+++---จากคนเขียนเรื่องผี มาเป็นเขียนเรื่องพระ---+++

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 2:33 am

จากคนเขียนเรื่องผี มาเป็นเขียนเรื่องพระ
โดยปีเตอร์ คาวานาห์

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นการสัมภาษณ์ แอน ไรซ์ (Anne Rice) นักเขียนนวนิยายชุดแวมไพร์ ผีดูดเลือด ที่ขายดีติดอันดับโลก โดยผู้สื่อข่าวนิตยสาร Messenger of St Anthony แอนน์ ไรซ์ ผู้นี้ หลังจากที่ละทิ้งศาสนาไปนาน ได้หันกลับเข้าสู่พระศาสนจักรคาทอลิกดังเดิม

รูปภาพ

แอนน์ ไรซ์ ทราบดีว่าฝีมือการเขียนนวนิยายของเธอประสบความสำเร็จสูงสุด เนื่องจากคุณเนล จอร์แดน ได้นำนวนิยายของเธอไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และได้รับรางวัลออสการ์ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นำแสดงโดยทอม ครูส และแบรด พิทท์ อย่างไรก็ตามความสำเร็จด้านวัตถุและความมีชื่อเสียงกลับทำให้เธอรู้สึกว่างเปล่า หลงทาง หวาดกลัว และอ้างว้าง เพราะหลายปีก่อนหน้านั้น เธอหันหลังให้พระเจ้าผู้ทรงเป็นหลักชัยเดียวที่เธอควรยึดไว้ให้มั่น เธอกล่าวถึงอดีตที่สิ้นหวังว่าเป็น “ความหายนะทางใจ” ที่เลวร้ายของชีวิต


รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร ก.ค. 07, 2009 3:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 2:35 am

การหันคืนสู่ศาสนาของเธอเป็นเรื่องน่าทึ่ง หลังจากที่เธอทิ้งศาสนาไปนานถึง 20 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่ผลงานของเธออยู่ในรายชื่อหนังสือขายดีระดับโลก นวนิยายที่เธอแต่งขึ้นเป็นเรื่องแวมไพร์ ผีดูดเลือด และสรรพสัตว์ที่เป็น “อมตะ” ทั้งหลาย

รูปภาพ

ผู้อ่านทั่วโลกตกตะลึง เมื่อเธอหันกลับสู่ความเชื่อที่เธอเคยได้รับสมัยเป็นเด็ก เธอเล่าเรื่องนี้ในหนังสือเล่มใหม่เรื่อง Call out of Darkness, A Spiritual Confession ซึ่งเล่าถึงการเดินทางในชีวิตที่น่าเศร้าของเธอ เป็นสภาวะที่มีแต่ความเคลือบแคลงสงสัยอย่างรุนแรง และการคืนดีที่เกิดจากแสงสว่างแห่งความจริง ทั้งที่เกิดขึ้นเองและได้รับแรงบันดาลใจจากเพื่อน ๆ คาทอลิก เธอบรรยายการต่อสู้กับธรรมชาติมนุษย์อย่างกล้าหาญ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร ก.ค. 07, 2009 3:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 2:39 am

วัยเด็กของแอนน์ ไรซ์ การศึกษาอบรมแบบคาทอลิก

แอนน์ ไรซ์ ในวัยเด็กประทับใจในการศึกษาอบรมแบบคาทอลิก เธอมีความศรัทธามาก ร่วมมิสซาทุกวัน ทำนพวารเป็นประจำทุกสัปดาห์ เธอประทับใจในตัวซิสเตอร์และพระสงฆ์ที่ใจดี และสอนให้เด็กทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ส่งเสริมความเชื่อด้านศาสนาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น แอนน์ ไรซ์ เกิดเมื่อ ค.ศ.1941 เธอได้รับชื่อที่ค่อนข้างประหลาดว่า “Howard Allen O’Brien” ตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียน เธอได้เลือกชื่อใหม่เป็น “แอนน์” และใช้ชื่อนี้ตลอดมา เธออาศัยอยู่กับมารดาที่ติดเหล้าในเมืองนิวออลีนส์ชีวิตการศึกษาในวัยเด็กของเธออยู่ในสภาพแวดล้อม “คาทอลิก” บันทึกของเธอบรรยายถึงบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกว่าศาสนาคาทอลิกเป็นบ่อกำเนิดของความดีทั้งหลาย แต่ครอบครัวของเธอประสบชะตากรรมที่น่าเศร้า จนเป็นสาเหตุให้เธอละทิ้งศาสนา

