สิ่งที่ซ่อนอยู่ใน The Matrix : Revolution

คลิปวิดิโอต่างๆ ของคริสตศาสนา สนทนาเกี่ยวกับหนัง สื่อภาพยนตร์
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ม.ค. 30, 2006 11:42 pm

ตามพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เป้าหมายของซาตานก็คือการหลอกลวงมนุษย์ให้หลงมัวเมาอยู่ในโลกลวง แทนที่จะเชื่อถือในพระเจ้า

รูปภาพ

the matrix ก็เป็นเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลวงให้มนุษย์เชื่อว่าความฝันคอความจริง ล่ามโซ่ให้มนุษย์เป็นทาสจินตนาการของตัวเอง

ในไบเบิ้ล พระเจ้าใช้อำนาจเสียงอันทรงพลังสื่อสารกับมนุษย์ พระเจ้ารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง

แต่เมื่ออดัมกับอีฟไม่เชื่อฟังพระองค์ ไปเด็ดแอปเปิ้ลศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างก็ยุ่งเหยิง


รูปภาพ


ในช่วงต้นของหนัง มอร์เฟียซสื่อสารกับนีโอผ่านโทรศัพท์มือถือ
เขานำทางให้นีโอหนีจากสายลับ ความที่มอร์เฟียสรู้เรื่องราวทุกอย่างทำให้นีโอต้องทึ่ง


รูปภาพ

แต่สุดท้าย นีโอตัดสินใจไม่เชื่อฟังคำสั่งของมอร์เฟียซ นีโอจึงถูกจับ

รูปภาพ




นอกจากนี้ ผู้เดียวที่รู้รหัสลับเข้าสู่เมือง ไซอ้อน-เมืองสุดท้ายที่เหลืออยู่ของมนุษย์ก็คือมอร์เฟียซ

รูปภาพ


รูปภาพ

ในไบเบิ้ล ไซอ้อนเป็นชื่อภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

รูปภาพ

ชื่อจริงของนีโอในโลก matrix คือ Tomas Anderson

Tomas คือชื่อของศิษย์ที่ไร้ศัทธาต่อการคืนชีพของพระเยซู
ซึ่งเปรียบเหมือนนีโอ ที่ไม่มีความเชื่อมั่นในความเป็นผู้ปลดปล่อยของตัวเอง

รูปภาพ

ในขณะที่ Anderson หมายถึง Son of Andrew

ในไบเบิ้ล Andrew หมายถึง man

ซึ่งเมื่อนำมารวมกันแล้ว Anderson ก็คือ Son of man นั่นก็คือพระเยซูนั่นเอง

พระเจ้าให้กำเนิดพระเยซูเพื่อมานำทางให้มนุษย์โลกได้พบกับสัจธรรมความเป็นจริง

รูปภาพ

ซีนแรกที่นีโอปรากฏตัว ลูกค้าซึ่งเป็นเพื่อนของเขาพูดว่า

"ฮาเลลูย่า นายคือผู้ไถ่บาปของฉัน เป็นพระเยซูส่วนตัวของฉันเลยจริงๆ"

มอร์เฟียซให้กำเนิดใหม่แก่นีโอเพื่อปลดปล่อยมนุษยชาติออกจากพันธนาการแห่งความลวง
แห่งโลกmatrix และนำทุกชีวิตเข้าสู่สัจธรรมแห่งความจริง

รูปภาพ

Trinity ในไบเบิ้ล(พระคัมภีร์ใหม่) หมายถึง พระเจ้า พระบุตร พระจิต

ซึ่งหมายถึงสามภาคของพระเจ้า

พระจิต( Holy Spirit )รับผิดชอบกับการลงสู่โลกมนุษย์ของพระเยซู สู่ครรภ์ของพระแม่มารี

รูปภาพ

ในขณะที่ Trinity รับผิดชอบการกลับมาสู่ความจริงของนีโอ
และคอยปรนนิบัตินีโอตอนที่เขาออกจากรังไหมครั้งแรก

รูปภาพ

ปกติ พระจิตมีภาพลักษณ์เป็นผู้ชาย
แต่พี่น้องวาร์ชอฟสกี้ได้เปลี่ยนแนวคิดนี้ให้พระจิตกลายเป็นผู้หญิงแทน

ฉากแรกๆที่นีโอเจอกับทรินิตี้ในบาร์ นีโอถึงกับกล่าวออกมาอย่างแปลกใจว่า
"ผมนึกว่าคุณเป็นผู้ชายซะอีก"
ทรินิตี้ตอบว่า "ผู้ชายส่วนมากจะคิดอย่างนั้น"

