รู้สึกหมดศรัทธา...

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
Maria Magdalena
โพสต์: 1946
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
ที่อยู่: On this earth obviously

พุธ พ.ย. 05, 2008 5:48 pm

หลังจากหนีหายไป เพื่อรักษาแผลในใจ
บูกลับมานั่งๆคิดดู
ทำไมตัวเองถึงรู้สึกแบบนี้นะ
บูหมดหวัง ศรัทธาที่เคยมีอยู่เต็มร้อย กลับเลือนหายไป
ตอนนี้บู แบบว่าไม่มีหวังในอะไรแล้ว
ปีหน้าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดบูจะได้ล้างบาปซักที หลังจากรอมานาน
แต่บูกลับไม่ดีใจเลย หรือว่าอย่างน้อย ตั้งหน้าตั้งตารอคอย
บูกลับคิดว่า บูไม่สมควรจะเป็นลูกพระแล้ว หลังจากสิ่งที่ทำมาทั้งหมด
พระก้อคงไม่รักบูแล้วละมั้ง???
คุณพ่อคนนึงพูดกะบูไว้ว่า พระยังอยู่กับบูเสมอนะ
แต่ทำไมละ ทำไม บูกลับไม่รู้สึกเลย
ทำไมต้องอยู่กับบูด้วย ทำไมไม่ปล่อยให้บูไปซักทีนะ
สิ้นหวัง หมดหวัง ท้อแท้
เคยมีใครซักคนมั๊ยหันลงมามองกันบ้าง
บูไม่อยากอยู่ต่อไปแล้วล่ะ
นิเป็นครั้งที่ร้อยที่บ่น เป็นหลายครั้งที่ลงมือทำ
แต่ก้อไม่ยักกะตาย
พระต้องการให้บูอยู่ไปเพื่ออะไรเหรอ
บูมันก้อแค่เศษสวะนึง เท่านั้นเอง
ไม่ดีเลิศ ไปกว่าใคร
จะมีประโยชน์อะไร?
บูใช้เวลาหลายเดือนค้นหาคำตอบ
แต่ก้อ ไม่เคยได้คำตอบ
ทุกอย่างอยู่ครึ่งๆกลางๆอย่างนี้

บ่นมากอีกแล้ว
แต่ทุกที มันก้อวนมาเป็นเรื่องเดิมๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ พ.ย. 05, 2008 5:55 pm

พระเจ้ารักบูเสมอนะครับ

ไม่เช่นนั้นบูจะยังมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้ได้หรือ

ผู้ที่รักเรา มีหรือจะปรารถนาให้เราตาย

พระเจ้าเคยตรัสเอาไว้มิใช่หรือ ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าของคนเป็น มิได้เป็นพระเจ้าของคนตาย

หากบูคิดว่าตัวเองเป็นเศษสวะ แล้วบูลองมองโลกนี้กว้าง ๆ แล้วถามว่า คนอีกหลายคนที่นำศาสนาของพระผู้ยิ่งใหญ่ไปหากิน เหยียดหยามคนอื่น และทำให้เสื่อมลงทุกวี่ทุกวันพวกนั้น ควรเรียกว่าอะไร

จงจำไว้เสมอว่า พระเจ้าของเราทรงครอบครองทุกอย่าง แม้กระทั่งความเป็นและความตายของพวกเราทุกคน

ผมเชื่อว่า บูยังมีค่าเสมอ และบูจะต้องสำแดงความเป็นลูกพระให้ทุกคนได้เห็น ทั้งจิตใจและการกระทำ

พระเจ้ายุติธรรมเสมอครับ
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

พุธ พ.ย. 05, 2008 7:49 pm

พระบิดาเจ้า ทรงรักบูมาก  มากเกินกว่าที่จะยอมให้บูต้องจากพระองค์ไป  มากเกินกว่าที่บูจะเข้าใจ

พระองค์จึงทรงยื่นพระหัตถ์มาดึงรั้งเอาไว้เสมอ  ทรงรอคอยให้บูก้าวข้ามอุปสรรคและขวากหนามทุกสิ่ง เพื่อมาอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์  มาเป็นลูกของพระองค์ด้วยความยินดีและเต็มใจ

พระผู้เป็นเจ้า ทรงคิดอย่าง พระผู้เป็นเจ้า  แต่  มนุษย์ คิดอย่าง มนุษย์  บางทีเราก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่พระองค์ทรงคิดและจัดวางหลายสิ่งหลายอย่างไว้ในชีวิตให้เราหรอก  สิ่งที่เราควรทำคือ รักพระองค์จดหมดหัวใจของเรา  และพยายามก้าวเข้าไปอยู่ใกล้ชิดพระองค์ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้

พระองค์ทรงเป็น  พระผู้เป็นเจ้า , พระผู้เป็นบิดา , พระผู้เป็นพี่ , พระผู้เป็นเพื่อน , พระผู้เป็นอาจารย์ , พระผู้เป็นที่ปรึกษา , พระผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเรา

พยายามก้าวเข้าไปหาพระองค์ให้ได้นะคะ  จะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ  และจะคิดถึงบูในคำภาวนานะคะ
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ พ.ย. 05, 2008 11:39 pm

คิดให้ดี
ถ้าคิดและไตร่ตรองดีแล้ว
มั่นใจ และทำในสิ่งที่ตัวเองเป็น ตัวเองเชื่อ

แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับการก้าวต่อไป

หยุดคิดน่ะได้
แต่อย่านานเกินไป...เพราะจะทำให้เราอ่อนแรง


เรามีผลึกและคำตอบของตัวเองแล้ว
เชื่อมั่นตัวเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 06, 2008 12:23 am

