@~รักพระธรรมของพระเจ้า~@

อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 9:23 pm

รักพระธรรมของพระเจ้า

โดย โปรดปราน ( พีพี )

“แหม ข้าพระองค์รักพระธรรมของพระองค์จริงๆ เป็นคำภาวนาของข้าพระองค์วันยังค่ำพระบัญญัติของพระองค์ กระทำให้ข้าพระองค์ฉลาดกว่าศัตรูของข้าพระองค์ ....ข้าพระองค์รั้งเท้าข้าพระองค์ไว้จากวิถีชั่วทุกอย่าง ...พระดำรัสของพระองค์นั้น ข้าพระองค์ชิมแล้วหวานจริงๆ หวานกว่าน้ำผึ้งเมื่อถึงปากข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้ความเข้าใจโดยข้อบังคับของพระองค์เพราะฉะนั้นข้าพระองค์เกลียดชังวิถีเท็จทุกอย่าง” (สดุดี ๑๑๙.๙๗-๙๘,๑๐๑,๑๐๓-๔ )

หลัง สภาสังคายนาวาติกันที่ ๒ พระศาสนจักรคาทอลิก “พยายามเข้าใจพระคัมภีร์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อพระวาจาของพระเจ้าจะได้เป็นอาหารบำรุงเลี้ยงชีวิตบรรดาบุตรของตนอยู่เสมอ” และ วิสัยทัศน์ (Vision) ภายในปี ค.ศ. ๒๐๐๐ พระวาจาของพระเจ้าได้รับการประกาศ และนำไปปฏิบัติในบริบทสังคมคาทอลิกไทยโดยทั่วถึง โดย พันธกิจ (Mission)ส่งเสริมให้คริสตชนคาทอลิกไทย รู้ (Know) เข้าใจ (understand) รัก (Love) ภาวนา (Pray) และดำเนินชีวิต (Live) ตามพระคัมภีร์ เพื่อบรรลุเป้าหมายจึงใช้ ยุทธศาสตร์ (Strategies)มุ่ง "สามสร้าง" ได้แก่ ๑.. สร้างสื่อ สื่อที่เป็นไทย ของคาทอลิก เพื่อคาทอลิก และโดยคาทอลิก เพื่อก่อให้เกิดความรู้ และความเข้าใจ ๒. สร้างคน คนที่เป็นคาทอลิก มีความรู้ ความเข้าใจ รัก ภาวนา ดำเนินชีวิต และพร้อมประกาศพระคัมภีร์ในบริบทสังคมไทย ๓. สร้างกลุ่ม กลุ่มที่ดำเนินชีวิต ประกาศ และเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสต์(อ้างอิงhttp://www.thaicatholicbible.com/)

เมื่อได้อ่านถ้อยแถลงนี้แล้ว จึงขอสนับสนุนว่าการอ่านพระคัมภีร์นั้นประเสริฐจริงๆใน สดุดี บทที่ ๑๑๙ เรียกว่า “ความดีเลิศของพระธรรมของพระเจ้า” ซึ่งกษัตริย์ ดาวิด ทรงได้บรรยาย ถึงเหตุผลที่พระองค์ และพวกเราต้องรักพระธรรมของพระเจ้าเพราะว่า

๑.พระวาจาของพระเจ้าได้รับการทรงดลใจ

“พระคัมภีร์ ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และ เป็นประโยชน์ในการสอนการตักเตือนว่ากล่าวการปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี และการอบรมในทางธรรม ( ๒ ทิโมธี ๓.๑๖ )“....ข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศไปแล้วนั้น ไม่ใช่ของมนุษย์ ...ไม่มีมนุษย์คนใดสอนข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าได้รับข่าวประเสริฐนั้นโดยพระเยซูคริสต์ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้า” ( กาลาเทีย ๑.๑๑-๑๒ )

