สดุดี 23 ในมุมมองของคนเลี้ยงแกะ (จริงๆ )

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ม.ค. 21, 2006 5:49 pm

พระธรรมสดุดีบทที่ 23 ในมุมมองของผู้เลี้ยงแกะ

สดุดีบทที่ 23

พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ ทรงฟื้นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
แม้ว่าข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใด ๆ
เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์
คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์
พระองค์ทรงเตรียมสำรับให้ข้าพระองค์ต่อหน้าต่อตาศัตรูของข้าพระองค์
พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ขันน้ำของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่
แน่ทีเดียวที่ความดีและความรักมั่นคงจะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดวันคืนชีวิตของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้าสืบไปเป็นนิตย์ อาเมน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++


“ชาโลม...สันติภาพจงมีแก่เพื่อนๆ ทุกคน ผมชื่อ เยชูวา เบน โยเซฟ ผมมาจากดินแดนเก่าแก่ที่ชื่อว่าปาเลสไตน์และมีอาชีพที่ต่ำต้อย คือเป็นผู้เลี้ยงแกะ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับอนุญาตให้มาพูดกับพวกคุณในวันนี้ พวกคุณทราบดีว่า ในประเทศของผม อาชีพนี้ไม่ค่อยมีคนนิยมชมชอบนัก สำหรับเพื่อนร่วมชาติส่วนใหญ่ของผมนั้น มันเป็นงานที่ต้องหลีกหนีให้ไกลห่างเพราะมีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน งานก็สกปรกและเหน็ดเหนื่อยยิ่ง คุณน่าจะได้มาเห็นเท้าที่ด้านหนาของผม และค่าแรงก็...เอ้อ อยากจะบอกว่าคุณจะไม่มีวันร่ำรวยด้วยการเลี้ยงแกะเป็นอาชีพหรอก ผมเรียนรู้อาชีพนี้จากพ่อของผม และผมก็สานต่ออาชีพนี้อันถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัว

ศิษยาภิบาลของคุณคิดว่าการให้ผมมาพูดเกี่ยวกับอาชีพที่ต่ำต้อยของผมให้คุณฟังในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณ จริงๆ แล้วผมไม่แน่ใจว่าผู้เล็กน้อยอย่างผมจะมาสอนคุณได้หรือเปล่า แต่ผมจะเล่าทุกสิ่งที่ผมรู้ให้คุณฟัง

รูปภาพ

คุณรู้หรือไม่ว่าในพระคัมภีร์ไบเบิลที่คุณอ่านนั้น พระเจ้าตรัสถึงประชากรของพระองค์ซึ่งก็คือคุณกับผมว่าเป็น “แกะ” ถึงเกือบสองร้อยครั้ง คุณอาจจะไม่เคยพิจารณาถึงความสำคัญของการเปรียบเทียบนั้น แต่ผมคิด เพราะว่าผมทำงานกับฝูงแกะทั้งวันทั้งคืน ให้ผมเล่าให้คุณฟังว่าการถูกเรียกว่าเป็น “แกะ” นั้นไม่ได้เป็นการยกย่องชมเชยเลย ทำไมไม่เรียกว่านกอินทรีย์ที่สง่าผ่าเผย รวดเร็วว่องไว และงดงามล่ะ เปล่า พระเจ้าทรงเรียกพวกเราว่าเป็นแกะของพระองค์ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ แต่การถูกนำไปเปรียบเทียบกับพวกมันนั้นกลับกลายเป็นการดูหมิ่น บางทีแกะอาจจะเป็นสัตว์ที่โง่เขลาที่สุดในโลก พวกคุณเคยเห็นแกะที่ถูกฝึกเพื่อแสดงละครสัตว์ไหม คุณจะเห็นพวกช้าง ม้า หมี แมวน้ำ และแม้แต่ฮิปโปในคณะละครสัตว์ แต่ไม่ใช่แกะ เพราะพวกมันโง่เกินกว่าจะถูกนำมาฝึกได้ แล้วมันยังสกปรกอีกด้วย ขนแกะที่คุณเห็นในรูปเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มนั้นได้รับการชำระล้างให้สะอาดแล้ว ขนแกะที่อ่อนนุ่มเป็นปุยไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่คุณเห็นในจอทีวีหรอกนะครับ เพราะแกะจะไม่มีวันและจะไม่สามารถทำความสะอาดขนของมันเองได้ พวกผู้เลี้ยงแกะหรือคนงานถูกจ้างมาให้ทำงานนี้ ไม่เพียงแต่มันจะโง่ทึ่มและสกปรกแล้ว มันยังป้องกันตัวเองไม่ได้อย่างสิ้นเชิงด้วย พวกมันไม่มีอุ้งเล็บ ไม่มีเขี้ยว และก็ไม่มีปีก พวกมันวิ่งได้ไม่เร็ว อีกทั้งก็ไม่สามารถทำให้ศัตรูกลัวและหนีไป เพราะมันไม่มีทั้งเสียงคำรามกึกก้องหรือการปล่อยกลิ่นที่เป็นพิษใส่สัตว์กินเนื้อได้ ทั้งหมดที่มันทำได้ก็คือการส่งเสียงร้องอย่างแกะ

