@~พระพรแห่งการถวาย~@

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ส.ค. 15, 2009 9:53 am

พระพรของการถวาย
โปรดปราน( พีพี )


“จงถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยทรัพย์สินของตน และด้วยผลแรกแห่งผลิตผลทั้งสิ้นของเจ้า
แล้วยุ้งของเจ้าจะเต็มด้วยความอุดม และบ่อเก็บของเจ้าจะล้นด้วยเหล้าองุ่น” ( สุภาษิต 3:9-10 )


การถวาย คือ การมอบชีวิต มอบสิ่งของ หรือมอบทรัพย์สิน แก่พระเจ้า เพื่อใช้ในพระราชกิจของพระองค์ในโลกนี้ ในแวดวงคริสเตียนไทย เราชื่นชมคริสตจักรเกาหลีว่าเป็นคริสตจักรแห่งการถวาย คือเขาถวายทั้งทรัพย์และบุคลากร เช่น เมื่อขึ้นปีใหม่เริ่มต้นชีวิตด้วยการนมัสการพระเจ้า “ถึงแม้ไม่ใช่วันอาทิตย์”ก็มีการเดินถุงถวายทรัพย์ (ถุงทานของคริสตัง)คริสเตียนส่วนใหญ่จะนำเงินใส่ซองถวายพิเศษใส่ผ่านถุงทานเป็นการแสดงออกด้วยการ”ถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยทรัพย์สิน ถวายเงินขอบคุณพระเจ้าก่อนที่จะนำเงินไปใช้กับสิ่งอื่นๆในปีนั้น” ขณะเดียวกันแต่ละปีมีเยาวชนหนุ่มสาวถวายตัว รับกระแสเรียก เป็นมิสชันนารีระยะสั้นมากมาย ยิ่งกว่านั้นยังมีเยาวชนจำนวนมากทั้งชาย-หญิงถวายตัวรับกระแสเรียกเข้าเรียนในเซมมินารี เพื่อเป็นคนงานของพระเจ้า


I. ทำไมเราต้องถวาย

มนุษย์มักมีเหตุผลเสมอเมื่อจะทำอะไร ดังนั้นการถวายของคริสตชนเองก็ต้องมีเหตุผล เช่นกัน เหตุผลของชาวคริสต์ตั้งอยู่บนพื้นฐานในพระคัมภีร์ เราเชื่อว่าพระคัมภีร์เป็นคำสอนของพระเจ้าที่มาถึงพวกเรา และยังมีอานุภาพ จึงขอตอบว่าทำไมเราต้องถวายแด่พระเจ้า ดังนี้

1.เราต้องถวายเพราะพระเจ้าทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่ง

พระคัมภีร์ปฐมกาลบอกเราว่า พระเจ้าทรงสร้างโลก สร้างสรรพสิ่ง และทรงสร้างมนุษย์ ผู้สร้างย่อมเป็นเจ้าของสิ่งที่ถูกสร้าง ในพระคัมภีร์บันทึกอีกว่า คนอิสราเอลมีจิตสำนึกข้อนี้ดี จึงยืนยันเสมอว่า “แผ่นดินโลกกับสรรพสิ่งในโลกนั้นเป็นของพระเจ้า” (สดุดี 24:1) และ “ทะเลเป็นของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างมัน และพระหัตถ์ของพระองค์ทรงเป็นแผ่นดิน” (สดุดี 95:5) เมื่อพระองค์ทรงเป็นเจ้าของและเป็นผู้สร้างทุกสิ่งในโลก มนุษย์เป็นเพียงผู้ที่ถูกสร้างขึ้นมา พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์อย่างดีเลิศ เพราะสร้างตามพระฉายของพระองค์ และได้รับความไว้วางใจมากที่สุด พระเจ้าทรงมอบโลกใบนี้และสรรพสิ่งในโลกให้มนุษย์รับผิดชอบดูแล