รูปภาพ

ในไบเบิ้ลกล่าวว่า "ผู้ที่ไม่เชื่อมั่นในเมซิอาร์ ผู้นั้นจะต้องถูกซาตานเข้าครอบงำ"
ยูดาสเข้าไปร่วมรับประทานอาหารกับหัวหน้าพระและทหารโรมัน
เพื่อวางแผนจับกุมพระเยซู และได้รับเงินตอบแทนจากการทรยศหักหลังนั้น

รูปภาพ

ไซเฟอร์ไม่เชื่อว่านีโอคือ"ผู้ปลดปล่อย"
ทำให้เขาถูกครอบงำด้วยความชั่วร้าย
เขาไปรับประทานอาหารกับสายลับสมิธ เพื่อหาลู่ทางหักหลังพรรคพวก
และจะได้รับสิทธิที่จะกลับไปสู่โลกลวงแห่ง the matrix เป็นสิ่งตอบแทน



ข้อมูลจากหนังสือbioscope
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

จันทร์ ม.ค. 30, 2006 11:47 pm

เยี่ยมไปเลยครับ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ม.ค. 30, 2006 11:51 pm

เพิ่มเติมครับ

ในหนังนั้นยานที่พวกพระเอกใช้ชื่อ Logos

Logos

แปลว่าพระวจนาถ,พระวาจา หรือ คำ เป็นคำเรียกพระเยซูคริสต์ เมื่อยังไม่ได้ประสูติเป็นมนุษย์ ตัวอย่าง "พระวจนาถทรงรับเอากายมาเกิดในครรภ์ของพระนางมารีย์"

คำๆนี้ ใช้ในความหมายคือ พระวาจาของพระเจ้า หรือสัจจะ

เพราะหลักปรัชญาในจุดที่ว่า พระเจ้าทรงเป็นความจริงสูงสุด ดังนั้น"คำ"ที่ทรงตรัสหรือดำรัส คือกฎและความจริง โดยทันทีและอัตโนมัติ เช่น เมื่อพระเจ้าตรัสว่า จงเกิดโลกขึ้น ทันใดนั้น โลกก็มีขึ้น ดังนั้น พระวาจา จึงเป็นการกำหนด สิ่งที่มีอยู่ทุกอย่าง เหมือนดังแสงสว่างที่พุ่งออกมาจากจุดที่สว่างที่สุด ทั้งจุดกำเนิดนั้น และลำแสงที่กระจายออกมานั้น ก็เป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นแสงเหมือนกัน และเป็นแสงเดียวกัน เหมือนดังที่พระบิดา(พระเจ้า) พระบุตร(พระเยซูคริสต์) และพระจิต(พระวจนาถ) ทั้งสามพระองค์ทรงเป็น1เดียวกัน(ทรินิตี้) ไม่อาจแบ่งแยก และไม่แตกต่าง

ดังนั้นคำว่าLogosที่หนังใช้ คนเขียนบทคงตั้งใจจะใช้ในความหมายแฝงนี้มากกว่า แต่จะว่าไปก็เล่นของสูงไม่ใช่น้อย

มีอยู่จุดนึงที่สอดคล้องกับประเด็นเรื่อง"คำ"นี้ จะเห็นได้ว่ามีตอนนึงในหนัง ที่เขาพูดภาษาอังกฤษว่าWord แต่คนพูดไม่ได้เจตนาความหมายแค่แปลว่าคำ แต่ตั้งใจใช้ความหมายระดับLogosเลย

คือตอนที่ตาแขกพ่อของสตี พูดเรื่องกรรม และความรัก

เราจะเห็นว่าคำว่า"กรรม" คือความเชื่อที่เด่นสุดในศาสนาของทางพุทธ
ส่วน"ความรัก" เป็นคุณธรรมสูงสุดทางศาสนาของทางคริสต์

เขาร้ายพอที่จะให้แขกฮินดูเป็นคนพูดทั้ง2คำ(คงเป็นฮินดูแหละไม่งั้นจะตั้งชื่อลูกเป็นเทพฮินดูหรือ)

เพราะทางฮินดูเชื่อเรื่องกรรม และจัดความรักเป็นคุณธรรมเช่นกัน แต่ไม่เจาะลึกเรื่องกรรมเท่าพุทธ และไม่แจกแจงเรื่องความรักละเอียดเท่าคริสต์

แต่เขาพูดว่าเขาเชื่อสองอย่างนี้ เพราะเพียงแค่มันคือ "คำ"

