิฉันป่วยเป็นโรคบูลิเมีย หลายท่านคงไม่ทราบว่าโรคนี้คืออะไร
เล่าสั้นๆ ละกันนะค่ะ เป็นโรคที่คนกลัวอ้วน แต่ชอบทาน คือจะทานเยอะแต่หลังจากทานก็รู้สึกผิดว่าไม่น่าทานเลยจึงหาวิธีกำจัดออก
เช่น อาเจียนให้หมดหรือวิธีอื่นแล้วแต่
ฉันเป็นมาเกือบ 2-3 ปีแล้ว แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย ดิฉันไม่ใช่คนอ้วนนะ แต่กลัวอ้วน
กินอะไรก็นึกว่ามันจะทำให้อ้วนไปหมด แต่มันก็อาจเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
แล้วก็อาการหนักเข้าไปใหญ่ คือ ทุกอย่างที่ทานก็เอาออกหมดเลย รู้สึกเพลียไม่มีแรง
ปล.โรคเดียวกับนักร้องสาวของวง Carpenter เป็น(นึกชื่อไม่ออกค่ะ) แล้วเสียชีวิต ไม่อยากตาม she ไปอะ
จะเลิกยังๆไงดีค่ะ ช่วยคิดหน่อยสิค่ะ
บราเดอร์ท่านจะพักอยู่ที่ห้องพักด้านหลังวัดดอนบอสโกตรงถนนเพชรบุรี ไปช่วงเช้าๆหน่อย คนเยอะ ผมจำเวลาที่บราเดอร์รับคนมาเยี่ยมได้ไม่แม่นนัก แต่น่าจะประมาณเก้าโมงเช้านี่แหละ
ป.ล เรียกบราเดอร์แต่ว่าท่านสูงอายุพอสมควรแล้วครับ
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
กินแต่ผักเยอะๆครับ กินให้มันอ้วกกันไปข้างเลย!!! เพราะคิดว่าถ้าแค่พืชมันไม่น่าอ้วนอ่ะนะ
ปล. คติผม "อิ่ม" ดีกว่า "อด"
อิ่มตายสบายกว่าอดตาย(ตรงไหนวะ )
ปล. คติผม "อิ่ม" ดีกว่า "อด"
อิ่มตายสบายกว่าอดตาย(ตรงไหนวะ )
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
ชอบจังเลยคำเนีย 555 แต่ยังไงก้อกลัวอยู่ดี กลัวอ้วนIn the name of father เขียน: ปล. คติผม "อิ่ม" ดีกว่า "อด"
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
จะช่วยสวดให้นะครับ
น่าสงสารจังเลยค่ะยังไงก็จะช่วยสวดนะค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ผมก็ชอบทาน(ชอบมากๆ)แถมเป็นคนอ้วนง่ายมากด้วย เคยทำสถิติ 1 อาทิตย์น้ำหนักเพิ่มมา 5 โลมาแล้ว ทุกวันนี้ผมก็กินมากเท่าเดิมแต่ทว่าเลือกกินมากขึ้น และออกกำลังกายเอาครับ เช่นอยากกินกล้วยปั่นสุดชีวิตก็ทำกอนเองโดยใช้นมใขมัน 0% ใช้วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลเช่นคอร์นไซรับ(ใช้ใส่ผสมในเป๊ปซี่แมกซ์)แล้วก็ใช้กล้วยครึ่งลูกแทน หรืออยากกินชอกโกแลตก็ให้ทานดาร์คชอกโกแลตแทน เป็นต้นครับ
คงไม่ได้เป็นโรคเลือกกินไม่ได้ แล้วก็โรคกลัวการออกกำลังกายอีกใช่มั้ยครับ อิอิ
คงไม่ได้เป็นโรคเลือกกินไม่ได้ แล้วก็โรคกลัวการออกกำลังกายอีกใช่มั้ยครับ อิอิ
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
ขอบคุณทุกคนมากนะค่ะ
วันนี้เอาออกไปแล้ว 3 รอบ
เอาค่ะพรุ่งนี้จะสู้ใหม่ จะพยายามลดลง
วันนี้เอาออกไปแล้ว 3 รอบ
เอาค่ะพรุ่งนี้จะสู้ใหม่ จะพยายามลดลง
นักร้องวง Carpenter รู้สึกจะเป็น Anorexia นะคะ ไม่ใช่ Bulimia แต่ก็เป็น eating disorder เหมือนกัน
