ความฝันของนักบุญยอห์น บอสโก เกี่ยวกับพระศาสนาจักร

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ เม.ย. 08, 2005 2:01 am

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1862 ซึ่งเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ของพระมารดาองค์อุปถัมภ์ พอเด็กสวดภาวนาค่ำแล้ว คุณพ่อบอสโกก็เล่าความฝันของท่านให้เด็กฟังดังต่อไปนี้

"หลายวันมาแล้ว พ่อฝันว่า พ่อไปยืนอยู่บนเกาะเล็กๆเกาะหนึ่งในกลางมหาสมุทร เห็นแต่น้ำจดฟ้า ตรงหน้าพ่อมีเรือรบหลายลำ ที่หัวเรือมีลูกศรใหญ่เพื่อป้องกันภัย เรือรบเหล่านั้นเรียงรายอยู่เป็นลำดับเหมือนเวลาทำสงคราม มีอาวุธปืนเล็ก ปืนใหญ่ พร้อมกับเชื้อเพลิง เรือทุกลำค่อยๆแล่นช้าๆ มาใกล้เรือรบลำหนึ่งซึ่งใหญ่กว่าหมด แล้วพยายามยิงเรือลำดังกล่าวด้วยลูกศรอย่างอลหม่าน บางลำพยายามจุดไฟเผา ทั้งใช้กลวิธีต่างๆเพื่อให้เรือลำใหญ่ลำนั้นจมลง แต่เรือลำใหญ่นั้นหาได้สะทกสะท้านไม่ มีอาวุธพร้อมสรรพและมีเรือเล็กๆเป็นบริวารหลายลำ ,คอยรับคำสั่งจากเรือใหญ่เพื่อหลีกเรือของศัตรูให้พ้นทั้งลมทั้งคลื่นดูเหมือนช่วยสมทบกับศัตรูด้วย

รูปภาพ

ขณะนั้น,กลางทะเลมีเสาสองต้นปรากฏขึ้นมาจากท้องทะเลลึก, สูงและแข็งแรงมาก อยู่ห่างกันพอเหมาะ บนยอดเสาต้นหนึ่งมีรูปแม่พระ พร้อมกับป้ายจารึกว่า "พระมารดาองค์อุปถัมภ์"(help of Christian) ส่วนอีกต้นหนึ่งสูงกว่าต้นก่อนเล็กน้อย,บนยอดเสามีแผ่นศีลมหาสนิทใหญ่สมกับขนาดของต้นเสา มีป้ายจารึกว่า "ความรอดของผู้มีความเชื่อ"

