จาก มาเฟีย สู่ ศิษยาภิบาล

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 1:57 am

ผมเคยเป็นมาเฟีย

“ผมได้รับเพราะผมกล้าให้พระเจ้า”

จากมาเฟีย สู่นักเทศน์

โดย ดร.ชาตรี โสภณบรรณารักษ์



รูปภาพ



ผมเริ่มธุรกิจที่ตลาดนัดหลังจากจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และเป็นคนบุกเบิกต่อสู้มาตลอดตั้งแต่ตอนที่กรุงเทพมหานครย้ายตลาดนัดจากสนามหลวงมายังพหลโยธินจนปัจจุบันตลาดนัดจตุจักรนับเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อเล่นของผมชื่อ เม้ง จึงเป็นที่มาของฉายา “เม้ง จตุจักร”

จนในปีพ.ศ. 2544 สมัยที่พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นยุคที่มีการปราบมาเฟีย รัฐบาลแบ่งมาเฟียออกเป็น 5 ประเภท ผมถูกจัดอยู่ในประเภทที่ 5 คือสามารถนำคนไปทั้งในทางที่ดีและทางร้ายได้ ผมจึงถูกจำกัดไม่ให้มีการเคลื่อนไหว ผมจึงหนีจากกรุงเทพฯ ไปอยู่ที่พัทยา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 1:59 am

ใครก็ได้ช่วยผมที!

ความช่วยเหลือจากคนของพระเจ้า ในช่วงปลายปี 2546 นั้น ภรรยาและลูกๆ ที่อยู่กรุงเทพฯ ได้แวะมาเยี่ยมผม และพาศิษยาภิบาล (อาจารย์สอนคริสตจริยธรรมผู้ดูแลคริสตจักร) ซึ่งเป็นชาวไนจีเรียพร้อมกับผู้รับใช้พระเจ้าอีกประมาร 5 คนมาด้วย ผมได้ยินพวกเขาร้องเพลงอยู่ในห้องพักที่รีสอร์ท เพลงที่พวกเขาร้องเป็นเพลงสรรเสริญพระเจ้า ผมได้ยินพวกเขาพูดถึงพระเจ้า สันติสุข และความรอดในบทเพลงซึ่งในเวลานั้นผมยังไม่เจ้าใจความหมาย รู้เพียงว่าขณะที่ฟังเพลงที่พวกเขาร้องผู้รู้สึกสบายใจคลายกังวลอย่างอัศจรรย์ แล้วผมก็ได้ยินพวกเขาอธิษฐานให้ผม ทั้งเรื่อง ธุรกิจ ครอบครัว และอธิษฐานเผื่อทุกสิ่งทุกอย่าง เขาถามว่า ผมเชื่อหรือไม่ว่าพระเจ้าช่วยผมได้ทุกเรื่อง แต่เครื่องรางของขลังที่ผมห้อยอยู่นี้ช่วยอะไรผมไม่ได้ เขาถามว่าผมกล้าไหมที่จะทิ้งเครื่องรางของขลังทั้งหมด ผมก็บอกว่าผมกล้าทิ้งถ้าพระเจ้าจะให้มีสันติสุขในครอบครัวและทำให้ชีวิตผมดีขึ้น แล้วเขาก็เอาเครื่องรางของขลังและรูปเคารพที่ผมมีทิ้งไป ตอนแรกผมใจหายและเสียดายเพราะว่าแต่ละอันราคาแพงมาก แต่ผมก็ทิ้งไปทั้งหมด ในวันนั้นเองผมก็ต้นรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของผม

รูปภาพ

จากนั้นศิษยาภิบาลก็บอกให้ผมอธิษฐานขอกับพระเจ้า 3 ข้อ เขาบอกว่า เมื่อผมกล้าให้พระเจ้า พระเจ้าก็สามารถให้ผมได้ เวลานั้นผมก็ขอไปโดยไม่คิดอะไรมาก ข้อแรกผมขอให้ประชาชาติพบสันติสุขเพราะผมชอบช่วยเหลือสังคม ข้อสองผมขอให้ธุรกิจการค้า การงาน การเงิน การเมือง สังคม การศึกษาของผมกลับคืนมาสู่สภาพดีและดีกว่าเดิม ข้อสุดท้ายผมบอกพระเจ้าว่าขอให้ครอบครัวมีสันติสุขเพราะช่วงนั้นครอบครัวอยู่ไกลกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 2:03 am

พระเจ้า พระผู้ช่วยที่แท้จริง

เวลาผ่านไปประมาณ 2 เดือน พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของผมโดยให้ครอบครัวกลับมาอยู่ร่วมกันและมีความเป็นหต่งเดียวกัน จากนั้นธุรกิจ “เดอะ มาร์เก็ตพัทยา” ก็กลับดีขึ้นมา ผมขายพื้นที่ได้หมดในปีพ.ศ. 2547 ตั้งแต่นั้นผมก็ไปนมัสการพระเจ้าเป็นประจำ แล้วการอัศจรรย์ของพระเจ้าก็เกิดขึ้น ผมมีโอกาสได้ต้อนรับพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ที่ตลาดนัดจตุจักร เขาบอกว่าผมคือมาเฟียแห่งความดี