ดังนั้น การพูดแบบนี้ เขากำลังอธิบายว่า เรื่องที่ยากจะพิสูจน์ ให้คนอื่นเชื่อแบบเรื่องกรรม(ขอให้คนอ่านเข้าใจนะว่า ไม่ใช่การพิสูจน์แบบนั่งสมาธิจนมรรคผลแล้วพิสูจน์ได้เฉพาะคนนั้น แต่เอาง่ายๆ ทางวิทยาศาสตร์ เขาไม่เชื่อเรื่องกลับชาติหรอกนะ เขาถือว่าพิสูจน์ไม่ได้ คำพูดที่ชอบพูดกันว่าศาสนาพุทธเป็นวิทยาศาสตร์มาจากตาไอน์สไตน์ที่พูดว่า ศาสนาพุทธใช้หลักเหตุและผล เหมือนที่วิทยาศาสตร์ใช้ แต่เจ้าตัวไม่ได้มีไอเดียอะไรเรื่องการกลับชาติหรือกรรมในแง่ศาสนาหรอก ดังนั้น การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ต่างกับการพิสูจน์ทางพุทธนะ ทางพุทธ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นได้ ตัวเองเห็นก็ถือว่ายอมรับแล้ว แต่วิทยาศาสตร์ต้องพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นได้ด้วย จึงจะยอมรับ และทางศาสนาเราเชื่อสัมผัสอื่นนอกเหนือจากสัมผัสทั้ง5 แต่วิทยาศาสตร์ปัจจุบันยอมรับแค่สัมผัสทั้ง5เท่านั้น)

ต่อ

การที่จะมาพูดอธิบายเรื่องกรรม หรือต้องพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นแบบวิทยาศาสตร์ถึงจะเชื่อนั้น เป็นไปไม่ได้ แต่มันคือ "กฎ" หรือ "สัจจะ" ที่เป็นจริง เป็น Logos ที่กำหนดมาเหมือน การกำหนดว่า ไฟต้องร้อน น้ำแข็งต้องเย็น เอ๊ะ ทำไม น้ำแข็งจะร้อน แล้วไฟจะเย็นไม่ได้เหรอ ใครกำหนด.....ทำไมรูปร่างหน้าตาแบบกระต่าย คือน่ารัก ทำไมทุกคนรู้สึกว่ามันน่ารักกันหมด ทำไมหน้าแบบนั้นไม่ถูกกำหนดให้เป็นรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดในสายตามนุษย์ นั่นแหละ มันคือการกำหนด ไม่ใช่เรื่องจะมาใช้เหตุผลหรืออธิบายกันว่า"ทำไม"

เช่นเดียวกับความรัก

ถ้าพูดถึงความรักแท้และความรักสูงสุด เช่นความรักของพระเจ้า หรือความรักของพ่อแม่ ทำไมพ่อแม่ต้องรักลูก ตอนที่นีโอพูดว่ามันเป็นอารมณ์มนุษย์ไม่ใช่เหรอ ตาคนนี้ตอบเต็มปากเต็มคำโลกตะลึงว่าไม่ใช่ มันเป็น "คำ"(Logos) ต่างหาก ต่อให้ลูกขี้เหร่กว่าลูกคนอื่น นิสัยเสียกว่าลูกคนอื่น แต่พ่อแม่ ยังไงก็รักลูกของตนแน่ๆ ขนาดลูกเลว อกตัญญู พ่อแม่ก็ยังรักและให้อภัย ขนาดสัตว์ ยังรักลูกของมันเลย

