‘แม่ชีเทวดา’ ซิสเตอร์อันเยลีกา
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 24, 2009 1:04 am
คอลัมน์ แสงธรรม
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้วันสุข
ปีที่ 5 ฉบับที่ 221 ประจำวัน จันทร์ ที่ 24 สิงหาคม 2009
โดย คุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง
‘แม่ชีเทวดา’ซิสเตอร์อันเยลีกา
คน ทั่วโลกและโดยเฉพาะในทวีปเอเชียเราจะรู้จัก “ซิสเตอร์เทเรซาแห่งกัลกัตตา คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา” หรือ “นักบุญคนยาก หรือแม่พระของคนยากจน” ซึ่งได้มรณะเมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 1997 อายุ 87 ปี
มีซิ สเตอร์อีกท่านหนึ่งที่น่าสนใจและเป็นที่รู้จักมากทางด้านสื่อมวลชน และยังมีชีวิตอยู่ เป็นชาวสหรัฐอเมริกา ซิสเตอร์แมรี่ อันเยลีกา ริต้า (Sister Mary Angelica Rita) อายุ 83 ปีแล้ว เกิดวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1926 คนทั่วไปเรียกว่า “คุณแม่อันเยลีกา” หรือ “ซิสเตอร์อันเยลีกา”
ซิสเตอร์อันเยลีกาเป็นผู้ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์อีดับเบิลยูทีเอ็น (EWTN, Eternal World Television Network) ทั้งๆที่ไม่มีความรู้เรื่องโทรทัศน์มาก่อนเลย แต่ด้วยความเชื่อศรัทธา และมั่นใจในความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า โดยได้เริ่มสร้างสถานีโทรทัศน์จากโรงรถของอาราม เมื่ออายุ 54 ปี
ปัจจุบันสถานีโทรทัศน์ EWTN ออกอากาศตลอดเวลา 24 ชั่วโมง มีครอบครัวที่รับรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทั้งหมด 148 ล้านหลังคาเรือน ใน 140 ประเทศ และแต่ละคนสามารถรับรายการนี้โดยตรงผ่านดาวเทียมได้ นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ www.ewtn.com รายการวิทยุ หนังสือ ฯลฯ
ซิ สเตอร์อันเยลีกาสมัยเป็นเด็กชื่อว่า ริต้า อันตัวเน็ต ริสโซ (Rita Antoinette Rizzo) เป็นลูกสาวคนเดียว บิดาชื่อ จอห์น ริสโซ คุณแม่ชื่อ แม ริสโซ (Mae Rizzo) อายุได้ 6 ขวบ พ่อแม่ก็แยกทางกัน ต้องอยู่กับแม่ที่แคนตัน รัฐโอไฮโอ ชีวิตในวัยเด็กเป็นคนเก็บตัวและครอบครัวยากจน มีตาและยายช่วยเลี้ยงดูมาตลอด ชีวิตในวัยเด็กช่างอาภัพ ขณะเรียนหนังสือ แม่ต้องไปรับจ้างทำงานรับซักเสื้อผ้า เหน็ดเหนื่อย มีรายได้มาก็เพียงแค่พอประทังชีวิตไปวันหนึ่งๆ ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น อายุได้ 15 ปี มีอาการเจ็บปวดภายในท้องมาก ไปหาหมอรักษาและเอกซเรย์ดูก็พบว่าอาการหนัก รักษาไม่ได้แล้ว เมื่อหมอหมดปัญญา แต่ปัญหายังอยู่ ต่างก็หันหน้าหาพระช่วย เมื่อยาช่วยไม่ได้ ก็ขออัศจรรย์ พระเมตตาจากพระ และริตาได้สัญญาว่า
“ถ้าลูกหายป่วยครั้งนี้จะอุทิศชีวิตเพื่อพระเป็นเจ้าและเพื่อผู้อื่น”
หลัง จากได้สวดทำพิธีนพวาร (Novena) แล้ว เธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวดที่ลำไส้เหมือนเดิม เธอได้เล่าว่า คืนวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1943 เธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวดสักพักหนึ่ง แต่พอรุ่งเช้าตื่นขึ้นมา เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกเลย รู้สึกว่าอัศจรรย์เกิดขึ้นแล้ว เธอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า และอัศจรรย์นี้ทำให้เธอรักพระเป็นเจ้าที่มีต่อเธอลึกซึ้งยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะอุทิศตนเองเพื่อพระเป็นเจ้า
