+@+.ชีวิต ที่ เกิด ผล .+@+

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ต.ค. 29, 2005 6:13 am

ชีวิตที่เกิดผล
โดย โปรดปราน ( พีพี )


รูปภาพ

ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่านทั้งหลาย และได้แต่งตั้งท่านทั้งหลายไว้ให้ท่านไปเกิดผล และเพื่อให้ผลของท่านคงอยู่ เพื่อว่าเมื่อท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะได้ประทานสิ่งนั้นให้แก่ท่าน ( ยอห์น ๑๕.๑๖ )


องุ่นเป็นผลไม้ที่มีรสชาติดี ปลูกกันมากว่า ๕,๐๐๐ ปี สามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในเขตหนาว เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว และเขตร้อน สำหรับประเทศไทยไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่านำเข้ามาเมื่อไหร่ แต่พอจะเชื่อได้ว่าในสมัยรัชกาลที่ ๕ เพราะพระองค์ชอบนำพันธุ์ไม้แปลกๆ จากต่างประเทศที่ได้เสด็จประพาสมาปลูก ดังนั้น องุ่นน่ารวมอยู่ด้วย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๗ มีหลักฐานยืนยันว่าเริ่มมีการปลูกองุ่นกันบ้างแต่ผลองุ่นที่ได้มีรสเปรี้ยว จึงไม่นิยมปลูก ต่อมาในปี ๒๔๙๓ ได้เริ่ม ปลูกองุ่นอย่างจริงจัง โดย หลวงสมานวนกิจ ได้นำพันธุ์มาจากแคลิฟอร์เนีย และปี ๒๔๙๗ ดร.พิศ ปัญญาลักษณ์ ได้นำพันธุ์มาจากยุโรปซึ่งปลูกได้ผลเป็นที่น่าพอใจ นับแต่นั้นมาการปลูกองุ่นในประเทศไทยจึงแพร่หลายมากขึ้น

รูปภาพ


ปัจจุบันในประเทศไทยมีการปลูกองุ่นในแถบภาคตะวันตก เช่น อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี อำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสามารถให้ผลผลิตได้ดี พื้นที่ปลูกองุ่นได้ขยายไปในแถบภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ้างเล็กน้อย ถึงแม้ว่าราคาจะเป็นแรงจูงใจ แต่ปัญหาเรื่องโรคแมลงระบาดมากทำให้พื้นที่ปลูกองุ่นไม่ค่อยขยายเท่าที่ควร สภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย องุ่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีจึงปลูกได้โดยทั่วไป ถ้าได้รับการตัดแต่งกิ่งก็สามารถออกดอกได้ดีเช่นเดียวกันกับองุ่นที่ปลูกในเขตหนาวสามารถให้ผลผลิตมากกว่า ๑ ครั้งต่อปี และสามารถบังคับให้ผลองุ่นแก่ในฤดูใดของปีก็ได้ ในประเทศไทยสามารถปลูกองุ่นรับประทานผลสดได้ดี แต่ องุ่นสำหรับทำเหล้าองุ่นให้มีคุณภาพดีๆ ยังสู้องุ่นในแถบยุโรปไม่ได้
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ต.ค. 30, 2005 12:38 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ต.ค. 29, 2005 6:16 am

ความจริงแล้ว พระคัมภีร์ยอห์นบทที่ ๑๕ นี้ หลายคนจะเน้นเรื่องชีวิตของคริสตชนกับพระเยซูคริสต์ ที่ว่า “พระเยซูคือเถาองุ่นแท้” และเราเป็นแขนง จากบริบทพระคัมภีร์ตอนนี้พระเยซูบอกว่า “ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกเราแต่เราเลือกท่านทั้งหลาย และได้แต่งตั้งท่านทั้งหลายให้ไปเกิดผล” ( ข้อ ๑๖ ) ดังนั้น สิ่งที่คริสตชนแต่ละคนควรจะสนใจตัวเองคือพระเจ้าโดยพระเยซูคริสต์ได้เลือกเราแต่ละคน และมีพระประสงค์ให้ไปเกิดผล ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ “ชีวิตต้องเกิดผล”

๑.ต้องเข้าสนิทอยู่ในพระเยซูคริสต์

รูปภาพ

“ จงเข้าสนิทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในท่าน แขนงจะออกผลเองไม่ได้ นอกจากจะติดอยู่กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ นอกจากจะเข้าสนิทอยู่ในเราฉันนั้น” (ข้อ ๔ )