แล้วนอกจากบูจะแคร์แค่ความรู้สึกตัวเอง พยายามทำในสิ่งที่คิดเอง เออเอง
บูเคยแคร์พระเจ้าบ้างมั้ย เคยถามพระเจ้าบ้างมั้ยว่าคิดยังไง รู้สึกยังไง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Trinity
โพสต์: 147
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 06, 2008 2:00 am

พฤหัสฯ. พ.ย. 06, 2008 2:15 am

แม้แต่นกกระจอกพระเจ้ายังทรงเลี้ยงดู บูประเสิรฐ กว่านกกระจอกมากนัก บูว่าตัวเองไม่ดี พระไม่รัก บูได้ข่มเหงคริสตชน เหมือนที่ ท่านนักบุญเปาโลทำไหม แม้แต่ท่านนักบุญเปาโลที่เคยชื่อเซาโล พระเจ้าก็ยังรักและให้อภัย จนได้มาเป็นอัครสาวกเป็นนักบุญของพระเจ้า บูได้แทงพระเยซูที่สีข้างของพระองค์ หรือ โบยตีพระองค์ และจับพระองค์ตรึงกางเขนไหม เพราะคนเหล่านั้น พระองค์ยังทรงให้อภัย หรือบูได้ปฏิเสธพระเจ้า 3ครั้งเหมือนที่นักบุญเปโตรทำก่อนไก่ขันไหม แต่พระเจ้าก็ให้อภัย มีอะไรที่พระเจ้าให้อภัยไม่ได้บ้าง ถ้าเพียงเรากลับใจ แม้บาปเราจะเป็นสีแดงเหมือนเลือดพระเจ้าก็จะทำให้ขาวบริสุทธิ์ บูอยู่เพื่ออะไร นั่นคือสิ่งที่บูต้อง สวดภาวนา ถามเอากับพระเจ้า นะ เป็นกำลังใจให้ครับ
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

ศุกร์ พ.ย. 07, 2008 3:31 pm

ลูกเป็ดขี้เหร่ แม้จะดูน่าเกลียดน่าชังในสายตาคนอื่นมากแค่ไหน
แต่ในสายตาแม่เป็ด มันก็ก็ยังเป็นลูกเป็ดที่น่ารักอยู่วันยังค่ำ

เราเองก็เช่นกัน แม้ว่าเราจะเป็นคนบาปหนา หรือถูกมองว่าชั่วร้ายยังไงพระเป็นเจ้าก็รักเราเสมอ
พระองค์ไม่ได้รักเราเพราะเราดีกว่าคนอื่น แต่ทรงรักเราเพราะเราคือลูกของพระองค์


ไม่ว่าข้าพเจ้าจะรู้สึกอย่างไร เป็นใครมาจากไหน เคยทำอะไรไว้ คิดว่าตัวเองทำบาปมากขนาดไหน ห่างไกลจากพระแค่ไหน ทำให้ชีวิตเหลวแหลกขนาดไหน แต่ก็มีอย่างหนึ่งที่แน่นอนไม่เปลี่ยนแปลงคือพระเจ้าทรงรักข้าพเจ้า ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ข้าพเจ้า ไม่เคยสิ้นหวัง เพราะพระองค์ทรงรักข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเพียงแต่ยอมรับด้วยความกตัญญู และนี่คือความสมบูรณ์ของชีวิตข้าพเจ้า นี่แหละคือตัวข้าพเจ้า และความชื่นชมยินดี

"ท่านไม่เข้าใจหรือว่าพระเจ้าทรงตามหาท่านทั้งวันทั้งคืนราวกับว่าไม่มีอะไรทำ ในพระทัยพระองค์มีแต่ท่าน" (นักบุญแคทธารีนแห่งเซียนา)

(ที่มา : John Fuellenbach, ประกายแห่งชีวิต, เรียบเรียงโดย ชาติ ชลทิศ และ ไข่มุก สวัสดิ์ภักดี (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์พระมหาไถ่, 2546), 20.)


พระเจ้าทรงรักบูอย่างไม่มีเงื่อนไข...
ทีนี้ บูลองถามตัวเองซิว่า บูรักพระองค์เพราะอะไร??


นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูกล่าวไว้ว่า...

"แท้จริงพระเป็นเจ้าทรงทดลองใจคนที่มีความเข้มแข็งมากกว่า เพราะพระองค์เชื่อในความซื่อสัตย์แห่งความรักของเขานั่นเอง...พระเยซูทรงสอนดิฉันว่า สำหรับคนที่มีความเชื่อน้อยเท่าเมล็ดผัก พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ช่วยให้เขาแข็งแรงขึ้น แต่สำหรับสหายสนิทของพระองค์และมารดา พระองค์ทรงทดสอบความเชื่อของเขาก่อน แล้วจึงค่อยทำอัศจรรย์ภายหลัง...พระองค์ไม่อยากให้เรารักพระองค์ เพราะเห็นแก่พระคุณที่ทรงประทาน แต่ตัวพระองค์เองนั่นแหละต้องเป็นรางวัลของเราค่ะ"

(ที่มา : จิตตารมณ์ของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู, ถอดความโดย คุณพ่อ ป.ศรีนวล ศรีวรกุล (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์เทพนิมิตการพิมพ์, 2529), 80-81.)


********************

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการมองโลกของบู ว่าบู "เลือก" ที่จะมองโลกในแง่ร้าย หรือมองโลกในแง่ดี
กาแฟที่เหลืออยู่ครึ่งแก้ว เราจะมองว่าเหลือแค่ครึ่งแก้ว หรือ เหลือตั้งครึ่งแก้ว ขึ้นอยู่กับว่าเรา "เลือก" ที่จะมองแบบไหน
และเราเป็นคน "เลือก" เองเสียด้วย...

