ก่อนอื่น อันดับแรกเลยต้องขอขอบคุณ คุณ Buddy ที่ประชาสัมพันธ์ งานครั้งนี้ครับ ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่ามี และคงไม่ได้มานับเป็นพระพรมาก ๆ เลย
วันนี้เนี่ย (12/11/52) บอกตรง ๆ ว่ามีหลายอย่างที่อยากจะทำ ตอนแรก ถ้าพ่อของผม ไม่ได้ไปหาลูกค้าที่ลาว ผมก็คงจะัยังอยู่นครปฐม และคงจะกลับกองพันของผม (เนื่องจากผมเป็นทหารเกณฑ์ 1 ปี) ในวันพรุ่งนี้ (13/11/52) และวันนี้ตอนเย็นก็คงจะได้ไปสวดทำวัีตรกับพ่อเชษฐาที่วัดนักบุญเปโตรสามพราน เพื่ออุทิศแก่วิญญาณในไฟชำระ (แหะ ๆ แอบรับพระคุณการุณบางส่วนนิดนึง) แต่วันนี้พ่อผมดันไปลาว ผมเลยเหงา ๆ ก็เลย ตัดสินใจไปบ้านเช่าที่แถวเอแบคที่ญาติ ๆ และน้องสาวผมอยู่ ตอนนั้นหลายจิตหลายใจอยู่ว่าจะทำอะไร อันดับแรกในหัวอยากไปพบและกินข้าวกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน คนนี้ถือว่าซี๊ย่ำปึ้กมาก อีกใจก็อยากไปสัมนาไฟความรักของพระเจ้าที่วัดมหาไถ่ และอีกใจคือนอนอยู่บ้านนั่นแหละ
พอไปถึงที่แอแบคผมก็ไปทำบัตรเอทีเอ็มที่ธนาคารกรุงศรีฯก่อน และไปเยี่ยมเพื่อน ๆ ที่เคยทำงานด้วยที่เอแบค เม้าท์แตกกันใหญ่ ไป ๆ มา ๆ มีเสียงในใจบอกผมว่า "จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระองค์เถิด" ผมก็เลยตัดสินใจไม่โทรหาเพื่อนที่สนิทที่สุด และไปเข้ามิสซาภาษาอังกฤษ 5 โมงเย็นที่เอแบค และพอหลังมิสซา ก็สวดทำวัตรเย็นอุทิศให้วิญญาณในไฟชำระ มิสซาเนี่ย เสร็จก็ 5 โมง 20 แล้ว ทำวัตรเนี่ย ปกติ ถ้าทำดี ๆ ก็ปาไป 20 นาทีแล้ว กว่าจะเสร็จก็ 5 โมง 40 แล้ว จริง ๆ เวลานั้นถ้าจะนั่งรถเมล์และต่อรถไฟฟ้าให้ไปถึง ซอยร่วมฤดีก่อน 1 ทุ่มถือว่าเป็นการยากที่จะให้ไปถึงให้ทันเวลา เพราะรถติดบรม ตอนแรกก็แอบหงุดหงิดนิดหน่อย นั่งฟังเพลงพระไปเรื่อย ก็คิดความคิดว่า เออ เราแสวงหาพระองค์แล้ว แม้มันจะช้าไปหน่อย มันอาจจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นก็ได้ หรือไม่สัมมนาอาจจะเริ่มช้าก็ได้ใครจะไปรู้ คือคิดในแง่ดีไว้ก่อน พอถึง ประมาณ ทุ่ม 20 ก็ยังไม่ได้ทำอะไรมากเลย แค่เริ่มต้นด้วยการร้องเพลงนมัสการ