อัครทูตเปาโล ยืนยันว่าพระคัมภีร์นั้นมี การทรงดลใจ ( Inspiration ) คือพระจิตเจ้าทรงเคลื่อนไหวเหนือชีวิตของผู้เขียนพระคัมภีร์ทุกๆเล่ม พระคัมภีร์จึงเป็นการทรงดลใจของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ และทุกถ้อยคำ พระคัมภีร์ทรงไว้ซึ่งสิทธิอำนาจ ( Authority ) ของพระเจ้า พระวาจาของพระเจ้าสามารถเอาชนะความผิดบาป “เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆแทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย” (ฮีบรู ๔.๑๒ ) ปัจจุบันหนังสือในท้องตลาดชุด “ฮาวทู =how to” ค่อนข้างจะขายดี เพราะคนเราอยากจะประสบความสำเร็จทางลัดในด้านต่างๆ จึงซื้อหาหนังสือเหล่านั้นมาอ่าน เพราะอยากจะรู้เคล็ดลับที่นำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องนั้นๆ ฉันเองก็อ่านหนังสือประเภทนี้หลายเล่มเหมือนกัน บอกตรงๆว่าไม่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ขณะที่ อ่านรู้สึกดี เข้าใจ และคล้อยตามแต่ปฏิบัติยาก

ฉัน ได้ฟังคำพยานของคริสตชนมาหลายๆคนที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตเพราะอ่านพระคัมภีร์ เช่น เคยฟังคำพยานจากศาสนาจารย์คนหนึ่งว่า เขาได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมด ตอนที่เขาเป็นนายตำรวจ เมาหัวราน้ำ ท้อแท้สิ้นหวัง วันหนึ่งเขาได้อ่านแผ่นปลิว ว่า “บรรดาคนลำบากและเหน็ดเหนื่อยจงมาหาเรา เราจะให้ท่านหายเหนื่อยและเป็นสุข” เมื่ออ่านจบเขาไปหาศิษยาภิบาลที่โบสถ์ถามถึงความหมาย และเจ้าของคำพูด วันนั้น เขาได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด...

วิศวกรชาวมาเลเซียคนหนึ่งเล่าว่า เขาเป็นคนต่อต้านภรรยาที่เป็นคริสเตียนมาก เพราะคิดว่าเรื่องพระเจ้าเป็นเรื่องงมงาย ไร้สาระ และเพ้อฝัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขานอนไม่หลับ จึงใช้โอกาสนั้นอ่านพระคัมภีร์ของภรรยา เขาอ่านพระวรสารนักบุญมัทธิว เมื่ออ่านจบเล่มทั้ง ๒๘ บท เขาร้องไห้สำนึกว่าเป็นคนบาป ต้องการให้พระเยซูคริสต์ช่วย ในคืนนั้นเขายอมจำนนมอบชีวิตทั้งหมดให้พระคริสต์ครอบครอง “ เหตุฉะนั้นจงเลิกความโสมมทั้งหลายแหล่ และการชั่วร้ายอันดกดื่น และจงน้อมใจรับพระวจนะที่ทรงปลูกฝังไว้แล้วนั้น ซึ่งสามารถช่วยจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายให้รอดได้” (ยากอบ ๑.๒๑ )

อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 9:28 pm

๒.พระวาจาของพระเจ้าช่วยปลอบประโลมจิตใจ

มนุษย์ทุกๆคนต้องการคำปลอบใจ เมื่อเด็กเล็กๆร้องไห้ เราอุ้ม โอบกอด จุมพิต พูดจาหวานๆปลอบใจ หาขนม ของเล่นให้ และสัญญาต่างๆนาๆ ส่วนคนที่เป็นผู้ใหญ่ค่อนข้างจะปลอบใจยาก เพราะบางทีไม่มีใครเข้าใจเรา หรือเราเองอยากปลอบใจคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าปลอบใจ เพราะไม่เข้าใจเขาหรือไม่รู้จะปลอบใจอย่างไร จึงไม่ทำอะไร เลยกลายเป็นคนใจจืดใจดำ ฉันเองคนใกล้ชิดบอกว่าเป็นคนที่เอาใจยาก ดังนั้นเมื่อมีความทุกข์มักจะไม่ค่อยมีคนปลอบใจ แต่ฉันพบความจริงว่า พระวาจาของพระเจ้าเป็นแหล่งของการปลอบประโลมจิตใจให้คลายทุกข์วิตก กังวล แม้แต่ดาวิด กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เปล่งพระสุรเสียงว่า “พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน...แม้ข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์ คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์” (สดุดี ๒๓.๑,๔ ) ใช่นี่คือพระสัญญาของพระเจ้า

