หน้า 1 จากทั้งหมด 1
++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:17 pm
โดย Holy
Rwanda The Visions of Life and Death
ราวันดาเป็นประเทศเล็กๆใจกลางอัฟริกา ประชากรราว 5.5 ล้านคน 49.7 % เป็นคาทอลิก
ระหว่างปี 1981 ถึง 1989 กีเบโฮเป็นสถานที่แม่พระได้ประจักษ์แก่เด็ก 6 คน แม่พระได้สอนบทเพลง , บทภาวนา และให้พวกเขาได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น.
คุณพ่อ Gabriel Maidron ชาวฝรั่งเศสได้เขียนบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้โดยพระสังฆราชได้อนุญาติ. ท่านรู้จักกับพวกเด็กๆในระหว่างที่ท่านประจำอยู่ที่นั่น ท่านยังได้สัมภาษณ์หมอและผู้ที่มาทำการสอบสวนเหตุการณ์นี้ด้วย .
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:22 pm
โดย Holy
Alphonsine Mumureke
เกิดเมื่อ 1965. มาจากครอบครัวคาทอลิกที่ยากจน . ตามหนังสือไดอารี่ของเธอ เธอเห็นแม่พระครั้งแรกเมื่อ 28 พฤศจิกายน 1981 :
"ฉัน กำลังอยู่ในโรงอาหารของโรงเรียน ก็ได้ยินเสียงมาจากข้างหลัง :
'ลูกสาวของแม่!'
ฉันก็ตอบว่า:
'ลูกอยู่นี่... ท่านเป็นใครคะ?'
'ฉันเป็นมารดาขององค์พระวจนาตถ์ '
แม่พระสวยงามจนสุดบรรยายได้ พระนางยืนเท้าเปล่า สวมเสื้อคลุมยาวไม่มีสายรัดและผ้าคลุมศีรษะสีขาว .
ในระหว่างการเข้าญาณนี้ (ตามที่เพื่อนร่วมชั้นของฉันบอก) - ฉันพูดภาษาอื่นที่พวกเขาไม่รู้จักเช่น : ฝรั่งเศส , อังกฤษ , และภาษาท้องถิ่นที่ฉันพูดอยู่คือ kinyarwanda และอื่นๆ.
ครูและเพื่อนร่วมชั้นของเธอที่อยู่ร่วมเหตุการณ์การประจักษ์ครั้งแรกในตอนเย็นและอีกหลายครั้งต่อมาต่างพากันคิดว่า อัลฟองซีนป่วยและไม่ยอมเชื่อว่าเธอได้เห็นพระราชินีแห่งสวรรค์ . เดือนธันวาคม ,การประจักษ์เกิดขึ้นทุกวันเสาร์ เพื่อนร่วมชั้นของเธอที่อยากรู้อยากเห็นและต้องการรู้ว่าการประจักษ์เป็นเรื่องจริงหรือไม่
ระหว่างการประจักษ์ซึ่งเธอเข้าญาณ,
พวกเขาได้เอาไม้ขีดไฟมาเผาที่มือของเธอ แต่เธอก็ไม่ขยับหนี แม่พระได้บอกแก่เธอว่า :
'หนูรู้ไหมพวกเขากำลังเอาไฟเผาหนูอยู่?' - อัลฟองซีนจึงดึงมือออกมาจากไฟ
แต่มือของเธอก็ไม่มีรอยไหม้. สาส์นที่มีมาถึงเพื่อนร่วมชั้นและเหตุการณ์อื่นที่เกิดขึ้นเป็นการยืนยันว่า
อัลฟอลซีนไม่เสียสติและเห็นการประจักษ์จริงๆ. ข่าวนี้กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วราวันดาและดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมากให้มาที่กีเบโฮ .