ตัวอย่าง พระคัมภีร์ปฐมกาล บทที่ 22 พระเจ้าทรงบัญชาให้อับราฮัม นำ “อิสอัค” ลูกชายตามพระสัญญาคนเดียว ไปถวายเป็นเครื่องเผาบูชา พระเจ้าตรัสสั่งอับราฮัม เพื่อตรวจสอบความสัตย์ซื่อ การเชื่อฟัง เพราะเขาได้เข้าพันธสัญญากับพระองค์ พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์กับอับราฮัม โดยตรัสว่า “เราเป็นพระเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ จงดำเนินอยู่ต่อหน้าเราและเป็นคนดีพร้อม” (ปฐก.17:1 ) พระเจ้าตรัสในจุดยืนของพระผู้สร้าง ผู้ทรงค้ำจุน การที่อับราฮัมยอมจำนน ถวายอิสอัคเป็นเครื่องเผาบูชาได้เพราะพระองค์ทรงเป็น “พระเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์” ที่ได้ทำพันธสัญญากับอับราฮัม ซึ่งภายหลังเราทราบกันว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียมลูกแกะไว้แทนชีวิตอิสอัค (ปฐก.22:14 )

รูปภาพ

สิ่งที่เราเรียนรู้จากชีวิตอับราฮัมคือถวายด้วยความสัตย์ซื่อและเชื่อฟัง ทั้งๆที่เขาเองมีบุตรสองคน คือ อิชมาเอล และอิสอัค ซึ่งอิสอัคคือบุตรตามพระสัญญาของ พระเจ้าที่มีแก่อับราฮัมและซาราห์ และพระเจ้าจะให้เขาเป็นบิดาแห่งประชาชาติ ( ปฐก. 17:4-6 ) อับราฮัมได้ทำตามทุกอย่าง การกระทำของเขาเป็นการพิสูจน์ด้านจิตใจ และวิญญาณจิต การแสดงออกของอับราฮัมคือเชื่อฟังและยำเกรงพระเจ้าอย่างสิ้นเชิงไม่มีข้อสงสัยสักนิด

2. เราต้องถวายเพราะสำนึกในพระคุณของพระเจ้า

“บุญคุณต้องทดแทน” นี่คือคำสอนของเราชาวเอเชีย แล้วพระเจ้าทรงมีบุญคุณหรือพระคุณต่อพวกเราอย่างไร พระคุณของพระเจ้าคือการยกโทษ อภัยความผิดบาป ของเราทั้งหมดที่ได้ตกทอดมาและบาปที่กระทำเพิ่มด้วยความอ่อนแอ พระองค์ไม่ทรงจดจำความผิด ถ้าหากพระเจ้าไม่ทรงประทานพระองค์เองโดยชีวิตของพระเยซูเจ้า ที่ยอมสิ้นพระชนม์แทนความผิดบาปของเรา พวกเราต้องถูกการพิพากษาลงโทษเพราะความผิดบาป เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนต้องพินาศ (ยอห์น 3:16 ) เพราะฉะนั้นชีวิตเราอยู่ใต้ร่มพระคุณของพระเจ้า โดยการถ่อมพระองค์มาบังเกิดในรางหญ้าอันต่ำต้อย เพื่อมนุษย์สัมผัสพระองค์ได้จริงๆ และเมื่อวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ทรงยอมวายพระชนม์บนไม้กางเขนแทนค่าจ้างแห่งความบาปคือความตายที่มนุษย์ทุกคนได้ต้องคำสาปแช่งนี้