พระสันตะปาปาซึ่งเป็นเสมือนจอมทัพบังคับบัญชาทั้งเรือรบลำใหญ่และเรือรบเล็กทั้งหมด,พอสังเกตุเห็นศัตรูกำเริบ และสัตบุรุษของพระองค์อ่อนกำลังลง จึงดำรัสให้หัวหน้าเรือทุกลำขึ้นมาประชุมกันในเรือลำใหญ่ บรรดาหัวหน้าเรือก็ปฏิบัติตาม แต่ขณะประชุมปรึกษากันยังไม่ทันเสร็จ ลมพายุก็โหมขึ้นอย่างรุนแรง จึงต้องเลิกการประชุม,กลับไปรักษาเรือของตน พอพายุสงบ,สมเด็จพระสันตะปาปาจึงเรียกประชุมอีกครั้ง แต่ก็อีกนั่นแหละ, ลมพายุได้เกิดขึ้นอย่างแรงกล้าอีกวาระหนึ่ง จนกระทั่งเรือลำใหญ่แทบจะล่ม พระสันตะปาปาทรงเห็นเช่นนั้น จึงทรงนำเรือเข้าไปจอดระหว่างเสาสองต้น ซึ่งมีโซ่และสมอห้อยแขวนอยู่เป็นอันมาก ยังไม่ทันที่พระสันตะปาปาจะผูกโยงเรือเข้ากับเสา, เรือของพวกศัตรูก็แล่นเข้ามาต่อสู้เรือลำใหญ่เป็นสามารถ ระดมยิงปืนเล็ก,ปืนใหญ่และพยายามจุดไฟเผา ศรลูกหนึ่งของข้าศึกได้ยิงถูกแคมเรือของพระสันตะปาปาทะลุ ทันใด,มีลมพัดจากเสาสองต้นนั้นทำให้รูที่ทะลุนั้นปิดสมานแนบสนิทดังเดิม ปืนใหญ่ส่งเสียงคำรามสนั่น เรือรบหลายสิบลำจมลงในน้ำ พวกศัตรูต่างเข้าตะลุมบอนส่งเสียงด่าแช่งลั่น ในช่วงเวลานั้นเอง,สมเด็จพระสันตะปาปาทรงถูกกระสุนปืนของข้าศึกล้มลง คนในเรือพากันเข้ามาช่วยประคองลุกขึ้น แต่ไม่นานเท่าไรก็ถูกกระสุนปืนอีกจนสิ้นพระชนม์ ศัตรูพากันโห่ร้องแสดงความยินดีเซ็งแซ่ เมื่อขาดพระสันตะปาปา, บรรดาหัวหน้าเรือลำเล็กก็ประชุมกันเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ศัตรูได้ทราบข่าวการแต่งตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ก็ตกใจหวาดหวั่นขวัญเสีย เพราะพระสันตะปาปาองค์ใหม่เป็นผู้มีความสามารถและกล้าหาญ พระองค์ทรงนำเรือลำใหญ่เข้าไปจอดระหว่างเสาสองต้นนั้นแล้วเอาโซ่ผูกทั้งหัวและท้ายเรือเข้ากับต้นเสา ทันใดนั้น,ก็มีพายุใหญ่เกิดขึ้น ทะเลปั่นป่วนจนทำให้เรือของศัตรูแล่นชนกันเอง ล่มจมลงในทะเล ศัตรูต่างร้องอลหม่าน ส่วนเรือลำเล็กซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกับพระสันตะปาปาไม่ได้รับอันตรายใดๆ,เมื่อเห็นศัตรูพ่ายแพ้, จึงแล่นเข้ามาสมทบกับเรือลำใหญ่ แล้วเอาโซ่ผูกเรือของตนไว้กับต้นเสาด้วย ครั้นแล้วมหาสมุทรก็สงบราบคาบเป็นปกติ

เมื่อคุณพ่อบอสโกเล่าเรื่องนี้จบลงแล้ว ท่านหันไปถามคุณพ่อรัวว่า เธอว่าความฝันนี้หมายความถึงอะไร คุณพ่อรัวตอบว่า "ผมคิดว่าเรือของพระสันตะปาปานั้นหมายความถึงพระศาสนาจักร ส่วนเรือลำเล็กๆหมายถึงมวลมนุษย์ และทะเลหมายถึงโลกของเรา เรือของพวกที่พยายามต่อสู้ป้องกันเรือลำใหญ่หมายถึงคนดีมีคุณธรรมและยึดมั่นในพระศาสนาจักร ส่วนเรือที่โจมตีเรือลำใหญ่เป็นศัตรูของพระศาสนาจักรที่พยายามทุกวิถีทางที่จะจมเรือลำใหญ่และใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆเพื่อจะทำลายเรือลำใหญ่ เสาสองต้นกลางทะเลนั้นคือความศรัทธาต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทและพระมารดามารีย์"

คุณพ่อบอสโกกล่าวว่า "ใช่แล้ว เธออธิบายได้ชัดเจน ยังขาดนิดเดียวคือ เรือของศัตรูนั้นไม่หมายความถึงแต่การโจมตีเท่านั้น แต่ยังรวมความไปถึงการเบียดเบียนพระศาสนาจักรด้วย พระศาสนาจักรจะต้องเผชิญกับการเบียดเบียนทำร้ายและสิ่งที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วในอดีตจนถึงเวลาของเรานั้นยังไม่มากและรุนแรงเท่ากับพระศาสนาจักรและพระสันตะปาปาที่จะต้องเผชิญในอนาคต แต่สิ่งที่จะเป็นประกันของชัยชนะของพระศาสนาจักรก็คือความศรัทธาต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทและต่อพระมารดามารีย์นั่นเอง"