รูปภาพ

และเหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุดก็คือในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จประพาสตลาดนัดจตุจักร ผมได้ถวายงานพาเสด็จประพาสเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ผมซาบซึ้งใจมากที่พระองค์ทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ผมถวายงานอย่างใกล้ชิด ผมเชื่อว่าพระเจ้าจัดเตรียมสิ่งดีนั้นให้แก่ผม พระองค์ก็ได้เปลี่ยนภาพผมใหม่ จากมาเฟียได้กลายเป็นมาเฟียแห่งความดี ที่ได้มีโอกาสรับใช้เชื้อพระวงศ์และผู้นำประเทศ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 2:05 am

ผม “ได้รับ” เพราะผม “กล้าให้”

เมื่อกล้าให้พระเจ้า พระเจ้าก็จะให้คุณ หลังจากที่ขายโครงการ “เดอะ มาร์เก็ตพัทยา” ผมก็มาร่วมทุนและบริหารที่ศูนย์การค้าไอที สแควร์ (หลักสี่พลาซ่า) จากนั้นชีวิตของผมก็เริ่มเปลี่ยนจากผู้บริหารธรรมดามาเป็นผู้บริหารระดับชาติ หนังสือพิมพ์ต่างๆ ก็ให้ชื่อผมว่าเป็นผู้สร้างตำนาน เป็นปรมาจารย์แห่งการตลาด เพราะเป็นผุ้ที่จบปริญญาเอกด้านการบริหารการตลาด (Marketing Management) ผมได้เป็นที่ปรึกษาให้บริษัทต่างๆ และเริ่มได้รับรางวัลด้านบริหารการตลาดและรางวัลอื่นๆ ระดับชาติมากมาย

รูปภาพ

ผมมานั่งวิเคราะห์ชีวิตของผมดูตั้งแต่สมัยเมื่อเป็น “เม้ง จตุจักร” หากปราศจากพระเจ้าผมก็คงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ พระองค์ได้เปลี่ยนชีวิตของผมให้ดีขึ้นอย่างอัศจรรย์เหมือนได้จัดเตรียมทางไว้ให้ผมแล้ว เกียรติและความสำเร็จทั้งหมดนี้ไม่ใช่ผมทำ แต่เป็นพระเจ้าทำในชีวิตของผม ผมรู้ว่าผมทำไม่ได้แต่ผมไม่กลัวเพราะผมวางใจในความรักของพระองค์ ทุกวันนี้ผมและครอบครัวอยู่ด้วยความเชื่อ อธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ และการนมัสการพระเจ้า โดยยึดหลักพระบัญญัติ 2 ข้อใหญ่ที่พระองค์ตรัสไว้ในพระธรรมมัทธิวบทที่ 22 ข้อ 37-39 ที่ว่า พระเยซูทรงตอบเขาว่า “จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสิ้นสุดจิตของท่าน และด้วยสิ้นสุดความคิดของท่าน นั้นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก ข้อที่สองก็เหมือนกันคือจงรักเพื่อบ้านเหมือนรักตนเอง” เพราะถ้าเราทำได้ทั้งสองข้อนี้เราจะมีสันติสุข
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 2:13 am

พระพรของพระเจ้ายังเทลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง

ผมยังได้รับเชิญให้มาเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการพิเศษและต่างประเทศ และรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการที่มหาวิทยาลัยทักษิณ เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ผมกลายเป็นนักวิชาการ ทำงานวิจัย เขียนตำรา จนได้เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์

รูปภาพ

พระเจ้าได้ตอบคำอธิษฐานในสิ่งที่ผมเคยขอ 3 ข้อนั้น พระองค์ทรงให้ครอบครัวผมมีสันติสุขก่อนเป็นสิ่งแรก พอครอบครัวดี ธุรกิจการงานก็ดีขึ้น เพื่อส่งต่อยอดให้ผมเป็นพรต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นการนำสันติสุขไปสู่ประชาชาติ เพราะผมได้เป็นอาจารย์ ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ที่เรียนมาให้กับผู้อื่น ผมได้รับตำแหน่งสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการโครงการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาอบรมธุรกิจการค้าและการบริหารจัดการกระทราวงพาณิชย์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยการจัดการเพื่อการพัฒนาของมหาวิทยาลัยทักษิณ (มศว.ภาคใต้) ที่ปรึกษารัฐมนตรีหลายกระทรวง และรางวัลเกียรติยศระดับชาติมากมาย ก็เพื่อจะได้ช่วยเหลือสังคมและพี่น้องคนไทยให้มีธุรกิจมีการงานที่ดี ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พระเจ้ามอบให้ผมในเวลาเพียง 3 ปี เป็นสิ่งที่อัศจรรย์เพราะผมทำเองไม่ได้ ทุกอย่างในชีวิตของผมเป็นของพระองค์ ขอให้เราเชื่อว่าพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ใช่ว่าผมได้พระพรแล้วผมถึงพูดได้ ผมเคยไม่มีเงินติดตัวสักบาทเดียวและต้องหนีธนาคาร แต่วันนี้ไม่มีหนี้สินแล้ว ขอบคุณพระเจ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 2:14 am