ต้องไปหาจิตแพทย์นะคะ ยาที่ใช้ก็เป็นพวกเดียวกับที่รักษาโรคซิมเศร้า และก็อารมณ์แปรปรวน คือสิ่งที่อยู่ในใจเรา มันก็แสดงออกมาทางพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติน่ะค่ะ และที่จริงต้องหาหมอหลายอย่างเลยล่ะ หาจิตแพทย์ หานักจิตบำบัด นักโภชนาการ ต้องมีคนให้กำลังใจด้วยเหมือนกัน
ต้องกินยานะคะ และก็ต้องให้กำลังใจตัวเองว่า เราจะต้องหาย ลองอ่านเรื่องราวของคนที่หายดูนะคะ น่าจะเป็นกำลังใจได้ดีค่ะ อย่าไปอ่านเรื่องคนที่ไม่หายนะคะ คิดแง่บวกไว้
สู้ๆนะคะ สวดให้นะ
ต้องไปหาจิตแพทย์นะคะ ยาที่ใช้ก็เป็นพวกเดียวกับที่รักษาโรคซิมเศร้า และก็อารมณ์แปรปรวน คือสิ่งที่อยู่ในใจเรา มันก็แสดงออกมาทางพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติน่ะค่ะ และที่จริงต้องหาหมอหลายอย่างเลยล่ะ หาจิตแพทย์ หานักจิตบำบัด นักโภชนาการ ต้องมีคนให้กำลังใจด้วยเหมือนกัน
ต้องกินยานะคะ และก็ต้องให้กำลังใจตัวเองว่า เราจะต้องหาย ลองอ่านเรื่องราวของคนที่หายดูนะคะ น่าจะเป็นกำลังใจได้ดีค่ะ อย่าไปอ่านเรื่องคนที่ไม่หายนะคะ คิดแง่บวกไว้
สู้ๆนะคะ สวดให้นะ
ไม่จริงครับJacqueline เขียน: มันก็จริงนะค่ะตามที่พี่บอก แต่ว่าในสังคมปัจจุบัน เราก้อมองว่าคนอ้วนเค้าไม่สวยเท่าคนผอม จริงป่าวค่ะ
งั้นลองเอาคนมากสัก 10 คนแล้วถามว่าชอบคนอ้วนหรือผอมมากกว่ากัน น้องว่าคนผอมมากกว่าน้าค่ะ
อันนี้ไม่ได้แย้งพี่นะค่ะแต่ว่า มันเป็นความรู้สึกของน้องแล้วมันก็น่าจะเป็นอย่างงั้น (ไม่รู้สิค่ะ)
น้องไม่ได้อ้วนเลยค่ะ(น่าจะน่า)แต่แค่กลัวเฉย ๆ ตอนนี้น้ำหนัก 48 คิดว่าเป็นไงค่ะ 55
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิด
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ชอบที่พี่ บัดดี้แนะนำ ฮะ
ชอบรูปที่พี่โฮลี่นำมาเผยแพร่ ดูไว้ฮะ พี่แจ๊คกี้ ระวังลมบ้าหมู พัด งับ
ความงามอยู่ที่จิตใจ ที่ยำเกรงพระเจ้า ไม่เชื่อถามเจ๊ฟีม
ชอบรูปที่พี่โฮลี่นำมาเผยแพร่ ดูไว้ฮะ พี่แจ๊คกี้ ระวังลมบ้าหมู พัด งับ
ความงามอยู่ที่จิตใจ ที่ยำเกรงพระเจ้า ไม่เชื่อถามเจ๊ฟีม
ประกวด America's Next Top Model ปีนี้ คนที่ได้นี่ (Whitney) อ้วนเลยนะคะ มีเนื้อมีหนัง ขาก็ใหญ่ แขนก็ใหญ่ แต่เค้ามั่นใจ และเอาความงามที่มีในตัวออกมา ตอนแรกเค้าก็ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน เค้ารู้สึกว่า เค้าไม่เหมือนใคร แต่เค้าก็มาประกวด และได้ตำแหน่ง
แต่เค้ามีความเป็นนางแบบ และเค้ารู้วิธีที่จะเอาความงามของเค้าออกมาให้คนอื่นเห็น โดยที่เค้าไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น พระเจ้าสร้างเรามาให้ทุกคนสวยงาม ในแบบของเรา อยู่ที่เราต้องหาให้เจอ และรู้จักนำความงามนั้นออกมา เค้าเชื่อว่า ทุกคนมีความงามในตัวเอง อยู่ที่เราจะดึงออกมายังไง เราต้องหาตรงนั้นให้เจอ