��นพระคัมภีร์เก่า เรียกชาติอิสราเอลว่า เป็นเถาองุ่นของพระเจ้า อิสราเอลเป็นเถาองุ่นไม่สัตย์ซื่อ ที่ได้ “บังเกิดลูกเถาเปรี้ยว” (อิสยาห์ ๕.๒ ) นี่คือเบื้องหลังคำอ้างของพระเยซูเจ้าที่ว่า “เราเป็นเถาองุ่นแท้” ซึ่งคำว่าแท้จากภาษากรีก (aletheia) แปลว่าความจริง หรือสัจจะ เมื่อเป็นคำคุณศัพท์คือ alethinos หมายถึงแท้หรือไม่ใช่ปลอม เมื่อท่านยอห์นบอกว่าพระเยซูทรงเป็น “เถาองุ่นแท้” (๑๕.๑ )

นั่นหมายถึงในพระคัมภีร์เก่าพระพรหลายอย่างไม่สมบูรณ์ พระเยซูทรงเป็นเถาองุ่นแท้ที่จะประทานชีวิตให้ หรือพระเยซูคือชาติอิสราเอลใหม่ที่พระเจ้าทรงตั้งไว้ เพื่อทำพันธกิจของพระองค์ ตามภาษากรีกที่เราแปลว่าเถา หมายถึงต้นองุ่นทั้งต้น ดังนั้นคริสตชนก็เป็นส่วนหนึ่งของเถาองุ่นคือ เป็นแขนง พระเยซูคริสต์ไม่ทรงทำพระราชกิจเพียงลำพัง พระองค์กับพระบิดาทรงทำพระราชกิจด้วยกัน พระเยซูเจ้าไม่ได้ให้นิยามว่าผลนั้นคืออะไรเป็นที่เข้าใจกันว่าขณะนั้นพระองค์ กำลังสั่งลาสาวก และบอกพวกเขาให้ทำพันธกิจของการประกาศข่าวดีในพระนามของพระองค์ เพราะพวกเขาเป็นแขนงของพระองค์ซึ่งโดยผ่านทางแขนงชีวิตของเถาองุ่นจะมาถึงโลกได้ พระเยซูเจ้าทรงเตือนสาวกว่า ถ้าไม่เกิดผลนั้นจะเป็นอันตรายมาก

การเกิดผลนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพยายามของมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่กับการติดสนิทกับพระเยซู และยิ่งกว่านั้นพระบิดาเป็นผู้เพิ่มพูนผลิตผลนั้น ที่ว่าไม่เกิดผลอันตรายเพราะว่า ผู้ดูแลสวนองุ่นจะตัดมันทิ้ง คือ พระเจ้า “ทรงตัดทิ้ง” แต่ตรงกันข้ามพระเยซูตรัสว่า “ถ้าท่านทั้งหลายเข้าสนิทอยู่ในเรา และถ้อยคำของเราฝังอยู่ในท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใด ซึ่งท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น” (ข้อ ๗ ) เราจะเห็นชัดเรื่องนี้คือคำสัญญาการตอบคำอธิษฐาน ผู้ที่พระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานคือผู้ที่ “เข้าสนิทอยู่ในเรา” เข้าสนิทเป็นคำสั่ง เงื่อนไขหนักแน่นคือ “ถ้าถ้อยคำของเราฝังอยู่ในท่าน”

