@.สิทธิของผู้ปั้น.@

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 9:04 pm

สิทธิของผู้ปั้น
โดย:โปรดปราน ( พีพี )

วันที่ ๒๑ กรกฏาคม ๒๐๐๔ เป็นวันอธิษฐาน อดอาหาร ของภาคการศึกษาแรก ในช่วงเฝ้าเดี่ยว(meditation ) ใช้เวลากับพระบิดา ฉันนั่งรำพึงที่สวนหน้าบ้านพัก พระจิตเจ้า ทรงเร้าใจให้อ่านพระคัมภีร์ประกาศก เยเรมีย์ บทที่ ๑๘ ฉันจับประเด็นความสำคัญ ที่ ข้อ ๑-๑๐ “พระวาจาซึ่งมาจากพระเจ้าถึงประกาศกเยเรมีย์ว่า"จงลุกขึ้น ไปที่บ้านของช่างหม้อ เราจะให้เจ้าได้ยินถ้อยคำของเราที่นั่น"ข้าพเจ้าจึงลงไปที่บ้านของช่างหม้อ และเขากำลังทำงานอยู่ที่แป้นเวียนและภาชนะซึ่งทำด้วยดินก็เสียอยู่ในมือของช่างหม้อ เขาจึงปั้นใหม่ให้เป็นภาชนะอีกลูกหนึ่งตามที่ช่างหม้อเห็นว่าควรทำแล้วพระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าว่า"ประชาอิสราเอลเอ๋ย เราจะกระทำแก่เจ้าอย่างที่ช่างหม้อนี้ กระทำไม่ได้หรือ พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ ดูเถิด ประชาอิสราเอลเอ๋ย เจ้าอยู่ในมือของเรา อย่างดินเหนียวอยู่ในมือของช่างหม้อถ้าเวลาใดก็ตามเราประกาศเกี่ยวกับประชาชาติหนึ่งหรือราชอาณาจักรหนึ่งว่า เราจะถอนและพังและทำลายมันเสียและถ้าประชาชาตินั้น ซึ่งเราได้ลั่นวาจาไว้เกี่ยวข้องด้วย หันเสียจากความชั่วของตน เราก็จักกลับใจจากโทษซึ่งเราได้ตั้งใจจะกระทำแก่ชาตินั้นเสียและถ้าเวลาใดก็ตาม เราได้ประกาศเกี่ยวกับประชาชาติหนึ่งหรือราชอาณาจักรหนึ่งว่า เราจะสร้างขึ้นและปลูกฝังไว้และชาตินั้นได้กระทำชั่วในสายตาของเรา ไม่ฟังเสียงของเรา เราก็จะกลับใจจากความดีซึ่งเราตั้งใจจะกระทำกับชาตินั้นเสีย”

เข้ากับภาษิตไทยที่ว่า “อยู่บ้านท่าน อย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น” งานปั้นจะนำมาใช้ในโรงเรียนเพื่อฝึกเด็กเล็กๆ เป็นการฝึกเรื่องการใช้กล้ามเนื้อมือ ฝึกสายตา และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือฝึกจินตนาการของเด็กๆ ฉันเคยสอนชั้นอนุบาล ตอนเป็นนักศึกษาฝึกงาน ฉัน ทึ่งกับจินตนาการ เด็กคนหนึ่งมาก ที่แกปั้นดินน้ำมัน เป็นเส้นยาว แล้วมีดินก้อนโตป่องตรงกลาง ฉันถามว่า “หนูปั้นตัวอะไรคะ” เด็กตอบ “งูคั๊บ” ฉันถามต่อ “งูอะไรคะ ท้องใหญ่มาก” เด็กตอบด้วยความภูมิใจว่า “งูกินช้างคั๊บ คุณครู” เรื่องนี้ผ่านไป ยี่สิบปีแล้ว ฉันยังจำหน้าน้อยๆ ดวงตาใสซื่อของเจ้าหนู นักจินตนาการที่ยิ่งใหญ่ของฉันได้จนบัดนี้

ฉันได้ใช้เวลาเป็นชั่วโมง สนทนากับพระเจ้าในคำภาวนา จึงเข้าใจว่า พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ พระองค์ทรงมีสิทธิอันชอบธรรม หรือมีกรรมสิทธิ์ในชีวิตของเรา ...ฉันยังติดใจอยากจะเข้าใจต่อว่า พระเจ้าตรัสกับฉันอย่างไร จึงไปศึกษาทั้งบท และเบื้องหลังของหนังสือเล่มนี้ ฉันเข้าใจ เยเรมีย์ ประกาศกที่ยิ่งใหญ่ของยูดาห์ตั้งแตีปี 625-585 กคศ.