------------------------------------------------------------------------------

จากความฝันของท่านนักบุญ เห็นได้ชัดว่า พระสันตะปาปาพระองค์นี้ คือพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่2 อย่างแน่นอน เพราะพระสันตะปาปา องค์ก่อนพระองค์ เสียชีวิตกระทันหันอย่างมีเงื่อนงำ และพระสันตะปาปาพระองค์นี้ ก็รักแม่พระมาก ได้ทรงขอให้เอาตัวMไปวางไว้ทางขวาใต้สัญลักษณ์กางเขน ในตราประจำพระองค์ เหมือนในนิมิตนี้ที่แม่พระได้อยู่ถัดลงมาจากพระบุตรของพระนาง และได้นำนาวาพระศาสนจักรให้รอดได้อย่างเยี่ยมยอด กว่าพระสันตะปาปาทุกพระองค์ที่ผ่านมา

พระองค์ทรงปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ยิ่งแล้ว และพระองค์ได้อยู่บนสวรรค์พร้อมกับพระเยซูเจ้า และพระมารดามารีย์ที่พระองค์ทรงรักแล้ว อาแมน
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 27, 2007 12:13 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

ศุกร์ เม.ย. 08, 2005 3:25 am

อาแมน

พระองค์ทรงนำนาวาของชาวเรามาถึงจุดหมายและพันธกิจของพระองค์บนโลกนี้ก็จบลงแล้ว ต่อไปก็ขอพระองค์โปรดประทานกัปตันนำนาวนาพระศาสนจักรคนใหม่มาให้กับชาวเราเถิด อาแมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 27, 2007 12:12 am

ขอขุดเรื่องนี้ให้พี่น้องมารำลึกในวันพระจิตเจ้าเสด็จมาว่า

พระจิตเจ้าได้ทรงตั้ง

-หญิงธรรมดาผู้หนึ่ง เป็น มารดาพระเจ้า

รูปภาพ

เป็นแบบอย่างในชีวิตของเรา

และ

-แผ่นขนมปัง/เหล้าองุ่นธรรมดาๆ ให้กลายเป็น พระกาย/พระโลหิต ของพระคริสตเจ้า

รูปภาพ

เป็นอาหารหล่อเลี้ยงวิญญาณของเรา
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 27, 2007 12:18 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ พ.ค. 27, 2007 12:18 am

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน: รูปภาพ

ขอขุดเรื่องนี้ให้พี่น้องมารำลึกในวันพระจิตเจ้าเสด็จมาว่า

พระจิตเจ้าได้ทรงตั้ง

-หญิงธรรมดาผู้หนึ่ง เป็น มารดาพระเจ้า
เป็นแบบอย่างในชีวิตของเรา

และ

-แผ่นขนมปัง/เหล้าองุ่นธรรมดาๆ ให้กลายเป็น พระกาย/พระโลหิต ของพระคริสตเจ้า

เป็นอาหารหล่อเลี้ยงวิญญาณของเรา


ผมว่านิมิตนี้ ชัดเจนนะครับ ถึงความเชื่อของคาทอลิคเรา คือพระเยซูคริสต์ คือพระผู้ช่วยให้รอด ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ส่วนแม่พระคือผู้ช่วยเหลือเราในการดำเนินชีวิตคริสตชนที่ดี ไม่ใช่มาแทนที่พระเยซู และไม่ได้มีหน้าที่ไถ่เอง หรือใหญ่กว่าพระเยซู แต่เป็นผู้ช่วยเหลือราชกิจของพระเจ้า และถัดจากพระเยซูเจ้า คือแม่พระนี่เองที่มีศักดิ์ศรีสูงส่งที่สุดในพระศาสนจักร(เธอมีบุญยิ่งกว่าหญิงใดๆ และ ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข) อันเป็นหน้าที่ที่แม่พระทำตั้งแต่หน้าแรกของพระคัมภีร์พระธรรมใหม่จนถึงวันนี้
ตอบกลับโพส