บทสัมภาษณ์ ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ พ.ค. 28, 2006 3:34 am

เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่
สิ่งสารพัดเก่าๆก็ล่วงไป นี่แนะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น
2 โครินธ์ 5 : 17

--------------------------------------------------------------------------------

อัญชลี จงคดีกิจ

อยากให้พี่ปุ๊เล่าถึงตัวเองให้ฟัง
ปุ๊ " เป็นลูกคนสุดท้อง เกเรมาก จบผดุงดรุณีแล้วต่อเตรียมอุดมฯ ช่วงนั้นขี้เกียจเรียนและไม่ค่อยสบายเลยเอ็นฯติดแค่สำรอง ก็ไปเรียนคณะสังคมฯมหา'ลัยเกษตรอยู่ปีนึง ก็ออก ถ้าไม่ออกคงถูกไล่ออก แล้วไปเข้า ABAC เรียนเก่งมาก เพราะตั้งใจและรู้ว่าเรียนช้าไป 1 ปี ไปๆมาๆก็ดันได้ทุนไปนอกจบตรีและโทที่นั่น ด้านการเงินและการธนาคาร ระหว่างนั้นสนใจดนตรีเพราะพี่ชายเป็นนักดนตรี ไม่ใช่โดยอาชีพ แต่ตั้งวงขึ้น เค้าชวนปุ๊เล่นเบส เราตระเวนเล่นตามงานมหา'ลัย ฟรีบ้างได้เงินบ้างก็เลี้ยงกัน ชีวิตคลุกคลีอยู่กับกลุ่มนี้ ไม่ค่อยตั้งใจเรียน ต่อมาได้ร้องเพลงที่โรงแรมมณเฑียร สมัยนั้นถ้าใครได้ร้องในโรงแรมก็เรียกว่าอาชีพแล้ว ยังงงเลยเพราะยังเด็กมากแต่ภูมิใจ เล่นอยู่ไม่กี่เดือนก็ไปนอก แต่ช่วงฤดูร้อนกลับมาเล่นที่มณเฑียรทุกปี หาค่าเครื่องบินกลับไปสนุกดี เมื่อจบมา รู้สึกเรียนหนัก อยากพักผ่อนเลยมาร้องเพลงต่อ ยังไม่ทำงาน คุณพ่อก็สนับสนุนเพราะได้เงินเยอะดี จากนั้นไปทำรายการทีวีกับเพื่อนพักหนึ่ง ก็เลิกอีก ช่วงนั้นได้รู้จักคุณจิตนาถ วัชรเสถียร ที่แต่งเพลงให้เลยทำเทป แต่เดิมไม่ค่อยได้ร้องเพลงภาษาไทยล้วน ก็ไม่รู้ว่าฮิตได้ไงมีคนวิจารณ์ว่าร้องแหกปาก เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยมีใครร้องแบบนี้ ดีใจที่คนเขารับกันได้ "

เคยรู้สึกเป็นหนึ่งเหมือนเพลงที่ร้องมั้ย
ปุ๊ " ไม่เคยคิดว่าเพลงนี้จะดัง แต่เขาบอกให้เอาเป็นชื่ออัลบั้ม ให้เข้ากับเครื่องหมายโพดำ ที่จริงชอบเพลงอื่นมากกว่า เช่น ฉันเหงา เพราะคุณจิตนาถเขียนเพลงนี้จากการประมวลชีวิตของปุ๊เอง ก็ไม่คิดว่าจะมีความหมายสำหรับคนอื่น พอฮิตขึ้นมาก็กลายเป็นเพลงประจำตัว "

ทำไมช่วงหนึ่งหายเงียบไป
ปุ๊ " ไม่ได้หายไปไหน ยังทำอัลบั้มอยู่ ทำชุดแรกวงการยังไม่ขนาดนี้ เป็นอะไรที่พอสู้กันได้ ต่อมางานเพลงเริ่มบูม ทีมเราเริ่มเกร็ง แนวเพลงเริ่มตัน พอชุด 2 เริ่มเบื่อแต่ยังทิ้งไม่ได้ พอชุด 3 & 4 เริ่มฝืด เมื่อก่อนขึ้นเวทีด้วยใจรัก ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าเรามาทำอะไรอยู่เนี่ย ทำเพื่อให้คนดูประทับใจเท่านั้นหรือ ก็เบื่อแต่คิดว่าน่าจะทำต่อไป มาถึงผลงานสุดท้ายไปไม่ไหวแล้ว รู้สึกว่าวงการนี้เข้ากับตัวเองไม่ได้ ควรจะเลิก แต่ก่อนเลิกคิดนานนะ นานมาก "