รูปภาพ

มารดาของเธอเสียชีวิตเพราะติดสุราอย่างหนัก ขณะที่เธออายุได้ 14 ปี บิดาแต่งงานใหม่และอพยพครอบครัวไปอยู่เท็กซัส เธอจึงเข้าเรียนต่อในสังคมที่มิใช่คาทอลิก เธอบรรยายว่า “เป็นครั้งแรกที่ดิฉันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คาทอลิกเป็นชนกลุ่มน้อยจากนั้นดิฉันก็ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นที่ถูกเก็บกดมานาน ดิฉันแสวงหาทุกอย่างที่โลกสมัยใหม่ให้ได้ ดิฉันอ่านหนังสือของนักประพันธ์ที่มีแนวคิดว่ามนุษย์เป็นผู้กุมชะตากรรมของทุกสิ่ง (existentialist) ดิฉันใช้ยาเสพติด ปล่อยตัวเรื่องเพศสัมพันธ์ และสนใจคุณค่าศาสนาของอินเดียและจีน ขณะนั้นดิฉันเชื่อว่าโลกมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายใด ๆ ต่อชีวิต และชีวิตก็เป็นสิ่งที่ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 2:41 am

แนวคิดที่มืดมน

น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความเสียใจ เมื่อเธอกล่าวถึงช่วงที่เธอศึกษาในมหาวิทยาลัย และการใช้ชีวิตกับ “สตันไรซ์” สามีที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน 40 ปี สามีของเธอเป็นกวีและศิลปินชาวอเมริกัน เขาชักนำให้เธอหันหลังให้พระเจ้า “ดิฉันเสียความเชื่อและยอมรับความคิดที่ว่าโลกสมัยใหม่เป็นฝ่ายถูกต้อง และมนุษย์เราอาศัยอยู่ในโลกที่ไร้ความหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เพราะนับจากวันนั้นมาเป็นเวลา 38 ปี ดิฉันไม่เคยรู้สึกว่าเป็นมนุษย์ที่ครบสมบูรณ์เลย”

การเปลี่ยนจากคาทอลิกไปเป็นนักประพันธ์อเทวนิยมระดับดาวรุ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ลูกสาวของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดอายุ 6 ขวบ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นตอกย้ำทัศนคติในการมองโลกของเธอ ดังนั้น เธอจึงเริ่มจับงานเขียนเรื่อง Interview with the Vampire “การสัมภาษณ์ผีดูดเลือด” ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกของเธอ

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 2:43 am

“ดิฉันมิได้แสวงหาความเชื่อมากเท่ากับการที่พระเจ้าทรงแสวงหาตัวดิฉัน เพียงแต่ว่าตอนนั้นดิฉันไม่ได้ใส่ใจเท่านั้นเอง”

ผู้อ่านทั่วโลกคุ้นเคยกับนวนิยายชุดนี้ เพราะขายได้เกือบ 75 ล้านเล่มทั่วโลก มีการวิจารณ์งานเขียนของเธอว่าตัวละครล้วนเป็น “ผู้ที่เสียวิญญาณไปแล้ว” และกำลังต่อสู้ระหว่างธรรมชาติของความดีและความเลว เมื่อเธอมองย้อนกลับไปยังหนังสือที่เธอเขียน เธอยอมรับว่าเป็นเรื่องการต่อสู้ของตัวเอง ที่กำลังพยายามหาทางออกให้กับชีวิต เธอตั้งคำถามกับตัวเองว่า เป็นไปได้ไหมที่เธอจะเป็นคนดีได้โดยไม่ต้องพึ่งพระเจ้า การเป็นคนดีโดยไม่เป็นคาทอลิกจะเป็นไปได้ไหม และเธอก็เข้าใจว่า “นวนิยายที่เขียนขึ้นทั้งหมดคือ การเขียนเปรียบเทียบโลกที่ไม่มีพระเจ้า อันเป็นโลกที่ไร้ความหมายใด ๆ และเป็นแนวคิดที่มืดมน”

