+++โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร --- พระเจ้าให้ของขวัญแต่ละคน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 1:24 am
ความรักและกำลังใจ ของผู้ชายน่ารัก
จากนิตยสาร Metro Life
พูดชื่อ “โต๋” เมื่อไร เรามักจะนึกภาพหนุ่มโรแมนติกนั่งดีดเปียโนและร้องเพลงอย่างมีความสุข เมื่อประกอบกับรอยยิ้มของเขาแล้ว ใครเห็นก็ตกหลุมรักโต๋ได้ง่ายๆ เพราะเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นและสุภาพเหลือเกิน
บ่ายวันธรรมดาวันหนึ่ง โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร เดินทางมายังบริษัทของเรา เขาสวมเสื้อสีดำ ผูกเนกไทสีเทา แลดูมาดขรึมกว่าตอนเล่นดนตรีมาก แต่ในความขรึมนั้น กลับยิ้มอนุญาตให้เราเข้าไปพูดคุยได้สบายๆ
โต๋ คนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นของครอบครัวนักดนตรี นคร เวชสุภาพร อดีตหัวหน้าวงแกรนด์เอ็กซ์ และคุณแม่ธนภรณ์ เวชสุภาพร เป็นทั้งนักแต่งเพลง นักร้อง และนักดนตรี ซึ่งอยู่ในความชื่นชอบของวัยรุ่นจำนวนมาก และเรียกได้ว่าเป็นคนหนุ่มวัยเบญจเพสที่ประสบความสำเร็จในด้านดนตรีสูง เขาบอกกับเราว่า สิ่งที่ทำให้เขามีทุกวันนี้ก็คือ ครอบครัวและศาสนาคริสต์
หนุ่มโต๋นับถือศาสนาคริสต์ตามครอบครัวและเริ่มจับเปียโนตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ทั้งศาสนาและดนตรีจึงค่อยๆ กล่อมเกลาจิตใจให้โต๋อ่อนโยนทีละน้อย เขาบอกว่าทุกศาสนาสอนให้คนมุ่งทำความดี เป็นคนดี และในศาสนาคริสต์จะเน้นความสำคัญเรื่องความรัก
“ศาสนาเป็นทิศทาง เป็นจุดยืน เป็นข้อคิดของทุกคน ศาสนาคริสต์สำหรับผมเป็นเหมือนดาวนำทางว่าจะใช้ชีวิตไปทางไหน การเจอปัญหาและคิดโต้ตอบกับปัญหาทำยังไง เป็นความอุ่นใจ ความไว้ใจที่เราได้ฝากไว้กับพระเจ้า ชีวิตมันไม่แน่นอน และมนุษย์แต่ละคนไม่มีใครแข็งแรงพอที่จะสู้ชีวิตได้ลำพังหรอก ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ เวลาเดินไปไหนก็จะมีดาวนำทาง รู้ว่าควรเดินไปทางไหน ควรจะเริ่มต้นหรือจบยังไง”
งานเพลงเป็นสิ่งที่เขารักและภูมิใจ เมื่อตัวตนของโต๋กับตัวงานเข้ากันได้ดี บทเพลงที่ถ่ายทอดออกมาผ่านชาวคริสต์อย่างเขาจึงพบได้ทั้งความละเมียดละไมในเนื้อร้องและท่วงทำนอง เพลงรักของโต๋...ถ่ายทอดพลังความรักออกมาได้ดีเยี่ยม ในขณะที่เพลงเศร้าก็ทำให้ผู้ฟังอินและเปลี่ยวเหงาเศร้าสร้อยตาม สังเกตได้ว่าเพลงที่ บอย - ชีวิน โกสิยพงษ์ หรือ ปุ๊ - อัญชลี จงคดีกิจ ศิลปินชาวคริสต์เช่นเดียวกับโต๋ ถ่ายทอดผลงานเพลงออกมา จะพูดถึงความรักซึ่งอยู่สูงกว่าคำว่าโรแมนติก
“ในศาสนาคริสต์ พระเจ้าพูดถึงความรัก พระเจ้าบอกเองว่าพระเจ้าคือความรัก ดนตรีก็คือความรักที่ถ่ายทอดออกมาทางเสียงเพลง รู้สึกว่าชีวิตเป็นความบังเอิญที่มีแต่ความรัก รักเพื่อน รักครอบครัว รักแฟน ทำให้รู้สึกว่าชีวิตเรามีความรักมากเหลือเกินจนเราอยากจะวาดรูปร่างหน้าตาออกมา ก็เลยถ่ายทอดออกมาเป็นเสียงเพลง ดนตรีจึงเป็นหน้าตาของความรัก ไม่ว่าจะเป็นรักที่สมหวังหรือไม่สมหวัง”