ในฐานะลูกสาวคนเดียว และแม่ก็อยู่ในฐานะแม่หม้าย เธอเป็นห่วงแม่มาก การตัดสินใจบวชทำให้ริต้าลำบากมากที่ต้องตัดสินใจครั้งนี้ เพราะต้องจากแม่ไป เธอไม่กล้าบอกกับแม่โดยตรง ได้แต่วางแผนเข้าอารามไว้เพียงลำพัง และได้เขียนจดหมายลาคุณแม่วางไว้ที่โต๊ะคืนวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1944 และดึกคืนนั้นเอง เธอก็เข้าอารามโดยไม่ให้แม่รู้ เมื่อเข้าอารามนักบุญคลาราผู้ยากจนที่คลิฟแลนด์ เธอได้รับชื่อว่า ซิสเตอร์ริต้า (Sister Rita) ในฐานะผู้สมัครบวช (postulant) ซิสเตอร์ได้รับคำแนะนำเรื่องชีวิตนักบวช ร่วมภาวนาพร้อมกับสมาชิกในคณะและทำงานบ้านคือ ซักเสื้อผ้า ทำแผ่นศีล งานในครัวและทำความสะอาดพื้น แต่ปัญหาเรื่องหัวเข่าซึ่งเคยหายเจ็บไปนานแล้ว กลับมาอีกครั้งหนึ่งทำให้ต้องเปลี่ยนหน้าที่อยู่เรื่อยๆ
วันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1945 ซิสเตอร์ได้รับเสื้อชุดนักบวชสีน้ำตาลแบบคณะฟรันซิสกัน พร้อมผ้าคลุมศีรษะสีขาว เป็นนวกเณรี (Novice) และได้รับชื่อใหม่ว่า ซิสเตอร์แมรี่ อันเยลีกา แห่งแม่พระรับสาร (Sister Mary Angelica of Annunciation)
ซิสเตอร์อันเยลีกาได้ปฏิญาณตนครั้งแรก วันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1947 และได้ปฏิญาณตนตลอดชีพอย่างสง่า วันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1953
วันหนึ่งระหว่างที่ทำงาน ซิสเตอร์ลื่นล้มลงและหลังไปกระแทกกำแพง กระดูกสันหลังบาดเจ็บรุนแรง พยายามรักษานานหลายเดือน แต่อาการกลับทรุดหนัก ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลถึง 2 ปี ที่สุดหมอวินิจฉัยว่าต้องผ่าตัด ในคืนก่อนวันนัดผ่าตัด ซิสเตอร์รู้สึกกลัว ได้ภาวนาขอพระว่า “พระเจ้าข้า พระองค์คงมิได้ทรงนำลูกออกมาเพื่อให้มานอนพักรักษาหลังอย่างนี้ตลอดชีวิต โปรดเถิดพระเยซูเจ้าข้า ถ้าพระองค์โปรดให้ลูกเดินได้อีกครั้งหนึ่ง ลูกจะสร้างอารามเพื่อพระสิริมงคลแด่พระองค์ และลูกจะสร้างทางภาคใต้”
หลังจากผ่าตัดนอนพักรักษาในโรงพยาบาลอยู่ 4 เดือน ซิสเตอร์ก็ดีขึ้น และสามารถเดินได้อีกครั้งหนึ่ง ซิสเตอร์รักษาคำสัญญากับพระก่อนผ่าตัด ซิสเตอร์อันเยลีกาและซิสเตอร์อีก 4 คน ได้ออกเดินทางลงไปทางใต้ ที่ไอรอนดัล รัฐแอละแบมา สร้างอารามคณะแม่พระแห่งเทวดา และเสร็จเรียบร้อยในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 1962
ต่อมาได้เซ็นสัญญา ออกอากาศสถานีโทรทัศน์อีดับเบิลยูทีเอ็น (EWTN) และออกอากาศวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1981 ผ่านบริษัทดาวเทียมและจานดาวเทียมตามบ้านซึ่งใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
นิตยสารไทม์ได้พูดถึงคุณแม่อันเยลีกาว่า ท่านเป็นสตรีในพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่ามีอิทธิพลมากที่สุด
ชีวิต เรื่องราวต่างๆของซิสเตอร์อันเยลีกา ซึ่งเป็นเครื่องมือที่บกพร่อง ไม่แข็งแรง แต่พระเป็นเจ้าทรงจัดเตรียมให้เป็นเครื่องมือของพระองค์ เพื่อให้มนุษย์ได้สำนึกว่า เป็นงานของพระ และความสำเร็จทั้งหลายเป็นพระเป็นเจ้าเอง มนุษย์เป็นเพียงเครื่องมือที่ธรรมดาๆ
ซิสเตอร์อันเยลีกา อายุ 83 ปี แม้ร่างกายจะอ่อนล้าไปตามวันเวลา แต่จิตใจยังมีพลังเข้มแข็งอย่างน่าพิศวง เรียกได้เต็มปากว่า “ซิสเตอร์ยายเทวดา”
ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 5 ฉบับที่ 221 วันที่ 22-28 สิงหาคม พ.ศ. 2552 หน้า 24 คอลัมน์ แสงธรรม โดย คุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้วันสุข
ปีที่ 5 ฉบับที่ 221 ประจำวัน จันทร์ ที่ 24 สิงหาคม 2009
โดย คุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง
‘แม่ชีเทวดา’ซิสเตอร์อันเยลีกา
คน ทั่วโลกและโดยเฉพาะในทวีปเอเชียเราจะรู้จัก “ซิสเตอร์เทเรซาแห่งกัลกัตตา คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา” หรือ “นักบุญคนยาก หรือแม่พระของคนยากจน” ซึ่งได้มรณะเมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 1997 อายุ 87 ปี
มีซิ สเตอร์อีกท่านหนึ่งที่น่าสนใจและเป็นที่รู้จักมากทางด้านสื่อมวลชน และยังมีชีวิตอยู่ เป็นชาวสหรัฐอเมริกา ซิสเตอร์แมรี่ อันเยลีกา ริต้า (Sister Mary Angelica Rita) อายุ 83 ปีแล้ว เกิดวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1926 คนทั่วไปเรียกว่า “คุณแม่อันเยลีกา” หรือ “ซิสเตอร์อันเยลีกา”
ซิสเตอร์อันเยลีกาเป็นผู้ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์อีดับเบิลยูทีเอ็น (EWTN, Eternal World Television Network) ทั้งๆที่ไม่มีความรู้เรื่องโทรทัศน์มาก่อนเลย แต่ด้วยความเชื่อศรัทธา และมั่นใจในความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า โดยได้เริ่มสร้างสถานีโทรทัศน์จากโรงรถของอาราม เมื่ออายุ 54 ปี
ปัจจุบันสถานีโทรทัศน์ EWTN ออกอากาศตลอดเวลา 24 ชั่วโมง มีครอบครัวที่รับรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทั้งหมด 148 ล้านหลังคาเรือน ใน 140 ประเทศ และแต่ละคนสามารถรับรายการนี้โดยตรงผ่านดาวเทียมได้ นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ www.ewtn.com รายการวิทยุ หนังสือ ฯลฯ
ซิ สเตอร์อันเยลีกาสมัยเป็นเด็กชื่อว่า ริต้า อันตัวเน็ต ริสโซ (Rita Antoinette Rizzo) เป็นลูกสาวคนเดียว บิดาชื่อ จอห์น ริสโซ คุณแม่ชื่อ แม ริสโซ (Mae Rizzo) อายุได้ 6 ขวบ พ่อแม่ก็แยกทางกัน ต้องอยู่กับแม่ที่แคนตัน รัฐโอไฮโอ ชีวิตในวัยเด็กเป็นคนเก็บตัวและครอบครัวยากจน มีตาและยายช่วยเลี้ยงดูมาตลอด ชีวิตในวัยเด็กช่างอาภัพ ขณะเรียนหนังสือ แม่ต้องไปรับจ้างทำงานรับซักเสื้อผ้า เหน็ดเหนื่อย มีรายได้มาก็เพียงแค่พอประทังชีวิตไปวันหนึ่งๆ ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น อายุได้ 15 ปี มีอาการเจ็บปวดภายในท้องมาก ไปหาหมอรักษาและเอกซเรย์ดูก็พบว่าอาการหนัก รักษาไม่ได้แล้ว เมื่อหมอหมดปัญญา แต่ปัญหายังอยู่ ต่างก็หันหน้าหาพระช่วย เมื่อยาช่วยไม่ได้ ก็ขออัศจรรย์ พระเมตตาจากพระ และริตาได้สัญญาว่า
“ถ้าลูกหายป่วยครั้งนี้จะอุทิศชีวิตเพื่อพระเป็นเจ้าและเพื่อผู้อื่น”
หลัง จากได้สวดทำพิธีนพวาร (Novena) แล้ว เธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวดที่ลำไส้เหมือนเดิม เธอได้เล่าว่า คืนวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1943 เธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวดสักพักหนึ่ง แต่พอรุ่งเช้าตื่นขึ้นมา เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกเลย รู้สึกว่าอัศจรรย์เกิดขึ้นแล้ว เธอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า และอัศจรรย์นี้ทำให้เธอรักพระเป็นเจ้าที่มีต่อเธอลึกซึ้งยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะอุทิศตนเองเพื่อพระเป็นเจ้า