เพื่อนคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนที่คุณแม่ของเขาป่วยหนัก และไม่สามารถอ่านพระคัมภีร์ หรือไปโบสถ์ได้ เนื่องจากท่านเป็นคนที่รักการอ่าน พระคัมภีร์และท่องพระวาจาเสมอ เมื่อชราภาพและเจ็บป่วย คุณแม่ได้ท่องพระวาจาของพระเจ้าเป็นชุดๆ โดยเฉพาะสดุดีบทที่ ๒๓ เป็นบทโปรดของท่าน “บุคคลเหล่านั้นที่รักพระธรรมของพระองค์ มีสันติภาพใหญ่ยิ่ง ไม่มีสิ่งใดกระทำให้เขาสะดุดได้” (สดุดี ๑๑๙.๑๖๕ )

ครั้งหนึ่งที่ฉันมีความทุกข์และท้อใจมาก รู้สึกจนปัญญา ในการแก้ปัญหานั้น รู้สึกหมดแรงไป แล้วสมองของฉันได้สั่งให้ปากท่องว่า “ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากไหน ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก....พระเจ้าจะทรงอารักขาท่านให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้นพระองค์จะทรงอารักขาชีวิตของท่าน” (สดุดี ๑๒๑.๑-๒,๗ ) ใช่ ความช่วยเหลือมาจากพระเจ้า

....เมื่อหลายปีก่อนฉันตอบรับกระแสเรียกของพระจึงถวายตัวเพื่อรับใช้พระเจ้า เมื่ออบรมที่ประเทศไทยสองปีแล้ว ต้องไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศอีกสามปี ฉันกลัวมาก ยิ่งอธิษฐานยิ่งกลัว และแล้วพระวาจาของพระเจ้าตรัสกับฉันว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาด เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะหนุนกำลังเจ้า เออ เราจะช่วยเจ้า เออ เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันมีชัยของเรา” (อิสยาห์ ๔๑.๑๐ ) เป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้ฉันกล้าก้าวต่อไปอย่างกล้าหาญ... ต่อมา ฉันเป็นกรรมการองค์กรคริสเตียนนาๆชาติ ได้ไปตรวจงานที่ต่างประเทศ หรือร่วม สัมมนา ต้องเสนอบทความ ต้องพูดคุยกับผู้ใหญ่ ต้องพักโรงแรมคนเดียว ฉันรู้สึกกลัวมาก ทุกครั้งพระคำจะก้องหูว่า “อย่ากลัวเลยเราอยู่กับเจ้า...” ขอบคุณพระเจ้าภารกิจทุกอย่างสำเร็จเพราะพระองค์เป็นผู้ช่วยในทุกสถานการณ์

ในพระคัมภีร์ใหม่ก็มีคำปลอบใจ และความหวังใจ มากมาย เช่นที่พระเยซูทรงปลอบใจสองพี่น้อง มารธา และมารีย์ เรื่องของลาซารัสว่า “เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่วางใจในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้วก็ยังจะมีชีวิตอีกและทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่ตายเลย เจ้าเชื่ออย่างนี้ไหม” (ยอห์น ๑๑.๒๕-๒๖ ) หลายครั้งเมื่อฉันไม่ค่อยมั่นใจว่าบางเรื่อง หรือคำภาวนาที่ได้ทูลไปนั้นพระเจ้าทรงฟังไหม และแล้ว พระวาจาของพระเจ้าย้ำในจิตใจว่า "เราบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่า ถ้าเจ้าเชื่อเจ้าก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า" (ยอห์น ๑๑.๔๐ ) ขอบคุณพระเจ้าฉันได้เห็นการอัศจรรย์มากมายที่พระองค์ทรงสำแดงเสมอๆทั้งในธรรมชาติและเหนือธรรมชาติ