หลายคนเชื่อว่าเรื่องดีๆ ในชีวิตเกิดจากคำว่า “โชค” แต่โต๋มองว่าชีวิตของเขาเป็นของขวัญจากพระเจ้า และการที่เราได้ทำ ได้เป็นในสิ่งที่เป็นทุกวันนี้ เป็นของขวัญที่เราต้องดูแล
“พระเจ้าให้ของขวัญแต่ละคนไม่เหมือนกัน เจ้านายบางคนให้เงินลูกน้อง 1 บาท บางคนให้ 3 บาท 5 บาท 10 บาท ไม่ว่าจะได้เท่าไรก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด คนที่ได้ 1 บาท อาจจะดูแลได้ดีกว่าคนที่ได้ 10 บาท ถ้าคุณเอาเงินไปฝังดินก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นทิศทางชีวิตอันหนึ่งที่สอนผมว่า คนเราได้พรสวรรค์มาคนละแบบ ทุกคนไม่ต้องไม่จำเป็นต้องเล่นเปียโนเหมือนผม ขอให้ซื่อสัตย์กับตัวเอง น้อมรับในสิ่งที่ได้มาและทำให้ดีที่สุด”
พรสวรรค์กับพรแสวงก็เป็นของขวัญในชีวิตสำหรับโต๋ พรสวรรค์เป็นสิ่งที่เขาบอกว่ามองไม่เห็น ในขณะที่พรแสวงสามารถจับต้องได้ เช่น หมั่นฝึกซ้อม ตั้งใจทำงาน ทำให้เขามีผลงาน พอซ้อมแล้วพรสวรรค์กับพรแสวงมาเจอกันมันก็ลงตัวพอดี แต่ถ้าไม่ซ้อม โต๋คิดว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้น
โต๋ยังคงมีงานอย่างต่อเนื่อง และที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ คือ คอนเสิร์ตเดี่ยว “LG KP500 present " โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร" คอนเสิร์ต 'วันแห่งความรัก' ณ อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี วันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้
http://www.jaisamarn.org/webboard/question.asp?QID=4599
จากนิตยสาร Metro Life
พูดชื่อ “โต๋” เมื่อไร เรามักจะนึกภาพหนุ่มโรแมนติกนั่งดีดเปียโนและร้องเพลงอย่างมีความสุข เมื่อประกอบกับรอยยิ้มของเขาแล้ว ใครเห็นก็ตกหลุมรักโต๋ได้ง่ายๆ เพราะเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นและสุภาพเหลือเกิน
บ่ายวันธรรมดาวันหนึ่ง โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร เดินทางมายังบริษัทของเรา เขาสวมเสื้อสีดำ ผูกเนกไทสีเทา แลดูมาดขรึมกว่าตอนเล่นดนตรีมาก แต่ในความขรึมนั้น กลับยิ้มอนุญาตให้เราเข้าไปพูดคุยได้สบายๆ
โต๋ คนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นของครอบครัวนักดนตรี นคร เวชสุภาพร อดีตหัวหน้าวงแกรนด์เอ็กซ์ และคุณแม่ธนภรณ์ เวชสุภาพร เป็นทั้งนักแต่งเพลง นักร้อง และนักดนตรี ซึ่งอยู่ในความชื่นชอบของวัยรุ่นจำนวนมาก และเรียกได้ว่าเป็นคนหนุ่มวัยเบญจเพสที่ประสบความสำเร็จในด้านดนตรีสูง เขาบอกกับเราว่า สิ่งที่ทำให้เขามีทุกวันนี้ก็คือ ครอบครัวและศาสนาคริสต์
หนุ่มโต๋นับถือศาสนาคริสต์ตามครอบครัวและเริ่มจับเปียโนตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ทั้งศาสนาและดนตรีจึงค่อยๆ กล่อมเกลาจิตใจให้โต๋อ่อนโยนทีละน้อย เขาบอกว่าทุกศาสนาสอนให้คนมุ่งทำความดี เป็นคนดี และในศาสนาคริสต์จะเน้นความสำคัญเรื่องความรัก