ทำไมถึงมาเชื่อพระเจ้า
ปุ๊ " สิ่งที่เรามีอยู่ ไม่ว่าเงินทอง ชื่อเสียง มันเป็นของภายนอกไม่ช่วยด้านจิตใจ เวลาทุกข์ไม่ว่าเรื่องไหน ปุ๊หาทางออกโดยอ่านหนังสือธรรมะ ง่ายๆนะ ปกติเป็นคนเคร่งเรื่องบาปกรรม เตือนใครๆบ่อยๆว่าอย่าทำนะ เห็นแม่ตียุงตีแมลงวันก็ห้ามแล้วเชื่อไหมล่ะ เพื่อนๆมักเอาหนังสือตายแล้วไปไหนมาให้ ปุ๊อ่านหมดเลย ปุ๊คิดว่าเราก็ทำดี แต่ทำไมความทุกข์ที่คนอื่นนำมาให้ทำไมไม่เห็นผลทันตาหรือต้องรอชาติหน้า เคยคิดว่านั่งสมาธิทำใจคงช่วยได้ ก็ไปหาคนที่นั่งสมาธิถูกทางให้มาสอนเรา แต่ก็พบว่า ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็ทุกข์ใจได้เสมอ แม้มีเพื่อนเยอะแต่ไม่สามารถพูดให้ใครฟังได้ มันอยู่ส่วนลึกจนเพื่อนพูดเรื่องนี้ให้ฟัง แต่ไม่เคยได้ยินว่าพระเจ้าช่วยได้ พระเจ้าเป็นสันติสุข รู้แต่ว่าพระเจ้าสร้างโลกแต่ไม่คิดว่าพระเจ้าทำได้มากกว่านี้ ก็ฟังแต่ไม่เชื่อ มาเชื่อจริงๆเมื่อ 5 ม.ค. 1990 คุยตั้งแต่ทุ่มถึงเที่ยงคืน ประทับใจในสิ่งที่เค้าพูด คิดว่าถ้าเรามีทุกข์ พระเจ้าคงขจัดปัดเป่าได้ ตอนนั้นตื้นตันจริงๆเหมือนได้ข่าวดีแต่ยังไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง เพื่อนก็ชวนให้รับเชื่อ ใจไม่ดีเลย เพราะไม่ทันคิด ตายแล้ว! ไวเกินไป จะบอกว่าไม่รับก็เกรงใจ เอาก็เอา ตอนเค้าอธิษฐานรู้สึกแปลกๆ น้ำตาคลอๆ แต่ยังกลัวๆ เพราะใจไม่พร้อม ก่อนเค้ากลับก็ถามเค้าว่าถ้าจะอธิษฐานต่อพระเจ้า ต้องทำยังไง เค้าบอกว่าพูดอย่างจริงใจเหมือนพูดกับพ่อ คืนนั้นตั้งใจอย่างดี อาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงอธิษฐานท่ามกลางความเงียบสงบ

มีสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ปุ๊รู้เลยว่าพระเจ้ามีจริง พระเจ้าคุยกับปุ๊ พระเจ้าอยู่ใกล้ๆเอง ร้องไห้เสียไม่มี เชื่อมั้ย ? ร้องเพราะคิดว่าที่ฉันล้มลุกคลุกคลานกับชีวิตมาจนเป็นอย่างงี้ ฉันไม่เคยนึกถึงพระเจ้าของฉัน ซึ่งพระเจ้าอยู่ตรงนี้เอง ฉันดำเนินชีวิตมาได้ยังไงโดยไม่มีพระเจ้า (ทุบโต๊ะโป๊กๆๆ) พระเจ้าปล่อยให้ฉันมีชีวิตอย่างงี้ได้ยังไงกัน ร้องไห้ใหญ่พร้อมกับต่อว่าพระเจ้าในใจ แต่มันเป็นจริง วินาทีนั้นสันติสุขเกิดขึ้นท่วมท้น ทุกข์มันหดหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ คืนนั้นปุ๊หลับสนิทแบบฝันดี ตื่นเช้าตัวลอยออกจากห้อง อยากร้องเพลงแต่ร้องไม่เป็นซักเพลง

เช้านั้นรีบโทรไปบอกเพื่อนว่าเชื่อแล้ว รู่จักแล้วเมื่อคืนนี้เอง อีกสองวันไปหาพี่อ้วน (ไฉไล บุษกรเรืองรัตน์ พี่สาวที่เป็นหมอฟัน) ใส่แว่นดำไปเลย แกล้งถามพี่อ้วนดีขึ้นมั้ยเมื่อเชื่อพระเจ้า พี่อ้วนว่าดี ปุ๊บอกว่า รู้มั้ยปุ๊เป็นคริสเตียนแล้ว พี่อ้วนทำหน้าแบบว่า หน้าอย่างเธอนะรึ อย่ามาหลอกฉันเลย เพราะเราเล่นกันจนไม่รู้ว่าอะไรจริง ปุ๊พูดไปน้ำตาคลอไป เธอถึงได้เชื่อว่าจริง เค้าดีใจที่สุดเพราะอธิษฐานเผื่อครอบครัวมา 15 ปี แล้ว เค้าอดทนจนทุกอย่างเป็นจริง ได้เทปเพลงคริสเตียนจากพี่อ้วน พอถึงบ้านก็เปิดลั่นบ้าน ร้องทั้งวันจนพ่อวิตกมาก พ่อบอกว่า ตอนนั้นพอได้ยินปุ๊ร้องเพลง พ่อปิดประตูปัง! เอามืออุดหู คิดว่าลูกบ้าไปแล้ว พ่อบอกใครๆว่า โอ๊ย! ปล่อยปุ๊ไปซักพัก มันลมเพลมพัด เดี๋ยวมันก็เลิก แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่พ่อคิด จนพ่อมาเป็นคริสเตียนอีกคน "

