มารีจา ผู้รับการประจักษ์จากแม่พระที่เมดจูกอเรจ์ ได้กล่าวแก่ผู้ที่มาแสวงบุญนับพันคน
เธอกล่าวว่า แม่พระทรงเรียกร้องให้ทุกคนกลับใจ ต่อไปนี้เป็นคำกล่าวของเธอ
"ขอต้อนรับทุกคนที่มาที่นี่ในวันนี้ค่ะ กรุณายกมือขึ้นถ้าหากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณมาเมดจูกอเรจ
ดูเหมือนว่าพวกคุณส่วนใหญ่จะมาที่นี่เป็นครั้งแรกนะคะ
ขอต้อนรับอีกครั้งค่ะ ให้เรามาพูดถึงแม่พระกัน
แม่พระยังทรงเชื้อเชิญพวกเราอยู่ตลอดเวลา และพระนางไม่ทรงเหน็ดเหนื่อยเลย
ดิฉันคือมารีจา หนึ่งในเด็ก 6 คนที่แม่พระทรงเลือกตั้งแต่ปี 1981 และปัจจุบันนี้
พวกคุณคงเห็นแล้วว่าพวกเราเติบโตขึ้น
จากใจจริงของดิฉัน
ดิฉันต้องการนำพวกคุณทุกคนให้เข้ามาใกล้ชิดแม่พระโดยผ่านทางคำพูดและการเป็นพยานของดิฉัน ดิฉันต้องการให้พวกคุณกลับบ้านพร้อมด้วยความรักในแม่พระของเรา
พวกเรา 6 คนที่เห็นแม่พระต่างก็ตกหลุมรักในแม่พระ พวกเราเติบโตขึ้นในครอบครัวธรรมดาทั่วไป
เราไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์และวันฉลองและสวดภาวนาพร้อมกันในครอบครัว
คุณยายของเรามักสวดสายประคำเสมอ
ดูเหมือนว่าผู้สูงอายุจะเป็นผู้ที่สวดสายประคำเสียเป็นส่วนใหญ่ในเวลานี้
ในทุกวันนี้ ดิฉันตระหนักแล้วว่า
สายประคำเป็นการสวดภาวนาที่สวยงามที่สุดและเหมาะสมที่สุดในยุคสมัยนี้
เราจำเป็นต้องพี่งพาการสวดสายประคำเป็นอย่างมากในยุคสมัยใหม่
การตอบสนองของเราเป็นการช่วยเหลือแม่พระในการเปลี่ยนแปลงโลก
พระนางทรงประทานอาวุธแก่เรา นั่นคือสายประคำ
ซี่งจะทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นจริงขึ้นมา
"แม่พระทรงประจักษ์แก่พวกเราครั้งแรกในวันที่ 24 มิถุนายน 1981
เราอยากบอกว่านั่นเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่งดงามที่สุดในโลกปัจจุบัน
ในตอนแรกพวกเราคิดทุกคนที่อยู่บนเนินเขานั้นสามารถมองเห็นสิ่งที่พวกเราเห็น
แต่เราพบว่าพวกเขามองไม่เห็นแม่พระ
ดังนั้นเราจึงถามแม่พระว่า "ทำไมพระนางจึงทรงเลือกพวกเรา ทำไมแม่พระไม่ทรงเลือกคนที่ดีกว่า?
แม่พระตรัสว่า "พระเป็นเจ้าทรงอนุญาตให้แม่เลือก และแม่ก็ได้เลือกแล้ว"
ลองนึกย้อนไปในอดีตซึ่งเวลานั้นเราอยู่ภายใต้การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์ ความเข้มงวด
การปกครองแบบเผด็จการของลัทธิคอมมิวนิสต์ซึ่งยิ่งทียิ่งเข้มงวดขึ้นทุกๆวัน
และแม่พระได้ทรงมาหาพวกเรา ในปี 1981 ประธานาธิบดีตีโต้เพิ่งเสียชีวิตไปได้เพียง 1 ปี
ไม่กี่วันหลังจากที่แม่พระทรงประจักษ์
สถานีโทรทัศน์ที่มีคนเฝ้าดูมากที่สุดของประเทศก็รายงานข่าวว่า
เด็ก 6 คนจากหมู่บ้านเมดจูกอเรจ์ ในเฮอเซโกวีนาอ้างว่าได้เห็นพระแม่มารีย์
สถานีโทรทัศน์ของคอมมิวนิสต์แห่งนี้ได้ช่วยโฆษณาให้แก่เมดจูกอเรจ์เป็นอย่างดีที่สุด
มันได้กระจายข่าวไปทั่วประเทศยูโกสลาเวีย
พวกเราทั้งหกคนถูกตำหนิและถูกกล่าวหาว่าบ่อนทำลายระบอบคอมมิวนิสต์ในยูโกสลาเวีย คอมมิวนิสต์กลัวการปฏิวัติหรือการก่อจลาจลเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง
พวกเขาออกข่าวว่าได้เกิดการปฏิวัติขึ้น....
