สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ชีวิตคือพระครัสเจ้าคำกล่าวของนักบุญเปาโล
นี้แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ่งของท่านที่มีต่อพระเจ้า ว่าท่านรับรู้ได้ถึงคำว่าพระ้เจ้า ได้โดยจิตวิญญาผ่านทางการประจักษ์ที่ดามัสกัส ท่านไม่ได้เปลี่ยนแค่ศาสนาเพราะศาสนาอาจเปลี่ยนได้ในชั่วข้ามคืน แต่ท่านเปลี่ยนถึงจิตวิญญาของท่านให้แ่ก่พระที่ท่านเคยทำร้าย แน่นอนการรเปลี่ยนแปลงของท่านทำให้คนทั่วไปเกิดข้อกังขา ว่าที่จริงท่านเป็นคริสชนจริงหรือ มีแต่ท่านที่แน่นอนในใจว่าท่ายเป็นคริสชนแล้ว ท่านอุทิสตนเพื่อคริสชนทุกที่และเป็นมรณะสักขีในที่สุดโดนประหารโดยตัดคอ ที่โรม
ความตายของท่านบอกอะไรแก่เรา สำหรับผมแล้วมันบอกว่าเราต้องแสวงหาพระเจ้าในใจของเรา ทบทวนถึงชีวิตซิว่าเราพบพระในชีวิตของเราหรือยัง นั้นจะทำให้เรารับรู้ว่าที่แท้เรามีพระอยู่กับเราหรือเปล่าที่ผ่านมาในชีวิต หากยังไม่พบแล้วชีวิตที่เหลือละ จะปล่อยให้มันเป็นความศัทธาที่ว่างเปล่าต่อไปหรือ แน่นอนไม่มีใครที่จะอยากให้ชีวิตตนเองว่างเปล่า ฉะนั้นเราจงแสวงหาให้พบเถิดว่าที่แท้เราพบพระเจ้าที่ใด พระเจ้าเป็นอะไรสำหรับเรา พระองค์อยู่ที่ใดเมื่อเรามีทุกข์ แล้วอยู่ที่ใดเมื่อเราเป็นสุข ในสังคมละเราพบพระหรือยัง ในตัวเรามีพระในใจหรือเราเป็นพระวิหารของพระเจ้าแน่แล้ว หรือขับไล่พระองค์ออกไปให้คำจำกัดพระองค์ในวัด ในพระคำภีร์หรือศาสนาภันต์เท่านั้น หรือเราพบพระแล้วในชีวิตเพื่อเราจะสามารถเอ่ยวจีไปพร้อมๆกับท่านนักบุญเปาโลได้่วา สำหรับข้าพเจ้าแล้วพระคริสคือชีวิตของข้าพเจ้า
ขออวยพรมาในนามของนักบุญเปาโลครับ
ท่านพบพระเจ้าในชีวิตหรือยัง
แก้ไขล่าสุดโดย tan เมื่อ ศุกร์ ก.ย. 05, 2008 12:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ธิดาผู้รับใช้...
- โพสต์: 30
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 05, 2008 2:38 pm
- ที่อยู่: nakornratchasima diocese
- ติดต่อ:
สำหรับลูกพระองค์มิได้อยู่ในวัด ในตู้ศีลเสมอไป แต่พระองค์อยู่เคียงข้างลูกเสมอ.... นี่คือสิ่งที่ผมใด้จากการเข้าเงียบ ที่อารามกาปูชินของผมคับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พบพระแล้วครับ แต่ยังดำเนินชีวิตได้ไม่ดีพอที่จะพบเอง
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
หลายคนพบแล้วแต่ว่าแบกกางเขนไม่ไหวเลยเลิกไปก็เยอะ ยังดีที่ศาสนาเรากินหมูได้ถ้าไม่เช่นนั่นกางเขนจะหนักกว่านี้แบกไปก็เลิกกันไปทีละคนสองคนบ่นว่าหนักเหลือเกินพระเยซูช่วยให้กางเขนเบาหน่อยได้ไหมข้าพระองค์แบกไม่ไหวอยู่แล้ว ในที่สุดคนที่แบกไปถึงเส้นชัยมีไม่กี่คนเพราะเลิกกันไปหมด
แก้ไขล่าสุดโดย Jack Sparrow เมื่อ เสาร์ ก.ย. 06, 2008 1:27 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ผมคิดว่าผมแบกไหวครับ
เพราะผมนำพระเยซูเป็นแบบอย่างครับ
เพราะผมนำพระเยซูเป็นแบบอย่างครับ
"จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พักJack Sparrow เขียน: หลายคนพบแล้วแต่ว่าแบกกางเขนไม่ไหวเลยเลิกไปก็เยอะ ยังดีที่ศาสนาเรากินหมูได้ถ้าไม่เช่นนั่นกางเขนจะหนักกว่านี้แบกไปก็เลิกกันไปทีละคนสองคนบ่นว่าหนักเหลือเกินพระเยซูช่วยให้กางเขนเบาหน่อยได้ไหมข้าพระองค์แบกไม่ไหวอยู่แล้ว ในที่สุดคนที่แบกไปถึงเส้นชัยมีไม่กี่คนเพราะเลิกกันไปหมด
ด้วยว่า แอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา"
...
พระเยซูไม่เคยให้ภาระเราหนักเกินไปครับ พระองค์แน่ใจว่าเราทนได้ ถึงให้อุปสรรคเรามาแบบนี้
คนที่ละทิ้งกางแขนของตัวและไม่ยอมอดทน ก็ไม่คู่ควรจะเป็นศิษย์ของพระเยซูครับ
กินหมูไม่ใช่ประเด็นแต่อย่างใด เพราะคนเหล่านั้นเค้าก็ปฎิบัติด้วย "ใจ"
ยังดีกว่าที่เราอดเนื้ออดอาหารตามเทศกาลแล้วก็มาบ่นหิวทั้งวัน เหมือนไม่เต็มใจทำ
พบเเล้ว เเต่ไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนหลอกนะครับ เเต่ที่ yack เห็นก็คือความรักของพระที่มีต่อ yack เเละคนอื่นๆ ในพระคือความรัก yack ก็อธิบายไม่ถูกเเต่ yack เชื่อว่าพระอยู่กับเราตลอดเวลาเลย เเล้ว yack ก็จะเเบกกางเขนเดินตามพระองค์ จนกว่าวันเวลาของ yack จะสิ้นสุดลง yack อาจไม่ใช่คนดีมากนักเพราะ yack ล้มต่อบาปอยู่บ่อยๆ เเต่yack ก็รู้ว่าพระ คอยช่วยอยู่ตลอดเเละพระองค์เสียใจทุกครั้งที่เราทำบาป เเต่พระองค์ก็ให้อภัยทุกครั้ง yack คิดว่านี่เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด yack ไม่เคยได้รับความรักจากใครที่ยิ่งใหญ่เท่านี้เลย ทำให้ yack รักพระเพราะพระรักเราดดยไม่มีเงื่อนใข