ในวันที่ 16 มกราคม 1982 การประจักษ์เกิดขึ้นที่สนามโรงเรียน. ไม่มีนักเรียนหญิงคนใดเห็นแม่พระแต่
พวกเขาได้ยินสาส์นของพระนางที่เต็มไปด้วยความรักเยี่ยงมารดา
นักเรียนบางคนได้เอาสายประคำมาให้อัลฟองซีนเพื่อขอให้แม่พระอวยพร พวกเขาเอาสายประคำมารวมกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่อัลฟองซีนจะจำได้ว่าเป็นของใครบ้าง
เมื่อเธอยื่นสายประคำให้แม่พระ,มีสายประคำบางอันหนักมากจนเธอยกขึ้นส่งให้แม่พระไม่ไหว มีผู้สังเกตุว่าสายประคำเหล่านั้นเป็นของนักเรียนที่ไม่เชื่อว่าการประจักษ์เป็นเรื่องจริงและพูดวิจารณ์ในเรื่องนี้
เนื่องจากมีการโต้แย้งกันมากในการประจักษ์ครั้งแรก มีนักเรียนและครูบางคนพูดว่า "พวกเราจะเชื่อว่าแม่พระประจักษ์มาที่โรงเรียนจริง, ถ้าพระนางประจักษ์มาให้แก่นักเรียนคนอื่นด้วยนอกเหนือจากอัลฟองซีน" อัลฟองซีนตอบพวกเขาว่า"จงสวดภาวนาเพื่อให้เธอได้รับพระพรนี้"
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:25 pm
โดย Holy
Anathalie Mukamazimpaka
เกิดเมื่อ 1965 ในครอบครัวคาทอลิก. แม่พระประจักษ์แก่เธอครั้งแรกเมื่อ 12 มกราคม, 1982. สาส์นที่มอบให้เธอคือ
จงเป็นคนถ่อมตน ยอมรับทุกอย่างตามน้ำพระทัยของพระ รักการภาวนาจากหัวใจและการพลีกรรมเพื่อทำให้พวกเขามีความเข้าใจในเรื่องความทุกข์ตามแบบอย่างคริสตชน
ในวันที่ 5 สิงหาคม, 1982, แม่พระได้ตรัสกับAnathalie ว่า:
“แม่ได้พูดกับลูก, แต่ลูกก็ไม่ได้ยิน. แม่ต้องการประคองลูกขึ้น, แต่ลูกก็ยังคงล้มลง. แม่เรียกลูก, แต่ลูกกลับทำหูหนวก. เมื่อไรลูกจึงจะยอมทำตามที่แม่ขอร้อง? ลูกเมินเฉยต่อคำขอร้องของแม่. เมื่อไรลูกจึงจะยอมเข้าใจเสียที? เมื่อไรลูกจึงจะหันมาสนใจในสิ่งที่แม่ต้องการบอกแก่ลูก? แม่ได้ให้เครื่องหมายแก่ลูก, แต่ลูกก็ยังสงสัย. อีกนานเท่าไรลูกจึงจะหันหูหนวกของลูกมาฟังเสียงวอนขอของแม่?” .
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:27 pm
โดย Holy
Marie-Claire Mukangang
เกิดปี 1961. ตอนแรกเธอไม่เชื่อในเรื่องการประจักษ์ของอัลฟองซีนและเรียกอัลฟองซีนว่า "คนโง่เขลา" เธอเรียนหนังสือไม่เก่งและต้องซ้ำชั้นหนึ่งปี.
การประจักษ์ครั้งแรกของ Marie-Claireมีขึ้นเมื่อ 2 มีนาคม, 1982. และสิ้นสุดใน 6 เดือนต่อมา แม่พระได้เลือกเธอให้เผยแพร่สาส์นของพระนาง:
'จงรำพึงถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าและความเจ็บปวดแสนสาหัสในดวงใจของแม่ , จงสวดสายประคำสำหรับคนเจ็บป่วยเพื่อที่เขาจะได้รับพระหรรษทานในการสำนึกผิดกลับใจ.'
Marie-Claire ได้กลับมาเป็นครูสอนที่โรงเรียนlและสอนได้ดี .
นี่เป็นบทสนทนาระหว่าง Marie Claire และแม่พระเมื่อวันที่ 2 เมษายน, 1982:
แม่พระ:
“จงสำนึกผิดกลับใจ ! สำนึกผิดกลับใจ! สำนึกผิดกลับใจ!”
Marie Claire:
“แต่ลูกก็ทำแล้ว!”
แม่พระ:
“เมื่อแม่พูดกับลูกอย่างนี้, แม่ไม่ได้พูดกับลูกเพียงคนเดียว, แต่แม่พูดกับคนอื่นๆทุกคนด้วย. มนุษย์ยุคสมัยนี้ได้ทำให้ความหมายที่แท้จริงกลายเป็นสิ่งไร้สาระ: พวกเขาทำความผิดโดยไม่สำนึกรู้ว่ากำลังทำสิ่งที่ผิด .”
Marie Claire:
“พวกเราอ่อนแอ, ไม่มีพละกำลัง. โปรดประทานพละกำลังแก่พวกเราด้วยเพื่อจะได้สำนึกรู้ถึงความผิดของพวกเราและขออภัยโทษสำหรับสิ่งเหล่านั้น .”
แม่พระทรงแนะนำเราให้สวดสายประคำพร้อมรำพึงความทุกข์เจ็ดประการของแม่พระเพื่อจะได้รับพระหรรษทานในการสำนึกผิดในบาปของเรา.
วันที่ 31 พฤษภาคม, 1982, แม่พระตรัสกับ Marie Claire ว่า:
“สิ่งที่แม่ร้องขอจากลูกคือการสำนึกผิดกลับใจ. เมื่อลูกสวดสายประคำพร้อมรำพึงตาม, ลูกจะมีพละกำลังที่จะสำนึกผิดกลับใจ. ทุกวันนี้, ประชาชนจำนวนมากไม่รู้วิธีที่จะให้อภัยกัน พวกเขาตอกตะปูตรึงพระบุตรของพระเจ้าบนกางเขนอีกครั้ง ดังนั้นแม่จึงมาที่นี่, ที่ราวันดา เพื่อเตือนความจำพวกลูก เพราะที่นี่แม่ยังคงพบคนที่สุภาพถ่อมตนอยู่บ้าง ซึ่งไม่ยึดติดกับทรัพย์สิ่งของหรือเงินทอง ”.