เมื่อเราอยู่กลางทุ่งกว้างในยามค่ำคืนเพียงลำพัง เราเลือกที่จะมองอะไรระหว่าง...
ก้มหน้าเอาแต่มองพื้นดิน...มองเห็นแต่ความมืดมิด...
หรือเงยหน้ามองบนฟ้า...ชื่นชมกับความงามของท้องฟ้าในยามรัตติกาล...

คนเราควรมีความหวังเสมอ แต่ไม่ใช่ความหวังแบบผิดๆ
ความหวังแบบผิดๆ ก็คือ หวังว่าเราจะได้รับในสิ่งที่เราอยากได้หรืออยากให้เป็น...
ความหวังในแบบที่ถูกต้องคือ...มีความหวัง (และเชื่อ) เสมอว่าพระองค์จะประทานสิ่งที่ดีให้กับเราเสมอ แม้ว่าจะไม่ตรงใจเราก็ตาม


แม้ว่าสิ่งที่พระองค์ประทานให้...จะไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังว่าอยากจะให้มันเป็นไป...
หรือแม้ว่าสิ่งที่พระองค์ประทานให้...จะเป็นอุปสรรคและความยากลำบากก็ตาม...
แต่แน่นอนว่า...สิ่งที่พระองค์ให้กับเรา...ย่อมดีกว่าสิ่งที่เราอยากได้หรือให้มันเป็นไปอย่างแน่นอน...

ส่วนบูจะเห็นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการ "เลือก" ที่จะมองของบูเอง

จงมี "ความเชื่อ" "ความไว้ใจ" และ "ความหวัง"อยู่เสมอ
พระอวยพรจ๊ะ ::017:: : xemo026 :

ป.ล. เอากระทู้นี้ไปดูก็ดีนะ (เมื่อฉันกระโดดตึก...) http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=9287.0
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ ศุกร์ พ.ย. 07, 2008 3:39 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
†PricELiFE†
โพสต์: 363
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
ที่อยู่: World

ศุกร์ พ.ย. 07, 2008 10:24 pm

พี่บูครับ ^^"

เพราะเจ้าทรงอยู่กับพี่ตลอดเวลาครับ

ที่พี่ไม่รู้สึกเพราะมีบางอย่างรบกวนใจพี่อยู่หรือเปล่าครับ ?

ลองหลับตา แล้วเอาสิ่งที่อยู่ในใจ ที่มันไม่สมควรอยู่ในพระวิหารของพระเจ้า

หรือหัวใจของเรานั่นเอง

เอามันออกไปครับ

สู้ ๆ ^^"
:: ทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ::
โพสต์: 574
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ย. 07, 2008 10:47 pm

ตราบใดที่หัวใจ ยังเต้นอยู่พึ่งรู้ว่า พระเจ้าอยู่กลับเราแล้วพอหมดลมหายใจ เราจะอยู่กับพระองค์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nura
โพสต์: 177
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ต.ค. 18, 2008 2:48 am

เสาร์ พ.ย. 08, 2008 9:23 am

สู้ สู้ นะคะน้องบู พระเจ้าอยู่กับน้องบูนะคะ  ถ้าวันไหนรู้สึกเหงา เศร้า หรือโดดเดี่ยว ลองคุยกับพระเจ้านะคะ  พระเจ้ารักน้องบู และพระเจ้าก็อยากให้น้องบูไว้ใจในพระองค์นะคะ  แม้วันที่เรารู้สึกว่าเราไม่มีใคร พระเจ้าก็อยู่กับน้องเสมอนะจ๊ะ  ถ้าไม่รู้จะคุยอะไรกับพระเจ้า ลองเริ่มด้วยบทข้าแต่พระบิดาไหม  เวลาพี่รู้สึกวุ่นวายใจ การสวดบทข้าแต่พระบิดาทำให้พี่รู้สึกสงบขึ้นจ้า
เอาใจช่วยนะคะ
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

เสาร์ พ.ย. 08, 2008 10:23 am

น้องบูจงฟังพี่


ใช้ชีวิตอยู่เพื่อพระเป็นเจ้า เพื่อสรรเสิญพระองค์ เพื่อรักพระองค์ และเพื่อเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่เพื่อความสุขและความต้องการของตัวเอง
Maria Magdalena
โพสต์: 1946
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
ที่อยู่: On this earth obviously

อาทิตย์ พ.ย. 09, 2008 7:06 pm

แล้วถ้าบูไม่อยากอยู่เพื่อพระองค์แล้วละ
ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยบูไปซักที
บูมันก้อแค่เด็กดื้อคนนึงเท่านั้นเอง
พระองค์อยู่ตรงไหนเวลาที่บูต้องการมากที่สุด
พระองค์อยู่ตรงไหน ตอนที่บูนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว
ความทุกข์บูอาจไม่ยิ่งใหญ่เท่าของคนอื่น
แต่บูก้อไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว
บูเบื่อ เหนื่อย
ที่ต้องทำตัวใ้เป็นปกติ
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

อาทิตย์ พ.ย. 09, 2008 8:00 pm

มีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝาก  ลองเปิดเข้าไปดูหน่อยนะ ... คนดี

บทเรียนจากดาราศาสตร์      http://uk.geocities.com/devoutlife2008/planet.html

ภาษาของพระเจ้า      http://uk.geocities.com/palangjai2004/DNA4.html

ขอพระอวยพระและคุ้มครองบูตลอดไป

คิดถึงในคำภาวนาเสมอ
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อาทิตย์ พ.ย. 09, 2008 8:42 pm