คนนี้เข้ารอบเหมือนกัน (Anya) แข่งเดินบน runway รอบสุดท้าย สวยนะ หน้าสวย แต่ผอมบาง เวลาเดินบน runway แล้วดูไม่แข็งแรง คะแนนก็เลยไปตกที่ Whitney แทน
แต่เค้ามีความเป็นนางแบบ และเค้ารู้วิธีที่จะเอาความงามของเค้าออกมาให้คนอื่นเห็น โดยที่เค้าไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น พระเจ้าสร้างเรามาให้ทุกคนสวยงาม ในแบบของเรา อยู่ที่เราต้องหาให้เจอ และรู้จักนำความงามนั้นออกมา เค้าเชื่อว่า ทุกคนมีความงามในตัวเอง อยู่ที่เราจะดึงออกมายังไง เราต้องหาตรงนั้นให้เจอ
คนนี้เข้ารอบเหมือนกัน (Anya) แข่งเดินบน runway รอบสุดท้าย สวยนะ หน้าสวย แต่ผอมบาง เวลาเดินบน runway แล้วดูไม่แข็งแรง คะแนนก็เลยไปตกที่ Whitney แทน
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:
ความงามอยู่ที่จิตใจ ที่ยำเกรงพระเจ้า ไม่เชื่อถามเจ๊ฟีม
เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็เปล่าประโยชน์ แต่สตรีที่ยำเกรงพระเจ้า สมควรได้รับการสรรเสริญ
ปล.ไม่รู้แนะนะอะไร เพราะผอม สวย ฮิ๊ววววววว...............
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ฮิ๊ววววววว:+: seraphim :+: เขียน:Jeab Agape เขียน:
ความงามอยู่ที่จิตใจ ที่ยำเกรงพระเจ้า ไม่เชื่อถามเจ๊ฟีม
เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็เปล่าประโยชน์ แต่สตรีที่ยำเกรงพระเจ้า สมควรได้รับการสรรเสริญ
ปล.ไม่รู้แนะนะอะไร เพราะผอม สวย ฮิ๊ววววววว...............
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
แหม คุณพี่ Holy ขา เอารูปมาหลอกกันซะน่ากลัวเลยนะค่ะ 555 หนูไม่ได้ต้องการจะผอมขนาดนั้น (แค่น้อง ๆ แบบนั้นก็ดี 5555555)
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากนะค่ะ ที่โดยรวมบอกกันว่า อ้วนก้อสวยได้ ไม่จำเป็นต้องผอม ใช่ป่าวค่ะ
โรคที่เรากำลังเผชิญอยู่เป็นโรคเรื้อรัง คงต้องใช้เวลาพอสมควร
โอเค ค่ะ จะพยายามเปลี่ยนแปลงความคิดดู
มาแสดงความคิดเห็นกันอีกนะค่ะ
ปล.อยากถามว่าน้ำหนัก 48 ส่วนสูง 165 เป็นไงบ้างอะค่ะ อ้วนไปไหม หรือโอแล้ว
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากนะค่ะ ที่โดยรวมบอกกันว่า อ้วนก้อสวยได้ ไม่จำเป็นต้องผอม ใช่ป่าวค่ะ
โรคที่เรากำลังเผชิญอยู่เป็นโรคเรื้อรัง คงต้องใช้เวลาพอสมควร
โอเค ค่ะ จะพยายามเปลี่ยนแปลงความคิดดู
มาแสดงความคิดเห็นกันอีกนะค่ะ
ปล.อยากถามว่าน้ำหนัก 48 ส่วนสูง 165 เป็นไงบ้างอะค่ะ อ้วนไปไหม หรือโอแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Jacqueline เมื่อ อังคาร พ.ค. 20, 2008 8:31 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
พฤติกรรมของคนกลัวอ้วนเกินเหตุที่อาจก่อให้เกิดโรค