รูปภาพ

การหันกลับสู่พระเจ้าและพระศาสนจักรของเธอ มิได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่เป็นการเดินทางในความมืดที่ยาวนานถึง 38 ปี เธอกล่าวว่าเป็น “38 ปีแห่งการจาริกแสวงบุญกลับสู่พระเจ้า” ตลอดช่วงเวลานั้นเธอและสามีได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก ไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย เพราะ “ดิฉันอยากจะไปดูสถานที่ต่าง ๆ ที่นำผู้คนจำนวนมากสู่ความสุขและความชื่นชมยินดี ทุกที่ที่ดิฉันไป ดิฉันได้สะสมสายประคำ รูปพระต่าง ๆ ภาพศักดิ์สิทธิ์ และภาพนักบุญต่าง ๆ ที่ดิฉันเคยรู้จักอย่างดีเมื่อตอนเป็นเด็ก การเดินทางของดิฉันเป็นลักษณะของ “นักมานุษยวิทยา นักโบราณคดี” ที่สนใจแต่เรื่องของภูมิปัญญา”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 2:49 am

ถูกชำระให้สะอาด

ปัจจุบัน เธอยอมรับว่า พระเจ้าทรงติดตามเธอมาโดยตลอด “ดิฉันมิได้แสวงหาความเชื่อมากเท่ากับการที่พระเจ้าทรงแสวงหาตัวดิฉัน เพียงแต่ว่าตอนนั้นดิฉันไม่ได้ใส่ใจเท่านั้นเอง” จนกระทั่งเมื่อดิฉันไปกรุงโรมในปี 1998 ดิฉันร่วมเดินทางไปกับกลุ่ม “คาทอลิกใจศรัทธา” และขณะที่กำลังร่วมมิสซาตอนค่ำที่มหาวิหารนักบุญเปโตร ดิฉันรู้สึกดื่มด่ำกับความงามภายในของมหาวิหาร จารีตพิธี และเสียงเพลง และเมื่อถึงตอนรับศีลมหาสนิท ดิฉันถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ดิฉันปรารถนาจะรับศีล แต่ทราบดีว่าวิญญาณของตนไม่อยู่ในสถานะที่จะรับศีลได้ ดิฉันให้ความเคารพต่อศาสนาที่เคยถือมามากเกินกว่าจะทำตามความปรารถนาที่มีอยู่ ดิฉันทราบดีว่า ลึกลงไปในจิตใจ ดิฉันโหยหาศีลมหาสนิท ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกชำระให้สะอาด จากบางสิ่งที่กำลังแสวงหาดิฉันอยู่” หลังจากที่เธอเดินทางกลับถึงอเมริกา เธอก็ยังเขียนหนังสือบรรยายถึงแวมไพร์ผีดูดเลือด ที่กำลังโกรธจัดมากกว่าทุกเล่มที่เคยเขียนมาก่อน เต็มไปด้วยภาพมัจจุราชแห่งโลกที่มืดมิด โลกที่ปราศจากความหวังที่จะได้ผุดได้เกิด เป็นเรื่องที่พรรณนาถึงความดีและความเลว โดยมีการไตร่ตรองไว้เป็นอย่างดี และหลังจากนั้นเธอก็หันหลังให้กับเรื่องเหล่านี้โดยสิ้นเชิง