บัดนี้ดิฉันขอบอกว่า การปฏิวัติได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ไม่ใช่การปฏิวัติตามแบบที่พวกเขาคิด
พวกเขาได้ส่งตำรวจและทหารจำนวนมากมาล้อมรอบเนินเขา ทหารยืนห่างกันทุก 1 เมตร
หน่วยรบพิเศษได้มาประจำการรอบโบสถ์ เมดจูกอเรจ์ถูกบุกด้วยทหารและสุนัขที่ฝึกมาเป็นพิเศษ
พวกเขาห้ามเราไม่ให้ขึ้นไปที่เนินเขา Podbrdo ที่แม่พระกำลังจะทรงประจักษ์มา
พวกเราจึงขอแม่พระให้ทรงแนะนำว่าพวกเราควรจะทำอย่างไรดี
ขณะเดียวกัน คุณพ่อโจโซ เจ้าอาวาสก็กำลังสับสน
เกี่ยวกับการที่ผู้คนต่างพากันขึ้นไปบนภูเขาและไม่มาที่วัด
ท่านสวดภาวนาว่า "ข้าแต่พระเป็นเจ้า โปรดประทานเครื่องหมายแก่ลูกด้วย ว่าลูกควรจะทำอย่างไร?
ผู้แสวงบุญพากันมาที่เมดจูกอเรจเหมือนสายน้ำไหล
และพวกเขาก็ไม่ยอมหยุด ทั้งกลางวันและกลางคืน
พวกเขาต่างปีนขึ้นไปที่ Podbrdo
ในที่สุดแม่พระทรงตรัสแก่พวกเราว่า
"จงไปที่โบสถ์ พวกหนูจะได้รับการปกป้องที่นั่น"
เราได้ถามแม่พระถึงสามครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าแม่พระทรงประสงค์ให้พวกเราไปที่โบสถ์
เพราะในเวลานั้นพวกเรากลัวคุณพ่อโจโซอยู่ โบสถ์ถูกปิดในตอนบ่าย
และไม่มีพิธีมิสซาในเวลาเย็นของฤดูร้อนปี 1981
แม่พระตรัสว่า "จงไปที่โบสถ์" และพวกเราก็ได้ไป คุณพ่อโจโซอยู่ในโบสถ์และกำลังสวดภาวนา
และเมื่อท่านเปิดพระคัมภีร์ออกอ่าน ท่านอ่านว่า "พวกเขาเป็นลูกที่รักของเรา"
เราได้เข้าไปหาท่านและพูดกับท่านว่า "แม่พระทรงบอกให้พวกเรามาที่นี่"
ท่านตอบว่า "ในพระคัมภีร์ที่พ่อเพิ่งอ่านเขียนว่า พวกลูกเป็นลูกที่รักของเรา
นี่เป็นหมายสำคัญจากพระเจ้าถึงพ่อ"
เวลานั้นพวกเรายังไม่รู้วิธีที่จะนำในการสวดสายประคำและการรำพึงถึงรหัสธรรม
เพราะแม่พระได้ทรงขอให้เราสวดสายประคำ และเวลานั้นเราก็ได้เรียนรู้ในการสวดอย่างถูกต้อง
เราสวดภาวนาด้วยการคุกเข่า ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ
ที่ทรงประทานพระหรรษทานมากมายแก่เรา การสวดภาวนานำเราให้เข้าใกล้ชิดแม่พระ
และเราได้เริ่มต้นติดตามพระนางมากยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ ดิฉันขอบอกว่า ดิฉันยังคงต้องเรียนรู้การสวดภาวนาอยู่
พวกเราได้มาที่พระแท่นของโบสถ์เซนต์เจมส์
เราคุกเข่าและสวดสายประคำพร้อมกับคนอื่นๆ ในเวลานั้น แม่พระจะทรงประจักษ์แก่พวกเรา
ตอนแรกแม่พระตรัสขอร้องว่า "จงขอให้พระสงฆ์ประจำโบสถ์ประกอบพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ
และให้สวดสายประคำสองสายรำพึงถึงรหัสธรรมภาคขื่นชมยินดีและภาคมหาทรมานก่อนเริ่มพิธีมิสซา
และเมื่อเสร็จพิธีมิสซา ก็ให้สวดสายประคำในรหัสธรรมภาคสิริรุ่งเรือง เพื่อขอบพระคุณพระเป็นเจ้าสำหรับพระหรรษทานที่ได้รับ ผู้แสวงบุญนำคนเจ็บป่วยจำนวนมากมาด้วย
และแม่พระตรัสว่า
"จงสวดภาวนาพร้อมกับพวกเขา และให้พระสงฆ์สวดภาวนาเหนือคนที่เจ็บป่วยและอวยพรแก่เขา"
ทุกวันนี้เรายังคงมีการบำบัดรักษาด้วยการสวดภาวนาในพิธิมิสซาเวลาเย็น
ครอบครัวของพวกเราและคนในหมู่บ้านมีความเชือที่เข้มแข็ง ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า
พวกเราเคยถามแม่พระว่า "พระแม่มาที่นี่ทำไม?"