เมื่อฉันเจอคนที่ท้อแท้ เหนื่อยหน่ายต่อชีวิต ฉันมักจะคิดถึง ถ้อยคำของนักบุญเปาโลว่า “ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” (ฟิลิปปี ๔.๑๓ ) ทุกวันเรามักเจอแต่ข่าวร้ายผ่านสื่อต่างๆ ขอบคุณพระเจ้าที่เราคริสตชนพบกับข่าวดีเสมอ ข่าวดีนั้นจะก้องในหูและสามารถเปล่งว่า “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น ๓.๑๖ ) นี่คือข่าวสำคัญสำหรับจิตวิญญาณของพวกเรา และมนุษย์ทุกคน

อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 9:33 pm

๓.พระวาจาของพระเจ้าช่วยให้เราเผชิญกับอุปสรรคได้

ปัจจุบันชีวิตของคนไทยมีความกดดัน และแข่งขันกันสูงมาก โรคเครียดจึงเป็นเรื่องปกติในชีวิต ทั้งๆที่เราหลายๆคนรู้ดีว่าความเครียดเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายต่างๆ และเป็นศัตรูของสุขภาพแต่เรากำจัดมันไม่ได้ ซ้ำร้ายยังเอื้ออาทรให้มันพำนักอย่างสบายและเป็นผู้กุมชะตาชีวิตของเรา แทนพระเยซูคริสต์เจ้าเสียด้วยซ้ำ

ฉันเรียนรู้ว่า พระคัมภีร์ทั้งเล่ม ไม่ว่าพระคัมภีร์เดิม หรือใหม่ พระเยซูคริสต์พระมหาไถ่ของเราทรงเป็นศูนย์กลาง พระคัมภีร์บอกเราว่าพระเยซูมาจากสวรรค์ ทรง ถ่อมพระองค์เกิดเป็นมนุษย์ที่ต่ำต้อย เพื่อจะเข้าถึงคนบาปและจะนำพวกเขากลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ คนที่อ่านพระคัมภีร์สม่ำเสมอ จากชีวิตและความเชื่อของ บุคคลต่างๆที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์จะช่วยเตือนใจ หนุนใจ หรือเป็นคำตอบยามที่เรามีอุปสรรค หรือปัญหา .

.. หลายปีมาแล้วฉันได้คุยกับ สตรีคริสตชน คนหนึ่งที่มีปัญหามีลูกยากมาก เธอได้ทำกิ๊บแล้วก็ไม่ติด เมื่อเธอขอคำปรึกษา ฉันบอกเธอว่า ให้ขอจากพระเจ้า ภาวนาวิงวอนอย่างคุณแม่ฮันนาห์ แม่ของประกาศกซามูเอล แล้วเราเปิดพระคัมภีร์ ๑ ซามูเอล บทที่ ๑ อ่านด้วยกัน ขอบคุณพระเจ้าพระองค์ทรงเมตตาฟังคำภาวนาของเธอ เพราะบัดนี้เธอมีเด็กน้อยที่น่ารักในบ้านถึงสองคน

...เรื่องของโยบ ก็เป็นเรื่องที่หนุนใจคนที่ประสบกับทุกข์ยาก เป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ท่านโยบไม่ได้ทำผิดอะไร และ พระเจ้าทรงรับรองว่าเขาเป็นคนดีรอบคอบ แต่ความทุกข์มากมายที่เกิดขึ้น เพื่อพระราชกิจของพระเจ้า

