++ ทำไมคุณถึงตัดสินใจเชื่อพระเจ้า ++

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
tyransiam
โพสต์: 92
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 08, 2010 5:06 pm
ติดต่อ:

อังคาร ก.ค. 27, 2010 6:50 pm

ตอนประมาณ ม.ต้น ...ผมเคยฝันว่า พระเยซูมาให้พรครับ และหลังจากนั้นก็ฝันเห็นเทวดา
หลังจากนั้น 4 ปี อาของผมมาค้างบ้านผมพักใหญ่แล้วพาผมไปเที่ยวโบสถ์ ผมก็เลยถามเรื่องเกี่ยวกับคริสต์ อาก็บอกทุกเรื่อง ทำให้ผมศรัทธายิ่งขึ้น ...วันที่ไปโบสถ์ครั้งแรก ปรากฏว่าเขามีงานเพลงที่โบสถ์พอดี ผมว่าคลาสสิคมากครับ(ผมเป็นคนชอบเพลงคลาสสิคอยู่แล้ว) วันนั้นเป็นวันเสาร์อ่ะคับ...และวันต่อมาอาก็พาไปอาสนวหารอัสสัมชัญ แล้วอาผมก็ให้บทสวดมนต์พื้นฐานมา

หลังจากนั้นผมก็เกิดศรัทธาอย่างจริงจัง
อันนา ภัคภร
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 09, 2010 2:55 am

ศุกร์ ก.ย. 10, 2010 3:34 pm

ทำไม่ถึงใช้คำว่าตัดสินใจ ไม่เคยรู้สึกว่าต้องตัดสิน รู้สึกแต่เชื่อ ไว้ใจและรัก มาตลอดจนทุกวันนี้ งงว่าตัดสินใจทำไม
Dream Kitjaroen
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2011 6:20 pm
ที่อยู่: WWW.FACEBOOK.COM/DDREAMLANDD