รูปภาพ

ก่อนที่จะกลับเข้าสู่พระศาสนจักรเธอมีสิ่งที่ต้องทำอยู่ไม่น้อย เนื่องจากทั้งเธอและสามีเป็น “นักอเทวนิยมสุดขั้ว” ทั้งสองแต่งงานใหม่อีกครั้งหนึ่งในวัดคาทอลิกที่นิวออร์ลีนส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ “สามีเข้าใจดีถึงความจำเป็นในเรื่องนี้ และยินดีปฏิบัติตามข้อบังคับของพระศาสนจักรพร้อมกับดิฉันอย่างจริงใจ และไม่นานต่อมาสามีดิฉันก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสมอง”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 2:56 am

นักเขียนเพื่อพระเจ้าเท่านั้น

สำหรับผู้อ่านนับล้านคน การตัดสินใจกลับเป็นคาทอลิกของแอนน์ ไรซ์ เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด ในฐานะอาชีพนักประพันธ์ เธอทราบดีว่าเธอสามารถใช้พรสวรรค์ทำงานเพื่อพระเจ้า “เขียนเพื่อพระองค์ และเพื่อพระองค์เท่านั้น ดิฉันคิดว่า ความคิดสร้างสรรค์ที่ดิฉันมีเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ และดิฉันมีเรื่องในสมองอย่างเหลือล้นจนหยุดเขียนไม่ได้”



รูปภาพ

เธอตัดสินใจเขียนเรื่องพระชีวประวัติของพระเยซูเจ้า ในลักษณะของนวนิยายขึ้น 1 ชุด เป็นหนังสือ 4 เล่ม เล่มแรกมีชื่อว่า Christ the Lord, out of Egypt “พระคริสตเจ้าเสด็จออกจากประเทศอียิปต์” พิมพ์ในปี 2005 เป็นหนังสือที่สร้างความตกตะลึงแก่ผู้อ่าน และหนังสือในชุดใหม่ของเธอคือ From Vampires to Christ “จากแวมไพร์ผีดูดเลือดสู่พระคริสต์” เธอพบว่าผู้อ่านที่เป็นแฟนนวนิยายเรื่องผีดูดเลือดของเธอจำนวนมาก เปลี่ยนไปเป็นผู้อ่านเรื่องของพระคริสตเจ้า และผู้ที่ไม่เคยอ่านหนังสือของเธอมาก่อนอีกไม่น้อย ก็เริ่มอ่านหนังสือที่เธอเขียน

รูปภาพ

หนังสือเล่มที่สองในชุดใหม่ชื่อ Christ the Lord, the Road to Cana “เสียงกู่ร้องให้พ้นจากเงามืด : การสารภาพจากใจ” เป็นงานเขียนที่เกิดจากแรงบันดาลใจที่แตกต่างจากการเขียนเรื่องของพระคริสต์ เพราะ “ดิฉันต้องการเขียนในลักษณะการใช้สติปัญญาในเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า มีหนังสือหลายเล่มในช่วง 2-3 ปีนี้ ที่ตราหน้าคริสตชนว่าเป็นคนโง่ ดิฉันจึงตัดสินใจเขียนและจำเป็นต้องเขียนเรื่องที่มีผู้อ่านมากพอ เป็นเรื่องที่แพร่หลายสำหรับผู้อ่านที่มีการศึกษา สามารถตัดสินใจเลือกทางเดินกลับคืนสู่พระเจ้า เพราะดิฉันเห็นว่าสิ่งนี้เป็นการตัดสินใจที่ต้องใช้สติปัญญาที่ล้ำลึก” ขณะเดียวกันเธอยอมรับว่าเรื่องของเธอมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็วางใจในพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรัก เธอทราบดีว่าเธอมีความคิดเห็นแตกต่างจากพระศาสนจักรในหลายเรื่อง แต่การวางใจในพระเจ้า “หมายถึงการยอมปล่อยให้ข้อขัดแย้งทั้งหลายเกี่ยวกับพระศาสนจักรคาทอลิกดำเนินไปตามครรลอง” เธอไม่เคยคิดว่าพระศาสนจักรถูกต้องสมบูรณ์แบบ เธอชื่นชมธรรมชาติที่แท้จริงของการยอมรับว่า “การกลับคืนสู่บ้านแท้ของเราเป็นเรื่องที่อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า” เธอเขียนจากความทรงจำอันความเจ็บปวดที่ต้องเลือกระหว่างความเชื่อส่วนตัวกับสิ่งที่พระศาสนจักรเชื่อ ซึ่งปัจจุบันเธอเชื่อว่าเป็นการเลือกที่แตกต่างกัน “ดิฉันจะไม่จากพระองค์ไปอีกแล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องอื้อฉาวใด ๆ เกิดขึ้นในพระศาสนจักร หรือมีการบาดหมางกันในพระศาสนจักรบนโลกนี้ และดิฉันก็จะไม่ออกจากพระศาสนจักรอีกต่อไปแล้ว”

