case study เกี่ยวกับการทำแท้ง

แบ่งปัน คำพยาน ประสบการณ์ชีวิตกับพระเจ้า และการอัศจรรย์ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำต่อชีวิตของเราแต่ละคน
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
~KaThaRoS~
โพสต์: 792
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

จันทร์ มิ.ย. 23, 2008 11:10 am

วันนี้นู๋รี่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเคสที่เจอมาเร็วๆนี้เองค่ะ

ช่วงประมาณ1เดือนก่อน นุ่รี่ฝันถึงเด้กทารกผู้ชายคนนึง เค้ามาขอความช่วยเหลือรี่
บอกว่า ช่วยหนูด้วยคับป้า ช่วยหนูด้วย เราก็ถามว่า หนุเป็นใคร มาอยู่ตรงนี้ได้ไง
แล้วก็อุ้มเด็กคนนี้ขึ้นมา เด็กคนนั้นบอกว่า พาหนูไปอยู่ด้วยนะ อย่าทิ้งหนูนะ ช่วยหนูด้วย

ฝันครั้งที่2 เด็กคนนี้นั่งอยุ่คนเดียว เราก็ถามว่า อ้าวหนุมาอยู่ตรงนี้ได้ไง
เด็กคนนั้นก็ร้องๆให้เราอุ้มง่ะ แล้วก็บอกว่าช่วยด้วย พาหนูไปอยู่ด้วย
เค้าจะฆ่าหนู ช่วยด้วย เราก็อุ้มเด็กคนนั้นมาปลอบ แล้วเด้กคนนั้นก็หายไป

ฝันครั้งที่3 ฝันว่านู๋รี่กำลังอยู่ในห้องแล็บอาจารย์ใหญ่ แล้วอยู่ดีๆเด็กคนนี้ก็โผล่มา
แล้วบอกว่าช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย เค้าจะฆ่านู๋ แล้วรี่ถามว่า ใครจะฆ่านุ๋
เด็กคนนั้นก็บอกว่า หนูไม่อยากตาย ช่วยหนูด้วย แล้วรี่ก็อุ้มเด้กคนนั้นมากอด
แล้วเด็กคนนั้นก็ร้องไห้แล้วก็หายไป กลายเป็นศพที่ผ่าอยู่ข้างหน้า (น่ากลัวมากมาย)

ช่วงนั้นรี่ได้รับเคสนึง เธอโทรมาขอคำปรึกษา เธอท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะว่าเมาของฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้เธอผิดพลาด จนตั้งครรถ์
เธอจะทำแท้ง เพราะไม่อยากให้พ่อแม่รู้ และอับอายสังคม รี่ก็บอกว่า ลองหาทางอื่นดีกว่ามั๊ย มันยังมีอีกหลายทางเลยที่ไม่ใช่การฆ่าเด็กคนนี้ เค้าผิดอะไรเหรอ ทำไมต้องไปฆ่าเค้า เค้ามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ แต่ทำไมเราต้องตัดสินให้เค้าตายด้วย แล้วก็นานาเหตุผล.....
และรี่ก็แนะนำเธอไปที่คณะศรีชุมพาบาล........................
และเธอก็การขาดติคต่อไป1อาทิตย์

ฝันครั้งที่4 ฝันถึงเด็กคนนี้อีกล่ะ แล้วเด็กคนนี้ก็บอกว่าหนูจาไปแล้ว แล้วก็ร้องไห้ แล้วก็ฝันถึงพ่อแม่ของเด็กคนนี้

หลังจากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากแฟนเธอ เค้าบอกว่า เธอซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตเมื่อ2วันก่อน เป็นยาชนิดเหน็บช่องคลอด จากนั้นเธอก็เลือดไหลไม่หยุด
รี่ก็เลยแนะนำให้พาเธอไป รพ. และอธิบายเหตุผลทางการแพทย์ ณ วินาทีนั้น รี่รู้สึกเสียใจมาก ที่ช่วยเด็กคนนั้นไม่ได้ มันรู้สึกผิดมากมาย
พอตอนเย็น รี่ก็เข้าวัด แต่ในใจก็คิดเรื่องนี้ตลอด ก็สวดขอให้พระรับเด็กคนนี้ขึ้นสวรรค์ด้วย แต่เราก็รู้สึกว่า เราไม่สมควรรับศีล นู๋มันเป็นคนบาป นุ๋ช่วยชีวิตเด็กบริสุทธิ์ คนนึงไม่ได้
พอตอนรับศีลตรงบทที่ พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จมาประทับอยุ่กับข้าพเจ้า แต่โปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์
เราก็พระว่า พระเจ้านุ๋ไม่สมควนรับศีลศุกดิ์สิทธิ์นี้เลย นู๋ยังรู้สึกว่านู๋ไม่ดีพร้อม ไม่สมควรอยู่
พระก็ตอบนู๋ว่า ลูกทำดีที่สุดแล้ว อย่าตำหนิตัวเองอีกเลย
นุ๋ก็เดินออกไปรับศีล พอกลับมาก็สวดให้พวกเค้า แต่ก็ยังเศร้าอยู่
พอเดินออกจากวัดก็เจอพี่โฮลี่และพี่LL ก็เลยปรึกษาพี่2คนนี้
พี่โฮลี่กะพี่LL ก็บอกว่า อย่าไปกังวล เราช่วยเค้าในส่วนของเราแล้ว แต่เค้ายังไปทำ บาปมันก็ตกอยู่กับเค้า ก็สวดให้เค้าแค่นั้น อารายประมาณนั้น
ทุกวันนี้สิ่งที่รี่จะทำได้เพื่อพวกเค้าก็คือการสวด เมื่อเช้ารี่สวดบทที่พี่จิงให้มา แต่ก็รู้สึกว่าสวดช้าเกินไป เพราะรี่จะวางบทนี้ไว้บนหัวนอน และสวดก่อนนอนในทุกๆเคสที่เจอมา แต่เรามัวแต่ยุ่งๆกับงาน จนบางทีลืมสวด บางทีก็ไม่สวด และก็ขี้เกียจสวด
พอมาในตอนเช้าเลยเอามาสวด บทนี้ทำให้รี่รู้สึกถึงพลังของพระ มันบรรยายไม่ถูกอ่ะค่ะพี่น้อง แต่มันรู้สึกได้เอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ มิ.ย. 23, 2008 12:30 pm

สวดให้แก่ทุกคนใน Case study จ๊ะ 
อย่าลืม  ต่อให้เขาตัดสินใจไม่ทำ  คุณความดีนั้นก็ไม่ใช่ของเรา  เป็นของพระเจ้าที่ทรงมีชัยชนะ
และต่อให้เธอทำ (ซึ่งก็ทำไปแล้ว) ผลแห่งการกระทำนั้นก็ไม่ใช่ของเรา  แต่เป็นของเขาที่ทำตามอำเภอใจตัวเอง

เราเป็นแค่ผู้รับใช้  เราเป็นแค่เครื่องมือ 
ภาระใจของเราคืออะไร  แค่รับใช้ และ ภาวนาให้เขา 
แต่ไม่ใช่เก็บมาเป็นภาระของตัวเอง จนทำให้เราห่างพระ
ถ้าแบบนั้น  โดยปีศาจแกล้งแล้ว  เอาความรู้สึกผิดของเรามาทำให้ห่างพระ

จงซื่อเหมือนนกพิราบ ฉลาดเหมือนงู

รู้เท่าทันเกมปีศาจนะจ๊า
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

จันทร์ มิ.ย. 23, 2008 2:56 pm

~@Little lamb@~ เขียน: สวดให้แก่ทุกคนใน Case study จ๊ะ 
อย่าลืม  ต่อให้เขาตัดสินใจไม่ทำ  คุณความดีนั้นก็ไม่ใช่ของเรา  เป็นของพระเจ้าที่ทรงมีชัยชนะ
และต่อให้เธอทำ (ซึ่งก็ทำไปแล้ว) ผลแห่งการกระทำนั้นก็ไม่ใช่ของเรา  แต่เป็นของเขาที่ทำตามอำเภอใจตัวเอง

เราเป็นแค่ผู้รับใช้  เราเป็นแค่เครื่องมือ  
ภาระใจของเราคืออะไร  แค่รับใช้ และ ภาวนาให้เขา 
แต่ไม่ใช่เก็บมาเป็นภาระของตัวเอง จนทำให้เราห่างพระ
ถ้าแบบนั้น  โดยปีศาจแกล้งแล้ว  เอาความรู้สึกผิดของเรามาทำให้ห่างพระ

จงซื่อเหมือนนกพิราบ ฉลาดเหมือนงู

รู้เท่าทันเกมปีศาจนะจ๊า
ขอบคุณคะที่กำลังเตือนสติและสอนใจ เรื่องที่กำลังเผชิญอยู่
บางครั้งรู้สึกเสียใจเหมือนกันที่เราทำได้แค่นี้เองหรือ?
ทำไมเราไม่พยายามช่วยเค้ารักษาจิตวิญญาณเค้าให้มากกว่านี้
ทุกวันนี้ยังนั่งคิดกังวลและเสียใจ
โดยเฉพาะที่รู้ว่าคนที่เรารู้จัก..ไม่มาวัด อ้างเหตุผลสารพัด หรือ
ทำอะไรที่ขัดต่อความเชื่อ หรือ เผลอใจก้าวไปตามกระแสโลก