ตราบใดที่บูยังคงวนเวียนและเวียนวนจนทำให้คนอื่นเค้าเวียนหัวอยู่กับความคิดของตัวเองแบบนี้ก็ไม่มีใครช่วยได้หรอก  แม้แต่พระเยซูเจ้าเองก็ไม่สามารถไถ่กู้ให้กับคนที่ไม่ต้องการได้รับการไถ่กู้ได้


ถ้าบูมีความคิดที่จะออกจากกรอบที่ตัวเองตีใว้ เช่นข้ออ้างต่างๆนาๆในชีวิตก็ค่อยมาว่ากัน    แต่ถ้าตราบใดที่ยังไม่ออกจากความคิดเดิมต่อให้มีคนมาพูดอะไรให้ตายแค่ไหนบูก็ยังคงจะดีขึ้นเล็กน้อยแต่แล้วก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกและจะไม่มีวันได้รับชัยชนะเพราะบูไม่มีความคิดที่จะเอาชนะมัน  ก็ได้แต่รอว่าเออเมื่อไหร่กูจะดีขึ้นว่าโดยที่นั่งกระดิกนิ้ว _น รออย่างเดียวไม่มีการทำอะไรเพื่อคนอื่นทุกอย่างอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกของ ku ฝ่ายเดียว แบบนี้หนีไปอยู่ป่าดีมั้ยบู


พี่จะไม่ว่าเลยถ้าบูเผลอทำร้ายตัวเองแล้วสำนึกผิดเสียใจ เพราะนั่นคือความผิดพลาดความพลาดพลั้ง  แต่สิ่งที่บูกำลังทำคือปล่อยตัวเองอยู่เฉยๆไม่คิดจะต่อสู้มันมัวแต่รอว่าเมื่อไหร่ไอ้สิ่งเลวร้ายนี้จะผ่านพ้นไปซะทีโดยที่ไม่ทำอะไร ทั้งๆที่สิ่งเลวร้ายนี้ก็มีพระพรที่ซ่อนอยู่แต่บูก็เลือกที่จะปิดหูปิดตาไม่เห็นไม่ได้ยินเพราะ ku ได้ยินได้รับรู้แต่ความคิดของ ku เท่านั้น


พี่ขอเตือนด้วยความรักนะบูว่าถ้าบู้ยังไม่มีความคิดที่จะต่อสู้และยังจมอยู่กับตัวเองแบบนี้ รับรองได้ฆ่าตัวตายสมใจอยากแน่นอน
ภาพประจำตัวสมาชิก
A G N E A U
โพสต์: 97
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 10:22 pm

อาทิตย์ พ.ย. 09, 2008 9:15 pm

อารมย์แห่งความเหือดแห้ง มันทรมานมาก ชีวิตมันก็มีทั้งสุขและทุกข์คู่กันไปนั่นแหละ พอมันสุขแล้วมันก็จะกลับมาทุกข์ใหม่ และพอมันทุกข์มันก็จะกลับมาสุขใหม่ สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือในชั่วระยะเวลาที่เราประสบกับความทุกข์นั่นแหละ เราต้องไม่ลืมนึกถึงจุดมุ่งหมายที่เราตั้งไว้ในขณะที่เราเป็นสุข อดทน ต่อสู่ และแบกกางเขน .... แล้วทำไมชั้นต้องแบก พระให้ชั้นรับความทุกข์นี้มาทำไมนะ! ชั้นจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว มันช่างทรมาณเหลือเกิน ... เกินกว่าที่ชั้นจะรับมันไหว .... มองดูให้ดีนะ กลับมานั่งเขียนปัญหาตัวเองทั้งหมดแล้วพิจารณาดูสิว่า "มันหนักจริงๆน่ะหรอ?" แล้วอีกอย่าง มันไม่มีใครในโลกนี้หรอกแม้แต่พระเยซูเจ้าเองที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาณ การหนีปัญหาเท่ากับการที่เราต้องวิ่งตลอดชีวิต .... มันเหนื่อยนะ .... อิสระเป็นของเรา เราเลือกเองว่าจะวิ่งอย่างไม่หยุดและเหนื่อยและท้อและหมดหวังเหลือเกิน หรือ จะยอมเผชิญหน้าและแก้ไขมันให้จบไปซะทุกสิ่ง แล้วมันก็จะจบ ..... วิธีแก้ง่ายๆกว่านะ ก็แก้ที่ตัวเองก่อนนั่นแหละ มองโลกในแง่ดี คิดดี โกรธใครก็พยายามรักษาใจแล้วให้อภัยเค้าซะ