เสาร์ ม.ค. 29, 2011 8:58 pm

ดิฉันอยากจะพิมพ์ข้อความที่มันอัดอั้นภายในจิตใจมา กว่า 10 ปี.
อาจจะเป็นเรื่องไร้สาระ เรื่องที่ไม่น่าสนใจ แล้วเลื่อนผ่านข้อความของดิฉันไป.
.
ดิฉันเกิดและเติบโตมาในครอบครัวของพุทธศาสนิกชนที่ดีมากๆ.
แต่กระนั้นครอบครัวของดิฉันกลับมีแต่ปัญหา เนื่องจากคุณพ่อเป็นคนที่มีปัญหาในเรื่องอบายมุข.
ดังนั้นคุณแม่จึงกลายเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก. ท่านอาจจะไม่ได้ใช้คำพูดที่ดีมากกับดิฉัน.
แต่ท่านก็คอยเป็นห่วงเป็นใยทุกๆเรื่องเท่าที่ท่านจะดูแลได้ดิฉัน.
ตอนอนุบาลดิฉันอยู่รร. ซึ่งใช้ค่าใช้จ่ายน้อย เพราะตอนนั้นคุณแม่เป็นแม่บ้าน.
แต่ต่อมาเนื่องจากท่านมีปัญหาเกี่ยวกับคุณพ่อทำให้ท่านต้องหางานทำเพื่อเลี้ยงดิฉันและพี่ชาย.
ดิฉันเชื่อฟังคุณแม่เท่าที่เด็กคนหนึ่งจะเชื่อฟังได้ตลอดมา.. .
.
จนกระทั้งคุณแม่ถามฉันว่าอยากจะเข้า ป1. รร. อะไร
ดิฉันตอบชื่อรร. แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น รร. คาทอลิก ใครจะเชื่อว่า เด็กๆอย่างดิฉันจะรู้เรื่องรร.
แต่ตอนนั้นอยู่ดีๆดิฉันก็อยากจะเข้าไปในรร. แห่งนั้น ดิฉันเชื่อในพระเจ้า วางใจในพระองค์.
ตั้งแต่เด็ก.. . ผู้คนที่เป็นคาทอลิกที่รู้จักดิฉันที่ รร. มักจะถามว่าทำไมไม่ไปเรียนคำสอน.
ตอนนั้นดิฉันงงมาก ว่าจะไปได้อย่างไรในเมื่อดิฉันเป็นพุทธ.. .
แต่ทุกๆคนกลับคิดว่าดิฉันเป็นคริสต์เพราะนามสกุลของดิฉัน.
ตั้งแต่เด็กดิฉันอยากจะบวชเป็นภคินี และอยากจะย้ายศาสนา. แต่ก็ถูกที่บ้านห้ามมาตั้งแต่เด็ก
ด้วยความที่ ที่บ้านมีปัญหาดิฉันจึงหยุดการพูดจาเรื่องนี้ แต่ในใจของดิฉันกลับเร้าร้อนไปด้วยความเชื่อต่อพระเจ้า ดิฉันเรียน รร. คาทอลิก คือ รร. เซนต์โยเซฟระยอง และที่นั้นที่ทำให้ดิฉันมีความเชื่อ และการรับใช้พระ ดิฉันมักจะเดินผ่านบ้านมาเซอร์ เขตพรต หรือสถานที่ต่างๆที่ทำให้ดิฉันเกิดความสงบในใจ รร. ของดิฉันอยู่ติดกับโบสถ์และมีสุสานด้านหลังของ รร. อยู่มาวันหนึ่ง คุณครูท่านหนึ่งได้พาดิฉันมาที่สุสาน ดิฉันได้เห็นอัศจรรย์ สิ่งที่ดิฉันได้เห็นคือ มีซิสเตอร์ท่านหนึ่งกำลังยืนไหว้ดิฉันอยู่.
ต่อจากนั้นดิฉันก็ศรัทธาเงียบๆ มาเสมอ. จนกระทั้งดิฉันเข้าศึกษาต่อมัธยมศึกษาปีที่ 4
ที่รร. อัสสัมชัญระยอง ดิฉันมีความกล้ามากขึ้นที่เข้าหาพระ หลังจากที่ดิฉันไปเข้าค่ายเพื่อนนักบุญมงฟอร์ต ดิฉันได้ไปเข้าค่ายที่มรณสักขี สองคอน ดิฉันพบอัศจรรย์ที่นั้น. หลังกลับมาจากค่ายดิฉัน
อยากจะเข้าหาพระจริงๆ ดิฉันเข้าพบ บราเดอร์ ที่ รร. เพื่อขออนุญาตเรียนคำสอน ท่านใจดีมาก
ดิฉันได้เล่าเรื่องราวที่ประสบมาแด่ท่าน ขอเอ่ยนามผู้มีพระคุณแก่ดิฉัน
ท่านชื่อว่า ภราดา สมพร คงวิมล . ดิฉันกล้าที่จะไปโบสถ์คนเดียว สวดคนเดียวที่สุสาน
ดิฉันชอบความสงบที่สุสานด้านหลังโบสถ์ ดิฉันรู้สึกถึงพระในทุกๆสรรพสิ่ง.
ดิฉันปราถนาที่จะล้างบาปปัสกานี้ โดย บ. สมพร คุยกับคุณแม่ของดิฉันให้
คุณแม่ยอมที่จะให้เรียนคำสอน แต่เรื่องการล้างบาปท่านบอกดิฉันว่ามันเป็นกระแส
ท่านบอกว่าดิฉันเปลี่ยนไปหลังจากกลับมาจากค่าย แต่ดิฉันสวดทุกวัน เช้าเย็น
เช้า ตีช่วงประมาณ ตี 3 - ตี 5 และเย็นก่อนนอน ขณะรับประทานอาหาร ดิฉันรำพึงถึงพระแทบๆจะทุกๆลมหายใจ ใครๆต่างก็มองว่าดิฉันเป็นเด็กไม่ดีเลือกพระมากกว่าคำสั่งสอนของแม่
ดิฉันโดนคุณแม่ด่า ว่า ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ใครๆก็ว่าอีกไม่นานฉันจะเลิกไปเอง
ดิฉันคุยกับซิสเตอร์ที่โบสถ์ หนีแม่ไปโบสถ์ทุกๆวัน เพื่อสวดให้พ่อของดิฉันที่ป่วยหนัก
อย่างไม่ทราบสาเหตุ และดิฉันโดนสั่งยื่นคำขาด ห้ามสวด ห้ามไปโบสถ์ ห้ามไปค่าย
แต่ดิฉันเชื่อในพระ พระเจ้าเท่านั้นที่รักอย่างไม่มีพันธนาการ รักเพราะดิฉันเป็นลูกของพระ
ไม่ได้รักดิฉันเพราะหน้าที่ ดิฉันรักในพระเจ้าเพียงองค์เดียว ดิฉันวางใจในพระองค์เสมอ
ไม่ว่าดิฉันจะต้องทนกับการกระทำของแม่ดิฉันสักเท่าไร ดิฉันจะทำเพื่อพระเจ้า.
ดิฉันยอมทุกอย่างเพื่อหนทางแด่พระเจ้า. ขอบคุณท่านผู้อ่านค่ะ.
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