แกะต้องพึ่งพาผู้เลี้ยงอย่างสิ้นเชิง ชีวิตและความผาสุกของมันขึ้นอยู่กับคนที่คอยดูแลพวกมันในแต่ละวัน ถ้าพระเจ้าทรงเรียกพวกเราว่าเป็นแกะของพระองค์ ผมก็อยากรู้ว่าพระองค์กำลังทรงพยายามจะตรัสอะไร

บางทีคุณอาจจะเข้าใจพระเจ้าดีขึ้นเล็กน้อยถ้าคุณไปเลี้ยงแกะกับผมสักวันหนึ่ง มาเรียนรู้การเลี้ยงแกะกับผมกันเถอะครับ

เราเริ่มงานแต่เช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น งานของผมคือหาอาหารกับน้ำให้แกะของผม ซึ่งไม่ใช่งานง่ายๆ เลย คุณรู้ดีว่าในประเทศของผมนั้นผืนดินแห้งแล้ง เราไม่มีทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างใหญ่อย่างที่ฝูงแกะกับบรรดาปศุสัตว์ของคุณได้ใช้เป็นแหล่งอาหารหรอก พวกคุณเพียงแต่ปล่อยสัตว์เหล่านั้นให้ออกไปหาอาหารกินได้อย่างสบาย แต่ไม่ใช่ในประเทศของผม ไม่เลย เพราะหญ้าจะหาได้เฉพาะในทางแคบๆ ซึ่งคั่นด้วยแนวหินยาวๆ ที่เต็มด้วยฝุ่น เว้นแต่ในช่วงฤดูฝน น้ำที่เกิดจากน้ำพุหรือบ่อน้ำธรรมชาติจะแผ่กระจายเป็นหย่อมๆ ดังนั้นบางครั้งผมจึงต้องนำฝูงแกะของผมเดินไปเป็นระยะทางหลายไมล์เพื่อจะได้เจอหญ้าในบริเวณเพียงสองสามหลาหรือเพื่อจะดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เองที่เราต้องตื่นแต่เช้ามืด เพราะต้องใช้เวลาทั้งวันที่จะหาแหล่งน้ำและอาหารให้ฝูงแกะ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ม.ค. 22, 2006 2:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ม.ค. 21, 2006 5:50 pm

ผมรู้จักบริเวณที่ผมเลี้ยงแกะเป็นอย่างดี ผมได้เดินสำรวจบริเวณเหล่านี้ทุกตารางฟุตมาหลายครั้งหลายหนแล้ว ดังนั้นผมจึงสามารถนำแกะของผมออกเดินหาน้ำหาอาหารกินได้ คุณอาจจะนึกภาพว่าการเลี้ยงแกะนั้นเหมือนกับคนต้อนฝูงสัตว์ในหนังคาวบอยตะวันตก พวกเขาจะขี่ม้าและต้อนฝูงสัตว์อยู่ข้างหลังเพื่อทำให้บรรดาสัตว์เหล่านั้นเดินไปข้างหน้า แต่การเลี้ยงแกะแตกต่างจากนั้น คือผมต้องเดินอยู่ข้างหน้าฝูงแกะและพวกมันก็เดินตามผม ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน พวกมันก็จะตามผมไป และถ้าผมไม่คุ้นเคยหรือไม่รู้จักภูมิประเทศดีหรือพวกแกะถูกทิ้งไว้ตามลำพัง พวกมันก็จะอดตาย ผมจึงต้องเป็นผู้นำมัน ผมรู้ว่ามีหญ้าอยู่ที่ไหนบ้างเพราะผมไปสำรวจมาก่อนแล้ว