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:34 pm
โดย Holy
Stephanie Mukamurenzi
เกิดปี 1968 ได้รับการประจักษ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 14.
Agnes Kamagaju
เกิดปี 1960. ได้รับการประจักษ์ตั้งแต่ 1 สิงหาคมถึง 21 กันยายน 1982 . เธอได้เห็นทั้งแม่พระและพระเยซูเจ้า.
มีการบอกถึงเวลาเป็นการล่วงหน้าก่อนที่แม่พระจะประจักษ์มาต่อสาธารณะชน ประชาชนจำนวนมากจึงมาจากทุกแห่งทั่วประเทศ มีการสร้างพื้นเวทีบริเวณสนามหญ้าของโรงเรียน และเจ้าหน้าที่การสื่อสารก็มอบอุปกรณ์วิทยุและลำโพงให้ด้วย. การประจักษ์ใช้เวลา 2 - 3 ชั่วโมง แก่เด็กหญิงทั้งโดยเป็นส่วนรวมหรือเป็นการส่วนตัวในเวลาเดียวกัน. ผู้รับการประจักษ์บางครั้งจะร้องเพลง บางคนจะล้มลงบนพื้นในลักษณะเข้าญาณ เมื่อสิ้นสุดการประจักษ์ พวกเด็กมีลักษณะเหมือนโคม่า และจะฟื้นขึ้นภายในห้านาที หรือ 1 ชั่วโมง .
Emanuel Segatashya
เกิดปี 1967 ในหมู่บ้านชื่อ Rwamiko. พ่อแม่นับถือความเชื่อดั้งเดิมของท้องถิ่น (ภูติผี) เขาไม่ได้เข้าโรงเรียนเพราะครอบครัวอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล, ซึ่งไม่มีเครื่องมือสื่อสารอาทิ เช่น วิทยุ
Segatashya ไม่รู้จักการทำเครื่องหมายมหากางเขนหรือความหมายของการทำเครื่องหมายกางเขนเลย. เมื่ออายุ 15 ปี
เขาเริ่มได้รับการประจักษ์จากพระเยซูเจ้า. ในไม่ช้าประชาขนต่างก็อยากรู้อยากเห็นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จำนวนผู้ที่สนใจเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ฟังสาส์นจากเด็กเลี้ยงแกะที่นับถือความเชื่อดั้งเดิมผู้นี้ซึ่งดึงดูดความสนใจ
ต่างสงสัยว่าเด็กได้รับความรู้ในเรื่องศีลอภัยบาป, บาป, และความรักมาจากที่ใด ?
พระเยซูเจ้าเองทรงเป็นผู้ที่สอนเขาให้รู้วิธีการทำเครื่องหมายสำคัญมหากางเขน วิธีสวดบทข้าแต่พระบิดา, วันทามารีอาและสวดสายประคำ. Segatashya ได้รับศีลล้างบาปในปี 1983 และใช้ศาสนานามว่า Emanuel, ตามที่พระเยซูต้องการ.
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:36 pm
โดย Holy
Vestine Salima
เกิดปี 1960 ในครอบครัวที่เป็นมุสลิม. ถึงแม้ว่า แม่ของเธอได้รับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิกในโบสถ์, แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนไปถือศาสนาอิสลามตามสามี. อย่างไรก็ตามพ่อแม่ของเธอก็เห็นเหมาะสมที่จะให้เธอได้รับการศึกษาในโรงเรียนคาทอลิก
เธอได้รับศีลล้างบาปที่นั่น .
การประจักษ์แก่เธอเริ่มเมื่อ กรกฏาคม 1980 ที่บ้านของเธอ. มีเพียงพี่สาว Teofista และแม่ของเธอเท่านั้นที่รู้เรื่องการประจักษ์ครั้งแรกนี้. การประจักษ์ต่อเธอเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะชนในวันที่ 15 กันยายน 1982 ที่โรงเรียน, และครั้งสุดท้ายของการประจักษ์เมื่อ 24 ธันวาคม ที่บ้านของเธอ. เธอได้บันทึกเรื่องการประจักษ์เอาไว้ในสมุดไดอารี่
เธอเล่าว่า เธอได้รับการประจักษ์จากพระเยซูเจ้าก่อน ต่อมาจึงเป็นแม่พระ สาส์นของเธอได้เผยแพร่ไปในหลายสังฆมณฑลของราวันดาพร้อมด้วยข้อแนะนำของพระสังฆราช Gahamany.