แต่พอมาได้อ่านที่ คุณ LL สอนน้องรี่ แล้ว...เข้าใจมากขึ้นคะ
จะพยายามคิด มีสติ กว่านี้ ขอบพระคุณที่เตือนสติ
และที่สำคัญขอถวายพระเกียรติแด่พระจิตเจ้าที่ดลใจให้ได้อ่าน
ในเวลาที่ต้องการอยู่พอดีเลย
ช่วงนี้...รู้สึกว่า...จะได้อ่านอะไรที่ต้องการในชีวิต "สิ่งที่ขาด"

ขอบพระคุณทุกๆคนที่ตั้งบอร์ดนี้ขึ้นมาเป็นแหล่งรวมความรัก กำลังใจ
อาหารจิตวิญญาณ เกื้อหนุนใจกัน สร้างสายใยแห่งความรักของ
องค์พระเยซูคริสตเจ้า ด้วยชีวิตของทุกคนได้ดีจริงๆ
รวมถึงสมาชิกทุกๆคนในบอร์ดนี้ด้วยคะ  : emo038 :
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

จันทร์ มิ.ย. 23, 2008 8:22 pm

รี่เรียน counselling มาก็จะรู้ดีนะว่า  การช่วยเหลือเค้า  เราต้องเอาตัวเองออกมา  นั่นไม่ใช่ปัญหาเรา เราเป็นเครื่องมือพระ  เราช่วยได้เท่าที่ช่วย  และเรื่องconfidentiality ก็เป็นอันนึงเหมือนกันที่  เวลาเราจะไปขอให้ใครสวดให้ก็จะลำบากนิดนึง  บอกได้อย่างมากก็แค่รวมๆ

เราได้แค่แนะนำ  และสวดให้นะคะ  แต่การตัดสินใจอยู่ที่เค้านะคะ  ::001::

สวดให้เค้าต่อไปนะคะ  พี่เชื่อว่า  หนูน้อยคนนั้นจะได้รับคำภาวนาของรี่แน่นอน  อย่างน้อยก็ต้องให้วิญญาณเค้าสงบขึ้น  จะได้ไปอยู่กับพระ  บางที  เค้าตายไปตอนนี้  เค้าถูกฆ่าตอนนี้  อาจจะดีก็ได้  คือไปอยู่กับพระเลย  ไม่ต้องมาเสียเวลา  อันนี้คิดในแง่ดีนะจ้ะ  ::001::

ส่วนแม่ของเด็กนั้น  ก็ต้องสวดให้เค้าต่อไป  ให้เค้าได้รับการรักษา  ให้ได้รับการอภัย ซึ่งก็คงจะใช้เวลานะคะ  แต่พี่เชื่อว่า  พระเป็นเจ้าเรียกรี่  และถามรี่ว่า  รี่จะเอามั้ย  จะยอมรับภาระการภาวนาเพื่อคนนี้มั้ย  ตัดสินใจเองนะคะ  อันนี้เป็นแค่คำเชิญค่ะ  ::001::

เป็นบททดสอบนึงของ counsellor นะจ้ะ  และพี่ว่านะ  รี่น่าจะเรียนต่อ pastoral counselling นะ  พี่ว่า รี่มีพระพรตรงนี้ clinical counselling ให้พวกหมอเรียนไปเถอะ และคนเรียนเยอะแล้ว และอีกอย่าง  พวก clin. psych. เนี่ย  ตอนนี้งานวิจัยพวก neurotransmitter มีเยอะมาก  ทำยาออกมาได้เยอะ  ดังนั้น  บทบาทของ counsellor อาจจะน้อยลง

เราสัมผัสวิญญาณได้ และเรามีความเชื่อ  มีความเป็นห่วงวิญญาณคนมากกว่าคนอื่น มาเรียน pastoral counselling ดีกว่า  ::001::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ มิ.ย. 23, 2008 9:19 pm

อย่ากังวลเลยครับ เราทำในส่วนของเราอย่างที่พี่เค้าบอกแล้วจริง ๆ นี่เนอะ ::001::