ในระหว่างสัมมนาที่พ่อบรรยาย ผมแทบจะไม่ได้อะไรเลย บอกตรง ๆ ว่าคนที่แปลคำพูดของคุณพ่อโรเจร์ โปแลงค์ สำเนียงฝรั่งเศส ฟังไม่ค่อยถนัด ไม่รู้ว่าเร็ว หรือว่าทักษะการฟังผมไม่ดีก็ไม่รู้ ปกติ เวลาฟังบรรยายของกลุ่ม ฟิลิปปินส์จะฟังง่ายกว่าชาติอื่น ๆ นะผมว่า ... ฟังบรรยายไม่ค่อยกินใจเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าคนแปลหรือพ่อพูดไม่ดี แต่ทักษะของผมมันห่วยเองแหละ แต่แนะนะครับคนที่ไป ก็ให้รู้คำศัพท์ไว้บ้าง จะได้รู้ว่าเขาให้ทำอะไร อ่ะ แนะนำคำศัพท์นะครับ สำหรับคนไม่เก่งภาษาอังกฤษนะครับ ถ้าอยากไป
kneel down คุกเขา close your eyes หลับตา say พูด touch my life, my Lord โปรดสัมผัสชีวิตเถิด, พระเจ้าข้า
ตอนบรรยาย เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่หลัง ๆ จุดสำคัญก็คือ คุณพ่อเรียกให้ทุกคนมาเข้าแถวตรงกลาง และให้เราหลับตา และให้กล่าวในใจว่า touch my life ผมยืนหลับตาไม่ท่องคำอื่นเลย ผมท่องแค่ว่า touch my life, oh Lord. และปล่อยใจให้ไปตามสิ่งที่เราพูด ไม่วอกแวก จนกระทั่ง คุณพ่อเขาได้เป่าลมใส่ใครก็ไม่รู้ ที่แน่ ๆ คนที่อยู่หน้าผมตั้งไกล พ่อเขาเล่นเป่าออกไมค์เลย วินาทีที่ผมได้ยินเสียงเป่าลม ของคุณพ่อ หัวของผมก็เหมือนโดนผลักไปข้างหลัง แต่ผมก็บังคับตัวเองไม่ให้ล้ม ถ้าผมไม่บังคับตัวเอง ผมก็คงล้มดิ่งลงไปทันทีแน่นอน แล้วแอบเปิดตาดูจึงรู้ว่า คุณพ่อไม่ได้อยู่ต่อหน้าผมแน่ ผมก็แอบเปิดตาดูบ้างว่าพ่อเ้ข้ามาใกล้หรือยัง และ่ท่องคำนั้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง ผมคิดในใจว่า มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปว่า พ่อนั้นจะอยู่ต่อหน้าผมหรือไม่ ผมปล่อยตัวผมลงไปตามที่มีพลังผลักดันผมให้ล้มลง แล้วผมก็ล้มลงนอนลงกับพื้นโดยมีคนอื่น ๆ คอยรับตัวไว้ ผมนอนลงไปนานอยู่เหมือนกัน
ขณะที่ผมนอนลงไปนั้น มันเป็นความรู้สึกปิติยิดีอย่างบอกไม่ถูก มันเบา สบาย ความไม่สบายที่เกิดจากนอนไม่พอ คือปวดหัว อาการปวดหัวหายไปปริดทิ้ง สบายทั้งกายและใจ
เหมือนกับที่เรียนคำสอนไหมครับ สัญลักษณ์ของพระจิตเจ้า นั้น หนึ่งในนั้นคือลม แต่ผมเคยได้รับประสบการณ์แบบนี้มาแล้วตอนเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มคู่สมรสเพื่อพระคริสต์ (CFC) ตอนนั้น ท่านพระคุณเจ้า ประธาน ท่านเจิมน้ำมัน การเจิมน้ำมันก็เป็นสัญลักษณ์ของพระจิตเหมือนกัน เราเรียก กิจกรรมแบบนี้ว่า "การล้างในพระจิตเจ้า"