วันที่ 29 มกราคม, 1982 Vestine ได้สวดสายประคำโดยกางแขนออกในรูปกางเขน และเธอไม่ได้เคลื่อนไหวแขนของเธอเลยถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง .
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:41 pm
โดย Holy
วันที่ 20 มีนาคม1982 อัลฟองซีนได้ประกาศต่อซิสเตอร์คนหนึ่งซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนและต่อเพื่อนร่วมชั้นอีกคนว่า :
"ฉันจะมีลักษณะเหมือนคนตาย, แต่อย่าฝังฉัน!"
แม่พระได้บอกกับเธอเป็นการล่วงหน้าที่จะพาเธอเดินทางไปพร้อมกับพระนาง. ผู้ที่เห็นเป็นพยานได้เล่าว่า การเดินทางใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงเต็ม ในเวลานั้นอัลฟองซีนจะอยู่ในลักษณะโคม่าและตัวแข็งทื่อ. ผู้ที่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปในห้องที่เธออยู่( พระสงฆ์และหมอ) ได้ทำการทดสอบหลายอย่าง พวกเขาเอาเข็มแทงที่ซอกเล็บ ตรวจการหายใจและพยายามจะยกตัวของเธอ
ร่างกายของเธอเหมือนกับก้อนหินหนักประมาณ 100 กิโลกรัม พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะคลายแขนของเธอที่ประสานไว้บนอกให้คลายออก ขณะที่เธอมีการเดินทางอันลึกลับ,
แม่พระได้ให้เธอเห็น ไฟชำระ สวรรค์ และ นรก .
Anathalie มีประสพการณ์คล้ายกันและมีการเดินทางลึกลับ 3 ครั้ง ในวันที่ 4 กันยายน 1982 และจากวันที่ 1 จนถึง 2 เมษายน 1983. การเดินทางสองครั้งแรกใช้เวลา 4 ถึง 7 ชั่วโมง และถูกเฝ้าสังเกตุการณ์อย่างใกล้ชิดจากคณะผู้ตรวจสอบของพระศาสนจักรคือ คุณพ่อ Augustin Misago และคุณพ่อ Frederic Bubwejanga. มีผู้ช่วยเป็นพระสงฆ์อีก 2 คน .
Vestine Salima มีประสพการณ์คล้ายกัน . การเดินทางของเธอเริ่มเมื่อ 1 (วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ) ถึงวันที่ 3 เมษายน, 1983. ใช้เวลาทั้งสิ้น 40 ชั่วโมง โดยไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกายเลย. เธอได้ประกาศล่วงหน้าถึงเวลาที่วิญญาณของเธอจะออกจากร่าง คณะผู้ตรวจสอบได้ทำการทดสอบหลายอย่างและทำการควบคุมอย่างเหมาะสม .
Anathalie ได้ทำการอดอาหารเป็นเวลา 14 วัน -ตั้งแต่ 16 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม 1983 เลี้ยงชีวิตด้วยศีลมหาสนิทอย่างเดียว.
เธอไม่กินอะไรเลยในแปดวันแรก, แม้แต่น้ำสักหยด จากวันนั้นจึงดื่มน้ำบ้างเพียงเล็กน้อย. หมอและคณะผู้ตรวจสอบได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทุกนาที หมอซิสเตอร์แปดคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทั้งวันทั้งคืน หมอได้ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมสุขภาพของเธอ. ในวันที่สามก็ยังไม่มีสัญญาณว่าเธอจะมีภาวะขาดน้ำ ริมฝีปากยังคงเปียกชุ่ม เธอไม่มีปฏิกิริยาตัวสั่นเหมือนคนที่กระหายน้ำ ในวันที่ 11 ของการอดอาหาร
แม่พระได้ปรากฏต่อเธอภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุเป็นเวลาถึง 105 นาที .
Emanuel Segatashya ได้อดอาหารเป็นเวลา 18 วัน , ตั้งแต่ 7ถึง 24 มีนาคม 1983.
เจ็ดวันแรก เขาได้อดอาหารอย่างเข้มงวดไม่ทานอาหารและน้ำเลย จากวันนั้นจึงจะดื่มน้ำบ้างแต่เพียงเล็กน้อย. เขาทำการอดอาหารในบริเวณสังฆมณฑลของกิเบโฮ เพื่ออยู่ภายใต้การตรวจสอบของแพทย์. หลังจากนั้นเขาได้ถูกนำตัวไปที่สำนักสังฆมณฑลใน Butare. ที่นั้นเขาถูกดูแลและควบคุมสภาวะที่เป็นอยู่โดยหัวหน้าแพทย์จากทีมแพทย์ที่ดูแลโดยไม่หยุดพัก .
เด็กที่ได้รับการประจักษ์ทั้งสองคนประกาศว่า การอดอาหารของพวกเขาได้รับการร้องขอจากแม่พระ ให้พวกเขาเลียนแบบการอดอาหารของพระเยซูเจ้าในทะเลทราย.