รูปภาพ

ผู้อ่านหนังสือของเธอให้การต้อนรับอย่างดี นิตยสารไทม์เขียนถึงเธอว่า “แอน์ ไรซ์ เป็นนักเขียนระดับเดียวกับ Clive Staples Lewis ซึ่งเป็นนักเขียนปกป้องความเชื่อ ผู้เขียนเรื่อง The Chronicles of Narnia “อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 3:00 am

งานเขียนในอนาคต

แอนน์ ไรซ์ มิได้ปฏิเสธหนังสือเรื่องแวมไพร์ของเธอ เพราะ “หนังสือเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตการเดินทางของดิฉัน” และเธอก็ไม่เสียใจที่จะทิ้งหนังสือพวกนั้น “ดิฉันอยากเขียนนวนิยายที่มีการผจญภัย และให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่าน ดิฉันวางแผนจะเขียนหนังสืออีกชุดหนึ่งชื่อ The Songs of Seraphim “บทเพลงของเทวดาเซราฟิม” ซึ่งบรรยายการผจฐภัยของเหล่านิกรเทวดาบนโลกมนุษย์ ดิฉันยังอยากเขียนเรื่องของคริสต์มาส ซึ่งอาจแข่งกับชาร์ลส์ดิ๊กเคนส์ และอยากเขียนนิยายเกี่ยวกับพระศาสนจักรในยุคเริ่มแรกด้วย”

แอนน์ไรซ์ เป็นผู้รอบรู้ เธออ่านและค้นคว้าอย่างหนักก่อนจะเขียนนวนิยายแต่ละเรื่อง เธอศึกษาเทววิทยาประวัติพระศาสนจักร และประวัติศาสตร์โลกในช่วง 2000 ปีที่ผ่านมา เธอรับฟังเมื่อมีผู้แสดงความเห็นแตกต่างไปจากการตีความและการให้รายละเอียดของเธอ เพราะเธอถือว่าสิ่งนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิตนักประพันธ์และนักคิดแต่ท้ายที่สุดแล้ว เธออยากให้ผู้คนมองว่า เธอเป็นคริสตชนและเป็นมนุษย์ที่ทำผิดได้คนหนึ่ง

ในวัดนักบุญฟรังซิส อัสซีซีในรัฐแคลีฟอร์เนีย แอนน์ไรซ์ สวดภาวนาต่อหน้ารูปนักบุญฟรังซิส อัสซีซี ว่า “ดิฉันเป็นมนุษย์ที่เคยทำผิด เป็นคริสตชนคนหนึ่งที่แสวงหารอยแผลศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ในดวงใจ ในวิญญาณ และในชีวิตประจำวันของดิฉัน”