พุธ ก.พ. 02, 2011 11:52 am

ทำไมคุณถึงตัดสินใจเชื่อพระเจ้าเพราะแสวงหาความรักโดยไม่รู้ตัวมาตลอดค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

พุธ ก.พ. 02, 2011 4:42 pm

ผมเกิดมาในครอบครัวคริสต์(โปรแตสแตนซ์)มาตั้งแต่เด็กเลยครับ
จะไปโบสถ์บ่อยมาก ตอนนั้นก็ยังไม่ได้เชื่อจริงจังอะไรแต่พออยู่
ม.3 ตอนนี้ศรัทธาอย่างรุนแรง เพราะได้เรียนรู้คำสอนเรื่องความรัก
อย่างกระจ่างถ่องแท้จากศาสนาจารย์ที่โบสถ์

และทำให้ผมซาบซึ้งในความรักขององค์พระเจ้ามาจนบัดนี้และสืบไปเป็นนิตย์

เชร์วาล
คนรักพระเจ้า
Hotty2539
โพสต์: 102
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 30, 2011 6:17 pm
ที่อยู่: จันทบุรี

พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2011 8:34 pm

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
เป็นการยากที่ได้เกิดเป็นมนุษย์
เป็นการยากที่ชีวิตสัตว์จะได้ อยู่สบาย
เป็นการยากที่จะได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ
เป็นการยากที่คนจะมีศาสนาอยู่
เป็นการยากที่คนจะเกิดในแผ่นดินที่มีศาสนาที่ถูกต้อง
เป็นการยากที่คนจะเกิดในสถานที่อุดมสมบูรณ์

พระพุทธพจน์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
Fisher
โพสต์: 12
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 23, 2008 2:36 pm

พฤหัสฯ. ก.ค. 07, 2011 9:05 am

สำหรับผม..ผมก็คริสตังยืนครับ ทำไมเชื่อหรือไม่ทราบว่าจะเรียกว่าอย่างไรดี จากวัยเด็กผมอยู่ใกล้พระมาตลอด พระคือเพื่อนเล่น พระคือเซเว่น เป็นได้สารพัด ได้แต่คิดว่าสักวันคงมีโอกาสได้รับศีลเหมือนคนอื่นๆ และโอกาสก็มาถึงได้ย้ายที่ทำงานได้มีโอกาสใกล้พระมากขึ้นอีก จนวันนึงป่วยได้ขอพระไว้ ให้สามารถทำงานได้เหมือนเดิมแล้วจะรับใช้พระองค์ตลอดชีวิต จึงได้รับโปรดศีลล้างบาปครับ
chancpk
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 30, 2011 9:18 pm