ความเปลี่ยนแปลงของชีวิต
ปุ๊ " คนอื่นอาจไม่เห็นถึงความแตกต่าง แต่ตัวเรารู้ ที่ชัดที่สุดคือจิตใจเปลี่ยนไป สิ่งแรกคือสันติสุขที่เกิดขึ้น ความรักจากพระเจ้าก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ชำระใจปุ๊ให้เป็นคนใหม่ ภายนอกอาจเห็นไม่ชัดเพราะยังต้องใช้เวลาเปลี่ยนแปลง แต่พระเจ้าเปลี่ยนเราได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งแต่ก่อนไม่คิดเช่นนั้น
ปุ๊อยากบอกทุกคนว่า ความสุขที่แท้จริงคือการได้รู้จักกับพระเจ้า การที่ได้รู้ว่ามีชีวิตนิรันดร์กับพระเจ้า ได้รู้จักพระคุณพระองค์ทำให้รู้ว่าในชีวิตนี้เราไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นี่คือที่สุดของเรา ทั้งรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย "

สุดท้ายนี้อยากจะฝากอะไรกับเพื่อนๆชาวอินเตอร์เนตบ้างครับ
ปุ๊ " พี่ขอฝากความรักในองค์พระเยซูคริสต์เจ้ามาสู่น้องๆทุกคน พี่ไม่มีคำพูดใดๆที่พอจะมีคุณค่ามา
ฝาก นอกจากใจที่ปรารถนาอย่างยิ่งที่อยากให้น้องที่ยังไม่รู้จักพระเยซูคริสต์ได้รู้จักพระองค์และรับพระองค์
ให้เป็นพระผู้ช่วยของน้องในชีวิตที่กำลังจะดำเนินไปข้างหน้า ชีวิตวัยรุ่นเป็นชีวิตที่กำลังมีการท้าทายอย่าง
มากมาย เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต พี่จึงอยากแนะนำให้พวกเรามีผู้ช่วยในชีวิต ซึ่งไม่ใช่ธรรมดา แต่เป็น ผู้ช่วยที่ดีเลิศ ที่จะนำเราไปสู่การเติบใหญ่ได้เต็มที่ ไปสู้ความหวังในอนาคต และไปสู่เป้าหมายในชีวิตอย่างแท้จริง

ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าอำนวยพรชีวิตของน้องทุกๆคนและทรงสถิตย์กับทุกคนที่เชื่อ เพื่อเป็น
ความหวัง เป็นพลังและเป็นความรอดของทุกชีวิต"

http://www.geocities.com/christianlife1 ... imony1.htm
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ พ.ค. 28, 2006 10:36 pm

ตระกูลนี้เรียนเก่งมากๆ ทุกๆคน

ตอนนี้พี่พีพี เป็น พี่เลี้ยง หลาน พี่ปุ๊ อยู่คนหนึ่ง เจ้าหมอนี่เป็น อดีตนักเรียนเหรียญทอง โอลิมปิก
เป็นลูกพี่อ้วน หมอฟันน่ะ กำลังทำ ด็อก ด้วยวัย 24 ปี กับมหาวิทยาลัย ลอนดอน คือนั่งเรียนที่เมืองไทย
แล้ว ไปสอบ เป็นครั้งคราว ..... เขาเก่งภาษาพระคัมภีร์มากๆ ;D
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 30, 2006 12:40 pm

ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิจนิรันดร์
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พุธ พ.ค. 31, 2006 5:18 pm

;D เรื่องดีดี ทำไมไม่เอาออกข้างนอกคอกแกะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 1:47 pm

ชอบพี่ปุ๊มากค่ะ เคยไปฟังพี่ปุ๊จัดคอนเสิร์ตแพร่ธรรม
ตัวจริงน่ารักมากมาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Good Nanny
~@
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 13, 2005 10:32 pm
ที่อยู่: BKK

พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 2:05 pm

เราก้อชอบพี่ปุ๊เหมือนกัน ;D
พี่เค้าเป้นหนึ่งแรงกระตุ้น......
ให้เราเข้ามาศึกษาศาสนาคริสต์มากขึ้น


ชอบพี่ปุ๊จังเลย *inlove
ตอบกลับโพส