รูปภาพ

��ันเคยไปเยี่ยมคริสตจักรแห่งหนึ่ง อยู่ในเขตภาคกลาง ฟังคำบอกเล่าว่า เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว มีชายคนหนึ่ง กำลังเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ขณะที่เขาไปรอขึ้นเครื่องกับบริษัทที่จัดหางาน ปรากฏว่ากระเป๋าเอกสารของเขาโดนกรีด เอกสารการเดินทางและเงินหายหมด เขาจึงพลาดเดินทางไปทำงานครั้งนั้น คืนนั้นเขาไปนอนที่บ้านเพื่อน คริสเตียนคนหนึ่ง รุ่งเช้าเป็นวันอาทิตย์เพื่อนพาเขาไปนมัสการพระเจ้าที่โบสถ์ และเรื่องราวของเขาได้นำเข้ากลุ่ม อธิษฐานภาวนา ช่วงนมัสการเขามีโอกาสฟังเทศนา และเพื่อนได้เป็นพยานถึงชีวิตของพระเยซูคริสต์ที่เสด็จเข้ามาในโลกนี้ เพื่อช่วยคนบาปให้ได้กลับคืนดีกับพระเจ้า ในที่สุดวันนั้น ผู้ชายคนนี้ได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ เป็นพระผู้ช่วยให้รอด หลังจากนั้นเขากลับไปบ้านด้วยความชื่นชมยินดี และได้เป็นพยานเรื่องพระเยซูแก่ภรรยา และลูกๆ ในที่สุดทั้งครอบครัวของเขาได้รับความรอด ต่อจากนั้นเขาได้เป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ แก่เพื่อนบ้าน การอัศจรรย์ ก็เกิดขึ้น คนในหมู่บ้านนั้นหลายครอบครัวได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ เพราะการเป็นประกาศเรื่องพระเยซูของชายคนนี้ เมื่อ ผู้เชื่อมากขึ้น การหิวกระหายพระวาจามากขึ้น คริสตจักรที่เขาได้รับเชื่อที่กรุงเทพ ได้ส่งศิษยาภิบาลไปดูแล และอาคารคริสตจักรได้ก่อสร้างขึ้นที่หมู่บ้านนั้น พวกเขาได้นมัสการและเป็นพยานถึงพระองค์อย่างเสรี นี่คือภาพของการเกิดผลอย่างชัดเจนมาก
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ต.ค. 30, 2005 12:37 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ต.ค. 29, 2005 6:24 am

๒.ต้องถูกลิดเพื่อชีวิตเกิดผล

“แขนงทุกแขนงในเรา ที่ไม่ออกผลพระองค์ก็ทรงตัดทิ้งเสีย และแขนงทุกแขนงที่ออกผล พระองค์ก็ทรงลิดเพื่อให้ออกผลมากขึ้น” (ข้อ ๒ )

��นค่ำคืนนั้นเมื่อเหล่าสาวก ได้เห็นแขนงในมือพระเยซูคริสต์พวกเขารู้ทันทีว่า “ลิด”หมายถึงอะไร “สวนองุ่น”เป็นสัญลักษณ์แห่งการเลี้ยงดูอันอิ่มเอมของพระเจ้าต่อชนอิสราเอล ซึ่งพวกสาวกรู้จักองุ่นดี พอๆ กับชาวอังกฤษรู้จักชา และคนไทยรู้จักมะม่วง พวกเขาเข้าใจว่าถ้าอยากจะได้ผลจากต้นองุ่นมาก ก็ต้องสวนกระแสกับแนวโน้มของธรรมชาติของต้นองุ่น ฉันได้อ่านจากหนังสือว่า “องุ่นมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะเหตุนี้เขาจึงต้องตัดกิ่งก้านทิ้งทุกๆปี บางทีเถาองุ่นจะเจริญ หนาทึบไปหมด แล้วแสงแดดเข้าไม่ถึงบริเวณที่ต้องออกผล” นี่คือสาเหตุที่ผู้ดูแลสวนองุ่นจำเป็นต้องตัดกิ่งก้านสาขาที่ไม่จำเป็นทิ้งไป เพราะเป้าหมายการปลูกองุ่นคือ ผลองุ่น ดังนั้นการลิด จึงเป็นกรรมวิธีสำคัญที่สุดเพื่อจะให้เจ้าของสวนได้เก็บเกี่ยวผลอย่างอิ่มเอม หลักการลิดแขนงในสวนองุ่น ผู้ลิดจะขจัดส่วนที่ตายหรือกำลังจะตายทิ้งไปเพื่อให้แสงแดดแผดเผาถึงกิ่งก้านขององุ่น เพิ่มทั้งขนาดและคุณภาพ เช่นเดียวกันในชีวิตของคริสตชนพระเจ้าต้องตัดบางส่วนของเราทิ้ง เพราะมันไปสูบเวลาและพลังงานอันมีค่าไปจากสิ่งสำคัญแท้จริง