การอ่านพระคัมภีร์ไม่ใช่ช่วยแต่ตัวเอง แต่ยังสามารถช่วยผู้อื่นได้ด้วย เช่น ช่วงมหาพรตปี ๒๐๐๐ พระเจ้าทรงใส่ภาระให้ฉันภาวนาให้ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ฉันไม่ได้รู้จักเขาส่วนตัว แต่ ฉันรับรู้ปัญหาและความยุ่งยากของเขา เพราะปัญหาเขาเป็นที่รู้ๆกันในที่สาธารณะผ่านสื่อต่างๆ ขณะที่ฉันภาวนาเผื่อเขาฉันได้เขียนอีเมล์ ส่งพระวาจาของพระเจ้า และคำอธิบายสั้นๆเพื่อหนุนใจเขาเสมอ ในฉบับหนึ่ง พระวาจาคือ “ความรักมั่นคงของพระเจ้าไม่เคยหยุดยั้ง และพระเมตตาของพระเจ้าไม่มีสิ้นสุดเป็นของใหม่อยู่ทุกเวลาเช้า ความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก” ( บทเพลงคร่ำครวญ ๓.๒๒-๓ ) ฉันได้อธิบายสั้นๆว่าน่าสลดใจที่เยรูซาเล็มแตกและคนยิวต้องตกระกำลำบาก แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือพระเจ้าได้ทอดทิ้งพวกเขา และปล่อยให้ทนทุกข์ทรมานเพราะบาปของเขา แต่ใน บทที่ 3:21-27 ประกายแห่งความหวังยังสาดแสงให้เห็นเมื่อผู้เขียนไว้วางใจในพระกรุณาอันไม่รู้สิ้นสุดของพระเจ้า “ขอให้คุณมีความหวังในพระเมตตาของพระเจ้าเสมอ”

น้องคนนั้นเล่าในอีเมล์ว่า เขาร้องเพลง “ความรักมั่นคงของพระเจ้า” สมัยอยู่โรงเรียนคริสเตียนมา สิบสองปี แต่ไม่เคยเข้าใจความหมาย เพิ่งเข้าใจ และซาบซึ้งพระวาจาตอนนี้เมื่อเขาเผชิญปัญหาครั้งใหญ่นี้เอง อัศจรรย์ยิ่งที่เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้เขายอมจำนนและกลับไปหาพระเจ้า เริ่มต้นใหม่กับพระองค์ หลังจากเขาห่างโบสถ์เป็นเวลา ๙ ปี

มีผู้ใหญ่คริสเตียนที่ฉันรักและเคารพท่านหนึ่ง เธอดำรงตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ท่านประสบกับ อุปสรรค ในการปฏิบัติงาน มีปัญหาซับซ้อนมากมายที่ต้องต่อสู้เพื่อดำรงความยุติธรรมและชอบธรรมเพื่อสังคม เมื่อเร็วๆนี้เราได้คุยโทรศัพท์กันหลายครั้ง ท่านยืนยันพระสัญญาของพระเจ้า ที่ตรัสผ่านพระคัมภีร์ พร้อมกับอ่านให้ฟังเป็นตอนๆ และอธิบายถึงความเข้าใจตามที่พระจิตเจ้าทรงสอนท่าน

...มีครั้งหนึ่งขณะคุยโทรศัพท์กัน ท่านถามฉันว่า “อาจารย์มีพระคัมภีร์ อยู่ใกล้ๆไหม ลองเปิด ที่หน้า ๑๙๑๖ นั่นคือคำตอบที่พระเจ้าทรงประทานให้พี่ในการต่อสู้กับปัญหาที่หนักอึ้งนี้” ฉันบอกท่านว่าไม่มี เพราะอยู่ข้างนอก ผู้ใหญ่ท่านนี้เลยอ่านพระคัมภีร์หน้านี้ให้ฉันฟัง จากพระคัมภีร์เดิมใน “เศฟันยาห์” เป็นคำตอบที่เด็ดขาดและหนุนใจฉันเองเป็นอย่างมาก