รูปภาพ

3.เราต้องถวายเพราะต้องใช้ในพระวิหารของพระเจ้า

พระวิหารในที่นี้คือพระศาสนจักร หรือวัด เพื่อให้วัดมีสิ่งของบริบูรณ์ทุกอย่าง เพื่อใคร เพื่อคริสตชนเอง ฉันมีโอกาสไปเยี่ยมคริสตจักรของคริสเตียนมาหลายแห่ง มีที่หนึ่งมีงานฉลองของคริสตจักร ศิษยาภิบาล(=พ่อเจ้าวัด)ต้องไปยืมของใช้จากวัด (พุทธ) บ้าง จากบ้านสมาชิกบ้าง เช่น ถ้วยชาม เก้าอี้ หม้อ กระทะ เป็นต้น พูดในแง่ ศาสนสัมพันธ์ก็ดี... คริสตจักรหรือวัดของเรายังขาดแคลนหลายอย่าง ยิ่งยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว และแม่นยำมาก คริสตจักรและวัด จำนวนมากยังล้าหลัง ทั้งๆที่ในอดีต วัดหรือคริสตจักรทันสมัยที่สุดเพราะมิสชันนารีได้นำวิทยาการมาจากตะวันตกมาใช้ก่อนใครๆ แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้ามเพราะขาดกำลังทรัพย์ในการพัฒนา นั่นเอง
เราเรียนรู้ใน ปฐมกาล บทที่ 4 พระเจ้าไม่พอพระทัยคาอินที่ถวายของไม่ดี แต่พอพระทัยอาแบล ที่ถวายแกะหัวปี เชื่อว่าวัดเองควรทันสมัยตามลูกวัด คือตามโลก ก็จะทำให้การฟูมฟักมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นี่เพื่อคริสตชนเอง

II. เราต้องถวายอย่างไร

เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การถวายแด่พระเจ้า นั้นแตกต่างกับการ ให้ทาน การทำทานเป็นการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือคนที่ได้รับความทุกข์ลำบากหรือขัดสน เมื่อประสบภัยต่างๆ เช่น ไฟไหม้ พายุพัดอาคารสถานที่ ฝนตกน้ำท่วม ดินถล่มในพื้นที่ต่างๆของไทย ก็มีการประชาสัมพันธ์ทางวิทยุ โทรทัศน์ หรือ เมื่อจัดรายการต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้บริจาคเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน หรือปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่เจ็บป่วยด้วยโรคแปลกๆ ค่ารักษาพยาบาลก็แพงมาก จึงไม่มีเงินรักษา รายการโทรทัศน์มักจะทำสกู๊ปมาถ่ายทอดทางโทรทัศน์ให้ประชาชนได้ดู และขอรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนนั้นๆ ซึ่งทำให้เห็นคนไทยน้ำใจงดงามช่วยเหลือเพื่อนร่วมสังคมให้พ้นทุกข์ไปได้
คริสตชนต้องเข้าใจเรื่องการถวายของเราชาวคริสต์ คือการมอบแด่พระเจ้าผู้ทรงบริบูรณ์ด้วยทุกสิ่ง ถ้าอย่างนั้น คำถามของเราว่าเมื่อพระเจ้าทรงบริบูรณ์ทุกอย่างแล้วไม่ต้องถวายดีกว่า ฉันเชื่อว่ามีผู้อาวุโสจำนวนมาก มีทรัพย์สินเงินทองเพียบพร้อมทั้งเป็นผู้ทิ้งไว้เป็นมรดกกองโตให้ลูกหลาน แต่ทำไมลูกๆ หลานๆ ยังต้องให้เงินใช้หรือซื้อข้าวของให้ ไม่ใช่เพราะพวกท่านขัดสน แต่เพราะลูกหลานต้องการแสดงความรัก ความกตัญญูเพื่อขอบพระคุณที่ท่านได้เลี้ยงดูเขาจนเติบโตจนมีอาชีพ จนยืนอยู่บนขาตัวเองได้ การที่คริสตชนแสดงการขอบพระคุณพระเจ้า และแสดงว่าเราเป็นผู้รับมอบฉันทะ เราไม่ใช่เจ้าของ ถ้าพระเจ้าไม่ได้ประทานแก่เรา เราจะไม่มีเลย ดังนั้นเราจึงนำทรัพย์สิน และผลผลิตที่เราได้รับนั้นมาถวายแด่พระเจ้า ก็เพื่อขอบคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นรูปธรรม