พระเยซูเจ้าได้ปรากฏมาแก่พวกเขาในเสื้อคลุมขาวหรือแดง.
แม่พระได้มอบความลับให้แก่อัลฟองซีนซึ่งจะเปิดเผยได้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม .
ปลายปี 1983 การประจักษ์แก่ทุกคนได้สิ้นสุดลง , ยกเว้นอัลฟองซีนคนเดียว..
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:48 pm
โดย Holy
ในระหว่างการเข้าพบพระสันตปาปาของพระสังฆราชจากอูกันดาที่วาติกัน พระสังฆราชได้ถามพระสันตบิดรว่าจะจัดการในเรื่องสาส์นและผู้ได้รับการประจักษ์อย่างไร . พระสันตปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 . ตรัสว่า :
"ในพระคัมภีร์เต็มไปด้วยบรรดาประกาศกและก็จะยังคงมีต่อไปไม่สิ้นสุดจนถึงวาระสิ้นโลก จงอย่าไปขัดขวางหรือเข้มงวดนัก ให้พวกเขาทำงานไปเถิดเว้นแต่พวกเขาจะทำบาปของความโลภ (ได้รับผลประโยชน์จากความศักดิ์สิทธิ์นี้) และจากสำนึกที่ชั่วร้าย"
หลังจากการประจักษ์ถึงแปดชั่วโมงเมื่อง 15 พฤษภาคม 1982
เด็กได้เห็นภาพประชาชนกำลังฆ่าฟันซึ่งกันและกัน, แม่น้ำเป็นสายเลือด, ร่างของผู้ตายไม่มีใครฝัง, ต้นไม้จำนวนมากลุกเป็นไฟ. Agnes ได้เห็นภาพอันน่าสยดสยองและเจ็บปวดของเหตุการณ์เมื่อ 1983 ระหว่างการประจักษ์ของพระเยซูเจ้าซึ่งประทับอยู่เบื้องหน้าฝูงชนจำนวนมหึมา .
อิวานกา ผู้ที่ได้รับการประจักษ์แห่งเมดจูกอเรจ์ ครั้งหนึ่งในการประจักษ์ก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองนี้ แม่พระบอกแก่เธอว่า
เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในไม่ช้าแต่สามารถหยุดยั้งได้ด้วยการสวดภาวนา
ในเดือน กุมภาพันธ์ 1994 แม่พระทรงเตรียมอักเนสสำหรับการประจักษ์ส่วนตัว ในภาพเหตุการณ์เธอเห็นพ่อแม่ของเธอถูกฆ่าในกิเบโฮ.
ภาพวาดฝีมือของเด็กที่รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธฺ์
ปี 1994 ราวันดาได้ประสพกับเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดที่สุดในประวัติศาสตร์ . สงครามที่ปราศจากความปราณีบังเกิดขึ้นระหว่างสองชนเผ่าที่เป็นกลุ่มใหญ่ : เผ่าฮูตูและ ทุชซี่ ประชาชนผู้บริสุทธิ์และเด็กเล็กๆถูกฆาตกรรมหมู่ด้วยสาเหตุความเกลียดชังระหว่างชนเผ่า. คนนับพันพากันหนีตายไปยังประเทศเพื่อนบ้านท่ามกลางเปลวไฟและเลือดอาบร่าง .
ศพจำนวนมากกองทับถมกันไม่มีคนฝัง
แคมป์อพยพที่ใหญ่ที่สุดถูกตั้งขึ้นที่กิเบโฮ วันที่ 14 เมษายน 1994 ประชาชนชาวทุขซี่ในสังฆมณฑลที่นั้นทั้งหมด (ประมาณ 4000 คน)ซึ่งเข้าหลบภัยในโบสถ์ ถูกฆ่าตายโดยลูกระเบิดที่ขว้างเข้ามาในโบสถ์.
Marie-Claire ถูกฆ่าตายในเมืองByumba ในฤดูร้อนปี 1994 พร้อมด้วยสามีของเธอ. นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า
ถึงแม้พระเป็นเจ้าจะทรงเลือกบางคนและประทานพระพรพิเศษ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้รับการยกเว้นจากความทุกข์ยากลำบาก. Emanuel ตายระหว่างที่กำลังวิ่งหนีออกจากKigali. Anathalie, Agnes และ Alphonsine รอดชีวิตจากสงครามอันน่ากลัวนี้ .
เมื่อเวลาที่แม่พระได้แสดงให้เด็กๆเห็นภาพเหตุการณ์ในอนาคตเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1982, พระนางตรัสว่า:
"ผู้ที่แสวงหาแม่ จะพบแม่...! แม่มา มิใช่ที่กิเบโฮเท่านั้น มิใช่สำหรับสังฆมณฑล Butare ที่เดียว, มิใช่สำหรับ Rwanda ที่เดียว แต่สำหรับโลกทั้งโลก ."