พฤติกรรมแปลกๆที่เกิดขึ้นในการรับประทานอาหาร จะเริ่มต้นจากความพยายามอดอาหารอย่างเข้มงวด ไม่ยอมกินอะไรให้ใครเห็น ออกกำลังกายอย่างหักโหม กินยาลดน้ำหนัก หรือพอรับประทานอาหารเข้าไปมากก็จะรู้สึกผิด จากนั้นก็พยายามกินยาถ่าย หรือไม่ก็ล้วงคอให้ตัวเองอาเจียนออกมา ซึ่งจะแยกความผิดปกตินี้ออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. อะนอเร็กเซีย
สาเหตุของโรคนี้แท้จริงแล้วไม่ได้มีที่มาจากปัญหาการกินโดยตรง แต่เกิดจากปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ เนื่องจากผู้ป่วยมักเครียดหรือวิตกกังวลกับความอ้วนมากเกินไป และคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองอ้วน ทั้งที่จริงๆแล้วน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกำลังดี หรือบางรายก็ผอมอยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่ก็พยายามอดอาหารเพื่อให้ตัวเองผอมลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคเบื่ออาหารจากอาการทางจิต ร่างกายผอมแห้งและขาดสารอาหาร กระดูกและฟันไม่แข็งแรง เล็บเปราะ ผิวพรรณแห้งเหี่ยว ระบบย่อยและดูดซึมสารอาหารไม่ทำงาน ไปจนถึงหัวใจและไตเสื่อมสภาพการทำงาน
2. บูลิเมีย
สาเหตุมาจากความกลัวและวิตกกังวลเรื่องน้ำหนักตัว แต่แทนที่จะแสดงออกโดยการอดอาหาร กลับกลายเป็นแอบกิน และยิ่งกินมากเกินปกติ หนำซ้ำยังกินแต่อาหารชวนอ้วนๆที่ตัวเองชอบ แต่พอกินเข้าไปแล้วก็ไม่สบายใจ จนต้องหันไปพึ่งยาขับ ยาถ่ายต่างๆนานา หรือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองอาเจียนอาหารเหล่านั้นออกมาทันที ทั้งที่เพิ่งกินเข้าไป ซึ่งหากทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำ ร่างกายก็จะสูญเสียสมดุลของน้ำและแร่ธาตุ ระบบย่อยและดูดซึมสารอาหารทำงานผิดปกติ จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เพราะหัวใจและไตวาย
การเยียวยารักษาผู้ป่วยทั้งสองประเภท
เนื่องจากการป่วยด้วยโรคเหล่านี้มีสาเหตุมาจากอาหารทางจิตใจ ดังนั้นการเยียวยาผู้ป่วยจึงต้องเริ่มจากการตรวจสภาพปัญหาทางจิตใจและต้องให้การรักษาทางจิตบำบัด โดยการรักษาของแพทย์จต้องพยายามชี้แจงเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลับมารับประทานอาหารได้ตามปกติ
ส่วนใหญ่โรคนี้มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และมักจะเป็นผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือเลยวัยรุ่นมาไม่มากนัก หากเริ่มสังเกตเห็นคนใกล้ชิดมีความไม่มั่นใจกับรูปร่างของตัวเองอย่างหนัก อีกทั้งมีพฤติกรรมแปลกแบบผิดปกติในการทานอาหาร หรือพยายามลดน้ำหนักแบบผิดๆจึงควรรีบเตือนหรือให้คำแนะนำในทางที่ถูก
ไม่ใช่เพราะฮอร์โมนหรือกรรมพันธ์ แต่เป็นเรื่องของการกินล้วนๆ