อังคาร ส.ค. 30, 2011 8:55 am

เพิ่งเป็นสมาชิกได้ไม่นาน อยากเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ยาวหน่อย รู้จักพระเจ้ามาได้ประมาณ15ปี แรกเริ่มที่เชื่อพระเจ้าจากเพื่อนข้างบ้านที่เป็นคริสเตียนชวนไปโบสถ์ความหวังแต่ตอนนั้นความเชื่อยังไม่แข็งแรง ทำให้การไปโบสถ์ยังไม่ค่อยกล้าใจยังเฉยๆ แต่อยากเรียนรู้ ตอนนั้นยังไม่เข้าใจถึงเรื่องพระเจ้าเลยด้วยซั้าเหมือนใครบอกอะไรแล้วยังไม่เข้าหัวไม่รู้เรื่อง คงยังมีซาตานครอบงำอยู่ เพื่อนให้นำอธิษฐานก่อนทานข้าวก็ไม่กล้าเลี่ยงไปเรื่อย แต่เพื่อนๆก็น่ารักมาก ช่วงนั้นเค้ารู้ว่าเรากำลังสอบเข้าราชภัฏเพราะเอนไม่ติด เป็นปีที่สองแล้ว คือเป็นคนหัวไม่ดีเหลวไหล คนที่โบสถ์ช่วยกันอธิฐานให้ แล้วเราก็ขอจากพระเจ้าด้วยถึงแม้ยังมีความสงสัยก็ตาม ในที่สุดพระเจ้าก็ประทานให้ แต่พอได้เข้าไปเรียนมีเพื่อนใหม่เรากลับลืมพระเจ้า คือไม่ค่อยไปโบสถ์ แต่ยังอธิฐานเรื่อยๆ มีไบเบิลก็อ่านบ้างเพื่อนที่เรียนก็ถามว่าเป็นคริสต์เตียนเหรอ เราก็บอกใช่ แต่เชื่อมั๊ยว่าเราอ่านไบเบิลเท่าไรก็ไม่เคยรู้เรื่องเลยไม่เข้าใจ แต่เราจะเป็นคนที่ชอบอธิฐานกับพระเจ้าคือถ้าเจอขอทานเราก็ขอพระเจ้าคุ้มครองเค้า เจอแมวโดนรถชนตายต่อหน้าเราก็บอกพระเจ้า เราก็เชื่อพระเจ้าแบบไม่กระจ่างแบบมัวมาได้จนเรียนจบทำงาน ตอนเริ่มทำงานเราก็มีชีวิตการทำงานที่ดี คือเป็นเซลล์ ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบได้งาน เงินเดือนคอมมิชชั่นได้หลักเกือบแสนมาตลอด แต่เราลืมไปว่านี่คือพรจากพระเจ้า เราเริ่มไปนับถือโน่นนี่นั้น ไม้ต่างๆเทพฮินดู จนเริ่มมีปัญหามากมาย มีครอบครัวแต่พระเจ้าก็ส่งคนที่รู้จักพระเจ้าเหมือนกันมาให้คือแฟนเข้าโบสถ์เซ็นหลุยแต่ก็เหมือนเราคือพอชีวิตดีก็ลืมพระเจ้า แฟนทำกิจการเอง ครอบครัวเราก็ใช้ชีวิตแบบขึ้นๆลงมาตลอด คือพระเจ้าน่าจะเตือนให้เรานึกถึงพระเจ้าแล้ว แต่เรากลับลืมไปเลยไปเข้าวัดแทน อาบน้ำมนต์ หาหมอดู จนขั้นที่วิกฤตเกือบจะที่สุดคือตอนนั้นอยู่เราก็ตัดสินใจเอาไบเบิลไปบริจาค คือคิดในใจว่าเราไม่เชื่อแ้วแน่นอน เราจะไหว้พระสวดมนต์ เราก็ชวนแฟนแต่แฟนก็ไม่สวดเค้าบอกไม่ถนัดสวดพุทธถนัดแต่คริสต์แต่ตอนนั้นแฟนก็ไม่สวดเลยทั้งสองอย่าง เราก็บูชาแต่เทพฮินดู(เราไม่ได้ว่าพุทธหรือเทพฮินดูไม่ดีนะแต่อาจเพราะเราได้เคยเป็นลูกพระแล้วเราก็คงตองรักพระเจ้าเท่านั้น) เริ่มทำธุรกิจก็พังหมดตัว งานที่เราทำอยู่ก็ขายไม่ได้ยอดเลย ภาระเยอะมาก ท้อถอยกันมากยังหาทางออกไม่ได้ จนอยู่ๆมาวันหนึ่งตอนนั้นออกจากงานแล้ว ลาคลอดลูกอยู่บ้าน เปิดทีวี แล้วเจอคำพูดว่ากลับมาหาพระเจ้า พระเจ้ายังคงรักเราอยู่ทำนองนี้ เราร้องไห้เลยโทรบอกแฟนเลยว่าเราอยากไปโบสถ์ ตอนนั้นน่าจะเป็นช่องคริสต์เตียน แฟนเราบอกว่ามีโบสถ์พระแม่สกลสงเคราะห์อยู่หน้าปากซอย (คาทอลิก) และนั้นเองก็เป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่ได้กลับมาหาพระเจ้าอีกครั้ง ยังไม่จบมีต่ออีกแต่มาเล่าต่อนะคะอย่าพึ่งเบื่อนะคะ
chancpk
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 30, 2011 9:18 pm