เราจะพบหลายๆครั้งเมื่อมีการพูดถึงความรักในหนัง ตาฝรั่งเศส กับสมิธ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเป็นอะไรที่นอกตรรกะที่สุด รวมถึงสถาปนิกลุงเคเอฟซี ก็พูดทำนองเดียวกันว่า เหนือการคาดเดาของเครื่องจักร เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะมาอธิบายได้ ผิดกับอารมณ์อื่นๆ เช่น โกรธ เศร้า สนุก ฯลฯ ที่สามารถอธิบายได้ และคาดเดาได้ เช่นโน๊ตอุดม พูดมุขนี้ คาดว่าคนจะขำ จะสนุก แต่มีใครคาดได้ไม๊ว่าใครจะรักอะไร หรือรักใคร หรือพูดประโยคนี้ ใครฟังก็หลงรัก มันไม่มีแบบนั้น ขนาดคนบางคนเจอสาวตรงสเป๊คทุกอย่าง กลับไปรักอีกคนที่ไม่ใช่สเป๊คเลย เกิดบ่อยมาก น่าแปลก เพราะมันเป็นอย่างเดียวในมนุษย์ที่เป็นมากกว่าอารมณ์ เพราะมันคือสภาพจิตใจที่อยู่เหนือการอธิบายทุกประการ และเป็นตัวการอันหนึ่งที่ทำให้โลกนี้คงอยู่ได้ด้วย มันถูกจัดเป็น การกำหนด เช่นกัน ไม่ใช่อะไรที่จะสร้างกันได้ เช่นที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า แม้มนุษย์จะไม่รู้จักพระเจ้า แต่พระเจ้ายังคงรักมนุษย์คนนั้นสุดพรรณา และรักตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดมา และรักเสมอไป และแม้มนุษย์คนนั้นจะถึงขั้นเกลียดพระเจ้า พระเจ้าก็จะยังคงรักมนุษย์คนนั้นต่อไป ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะพระเจ้าคือองค์ความรัก
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร ม.ค. 31, 2006 2:15 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 31, 2006 2:12 am

พี่ปอเอาของตอนนั้นมา repost ซินะครับ เป็นสาระดี ๆ ที่ซ่อนในหนังให้คนที่ไม่เคยอ่านได้อ่าน แต่ว่าพี่ปอลืมตัดที่พูดตอนนั้นออกนะครับ :-X ยังมีชื่อผมติดในบทความเลย อุ
Junior Boy
โพสต์: 659
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
ที่อยู่: I believe in God...

อังคาร ม.ค. 31, 2006 7:49 pm

พระเยซูเจ้าตรัสว่า แม้มนุษย์จะไม่รู้จักพระเจ้า แต่พระเจ้ายังคงรักมนุษย์คนนั้นสุดพรรณา และรักตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดมา และรักเสมอไป และแม้มนุษย์คนนั้นจะถึงขั้นเกลียดพระเจ้า พระเจ้าก็จะยังคงรักมนุษย์คนนั้นต่อไป ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะพระเจ้าคือองค์ความรัก

ชอบประโยคนี้จังครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. ก.พ. 02, 2006 2:39 pm

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น บทที่ 12 ข้อ 12-19 พระเมสสิยาห์เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม

วันรุ่งขึ้น ประชาชนจำนวนมากที่มาในวันฉลองได้ข่าวว่าพระเยซูเจ้าเสด็จมาที่กรุงเยรูซาเล็ม จึงถือใบปาล์ม ออกไปรับเสด็จ พลางร้องว่า
“โฮซันนา
ขอถวายพระพรแด่พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามของพระเจ้า
ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์แห่งอิสราเอล”

พระเยซูเจ้าทรงพบลูกลาตัวหนึ่ง จึงประทับบนหลังลูกลาตัวนั้น ดังที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า

ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวเลย
ดูซิ กษัตริย์ของเจ้ากำลังเสด็จมาแล้ว
ประทับบนหลังลูกลา


........................................................................

ศิโยนคือชื่อภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ที่พระเจ้ามาพบมนุษย์ และเป็นชื่อเสมือน หมายถึงพระศาสนจักรใหม่ ที่มีพระเมสสิยาห์เป็นกษัตริย์

จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวฮีบรู บทที่ 12 ข้อ 18-29
แต่ท่านเข้ามาถึง ภูเขาศิโยนและนครแห่งพระเจ้าผู้ทรงชีวิต คือ นครเยรูซาเล็มในสวรรค์ ซึ่งมีทูตสวรรค์เหลือคณานับ ท่านเข้ามาถึงที่ชุมนุมฉลองชัยและมาถึงชุมนุมของบุตรคนแรกที่ได้รับการลงชื่อไว้ในสวรรค์แล้ว มาถึงองค์พระเจ้า พระตุลาการของมนุษย์ทุกคน ร่วมกับบรรดาจิตของผู้ชอบธรรมที่บรรลุถึงความสมบูรณ์แล้ว และยังเข้ามาถึงองค์พระเยซูเจ้าผู้เป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ และมาถึงพระโลหิตที่ประพรมซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่ดียิ่งกว่าโลหิตของอาแบล