แม้นักวิชาการจะเชื่อว่า แนวโน้มของความอ้วนหรือการมีน้ำหนักตัวเกินขนาดนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับกรรมพันธุ์ แต่กระนั้นก็ยังไม่เคยมีนักวิชาการท่านใดค้นพบยีนของโรคอ้วนในตัวมนุษย์เลย จากการสำรวจประวัติของคนอ้วนส่วนใหญ่ มักจะพบว่าสมาชิกในครอบครัวเดียวกันของคนอ้วนจะต้องมีคนที่อ้วนเหมือนกัน เป็นไปได้ว่า ความอ้วนนั้นเกิดจากการกินอยู่ทีเหมือนๆกัน รวมถึงการมีทัศนคติต่อการออกกำลังกายที่คล้ายๆกันก็เป็นได้
แต่ที่แน่ๆ สาเหตุของความอ้วนมักจะต้องมีที่มาจากการตามใจปากอย่างแน่นอน เพราะการกินอาหารที่เกินต่อความต้องการของร่างกายอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นประจำ อาหารส่วนเกินที่กินเข้าไปจะถูกแปรรูปเป็นไขมันไปสะสมพอกพูนอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคอ้วน ยิ่งนานวันก็ยิ่งยากที่จะลด
ทางลัดของการลดความอ้วน อาจเป็นทางที่ "ไปไม่กลับ"
ถึงแม้คนอ้วนจะตระหนักว่า ความอ้วนเกิดจากการกินตามใจปากจนเกิดการสะสมของไขมัน แต่เกือบทุกคนก็อยากจะขจัดความอ้วนออกไปให้ได้ภายในเวลาอันสั้น บางคนก็เลือกวิธีอดอาหารอย่างเคร่งครัด หรือใช้วิธีการกินแบบแปลกๆและผิดๆ จนกลายเป็นโรคอะนอเร็กเซีย หรือบูลิเมีย นอกจากนี้คนอ้วนหรือที่คิดว่าตัวเองอ้วนอีกหลายคนที่หันไปใช้วิธีลัดด้วยการพึ่งยาลดความอ้วน โดยไม่ยอมปรับปรุงพฤติกรรมการกินอาหารของตนเอง และมักจะต้องเผชิญกับปัญหาที่ตามมาคือ เมื่อหยุดยานั้นแล้วน้ำหนักกลับยิ่งเพิ่มขึ้น หรือเกิดผลข้างเคียงจากาการใช้ยาอย่างรุนแรง เช่นเป็นโรคนอนไม่หลับ ใจสั่น กระวนกระวาย ฟุ้งซ่าน ความคิดสับสน เสพติดยาลดความอ้วนจนกระทั่งสมองเสื่อม หรือถึงขั้นเสียชีวิต
โดยปกติแล้วการจ่ายยาลดความอ้วน แพทย์ที่มีจรรยาบรรณจะจ่ายให้แต่เฉพาะกับผู้ป่วยที่ปัญหาสุขภาพอันเกิดจากความอ้วนเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง หรือถ้าปล่อยให้อ้วนต่อไปอาจเป็นโรคปวดหลังและปวดเข่าเรื้อรังจนเดินไม่ได้ ซึ่งยาลดความอ้วนที่แพทย์จ่ายให้ก็จะเป็นยาลดความอยากอาหาร ยาเพิ่มการใช้พลังงาน ยาต้านการย่อยอาหาร หรือยาต้านการดูดซึมไขมัน แต่การใช้ยาเหล่านี้จะต้องทำร่วมกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเองด้วย
วิธีการคิดคำนวนว่าคุณอยู่ในเกณฑ์อ้วนหรือไม่
แพทย์จะใช้ค่าดัชนีมวลร่างกาย (Body Mass Index) หรือที่เรียกสั้นๆว่า BMI เป็นตัวชี้วัด ค่านี้จะคำนวณโดยากรใช้น้ำหนักตัว (หน่วยเป็นกิโลกรัม) เป็นตัวตั้ง จากนั้นหารด้วยส่วนสูงยกกำลังสอง (หน่วยเป็นเมตร) แล้วปัดให้ทศนิยมหนึ่งตำแหน่ง (เศษตั้งแต่ 5 ปัดขึ้น ส่วนเศษต่ำกว่า 5 ให้ปัดทิ้ง) เช่นผู้ที่หนัก 60 กิโลกรัม สูง 1.6 เมตร คำนวณค่าBMI โดยนำ 60 ตั้งแล้วหารด้วย 2.6(1.6x1.6) ค่าที่ได้เท่ากับ 23.1 ปัดเป็น 23
ค่าดัชนีมวลร่างากาย
ต่ำกว่า 20 น้ำหนักน้อยเกินไปอาจเสี่ยงต่อโรคผอมแห้ง
20 - 25 น้ำหนักเหมาะสมเพื่อการมีสุขภาพดี
26 - 60 น้ำหนักมากเกินไป
มากกว่า30 ถือว่าเป็นโรคอ้วน
ที่มา ผู้หญิงนะค่ะ