พระนางตอบว่า "แม่ได้เลือกสถานที่นี้ เพราะที่นี่ แม่ได้พบความเชื่อที่มีชีีวิต"
ครั้งหนึ่ง หน่วยรบพิเศษได้สกัดกั้นทางเข้าโบสถ์ ชาวบ้านในหมู่บ้านได้พากันมาที่โบสถ์
และทำสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ พวกเขาคุกเข่าลงรอบๆโบสถ์ และสวดภาวนา
คุณพ่อโจโซ ถูกคุมขัง ซิสเตอร์บางคนถูกขังในห้องของอาราม และอารามถูกตรวจค้น
ตำรวจอยู่ทั่วไปทุกแห่งและทหารได้รับคำสั่งให้ประจำการบริเวณโบสถ์เป็นเวลาหลายชั่วโมง
ขณะที่พวกทหารหิวและกระหายน้ำ
ครอบครัวของเราได้นำอาหารและเครื่องดื่มไปให้แก่ทหารซึ่งต้องอยู่ถึงสองวัน
แม่ของดิฉํนและเพื่อนบ้านได้ตระเตรียมอาหารพิเศษให้แก่ทหารเหล่านี้
เราให้น้ำแก่ทหาร น้ำเป็นสิ่งที่หาได้ยากที่นี่
พวกเราเป็นคนยากจนแต่เราก็แบ่งปันสิ่งที่เรามีให้แก่คนที่อดอยาก
เมื่อตำรวจเห็นเรานำอาหารไปให้ทหาร เขาเข้ามาถามว่า "นี่เป็นการปฏิวัติแบบไหนนะ?"
พวกเขาเริ่มสงสัยว่าเหตุใดจึงต้องมาควบคุมประชาชนที่ดีและไม่มีพิษภัย
ผู้บัญชาการตำรวจออกคำสั่งให้ถอนกำลังทั้งหมด
เฮลิคอปเตอร์ที่บินเหนือโบสถ์เห็นแต่ประชาชนที่กำลังคุกเข่ารอบวัดและสวดภาวนา
ผู้บังคับการทหารอนุญาตให้เปิดวัดได้ และประชาชนก็สามารถเข้าไปในโบสถ์
เพื่อร่วมพิธิมิสซาและเฝ้าดูการประจักษ์
มันเป็นการปฏิวัติจริงๆ แต่ไม่ใช่แบบที่คอมมิวนิสต์คาดคิด
มันเป็นการปฏิวัติด้วยความรักและพระเมตตาของพระเป็นเจ้า
แม่พระทรงสอนพวกเราเสมอ และพวกเราก็ทำตาม เรารักในสาส์นของแม่พระสุดดวงใจของเรา
เวลานั้นดิฉันอายุ 16 ปี ดิฉันต้องการเรียนรู้การสวดภาวนาให้มากขึ้นและทำความดี
เราทั้งหกคนรอคอยแม่พระด้วยความยินดีอย่างยิ่ง
พวกเราไปอยู่รวมกันเป็นเวลาหลายคืนและใช้เวลาทั้งคืนในการสวดภาวนา
ในตอนเช้า เราจะกลับบ้านไปพบพ่อแม่และทำงานในทุ่งนาตลอดวัน นั่นเป็นระยะเวลาที่แสนสุข
คุณพ่อของดิฉัน ทำงานอยู่ที่เยอรมันนี เช่นเดียวกับพ่อของวิกก้าและอิวานกา
ระบอบการปกครองทำให้พ่อของวิกก้ามีปัญหา เขาจะยึดพาสปอร์ตของท่าน
ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถเข้าเยอรมันนีได้ ท่านมีลูกแปดคนที่ต้องเลี้ยงดู แต่ครอบครัวของวิกก้าพูดว่า พวกเขาจะปฏิเสธแม่พระไม่ได้ และยินดีที่จะอดตายเพื่อพระนาง
พวกเขาเป็นประจักษ์พยานที่เข้มแข็งของแม่พระที่เมดจูกอเรจนี้
แม่พระทรงย้ำอย่างหนักแน่นให้มีการสารภาพบาปทุกเดือน
สวดสายประคำรำพึงถึงรหัสธรรมสามประการทุกวัน