ในวันที่มีการประจักษ์แปดชั่วโมง, ประชาชนราว 15,000 คน มาร่วมอยู่ที่นั่น ทุกคนได้เห็นสัญญาณอันน่าตื่นใจ : พวกเขาได้เห็นดวงดาวบนท้องฟ้าที่กระจ่างแจ้งเวลากลางวัน ท้องฟ้าของอัฟริกาเวลานั้นเหมือนเป็นเวลากลางคืน .
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:51 pm
โดย Holy
พระดำรัสของแม่พระ
"มีเวลาเหลืออยู่ไม่มากแล้วสำหรับการพิพากษาครั้งสุดท้าย เราต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา, หลีกหนีบาป. สวดภาวนาและเตรียมตัวสำหรับความตายของเราและอวสานของโลก. จงเตรียมตัวขณะที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ คนที่ทำดีจะได้เข้าสู่สวรรค์. คนที่ทำความชั่ว, เขาได้สาปแช่งตัวเองโดยไม่สามารถหวังหรืออุธรณ์ได้อีก. อย่าชักช้าต่อไปอีกที่จะกระทำความดีและสวดภาวนา มีเวลาไม่มากนักแล้วก่อนที่พระเยซูเจ้าจะเสด็จมา ."
แม่มาเพื่อเตรียมหนทางสำหรับพระบุตรของแม่ และสำหรับความดีของพวกลูก และพวกลูกก็ยังไม่ต้องการที่จะเข้าใจ. เวลาเหลือน้อยแล้วและพวกลูกก็ไม่สำนึกเลย. พวกลูกหลงออกนอกทางไปโดยวัตถุสินค้าต่างๆของโลกนี้ซึ่งเสื่อมสลายไป. แม่ได้เห็นลูกๆของแม่จำนวนมากหลงทางและแม่มาที่นี้เพื่อชี้ทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา ."
"ไม่มีอะไรจะสวยงามมากยิ่งไปกว่าหัวใจที่มอบถวายความทุกข์ยากของเขาแด่พระเป็นเจ้า"
"ถึงแม้แม่จะเป็นมารดาของพระเป็นเจ้า, , แม่ก็ถ่อมตนเองลงและมีใจสุภาพ. แม่อยู่ใกล้ลูกเสมอ แม่รักลูกตามสภาพที่ลูกเป็นอยู่ . แม่ไม่เคยตำหนิลูกน้อยๆของแม่เลย. เมื่อลูกน้อยไม่ถูกดุว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ของเขา, เขาจะบอกแม่ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ. แม่ดีใจมากเมื่อลูกๆของแม่มีความชื่นชมยินดีพร้อมกับแม่ ความชื่นชมยินดีนั้นเป็นเครื่องหมายอันสวยงามที่สุดของความไว้วางใจและความรัก. มีน้อยคนที่เข้าใจในความรักอันลึกลับของพระเป็นเจ้า. ขอให้แม่ซึ่งเป็นแม่ของพวกลูกได้โอบกอดลูกๆของแม่ทุกคนด้วยความรัก เพื่อที่พวกลูกจะได้มอบความปรารถนาของลูกไว้กับแม่ด้วยความวางใจ รู้ไว้เถิดว่าแม่ได้มอบความปรารถนาของพวกลูกแด่พระบุตรของแม่ , พี่ชายของพวกลูก - แล้ว"
"ภาวนา, ภาวนา, ภาวนา. จงปฏิบัติตามพระวรสารของพระบุตรของแม่. อย่าลืมว่าพระเป็นเจ้าทรงฤทธิอำนาจยิ่งกว่าความชั่วร้ายทั้งหมดในโลก จงแบ่งปันกัน อย่าฆ่าคน. อย่าข่มเหงรังแกกัน. เคารพสิทธิของกันและกันเพราะถ้าลูกทำสิ่งที่ตรงกันข้าม,ลูกจะไม่ประสพผลสำเร็จและมันจะกลับมาทำร้ายลูก "
"โลกได้หันกลับมาต่อสู้กับพระเป็นเจ้า . เราต้องสำนึกผิดกลับใจและขออภัย"
"จงตื่นและลุกขึ้น ชำระล้างตนเองและระวังตัว เราต้องอุทิศตนในการสวดภาวนา, เราต้องปรับปรุงตนเองในคุณธรรมความดี, ความสุภาพและการรับใช้ "
"จงกลับมาหาพระเป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นแหล่งของน้ำอันทรงชีวิต"
ที่นั่นจะต้องมี"การสำนึกผิดกลับใจ" โลกกำลังอยู่บนชายขอบของความหายนะ มีเพียงหนทางเดียวคือพระเป็นเจ้า
"ถ้าพวกลูกไม่มาหลบภัยในพระเป็นเจ้า แล้วลูกจะไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหนเมื่อไฟจะแผ่กระจายไปทั่วทุกหนแห่ง ?"
