!!! ทางนั้น... อยู่ที่ไหน ???

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 6:06 am

ทางนั้น…อยู่ที่ไหน!!!

โดย: โปรดปราน ( พีพี )


“หลงทางเสียเวลา...หลงติดยาเสียอนาคต” เป็นคำขวัญที่ภาครัฐใช้เพื่อเตือนสติคนในชาติ ถึงโทษของยาเสพติด สำหรับการเดินทาง ฉัน มีประสบการณ์หลงทางในกรุงเทพมหานคร บ่อยๆ เพราะ บางครั้งสอบถามเส้นทางแล้ว แต่คนบอกให้ข้อมูลผิด หรือบางคนพอฉันถามเส้นทาง ก็บอกรีบบอกว่า “ฉัน/ผม ไม่ใช่คนแถวนี้” หรือบางที่ฉันก็สุ่มเดินทางไปเอง เป็นต้น การหลงทางนี่ เสียเวลามากทีเดียว��แต่ฉันมักปลอบใจตัวเองว่า “...เถอะน่า เสียแค่เวลา ไม่ได้เสียชีวิต” ภาพของการเดินทางสัญจร ทำให้ฉันคิดว่าแท้จริงแล้วมนุษย์ทุกคนเป็นนักเดินทางในโลกนี้ ในพระคัมภีร์เก่าหนังสือประกาศกเยเรมีย์ 6:16 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า "จงยืนที่ถนนและมองให้ดี และถามหาทางโบราณนั้น ว่าทางดีอยู่ที่ไหน แล้วจงเดินในทางนั้น และให้จิตใจของท่านได้ความสงบ แต่เขาทั้งหลายกล่าวว่า 'เราจะไม่เดินในนั้น'

รูปภาพ

๑.ต้องถามผู้รู้จริง

เมื่อปี 2004 ก่อนที่หลานสาวจะไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ เธอได้ใช้เวลามากทีเดียวเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศอังกฤษ เช่น เธอสอบถามบุคคล หลายๆคนที่เคยศึกษา หรือใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ เธอสอบถามเรื่องอาหารการกิน เรื่องสภาพอากาศ เรื่องการสัญจร เรื่องค่าครองชีพ เรื่องกฏหรือข้อห้ามต่างๆ เธอสอบถามกระทั่ง ลักษณะนิสัยใจคอของผู้ดีชาวอังกฤษทีเดียว เหตุที่หลานสาวต้องหาข้อมูลมากมายเช่นนั้น เพราะเธอต้องการเตรียม อุปกรณ์เครื่องใช้ ที่จะนำติดตัวไป ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ และเมืองที่เธอจะไปพำนัก หรือกระทั่งเตรียมใจให้พร้อม จะไม่ต้องเกิดภาวะ “ช้อค วัฒนธรรม” ที่คนจากวัฒนธรรมหนึ่งไปพำนักอาศัยกับคนอีกวัฒนธรรมหนึ่งมักเผชิญ

รูปภาพ

ถ้าจะสอบถามเส้นทางเราต้องถามจากนักเดินทาง เพราะพวกเขาคือ ผู้รู้จริง ทางโบราณคือทางที่บรรพบุรุษเคยเดินผ่านมาแล้ว ถามแต่ทางที่ดีเท่านั้น เป็นทางที่บรรพบุรุษเคยเดินมาในอดีต เช่นคนอิสราเอลต้องเดินตามทางที่อับราฮัม อิสอัค ยาโคบ หรือโมเสส เคยเดินเพื่อติดตามพระเจ้าให้พระองค์ทรงนำชีวิต พวกเรามักพูดกันเสมอว่าอดีตส่งผลมาปัจจุบัน และปัจจุบันก็ส่งผลไปยังอนาคต ผู้อาวุโสมักเตือนสติ เด็กๆว่า เราต้องเรียนรู้จากอดีตเพื่อจะทำวันนี้ให้ถูกต้อง หรือนักประวัติศาสตร์บอกว่าต้องให้ประวัติศาสตร์สอนคนปัจจุบันว่าอย่าทำผิดซ้ำรอยประวัติศาสตร์ เป็นต้น ในพระคัมภีร์เก่า หนังสือโยบ บทที่ 8:8 "ข้าขอร้อง ให้ท่านถามคนโบราณดู และคิดดูว่า บรรพบุรุษค้นพบสิ่งใดบ้าง” หรือ หนังสือเฉลยธรรมบัญญัติบทที่ 32:7 “จงระลึกถึงโบราณกาล จงตรองถึงจำนวนปีที่ท่านมาหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น จงถามบิดาของท่านแล้วเขาจะสำแดงให้ท่านทราบ แล้วเขาจะบอกท่าน”