และพระนางทรงสอนเราให้มองดูสวรรค์เพื่อให้มีความปรารถนาถึงเมืองสวรรค์
พระนางทรงสอนถึงความสำคัญของพระคัมภีร์ ให้คิดถึงพระเป็นเจ้าก่อนสิ่งอื่นใดในชีวิต
ครอบครัวควรมาร่วมกันฟังพระคัมภีร์ก่อนทำงาน
และเมื่อสิ้นสุดวันก็ควรสวดภาวนาและฟังพระคัมภีร์ร่วมกันในครอบครัว
พ่อของดิฉันเรียนจบแต่ชั้น ป. 4 และท่านอ่านไม่ค่อยคล่อง
พวกเราจึงมักพูดกับท่านว่า "คุณพ่อมาอ่านบ้างสิ อ่านช้าๆก็ได้"
แล้วท่านก็จะอ่านบทสดุดีหรือข้อความสั้นๆในพระวรสาร
ท่านมีความภาคภูมิใจและมีความสุขมากที่ได้ทำสิ่งนี้และได้ตอบสนองคำแนะนำของแม่พระ
ท่านมีความสุขมากที่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อแม่พระ
พวกเราได้เปลี่ยนแปลง และกลับมีความเข้มแข็งในการสวดภาวนาในครอบครัว
เราเริ่มต้นอดอาหารเพราะแม่พระขอร้องพวกเขาให้ทำ
แม่พระตรัสว่า
"ด้วยการสวดภาวนาและการอดอาหาร เราสามารถระงับได้แม้แต่สงคราม
จิตชั่วร้ายบางอย่างจะสามารถกำจัดออกไปได้ด้วยอำนาจแห่ง
การสวดภาวนาและการอดอาหารเท่านั้น"
เรามีความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราด้วยวิธ๊เช่นนี้
พวกเราจะคุกเข่าลงและตอบรับคำขอของแม่พระว่า "ได้ค่ะ"
แม่พระตรัสว่า "อาศัยการเป็นพยานยืนยันของพวกลูก แม่จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงโลก"
ดิฉันขอบอกบางสิ่งที่สำคัญมากแก่พวกคุณ
"เวลานี้เป็นเวลาแห่งพระหรรษทาน นี่เป็นเวลาของแม่พระ"
แม่พระทรงเลือกพวกเราเด็กหกคนเพื่อบอกพวกคุณว่า
พระเป็นเจ้าทรงมีอยู่จริง พระเป็นเจ้าต้องเป็นศูนย์กลางในชีวิตของพวกคุณ
แม่พระตรัสว่า
"แม่ได้มาหาลูกก่อนที่องค์พระบุตรของแม่จะมา ก็เพื่อประโยชน์ของพวกลูกแต่ละคน
พระเป็นเจ้าไม่ทรงลืมพวกลูก
พระองค์ทรงรักลูกและพระองค์ทรงเชื้อเชิญลูกให้เป็นเกลือดองแผ่นดินและเป็นแสงสว่างส่องโลก" พวกเราไม่ได้ถูกเรียกมาให้เป็นนักรบครูเสดเพื่อปลดปล่อยดินแดนศํกดิ์สิทธิ์เหมือนในอดีต
แม่พระทรงประสงค์ให้เราเป็นพระหัตถ์ของพระนางที่ยื่นออกไปช่วยเหลือโลก
พระนางทรงต้องการให้เราเป็นหัตถาแห่งความรัก
พระนางทรงต้องการให้เราเป็นผู้แพร่ธรรมในสถานที่ที่พระเป็นเจ้าจะทรงส่งเราไป
พระนางทรงต้องการให้เราเป็นภาพลักษณ์ที่แท้จริงของพระเป็นเจ้า
และเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิตของเรา ว่าเราเป็นของพระเป็นเจ้า
"เยาวชนในยุคสมัยนี้จิตใจว่างเปล่า เพราะพวกเขาไม่มีพระเจ้า
ความเชื่อของเขาไม่ได้เป็นพยานยืนยันถึงพระองค์เลย"
พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่าพระเป็นเจ้ามีอยู่จริง
ยังไม่สายเกินไปสำหรับพวกคุณที่จะเริ่มต้นดำรงชีวิตในความเชื่อ
เริ่มต้นมีชีวิตในความเชื่อสำหรับปัจจุบัน
วัฒนธรรมแห่งวัตถุนิยมและบริโภคนิยมเข้ามาแทนที่หนทางแห่งความเชื่อ
โลกสมัยใหม่ปฏิเสธพระเป็นเจ้า
หลายคนในโลกสมัยนี้พยายามหาความก้าวหน้าในชีวิตโดย
ไม่วอนขอพระเป็นเจ้าให้นำทางพวกเขา
ซาตานต้องการทำให้โลกเชื่อมั่นในตัวเองว่า คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากพระเป็นเจ้า
แม่พระตรัสว่า
"ปราศจากพระเป็นเจ้า พวกลูกไม่มีอนาคต
จะไม่มีความสุขนิรันดร ถ้าปราศจากพระเป็นเจ้า "
เราอาจไม่มีโอกาสพบกันอีก
แต่ดิฉันขอวิงวอนพวกคุณ ให้ใช้เวลานี้ - เวลาแห่งพระหรรษทาน-ให้ดีที่สุด
นี่เป็นเวลาของแม่พระ จงใช้เวลานี้ในการสวดภาวนา ปีศาจจะล่อลวงคุณด้วยวิธีต่างๆมากมาย
จงอย่ายอมให้มันทำให้คุณหยุดสวดภาวนา จงสวดภาวนาอย่างไม่หยุดหย่อน
และขอให้คุณใช้เวลาอยู่ที่เมดจูกอเรจ์นี้ เพื่อปีนขึ้นบนเนินเขา ถือพระคัมภีร์ไปด้วย
หาก้อนหินสักก้อนเพื่อนั่ง และสวดภาวนา
พินิจรำพึงเบื้องหน้าศีลศักดิ์สิทธิ์ สรรเสริญพระเป็นเจ้าและคุกเข่าลง
สวดภาวนาเบื้องหน้าพระเยซูเจ้า ใช้เวลากับพระองค์เพื่อที่จะรู้จักพระองค์
เราทุกคนจำเป็นต้องพึ่งพระเป็นเจ้า นั่นเป็นสาเหตุที่แม่พระทรงมาประจักษ์เป็นเวลานานถึง 29 ปี
พระนางทรงมาเพื่อนำพวกเรากลับไปหาพระบุตรของพระนาง
พระนางตรัสย้ำว่า "ลูกที่รัก อย่าลืมว่าแม่เป็นแม่ของลูก และแม่รักลูก"
แม่พระตรัสเสมอว่า "ขอบใจพวกลูกที่สนองตอบคำขอร้องของแม่"
พระนางตรัสเช่นนี้เพราะพระนางทราบว่า เราสามารถทำเพื่อพระนางได้ ถ้าเราต้องการที่จะทำ
พระเป็นเจ้าทรงประทานอิสรภาพในการเลือกให้แก่เรา
เราจงเลือกพระเป็นเจ้า ใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์และรักคำสั่งสอนและพระบัญญัติของพระองค์
ด้วยวิธีนี้ สวรรค์จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บนโลกนี้แล้วในหัวใจของพวกคุณ ในครอบครัวของพวกคุณ
แม่พระทรงประสงค์การปฏิวัติแบบใหม่ การปฏิวัติด้วยความรัก
และพระนางทรงเริ่มต้นกระทำในวันที่ 24 มิถุนายน 1981
ดิฉันเป็นพยานและขอแบ่งปันเรื่องนี้แก่พวกคุณด้วยหัวใจ ขอพระเจ้าอวยพร"
**********
ที่มา
http://www.medjugorje.com/medjugorje-to ... ution.html
และ บทแปลก่อนเรียบเรียง โดยเว็บพลังใจครับ