อังคาร ส.ค. 30, 2011 10:33 am

มาเล่าต่อ ตอนที่กลับมาเข้าโบสถ์อีกครั้ง เรารู้สึกอบอุ่นมากๆ สุขใจถึงแม้จะยังมีปัญหามากมาย ครอบครัวเราขอเรียนคำสอนเพื่อที่จะล้างบาป ตอนนั้นก็เดือนตุลา53 ช่วงแรกที่มาโบสถ์คาทอลิกก็ยังเก้ๆกังๆแต่มีมาเซอร์วารุณีและครูเพ็ญคอยแนะนำ และคนที่โบสถ์ก็น่ารักมาก เพราะเรามีลูกๆไปด้วย ก็มีเสียงดังบ้าง แต่ทุกคนก็ยินดี และก็มีอัศจรรย์เกิดขึ้นหลายอย่าง สิ่งหนึ่งที่เราจะไม่ลืมเลย คือ ตอนที่มาโบสถ์แรกๆน่าจะเดือนตุลา คืนหนึ่งในวันอาทิตย์ เราก็เล่นเน็ทคือศึกษาเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า และพระสันตะปาปายอลปอที่2 แล้วเราก็นึกในใจว่าพระเจ้าจะรู้มั๊ยว่าลูกกลับมาแล้ว ดูไปเรื่อยแล้วก็เข้านอนซัก4ทุ่มกว่าๆ พอนอนไปได้ซักพักเราก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะที่กำแพงหัวนอนด้านที่แฟนนอนเคาะอยู่ซักพักเราก็ลุกขึ้นดูเปิดม่านดูที่หน้าต่างก็สงสัยว่าเสียงอะไร แต่ก็ไม่เห็น ก็เลยนอนต่อซักพักก็ได้ยินอีกเราก็เปิดม่านดูที่ระเบียงก็ไม่เห็นก็นึกในใจแต่ไม่มีความกลัวเลยว่าใครจะมาเคาะได้อย่างไร บ้านเราเป็นบ้านเดียวตรงกำแพงที่เคาะก็เป็นกำแพงเรียบๆตรงหน้าต่างหัวนอนไม่มีที่ให้ใครยืนได้ชั้นสองด้วย ดูแล้วไม่เห็นมีอะไรก็เลยนอนต่อ พอนอนอีกซักพักก็มีเสียงเคาะอีกเราก็เปิดม่านหัวเตียงข้างที่แฟนนอนดูอีกก็ไม่มีเรามองไปที่พื้นก็เป็นสนามหญ้าเราก็แปลกทำไมแฟนนอนหลับไม่รู้เรื่องเลยคราวนี้ก็เหมือนมีอะไรดลใจเรา ก็มาเปิดดูด้านหัวนอนเราพอมองออกไปเห็นบนท้องฟ้าเป็นระยะใกล้ๆตา เห็นกลุ่มดาวระยิบระยับสวยมากๆ เกิดมาเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก แล้วกลุ่มดาวก็ค่อยๆหายไป ก็กลายเป็นท้องฟ้าธรรมดา เรารู้ในใจเราเลยว่าพระเจ้าได้ให้เรารับรู้ว่าท่านรู้และท่านยังเสริมความเชื่อของเราให้มั่นคงว่ามีพระเจ้าอยู่กับเราตลอดเราก็ขอพระเจ้าให้มีสิ่งดีๆกับครอบครัวลูก น้ำตาไหลด้วยความสุขใจ เรายังจำมาจนทุกวันนี้ พระก็อวยพรให้ครอบครัวเราพระช่วยให้แฟนเรากับป๊าๆเค้าคืนดีกันเพราะตอนที่มีปัญหาก็ตัดพ่อตัดลูกกันเลยทีเดียวคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้ดีกันแน่เพราะไม่ได้ติดต่อกันมาหลายเดือน แต่อยู่ๆก็กลับมาคุยกันมาช่วยเหลือเพราะตอนนั้นยังลำบากมากๆ นี่ก็เป็นพระพรหนึ่งที่พระเจ้าทรงให้ คือทำให้เรารักบิดามารดา ถ้าไม่ได้ดีกันก็คงเป็นบาปไปตลอด และพระเจ้าก็ยังช่วยเหลืออยู่ตลอด ถึงแม้เรายังมีกางเขนที่ต้องแบก ยังมีอุปสรรค์อยู่แต่เราก็แบกกางเขนด้วยความสุขใจ และเราก็มั่นใจว่าเราจะไม่แบกกางเขนเดินไปผิดทางแล้วเพราะเราแบกกางเขนของเราเดินตามองค์พระคริสต์เจ้า ลูกภาวนาขอพระเจ้าอยู่ทุกวันว่าอย่าให้ลุกหลีกหนีจากพระเจ้าอีกไม่ว่าวันนั้นจะสุขหรือทุกข์เพียงใดก็ตามขอให้ลูกได้เดินตามองค์พระคริสต์เจ้าตลอดไป ก็อยากจะหนุนใจของคนที่ท้อแท้หรือคิดว่ากางเขนที่แบก หนักเหลือเกิน หรือบ้างคนอาจจะคิดว่าพระเจ้าไม่เห็นช่วยลูกเลย อยากจะบอกว่าพระเจ้าไม่เคยลืมพวกเราเลยแม้เราจะมีบาปมากแค่ไหน พระเจ้ายังเตือนให้เรากลับมาหาพระองค์เสมอ แต่เป็นเราเองนั้นแหละที่ละทิ้งพระองค์ อยากจะให้คนที่จะละทิ้งพระเจ้า หรือลืมพระเจ้าไปกลับมาหาพระเจ้าเพราะพระเจ้าให้อภัยลูกของพระองค์เสมอ เราก็ยังเรื่องต่างจากการช่วยเหลือของพระเจ้าอีกมากมายไว้จะมาถ่ายทอดให้ฟังอีก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พิมพ์เป็นเรื่องเป็นราวผิดพลาดก็ขออภัยด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
garuda
โพสต์: 116
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 12, 2011 11:22 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2011 8:05 pm