มธ 26 : 36 - 46
36เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาพร้อมกับบรรดาศิษย์ถึงสถานที่แห่งหนึ่งชื่อเกทเสมนีพระองค์ตรัสแกเขาเหล่านั้นว่า "จงนั่งอยู่ที่นี่ ขณะที่เราไปอธิษฐานภาวนาที่โน่น" 37แล้วทรงพาเปโตรและบุตรทั้งสองของเศเบดีไปด้วย พระองค์ทรงรู้สึกเศร้าและสลดพระทัยยิ่งนัก 38จึงตรัสแก่เขาทั้งสามคนว่า "ใจเราเป็นทุกข์แทบสิ้นชีวิต จงอยู่ที่นี่และตื่นเฝ้ากับเราเถิด" 39แล้วพระองค์ทรงพระดำเนินไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ทรงซบพระพักตร์ลงกับพื้นดิน อธิษฐานภาวนาว่า "พระบิดาเจ้าข้า ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ถ้วยนี้พ้นข้าพเจ้าไปเถิด ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็ขออย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด" 40พระองค์เสด็จกลับมาพบบรรดาศิษย์ ทรงพบเขาเหล่านั้นกำลังหลับอยู่ จึงตรัสกับเปโตรว่า "ท่านท่านตื่นเฝ้าและอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงไม่ได้หรือ 41จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะได้ไม่เข้าสู่การทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังอ่อนกำลัง" 42พระองค์เสด็จไปอีกครั้งหนึ่ง ทรงอธิษฐานภาวนาว่า "พระบิดาเจ้าข้า ถ้าข้าพเจ้าต้องดื่มจากถ้วยนี้โดยหลีกเลี่ยงมิได้แล้ว ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด"
43ครั้งเสด็จกลับมาก็ทรงพบเขาหลับอยู่อีก เพราะนัยน์ตาลืมไม่ขึ้น 44พระองค์จึงเสด็จจากเข้าทั้งสามคนไปอธิษฐานภาวนาอย่างเดียวกันเป็นครั้งที่สาม 45แล้วเสด็จกลับมาพบเขาตรัสว่า "เดี๋ยวนี้ ท่านหลับต่อไปและพักผ่อนได้เวลาที่บุตรแห่งมนุษย์จะต้องถูกมอบในเงื้อมมือของคนบาปมาถึงแล้ว 46จงลุกขึ้น ไปกันเถิด ผู้ทรยศต่อเราอยู่ที่นี่แล้ว"


พระเยซูทรมาณเหมือนกับเราแหละ แต่พระองค์กล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับมัน แล้วบทสรุปก็คือพระองค์ได้ไถ่โทษาของพวกเราทุกคนอย่างประสบความสำเร็จ ดูเหมือนแพ้แต่พระองค์ชนะ

เราทุกคนก็มีทุกข์ทั้งนั้น ฝากไว้อีกอย่าง การเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางบางทีก็ไม่ได้สร้างความสุขหรอกนะ ชีวิตเราไม่จำเป็นต้องดีเลิศเสมอไปนิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อาทิตย์ พ.ย. 09, 2008 10:26 pm

BouQueT*Mary Mag เขียน: แล้วถ้าบูไม่อยากอยู่เพื่อพระองค์แล้วละ
ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยบูไปซักที
บูมันก้อแค่เด็กดื้อคนนึงเท่านั้นเอง
พระองค์อยู่ตรงไหนเวลาที่บูต้องการมากที่สุด
พระองค์อยู่ตรงไหน ตอนที่บูนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว
ความทุกข์บูอาจไม่ยิ่งใหญ่เท่าของคนอื่น
แต่บูก้อไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว
บูเบื่อ เหนื่อย
ที่ต้องทำตัวใ้เป็นปกติ
บางทีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่เรากำลังทำ กำลังเป็น ก็อาจช่วยเปลี่ยนแปลงปัญหา ชี้ทางออกของปัญหา ค้นพบหนทางใหม่ๆ

อย่าว่างั้นงี้เลย อิอิ เป็นคาทอลิกแล้วใช้วิถีคาทอลิกแก้ไม่ได้ ลองไปเป็นโปรฯ สักเดือนดูก็ได้เผื่ออาจช่วยได้(ลองดูรายการ จากใจถึงใจ)

หรือถ้ามันยังไม่ดี ก็ลองนั่งสมาธิดูก็ได้ สงบจิตใจ สงบความคิด พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา

เห็นมานานแล้วกับ บู ที่มีปัญหาทางหัวใจ ซึ่งพี่น้องหนุนใจให้กำลังใจแทบตายก็อาการหนักเหมือนเดิม

เข้าใจน่ะว่าเบื่อชีวิต แต่ถ้าคิดอ่อนแอ ก็ไม่มีใครช่วยได้ นอกจากตัวบูเอง

ที่โพสต์ๆๆไปอ่ะ อ่านมั่งป่าวเนี่ยฮะ?? :undecided:
Maria Magdalena
โพสต์: 1946
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
ที่อยู่: On this earth obviously

จันทร์ พ.ย. 10, 2008 1:12 pm

แหม อ่านซิค่ะ....
บูไม่รู้ว่าจะพูดว่าไงดี บูพยายามไม่คิดถึงมัน แต่ก้อทำไม่ได้
บูรู้สึกได้ว่าตอนนี้บูอ่อนแอ่เหลือเกิน
และก้อเหนื่อย
จนบูเริ่มโทษพระเจ้าว่าทำไมชีวิตบูต้องเป็นแบบนี้ด้วย
ไม่แฟร์เอาซะเลย
Dis volentibus

จันทร์ พ.ย. 10, 2008 1:36 pm

BouQueT*Mary Mag เขียน: จนบูเริ่มโทษพระเจ้าว่าทำไมชีวิตบูต้องเป็นแบบนี้ด้วย
ไม่แฟร์เอาซะเลย
ช่าย...ไม่เเฟร์สำหรับพระเจ้าเอาซะเลย พอมนุษย์ไม่สมปราถนาก็จะโทษพระองค์อยู่บ่อยๆ เสียเเรงพระองค์ทรงรัก : xemo026 :
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

จันทร์ พ.ย. 10, 2008 2:27 pm

BouQueT*Mary Mag เขียน: พระองค์อยู่ตรงไหนเวลาที่บูต้องการมากที่สุด
พระองค์อยู่ตรงไหน ตอนที่บูนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว
พระองค์อยู่กับบูตลอดเวลา แต่บูเปิดประตูต้อนรับพระองค์หรือเปล่า?