การถวาย พระคัมภีร์ได้บันทึกไว้มากมาย ซึ่งพวกเราทำได้หลายวิธี เช่น การถวายขอบพระคุณ การถวายสิบลดหรือทศางค์ ถวายเพื่อโครงการ การถวายเพื่อพันธกิจ การถวายเพื่อผู้รับใช้พระเจ้า การถวายเพื่องานมิสชั่น การถวายเพื่อบ้านเณรและอาราม การถวายเพื่อการสงเคราะห์ ฯลฯ การถวายที่น่าสนใจมาก และนำความขัดแย้งหรือขัดเคืองกันในคริสตจักรของคริสเตียน และเป็นการถวายที่พี่น้องคริสตังส่วนใหญ่รับไม่ได้คือ การถวายสิบลด ซึ่งเป็นกฎบังคับคนอิสราเอล ดังนี้ “ทศางค์ทั้งสิ่งที่ได้จากแผ่นดิน เป็นพืชจากแผ่นดินก็ดี หรือผลจากต้นไม้ก็ดีเป็นของพระเจ้า เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์แด่พระเจ้า และทศางค์ที่ได้จากฝูงวัวหรือฝูงแกะ และสัตว์หนึ่งในสิบที่ลอดใต้ไม้เท้าผู้เลี้ยง เป็นสิ่งบริสุทธิ์แด่พระเจ้า” (เลวีนิติ 27:30, 32) โดยเหตุนี้เองชนชาติอิสราเอล จึงถือเป็นกฎเกณฑ์ทีเดียวที่จะต้องถวายทศางค์แด่พระเจ้า คริสตจักรของคริสเตียนยังใช้พระคัมภีร์ตอนนี้จนถึงปัจจุบัน
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ส.ค. 15, 2009 3:21 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ส.ค. 15, 2009 9:55 am

III. พระพรของการถวาย

“การให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ”คือหัวข้อคริสต์มาสนอกโบสถ์ของคริสเตียน ซึ่งเป็นคำสอนที่คริสตชนต้องใส่ใจ คนจำนวนมากคิดว่าความสุขคือการกอบโกย การส่ำสม การมั่งคั่ง ซึ่งสังคมของไทย เรายังอยู่ในลักษณะมือใครยาวสาวได้สาวเอา ดังนั้นมีคนมากมายที่เสาะหาความสุข เพื่อให้มีสมบัติล้นฟ้า จึงเกิดการทุจริต การฉ้อราษฎร์บังหลวง ทุกหัวระแหง และมีการคอรัปชั่นรูปแบบใหม่ๆขึ้นมากมาย ทำไมคนจึงทำอย่างนั้น เขาทำเพื่อให้ตนเองและครอบครัวตลอดจนวงศ์ตระกูล จะได้สุขสบาย บางคนยึดติดกับความมั่งคั่งจนลืมคิดว่าเราอยู่ในโลกนี้ คนละ 70-90ปี เท่านั้น” (พระคัมภีร์บันทึกให้คนปัจจุบันอยู่ถึง 120 ปี แต่คงต้องอยู่ในเงื่อนไขสุขภาพ อาหารการกิน การออกกำลังกาย ฯลฯ) คนมั่งมีจนล้นฟ้ามีความสุขจริงไหม ส่วนใหญ่ไม่มีความสุข เพราะต้องแข่งขันอย่างรุนแรง บางคนถูกฆ่า เจ้าพ่อหลายคนถูกจับ และนักการเมืองหลายคนกำลังเผชิญวิบากกรรมนี้ เมื่อภาคประชาชนเข้มแข็งตรวจสอบพวกเขา