เชื่อในแม่พระ แล้วแม่พระก็พามาหาพระเยซูคริสต์และพระบิดา ตอนนี้เชื่อหมดทุกพระองค์ พระบิดา พระบุตร พระจิต แม่พระมารีอา(ยังไม่ได้เป็นคริสต์)
ภาพประจำตัวสมาชิก
COLUMBUS
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 22, 2012 1:14 pm

อาทิตย์ เม.ย. 22, 2012 9:42 pm

สวัสดีครับเนื่องจากผมเป็นสมาชิกของบอร์ดใหม่แต่ผมมีความเชื่อในพระเจ้ามานานแล้วครับโดยเริ่มต้นเมื่อตอนที่ผมเรียนอยู่ราวชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นี่แหละครับ คือในขณะนั้นมีผู้ประกาศของคริสตจักรแห่งหนึ่งมาประกาศเรื่องพระคริสต์ผู้ทรงไถ่บาปที่โรงเรียนและได้แจกหนังสือความรู้เกี่ยวกับพระคริสต์ด้วยผมก็นำหนังสือนั้นมาอ่านที่บ้านและได้รู้จักพระเยซูคริสตเจ้าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาหนังสือเล่มนั้นทำให้ผมได้สำนึกว่าตนเองเป็นมนุษย์ที่กระทำบาปและจะต้องถูกพิพากษาการกระทำจากพระผู้เป็นเจ้าในวันพิพากษาโลกหากผมรับความเชื่อในพระนามของพระคริสต์ให้เป็นผู้ไถ่บาปพระผู้เป็นเจ้าก็จะทรงยกโทษและให้อภัยในความผิดบาปแก่ผมครับ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเชื่อพระเจ้านับแต่บัดนั้นเป็นต้นมาครับ :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

