เพราะอะไรจึงตัดสินใจก้าวเข้ามาในเส้นทางของคริสตชน

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
ตอบกลับโพส
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 8:04 pm

เพราะอะไรจึงเปลี่ยนมาเป็นคริสตชน

สารภาพด้วยความสัตย์จริงค่ะ ถ้าแม่ทูนหัวไม่บอกให้มาโพส...
ก็ไม่คิดจะเอาเรื่องของตัวเองมาโพสเลยค่ะ
เพราะตัวเองเป็นคนอ่อนแอและอับอายมากที่จะต้องบอก
ความอ่อนแอของตัวเองให้คนอื่นรู้

แต่ความอับอายและผลต่าง ๆ ที่จะตามมาข้าพเจ้าขอรับไว้

หากข้อความเหล่านี้ทำให้ใครสักคนที่ได้อ่านเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น
อยากรู้จักพระองค์มากขึ้น หรือทำให้ใครสักคนกลับมาอยู่กับพระองค์

ขอให้สรรเสริญพระเจ้าเถอะค่ะ

ปล. ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าจริง
และมีหลายเรื่องที่ถูกตัดทอดออกไป

รูปภาพ

เดิมเป็นพุทธที่มีพื้นฐานจากครอบครัวคนจีนคือไหว้เทพเจ้า, บรรพบุรุษ,
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ และโดยเฉพาะตัวเองเคยเกือบตายตอนเป็นทารก
แต่ที่บ้านเอาไปฝากเป็นหลานพระพุทธรูปชื่อดังแห่งหนึ่งแล้วรอดชีวิตมาได้
ครอบครัวก็ยิ่งเชื่อว่าเราต้องไปไหว้พระองค์นั้นทุก ๆ ปี
ไม่เช่นนั้นเราจะต้องเสียชีวิตหรือไม่เจริญ

การที่ต้องไปวัดนั้นทุกปีตั้งแต่เด็กทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของวัดที่
กลายเป็นพุทธพาณิชย์เต็มรูปแบบไม่ใช่วัดที่สงบอีกต่อไปแล้ว
จึงเกิดคำถามกับตัวเองว่า
“พระพุทธศาสนาคืออะไรกันแน่”
“ทำไมพระอริยะถึงต้องรับของเซ่น, แก้บน”
“ที่กราบไหว้เขากราบไหว้อะไรรูปปั้นหรือพระพุทธเจ้า”
“ที่บอกว่าระลึกถึงความดีของพระพุทธเจ้ามีกี่คนที่คิดตอนไหว้บ้าง”
“แล้วพระธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนพวกเขาเคยนำไปใช้บ้างหรือเปล่า”
“แล้วพระสงฆ์ทำไมจึงปฏิบัติพฤติกรรมที่ไม่สมควร
แต่ไม่มีใครออกมาท้วงติงบ้าง”
“ทำไมคนไทยงมงายพึ่งพาผีสางนางไม้หวังแต่โชคลาภ
สิ่งดี ๆ ไม่เอาแบบอย่างแต่สิ่งไม่ดีกลับไปยกย่อง” ฯลฯ

เมื่อเริ่มโตขึ้นก็เลิกไปไหว้พระพุทธรูปองค์นั้นเพราะคิดว่า
พระธรรมคือแก่นแท้พุทธศาสนา หากเรายึดคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
เราก็สามารถดำเนินชีวิตได้เช่นกัน ประกอบกับการที่ไม่ไปไหว้เราก็ยังไม่ตาย
อย่างที่ครอบครัวบอกทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าความคิดของเราถูก
ก็ยิ่งเน้นศึกษาจากสื่อธรรมะ, ฟังและอ่านบทเทศน์จากพระอาจารย์ที่ดี
ทำตัวเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี รักษาศีล 5 คิดว่าแค่นี้เพียงพอแล้วสำหรับชีวิต

แต่ส่วนลึกในใจเรายังมีความสงสัยอยู่
มันเป็นความสงสัยที่ตอนมีความสุขเราไม่เคยคิดถึงมันหรอก