เราใช้เวลาตลอดช่วงเช้าในการเดินทางจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปยังอีกทุ่งหญ้าหนึ่ง พอถึงเที่ยงวัน แกะก็จะเหนื่อยและหิวน้ำ พวกมันต้องการอาหารและน้ำไม่อย่างนั้นก็ต้องตาย ตามทางที่ผมพาแกะไปนั้น ผมรู้จักแหล่งน้ำหลายแหล่ง ตามสถานที่เหล่านี้จะมีร่มเงาและทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มสำหรับให้แกะกินและพักผ่อน ผมให้พวกมันนอนลงเพื่อดื่มน้ำ พูดถึงตอนนี้ คุณรู้ไหมว่าแกะจะดื่มน้ำจากแอ่งหรือบ่อน้ำนิ่งเท่านั้น โดยธรรมชาติแล้ว พวกมันกลัวบริเวณที่น้ำไหลอย่างรวดเร็ว และความกลัวของมันก็มีเหตุผล เพราะถ้าแกะลื่นตกลงไปในแม่น้ำหรือลำธาร ขนของมันจะอมน้ำจนเปียกโชก และแกะก็ว่ายน้ำไม่เก่งด้วย ดังนั้นน้ำหนักขนที่ชุ่มน้ำจะทำให้มันจมน้ำตาย นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแอ่งน้ำจึงต้องสงบหรือไหลช้าๆ ถ้าผมไม่สามารถหาแหล่งน้ำเช่นนั้นได้ ผมก็ต้องสร้างบ่อน้ำขึ้นมาเองแล้วผันน้ำจากลำธารเข้ามา ตอนนี้คุณกำลังเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าการเลี้ยงแกะนั้นยากลำบากเพียงไร

รูปภาพ

แกะของผมจะมีความสุขและมีทุกสิ่งที่พวกมันต้องการตราบใดที่มันเดินตามผม ผมจะนำมันไปตามหนทางเก่าๆ ที่ผมรู้ดีว่าจะหาอาหารและน้ำให้มันกินได้ พวกมันต้องการการนำทางจากผม

แกะของผมต้องการการปกป้องคุ้มครองด้วยเช่นกัน ผืนดินที่เราออกเดินไปนั้นเต็มไปด้วยอันตราย สัตว์กินเนื้อจำพวกสิงโตและหมีมักจะไล่ตามฝูงแกะ บางครั้งก็จะมีฝูงสุนัขป่ามาก่อกวน และพืชบางชนิดที่ดูเหมือนปลอดภัยและมีรสชาติอร่อยลิ้น ก็อาจมีพิษได้ แกะอาจจะเดินสะดุดตกหน้าผาหรือตกลงไปในหุบเขาลึกและตายได้ แต่แกะของผมไม่จำเป็นต้องกลัวอันตรายใดๆ ผมจะเฝ้าระวังพวกมัน ถ้ามันเริ่มจะเตร่ออกนอกทาง ผมก็จะมีไม้เท้าของผู้เลี้ยงที่จะกระทุ้งให้มันกลับมา ถ้าพวกมันตกลงไปในหลุมหรือห้วยลึก ผมก็จะใช้อีกด้านหนึ่งของไม้เท้าหย่อนลงไปแล้วดึงมันขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ผมถือไม้สองอัน อันหนึ่งเป็นไม้เท้า แต่อีกอันหนึ่งเป็นไม้กระบอง ไม้เท้าใช้สำหรับแกะของผมแต่กระบองใช้สำหรับพวกสัตว์ล่าเหยื่อทั้งหลาย แม้ว่าแกะของผมจะโง่และทึ่ม แต่ผมก็ผูกพันกับพวกมัน ผมจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อรักษาชีวิตของพวกมัน แต่เมื่อคนเลี้ยงแกะกับพวกคนงานที่ถูกจ้างมาเลี้ยงแกะที่ผมรู้จัก ได้เห็นผมต่อสู้กับสัตว์ล่าเนื้อตัวโตสองสามตัวนั้น พวกเขาก็หัวเราะและพูดแหย่ว่า สักวันหนึ่งไอ้พวกสิงโตและหมีตัวใดตัวหนึ่งนั้นจะต้องกินผมเป็นอาหารแน่ นั่นอาจจะจริง แต่ผมก็บอกพวกคุณได้ว่าผมจะไม่วิ่งหนีหรือเพิกเฉยเหมือนกับพวกขี้ขลาดเหล่านั้นหรอก ไม่เลย เพราะนั่นคือความแตกต่างระหว่างผู้เลี้ยงที่ดีและผู้เลี้ยงที่ไม่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีจะสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ม.ค. 22, 2006 2:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ม.ค. 21, 2006 5:52 pm