จึงสรุปว่า การอ่านพระคัมภีร์นั้นจำเป็นมาก เพราะเนื้อหาในพระคัมภีร์เป็นพระวาจาของพระเจ้า เราอาจจะรู้จักและมีประสบการณ์กับพระเจ้าได้หลายๆทาง สำหรับฉันมีความเข้าใจและเชื่อว่า พระเจ้าตรัสกับพวกเราทางตรงผ่านพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ ให้ชีวิต และเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า จากประสบการณ์ส่วนตัวพระคัมภีร์คือ ขุมทรัพย์ที่ใช้ไม่หมด และ ช่วยเพิ่มความศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น เป็นคำตอบสุดท้ายเมื่อชีวิตมีอุปสรรคและปัญหา เป็นยาวิเศษทั้งรักษาและบำรุง เป็นหยดน้ำทิพย์ที่หล่อเลี้ยงจิตใจและจิตวิญญาณ เมื่อมีคนบอกว่าไม่ชอบอ่านพระคัมภีร์เพราะไม่เข้าใจ ฉันมักจะตอบว่า ก่อนอ่านได้ภาวนาขอพระจิตทรงเปิดใจให้เข้าใจกระจ่างแจ้ง ( Illumination ) หรือเปล่าล่ะ เพราะว่าพระจิตเจ้าทรงให้ความกระจ่างแจ้งในใจของผู้เชื่อจึงทำให้เขาเข้าใจพระคัมภีร์ ( ดู ๑ โครินธ์ ๒.๖-๑๖,เอเฟซัส ๑.๑๘, ๑ยอห์น ๒.๒๐,๒๗ ) ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ลูกๆของพระเจ้าต้องชิมพระวาจาของพระเจ้า ด้วยตัวเองโดยการอ่าน และท่องพระคัมภีร์ จงพิสูจน์!!!ดูสิว่าจะหวานกว่าน้ำผึ้งตามที่ดาวิดยืนยันหรือไม่

“พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์และเป็นความสว่างแก่มรคา
ของข้าพระองค์” (สดุดึ ๑๑๙.๑๐๕ )

“มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ
ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” (มัทธิว ๔.๔ )

8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8)

หมายเหตุ: ตีพิมพ์อิสระรายปักษ์ ปี ที่ ๒ ฉบับที่ ๑๑ ปักษ์ แรก และหลัง ๒๐๐๔ ฉลองคริสตมาส

Zion · อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 10:08 pm

ฮบ4:12 เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตาย และทรงพลานุภาพอยู่เสมอ :)

จันทร์ พ.ค. 30, 2005 9:09 pm

เศฟันยาห์ หน้าที่ ๑๙๑๖ ดังนี้

3:17 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ประทานความมีชัย พระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี พระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง
3:18 ดั่งในวันที่มีการเลี้ยง' เราจะขจัดภัยพิบัติเสียจากเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องทนต่อการเยาะเย้ยเพราะเรื่องนี้
3:19 ดูเถิด ในคราวนั้นเราจะทำโทษผู้ที่บีบบังคับเจ้าทุกคน เราจะช่วยคนขาพิการและรวบรวมคนที่กระจัดกระจายไป และเราจะเปลี่ยนความอับอายของเขาให้เป็นความน่าสรรเสริญ และให้เป็นเสียงลือไปในโลก
3:20 ในคราวนั้น เราจะนำเจ้ากลับเข้ามา คือในคราวที่เรารวบรวมพวกเจ้าเข้าด้วยกัน เออ เราจะกระทำให้เจ้ามีชื่อเสียงและเป็นที่สรรเสริญในท่ามกลางบรรดาชนชาติทั้งหลายของโลก คือเมื่อเราให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมต่อหน้าต่อตาเจ้า" พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ

claustrophobia · จันทร์ พ.ค. 30, 2005 9:11 pm

พระเจ้าอยู่กับเราเสมออิๆ

จันทร์ พ.ค. 30, 2005 9:14 pm

ดูลิงก์นี้ แล้ว จะเข้าใจว่า ผู้ใหญ่ ท่านนี้ที่พี่พีพียกตัวอย่างในพระคัมภีร์ คือ....สตรีเหล็ก ที่รักพระเจ้ามาก เราช่วยกันอธิษฐานภาวนาให้เธอต่อไปค่ะ :-*

http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... readid=965

มีผู้ใหญ่คริสเตียนที่ฉันรักและเคารพท่านหนึ่ง เธอดำรงตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ท่านประสบกับ อุปสรรค ในการปฏิบัติงาน มีปัญหาซับซ้อนมากมายที่ต้องต่อสู้เพื่อดำรงความยุติธรรมและชอบธรรมเพื่อสังคม เมื่อเร็วๆนี้เราได้คุยโทรศัพท์กันหลายครั้ง ท่านยืนยันพระสัญญาของพระเจ้า ที่ตรัสผ่านพระคัมภีร์ พร้อมกับอ่านให้ฟังเป็นตอนๆ และอธิบายถึงความเข้าใจตามที่พระจิตเจ้าทรงสอนท่าน