รูปภาพ

จนเมื่อชีวิตดำเนินไปถึงจุดหนึ่งความเหนื่อยล้าในใจมันพอกขึ้น ๆ
จนถึงขีดที่เรารับไม่ไหวและธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่สามารถทำให้
ใจของเราสงบได้อีกแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องยอมรับกับตัวเองแล้วว่า

“ที่ผ่านมาเราแกล้งมีความสุข ใจเราไม่ได้สงบจริง
เราทนกับปัญหาซ้ำซากอย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีก”

ตอนนั้นเองคำถามว่า “เราเกิดมาทำไม” มันผุดขึ้นมา
เราไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ไม่มีใครช่วยเราได้
และเวลานั้นสภาพจิตใจและความคิดคงเหมือนหลายคน ๆ ที่เกิดปัญหา
แล้วไม่รู้จะพึ่งใคร คือ “อยากฆ่าตัวตาย”

แต่เรารู้สึกว่าเราทำแบบนั้นไม่ได้ ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร
ทำไมถึงทำไม่ได้ เหมือนมีบางอย่างขวางไม่ให้เราทำ

คืนนั้นหดหู่ หมดหวัง ร้องไห้โดยไม่มีใครแม้แต่คนเดียวรู้

แท้จริงแล้วไม่ใช่... พระเจ้าทรงรู้...

ตลอดเวลาที่ร้องไห้ ในใจกลับคิดถึงบทวันทามารีอาขึ้นมา
บทนี้เป็นบทที่โรงเรียนตอนประถมสอนให้ซึ่งมันผ่านมานานมาก
พอเข้ามัธยมก็ไม่ได้สวดจริงจังอีก
(ตอนนั้นยังใช้คำว่า “พระสวามีเจ้าสถิตกับท่าน” อยู่เลย)

ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตอนนั้นบทสวดทางพุทธเราไม่อยากสวดแม้แต่บทเดียว
ได้แต่ทำตามความคิดที่แวบเข้ามา สวดแต่บทวันทามารีอา
ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยรอบวนซ้ำไปซ้ำมาจนหลับ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ประมาณตีสามหรือตีสี่

คืนนั้นเองที่ลุกขึ้นมาหาคำตอบให้กับตัวเอง “ชีวิตมาจากไหน”

ทางพุทธศาสนาไม่บ่งบอกว่าชีวิตมาจากไหนโดยอธิบายว่า
ทุกอย่างมีมาตั้งแต่ต้น ธรรมชาติเป็นของมันเองแบบนี้ตั้งแต่แรก
แต่ก็ยอมรับเรื่องการมีอยู่ของ “วิญญาณ” (ขันธ์ 5)

นั่นไม่ใช่คำตอบ... “วิญญาณดวงแรกมาจากไหน”

ตอนนั้นเองที่เกิดความคิดว่าพุทธศาสนาตอบคำถามเราไม่ได้
เราก็เริ่มเปลี่ยนไปศึกษาความเชื่ออื่น ๆ จนกระทั่งสะดุดใจที่คำว่า

“พระเจ้า”

พระเจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงทำให้ 3 ศาสนาในโลกเชื่อใน “พระเจ้าองค์เดียวกัน”

นี่คือจุดเริ่มต้นของการที่เข้ามาสนใจคริสต์ศาสนา

รูปภาพ

หลังจากที่ได้ลองสืบค้นจากแหล่งต่าง ๆ แล้ว ลิงก์หนึ่งในนั้น
ก็นำมาที่หน้าเว็บของชุมชนคริสตชนออนไลน์แห่งหนึ่ง

“ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด
เราจะให้ท่านหายเหนื่อยและเป็นสุข”

พอเห็นประโยคนี้เท่านั้นก็เริ่มร้องไห้ ตอนนั้นรู้แล้วตัวเองกำลังหาอะไรอยู่

แต่ก็ยังไม่ยอมรับ... ดื้อที่จะยอมรับหัวใจตัวเอง...