“ศาสนาเป็นทิศทาง เป็นจุดยืน เป็นข้อคิดของทุกคน ศาสนาคริสต์สำหรับผมเป็นเหมือนดาวนำทางว่าจะใช้ชีวิตไปทางไหน การเจอปัญหาและคิดโต้ตอบกับปัญหาทำยังไง เป็นความอุ่นใจ ความไว้ใจที่เราได้ฝากไว้กับพระเจ้า ชีวิตมันไม่แน่นอน และมนุษย์แต่ละคนไม่มีใครแข็งแรงพอที่จะสู้ชีวิตได้ลำพังหรอก ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ เวลาเดินไปไหนก็จะมีดาวนำทาง รู้ว่าควรเดินไปทางไหน ควรจะเริ่มต้นหรือจบยังไง”
งานเพลงเป็นสิ่งที่เขารักและภูมิใจ เมื่อตัวตนของโต๋กับตัวงานเข้ากันได้ดี บทเพลงที่ถ่ายทอดออกมาผ่านชาวคริสต์อย่างเขาจึงพบได้ทั้งความละเมียดละไมในเนื้อร้องและท่วงทำนอง เพลงรักของโต๋...ถ่ายทอดพลังความรักออกมาได้ดีเยี่ยม ในขณะที่เพลงเศร้าก็ทำให้ผู้ฟังอินและเปลี่ยวเหงาเศร้าสร้อยตาม สังเกตได้ว่าเพลงที่ บอย - ชีวิน โกสิยพงษ์ หรือ ปุ๊ - อัญชลี จงคดีกิจ ศิลปินชาวคริสต์เช่นเดียวกับโต๋ ถ่ายทอดผลงานเพลงออกมา จะพูดถึงความรักซึ่งอยู่สูงกว่าคำว่าโรแมนติก
“ในศาสนาคริสต์ พระเจ้าพูดถึงความรัก พระเจ้าบอกเองว่าพระเจ้าคือความรัก ดนตรีก็คือความรักที่ถ่ายทอดออกมาทางเสียงเพลง รู้สึกว่าชีวิตเป็นความบังเอิญที่มีแต่ความรัก รักเพื่อน รักครอบครัว รักแฟน ทำให้รู้สึกว่าชีวิตเรามีความรักมากเหลือเกินจนเราอยากจะวาดรูปร่างหน้าตาออกมา ก็เลยถ่ายทอดออกมาเป็นเสียงเพลง ดนตรีจึงเป็นหน้าตาของความรัก ไม่ว่าจะเป็นรักที่สมหวังหรือไม่สมหวัง”
หลายคนเชื่อว่าเรื่องดีๆ ในชีวิตเกิดจากคำว่า “โชค” แต่โต๋มองว่าชีวิตของเขาเป็นของขวัญจากพระเจ้า และการที่เราได้ทำ ได้เป็นในสิ่งที่เป็นทุกวันนี้ เป็นของขวัญที่เราต้องดูแล
“พระเจ้าให้ของขวัญแต่ละคนไม่เหมือนกัน เจ้านายบางคนให้เงินลูกน้อง 1 บาท บางคนให้ 3 บาท 5 บาท 10 บาท ไม่ว่าจะได้เท่าไรก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด คนที่ได้ 1 บาท อาจจะดูแลได้ดีกว่าคนที่ได้ 10 บาท ถ้าคุณเอาเงินไปฝังดินก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นทิศทางชีวิตอันหนึ่งที่สอนผมว่า คนเราได้พรสวรรค์มาคนละแบบ ทุกคนไม่ต้องไม่จำเป็นต้องเล่นเปียโนเหมือนผม ขอให้ซื่อสัตย์กับตัวเอง น้อมรับในสิ่งที่ได้มาและทำให้ดีที่สุด”
พรสวรรค์กับพรแสวงก็เป็นของขวัญในชีวิตสำหรับโต๋ พรสวรรค์เป็นสิ่งที่เขาบอกว่ามองไม่เห็น ในขณะที่พรแสวงสามารถจับต้องได้ เช่น หมั่นฝึกซ้อม ตั้งใจทำงาน ทำให้เขามีผลงาน พอซ้อมแล้วพรสวรรค์กับพรแสวงมาเจอกันมันก็ลงตัวพอดี แต่ถ้าไม่ซ้อม โต๋คิดว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้น
โต๋ยังคงมีงานอย่างต่อเนื่อง และที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ คือ คอนเสิร์ตเดี่ยว “LG KP500 present " โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร" คอนเสิร์ต 'วันแห่งความรัก' ณ อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี วันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้
http://www.jaisamarn.org/webboard/question.asp?QID=4599