รูปภาพ

การตีสอนเกี่ยวข้องกับความบาป การลิดเกี่ยวข้องกับตัวตน ในการลิด พระเจ้าทรงขอให้คริสตชนปล่อยสิ่งที่ฉุดรั้งเขาจากเป้าหมายแห่งแผ่นดินของพระองค์ การลิดคือการที่พระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลงรูปภาพ ชีวิตของเรา��ารลิดคือการตัด การตัดนั้นเจ็บ ผู้ปลูกองุ่นจะลิดแขนงในสวนของเขาให้หนักยิ่งขึ้นอีก เมื่อเถาองุ่นมีอายุมากขึ้น ด้านเกษตรรายงานว่า “เถาองุ่นสามารถผลิตผลองุ่นเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ถ้าไม่มีการลิดอย่างหนัก ต้นก็จะอ่อนแอ และไม่เกิดผลอีกต่อไป แขนงที่แก่จะต้องถูกลิดอย่างแรงเพื่อจะเกิดผลเต็มที่”

การลิดในระยะที่โตแล้วเกี่ยวข้องกับคุณค่าในชีวิตและความเป็นตัวตนของเรา พระเจ้าทรงเข้ามาใกล้ เพื่อการลิดที่หนักยิ่งขึ้น ในลิดในระยะที่โตแล้ว เป็นการทดสอบความเชื่อ การลิดในระยะนี้ เป็นการใช้กรรไกรของพระเจ้าเฉือนเข้าไปใกล้แกนในตัวเราทีเดียวล่ะ

เมื่อก่อนฉันค่อนข้างจะสุขภาพดีมาก ดังนั้นจึงไม่เข้าใจเนื้อแท้เรื่องความเจ็บป่วยที่หลายคนต้องเผชิญ และไม่มีภาระใจอธิษฐานภาวนาให้คนเจ็บป่วย แต่ตลอดกว่าสิบปีนี้ ฉันเผชิญกับความเจ็บป่วยที่หนักมาก ที่เรียกว่าปางตาย สามครั้ง ซึ่งไม่ได้รับการรักษาในกระบวนการด้านการแพทย์เลย ทั้งๆที่เรียกว่าถึงหมอ ถึงยา และเชื่อว่าถึงคำภาวนาด้วย ฉันต้องต่อสู้กับความเจ็บป่วย จนอ่อนระอา ท้อแท้ และกระทั่งสงสัยพระเจ้า ว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นในชีวิตฉัน เมื่อถึงเวลา ฉันได้รับการได้การทรงสำแดงการอัศจรรย์ โดยการรักษาโรค อย่างปลิดทิ้ง โดยพระวาจาและผ่านการอธิษฐานรักษาโรคด้วยตัวเอง ฉันจึงตระหนักว่า ที่จริงแล้ว “การทดสอบความเชื่อ จะไม่ทดสอบอะไรเลยเว้นแต่ว่ามันจะผลักดันให้เราผ่านการทดสอบครั้งที่แล้ว” จากการลิดในครั้งก่อนๆ ได้เกิดผลในชีวิต คือ ฉัน เข้าใจคนที่เจ็บป่วย คนที่ทุกข์ใจ คนที่หมดหวัง เกิดจากโรคภัย ทำให้ฉันเข้าใจและเห็นใจพวกเขา ส่งผลให้ฉันรักที่จะอธิษฐานภาวนาเพื่อคนเจ็บป่วย จนทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม ฉันยังถูกลิดอีกต่อไป คือ ตั้งแต่สามปีที่แล้วฉันกำลังถูกลิดอย่างแรง ด้วยโรคที่ฉันหวาดกลัวที่สุดในชีวิต ซึ่งฉันได้อธิษฐานขอพระเจ้าล่วงหน้ามาหลายปี เกี่ยวกับร้ายโรคนี้ เมื่อฉันรับทราบว่า เริ่มมีอาการของโรคนี้ ฉันรู้สึกหัวใจสลาย น้อยใจพระบิดาเจ้าที่สุด เหมือนกับถูกกลั่นแกล้ง จนคิดว่าพระบิดาเจ้าคงสนุกที่เห็นฉันทุกข์ใจ ในช่วงเวลาที่ทุกข์ท้อใจ ฉันชอบอ่าน จดหมายของนักบุญเปาโล ซึ่งเป็นคำตอบสำหรับการลิดในชีวิตของฉัน เพราะท่านเปาโลถูกลิดเสียจนไม่เหลือตัวตนของเขา เพราะทุกอย่างที่ทำให้เป็นตัวตนของเปาโลคือ การงาน ตำแหน่งหน้าที่ ความภูมิใจ และศาสนาได้ถูกลิดจนหมดสิ้น ในจดหมายจากคุก ท่านเปาโลเขียนว่า “แต่ว่าสิ่งใดที่เคยเป็นคุณประโยชน์แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าถือว่าสิ่งนั้นไร้ประโยชน์แล้ว เพื่อเห็นแก่พระคริสต์ที่จริงข้าพเจ้าถือว่าสิ่งสารพัดไร้ประโยชน์ เพราะเห็นแก่ความประเสริฐแห่งความรู้ถึงพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพราะเหตุพระองค์ ข้าพเจ้าจึงได้ยอมสละสิ่งสารพัด และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนหยากเยื่อเพื่อข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์” ( ฟป.๓.๗-๘ )