พี่เชื่อว่า ทุกๆ ความเห็นที่พี่น้องทุกคนในบอร์ดได้เขียนไว้ให้บู ตั้งแต่กระทู้เก่ายันกระทู้ปัจจุบัน
นั่นก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อบูผ่านเครื่องมือของพระองค์ ซึ่งก็คือพี่ๆ น้องๆ ในบอร์ดนั่นเอง
บูเปิดตามองดูคนรอบข้าง เปิดหูรับฟังคำแนะนำของคนอื่น หรือเปิดใจสัมผัสความรักของพระองค์ (ที่ผ่านพวกเรา) บ้างรึเปล่า?

ถ้าบูตอบว่า "ใช่"...บูก็ไม่สมควรพูดแบบนั้นอีก...
ถ้าบูตอบว่า "ไม่"...ไม่มีใครช่วยบูได้อีกแล้ว...แม้แต่พระเจ้า...

ไม่ใช่พระองค์ไม่มา...แต่เพราะบูปิดประตูไม่ยอมให้พระองค์เข้ามาเอง...
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ จันทร์ พ.ย. 10, 2008 4:34 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

จันทร์ พ.ย. 10, 2008 4:12 pm

BouQueT*Mary Mag เขียน: แหม อ่านซิค่ะ....
บูไม่รู้ว่าจะพูดว่าไงดี บูพยายามไม่คิดถึงมัน แต่ก้อทำไม่ได้
บูรู้สึกได้ว่าตอนนี้บูอ่อนแอ่เหลือเกิน
และก้อเหนื่อย
จนบูเริ่มโทษพระเจ้าว่าทำไมชีวิตบูต้องเป็นแบบนี้ด้วย
ไม่แฟร์เอาซะเลย


บูอย่ามาเห็นแก่ตัว คนอื่นที่ชีวิตเค้าแย่กว่าบูมีมากมายไม่รู้เท่าไหร่..เอาง่ายๆเลยนะ  2008 ปีที่แล้วมีผู้หญิงคนนึงที่ท้องโดยที่ไม่มีพ่อ คิดดูแล้วกันว่าผู้หญิงคนนี้จะโดนคนดูถูกเหยียดหยามแค่ไหน แถมบอกสามีตัวเองกับคนในครอบครัวเค้าก็หาว่าเธอโกหกไม่เชื่อเธออีกแถมครอบครัวก็จนไม่ใช่จนธรรมดานะแต่โคตรจนเลยอะ    พอมีลูกลูกที่เลี้ยงมากับมือก็ต้องมาตายอย่างทรมาณต่อหน้าต่อตาด้วยอายุเพียง 30 กว่าๆ 

เห็นหรือยัง? นี่ยังไม่นับคนทุกวันนี้บนโลกที่แขนขาดขาขาดและมีความลำบากในชวิตมากกว่าบูอีกนะ ทีนี้บูเห็นความจริงหรือยังว่าบูนะเห็นแก่ตัว เอาแต่ตัวเองเป็นศูนย์กลาง คิดแต่จะเอาแต่ความสุขจะเอาแต่ได้จากพระเจ้าอย่างเดียวไม่เคยคิดจะให้อะไรกับพระเจ้าเลยทั้งๆที่พระองค์ทรงมีครบทุกสิ่ง แต่สิ่งที่พระองค์ละเว้นใว้ที่จะไม่ครอบครองคืออำเภอใจมนุษย์ ดังนั้นบูจะให้กับพระองค์ได้ก็คืออำเภอใจ    อำเภอใจที่จะยินดีร่วมพระมหาทรมาณของพระองค์ อำเภอใจที่จะยินยอมรับความทุกข์เพื่อช่วยวิญญาณในไฟชำระ  เพื่อนพี่น้องที่ประสบความยากลำบาก    แต่บูก็ไม่มองเพราะบูปิดหูปิดตาไม่เห็นไม่ได้ยิน  เห็นและได้ยินแต่เสียงของบูฝ่ายเดียว เสียงที่บอกว่าฉันจะเอาอย่างนั้น ฉันไม่เอาความทุกข์  จะเอาแต่ความสุขอย่างเดียว  ขอโทษนะบูพระเยซูเจ้าตรัสว่า "จงแบกกางเขน ตามเรามา"  ถ้าบูคิดจะเดินบนพรมแดงละก็พี่เกรงว่าบูต้องเดินตามทางของซาตานแล้วลงนรกไปเลยแล้วละ  ดังนั้นสิ่งที่บูต้องทำหรือพยายาทำคือไม่ใช่ไม่คิดถึงมัน แต่พยายามเข้าใจมันและยอมรับมันให้ได้และแก้ใขมันต่างหาก  เพราะการวิ่งหนีนั้นต้องหนีต่อไปเรื่อยๆ แต่การเผชิญหน้ากับมันและเอาชนะมันให้ได้นั่นแหละถึงจะเป็นชัยชนะของพระคริสต์เจ้าที่เป็นชัยชนะนิรันดร์

พี่เชื่อว่าบูเป็นเด็กที่มีจิตใจดี รักพระ  แต่ตอนนี้บูกำลังมองแต่ตัวเองและกำลังจะมีใจให้กับข้ออ้างที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า  ดังนั้นบูต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่

ถ้าเปลี่ยนความคิดแล้วยังล้มอยู่พี่จะคอยเป็นกำลังใจให้  แต่ตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยน(ดั่งเช่นตอนนี้)พี่ก็ต้องเตือนสติบูแรงๆอย่างนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

จันทร์ พ.ย. 10, 2008 4:46 pm

BouQueT*Mary Mag เขียน: แหม อ่านซิค่ะ....
บูไม่รู้ว่าจะพูดว่าไงดี บูพยายามไม่คิดถึงมัน แต่ก้อทำไม่ได้
บูรู้สึกได้ว่าตอนนี้บูอ่อนแอ่เหลือเกิน
และก้อเหนื่อย
จนบูเริ่มโทษพระเจ้าว่าทำไมชีวิตบูต้องเป็นแบบนี้ด้วย
ไม่แฟร์เอาซะเลย
ผมก็เจอปัญหาหนักตลอด 2-3 ปีเหมือนกันนะครับ หนักจริงๆ หนักชนิดล้มทั้งยืน
จะว่าไปอีกที มันก็เป็นเหตุเป็นผลนะครับ