ดังนั้น การถามเส้นทางต้องสอบถาม ให้ถูกคน การเลือก เส้นทางของการเป็นผู้เชื่อและติดพระเยซูคริสต์ เราเรียนรู้ จากชีวิตบรรพชน ในอดีตเพราะพระเจ้าตรัสผ่าน บรรพบุรุษแห่งความเชื่อ ผ่านบรรดาประกาศก พระเจ้าทรงแต่งตั้งคนเหล่านั้นให้เป็นผู้ที่แนะนำประชากรของพระองค์ในการดำเนินชีวิต และการติดตามพระเจ้าว่าแต่ละวันพวกเขาควรทำอย่างไร

รูปภาพ

��มื่อเราเริ่มต้นชีวิตโดยตัดสินใจอนุญาตให้พระเจ้าเป็นจริงในชีวิต โดยความเชื่อในพระเยซู พระเยซูเป็นทางเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ทางหนึ่งในหลายๆ ทาง ตัวอย่าง คนที่อยู่เชียงใหม่เดินทางลงไป กรุงเทพมหานคร สามารถเดินทางโดยทางเท้า ทางจักรยาน ทางจักรยานยนต์ ทางรถยนต์ ทางรถไฟ รถทัวร์ ทางเครื่องบิน หรือแม้แต่ทางเรือ ทุกๆทางที่กล่าวมาแล้วจะถึงกรุงเทพฯ แน่นอน ความแตกต่างคือเรื่อง เวลา

พี่น้องที่รักเกี่ยวกับชีวิตฝ่ายวิญญาณจิตเราจะเลือกเดินทาง แบบการสัญจรจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งโดยพาหนะใดๆไม่ได้ เราจะเลือกผ่านความเชื่อหนึ่งชื่อใด หรือ พระใดพระหนึ่ง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ไม่ได้ เพราะพระวรสารนักบุญยอห์นบทที่ 14:6 พระเยซูตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา” บรรพชนแห่งความเชื่อ เช่นบรรดาประกาศก ที่พระเจ้าทรงใช้พวกเขาเป็นผู้บอกทางหรือวิธีกลับไปหาพระองค์ เมื่อ พระเจ้าทรงใช้ ท่านโยนาห์ไปบอกชาวนีนะเวห์ว่า “อีกสี่สิบวันนีนะเวห์จะถูกคว่ำ” พระคัมภีร์บันทึกว่าประชาชนนครนีนะเวห์ได้เชื่อฟังพระเจ้าแสดงออกโดยการประกาศอดอาหารตั้งแต่ผู้เล็กน้อยที่สุดจนถึงพระราชา ได้กลับใจหันจากความชั่วทั้งหมดแล้วพระเจ้าทรงคลายพระพิโรธ และไม่ทรงลงโทษพวกเขาตามที่พระเจ้าได้ตรัสไว้ ( ดูโยนาห์บทที่ ๓ ) เป็นต้น