พระวิวรณ์บทที่ 14:1-5 ผู้ติดตามลูกแกะของพระเจ้า
ข้าพเจ้าเห็นภาพนิมิต ลูกแกะ(พระเยซู)ทรงยืนอยู่บนภูเขาศิโยน ประชาชนจำนวนหนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันคนอยู่กับพระองค์ แต่ละคนมีพระนามของลูกแกะและพระนามของพระบิดาของพระองค์เขียนไว้ที่หน้าผาก ข้าพเจ้าได้ยินเสียงหนึ่งดังจากสวรรค์ เหมือนเสียงน้ำไหลเชี่ยว และเหมือนเสียงฟ้าร้องกึกก้อง เสียงที่ข้าพเจ้าได้ยินเหมือนเสียงพิณจำนวนมากที่นักเล่นพิณกำลังดีด เขาเหล่านั้นร้องเพลงบทใหม่หน้าพระบัลลังก์ ต่อหน้าผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนและต่อหน้าบรรดาผู้อาวุโส ไม่มีใครเรียนรู้บทเพลงนี้ได้ นอกจากคนบนแผ่นดินจำนวนหนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันคนผู้ได้รับการไถ่กู้ เขาบริสุทธิ์เหมือนพรหมจารีเพราะซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า เขาติดตามลูกแกะไปทุกแห่งที่พระองค์เสด็จ ในบรรดามนุษย์ทั้งหลาย คนเหล่านั้นเป็นผู้ได้รับการไถ่กู้ เป็นเหมือนผลแรกถวายแด่พระเจ้าและลูกแกะ ปากของเขาไม่เคยกล่าวคำเท็จ เขาไม่มีมลทิน

-----------------------------------------------------------------

ความจริงในหนังเรื่องนี้ ยังมีการ"แอบ" อ้างถึง เรื่องราวทางศาสนาอยู่มาก แม้แต่ในบทพูดทั่วๆไป ซึ่งคนที่ศึกษาศาสนาคริสต์ในเชิงข้อมูล จะรู้ แต่คริสต์ทั่วไปก็รู้น้อยหน่อย แต่ไม่ใช่คริสต์คงแทบไม่รู้เลยว่า มีอะไรแอบแฝงในความดูไม่ค่อยจะรู้เรื่องของหนังเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากพวกศึกษาปรัชญา

ยกตัวอย่างนางเอกชื่อ ทรินิตี้ Trinity หมายถึงพระตรีเอกภาพ ประกอบด้วย พระบิดา พระบุตร พระจิต

แม้แต่ในสไตล์การชวน เข้าพวกแมรททริก ของพวกไซออน(ศิโยน) ยังใช้รูปแบบการชวนของคริสต์ คือ ชั้นอธิบายให้คุณเข้าใจตอนนี้ไม่ได้(เพราะมันโคตรเหลือเชื่อนอกจากคุณจะเห็นเอง) แต่คุณจะตามชั้นมาไม๊ ไว้ใจชั้นรึเปล่า(เพราะถ้าคุณไม่เชื่อชั้นก่อน และยอมกินยา คุณไม่มีวันเห็นความจริงเหมือนกัน)

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น บทที่ 6
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ถ้าท่านไม่กินเนื้อของบุตรแห่งมนุษย์และไม่ดื่มโลหิตของเขาท่านจะไม่มีชีวิตในตนเอง
ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเราก็มีชีวิตนิรันดร เราจะทำให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย
เพราะเนื้อของเราเป็นอาหารแท้ และโลหิตของเราเป็นเครื่องดื่มแท้
ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา ก็ดำรงอยู่ในเรา และเราก็ดำรงอยู่ในเขา
พระบิดาผู้ทรงชีวิตทรงส่งเรามา และเรามีชีวิตเพราะพระบิดาฉันใด
ผู้ที่กินเนื้อของเราจะมีชีวิตเพราะเราฉันนั้น นี่คือปังที่ลงมาจากสวรรค์
ไม่เหมือนปังที่บรรดาบรรพบุรุษได้กิน แล้วยังตาย
ผู้ที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป”
พระองค์ตรัสเช่นนี้ขณะที่ทรงสอนในศาลาธรรมที่เมืองคาเปอรนาอุม เมื่อศิษย์หลายคนได้ยินพระองค์ตรัสดังนี้ ก็กล่าวว่า “ถ้อยคำนี้ขัดหูจริง ใครจะฟังได้” พระเยซูเจ้าทรงทราบด้วยพระองค์ว่าบรรดาศิษย์กำลังบ่นกันเรื่องนี้ จึงตรัสกับเขาว่า “เรื่องนี้ทำให้ท่านเคลือบแคลงใจเราหรือ แล้วถ้าท่านจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์กลับขึ้นสู่สถานที่ที่เคยอยู่แต่ก่อนเล่า ท่านจะว่าอย่างไร”
‘พระจิตเจ้าเป็นผู้ประทานชีวิต
ลำพังมนุษย์ทำอะไรไม่ได้
วาจาที่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายนั้น
ให้ชีวิต เพราะมาจากพระจิตเจ้า
”แต่บางท่านไม่เชื่อ” พระเยซูเจ้าทรงทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้ใดไม่เชื่อ และผู้ใดจะทรยศต่อพระองค์ พระองค์ตรัสต่อไปว่า “ดังนั้น เราจึงบอกท่านทั้งหลายว่า ไม่มีผู้ใดมาหาเราได้ เว้นแต่ผู้ที่พระบิดาประทานให้เขามา” หลังจากนั้น ศิษย์หลายคนเปลี่ยนใจ ไม่ติดตามพระองค์อีกต่อไป