ในฐานะลูกสาวคนเดียว และแม่ก็อยู่ในฐานะแม่หม้าย เธอเป็นห่วงแม่มาก การตัดสินใจบวชทำให้ริต้าลำบากมากที่ต้องตัดสินใจครั้งนี้ เพราะต้องจากแม่ไป เธอไม่กล้าบอกกับแม่โดยตรง ได้แต่วางแผนเข้าอารามไว้เพียงลำพัง และได้เขียนจดหมายลาคุณแม่วางไว้ที่โต๊ะคืนวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1944 และดึกคืนนั้นเอง เธอก็เข้าอารามโดยไม่ให้แม่รู้ เมื่อเข้าอารามนักบุญคลาราผู้ยากจนที่คลิฟแลนด์ เธอได้รับชื่อว่า ซิสเตอร์ริต้า (Sister Rita) ในฐานะผู้สมัครบวช (postulant) ซิสเตอร์ได้รับคำแนะนำเรื่องชีวิตนักบวช ร่วมภาวนาพร้อมกับสมาชิกในคณะและทำงานบ้านคือ ซักเสื้อผ้า ทำแผ่นศีล งานในครัวและทำความสะอาดพื้น แต่ปัญหาเรื่องหัวเข่าซึ่งเคยหายเจ็บไปนานแล้ว กลับมาอีกครั้งหนึ่งทำให้ต้องเปลี่ยนหน้าที่อยู่เรื่อยๆ
วันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1945 ซิสเตอร์ได้รับเสื้อชุดนักบวชสีน้ำตาลแบบคณะฟรันซิสกัน พร้อมผ้าคลุมศีรษะสีขาว เป็นนวกเณรี (Novice) และได้รับชื่อใหม่ว่า ซิสเตอร์แมรี่ อันเยลีกา แห่งแม่พระรับสาร (Sister Mary Angelica of Annunciation)
ซิสเตอร์อันเยลีกาได้ปฏิญาณตนครั้งแรก วันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1947 และได้ปฏิญาณตนตลอดชีพอย่างสง่า วันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1953
วันหนึ่งระหว่างที่ทำงาน ซิสเตอร์ลื่นล้มลงและหลังไปกระแทกกำแพง กระดูกสันหลังบาดเจ็บรุนแรง พยายามรักษานานหลายเดือน แต่อาการกลับทรุดหนัก ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลถึง 2 ปี ที่สุดหมอวินิจฉัยว่าต้องผ่าตัด ในคืนก่อนวันนัดผ่าตัด ซิสเตอร์รู้สึกกลัว ได้ภาวนาขอพระว่า “พระเจ้าข้า พระองค์คงมิได้ทรงนำลูกออกมาเพื่อให้มานอนพักรักษาหลังอย่างนี้ตลอดชีวิต โปรดเถิดพระเยซูเจ้าข้า ถ้าพระองค์โปรดให้ลูกเดินได้อีกครั้งหนึ่ง ลูกจะสร้างอารามเพื่อพระสิริมงคลแด่พระองค์ และลูกจะสร้างทางภาคใต้”
หลังจากผ่าตัดนอนพักรักษาในโรงพยาบาลอยู่ 4 เดือน ซิสเตอร์ก็ดีขึ้น และสามารถเดินได้อีกครั้งหนึ่ง ซิสเตอร์รักษาคำสัญญากับพระก่อนผ่าตัด ซิสเตอร์อันเยลีกาและซิสเตอร์อีก 4 คน ได้ออกเดินทางลงไปทางใต้ ที่ไอรอนดัล รัฐแอละแบมา สร้างอารามคณะแม่พระแห่งเทวดา และเสร็จเรียบร้อยในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 1962
ต่อมาได้เซ็นสัญญา ออกอากาศสถานีโทรทัศน์อีดับเบิลยูทีเอ็น (EWTN) และออกอากาศวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1981 ผ่านบริษัทดาวเทียมและจานดาวเทียมตามบ้านซึ่งใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
นิตยสารไทม์ได้พูดถึงคุณแม่อันเยลีกาว่า ท่านเป็นสตรีในพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่ามีอิทธิพลมากที่สุด
ชีวิต เรื่องราวต่างๆของซิสเตอร์อันเยลีกา ซึ่งเป็นเครื่องมือที่บกพร่อง ไม่แข็งแรง แต่พระเป็นเจ้าทรงจัดเตรียมให้เป็นเครื่องมือของพระองค์ เพื่อให้มนุษย์ได้สำนึกว่า เป็นงานของพระ และความสำเร็จทั้งหลายเป็นพระเป็นเจ้าเอง มนุษย์เป็นเพียงเครื่องมือที่ธรรมดาๆ
ซิสเตอร์อันเยลีกา อายุ 83 ปี แม้ร่างกายจะอ่อนล้าไปตามวันเวลา แต่จิตใจยังมีพลังเข้มแข็งอย่างน่าพิศวง เรียกได้เต็มปากว่า “ซิสเตอร์ยายเทวดา”
ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 5 ฉบับที่ 221 วันที่ 22-28 สิงหาคม พ.ศ. 2552 หน้า 24 คอลัมน์ แสงธรรม โดย คุณพ่อวรยุทธ กิจบำรุง