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:51 pm
โดย Holy
พระดำรัสของพระเยซูเจ้า
"คนเป็นจำนวนมากไม่ซื่อสัตย์ต่อเพื่อนบ้านของตน . โลกเต็มไปด้วยความเกลียดชัง.
ลูกจะรู้ได้ว่าการกลับมาครั้งที่สองของเราอยู่ใกล้เพียงใด โดยดูจากการต่อสู้ขั้นแตกหักของสงครามศาสนา. แล้วนั้น, จงรู้ไว้เถิดว่าเรากำลังจะมาแล้ว."
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:53 pm
โดย Holy
บทเพลงที่แม่พระมอบให้
เพลงแรก
"ลูกทุกๆคนที่รักแม่, ลูกทุกคนที่สวดภาวนาต่อแม่, จะได้รับชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุด
ผู้ที่เชื่อในพระเยซูเจ้าและผู้ที่เชื่อในพระเป็นเจ้าจะได้รับชีวิตนิรันดร"
เพลงที่สอง
"พระแม่ผู้ที่รักลูกของพระนาง
พระมารดาแห่งพระวจนาตถ์
ทางนำไปสู่สวรรค์
พระมารดาแห่งพระวจนาตถ์
พระมารดาแห่งพระเมตตา
พระมารดาแห่งพระวจนาตถ์ "
เพลงที่สาม
"พระแม่มารี,พระมารดาแห่งพระวจนาตถ์, ขอพระนางเป็นแม่ของพวกลูกด้วย
พระแม่มารี พระมารดาผู้แจกจ่ายพระหรรษทาน, พระนางประทานพรให้แก่พวกลูกมากมาย
พระแม่มารี พระแม่ทรงเลือกพวกเราจากบรรดาลูกทั้งหลายในยุคสมัยนี้
โปรดประทานพระพรแก่พวกเราเพื่อที่เราจะได้ส่งมอบพระพรนี้ให้แก่ผู้อื่นด้วย
เพลงที่สี่
"ข้าแต่พระแม่มารี พวกเราเด็กๆแห่งกิเบโฮวอนขอสำหรับความสมานฉันท์
วอนขอสำหรับความรัก ตามที่พระนางได้บอกแก่เรา
นี่คือสิ่งที่ลูกจะทำ ข้าแต่พระแม่มารี เพราะพระเป็นเจ้าทรงเรียกเรา
โปรดเสด็จมาเถิดและประทานพละกำลังแก่ลูกด้วย, ข้าแต่พระแม่มารี
ให้อดทนในการประจญทดลอง, พระแม่มารี"
แม่พระได้เสนอแนะว่าเราอาจขับร้องเพลงวันทามารีอาแทนการสวดบทวันทามารีอาได้
พระนางปรารถนาให้เราปฏิบัติต่อพระนางเหมือนลูกทำต่อแม่ของเขา
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 02, 2006 8:55 pm
โดย Holy
ในสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกฆ่าล้างเผ่าพันธฺ์โดยนาซีเยอรมัน ตายไปหลายล้านคน
ในกัมพูชายุคซอนซาน ชาวเขมรถูกฆ่าตายเช่นเดียวกันจำนวนหลายแสน
ในบอสเนียเฮอเซโกเวนา และอีกหลายที่ มีการฆ่ากันเพราะความเกลียดชังด้านชาติพันธ์ ด้านการเมือง ฯลฯ
นี่เป็นประเด็นที่พระเป็นเจ้าและแม่พระต้องการเตือนชาวโลกในเรื่องความรักต่อเพื่อนมนุษย์ โดยผ่านทางเหตุการณ์ที่ราวันดา และผ่านทางสาส์นที่เด็กๆได้รับ
แต่ชาวโลกจะฟังเสียงของแม่หรือไม่ ?