เขาเป็นบุตรชายของปุโรหิตพระเจ้าทรงเรียกเขาให้เป็นประกาศก ตั้งแต่เยาว์วัย ตลอดหลายปีก่อนหน้านั้นประชากรของพระเจ้าไม่เชื่อฟังพระเจ้าและเพิกเฉยต่อธรรมบัญญัติของพระองค์ พระเจ้าจึงส่งเยเรมีย์ไปเตือนคนยูดาห์ว่าถ้าพวกเขาไม่กลับใจใหม่ จะต้องสูญเสียแผ่นดินกับเมืองหลวงทั้งยังจะถูกกว่าต้อนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน แต่พระเจ้าจะให้อภัยและบูรณะบ้านเมืองขึ้นใหม่ ถ้าพวกเขากลับใจมาหาพระองค์ “เราจะทำพันธสัญญาใหม่กับประชากรอิสราเอล...เราจะบรรจุพระธรรมไว้ในเขาทั้งหลายและเราจะจารึกมันไว้บนดวงใจของเขาทั้งหลาย” ทว่าประชาชนปฏิเสธที่จะเชื่อฟังแม้ยามที่กรุงเยรูซาเล็มแตก

บทเรียนที่ฉันได้ความเข้าใจจากพระวาจาของพระเจ้าตอนนี้ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างช่างปั้นและดิน คือความสัมพันธ์ กับพระเจ้าและมนุษย์ ฉันมีมุมมองในกรอบความคิดดังนี้
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 9:06 pm

๑. มนุษย์อยู่ภายใต้อำนาจอันสมบูรณ์ของพระเจ้า
๒. พระเจ้าทรงมีพระประสงค์สำหรับทุกชีวิต
๓. พระเจ้าทรงขัดเกลาแต่ละชีวิต


๑.มนุษย์อยู่ภายใต้อำนาจอันสมบูรณ์ของพระเจ้า

ฉันเข้าใจจอย่างชัดเจนว่าพระเจ้าทรงมีอำนาจเหนือมนุษย์อย่างสมบูรณ์ เหมือนดินอยู่ในกำมือของช่างปั้น ภาพที่เห็นคือ พระเจ้าทรงใช้ประกาศก เยเรมีย์ ไปที่บ้านช่างปั้น เพื่อดูการทำงานของเขา ขณะที่เยเรมีย์เฝ้ามอง แป้นเวียน เขาเห็น ภาชนะที่ช่างปั้นเสียอยู่ในมือ แล้วช่างปั้น ก็ได้ทำขึ้นใหม่อีกรูปทรงหนึ่ง

....ฉันมองลึกเข้าไป คิดถึง โรงงาน เครื่องปั้นดินเผา ที่ได้แวะดูครั้งล่าสุดที่จังหวัดราชบุรี ทุกขั้นตอน ยังอยู่ในสมอง คือ ช่างปั้น ขุดดิน เตรียมดิน อัดดิน เอาดินขึ้นแป้น ปั้นภาชนะ เขียนลาย แต่งผิว เข้าเตาเผา ( ด้วยความร้อน ๑๐๐๐ องศา และเหลือ ดีๆแค่ ๓๐%) เคลือบ แล้วจึงจัดส่งไปป้อนตลาด

งานของช่างปั้น เป็นงานที่ละเอียดมาก ภาชนะแต่ละชิ้น กว่าจะออกมาสมบูรณ์ ใช้การได้นั้นช่างปั้นพิถีพิถัน อดทนแก้ไขแล้วแก้ไขอีก .....ฉันคิดต่อไปว่า แล้วมนุษย์ล่ะ พระเจ้าทรงเป็นช่างปั้น ทรงปั้นเรามาจากดิน เพราะทรงปั้นมนุษย์คนแรกจากผงคลีดิน จึงถูกต้องที่พระเจ้ามีสิทธิ์ อำนาจเหนือเรา ....ภาพที่ประกาศกเยมีย์ เห็น คือ ช่างปั้นมีอำนาจ เหนือดินเหนียว เขามีสิทธิ์จะปั้นดินก้อนนั้น เป็นรูปทรงอะไรก็ได้ ดินก้อนนั้นไม่มีสิทธิ์ต่อรองว่า

“ขอปั้นฉันเป็นแจกัน หรือขอปั้นฉันเป็นเครื่องเบญจรงค์ หรือ เป็นโอ่ง ไห ฯลฯ” ช่างปั้นเท่านั้นที่รู้ดีว่าดินก้อนนั้นเหมาะที่จะเป็นภาชนะหรือรูปทรงอะไร เหมาะที่จะใช้ประโยชน์ด้านไหน ฉันจึงเข้าใจพระคัมภีร์ ที่ได้อ่านต่อมา คือ “ พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า (เยเรมีย์ ๒๙.๑๑ )” ใช่สิ พระเจ้าทรงรู้จัก เราแต่ละคนดี ว่าเราเหมาะสม หรือมีประโยชน์ ที่จะมีบทบาท หรือ หน้าที่ใด
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 9:10 pm

