Re: พระวาจารายวันเดือนมกราคม 2012
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 30, 2012 12:44 am
วันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2555
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านที่ 1 2 ซมอ 15:13-14,30; 16:5-13ก
มีผู้มากราบทูลกษัตริย์ดาวิดว่า “ชาวอิสราเอลมีใจไปเข้ากับอับซาโลมแล้ว” กษัตริย์ดาวิดจึงตรัสแก่ข้าราชบริพารทั้งปวงที่อยู่กับพระองค์ในกรุงเยรูซาเล็มว่า “จงรีบหนีกันเถิด มิฉะนั้น พวกเราจะไม่มีใครหนีรอดพ้นอับซาโลมได้!”
เมื่อกษัตริย์ดาวิดเสด็จมาถึงบาหุริม ชายคนหนึ่งชื่อซิเมอี บุตรของเกราออกมาแช่งด่าพระองค์...ว่า “ไปให้พ้น ไปให้พ้น เจ้าฆาตกร เจ้าคนสารเลว! องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลงโทษเจ้าแล้วที่ได้หลั่งเลือดผู้คนในครอบครัวของกษัตริย์ซาอูล และแย่งชิงราชสมบัติไป บัดนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบราชสมบัตินั้นให้อับซาโลม ลูกของเจ้า สมควรแล้วที่เจ้าจะรับโทษนี้ เพราะเจ้าเป็นฆาตกร” อาบิชัย บุตรของนางเศรุยาห์ทูลกษัตริย์ว่า “ทำไมไอ้หมาตายตัวนี้จะต้องแข่งด่าพระราชาเจ้านายของข้าพเจ้า? โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าไปตัดหัวของมันเสียเถิด” กษัตริย์ดาวิดทรงพระดำเนินต่อไป พร้อมกับคนของพระองค์
พระวรสาร มก 5:1-20
เวลานั้น พระเยซูเจ้าและบรรดาศิษย์ข้ามทะเลสาบมาถึงดินแดนของชาวเกราชา ครั้นพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ ชายคนหนึ่งซึ่งถูกปีศาจสิงออกมาจากบริเวณหลุมศพ เข้ามาเฝ้าพระองค์ทันที.... เมื่อเห็นพระเยซูเจ้าแต่ไกล เขาก็วิ่งเข้ามากราบเฉพาะพระพักตร์ ร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่พระเยซู บุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด ท่านมายุ่งเกี่ยวกับข้าพเจ้าทำไม ข้าพเจ้าวอนขอท่านในพระนามของพระเจ้า อย่าทรมานข้าพเจ้าเลย” ทั้งนี้เพราะพระเยซูเจ้าตรัสสั่งปีศาจว่า “เจ้าปีศาจ จงออกจากชายผู้นี้” แล้วพระองค์ทรงถามว่า “เจ้าชื่ออะไร” มันตอบว่า “ชื่อกองพล เพราะเราอยู่กันจำนวนมาก” และมันพร่ำวอนพระองค์มิให้ขับไล่มันออกจากบริเวณนั้น หมูฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่บนเนินเขาที่นั้น พวกปีศาจจึงอ้อนวอนพระองค์ว่า “ขอได้โปรดส่งพวกเราเข้าไปในหมูฝูงนั้นเถิด” พระองค์ก็ทรงอนุญาต พวกปีศาจจึงออกไปสิงอยู่ในร่างหมู หมูฝูงนั้นซึ่งมีประมาณสองพันตัวก็พากันวิ่งกระโจนจากหน้าผาลงไปในทะเลสาบ และจมน้ำตายทั้งหมด คนเลี้ยงหมูต่างวิ่งหนีไปเล่าเรื่องนี้ ตามเมืองและตามชนบท ประชาชนออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเขาเข้ามาใกล้พระเยซูเจ้า ก็แลเห็นคนที่เคนถูกปีศาจกองพลสิงนั่งอยู่ สวมเสื้อฟ้า มีสติดี พวกเขาต่างมีความกลัว ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกปีศาจสิงและเล่าเรื่องหมูให้ฟัง ประชาชนจึงขอร้องพระเยซูเจ้าให้เสด็จออกไปจากเขตแดนของเขา เมื่อพระองค์เสด็จลงเรือ ผู้ที่เคยถูกปิศาจสิงขออนุญาตตามเสด็จด้วย แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต ตรัสว่า “จงกลับบ้าน ไปหาญาติพี่น้องของท่าน เล่าให้เขาฟังถึงเหตุการณ์ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำและแสดงพระเมตตาต่อท่าน” ชายนั้นจากไป เริ่มประกาศในแคว้นทศบุรีถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำต่อตน ทุกคนที่ได้ฟังต่างประหลาดใจ
ข้อคิด
อันที่จริง อำนาจของจิตชั่วที่สิงในมนุษย์ มิใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นอำนาจของสิ่งสร้างที่อยากจะทำอะไรให้สำเร็จด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพระเจ้า เมื่อทำไม่สำเร็จก็แผลงฤทธิ์ระบายออกมาในเชิงทำลาย ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความตาย ความบ้าระห่ำ และความสูญเสียอาจจะเป็นสื่อแสดงถึงอำนาจของจิตชั่วแม้จะมีสาเหตุตามธรรมชาติที่แฝงอยู่ก็ตาม ความเจ็บไข้ได้ป่วยตามที่นักบุญโทมัสบอกใว้สามารถเป็นทั้งอาการหรือโอกาสให้จิตชั่วเข้าสิง ดังนั้น จึงต้องรักษาเยียวยาด้วยธรรมชาติ และด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า ไม่ว่าในยามปกติ หรือเมื่อเจ็บไข้จึงต้องขอพึ่งพระองค์ให้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านที่ 1 2 ซมอ 15:13-14,30; 16:5-13ก
มีผู้มากราบทูลกษัตริย์ดาวิดว่า “ชาวอิสราเอลมีใจไปเข้ากับอับซาโลมแล้ว” กษัตริย์ดาวิดจึงตรัสแก่ข้าราชบริพารทั้งปวงที่อยู่กับพระองค์ในกรุงเยรูซาเล็มว่า “จงรีบหนีกันเถิด มิฉะนั้น พวกเราจะไม่มีใครหนีรอดพ้นอับซาโลมได้!”
