พระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน ในใจของท่านมหาตมะคานธี

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ค. 18, 2011 2:50 am

คานธี กับ พระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน

Tharakan Anniyll เขียน ย.อัศวิน ถอดความ

ความจริงอันเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปเกี่ยวกับการถูกตรึงกางเขนของพระเยซูเจ้านั้นใหญ่หลวงนัก แม้กระทั่งท่านมหาตมะคานธียังยืนยันว่า “ถ้าปราศจากกางเขนชีวิตเราจะไม่สมบูรณ์, ถ้าปราศจากกางเขนชีวิตก็คือความตายที่ยังมีลมหายใจอยู่”

“ประชาชาติก็เช่นเดียวกับปัจเจกชน จะดำรงอยู่ได้ก็โดยผ่านทางความปวดร้าวทรมานของไม้กางเขน” เป็นข้อความที่ท่านมหาตมะคานธีเขียนลงในหนังสือ “ยังอินเดีย” (Young India) เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1931

ในสมุดบันทึกประจำวันของมหาเทพ เดซาย (MahadevDesai) ได้บรรยายไว้อย่างแจ่มชัด ถึงความประทับใจที่ที่านมหาตมะคานธีได้รับหลังจากที่ได้เพ่งพินิจ รูปปั้นพระเยซูเจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขนในโบสถ์ซิสตีน (Sistine Chapel) ภายในพระมหาวิหาร นักบุญเปโตร ที่กรุงโรม

รูปภาพ


ท่านมหาตมะคานธีได้วาดภาพความคล้ายคลึงระหว่างพระเยซูเจ้า กับประชาชนอินเดียยากจนในชนบท ท่านเขียนว่า “ภาพพระเยซูเจ้าที่ท่านเห็นที่วาติกัน คงมาปรากฏต่อสายตาของท่านตลอดเวลา พระกายของพระองค์ท่านถูกห่อหุ้มด้วยผ้าผืนเล็กๆ แบบเดียวกับคนยากจนในชนบทอินเดียใช้นุ่งห่มและความเมตตาสงสารที่ภาพนั้นฉายออก ช่างน่าประทับใจเสียนี่กระไร!”

รูปภาพ

ท่านมหาตมะคานธีวิเคราะห์ว่า พระเยซูเจ้าคือสัญลักษณ์และการมาจุติของคนยากจนในอินเดีย ทั้งหิวโหย ทั้งขาดเครื่องนุ่งห่ม พระเยซูเจ้าทรงโศกเศร้าและน่าจะเป็นความโศกเศร้าของอินเดีย พระเยซูคือสัตยวาที (ผู้พุดแต่ความจริง) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดศาสดาจารย์ที่โด่งดังที่สุด อุปมาเป็นบุคคลยากจนทางจิตใจ เทียบได้กับพระภิกขุของศาสนาฮินดู

แบบอย่างที่พระเยซูเจ้าต้องทรงทนทุกข์ทรมานจนสิ้นพระชนม์ สาเหตุเพราะทรงยึดมั่นในความจริง ได้สร้างความประทับใจแก่มหาตมะคานธีอย่างซาบซึ้ง



รูปภาพ

ขณะที่ท่านคานธีกำลังถูกไต่สวนในคดีก่อการกบฎในปี ค.ศ. 1922 ท่านไม่ป้องกันตนเอง ท่านกล่าวว่าทุกข้อที่ได้เขียนไว้ล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น และถ้าท่านจะต้องได้รับโทษภายใต้กรอบกฎหมายของแผ่นดินเพราะเหตุนี้ ก็ขอให้ศาลลงโทษขั้นรุนแรงที่สุด ท่าทีอันแข็งกร้าวนี้ ท่านมหาตมะคานธีได้ถอดแบบอย่างของพระเยซูเจ้าที่มีบันทึกไว้ในพระวรสาร ตอนที่พระองค์ทรงยืนยันความจริงจนสิ้นพระชนม์ชีพ (ยน.18:33-38 และ 19:11)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ค. 18, 2011 2:52 am

อุปนิสัย

ท่านคานธีเป็นฮินดูที่เคร่งครัด ทั้งในเชิงความคิด ทั้งในเชิงดำเนินชีวิต แต่ท่านได้ค้นพบว่าการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า คือ แบบอย่างของพลังภายในอันมหาศาล ท่านได้เข้าเฝ้าพระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน และเทิดทูนพระองค์เป็นแบบอย่าง