๒.พระเจ้าทรงมีพระประสงค์สำหรับทุกชีวิต

เหมือนกับช่างปั้น ที่เขามีวัตถุประสงค์ จะใช้ดินแต่ละก้อนปั้น เป็นเครื่องใช้ชนิดใด เช่น หม้อ ไห เหยือกน้ำ แจกัน ถ้วยกาแฟ กระถาง ตุ๊กตา ฯลฯ ช่างปั้น เป็นผู้กำหนด ว่าดินก้อนหนึ่งๆ เขาจะใช้ทำภาชนะอะไร ประโยชน์ในการใช้สอย เมื่อปั้นเสร็จแล้วช่าง ผู้ชำนาญ จะตรวจสอบ ภาชนะ ว่ามีรอยรั่ว มีตำหนิ ขูดขีด เขามีสายตาที่เฉียบคม มีนิ้วที่ชำนาญ ....ฉันย้อนคิดถึง การทรงสร้างโลก ในวันที่หกที่ทรงสร้างมนุษย์ พระเจ้าสร้างเสร็จตรัสว่า “ดีนัก” ดังนั้นฉันจึงเข้าใจว่า พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์ ทรงสร้างดีที่สุด

ประกาศกเยเรมีย์ เรียนรู้ถึงความอดทนของช่างปั้น นั่นคือหลังจากเขาปั้นเสร็จไม่ใช่ทุกชิ้นใช้ได้ เขาปั้นเสร็จ ก็ตรวจสอบ ถ้าไม่ดี เขาทุบดินแล้วปั้นขึ้นมาใหม่.....ฉันเรียนรู้ไปกับประกาศก
เยเรมีย์ คือ เมื่อรูปทรงเครื่องปั้นออกมาไม่ดี ช่างปั้นต้องปั้นใหม่ ปั้น เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ....ฉันจินตนาการ ถึง คริสตชนแต่ละคน เปรียบเหมือนภาชนะของพระเจ้า พระองค์ทรงมีพระประสงค์ไม่เหมือนกัน เช่น บางคนเป็นพ่อค้า บางคนเป็นข้าราชการ บ้างเป็นนักธุรกิจ บ้างเป็นหมอ บ้างเป็นวิศวกร บ้างเป็นคนเก็บขยะ บ้างเป็นนักดนตรี บ้างเป็น บราเดอร์ ซิสเตอร์ และบาทหลวง ฯลฯ ที่สำคัญยิ่งภาชนะทุกๆชิ้นพระเจ้าทรงปั้นอย่างมีวัตถุประสงค์

พระเจ้าตรัสผ่านประกาศกเยเรมีย์ถึงเรื่องของช่างปั้น เป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ ของพระองค์ เมื่อดินไม่ดี ( คริสตชน ) พระเจ้ามีสิทธิ์อำนาจในการทุบดิน แล้วสร้างขึ้นใหม่ ตามพระประสงค์ของพระองค์

๓.พระเจ้าทรงขัดเกลาแต่ละชีวิต

ในชีวิตประจำวัน ส่วนมาก เรามีภาชนะเครื่องปั้น ดินเผา ใช้ เช่น เซรามิค ถ้วยกาแฟ แจกัน กระถางต้นไม้ ฯลฯ ส่วนมากเราเห็นแต่ภาชนะที่สวยงาม คนไม่มากนักที่ไปเห็นการทำงานของช่างปั้น เมื่อพูดถึงโรงงานเครื่องปั้นดินเผา นึกภาพไม่ออก ว่าในโรงงานนั้นมีแผนกอะไรบ้าง .....ฉันขอลำดับภาพโรงงาน หรือบ้านช่างปั้นเล็กๆแห่งหนึ่ง เริ่มจากดินที่ไม่มีรูปร่าง ซึ่งต้อง ขุดขึ้นมา สกปรก เลอะเทอะ แล้วเอาไปอัด ( นวด ) วางบนแป้น เพื่อปั้นดินเป็นรูปร่างต่างๆ จากนั้นนำไปเขียนลาย (รูป) เตรียมเตาเผาความร้อนสูงมาก เมื่อเผาเสร็จที่เหลือจากการทนความร้อน เอามาตกแต่งใหม่ ลงสีลงลาย ....กว่าจะได้ภาชนะสวยงามแต่ละชิ้น นั้นมีขั้นตอนในการขัดเกลามากมายที่ต้องถูกขัดเกลา