อีกอย่างน้องคนนั้นก็น่าจะได้ไปสวรรค์แล้วหล่ะครับ เพราะว่าเค้าไม่มีบาปนี่ : emo010 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
~KaThaRoS~
โพสต์: 792
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

จันทร์ มิ.ย. 23, 2008 11:19 pm

ในส่วนที่บอกว่าเราต้องเอาตัวเองออกมาจากปัญหาของคนไข้อ่ะ หนูเข้าใจค่ะ
แต่เหมือนว่าหนูค่อนๆเจอปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ และหนูรับไม่ค่อยได้เรื่องการฆ่าคน โดยเฉพาะ เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง
เป็นเรื่องที่น่าสนใจต่อไปว่าทำไมเค้าถึงคิดเช่นนั้น ตอนนี้หนูก็โอเคดีขึ้นแล้วค่ะและคิดว่า นี้มันเป็นส่วนนึงของปัญหาสังคมในปัจจุบัน
หนูว่าอัตราการทำแท้งมันมากขึ้นทุกวันๆ สลดใจยังไงก้ไม่รู้
หนูจะสวดต่อไปค่ะ ขอบคุณพี่ๆทุกคนด้วยค่ะ

** ขอบคุณพี่บัดดี้นะค่ะ หนูก็เรียน clinaical ต่อไปค่ะ แต่ละเก็บวิชาพวก cousellingเป็นพิเศษ เพราะมันเป็นเครื่องมือที่จะให้เรามีประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ
ขนาดเรียนอยู่ยังเจอเคสขนาดนี้ ถ้าจบไปปัญหาโลกแตก หนูจาทำได้เหรอ .....ก็ต้องหาประสบการณ์ด้านนี้เยอะๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือจิตใจพี่น้องทั้งหลาย

สู้ว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย : emo045 : : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

อังคาร มิ.ย. 24, 2008 2:00 am

น่าเศร้าจริงๆเลยครับ เด็กไร้เดียงสาคนนึงต้องถูกแม่แท้ๆของตัวเองฆ่า
เค้าไม่มีโอกาสที่จะได้รับความรักจากพ่อและแม่ของเค้าเลย

ขอพระเจ้าทรงเมตตาต่อการกระทำเหล่านี้ด้วย
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร มิ.ย. 24, 2008 2:30 am

~KaThaRoS~ เขียน: ในส่วนที่บอกว่าเราต้องเอาตัวเองออกมาจากปัญหาของคนไข้อ่ะ หนูเข้าใจค่ะ
แต่เหมือนว่าหนูค่อนๆเจอปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ และหนูรับไม่ค่อยได้เรื่องการฆ่าคน โดยเฉพาะ เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง
เป็นเรื่องที่น่าสนใจต่อไปว่าทำไมเค้าถึงคิดเช่นนั้น ตอนนี้หนูก็โอเคดีขึ้นแล้วค่ะและคิดว่า นี้มันเป็นส่วนนึงของปัญหาสังคมในปัจจุบัน
หนูว่าอัตราการทำแท้งมันมากขึ้นทุกวันๆ สลดใจยังไงก้ไม่รู้
หนูจะสวดต่อไปค่ะ ขอบคุณพี่ๆทุกคนด้วยค่ะ

** ขอบคุณพี่บัดดี้นะค่ะ หนูก็เรียน clinaical ต่อไปค่ะ แต่ละเก็บวิชาพวก cousellingเป็นพิเศษ เพราะมันเป็นเครื่องมือที่จะให้เรามีประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ
ขนาดเรียนอยู่ยังเจอเคสขนาดนี้ ถ้าจบไปปัญหาโลกแตก หนูจาทำได้เหรอ .....ก็ต้องหาประสบการณ์ด้านนี้เยอะๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือจิตใจพี่น้องทั้งหลาย

สู้ว๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย : emo045 : : emo045 :
หมายถึงต่อโทนะ  ไม่ได้ให้ออกมานะ  อย่าเข้าใจผิด pastoral counselling อาจเป็นอีกทางเลือกนึง  พระอาจเรียกเราก็ได้  ::001::

สู้ๆจ้า  ::004::
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร มิ.ย. 24, 2008 10:51 pm

ignatius เขียน:

ขอบคุณคะที่กำลังเตือนสติและสอนใจ เรื่องที่กำลังเผชิญอยู่
บางครั้งรู้สึกเสียใจเหมือนกันที่เราทำได้แค่นี้เองหรือ?
ทำไมเราไม่พยายามช่วยเค้ารักษาจิตวิญญาณเค้าให้มากกว่านี้
ทุกวันนี้ยังนั่งคิดกังวลและเสียใจ
โดยเฉพาะที่รู้ว่าคนที่เรารู้จัก..ไม่มาวัด อ้างเหตุผลสารพัด หรือ
ทำอะไรที่ขัดต่อความเชื่อ หรือ เผลอใจก้าวไปตามกระแสโลก