..........................................................................

จากบทนี้จะเห็นว่าคล้ายอาหารที่คอมสร้าง ในเรื่องแมรททริกมาก คือคนที่กินอยู่ในแมรททิรก โลกจอมปลอม ที่จริงไม่ต่างจากคนตาย ที่นอนรอความตาย อาหารที่กินไม่ใช่ของแท้เลย ภาพที่นีโอกินยาแล้วตื่น เหมือนการฟื้นขึ้นในความจริง และการท้าให้กินของที่แปลก ประหลาด โดยบอกว่ากินแล้วจะมีชีวิตใหม่ บางคนดูว่าบ้าบอ บางคนกินไปแล้วยังคิดว่าตูไม่น่ากินก็มี เหมือนศิษย์บางคนที่เลือกทิ้งพระองค์ เหมือนคนที่เลือกได้ที่จะอยู่ในแมรททริกต่อไป หรือจะหลุดออกมาจากโลก

ดังนั้นคำว่าความเชื่อความศรัทธาในคริสตศาสนา จึงไม่ใช่การให้เชื่อโดยงมงาย แต่เป็นการท้าทาย เพราะลำพังสติปัญญามนุษย์รับรู้ได้แต่เรื่องในโลก เมื่อมีผู้พูดถึงเรื่องสวรรค์ และโลกที่เป็นนิรันดร์อันแท้จริงกว่า ว่ามีจริง เหนือกว่าที่สติปัญญามนุษย์จะเข้าใจได้ จะกล้ารับเชื่อหรือไม่ ดังนั้น ถ้าไม่เชื่อก่อนว่ามีจริง การปฎิบัติเพื่อให้เข้าถึงยอมไม่ตามมา

นอกจากนี้ ปรัชญา"ทางเลือก" ยังเป็นปรัชญาระดับสูงของคริสตศาสนา กล่าวคือทุกคนมีสิทธิ์เลือก แม้แต่เทวดายังมีสิทธิ์เลือก ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อพระเจ้าก็ได้ (ลูชิเฟอร์ กับมิคาแอล) แม้พระเยซูเองยังมีสิทธิ์เลือกที่จะไถ่บาปหรือไม่ไถ่บาปก็ได้ และมนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์เลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อพระเจ้าก็ได้ เพียงแต่ผล จะเป็นอย่างไร ก็ตามการเลือกของตัว ดังนั้น เราจึงเห็นปรัชญาการเลือก ตั้งแต่ภาค1-ภาค2 ตั้งแต่เลือกจะเชื่อใคร เลือกจะกินไม๊ เลือกประตู

หรือมุขที่ในแมรทริก แค่ต้องเชื่ออย่างไม่มีสงสัยว่าทำได้ก็จะทำได้ เช่นโดดข้ามตึก ในภาค1 ลองอ่านอันนี้ดู

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว 17:20
พระองค์ตรัสว่า “เพราะท่านมีความเชื่อน้อยเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านมีความเชื่อสักเท่าเมล็ดมัสตาร์ด แล้วพูดกับภูเขานี้ว่า ‘จงย้ายจากที่นี่ ไปที่โน่น’ มันก็จะย้ายไป และไม่มีอะไรที่ท่านจะทำไม่ได้”