ก้าวสู่การรับใช้

พระเจ้าได้กระทำกิจมากมายในชีวิตของผม พระองค์ทรงอวยพรผมทางด้าน ธุรกิจ การเมือง สังคม การศึกษา แต่พรที่ได้รับมากที่สุดคือการได้เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า เพราะหลังจากที่ผมและครอบครัวได้กลับมาอยู่ร่วมกันแล้ว ผมอธิฐานขอพระเจ้าว่าอยากได้บ้านหลังใหม่ ในที่สุดพระเจ้าก็อวยพรให้ผมมีบ้านหลังใหม่ได้และสร้างคริสตจักรนมัสการพระเจ้า ชื่อ “คริสตจักรแห่งพระพรของพระเจ้า” ผมจึงเป็นทั้งนักธุรกิจ ศิษยาภิบาลและผู้ปกครองคริสตจักร

รูปภาพ

ที่คริสตจักรแห่งพระพรของพระเจ้านี้เราจะนมัสการอย่างสุดใจ เพราะในพระธรรมยอห์น บที่ 4 ข้อ 23-24 กล่าวไว้ว่า “แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริงจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์” ดังนั้นเวลานมัสการพระเจ้า เราจะจดจ่อไปที่พระเยซู ทิ้งความทุกข์ความกังวลทุกอย่างไว้ที่นอกคริสตจักร เราจะเข้ามาคริสตจักรด้วยความรัก รักพระเจ้าและจดจ่อไปที่พระเจ้า ไม่กลัวเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรไม่ต้องไปคิดเพราะว่าฝากไว้กับพระเจ้า เราจะไม่กังวลและจะขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา ผมจะสอนตามหลักในพระคัมภีร์และความเชื่อในฤทธิ์เดชของพระเจ้าตามพระคำของพระองค์เช่น “ทุกสิ่งที่ท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อก็จะได้” จากพระธรรมมัทธิวบทที่ 21 ข้อ 22 และคำสอนของพระเยซูในพระธรรมลูกาบทที่ 1 ข้อ 37 ที่ว่า “เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระเจ้าทรงทำไม่ได้” เพราะตลอดมาผมก็เดินด้วยความเชื่อ ผมบอกได้เลยว่าวันนี้ถ้าผมไม่มีพระเจ้าผมก็ทำอะไรไม่ได้เลย ในพระธรรม 1 ยอห์นบทที่ 5 ข้อ 4 กล่าวไว้ว่า “เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าก็มีชัยเหนือโลก และความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่มีชัยเหนือโลก” ดังนั้น เราจะขาดความเชื่อไม่ได้เลย และเมื่อมีปัญหาเข้ามาในชีวิตเราก็ไม่ควรกลัวหรือกังวลเพราะพระเจ้าบอกเราเสมอว่าอย่ากลัว เช่น พระธรรมโยชูวา บทที่ 1 ข้อ 9 กล่าวว่า “เราสั่งเจ้าไว้แล้วมิใช่หรือ ว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าตกใจหรือคร้ามกลัวเลย เพราะว่าเจ้าไปในถิ่นฐานใด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า”


ปัจจุบันนี้คริสตจักรแห่งพระพรของพระเจ้าได้ย้ายมายังที่แห่งใหม่ที่ถนนรามอินทรา 67 มีพื้นที่กว้างขวางขึ้น และยังเปิดคริสตจักรแห่งพระพรของพระเจ้านานาชาติสำหรับชาวต่างชาติ (โดยใช้ภาษาอังกฤษ) อยู่ที่ถนนรามคำแหง 142 อีกแห่งหนึ่งด้วย ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน


ดร.ชาตรี โสภณบรรณารักษ์. คริสเตียนนิวส์ ข่าวสารของคริสเตียน ปีที่ 17 ฉบับที่ 127 เดือนเมษายน 2011 หน้าที่ 1 (ต่อหน้า10).
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ค. 23, 2011 11:37 pm

ไม่รู้จักแฮะ ...ศิษยาภิบาล บางกลุ่มของโปรฯก็ไม่เข้าเรียนTheology เลย ก็ประกาศตัว
เป็นผู้นำ เทศนา สร้างสาวกกันมากมาย อาศัยที่กล้าเป็นพยานเรื่องพระเยซูเจ้าให้คนเชื่อ
และติดตาม ความที่ไม่อิงหลัก เทววิทยา บ่อยครั้งศิษยาภิบาลเหล่านี้ก็นำคนเพี้ยนไปเลย
ตอบกลับโพส