รูปภาพ

��้าพระเจ้าไม่เป็นจริงในชีวิตของเรา เราจะไม่มีความสุข รู้สึก ว่างเปล่า หลุมหัวใจของมนุษย์ถมเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม เรายังขาดอยู่เสมอ ยังเรียกร้องอยู่เสมอ แท้จริงแล้วเส้นทางนี้พระเจ้าทรงสำแดงโดยพระบุตรคือพระเยซูเจ้า เป็นผู้ทรงเติมให้เต็ม ซึ่งให้มากกว่าให้รู้สึกเปี่ยมล้น และสามารถแบ่งปันชีวิตพระเยซูเจ้าที่สวมทับชีวิตเราให้กับคนอื่นได้
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 20, 2006 4:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2006 6:10 am

๒. ต้องทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า

“ ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่ทีชีวิตอันบริสุทธิ์ และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า... อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจแล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ ...”( โรม 12:1-2)

��ัครทูตเปาโลเตือนสติบรรดาผู้เชื่อพระเยซูเจ้าที่กรุงโรม โดยท่าทีวิงวอน คือการขอร้องเตือนสติให้สำนึก ว่าผู้ที่ติดตามพระเยซูคริสต์นั้น เขาต้องมี 2 เงื่อนไข เพื่อเป็นการพิสูจน์ประสบการณ์ส่วนตัวกับพระเจ้า คือ

( ๑ ) ถวายตัวของเราเองแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชา ซึ่งเป็นเงื่อนไขภายนอกเพื่อจะค้นพบน้ำพระทัยที่ดีของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา ตัวอย่าง ในลัทธิ ศาสนา หรือ ความเชื่ออื่นๆ ศาสนิกชนของเขา ได้ถวายพวงมาลัย ดอกไม้ อาหารหวานคาว ผลไม้ ทั้งสดและแปรรูป เพื่อบูชาพระของพวกเขา เราคริสตชน ไม่ต้องร้อยดอกไม้ หรือ พวงมาลัย ถวาย ไม่ต้อง ถวาย หมูเห็ดเป็ดไก่ หรือ อาหารหวานคาว อีกแล้ว แต่พระเจ้ามีพระประสงค์ให้เราถวายชีวิตของเราเป็นเครื่องบูชาพระองค์ การถวายชีวิตที่ท่านเปาโลชักชวน ไม่ใช่การบูชายัญ แต่เป็นการถวาย การประพฤติ ปฏิบัติ ในฐานะผู้เชื่อ

รูปภาพ

ในพระคัมภีร์เก่า หนังสือประกาศกอิสยาห์บทที่ 1 สรุปได้ว่าพระเจ้าเอือมระอาเครื่องเผาบูชา ของคนอิสราเอล พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยกับการทรยศของพวกเขา ถึงแม้พวกเขาอธิษฐานภาวนามากเท่าไหร่พระองค์ไม่ฟัง พระเจ้าทรงแนะนำว่า ให้พวกเขาชำระตัวเองให้สะอาด เลิกทำชั่ว ฝึกทำดี ให้ความยุติธรรม ดูแลเด็กกำพร้าและหญิงม่าย ยิ่งกว่านั้นพระเจ้าทรงท้าพวกเขา ว่า “มาเถิดให้เรามาสู้ความกัน ถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้ม ก็จะขาวอย่างหิมะ ถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดง ก็จะกลายเป็นอย่างขนแกะ ถ้าเจ้าเต็มใจและเชื่อฟัง เจ้าจะได้กินผลดีแห่งแผ่นดิน แต่ถ้าเจ้าปฏิเสธและกบฏ เจ้าจะเป็นเหยื่อของคมดาบ”