พุธ เม.ย. 25, 2012 9:17 am

COLUMBUS เขียน:สวัสดีครับเนื่องจากผมเป็นสมาชิกของบอร์ดใหม่แต่ผมมีความเชื่อในพระเจ้ามานานแล้วครับโดยเริ่มต้นเมื่อตอนที่ผมเรียนอยู่ราวชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นี่แหละครับ คือในขณะนั้นมีผู้ประกาศของคริสตจักรแห่งหนึ่งมาประกาศเรื่องพระคริสต์ผู้ทรงไถ่บาปที่โรงเรียนและได้แจกหนังสือความรู้เกี่ยวกับพระคริสต์ด้วยผมก็นำหนังสือนั้นมาอ่านที่บ้านและได้รู้จักพระเยซูคริสตเจ้าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาหนังสือเล่มนั้นทำให้ผมได้สำนึกว่าตนเองเป็นมนุษย์ที่กระทำบาปและจะต้องถูกพิพากษาการกระทำจากพระผู้เป็นเจ้าในวันพิพากษาโลกหากผมรับความเชื่อในพระนามของพระคริสต์ให้เป็นผู้ไถ่บาปพระผู้เป็นเจ้าก็จะทรงยกโทษและให้อภัยในความผิดบาปแก่ผมครับ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเชื่อพระเจ้านับแต่บัดนั้นเป็นต้นมาครับ :s007:
ปัจจุบันเรียนชั้นไหนเหรอครับนี่?
ภาพประจำตัวสมาชิก
COLUMBUS
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 22, 2012 1:14 pm

ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 8:26 am

Zion เขียน:
COLUMBUS เขียน:สวัสดีครับเนื่องจากผมเป็นสมาชิกของบอร์ดใหม่แต่ผมมีความเชื่อในพระเจ้ามานานแล้วครับโดยเริ่มต้นเมื่อตอนที่ผมเรียนอยู่ราวชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นี่แหละครับ คือในขณะนั้นมีผู้ประกาศของคริสตจักรแห่งหนึ่งมาประกาศเรื่องพระคริสต์ผู้ทรงไถ่บาปที่โรงเรียนและได้แจกหนังสือความรู้เกี่ยวกับพระคริสต์ด้วยผมก็นำหนังสือนั้นมาอ่านที่บ้านและได้รู้จักพระเยซูคริสตเจ้าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาหนังสือเล่มนั้นทำให้ผมได้สำนึกว่าตนเองเป็นมนุษย์ที่กระทำบาปและจะต้องถูกพิพากษาการกระทำจากพระผู้เป็นเจ้าในวันพิพากษาโลกหากผมรับความเชื่อในพระนามของพระคริสต์ให้เป็นผู้ไถ่บาปพระผู้เป็นเจ้าก็จะทรงยกโทษและให้อภัยในความผิดบาปแก่ผมครับ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเชื่อพระเจ้านับแต่บัดนั้นเป็นต้นมาครับ :s007:
ปัจจุบันเรียนชั้นไหนเหรอครับนี่?
ปัจจุบันผมเรียนจบปริญญาแล้วครับกำลังทำปริญญาโทและคาดว่าจะทำ Ph D ต่อเลยครับ :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 30, 2012 9:08 pm

ยอดเยี่ยม ทุกคนรักพระองค์ และพระองค์ก็รักทุกๆคน ขอให้ความรักของท่านร้อนรนอยู่เสมอ
ตลอดเวลา เมื่อมาอ่านเรื่องราวการแบ่งปันของน้องๆ ก็ช่วยเสริมศรัทธาตัวพี่ที่เป็นคริสตังนอน
ได้อย่างดี ขอบคุณน้องๆขอให้รักพระองค์สิ้นสุดจิตใจจนกว่า ชีวิตจะ ...หาไม่ และพระองค์
ได้เตรียมสิ่งที่ตาไม่เคยเห็น หูไม่เคยได้ยิน จิตใจคาดไม่ถึง นั่นคือบ้านแท้ในสวรรค์ นิรันดรให้กับ
ลูกๆของพระองค์

.... :s021: ...
Adhun Boonrawd
โพสต์: 39
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 3:48 pm
ที่อยู่: 168m2khaoyai chaam phetchaburi
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.ค. 08, 2012 11:35 am

ขอเเค่คูณเชื่อเพราะคุณศรัทธาไม่ใช่เชื่อเพราะใครๆเชื่อ
Adhun Boonrawd
โพสต์: 39
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 28, 2009 3:48 pm
ที่อยู่: 168m2khaoyai chaam phetchaburi
ติดต่อ:

จันทร์ ก.ค. 09, 2012 9:11 am

เป็นลูกคนโตครับทางเเม่เป็นคาทอลิคทั้งหมดทางพ่อเป็นพุทธทั้งหมด
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ต.ค. 29, 2013 11:07 am