รูปภาพ

การสมัครใจเป็นสานุศิย์ของพระเยซูเจ้า ผนวกกับการหยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมอินเดีย คือ แนวความคิดและบุคลิกภาพของท่านมหาตมะคานธี เราจึงได้พบว่า จิตใจของท่านนั้นมั่นคงเหลือหลาย เคร่งครัดในระเบียบวินัยเหลือล้น และอดออมอย่างสุดๆ จนสามารถกล่าวได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ (Puritan)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ค. 18, 2011 2:58 am

กางเขนทรงชีวิต

ข้อคิดเห็นที่โดดเด่นข้อหนึ่งเกี่ยวกับองค์พระเยซูเจ้าของคานธี ก็คือความสัมพันธ์ที่แบ่งแยกไม่ได้ระหว่างชีวิต และความตายบนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า สำหรับปรัชญาข้อนี้ท่านคานธีปรากฏเป็นนักเทววิทยาคริสตชนยิ่งกว่าชาวฮินดู

พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อไถ่บาปของมนุษย์ด้วยการยอมรับความตาย และการคืนพระชนม์ชีพ อันถือเป็นศูนย์รวมของความลึกลับ และเหตุการณ์อื่นๆ ทั้งมวล อาทิเช่น การทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ ก็คือบทโหมโรงของบทโศกของการถูกตรึงกางเขน

รูปภาพ

ท่านคานธีเขียนไว้ว่า “เราไม่กล้า คิดถึงเรื่องทรงบังเกิดโดยไม่คิดถึงเรื่องการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนด้วย พระเยซูผู้ทรงชีวิต หมายถึง กางเขนทรงชีวิตถ้าปราศจากข้อนี้ ชีวิตก็คือความตายที่ยังมีลมหายใจ

สำหรับท่านคานธีแล้ว กางเขนเรียกร้องและเชื้อเชิญมนุษย์ทั้งมวล มิใช่จำกัดอยู่ในวงแคบๆ เหมือนที่ได้เยินได้ฟังในการชุมนุมสวดภาวนาในกลุ่มย่อยๆ ความตายบนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าได้สร้างแบบอย่างของการเสียสละเพื่อความถูกต้อง และเพื่อความดีของโลก ท่านคานธีต้องการให้ข่าวสารจากเนินเขากัลวาริโอนี้ ซึมซับเข้าไปในจิตใจของประชากรอินเดีย

ท่านกล่าวย้ำว่า “สำหรับคนฮินดู ชีวิตของท่านทั้งหลายยังไม่สมบูรณ์ นอกเสียจากว่าท่านต้องได้ศึกษา 'ข่าวสารแห่งไม้กางเขน' ด้วยความสักการะ ข้าพเจ้าไม่อยากจะเชื่อถ้ามีคนพูดว่า เวลานี้มีหรือเคยมีคนที่สามารถลบล้างบาปของตนเองได้ โดยไม่เลียนแบบของพระองค์บนไม้กางเขน มีหลายคนอาจทำไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้”

รูปภาพ

ในการร่วมจิตใจอย่างเต็มเปี่ยมกับยัญบูชาบนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า ท่านคานธีได้ทำพลีกรรมด้วยการอดอาหาร เพื่อไถ่บาปในสิ่งที่ตนคิดว่าผิด

ท่านศาสตราจารย์ อี.สแตนลี่ โยนส์ (Dr.E.Stanley Jones) ได้ถามท่านคานธีว่า “การที่ท่านอดอาหารจนถึงตายนั้นไม่เป็นการบังคับทางศีลธรรมเกินไปหรือ?”

ท่านคานธีตอบว่า “เป็น เป็นการบังคับแบบเดียวกับที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำบนไม้กางเขนเพื่อท่าน”

ครั้งหนึ่งมีกลุ่มคนอเมริกันผิวหมึก แวะไปเยี่ยมท่านคานธีในปี 1935 ท่านคานธีได้ขอร้องให้พวกเขาขับร้องเพลงเกี่ยวกับการถูกตรึงกางเขนของพระเยซูเจ้าที่ท่านโปรดมาก เนื้อเรื่องเป็นดังนี้

“เธออยู่ที่นั่นรึเปล่า เมื่อเขาตรึงกางเขนพระเจ้าของข้าพเจ้า? เธอยู่ที่นั่นหรือเปล่า ขณะที่เขาตรึงพระองค์กับต้นไม้?

โอแน่ละ บางครั้งมันทำให้ฉันตัวสั่น, ตัวสั่น, ตัวสั่น!

เธออยู่ที่นั่นรึเปล่า เมื่อเขาตรึงกางเขนพระเจ้าของข้าพเจ้า?”