นั่งแอบซุ่มอ่านข้อมูลต่าง ๆ ในเว็บเป็นเดือน อ่านทุกบทความ
อ่านเกือบทุกกระทู้ อ่านจนไปเจอหัวข้อแนะนำให้สวดสายประคำ
เราก็เริ่มสวดทั้งที่ไม่มีสายประคำใช้วิธีนับนิ้วเอา
ระหว่างนั้นก็ศึกษาศาสนาอื่น ๆ ไปด้วย
อยากรู้ศาสนายูดายเขาว่าอย่างไร อยากรู้ศาสนาอิสลามเป็นอย่างไร

และอยากได้คำตอบ “พระเจ้าอยู่ที่ไหน พระองค์อยู่ที่ศาสนาไหน”

แล้วก็เริ่มลองดีท้าทาย ถ้ามีพระเจ้าจริงก็ทรงให้นู้นให้นี่เราสิ
มันเป็นความคิดจองหองเพียงชั่วครู่ เพราะคำตอบจริง ๆ
เรารู้อยู่แล้วว่าเราปรารถนาอะไร

จากคำท้าทายก็กลายเป็นคำเสี่ยงทาย
“ถ้าพระเจ้าอยากให้นับถือศาสนาไหน ขอให้อ่านคัมภีร์ของศาสนานั้นจบ”
ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็สามารถอ่านพันธะสัญญาใหม่ได้จบ
โดยที่เล่มอื่น ๆ ขยับไปได้ไม่กี่บท

ยิ่งทำให้ยอมรับและเปิดใจเชื่อว่า “พระเจ้ามีอยู่จริง”
คำตอบที่สงสัยก็เริ่มคลี่คลาย

พระเจ้าเป็นผู้สร้างไม่ใช่สิ่งสร้าง คำถาม “ใครสร้างพระเจ้า”
จึงเป็นคำถามที่สับสนในตัวคำถามเอง

แต่คำตอบ “ใครสร้างวิญญาณดวงแรก” กลับชัดเจน
และพอได้เริ่มเรียนคำสอน คำตอบในเรื่องอื่น ๆ ก็ทยอยตามมา

รูปภาพ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “ชาตินี้เกิดมาไม่ดีเพราะกรรมเก่า” ในศาสนาพุทธ
ซึ่งเคยคิดเสมอว่าไม่ยุติธรรม ทำดีในปัจจุบันไปชาตินี้กลับไม่ได้ใช้
ต้องไปสะสมชาติหน้าหรือต้องมาชดใช้กรรมของชาติก่อน

แต่พอเป็นคำตอบทางคริสต์
“เพื่อแสดงพระสิริรุ่งโรจน์และสรรเสริญแด่พระเจ้า
เพื่อเป็นการชำระตนเองและจะได้อยู่กับพระเจ้านิรันดร”
เราก็ได้คำตอบว่าทำไมเราถึงเกิดมา

มันเกิดความหวัง, ความสุขและกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อ

หรือจะเป็นเรื่อง “การให้อภัย” ที่เมื่อก่อนเราเคยคิดว่า
แค่เราแผ่เมตตาให้ก็เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
การแผ่เมตตาเหมือนเรายังยึดติดคิดว่าเราอยู่เหนือกว่า
จึงแผ่บุญให้คนอื่นหรือสิ่งอื่นได้ มันคือความยโสและอวดดี

การให้อภัยคือการที่เรายกโทษให้กับคนที่ทำให้เราเจ็บได้
ซึ่งคำสอนนี้ยากมากแต่ทุกครั้งที่เราให้อภัย
โซ่ที่ยึดเราไว้มันหลุดไปทีละเส้น ใจเราเป็นสุขทีละน้อย

ให้อภัยไม่เหมือนปล่อยวางด้วย ปล่อยวางคือเพิกเฉย,
นิ่งไม่รู้ร้อนหนาวกับคนนั้นได้ แต่ให้อภัยของคริสต์นั้น
เราจะต้องรักเขาด้วย

ไม่มีศาสนาไหนสอนแบบนี้ สอนให้รักคนที่เกลียดเราและเราเกลียด

แต่พระเยซูเจ้าสอนให้เรารัก...