สิ่งที่เราตัดสินใจในวันนี้ เป็นกุญแจสู่อนาคตที่เกินคาดหมาย


ปรึกษาคนในบอร์ดต้องบอกตรงๆว่าอาจจะเข้าไม่ถึงปัญหาของเราหรอกน่ะ
บางทีอาจต้องปรึกษา พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน หลวงพ่อ ที่สำคัญที่สุดเราต้องมีปัญญา มีสติ มีใจที่เย็นและสงบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
A G N E A U
โพสต์: 97
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 10:22 pm

จันทร์ พ.ย. 10, 2008 8:00 pm

ความทุกข์สร้างสิ่งมหัศจรรย์

     พวกเราทุกคนคงไม่มีใครที่เกิดมาแล้วไม่เคยประสบกับความทุกข์เลย และบ่อยครั้งที่เรามีความรู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจเมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์เพื่อหนีความทุกข์ที่เกิดขึ้นบางคนคิดฆ่าตัวตาย บางคนก็พึ่งเหล้า    พึ่งยาเสพติด แต่ใครเล่าจะหนีความทุกข์เหล่านั้นไปได้

     ความทุกข์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1) ทุกข์กายที่เกิดจากร่างกายที่ไม่ปกติ เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย ร่างกายไม่สมประกอบด้วยเหตุต่างๆ เป็นต้น

2) ทุกข์ใจอันเนื่องมาจากไม่ได้ตามที่ใจคาดหวัง เช่น ทำงาน หรือดำเนินชีวิตไม่ได้ตามใจหวัง รักที่ไม่สมหวัง เป็นต้น


     ในระหว่างทุกข์กายกับทุกข์ใจ  ทุกข์ใจนั้นสำคัญกว่าหลายเท่านัก เพราะคนเราหากมีกำลังใจแล้วแม้กายเป็นทุกข์  ใจก็อาจมีสุขได้ แต่ในทางตรงข้ามหากกายสมบูรณ์แต่ใจอ่อนแอเป็นทุกข์คนเราก็มักจะต้องยอมพ่ายแพ้กับชีวิตกันอย่างง่ายๆ

     ทุกข์ใจนั้นเกิดจาก
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ พ.ย. 10, 2008 8:03 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Maria Magdalena
โพสต์: 1946
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
ที่อยู่: On this earth obviously

พุธ พ.ย. 12, 2008 2:16 pm

บูก้อแค่ไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว
บูไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
จะตายพรุ่งนี้ วันนี้ วันไหนๆ มันก้อเหมือนกันล่ะ
บูไม่รู้ว่าตัวบูเองต้องการอะไรกันแน่....
แค่อยากจะหนีไปให้ไกลๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ พ.ย. 12, 2008 2:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

พุธ พ.ย. 12, 2008 3:46 pm

น้องบู....
การประจญบ่อยครั้งที่สุด..ซ่อนเร้นที่สุด คือการขาดความเชื่อ..
มันแสดงออกไม่เพียงแต่ในความดื้อรั้นที่อ้างขึ้นเท่านั้น..

เมื่อเราเริ่มที่จะภาวนา....ความวุ่นวายและความวิตกกังวลต่างๆ...ก็เข้ามามากมาย...
ช่วงเวลาแห่งความจริงถูกผลักดันให้ห่างออกไป..
ความจริงแห่งดวงใจ ความรักแท้ของพระองค์คืออะไร ?

บางครั้ง..เราก็หันไปหาองค์พระผู้เป็นเจ้า..เสมือนที่พึ่งสุดท้าย...
แต่แล้วเราได้เชื่อในพระองค์อย่างแท้จริงหรือไม่ ?

บางครั้งในขณะที่หน้าเราหันเข้าหาพระองค์ แต่ในใจนั้นยังอวดดี

การขาดความเชื่อของเรา..ได้เปิดเผยความจริงที่ว่า..เรายังมีดวงใจที่ถ่อมตนสุภาพไม่พร้อมเพียงพอ
"ถ้าไม่มีเรา..ท่านก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย" (ยน 15:5)

พี่ว่าน้องบูควรจะหาเวลาเข้าวัด..เฝ้าศีล ภาวนาบ้าง..น่าจะดีกว่าที่คิดอยู่ซำ้ๆกับตัวเองคนเดียว
ดูซิ....! ทุกคนรักน้องบู และปรารถนาดีจริงๆนะ : xemo026 :
คิดถึงเสมอในคำภาวนานะคะ  : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
yack
โพสต์: 816
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 11:01 am