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว 14:22-33 พระเยซูเจ้าทรงดำเนินบนผิวน้ำ
ทันทีหลังจากนั้น พระเยซูเจ้าทรงสั่งให้บรรดาศิษย์ลงเรือข้ามทะเลสาบล่วงหน้าพระองค์ไปในขณะที่พระองค์ทรงจัดให้ประชาชนกลับ เมื่อทรงลาประชาชนแล้ว พระองค์ก็เสด็จขึ้นไปบนภูเขาเพื่อทรงอธิษฐานภาวนาตามลำพังครั้นเวลาค่ำ พระองค์ทรงอยู่ที่นั่นเพียงพระองค์เดียว ส่วนเรืออยู่ห่างจากฝั่งหลายร้อยเมตร กำลังแล่นโต้คลื่นอย่างหนักเพราะทวนลม เมื่อถึงยามที่สี่พระองค์ทรงดำเนินบนทะเลไปหาบรรดาศิษย์ เมื่อบรรดาศิษย์เห็นพระองค์ทรงดำเนินอยู่บนทะเลดังนั้น ต่างตกใจมากกล่าวว่า “ผีมา” และส่งเสียงอื้ออึงด้วยความกลัว ทันใดนั้นพระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาว่า “ทำใจให้ดี เราเอง อย่ากลัวเลย” เปโตรทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์ ก็จงสั่งให้ข้าพเจ้าเดินบนน้ำไปหาพระองค์เถิด” พระองค์ตรัสว่า “มาเถิด” เปโตรจึงลงจากเรือ เดินบนน้ำไปหาพระเยซูเจ้า แต่เมื่อเห็นว่าลมแรง เขาก็กลัวและเริ่มจมลง แล้วร้องว่า “พระเจ้าข้า ช่วยข้าพเจ้าด้วย” ทันใดนั้นพระเยซูเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์จับเขา ตรัสว่า “ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง สงสัยทำไมเล่า” เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นมาประทับในเรือพร้อมกับเปโตรแล้ว ลมก็สงบ คนที่อยู่ในเรือจึงเข้ามากราบนมัสการพระองค์ ทูลว่า “พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้าอย่างแท้จริง”

นอกจากนี้ปรัชญาการเชื่อว่าเจ้านายของโลกคือซาตาน คนจะหลุดพ้นต้องชนะโลก(แมรททริก)

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น12:30
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เสียงนี้เกิดขึ้นมิใช่เพื่อเรา แต่เพื่อท่านทั้งหลาย”
”บัดนี้ ถึงเวลาที่จะพิพากษาโลกแล้ว
บัดนี้ เจ้านายแห่งโลกนี้กำลังจะถูกขับไล่ออกไป
และเมื่อเราจะถูกยกขึ้นจากแผ่นดิน
เราจะดึงดูดทุกคนเข้ามาหาเรา”

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น14:29
และบัดนี้เราได้บอกท่านทั้งหลายก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น
เพื่อว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะเชื่อ
เราจะพูดกับท่านต่อไปอีกไม่ได้นาน
เพราะซาตานเจ้านายแห่งโลกนี้กำลังมา
มันไม่มีอำนาจอันใดเหนือเรา

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น16:33
เราบอกเรื่องเหล่านี้กับท่านแล้ว
เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา
ในโลกนี้ ท่านจะมีความทุกข์ยาก
แต่อย่าท้อแท้
เราชนะโลกแล้ว”

หรือแม้แต่การทำนายของเทพยากรณ์ ว่ามอร์เฟียส จะพบ ผู้ปลดปล่อย

มธ 11:2-15 คำถามของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง คำชมเชยของพระเยซูเจ้า
ขณะที่ยอห์นถูกจองจำอยู่ในคุก เขาได้ยินข่าวกิจการของพระเยซูเจ้า จึงใช้ศิษย์ไปทูลถามพระองค์ว่า “ท่านคือผู้ที่จะมาหรือเราจะต้องรอคอยใครอีก” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “จงไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่ท่านได้ยินและได้เห็น คนตาบอดกลับแลเห็น คนง่อยเดินได้ คนโรคเรื้อนหายจากโรค คนหูหนวกได้ยิน คนตายกลับคืนชีพ คนยากจนได้รับการประกาศข่าวดี ผู้ที่ไม่แคลงใจในเราย่อมเป็นสุข”