รูปภาพ

ก่อนจบการสัมภาษณ์มีคำถามว่า ทำไมบนปกหนังสือเรื่อง Call out of Darkness, A Spiritual Confession จึงมีรูปเธอยืนอยู่หลังรูปนักบุญอันตน นักบวชคณะฟรังซิสกัน เธอตอบว่าท่านนักบุญเป็นผู้ที่อยู่ในใจของเธอมาตลอด นอกจากนั้น เธอมีคุณสมบัติที่คล้ายท่าน คือมีพลังดึงดูดผู้คนได้มากตลอดชีวิตวัยเด็กที่บ้านของเธอมีรูปท่านนักบุญตั้งอยู่ และเมื่อเป็นผู้ใหญ่เธอเริ่มสะสมรูปนักบุญ และรูปนักบุญอันตนอุ้มพระกุมารคือรูปแรกที่เธอซื้อทุกวันนี้เธอยังคงตั้งรูปนักบุญอันตนไว้ในสำนักงานของเธอ

“ดิฉันจะไม่จากพระองค์ไปอีกแล้ว”

ปีเตอร์ คาวานาห์. นิตยสารแม่พระยุคใหม่ นิตยสารราย 2 เดือน ฉบับที่ 29 กรกฎาคม – สิงหาคม 2522 หน้าที่ 16 – 19. กรุงเทพฯ: คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร, 2551.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อังคาร ก.ค. 07, 2009 8:59 am

รูปหนำใจมากครับพี่ : xemo016 :

จะว่าไป Christ out of egypt ยังอ่านไม่จบบทแรกเลย~

กลับมาอ่านดีกว่า
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

อังคาร ก.ค. 07, 2009 9:00 am

อืมมมมมมมมมม

ดีจังเลยค่ะ  อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น

ขอบคุณนะคะพี่โฮลี่

: xemo026 : : xemo026 : : xemo026 :
Yan Agape
โพสต์: 1240
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อังคาร ก.ค. 07, 2009 10:09 pm

For more info, go to the following links.

A Review of Anne Rice
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

อังคาร ก.ค. 07, 2009 10:45 pm

พ่อแมนเคยเทศน์เรื่องนี้ด้วย

คิดถึงพ่อแมน ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

พุธ ก.ค. 08, 2009 1:00 am

"เคย" ครอบครองเล่มสุดท้ายด้วย  : emo045 :

ขอบคุณค่ะ : xemo026 :
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ก.ค. 11, 2009 11:58 am

ฟังเสียงนึกว่า ไรท์( Rigth) ที่ไมเคิ้ล ไรท์ เคยเขียนโจมตีคริสตืบ่อย (ตอนนีเป็นมะเร็งตายแล้ว)

ไมเคิ้ล ไรท์ เป็นคริสตัง ที่เขียนเรื่องผี /ตัวแทนของมารซาตาน

ปล.เบื่อ นายสรยุทธ เชียร์ น้องหมวยแพนด้าจัง ยังกะแกเป็นพ่อหมีน้อยงั้นแหละ : emo038 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ot@
~@
โพสต์: 989
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm

พฤหัสฯ. ก.ค. 16, 2009 1:19 pm

ชอบวิธีเขียนของเขามาก เดี๊ยวจะไปหาเล่มหลังๆมาอ่าน

ขอบคุณพี่ปอมากครับ  : xemo026 :
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

ศุกร์ ก.ค. 17, 2009 3:23 pm

ดีใจจังครับที่เขากลับมาในอ้อมกอดของพระบิดาอีกครั้ง  : emo045 :  : xemo026 :

ทำไมสายประคำถึงใหญ่อย่างนั้นล่ะครับ::039::
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.ค. 20, 2009 11:20 pm

ขอบคุณครับ มีนักบุญเต็มไปหมดเลยดีจัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

อังคาร ก.ค. 21, 2009 6:47 am

น่าปิติยินดียิ่งนัก  : xemo023 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
My Hope
โพสต์: 735
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 8:42 am
ติดต่อ:

อังคาร ก.ค. 21, 2009 8:27 am

ดีใจกับเธอด้วยครับ ที่กลับมาหาพระเจ้าอีกครั้ง

ขอบคุณนักบุญทั้งหลาย และ ขอบคุณพระเจ้า
ตอบกลับโพส