ตราบใดที่พวกแกะเดินตามผม ผมก็จะนำพามันและปกป้องคุ้มครองมัน มันเป็นงานที่หนักและลำบาก แต่ผมก็มักต้องทำให้แน่ใจว่าแกะของผมมีอาหารกิน ผมมักจะตรวจสอบทุ่งหญ้าเหล่านั้นก่อนที่จะปล่อยให้มันไปกิน และถ้ามีพืชที่เป็นพิษในบริเวณนั้น ผมก็จะถอนมันออกทีละต้นจนหมด ผมจะตรวจดูพื้นดินว่ามีรูงูหรือเปล่าด้วย ผมบอกคุณได้ว่าในดินแดนของผมนั้นมีอันตรายรอบด้าน เรามีงูพิษตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ใต้ดินในทุ่งหญ้าบางแห่ง เมื่อพวกมันรู้สึกว่ามีแกะมากินหญ้า มันก็จะโผล่หัวอันน่าเกลียดออกมาจากรูและกัดจมูกแกะ การติดเชื้อหรือพิษที่เกิดจากการถูกกัดสามารถทำให้พวกแกะตายได้ แต่ผมก็มีทางแก้สำหรับเจ้างูพิษชั่วร้ายตัวเล็กๆ เหล่านั้น โดยผมจะเดินไปทั่วบริเวณเพื่อหารูงูเหล่านั้น ถ้าผมพบ ผมก็จะเทน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยลงไปตรงปากรู แล้วผมก็จะเอาน้ำมันทาตรงหัวและจมูกของแกะแต่ละตัวแล้วปล่อยให้พวกมันกินหญ้า น้ำมันมะกอกจะป้องกันลำตัวที่เนียนเป็นมันของงูไม่ให้เลื้อยขึ้นมาจากรูได้ ดังนั้น พวกมันจึงไม่สามารถทำอันตรายแกะของผมได้ ผมรู้สึกขำที่เฝ้ามองลูกแกะตัวน้อยๆ ของผมกำลังปิกนิกกันต่อหน้าต่อตาศัตรูของพวกมัน

พอตกเย็นเราก็พากันกลับคอก ผมจะสำรวจแกะแต่ละตัว ถ้าผมพบรอยข่วนหรือบาดแผลบนตัวแกะ ผมก็จะทาขี้ผึ้งให้ ผมต้องให้แน่ใจว่าพวกมันมีน้ำกิน ถ้าผมพบว่าแกะตัวใดหิวน้ำ ผมก็จะทำถังรูปถ้วยใส่น้ำให้มันดื่มเอง บางครั้งแกะเหล่านั้นจะกระหายน้ำมากจนพวกมันยื่นหัวเข้าไปในถังอย่างเร็วเกิน และยื่นหัวเข้าไปมากจนน้ำล้นออกมาจนทำให้หัวมันเปียก

รูปภาพ

ก่อนเข้านอน ผมก็มักจะนับแกะในฝูงของผม บางครั้งบางคราวจะมีลูกแกะสักตัวหลงทาง และไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเกินกว่าการที่แกะไม่มีผู้เลี้ยง ผมก็จะออกไปตามหาทันทีและนำมันกลับเข้าคอก นานๆ ครั้งที่ลูกแกะของผมสักตัวจะมีนิสัยชอบเตร็ดเตร่ออกนอกเส้นทาง ผมจำตัวหนึ่งได้ ผมตั้งชื่อให้มันว่า เจ๊ค บรรพบุรุษของเจ๊คเป็นแกะรุ่นแรกๆ ของผม ผมเรียกปู่ของเจ้าเจ๊คว่าเจ้าเฒ่าอาเบ ส่วนพ่อของเจ้าเจ๊คชื่อไอแซค ทั้งเฒ่าอาเบกับไอแซคนั้นเดินตามผมอย่างสัตย์ซื่อและไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย แต่เจ้าเจ๊คน้อยจอมโกงตัวนี้ไม่ใช่ มันมักจะหายไปหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน บางครั้งมันก็ออกไปหาหญ้าที่เขียวชอุ่มกว่ากิน และในเวลาอื่นผมก็พบว่ามันกำลังไล่ตามผีเสื้อ มันไม่เคยตระหนักถึงอันตราย แต่ผมก็เข้าใจมันดี