รูปภาพ

มุมมองชีวิตที่เคยมองแต่แง่ร้ายเสมอมันถูกปรับเปลี่ยน
เราเห็นพระเจ้าในตัวคนอื่น ๆ ทำให้เรารักพวกเขาเหมือนที่เรารักพระเจ้า
เราไม่อ้างว้างอีกต่อไปเพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียว
เรามีพระเจ้าอยู่กับเราตลอดเวลาทั้งเวลาทุกข์และสุข
พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเรา

ธรรมหลายร้อยข้อมันได้จุดสรุปสั้น ๆ ที่ไม่ต้องท่องจำ
หรืออ่านคำแปลเพราะทุกคนเข้าใจดี

“รัก”

เพราะรักเราจึงทำทุกอย่างได้ ยอมรับทุกอย่างได้

มนุษย์นั้นโหยหาความรักมาตลอดและพระเจ้าก็ทรงเป็นองค์ความรักที่เที่ยงแท้
พระองค์ไม่ทรยศให้เราเจ็บช้ำ มีแต่มนุษย์ที่ทำให้พระองค์เจ็บปวด

เพราะปรารถนาที่อยากรักองค์พระผู้เป็นเจ้า
จึงตัดสินใจก้าวเดินเข้ามาในเส้นทางของคริสตชน

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 12, 2011 9:54 pm

อาแมน ขอบคุณที่แบ่งปัน อ่านแล้วประทับใจจ้า :s015:

เอาไว้เวลาเกิดความท้ิอแท้อีก
ก็กลับมาอ่านบทความที่ตัวเองเขียนนี่แหละ
แล้วก็จะมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 8:54 am

ขอบคุณที่แบ่งปันครับน้อง ขอบคุณที่ช่วยย้ำถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผ่านประสบการณ์ชีวิตจริง

ขอบพระคุณพระเจ้า ที่ทรงตามหาลูกๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Koonn
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2011 7:35 pm

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 12:04 pm

มีข้อหนึ่งที่พูดเกี่ยวกับการนับถือผีสางนางไม้ เราเห็นด้วยนะ เราไม่ชอบเลยละ ทำไมต้องเชื่อเรื่องพวกนี้ก็ไม่รู้

ขอบคุณที่เผยแพร่ความรู้สึกให้ฟังนะค่ะ

พระเจ้าอวยพรค่ะ :s002:
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 1:03 pm

:s007: อ่านแล้วประทับใจ ซึ้งใจมากค่ะ
ขอบคุณพระบิดาเจ้าที่ทรงรักและห่วงใยลูก ๆทุกคนเสมอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 1:41 pm

ขอบพระคุณที่แบ่งปันค่ะ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนได้เห็นตอนตัวเองมารู้จักพระองค์ตอนแรกๆเลย เหมือนเห็นตัวเองในอดีต เพียงแต่เราอาจไม่ได้ศึกษาศาสนาอื่นลึกซึ้งเหมือนคุณ littleseal ค่ะ

ขอพระเป็นเจ้าอวยพรให้ความรู้สึกที่ถูกเติมเต็มด้วยความรักที่แท้จริงคงอยู่กับคุณ littleseal ตลอดไปค่ะ :s015:

ปล.ลายเซ็นเราก็มีที่มาจากความรู้สึกแบบคุณในตอนต้นเลยล่ะค่ะ :s012:
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 7:49 pm

:s018: อายค่ะ

ขอบคุณทุกคนนะคะ ขอให้พระเจ้าทรงอวยพรค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ พ.ค. 14, 2011 1:53 pm

อย่าไปอาย ในชีวิตต้องเล่าอีกเยอะ
ทุกคนที่เจอ ต้องถามอยุ่แล้วว่าทำไมถึงมาเป็นคริสต์
เล่าบ่อย ๆ ก็ไม่อายแล้ว ชิน อิอิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2011 11:26 am

น้องแมวน้ำแบ่งปันได้ดีมาก ได้ข้อคิดดีๆสำหรับคนที่อยากแสวงหาพระเจ้า การเปิดใจรับพระองค์
เป็นพระพร เราจะมีความสันติสุขเสมอ แม้นบางครั้งจะมีความทุกข์ยาก ก็จะผ่านไปได้ค่ะ
น้องแมวน้ำ เติบโตในพระเจ้ามากขึ้น ขอพระเป็นเจ้าอวยพรเป็นคริสตชนที่ดีนะคะ..... :s007:
ตอบกลับโพส