- ~KaThaRoS~
- โพสต์: 792
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
- ที่อยู่: Bkk
- ติดต่อ:
เหอๆสู้ๆนะค่ะ
เราก็กลัวอ้วน แต่ไม่ถึงกลับเป็นพวก eating disorder หรอก
ตอนแรกน้ำหนัก65 ตอนนี้ลดลงมา55 ภายใน1เดือน พี่ๆพยาบาลรอบข้างก็เลยเตือนว่าอย่าลดมาก
เด๋วร่างกายจะเสียสมดุล...เราก็ยังมองตัวเองว่าโคตรอ้วนอยู่
แต่แฟนเราบอกว่าพระสร้างให้คนเราสวยในแบบของเรา ไม่จำเป็นต้องผอมให้มันดูดีมาก แต่เราเป็นตัวของตัวเอง
แค่เราเป็นเราเองก็พอแล้ว อย่าไปใส่ใจสังคมรอบข้างที่ตั้งกรอบเอาไว้..แต่ไม่อ้วนมากให้มันเป็นโรคก็พอแล้ว
...แรกๆก็กลัวจะเป็นไอ้โรคพวกนี้เหมือนกัน แต่เราเรียนมาด้านจิตวิทยา เราจะกลายเป็นโรคจิตเองมันก็คงไม่ดีแน่ๆ
ก็เลยพยายามดึงตัวเองออกมาไม่ให้ไปไกลกว่านี้..ช่วงแรกๆเราก็เป็นเหมือนกัน กินๆๆๆแล้วก็อ้วกออกหมด
ช่วงหลังๆจะไม่กินอะไรเลย จนเป็นโรคกระเพราะ แล้วก็โดนแฟนด่า เลยเริ่มคิดได้
การรักษาค่อนข้างใช้เวลามากด้วยล่ะค่ะ อย่างที่พี่บัดดี้บอก
แนวโน้มสังคมทุกวันนี้มีคนเป็นโรคกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นทุกปีๆ
เพื่อนเราที่เรียนคณะเดียวกันมันก็ยังเป็นเลย ต้องพามันไปรักษา น่าสงสารมากๆ
แค่เราพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นก็พอแล้วล่ะค่ะ
เราก็กลัวอ้วน แต่ไม่ถึงกลับเป็นพวก eating disorder หรอก
ตอนแรกน้ำหนัก65 ตอนนี้ลดลงมา55 ภายใน1เดือน พี่ๆพยาบาลรอบข้างก็เลยเตือนว่าอย่าลดมาก
เด๋วร่างกายจะเสียสมดุล...เราก็ยังมองตัวเองว่าโคตรอ้วนอยู่
แต่แฟนเราบอกว่าพระสร้างให้คนเราสวยในแบบของเรา ไม่จำเป็นต้องผอมให้มันดูดีมาก แต่เราเป็นตัวของตัวเอง
แค่เราเป็นเราเองก็พอแล้ว อย่าไปใส่ใจสังคมรอบข้างที่ตั้งกรอบเอาไว้..แต่ไม่อ้วนมากให้มันเป็นโรคก็พอแล้ว
...แรกๆก็กลัวจะเป็นไอ้โรคพวกนี้เหมือนกัน แต่เราเรียนมาด้านจิตวิทยา เราจะกลายเป็นโรคจิตเองมันก็คงไม่ดีแน่ๆ
ก็เลยพยายามดึงตัวเองออกมาไม่ให้ไปไกลกว่านี้..ช่วงแรกๆเราก็เป็นเหมือนกัน กินๆๆๆแล้วก็อ้วกออกหมด
ช่วงหลังๆจะไม่กินอะไรเลย จนเป็นโรคกระเพราะ แล้วก็โดนแฟนด่า เลยเริ่มคิดได้
การรักษาค่อนข้างใช้เวลามากด้วยล่ะค่ะ อย่างที่พี่บัดดี้บอก
แนวโน้มสังคมทุกวันนี้มีคนเป็นโรคกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นทุกปีๆ
เพื่อนเราที่เรียนคณะเดียวกันมันก็ยังเป็นเลย ต้องพามันไปรักษา น่าสงสารมากๆ
แค่เราพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นก็พอแล้วล่ะค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เมื่อเป็นโรค ก็ต้องรักษา คร้าบ เราคริสต์ ก็มีแพทย์ เที่ยงแท้ คือพระเยซูคริสต์ ทูลวิงวอน ขอพระเมตตาของพระองค์
ให้พี่แจ๊คกี้ ผ่านพ้นวิฤติ นี้ไปได้ ฮะ
ให้พี่แจ๊คกี้ ผ่านพ้นวิฤติ นี้ไปได้ ฮะ
ยังกะซอมบี้ ::010::