ดังนั้นผมจึงต้องลงมือทำบางสิ่ง พวกเราผู้เลี้ยงแกะจะพัฒนาวิธีการหนึ่งซึ่งจะป้องกันการชอบเตร่ออกนอกทางของแกะ วิธีการนี้ถูกใช้เป็นวิธีสุดท้าย นั่นคือเมื่อแกะตัวใดตัวหนึ่งปฏิเสธที่จะอยู่กับฝูง ครั้งสุดท้ายที่ผมจับได้ว่าเจ้าเจ๊คเตร่ออกนอกทาง ผมจึงใช้วิธีการนี้กับมัน พวกคุณต้องคิดว่าวิธีนี้โหดร้าย แต่มันก็จะรักษาชีวิตแกะของผมได้ ตอนสิ้นสุดวันที่ผมพบว่าเจ้าเจ๊คน้อยเถลไถลเตร็ดเตร่ไปยังทางแคบที่สูงชันระหว่างเขานั้น ผมก็ไปนำมันออกมาแล้วแบกมันไว้บนไหล่พากลับคอก มันไม่ดิ้นรนขัดขืน มันเพียงแต่มองผมด้วยสายตายที่เต็มไปด้วยความเชื่อวางใจ ผมจับมันนั่งลงแล้วผมก็จับขาขวาหน้าของมันวางไว้บนไม้เท้าของผม แล้วด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว ผมก็ดึงกระดูกยาวตรงขาข้างนั้นของมันลงมาแล้วหักเสีย เจ้าเจ๊คดิ้นรนเพื่อจะหนีขณะมองผมด้วยดวงตากลมโต ทันใดนั้นมันก็ล้มลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด มันไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่หาน้ำหาอาหารให้มันกินและคอยช่วยเหลือมันให้พ้นจากภยันตราย คนที่มันไว้วางใจคนนี้ทำให้มันเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างที่สุดที่มันเคยประสบ ผมไม่อยากทำอย่างนั้นหรอกแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อจะรักษาชีวิตของมันไว้

สองสามวันต่อมา เจ้าเจ๊คน้อยก็ลุกขึ้นได้ ขณะที่ฝูงแกะเคลื่อนย้ายจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปอีกทุ่งหญ้าหนึ่ง ผมก็แบกมันไปตลอดทาง ในช่วงวันเหล่านั้น ผมอยู่ใกล้ชิดมันตลอดเวลา มันเจ็บปวดทุกข์ทนเพราะขาหัก แต่ขณะเดียวกันผมก็อุ้มมันไว้ใกล้หัวใจผม ผมวางมันลงเพื่อให้มันกินหญ้ากินน้ำ มันค่อยๆ กลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่คราวนี้ หุบเขาที่เตี้ยที่สุดก็ดูเหมือนภูเขามหึมาสำหรับมัน และลำธารที่ตื้นเขินที่สุดก็เสมือนแม่น้ำอันกว้างใหญ่ เมื่อใดก็ตามที่มันเผชิญกับอุปสรรค สิ่งที่มันทำก็คือหยุดเดินและมองมาที่ผม จากนั้นผมก็จะอุ้มมันขึ้นและช่วยมันข้ามพ้นอุปสรรคปัญหาเหล่านั้น เจ๊คเรียนรู้ที่จะวางใจและเดินตาม ผมต้องหักขาของมันเพื่อช่วยชีวิตมัน วิธีนี้ใช้ได้ผล ปัจจุบันนี้เจ้าเจ๊คยังคงอยู่กับผมและก็เป็นแกะที่สัตย์ซื่อที่สุดตัวหนึ่งของผมด้วย