ฉันคิดถึงชีวิตของคริสตชนแต่ละคน เมื่อมอบใจถวายแด่พระเยซูคริสต์เจ้า ยอมรับว่า โลหิตของพระองค์ ชำระล้างความผิดบาปทั้งหมดของตัวเอง เราได้สวมเสื้อแห่งความชอบธรรม โดยพระเมตตากรุณา ของพระเจ้า เพราะพระเยซูคริสต์ ยอมทำตามพระทัยพระบิดาเจ้า ที่ประทานชีวิตของพระองค์ เพื่อ มนุษย์ทุกคน ( ดูยอห์น ๓.๑๖ ) ....ฉันคิดถึงภาพคริสตชนที่ประกาศความเชื่อว่า เรารักพระเยซูคริสต์ ...คำถามในใจของฉัน “ ทำไมเรา ถึงกลัว หรือหนี กระบวนการขัดเกลาชีวิต จากพระเจ้า” อันที่จริง พระเจ้ามีสิทธิ์เหนือชีวิตของเรา เมื่อเราเป็นภาชนะที่ยังไม่ดีพอ พระเจ้าทรงตกแต่ง เพื่อเราจะสวยงาม และใช้ประโยชน์ได้.....ภาพในสมองฉัน เห็นภาพ ภาชนะที่แตกหัก ที่ช่างปั้นทิ้งไว้ข้างๆ โรงงาน ....โอฉันใจหาย ถ้าเรา เป็นคนใช้การไม่ได้ พระเจ้าคงต้องทิ้งไว้ข้างๆทางเหมือนภาชนะนั้น .....ไม่นะ เราไม่ควรถูกทิ้ง ถูกขว้างเช่นนั้น ฉันต้องยอมรับการขัดเกลาตกแต่ง สิ พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่ดีเสมอ พระเจ้าประสงค์ให้ฉันเติบโต เป็นภาชนะที่สวยงาม ใช้การได้ ......แล้วต่อชีวิตคนอื่นๆ เช่นเดียวกัน

อันที่จริงขั้นตอนขัดเกลา ก็ต้องมีความอดทนอย่างยิ่ง .....ฉันอดที่จะจินตนาการถึงประติมากรรมชิ้นเอกของ ไมเคิ้ล แองเจลโล (Michelangelo Buonarroti ) และของโลก ไมเคิ้ล แองเจลโล ใช้ความรักศรัทธา พระเจ้า เขาจึง อดทน อย่างยิ่งยวด ในการแกะสลัก ประติมากรรม ปิเอต้า ที่ Ken Gire เขียนในหนังสือ “The Work of His Hands” เขาได้แสดงความคิดว่า พระเจ้าทรงใช้สถานการณ์ต่างๆในชีวิตเราเพื่อขัดเกลาเราให้เป็นคนใช้การได้

ในกระบวนการขัดเกลาตกแต่งชีวิตของเรานั้น ฉันคิดว่าพระเจ้าทรงอดทน และกลั้นพระทัย เพราะความรัก และเชื่อในส่วนดีของแต่ละคน ....พระเจ้าตรัสกับประกาศกเยมีย์ ว่า พระเจ้าจะอวยพรอิสราเอล ถ้าเขาหันจากความชั่ว และจะทำลาย ถ้าเขายังระเริงในความชั่ว ....เราคริสตชนมักจะไม่อยากฟัง เรื่องการลงโทษ เราชอบฟังแต่จะได้รับพร หรือพระเจ้าทรงเทพระพรให้เรา ฉันถามตัวเองว่า ฉันเป็นภาชนะที่ยอมรับการขัดเกลา ตกแต่งให้สวยงามไหม มันไม่สำคัญว่า ฉันเป็นภาชนะที่ปั้นมาจาก ดินชนิดไหน ที่สำคัญฉันยอมรับว่าพระเจ้าทรงปั้นฉันเป็นรูปทรงที่เหมาะสมกับการใช้งานของพระองค์ต่างหาก บ่อยครั้งที่รูปทรงฉันเบี้ยวไปพระองค์ทรงขัดเกลาตกแต่งฉันใหม่ เพื่อฉันจะเป็นภาชนะที่พระองค์ทรงใช้ประโยชน์ได้ ตามรูปทรงที่พระเจ้าทรงปั้นฉันให้เป็น .....แล้วคุณล่ะ

:) :) :) :) :) :) :) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) :D :D :D :D :D :D ;D ;D ;D ;D ;D

หมายเหตุ ตีพิมพ์ในอิสระรายปักษ์ ฉบับ 27 สิงหาคม 2004
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ม.ค. 27, 2006 4:44 am

เชิญอ่าน อีกครั้งค่ะ เผื่อว่าจะช่วยให้เราเข้าใจวิถีชีวิตตัวเองที่พระเจ้าทรงนำมากขึ้น
Dis volentibus

เสาร์ เม.ย. 04, 2009 2:27 am

ขอบพระคุณมากมายค่ะ ::014::
ตอบกลับโพส