สิ่งที่ผมได้หลังจากผมตื่นมาคือ ผมมีพลังแ่ห่งพระจิตเจ้ามากขึ้นในการจะเอาชนะบาป การมาครั้งนี้เหมือนเป็นการเติมพลังให้ผมเป็นอย่างมาก เพราะผมต้องไปสู้รบปรบมือกับ สิ่งไม่ดีต่าง ๆ ในกองพันผม ไม่ว่าคนที่กดขี่เอาเปรียบ หรือคนที่ลามกที่คอยเย้ายวนให้เราทำบาป แต่ผมจะไปว่าเขาไม่ได้ นอกจากมองว่า พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของพระเจ้าในการฝึกผมให้เป็นคนเข้มแข็งและให้เป็นคนที่ศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นตามพระประสงค์ของพระเจ้า นอกจากนี้พรุ่งนี้เนี่ย ตอนแรกผมมีแผนในใจว่า จะไปดูเรื่อง 2012 พอหลังจากตื่นขึ้นมา ผมรู้สึกว่า ผมไม่ต้องการไปดูมันอีกแล้ว ผมไม่ต้องการอะไรแล้ว มันอบอุ่นเหลือเิกิน ผมตื่นขึ้นมาแล้วโมทนาคุณพระเจ้า และขอบพระคุณพระองค์ และซาบซึ้งจนน้ำตาไหลออกมา
พอปิดพิธีก็ร้องเพลงนมัสการอีก 1 เพลง จำไม่ได้ว่าเพลงอะไร น่าจะ shout to the Lord เพราะโคตร ๆ (คนเลือกเพลงนี่เข้าใจเลือกจริง ๆ) คนอื่น ๆ ในวัดชูมือขึ้นมาก็จริง แต่อยู่แค่ระดับศีรษะ แต่วินาทีที่บทเพลงเริ่มขึ้นมา ผมไม่รีรอ ไม่อาย ไม่คิดอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ผมต้องการจะทำคือ ชูมือให้สุดแขน และร้องเพลงเสียงดังสรรเสริญพระองค์อย่างสุดจิตใจ
กิจกรรมในวันนี้เติมไฟให้กับชีวิตจริง ๆ ต้องขอบคุณและสรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์ตรัสกับผมในใจ และรู้สึกโชคดีที่ผมฟังเสียงลึก ๆ ในใจ "จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระองค์เถิด แล้วพระองค์จะเพิ่มเติมทุกสิ่งให้" คำ ๆ นี้จริงทีเดียว พระองค์ทรงเติมชีวิตผมให้เต็มจนผมรู้สึกว่า ผมไม่ขาดสิ่งใด ๆ อีกแล้ว พระเจ้าข้า ลูกจะบอกว่า "อัลเลลูยา" สรรเสริญพระนามของพระองค์ อัลเลลูยา
พรุ่งนี้ใครไปกิจกรรมนี้ได้ ก็เชิญไปนะครับ ถ้าพลาดวันนี้กับพรุ่งนี้ ก็ยังมีที่บ้านเซเวียร์ วันเสาร์กับอาทิตย์
ดูตารางเวลา ได้ที่ข้างล่างนี้ครับ
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=12386.0
ไปกันให้ได้นะครับ แล้วอย่าลืมมาแบ่งปันกันนะครับ และมาสัมผัสกันว่า "การล้างในพระจิตเจ้า" เป็นยังไงไม่จำเป็นต้องสลบอย่างเดียว บางคนอาจจะพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจก็ได้ วันนี้เห็นมีอยู่คนสองคน เอาเป็นว่าทำตามสิ่งที่เรียกร้องในใจนะครับ แค่นี้ละกันแล้วไว้มาคุยกันใหม่นะครับ
แบ่งปันประสบการณ์จากสัมมนาไฟความรักของพระเป็นเจ้า
-
Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
เห็น คุณหน่อยบอกว่า เตรียมสอบหรือกำลังสอบ นี่ละครับ 