รูปภาพ

นี่เป็นวันหนึ่งในชีวิตของผู้เลี้ยงแกะ แม้ว่ามันจะไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนัก แต่มันก็เป็นการดำเนินชีวิตแบบหนึ่ง และแม้ว่าอาชีพของผมจะไร้เกียรติ แต่มันก็ทำให้ผมอัศจรรย์ใจที่ว่า พระเจ้าทรงเปรียบพระองค์เองเหมือนผู้เลี้ยงแกะ และทรงเปรียบประชากรของพระองค์เหมือนแกะ ผมเข้าใจความจริงข้อนี้ นั่นคือหลังจากที่พระองค์ทรงตอบสนองความต้องการของเราด้วยการจัดหาสิ่งจำเป็นในชีวิตให้เรา ด้วยการทรงนำเราในแต่ละวันและปกป้องคุ้มครองเรา ผมก็เชื่อว่าเราจะพึงพอใจและสงบสุขเหมือนบรรดาแกะของผม ถ้าเพียงแต่เราเรียนรู้ที่จะไว้วางใจและติดตามพระองค์ แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจว่าพระองค์กำลังทรงนำเราไปทางไหน หรือพระองค์กำลังทรงทำอะไรในชีวิตเรา เราก็ต้องไว้วางใจและติดตามพระองค์ไป แล้วเราก็จะได้รับความพึงพอใจ

ขอบคุณที่นั่งฟังผมเล่า ผมต้องกลับไปทำงานแล้วครับ การเลี้ยงแกะเป็นงานที่ไม่มีวันจบสิ้นหรอกถ้าคุณรู้ว่าผมหมายถึงอะไร

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หมายเหตุ: พระธรรมสดุดีบทที่ 23 ในมุมมองของผู้เลี้ยงแกะ
(แปลจาก Psalm 23: A Shepherd's Perspective ใน http://www.sonic-edge.org/forum/viewtopic.php?t=72)
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ม.ค. 22, 2006 2:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ม.ค. 21, 2006 9:32 pm

เห็นใจคนเลี้ยงแกะจังครับ

ทำให้นึกถึงนายชุมพาบาลของเราจัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ม.ค. 22, 2006 1:35 am

บทความยอดเยี่ยมมากครับ :D
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ก.พ. 04, 2006 6:34 am

พระเยซูคริสต์เอง ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า

โดยเฉพาะในมิสซาบูชาขอบพระคุณ เมื่อคุณพ่อ ทำพิธีมหาสนิท
แล้วย้ำประโยคว่า พระเยซูคริสต์เป็นลูกแกะของพระเจ้า พี่น้องคิดอย่างไรบ้าง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ก.พ. 04, 2006 12:46 pm

Prod Pran เขียน:
พระเยซูคริสต์เอง ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า

โดยเฉพาะในมิสซาบูชาขอบพระคุณ เมื่อคุณพ่อ ทำพิธีมหาสนิท
แล้วย้ำประโยคว่า พระเยซูคริสต์เป็นลูกแกะของพระเจ้า พี่น้องคิดอย่างไรบ้าง

น่าจะมาจากพระคัมภีร์บทนี้ครับ

ยน 1:29
วันรุ่งขึ้น ยอห์นเห็นพระเยซูเจ้าเสด็จมาหาตน จึงกล่าวว่า “นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก
Michael
โพสต์: 42
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 10, 2005 1:15 pm

พุธ ก.พ. 08, 2006 1:25 pm

ส่วนอาแบลก็นำแกะหัวปีจากฝูงและไขมันของแกะมาถวาย พระเจ้าทรงพอพระทัยอาแบลและเครื่องบูชาของเขา ::)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ ก.พ. 08, 2006 11:16 pm

อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากๆเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 06, 2010 9:32 pm

ในโอกาสที่อธิษฐานเปิดพระคัมภีร์ได้บทนี้เมื่อวาน ขอนำกลับมาให้พี่น้องได้อ่านกันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ชิปโป
โพสต์: 184
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 03, 2006 4:17 am

เสาร์ พ.ค. 08, 2010 7:38 pm

สงสารแกะที่ยังหลงทาง เขาจะรู้ตัวหรือไม่ว่าอยู่ในอันตรายเพียงไร
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

อาทิตย์ พ.ค. 16, 2010 2:12 pm

ขอบคุณ สำหรับบทความที่ดีเยี่ยมเช่นนี้
ตอบกลับโพส