เมื่อกษัตริย์ดาวิดเสด็จมาถึงบาหุริม ชายคนหนึ่งชื่อซิเมอี บุตรของเกราออกมาแช่งด่าพระองค์...ว่า “ไปให้พ้น ไปให้พ้น เจ้าฆาตกร เจ้าคนสารเลว! องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลงโทษเจ้าแล้วที่ได้หลั่งเลือดผู้คนในครอบครัวของกษัตริย์ซาอูล และแย่งชิงราชสมบัติไป บัดนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบราชสมบัตินั้นให้อับซาโลม ลูกของเจ้า สมควรแล้วที่เจ้าจะรับโทษนี้ เพราะเจ้าเป็นฆาตกร” อาบิชัย บุตรของนางเศรุยาห์ทูลกษัตริย์ว่า “ทำไมไอ้หมาตายตัวนี้จะต้องแข่งด่าพระราชาเจ้านายของข้าพเจ้า? โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าไปตัดหัวของมันเสียเถิด” กษัตริย์ดาวิดทรงพระดำเนินต่อไป พร้อมกับคนของพระองค์
พระวรสาร มก 5:1-20
เวลานั้น พระเยซูเจ้าและบรรดาศิษย์ข้ามทะเลสาบมาถึงดินแดนของชาวเกราชา ครั้นพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ ชายคนหนึ่งซึ่งถูกปีศาจสิงออกมาจากบริเวณหลุมศพ เข้ามาเฝ้าพระองค์ทันที.... เมื่อเห็นพระเยซูเจ้าแต่ไกล เขาก็วิ่งเข้ามากราบเฉพาะพระพักตร์ ร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่พระเยซู บุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด ท่านมายุ่งเกี่ยวกับข้าพเจ้าทำไม ข้าพเจ้าวอนขอท่านในพระนามของพระเจ้า อย่าทรมานข้าพเจ้าเลย” ทั้งนี้เพราะพระเยซูเจ้าตรัสสั่งปีศาจว่า “เจ้าปีศาจ จงออกจากชายผู้นี้” แล้วพระองค์ทรงถามว่า “เจ้าชื่ออะไร” มันตอบว่า “ชื่อกองพล เพราะเราอยู่กันจำนวนมาก” และมันพร่ำวอนพระองค์มิให้ขับไล่มันออกจากบริเวณนั้น หมูฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่บนเนินเขาที่นั้น พวกปีศาจจึงอ้อนวอนพระองค์ว่า “ขอได้โปรดส่งพวกเราเข้าไปในหมูฝูงนั้นเถิด” พระองค์ก็ทรงอนุญาต พวกปีศาจจึงออกไปสิงอยู่ในร่างหมู หมูฝูงนั้นซึ่งมีประมาณสองพันตัวก็พากันวิ่งกระโจนจากหน้าผาลงไปในทะเลสาบ และจมน้ำตายทั้งหมด คนเลี้ยงหมูต่างวิ่งหนีไปเล่าเรื่องนี้ ตามเมืองและตามชนบท ประชาชนออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเขาเข้ามาใกล้พระเยซูเจ้า ก็แลเห็นคนที่เคนถูกปีศาจกองพลสิงนั่งอยู่ สวมเสื้อฟ้า มีสติดี พวกเขาต่างมีความกลัว ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกปีศาจสิงและเล่าเรื่องหมูให้ฟัง ประชาชนจึงขอร้องพระเยซูเจ้าให้เสด็จออกไปจากเขตแดนของเขา เมื่อพระองค์เสด็จลงเรือ ผู้ที่เคยถูกปิศาจสิงขออนุญาตตามเสด็จด้วย แต่พระองค์ไม่ทรงอนุญาต ตรัสว่า “จงกลับบ้าน ไปหาญาติพี่น้องของท่าน เล่าให้เขาฟังถึงเหตุการณ์ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำและแสดงพระเมตตาต่อท่าน” ชายนั้นจากไป เริ่มประกาศในแคว้นทศบุรีถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำต่อตน ทุกคนที่ได้ฟังต่างประหลาดใจ
ข้อคิด
อันที่จริง อำนาจของจิตชั่วที่สิงในมนุษย์ มิใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นอำนาจของสิ่งสร้างที่อยากจะทำอะไรให้สำเร็จด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพระเจ้า เมื่อทำไม่สำเร็จก็แผลงฤทธิ์ระบายออกมาในเชิงทำลาย ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความตาย ความบ้าระห่ำ และความสูญเสียอาจจะเป็นสื่อแสดงถึงอำนาจของจิตชั่วแม้จะมีสาเหตุตามธรรมชาติที่แฝงอยู่ก็ตาม ความเจ็บไข้ได้ป่วยตามที่นักบุญโทมัสบอกใว้สามารถเป็นทั้งอาการหรือโอกาสให้จิตชั่วเข้าสิง ดังนั้น จึงต้องรักษาเยียวยาด้วยธรรมชาติ และด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า ไม่ว่าในยามปกติ หรือเมื่อเจ็บไข้จึงต้องขอพึ่งพระองค์ให้มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