รูปภาพ

ถ้อยคำเหล่านี้ ได้รับน้ำหนักตามศตวรรษที่ผ่านไป และส่งสัญญาณแห่งความโศกเศร้า ที่ฝังในจิตใจของท่านคานธีตลอดและท่านก็เจริญชีวิตตามจิตภาวนานี้ตลอดชีวิตของท่าน

ท่านคานธีกล่าวว่า “พระเจ้ามิได้แบกกางเขนเมื่อ 1900 ปีมาแล้วเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงแบกอยู่จนทุกวันนี้ พระองค์ยังทรงแบก, ยังสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์ชีพจนทุกวันนี้ เพราะคงไม่สู้มีความหมายนัก หากเราเพียงแต่พึ่งพระเจ้าที่สิ้นพระชนม์ เมื่อ 2000 ปีมาแล้ว จงอย่าเทศนาถึงพระเจ้าในประวัติศาสตร์ แต่ถึงพระเจ้าที่ทรงชีวิตโดยผ่านทางตัวท่าน เราต้องให้ชีวิตของเราพูดแทนเรา ไม่ไช่ใช้ “คำพูด” พูดแทนเรา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ค. 18, 2011 2:59 am

การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่

การที่ท่านคานธีซาบซึ่งในความหมายของพระมรณธรรมบนไม้กางเขนของพระเยซูอย่างมากมายเช่นนี้ เกิดจากการเดินทางไกลที่เต็มไปด้วยภยันตรายของท่านเอง เริ่มตั้งแต่วัยเด็กเลยทีเดียว เพราะเกิดในตระกูลฮินดู การพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมตะวันตก การติดต่อกับคริสตชนในอังกฤษและแอฟริกา อ่านสารคดีของ ลีโอตอลสตอย (Leo Tolstoy) และ รัสกิน (Ruskin) ที่ล้วนแล้วแต่สร้างความประทับใจให้ทั้งสิ้น แต่หลังจากลองนำไปใช้ปฏิบัติปรากฏว่าประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

รูปภาพ

แต่ในส่วนลึกได้กลับเป็นบทสอนให้ท่านเข้าถึงจิตวิญญาณของอินเดียอย่างแท้จริง ได้แก่ การดำเนินนโยบายอหิงสา (Non-Violence) หรือความไม่เบียดเบียนอันเป็นแก่นแท้ของฮินดู และการนำมาปฏิบัติ ได้ใช้ปรัชญาของรัสกินกับทอลสตอยช่วย โดยมีข่าวสารจากไม้กางเขนเป็นแกนนำ อหิงสาก่อให้เกิดพลังแห่งความรัก บวกกับความรักที่เกิดจากการยอมรับทรมาน (Suffering Love) ที่ได้รับมาจากกางเขนของพระเยซูเจ้าทำให้เกิดเป็นความรักกำลังสอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ค. 18, 2011 3:01 am

ผู้ทนทุกข์ที่มีความอดทน

ถึงแม้ว่าท่านคานธีจะมีความเลื่อมใสในภารกิจของไม้กางเขนสักเพียงไร แต่เนื่องจากความหยั่งลึกของความเชื่อในลัทธิฮินดู ทำให้ไม่สามารถรับข้อกล่าวอ้างที่ว่า พระเยซูเจ้าทรงรับความตายบนไม้กางเขน เพื่อลบล้างบาปของมนุษยชาติแบบตรงตามตัวอักษร (Literally) ได้ แต่รับได้เพียงแบบอุปมาอุปไมยเท่านั้น

ท่านยอมรับว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นมรณสักขี เป็นผู้ทำให้ยัญบูชาเป็นรูปธรรม เป็นเทพเจ้า พระมรณธรรมบนไม้กางเขน ถือเป็นแบบฉบับยิ่งใหญ่ต่อโลก และดูเหมือนมีอานุภาพลึกลับซ่อนเร้นอยู่ ที่หัวใจของท่านไม่สามารถรับได้

รูปภาพ

ท่านคานธียังคงยึดมั่นในความเชื่อแบบฮินดู แต่ก็ยึดมั่นในภาพนิมิตของพระเยซูเจ้าไม่เลือนลาง ท่านเชื่อว่าบทบาทของพระเยซูเจ้ามีส่วนเกื้อกูลต่อวิญญาณของอินเดีย และนำความปลอบใจมาสู่ชาวอินเดียเป็นล้านๆ คนที่กำลังทุกข์ทรมาน



แม่พระยุคใหม่ : นิตยสารราย 2 เดือน ฉบับรวมเล่มปี 2001/2544หน้า 26-28
ตอบกลับโพส