แต่พอมาได้อ่านที่ คุณ LL สอนน้องรี่ แล้ว...เข้าใจมากขึ้นคะ
จะพยายามคิด มีสติ กว่านี้ ขอบพระคุณที่เตือนสติ
และที่สำคัญขอถวายพระเกียรติแด่พระจิตเจ้าที่ดลใจให้ได้อ่าน
ในเวลาที่ต้องการอยู่พอดีเลย
ช่วงนี้...รู้สึกว่า...จะได้อ่านอะไรที่ต้องการในชีวิต "สิ่งที่ขาด"

ขอบพระคุณทุกๆคนที่ตั้งบอร์ดนี้ขึ้นมาเป็นแหล่งรวมความรัก กำลังใจ
อาหารจิตวิญญาณ เกื้อหนุนใจกัน สร้างสายใยแห่งความรักของ
องค์พระเยซูคริสตเจ้า ด้วยชีวิตของทุกคนได้ดีจริงๆ
รวมถึงสมาชิกทุกๆคนในบอร์ดนี้ด้วยคะ  : emo038 :


ยินดีรับใช้ค่ะ  ขอบคุณพระเจ้านะคะ
ที่นำเรามาเจอกัน  และ ที่สำคัญ  อันนี้ LL ไม่ได้คิดเอง
ความดีความชอบของพระเจ้าค๊า  :kiss:
maria phol
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 04, 2008 9:20 am

จันทร์ ก.ค. 07, 2008 5:16 pm

~KaThaRoS~ เขียน:

ก็เจอบ่อยเหมือนกันนะ  กรณีcaseแบบนี้  ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นกรณีที่ไม่ได้ตั้งใจแต่มีครอบครัวแล้ว  จะแนะนำให้เขาฝากครรภ์และจะอธฺบายให้เขาร้ว่าการฝากครรภ์มีความเสี่ยงน้อยกว่าการทำแท้ง (พอดีทำงานเกี่ยวกับสุขภาพนะ)  จะดูลักษณะผู้รับบริการและใช้จิตวิทยานิดหน่อยโน้มน้าวเขาให้ได้ในใจก็สวดขอพระให้เขาเอาเด็กไว้และเราก็ติดตามเพื่อให้เขารู้สึกว่าการมีชีวิตใหม่ที่จะเกิดกับเขานั้นเป็นความโชคดี (กรณีส่วนใหญ่ที่มาจะนับถือศาสนาอื่นๆก็เลยต้องพูดแบบกลางๆไว้)  และเท่าที่ทำมาก็ช่วยได้มากนะ  แต่ก็ยังมีบางกรณีที่ยืนยันว่าอยากจะทำก็คงต้องให้เขาตัดสินใจของเขาเองเพราะเราถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว  แต่จะไม่แนะนำเรื่องการทำแท้งเลย  ถ้าเขาติดสินใจอย่างนั้นก็ให้เขาคิดเอาเอง  ส่วนที่ท้องไม่ได้ตั้งใจก็มีแต่ก็แนะนำให้พบผู้ปกครองและแนะนำให้แต่งงานแต่งการให้เรียบร้อยก็ช่วยได้หลายค่นะแต่บางทีก็ไม่รู้ว่าเราคิดผิดหรือเปล่าเพราะบางคนแต่งงานกันไปหลังคลอดลูกก็เลิกกันปล่อยให้เด็กเกิดมาอยู่กับปู่ย่าตายายไปซะงั้น  การทำงานแบบนี้ยุ่งยากใจมากเลยนะแต่เราก็ยึดความเชื่อของเราเป็นที่ตั้งแล้วสวดมากๆให้พระจิตดลใจให้เราใช้ความสามารถในทางที่ถูกต้องบางครั้งอาจจะขัดกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็ตาม  แต่การทำงานวงการแพทย์บางครั้งต้องใช้ความมีสติให้มาก  และเราก็เชื่อในพระจิตนะเพราะงานที่ผ่านๆมาทำให้เรารู้สึกและเข้าใจว่าพระจิตทรงอำนาจจริงๆ  เรามีบทสวดขอพระจิตด้วยนะเดี๋ยวคราวหน้าจะเอามาpostให้อ่าน  ถ้าสนใจติดต่อทางmailได้
ตอบกลับโพส