พุธ พ.ย. 12, 2008 7:36 pm

สู้สู้นะ  วางใจในเเผนการของพระองค์ซิครับ
คือว่า yack ว่าพี่บูน่าจะเเค่สับสนเฉย ๆ ไม่เป็นไรนี่ครับลองคิดดูดี ๆ ว่าต้นเหตุมาจากอะไรกันเเน่ แยกความสับสนออกจากความจริง
คงสับสนที่ว่า ตัวเองไม่คู่ควรกับพระองค์  เพราะเราไม่ดีพอ  เเต่ความจริงคือเราทุกคนเหมาะสมกับพระองค์เเละพระเจ้ารักเราที่เราเป็นเรา
คงรู้สึกโด่ดเดี่ยวใช่มั้ยรับ  เพราะว่า คงเหงา( ไม่รู้ว่าพี่บูเป็นหรือเปล่า เวลาเราทำผิดเรามักจะคิดว่าเราผิดเเละเราไม่ดี เเละไม่กล้ากลับไปหาพระองค์โดยลืมไปว่าพระองค์รอเราอยู่นะ  พระองค์ไม่ได้นับว่าเราผิดกี่ครั้งเเต่นับว่าเรา ยืนขึ้นมาเเก้ไขตัวเองกี่ครั้ง นะครับ  ) 
รู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างไม่มีค่าใช่มัยครับ ชีวิตทุกคนมีค่าเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำมันให้มีค่าหรือเปล่า พี่บูลองลุกขึ้นมานะครับ มามองโลกใหม่ในมุมมองที่พี่บูเคยมองในตอนที่มีความเชื่อเปี่ยมล้น เเต่ตอนนี้เเค่สับสนเฉย ๆ )
อ่าเป็นกำลังใจให้นะครับ พี่ ๆ บางคนคำพูดอาจดูไม่ค่อยสวยงามนักเเต่เขาหวังดี 10000000000 เปอเซ้น
ครับ
จะไปตั้งกระทู้คำภาวนาให้นะครับ
สู้สู้ นะครับ เป็นกำลังใจให้ อย่าสับสนไปมากกว่านี้เลยครับ  พระองค์ทรงมองพี่อยู่เเม้ตอนนี้ พระองค์รักพี่นะครับ
พระองค์คงรอให้พี่กลับไปหาพระองค์เเละพระองค์จะรักษาเเผลที่ชอกช้ำให้ครับ กลับมาหาพระองค์นะครับ

yack อาจจะเขียนได้ไม่ดีเเต่ขอร้องละครับ ลองทบทวนดูดีดีนะครับ
สู้สู้
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 12:53 am

ignatius เขียน:
การประจญบ่อยครั้งที่สุด..ซ่อนเร้นที่สุด คือการขาดความเชื่อ..
มันแสดงออกไม่เพียงแต่ในความดื้อรั้นที่อ้างขึ้นเท่านั้น..

เมื่อเราเริ่มที่จะภาวนา....ความวุ่นวายและความวิตกกังวลต่างๆ...ก็เข้ามามากมาย...
ช่วงเวลาแห่งความจริงถูกผลักดันให้ห่างออกไป..
ความจริงแห่งดวงใจ ความรักแท้ของพระองค์คืออะไร ?

บางครั้ง..เราก็หันไปหาองค์พระผู้เป็นเจ้า..เสมือนที่พึ่งสุดท้าย...
แต่แล้วเราได้เชื่อในพระองค์อย่างแท้จริงหรือไม่ ?

บางครั้งในขณะที่หน้าเราหันเข้าหาพระองค์ แต่ในใจนั้นยังอวดดี

การขาดความเชื่อของเรา..ได้เปิดเผยความจริงที่ว่า..เรายังมีดวงใจที่ถ่อมตนสุภาพไม่พร้อมเพียงพอ
"ถ้าไม่มีเรา..ท่านก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย" (ยน 15:5)

โหห พี่ พูดถูกเผงเลย...
หนูคิดว่า "การขาดความเชื่อ" เป็นสิ่งที่อันตรายมากค่ะ สำหรับชีวิตคริสตชน...

ignatius เขียน:
พี่ว่าน้องบูควรจะหาเวลาเข้าวัด..เฝ้าศีล ภาวนาบ้าง..น่าจะดีกว่าที่คิดอยู่ซำ้ๆกับตัวเองคนเดียว

รวมถึงอ่านพระคัมภีร์และหนังสือเสริมศรัทธาอื่นๆ ด้วยจ๊ะ ชีวิตจิตจะได้เติบโตขึ้น ::017::
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 9:32 am

Viridian เขียน:
ignatius เขียน:
การประจญบ่อยครั้งที่สุด..ซ่อนเร้นที่สุด คือการขาดความเชื่อ..
มันแสดงออกไม่เพียงแต่ในความดื้อรั้นที่อ้างขึ้นเท่านั้น..

เมื่อเราเริ่มที่จะภาวนา....ความวุ่นวายและความวิตกกังวลต่างๆ...ก็เข้ามามากมาย...
ช่วงเวลาแห่งความจริงถูกผลักดันให้ห่างออกไป..
ความจริงแห่งดวงใจ ความรักแท้ของพระองค์คืออะไร ?

บางครั้ง..เราก็หันไปหาองค์พระผู้เป็นเจ้า..เสมือนที่พึ่งสุดท้าย...
แต่แล้วเราได้เชื่อในพระองค์อย่างแท้จริงหรือไม่ ?

บางครั้งในขณะที่หน้าเราหันเข้าหาพระองค์ แต่ในใจนั้นยังอวดดี

การขาดความเชื่อของเรา..ได้เปิดเผยความจริงที่ว่า..เรายังมีดวงใจที่ถ่อมตนสุภาพไม่พร้อมเพียงพอ
"ถ้าไม่มีเรา..ท่านก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย" (ยน 15:5)

โหห พี่ พูดถูกเผงเลย...
หนูคิดว่า "การขาดความเชื่อ" เป็นสิ่งที่อันตรายมากค่ะ สำหรับชีวิตคริสตชน...


จ๊ะก็ด้วยเหตุนี้แหละ...ที่เรามักได้ยินข่าว..คริสตังนอนบางคนกระโดดออกไป แบบ หนูแหม่ม สุริวิภาไง  ::010::
จุดเริ่มต้นก็จากตรงนี้เหมือนกัน  : emo031 : : xemo023 :
ตอบกลับโพส