แต่พระดำรัสของพระเยซูเจ้า ทวนกระแสโลกว่า “เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ (ยอห์น 14:27) ทำไมไม่เหมือนโลกให้ เพราะความสุขที่พระเจ้าให้เป็นความสุขที่เกิดจากการให้ ไม่ได้เกิดจากการรับฝ่ายเดียว เปาโลบอกว่า “การให้เป็นเหตุให้มีความสุข ยิ่งกว่าการรับ (กิจการ 20:35) แต่คริสตชนมักจะกลับกันว่า “ฉันมีความสุขกับการรับมากกว่าการให้” ดังนั้นในสังคมชาวคริสต์ก็ยังมีคนที่ชอบทำให้คนอื่นมีความสุขอยู่มาก คือตัวเองชอบเป็นฝ่ายรับ จนกระทั่งเมื่อไม่ได้รับตามอำเภอใจชอบต่อว่าพระเจ้า

ตัวอย่าง วิลเลี่ยม คอลเกต เจ้าของบริษัทสบู่และยาสีฟันคอลเกต เขาได้ถวายสิบลดตลอดการดำเนินกิจการของเขา ไม่ใช่ถวายแค่ 1ส่วน 10 เท่านั้น แต่เพิ่มเรื่อยๆ 2 ส่วน 10, 3 ส่วน 10, 4 ส่วน 10 และ 5 ส่วน 10 เขาได้ถวายรายได้เพื่อพันธกิจของพระเจ้าทั้งหมด เพราะเขาเชื่อว่าทรัพย์สินที่มีอยู่นั้นไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของพระผู้เป็นเจ้า เขาเป็นเพียงภาชนะของพระองค์ ดังนั้นเขาต้องบริหารธุรกิจให้ยุติธรรมและกำไรจากธุรกิจเพื่อมีเงินในการทำพันธกิจของพระเจ้า

รูปภาพ

อัครสาวกเปาโล ท้าชวนพวกเรา ใน พระคัมภีร์โรมบทที่ 12:1-2 ให้ถวายตัวเองเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต “พี่น้องเพื่อเห็นแก่พระกรุณาธิคุณของพระเจ้า ข้าพเจ้าอ้อนวอนท่านทั้งหลายให้ถวายร่างกายของท่านเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่พอพระทัยแด่พระเจ้า นี่เป็นคารวกิจด้วยจิตใจของท่าน อย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกนี้แต่จงเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการฟื้นฟูความคิดขึ้นใหม่ เพื่อจะได้รู้จักวินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สิ่งใดดี และสิ่งใดเป็นที่พอพระทัยอันสมบูรณ์พร้อมของพระองค์”

ดังนั้นเชื่อว่า เมื่อเราเรียนรู้ว่าทำไมต้องถวายแด่พระเจ้า ไม่ว่าถวายตัวเองเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ถวายความรู้ความสามารถเพื่อเสริมสร้างพระศาสนจักร ถวายเงินทองจากรายได้เข้าท้องพระคลังเพื่อวัดจะได้ขยายพันธกิจ ตามพระมหาบัญชาของพระเยซูเจ้า เมื่อเราเรียนรู้ในการถวาย ให้มั่นใจว่าจะได้รับพระพรแน่นอน เพราะพระลักษณะหนึ่งของพระเจ้าคือ ทรงพระกรุณาเปี่ยมด้วยพระทัยเมตตา จะไม่ทรงทอดทิ้งผู้สัตย์ซื่อ ยิ่งกว่านั้นคือทรงอวยพรเป็นร้อยเท่าพันเท่า...อาแมน


( หมายเหตุ ตีพิมพ์ นิตยสารอิสระ เดือน เมษายน 2009 )

       
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ส.ค. 15, 2009 3:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ส.ค. 16, 2009 8:25 pm

ขอบคุณพี่โฮลี่ ฝ่ายภาพให้พี่พีพี อย่างยอดเยี่ยมเสมอ คร้าบ : emo036 :
วอ
โพสต์: 1153
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 7:36 pm

ศุกร์ ก.ย. 04, 2009 7:23 pm

ภาพสวยดีนี่ครับ
Jesus loves You
โพสต์: 740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm

พุธ ก.ย. 16, 2009 11:33 pm

ขอบคุณ ครับ
ตอบกลับโพส