อ้างอิง
http://mrosa.szm.sk/341998/angl/rwanda.htm
http://uk.geocities.com/palangjai2004/kibeho.html
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://uk.geocities.com/palangjai2004/kibeho2.html
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 03, 2006 12:18 am
โดย Zion
เกาหลีใต้เอง ตอนโดน เกาหลีเหนืออัดก็สะบักสะบอม
...อยู่รอดมาได้ทุกวันนี้ ก็เพราะความเชื่อ
ญี่ปุ่น ท่านฟรังซิสเซเวียร์ก้ไปประกาศ
แกนนำคริสตชน อามาคุสะ และกลุ่ม ก็โดน รัฐบาลหาว่า นอกรีต
เมื่อครั้งยศ อยู่คริสเตียน
มีคนมาแบ่งปัน
คริสเตียนญี่ปุ่น/เกาหลี ติ คริสต์ไทยว่า
"ทำไม ความเชื่อเหลาะแหละแบบนี้
ประเทศเราโดนการบีบคั้นมากมาย แต่ก็อยู่รอดได้ด้วยความเชื่อ
ต้องให้เจ็บเองก่อนหรือ จึงจะรู้สึก"
โอ้พระเจ้าข้า ทรงพระเมตตาเทอญ :'(
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 8:29 am
โดย Holy
JoHenya, The Fearless เขียน:
เกาหลีใต้เอง ตอนโดน เกาหลีเหนืออัดก็สะบักสะบอม
...อยู่รอดมาได้ทุกวันนี้ ก็เพราะความเชื่อ
ญี่ปุ่น ท่านฟรังซิสเซเวียร์ก้ไปประกาศ
แกนนำคริสตชน อามาคุสะ และกลุ่ม ก็โดน รัฐบาลหาว่า นอกรีต
เมื่อครั้งยศ อยู่คริสเตียน
มีคนมาแบ่งปัน
คริสเตียนญี่ปุ่น/เกาหลี ติ คริสต์ไทยว่า
"ทำไม ความเชื่อเหลาะแหละแบบนี้
ประเทศเราโดนการบีบคั้นมากมาย แต่ก็อยู่รอดได้ด้วยความเชื่อ
ต้องให้เจ็บเองก่อนหรือ จึงจะรู้สึก"
โอ้พระเจ้าข้า ทรงพระเมตตาเทอญ :'(
ไทยเคยเจ็บมาแล้ว สมัยบุญราศีไง แต่ตอนนี้ลืมหมดแล้ว
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 8:49 am
โดย Divine Mercy
โปรดประทานสำนึกที่ดี และการกลับใจที่แท้จริงให้แก่ลูกด้วยเทอญ อาแมน
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 6:57 pm
โดย BARKER BARBER
:o โอ ..ยอดเยี่มเหลือเกิน .. 8)
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 05, 2006 12:28 am
โดย NaNcY
จงอย่าละเลย หรือ เมินเฉยที่จะขอ วิงวอน สวดภาวนา และรำพึงถึง แม่ ทุกๆๆที่ตื่น และทุกๆๆคืนก่อนนอน แม่จะคอยรับฟังคำภาวนาของลูกๆๆทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนชาติอะไร สีผิวอะไร ไม่มีการแบ่งแยกความรักจากแม่ต่อลูกๆๆทุกคนได้เลย สวดกันมากๆๆนะจ๊ะ
Re:++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 05, 2006 12:55 am
โดย Junior Boy
จะพยายามทำตัวแบบที่แม่พระต้องการให้เกิดแก่มนุษย์ครับ
Re: ++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 03, 2010 12:27 am
โดย Holy
เราคงต้องทำอย่างเดียวกันในเมืองไทย
เพื่อเมืองไทยจะไม่ไปเป็นแบบในระวันดา
Re: ++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 03, 2010 1:24 am
โดย ข้า-พระ-เจ้า
เมตตาประเทศไทย เถิดพระเจ้าข้า
Re: ++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 18, 2010 3:36 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
ลูกจะตั้งใจสวดภาวนาให้มากยิ่งๆขึ้นกว่าเดิมค่ะ
โปรดสอนให้ลูกมีใจสุภาพ ถ่อมตน อยู่เสมอตลอดเวลานะคะ อาแมน.
Re: ++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 15, 2011 2:07 pm
โดย rosa-lee
ทุกยุคทุกสมัยแม่ห่วง แม่มาเตือนลูกๆอย่าทำบาป พลีกรรมเสมอๆภาวนาบ่อยๆ
แต่มนุษย์ก็ไม่เชื่อ ขอพวกเราสวดเพื่อตัวเราและคนอื่นๆด้วย เพื่อว่าสักวันหนึ่ง
เราจะได้อยู่ในสวรรค์ชื่นชมกับพระแม่สรรเสริญพระองค์ตลอดนิรันดร
Re: ++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 21, 2011 3:20 am
โดย Holy
Re: ++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 22, 2011 3:04 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
ขอบคุณค่ะ
เลยได้ดูคลิป การศึกษาพันธุ์ไม้ บนผ้าห่อพระศพ แห่งเมืองตูริน ฉบับภาษาไทย แถมอีกด้วย
Re: ++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 13, 2013 2:21 pm
โดย rosa-lee
กลับมาอ่านอีกครั้งเพื่อเตือนใจเตือนศรัทธา
Re: ++ราวันดา-การประจักษ์แห่งชีวิตและความตาย+++
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 01, 2014 1:59 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
10 ปี ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ในราวันดา พระเป็นเจ้าทรงพยายามหยุดยั้งเหตุการณ์นี้ โดยทรงส่งพระมารดาของพระองค์มาที่หมู่บ้านเล็กที่ชื่อ กิเบโฮ เพื่อเตือนประชาชนให้กลับใจ แต่พวกเขาไม่รับฟัง พวกเขาหูหนวก ตาบอด ต่อสัญญาณของพระเป็นเจ้า
ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง ตอนที่1
ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง ตอนที่2
ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง ตอนที่3
ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง ตอนที่4
ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง ตอนที่5
ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง ตอนที่6
ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง ตอนที่7
ถ้าเพียงแต่เรารับฟัง ตอนที่8