สายประคำของแอมแปร์*
*แอมแปร์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า แอมป์ (สัญลักษณ์ : A) เป็นหน่วยวัดกระแสไฟฟ้า หรือปริมาณของประจุไฟฟ้าต่อวินาที แอมแปร์เป็นหน่วยฐานเอสไอ ตั้งชื่อตาม อองเดร-มารี อองแปร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส หนึ่งในผู้ค้นพบแม่เหล็กไฟฟ้า
อังเดรมารีแอมแปร์ เป็นนักฟิสิกส์และนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ในระหว่างนั้นแอมแปร์ค้นพบจากการทดลองว่า กระแสไฟฟ้าทำให้ทิศของเข็มแม่เหล็กเบี่ยงเบนได้ แม้แต่กระแสไฟฟ้าด้วยกันก็ยังมีปฏิกริยาเกิดขึ้น โดยนำเส้นลวดต่อกับแบตเตอร์รี่แบบวอลตาอิค 2 เส้น วางเส้นลวดทั้งสองให้ขนานกัน ปรากฏว่าเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าไหลไปในทิศทางเดียวกัน จะดึงดูดซึ่งกันและกันแต่เมื่อกลับทิศทางกัน เส้นลวดตัวนำจะผลักกันแอมแปร์จึงสรุปเป็นกฏว่า "เส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมีอำนาจเช่นเดียวกับแม่เหล็ก"การทดลองของเขาสร้างชื่อเสียงให้กับเขามาก เพื่อเป็นการยกย่องจึงมีการนำชื่อของแอมแปร์มาใช้เป็นหน่วยของการวัดขนาดกระแสไฟฟ้าด้วย
โลก ของคนขัดสนจนยาก เป็นหนี้อย่างมหาศาลต่อ เฟรเดริก โอซานัม ผู้สถาปนาสมาคมนักบุญวินเซอร์เดอปอล. เฟรเดริก โอซานัม ได้เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ของท่านว่า
ผมเกือบจะต้องสูญเสียความเชื่อคริสตังของผมไป. ผมตกอยู่ในห้วงเวลาของความสงสัยในพระเป็นเจ้าอย่างมาก
แต่คุณคงจะรู้จักนักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลก ก็ชื่อของท่านผู้นั้นยังคงประทับเป็นตรารับรองเกียรติยศมาจนทุกวันนี้. ท่านผู้นั้นคือ แอมแปร์. คุณคงจะเห็นหรือได้ยินชื่อนี้บ่อยๆ ในวงการไฟฟ้า. ไม่ว่าที่ใดในโลกแล้ว จำต้องมีคำๆ นี้ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่สำหรับตัวผมเองแล้ว ท่านผู้นี้มีอะไรที่ให้ความหมายมากกว่าชื่อของท่านนัก. ท่านเป็นเหมือนกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าที่ดูดผม ให้อยู่ในความเชื่อที่ผมเกือบจะเสียไป
ตอนนั้นผมอายุ 18 ปี ผมรู้สึกวุ่นวายใจอย่างบอกไม่ถูก. ผมเกือบจะทิ้งความเชื่อที่ผมมีมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย และแล้ววันหนึ่งผมก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่ามีแรงอะไรที่ทำให้ผมพาตัวเองเข้าไป โดยหวังจะสงบอารมณ์ในวิหารแม่พระแห่งหนึ่งที่กรุงปารีส
เมื่อสายตาของผมเริ่มชินกับความมืด ผมก็เห็นชายชราผู้หนึ่งกำลังนั่งสวดลูกประคำอยู่อย่างน่าศรัทธาเลื่อมใสยิ่ง, ผมคิดว่ามีแรงอะไรบางอย่างจากชายชราผู้นั้น ที่ดึงดูดผม ให้ผมสนใจท่านอย่างพิเศษ
เราเริ่มสนทนากันด้วยเรื่องราวต่างๆ ท่านเปิดเผยให้ผมทราบว่า ท่านคือแอมแปร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง. ท่านเล่าเรื่องราวต่างๆ ของท่านให้ผมฟัง. ท่านใช้ภาษาง่ายๆ และด้วยการสวดภาวนา ที่หลายคนประณามว่าล้าสมัย จำเจ น่าเบื่อหน่าย หรืองมงาย. ผมถูกดึงดูดให้สวดลูกประคำพร้อมๆ กับท่าน. ผมคุกเข่าลงข้างๆ ท่าน. สำหรับผมแล้ว สายประคำของแอมแปร์สายนั้น มีค่ามากกว่าตำราเล่มใดๆ ที่ท่านได้เขียนไว้เสียอีก.
ที่มา-แม่พระยุคใหม่ ฉบับรวมเล่ม ปี 2000/2543 : สายประคำของแอมแปร์ หน้าที่ 26 : สำนักพิมพ์แม่พระยุคใหม่ กรุงเทพฯ.
สายประคำของแอมแปร์
อะเฮื่อๆๆๆๆๆๆ
ท่านเเอมเเปร์ ช่วยวิงวอนเทอญ
จะสอบเเล้ว เซอร์กิต ยังไม่รู้เรื่องเลยยยยยย
ท่านเเอมเเปร์ ช่วยวิงวอนเทอญ
จะสอบเเล้ว เซอร์กิต ยังไม่รู้เรื่องเลยยยยยย
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณนะครับ ความรู้ใหม่ ๆ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อ่านแล้วดีจังเลย
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
กฏบางอย่างของวิทยาศาสตร์สามารถหาคำตอบใด้ในปรีชาญาณแห่งพระเป็นเจ้า
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่านะ วิทยาศาตร์ทุกอย่างแหละครับพระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน: กฏบางอย่างของวิทยาศาสตร์สามารถหาคำตอบใด้ในปรีชาญาณแห่งพระเป็นเจ้า
พระอยู่เหนือวิทยาศาสตร์ครับ เพราะวิทยาศาสตร์คือความก้าวหน้าของมนุษย์ และมนุษย์ไม่สามารถเอาชนะพระได้แน่นอนครับ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
หมายถึงกฏบางอย่าง ที่ยังหาคำตอบไม่ได้งะ เช่นจักรวาลกำเนิดอย่างไร ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษของไอน์สไตน์ :laugh:Batholomew เขียน:ผมว่านะ วิทยาศาตร์ทุกอย่างแหละครับพระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน: กฏบางอย่างของวิทยาศาสตร์สามารถหาคำตอบใด้ในปรีชาญาณแห่งพระเป็นเจ้า
พระอยู่เหนือวิทยาศาสตร์ครับ เพราะวิทยาศาสตร์คือความก้าวหน้าของมนุษย์ และมนุษย์ไม่สามารถเอาชนะพระได้แน่นอนครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ครับผมพระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน:หมายถึงกฏบางอย่าง ที่ยังหาคำตอบไม่ได้งะ เช่นจักรวาลกำเนิดอย่างไร ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษของไอน์สไตน์ :laugh:Batholomew เขียน:ผมว่านะ วิทยาศาตร์ทุกอย่างแหละครับพระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน: กฏบางอย่างของวิทยาศาสตร์สามารถหาคำตอบใด้ในปรีชาญาณแห่งพระเป็นเจ้า
พระอยู่เหนือวิทยาศาสตร์ครับ เพราะวิทยาศาสตร์คือความก้าวหน้าของมนุษย์ และมนุษย์ไม่สามารถเอาชนะพระได้แน่นอนครับ