...มีครั้งหนึ่งขณะคุยโทรศัพท์กัน ท่านถามฉันว่า

จันทร์ พ.ค. 30, 2005 9:14 pm

Prod Pran เขียน:
เศฟันยาห์ หน้าที่ ๑๙๑๖ ดังนี้

3:17 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ประทานความมีชัย พระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี พระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง
3:18 ดั่งในวันที่มีการเลี้ยง' เราจะขจัดภัยพิบัติเสียจากเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องทนต่อการเยาะเย้ยเพราะเรื่องนี้
3:19 ดูเถิด ในคราวนั้นเราจะทำโทษผู้ที่บีบบังคับเจ้าทุกคน เราจะช่วยคนขาพิการและรวบรวมคนที่กระจัดกระจายไป และเราจะเปลี่ยนความอับอายของเขาให้เป็นความน่าสรรเสริญ และให้เป็นเสียงลือไปในโลก
3:20 ในคราวนั้น เราจะนำเจ้ากลับเข้ามา คือในคราวที่เรารวบรวมพวกเจ้าเข้าด้วยกัน เออ เราจะกระทำให้เจ้ามีชื่อเสียงและเป็นที่สรรเสริญในท่ามกลางบรรดาชนชาติทั้งหลายของโลก คือเมื่อเราให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมต่อหน้าต่อตาเจ้า" พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ

บทนี้ใช่ไม๊ครับที่คุณหญิงหมายถึง :D

จันทร์ พ.ค. 30, 2005 9:24 pm

Holy เขียน:
Prod Pran เขียน:
เศฟันยาห์ หน้าที่ ๑๙๑๖ ดังนี้

3:17 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ประทานความมีชัย พระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี พระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง
3:18 ดั่งในวันที่มีการเลี้ยง' เราจะขจัดภัยพิบัติเสียจากเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องทนต่อการเยาะเย้ยเพราะเรื่องนี้
3:19 ดูเถิด ในคราวนั้นเราจะทำโทษผู้ที่บีบบังคับเจ้าทุกคน เราจะช่วยคนขาพิการและรวบรวมคนที่กระจัดกระจายไป และเราจะเปลี่ยนความอับอายของเขาให้เป็นความน่าสรรเสริญ และให้เป็นเสียงลือไปในโลก
3:20 ในคราวนั้น เราจะนำเจ้ากลับเข้ามา คือในคราวที่เรารวบรวมพวกเจ้าเข้าด้วยกัน เออ เราจะกระทำให้เจ้ามีชื่อเสียงและเป็นที่สรรเสริญในท่ามกลางบรรดาชนชาติทั้งหลายของโลก คือเมื่อเราให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมต่อหน้าต่อตาเจ้า" พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
บทนี้ใช่ไม๊ครับที่คุณหญิงหมายถึง :D

ค่ะ ตอนคุยทางโทรศัพท์ ท่านบอกพี่ว่าให้เปิด หน้า ๑๙๑๖ พระเจ้าทรงประทานคำตอบให้ท่าน

และอีกครั้งหนึ่ง รู้สึกโกรธมาก ท่านอยากจะทำอะไรบ้าง พระวิญญาณบริสุทธิ์ ตรัสว่า

"การแก้แค้น เป็นของเรา " มีเรื่องอัศจรรย์มากมาย ที่พระเจ้า
ทรงใช้บุคคลต่างๆ เข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อ ให้ อธิษฐานภาวนาให้ท่าน

ตอนนี้พี่ติดต่อ คุยกันไม่ได้เพราะยุ่งสุดๆมั้ง เลยได้แต่ส่ง sms ไปให้กำลังใจค่ะ ;D