ยิ่งกว่านั้น เราพบว่าในพระคัมภีร์ใหม่ 1 โครินธ์. 6:19-20 บอกว่า ร่างกายของคริสตชนคือพระวิหารของพระจิต ถ้าเราถวายตัวแด่พระองค์แล้ว ในชีวิตจริงของเรา มีตัวอย่างมากมายผู้เชื่อที่ติดตามพระเยซูเจ้าถวายทั้งชีวิตเป็นทาสสมัครของพระองค์ ซึ่งฉันคาดหวังเสมอว่าคริสตชนปัจจุบันเรากำลังก้าวตามรอยเท้าของบรรพชน ในพระคัมภีร์มีตัวอย่างผู้ที่ถวายชีวิตทั้งหมดแด่พระเจ้า เช่น ซามูเอล นางฮันนามารดาถวายเขาหลังหย่านมแด่พระเจ้า และท่านได้รับใช้พระเจ้าจนวาระสุดท้ายของชีวิต นักบุญ เปาโล นักบุญเปโตร และนักบุญยอห์น พวกเขาได้ถวายตัวเองฟันฝ่ามรสุมชีวิตแห่งการรับใช้พระเจ้า พวกเขาได้มอบถวายแด่พระเจ้าทั้งหมด ทั้งชีวิตโดยไม่คิดเสียดาย ทางพระศาสนจักรคาทอลิก พวกเราได้สัมผัส และ ประจักษ์พยาน โดยชีวิตของ สมเด็จพระสันตปาปา พระคาร์ดินัล พระสังฆราช พระสงฆ์ บราเด้อร์ และ ภคินี ได้ถวายตัวแด่พระเจ้าตลอดชีวิต

รูปภาพ

( ๒ ) การเปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ เป็นเงื่อนไขภายใน การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เมื่อเจ้าตัวยอมจำนนมอบถวายทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า อัครทูต เปาโลยืนยันว่าพระเจ้าต้องการให้ผู้เชื่อพระเยซูรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ เปลี่ยนทัศนคติ/อุปนิสัย ความคิด ความรู้สึก การกระทำ เปลี่ยนได้โดยพระจิต โดยพระวจนะ โดยการภาวนาอธิษฐาน โดยการสามัคคีธรรมกับผู้เชื่อ เมื่อเปลี่ยนแล้วเราจะไม่ประพฤติตามอย่างคนยุคนี้ แม้จะรู้ว่าสังคมของเรา มีสิ่งเลวร้ายรอบตัวเรา ซึ่งเราต้องอยู่ในโลกในสังคม คริสตชนไม่มีคำสอนให้หนีโลก หรือหนีออกจากสังคม พวกเราถูกสอนให้อยู่ในสังคม ให้เป็นเกลือ เป็นแสงสว่าง แก่สังคม ดังนั้นพวกเราต้องสวมชีวิตของพระเยซูเจ้าไว้ในชีวิตเรา ตามที่ท่านเปาโลยืนยันว่า “ ...ผู้ใดที่อยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นเป็นคนที่ถูกสร้างใหม่ สิ่งสารพัดเก่าๆ ก็ล่วงไป และกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น” ( ๒ โครินธ์ ๕.๑๗ ) การเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจจะเป็นภูมิคุ้มกันเรา จากสรรพสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง

รูปภาพ

��อนำตัวอย่าง สตรีมุสลิมสองคนคือ คุณหญิงบิลควิส ชีค สตรีเชื้อสายเจ้าผู้ครองแคว้นในประเทศปากีสถาน ผู้ได้พบความหมายแท้จริงของชีวิต เมื่อคุณหญิงบิลควิสได้พบกับองค์พระเยซูคริสต์เธอได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ความจริงแล้วเธอได้รับการเบียดเบียนอย่างแสนสาหัส จนต้องหนีจากบ้านเกิดเมืองนอนไปพำนักในสหรัฐอเมริกา แต่เธอกลับชื่นชมยินดี นั่น เพราะเธอได้พบกับพระเยซูเจ้าคือได้พบสิ่งที่ดีมีค่าที่สุดในชีวิตแล้ว และเช่นเดียว กับ นาเฮด เมตวาลลี สตรีมุสลิมจากครอบครัวที่ฐานะมั่งคั่ง และมีอิทธิพลของชาวอียิปต์ หลังจากเธอประกาศตัวเป็นผู้เดินตามพระบาทพระเยซูคริสต์ เธอได้รับการเบียดเบียนอย่างหนัก จนต้องหนีภัยไปอยู่ต่างประเทศ เช่นเดียวกับ คุณหญิงบิลควิส ชีวิตของสตรีมุสลิมทั้งสองคนที่มาจากฐานะครอบครัวที่ดี ยอมให้พระเยซูเจ้าสร้างพวกเธอใหม่ แล้วเธอได้รับการเปลี่ยนแปลงจากภายใน ทั้งบิลควิส และ นาเฮด จึงสามารถ อดทนต่อการถูกเบียดเบียน โดย ไม่หวาดกลัวต่อความทุกข์ยากในชีวิต นั่นเพราะพวกเธอได้ให้พระเยซูคริสต์สร้างพวกเธอใหม่ ดังนั้นพระเยซู พระผู้ช่วยให้รอด ทรงประทาน สันติสุข ความชื่นชมยินดีในการดำเนินชีวิต ที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นความยินดีที่ยั่งยืนให้พวกเธอ

รูปภาพ นาเฮด เมตวาลลี

��ึงสามารถสรุปว่าทางชีวิตที่พวกเราคริสตชน กำลังก้าวเดินอยู่ในโลกแห่งความจริง เพื่อติดตามพระเยซูเจ้านี้ คือทางที่บรรพชนแห่งความเชื่อได้เดินผ่านมาแล้ว จากโบราณกาล และมีป้ายชี้ทางถึงองค์พระเยซูเจ้า ผู้ซึ่งมานำทางให้สมบูรณ์ พระองค์ทรงเป็นป้ายชี้ทางให้กับมนุษยชาติ ที่จะกลับไปสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า ซึ่งเป็นบ้านถาวรของมนุษย์ ณ ที่นั่นจะมีพระผู้เป็นเจ้า ทูตสวรรค์ และเหล่าบรรพชนแห่งความเชื่อ กำลังคอย พวกเราอยู่ที่นั่น ดังนั้นการเลือกเดินตามพระบาทพระเยซูคริสต์จะไม่ทำให้เราเดินหลงทางอีกเลยเพราะว่าพระองค์เป็นผู้นำทางที่สมบูรณ์ และดีที่สุดที่สามารถนำผู้เชื่อไปถึงพระเจ้าพระบิดา และนำผู้ติดตามเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเป็นเจ้า

รูปภาพ

พระเยซูตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา” ( ยอห์น 14:6 )

( หมายเหตุ: บทความนี้ ตีพิมพ์ ในอิสระรายปักษ์ ฉบับที่ 58 ปักษ์แรก มกราคม -2006 )
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 20, 2006 4:37 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ม.ค. 21, 2006 6:30 am

โอ้ พระเจ้าที่รักยิ่ง รูปประกอบเรื่องยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณพี่โฮลี่ ฮับ
ที่ทำให้เรื่องของเจ๊เธอสมบูรณ์ขึ้น ;) :D

หนูชอบรูปแรกจัง อยากให้พระเยซูเจ้าทรงประทับนั่งคุยกับเจี๊ยบแบบนั้นฮะ 8)
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ม.ค. 21, 2006 10:01 pm

เดินตามน้ำพระทัยของพระองค์ครับ
ทุกอย่างพระองค์ทรงจัดเตรียมไว้แล้วครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อาทิตย์ พ.ย. 15, 2009 1:03 am

ขอบคุณครับ
Jesus loves You
โพสต์: 740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm

จันทร์ พ.ย. 23, 2009 10:26 pm

ขอบคุณครับ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ก.ค. 23, 2010 3:36 pm

หลานที่พี่ยกตัวอย่าง ตอนนี้กลับมาแล้วค่ะ นำความรู้มาช่วยพัฒนาประเทศ แล้ว :s004:
ตอบกลับโพส