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น 1:19-34 ยอห์นเป็นพยาน
เขาถามยอห์นอีกว่า “ทำไมท่านจึงทำพิธีล้าง ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์ ไม่ใช่เอลียาห์ และไม่ใช่ประกาศก” ยอห์นตอบพวกเขาว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่มีผู้หนึ่งประทับอยู่ในหมู่ท่าน เป็นผู้ที่ท่านไม่รู้จัก ผู้นั้นมาภายหลังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานี อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนซึ่งยอห์นกำลังทำพิธีล้างอยู่ วันรุ่งขึ้น ยอห์นเห็นพระเยซูเจ้าเสด็จมาหาตน จึงกล่าวว่า “นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ผู้นี้คือผู้ที่ข้าพเจ้าเคยพูดถึงว่า “บุรุษผู้หนึ่งมาภายหลังข้าพเจ้า แต่นำหน้าข้าพเจ้า เพราะอยู่มาก่อนข้าพเจ้า” ข้าพเจ้าไม่รู้จักพระองค์ แต่ข้าพเจ้าถูกส่งมาให้ทำพิธีล้าง เพื่อทำให้พระองค์เป็นที่รู้จักแก่อิสราเอล ยอห์นยังยืนยันอีกว่า “ข้าพเจ้าเห็นพระจิตเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์เหมือนนกพิราบ และทรงอยู่เหนือพระองค์ ข้าพเจ้าไม่รู้จักพระองค์ แต่ผู้ที่ทรงส่งข้าพเจ้ามาใช้น้ำทำพิธีล้าง ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “เจ้าเห็นพระจิตเจ้าเสด็จลงมาประทับอยู่เหนือผู้ใด ผู้นั้นคือผู้ที่ทำพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า” ข้าพเจ้าเห็น และเป็นพยานยืนยันว่า ท่านผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

ศุกร์ ก.พ. 03, 2006 12:18 am

รู้สึกไม่ใช่ว่าจะกินยาหรือไม่กินนี่ครับ แต่เลือกยาที่จะกินระหว่างสีแดง กับ น้ำเงิน (red pill กับ blue pill ) เม็ดนึงนำไปสู่ความจริงออกจาก Matrix อีกเม็ดจะทำให้ลืมทุกอย่างที่ได้ยินมาในวันนั้นและกลับไปใช้ชีวิตปกติใน matrix อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

อนึ่งแต่ละคนใน Matrix เวลาถูกตัวโปรแกรมเอาตัว Agent ซ้อนทับเข้ามาตัวเรา เปรียบได้กับถูกมารล่อลวง สิงสู่ไหมครับ เพราะเราสามารถฝืนได้ถ้าพยายามไม่ให้มันแทรกแซงกลืนกินตัวเรา เห็นใน Animatrix ก็มีคนฝืนได้ แล้วตัวหนอนติดตามที่มันใส่ในตัว Neo และคนอื่น ๆ ผมว่าเหมือนบาปที่ติดตามตัวเรานะครับ ต้องไปหาวิธีเอาออก (แก้บาป) เสีย อย่างในเรื่องที่ Trinity เอาออกให้ ก็จะปลอดภัยตราบเท่าที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับ Agent (บาป) ให้มันติดกลับมาใหม่
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

พุธ ก.พ. 15, 2006 11:26 am

พยายามหาความหมายที่แท้จริงจาก matrix มานาน ได้พบคำตอบแล้วครับ ประทับใจมาก พระเจ้าอวยพรจริงๆ
:+:Regina Pacis:+:
.
.
โพสต์: 944
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm

ศุกร์ ก.พ. 01, 2008 11:20 pm

ลึกซึ้งมากเลยค่ะ  ::014::
ภาพประจำตัวสมาชิก
~KaThaRoS~
โพสต์: 792
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

ศุกร์ ก.พ. 01, 2008 11:32 pm

โอ้ววว มายก๊อดดดด
สุดยอดเลยพี่ปอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
BloodSweatAndTearz
โพสต์: 254
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 12:49 pm
ติดต่อ:

เสาร์ ก.พ. 02, 2008 12:55 am

อ่า ช่ายครับ พอทราบบ้างจอากตอนจบ แต่ไม่คิดว่ามันจะลึกซึ้งขนาดนี้!!!!!! : xemo023 :
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ก.พ. 02, 2008 1:04 am

ได้มีโอกาสอ่านอีกครั้ง ดีมากเลยครับ ::001::
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

เสาร์ ก.พ. 02, 2008 1:20 am

ใช่ เรื่องนี้ นำหลักไบเบิ้ลมาใช้  ดูได้จากภาค3 ที่ นีโอ ยอมสละตัวเองเพื่อความรัก ความรักในทุกๆแบบ เอเจ้นท์ สมิท ก็เปรียบดั่งซาตานที่มาคอยล่อลวง นีโอ
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ก.พ. 02, 2008 3:15 am

อ่า...ชอบหนังเรื่องมากๆ อ่ะ
ไม่รู้ว่ามันมีสาระซ่อนไว้ขนาดนี้
: emo010 :
ตอบกลับโพส