คิดถึงกลับมาอ่านใหม่ประทับใจน้องๆมาก แล้วตอนนี้น้องๆเป็นอย่างไรบ้างคะ
ยังไปวัด ทำกิจศรัทธา รักพระสม่ำเสมออยู่หรือเปล่าคะ
:s007:
melodykyoya
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2018 5:43 pm

อังคาร ก.ย. 11, 2018 2:26 pm

เกิดมาในครอบครัวพุทธครับแต่เรียนพิเศษที่คริสจักร เชื่อใน2ศาสนามาตั้วแต่เด็กๆ ถือศีลกินเจตั้งแต่ 7-8ขวบ ไหว้พระแต่ก็นับถือพระเยซู พอเริ่มโตมาเวลาจะทำการอะไรเป็นทุกข์หรือสุขก็จะนึกถึงพระเจ้าขอพระจากพระเจ้าแล้วก็ได้หมดทุกอย่างที่ขอเกิดขึ้นในชีวิตหมดจริงๆ จนมีคู่ชีวิตซึ่งก่อนหน้านั้นคนที่เข้ามาเป็นคริสโปแตสแตนท์กับอิสลามหมดเลยแต่นิสัยก็เข้ากันไม่ได้ จนวันนึงได้ขอพระจากพระเจ้าไปแล้วระบุว่าถ้าเป็นของขวัญจากพระเจ้าขอให้มีจุดสังเกตุคือตาสีฟ้า (มีเพื่อนต่างชาติเยอะตาสีเขียวสีเทาสีน้ำตาลหมด) ไม่ถึงเดือนครับ เค้าก็เข้ามามนชีวิตผมแล้วก็มีทุกอย่าวตรงที่ผมได้ขอไว้เป๊ะๆตอนแรกไม่ได้นึกถึงว่าเค้าเป็นคนนั้นนะครับคบกันเป็นปีผมได้ถามไปว่านับถือศาสนาอะไร เค้าบอกเค้าเป็นคริสคาทอลิก มันเตือนใจผมในนึกย้อนกลับไปในสิ่งที่ขอไว้ ผมเชื่อหมดใจเลยครับ หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ผมพูดในใจถ้าพระเจ้าได้ยินผมช่วยตอบคำถามผมด้วยว่าต้องการให้เปลี่ยนศาสนาหรือไม่ (ไม่เคยเปิดคัมภีร์อ่านมาก่อน) ผมก็สุ่มเปิดไปประโยคแรกที่เห็นคือ Trust ye in the Lord forever: for in the Lord Jehovah is everlasting strength:
Isaiah 26:4

หลังจากนั้นผมเชื่อหมดใจศึกษาคัมภีร์ทาตลอด มีโบสถซางตาครูซอยู่ใกล้ๆแต่ก็รู้ไม่ทันเค้าเปิดสอนไปก่อนแล้วตั้งแต่มิถุนา ก็เลยยังไม่ได้เปลี่ยนอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ว่าจะไปเปลี่ยนที่ต่างประเทศตอนย้ายไป ผมคิดว่าช้าหรือเร็วไท่สำคัญ สำคัญที่ความเชื่อและจุดจบ เชื่อในะระเจ้าและคำสอนทำตามยึดมั่น คือสิ่งที่สำคัญกว่าการล้างบาป


-
เพิ่มเติม ผมได้ถาพระคัมภีร์ง่าทำอย่างให้ครอบครัวของลูกเชื่อในพระเจ้า สุ่มเปิดไปเจอ zechariah 10:8 เป็นขอความต่อเชื่อมต่อกันเหมือนพระเจ้าได้ยินแล้วตอบจริงๆ ข้อความประมาณว่า เราจะเรียกเขาและรวบรวมเขาเข้ามา เพราะเราได้ไถ่เขาไว้แล้ว และเขาจะมีจำนวนมากเหมือนกาลก่อน

ทุกๆครั้งถ้าผมมีคำถามหรือหาคำตอบไม่ได้ผมมักจะถามพระเจ้าแล้วเปิดพระคัมภีร์ ถ้าคุณศรัทธาพอ พระเจ้าจะตอบคำถามคุณเสมอ ผมเชื่อแบบนั้นพระบิดารักลูกทุกคนดั่งเช่นพระเยซูกล่าวว่าทุกคนที่เชื่อและทำตามคำสอนคือพี่น้องของพระเยซูทุกคน
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2018 9:32 pm

ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ :s002:
ตอบกลับโพส