รูปภาพ

ถึงตอนนี้แล้ว เปาโลไม่ต้องมานั่งคิด ว่าสิ่งใดสำคัญที่สุด เพราะมีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ท่านทำคือ “ คือลืมสิ่งที่ผ่านมา และโน้มตัวไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ข้าพเจ้ารุดหน้าไปสู่หลักชัย เพื่อคว้ารางวัลซึ่งพระเจ้าได้ทรงเรียกข้าพเจ้าจากสวรรค์ผ่านพระเยซูคริสต์ให้ไปรับ” ( ข้อ ๑๓-๑๔ ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) อัครทูตเปาโลยืนยันว่า “พวกเราทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วควรมีทัศนะเช่นนี้” (ข้อ ๑๕ ฉบับอมตธรรมฯ )

ดังนั้น ชีวิตคริสตชนต้องอยู่อย่างเกิดผล และ ผลนั้นต้องประจักษ์เป็นผลของพระจิต ในกาลาเทีย ๕.๒๒-๒๓ “ผลของพระจิตคือ ความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม และการรู้จักบังคับตน…..” อาเมน.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตีพิมพ์ ในอิสระรายปักษ์ ปีที่ 3 ฉบับที่ 5 ปักษ์หลัง- กันยายน 2005 ( หรือ เล่ม ที่ 53 )

หน้า 7-9
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ต.ค. 30, 2005 12:38 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

เสาร์ ต.ค. 29, 2005 1:22 pm

ขอบคุณครับ ;D

ชอบท่อนี้มาก ประทับใจจริงๆ

"การลิดคือการตัด การตัดนั้นเจ็บ ผู้ปลูกองุ่นจะลิดแขนงในสวนของเขาให้หนักยิ่งขึ้นอีก เมื่อเถาองุ่นมีอายุมากขึ้น ด้านเกษตรรายงานว่า
Junior Boy
โพสต์: 659
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
ที่อยู่: I believe in God...

เสาร์ ต.ค. 29, 2005 1:52 pm

ชอบมากๆเลยครับ ที่ได้อ่านมา
ภาพประจำตัวสมาชิก
KaL 's Z
โพสต์: 149
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 5:30 pm

เสาร์ ต.ค. 29, 2005 2:00 pm

ลืมสิ่งที่ผ่านมา และโน้มตัวไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ข้าพเจ้ารุดหน้าไปสู่หลักชัย เพื่อคว้ารางวัลซึ่งพระเจ้าได้ทรงเรียกข้าพเจ้าจากสวรรค์ผ่านพระเยซูคริสต์ให้ไปรับ

ท่อนนี้ โดนใจมากๆ ค่ะ
St.paul

เสาร์ ต.ค. 29, 2005 3:33 pm

ขอบคุณมากครับขอแม่พระอวยพรครับ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ต.ค. 30, 2005 7:01 am

ขอบคุณมากค่ะ น้องโฮลี่ ที่หารูปประกอบใส่ให้อย่างสวยงามมาก

เมื่อกี้ ดูรูปสุดท้าย แล้วขนลุก ซาบซึ้ง ถึงความรักของพระเยซูที่หลั่งโลหิต
เพื่อพวกเรา ทั้งๆที่เราไม่คู่ควร :D

-------------------------

ดีใจที่น้องๆ ได้เข้ามาอ่าน ขอให้ทุกข้อความที่โดนใจ ได้ปรับใช้ในชีวิตนะคะ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ก.ค. 27, 2010 7:49 am

เชื่อว่าผลของพระวิญญาณ(พระจิต)คงเติบโตในชีวิตของพวกเราทุกๆคนนะครับ :s007:
ตอบกลับโพส