St.Gerard · พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 5:13 pm

ขอบคุณมากเลยครับ

อังคาร ส.ค. 30, 2005 6:44 am

ขอช่วยอธิษฐานภาวนาให้หญิงเหล็กของคริสเตียนคนนี้ด้วยค่ะ

คุณหญิงจารุวรรณ เมณทกา (อดีต??) ผู้ว่า สตง. เมื่อวาน โดนยึดกุญแจประตูห้องทำงาน

ขอบคุณน้องแกะหลง ที่ส่งอีเมล์ ถึงพี่พีพี และน้องเจี๊ยบ ดังนี้

พี่พีพีและน้องเจี๊ยบ แกะหลงฝากความยินดีต่อคุณหญิงจารุวรรณด้วย เพราะพระวจนะอันทรงฤทธิ์ พระสัญญาที่พระเจ้ทรงมีต่อ คุณหญิง จารุวรรณ เป็นจริงแล้วค่า ขอโค๊ดคำพูดของคุณหญิงนะ เอามาจากพันทิป ราชดำเนิน

"ดิฉันต่อว่าต่อขานพระเจ้าท่านอย่างหนักมาก พูดในใจนะคะ ว่าไหนบอกว่าจะปกป้องลูกของพระเจ้าไงล่ะ"

และทุกครั้งมักจะได้รับคำชี้แนะจากพระเจ้าแบบอัศจรรย์ ผ่านทางพระคัมภีร์ ที่ชื่อ 'เศฟันยา' อยู่เสมอ

"วันนั้นดิฉันทุกข์มาก ก็เลยหาทางออกด้วยการอ่านพระคัมภีร์ ในนั้นบอกว่า วันนั้นเราจะเปลี่ยนการน่าอับอายของเจ้าให้เป็นการอันน่าสรรเสริญ เราจะรื้อฟื้นเจ้าใหม่ในสภาพเดิมต่อหน้าต่อตาเจ้า เราจะทำให้เจ้ามีชื่อเสียง"

อาเลลูยา สาธุการแด่พระเจ้า พระองค์ผู้ทรงพระชนม์ พระคำของพระองค์เป็นจริง เพราะ ในหลวง บุคคลที่ประเสริฐที่สุดของไทย ผู้ทรงปกครองแผ่นดินไทยโดยความธรรม โดยสิทธิอันชอบธรรม นั้นได้ยื่นพระหัตถ์มาปกป้อง ดังนั้นคนไทยย่อมรักในหลวง ผู้ทรงมีพระราชจริยวัตรอันงดงามเพื่อคนไทยตลอดมา เมื่อในหลวงไว้พระทัยและทรงปกป้อง เทากับคนไทยทั้งชาติย่อมรู้จัก และไว้ใจในความดี ความซื่อสัตย์ของคุณหญิง เมื่อมีบุคคลที่หวังดีต่อแผ่นดินที่สุดคนหนึ่งออกมาการันตี พระเจ้าทรงรักษาพระพันธะสัญญาทำให้พระคำพระองค์เป็นจริงทุกประการ อาเลลูยาขอบคุณพระเจ้า

ฝากคุณหญิงไว้ในคำภาวนาด้วยค่ะ

เอ่อ น้องเม่ย ฝ่ายการเมือง ของบอร์ด ช่วยก็อปกระทู้เกี่ยวข้อง ให้ด้วยค่ะ THANKS :D

New lamb · อังคาร ส.ค. 30, 2005 7:14 am

เอ่อ......จริงๆแล้วพี่ก็ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวของคุณหญิงเท่าไหร่ในระยะหลังๆนี้ เพราะติดตามอะไรที่เกี่ยวกับการเมืองแล้วปวดหัวทุกที แต่ยังไงก็จะสวดภาวนาให้คุณหญิงจารุวรรณค่ะ :D

ศุกร์ ก.ค. 23, 2010 3:42 pm

เมื่อวานที่กลุ่มเซลล์ของพี่ แจกน้ำตาลก้อนเล็กๆ (ทำจากน้ำตาลตะโหนด เพชรบุรี) เด็กบอกว่า โห...หวานจัง เราอ่านพระคัมภีร์
แล้ว ที่พระคัมภีร์ กล่าวว่า พระวาจา/พระวจนะ หวานเหมือนน้ำ ผึ้งนี้ เป็นอย่างไร

เอ่อ ใครช่วยให้คำตอบดีคะ