<<: หญิงร้าย VS ชายชั่ว:>>

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 11:29 am

หญิงร้าย VS ชายชั่ว

โดย: โปรดปราน ( พีพี )


��มื่อเร็วๆนี้มีคริสตชนถามฉันว่า “ใครคือผู้ชายที่เลว หรือชั่วร้ายที่สุดในพระคัมภีร์” พูดจริงๆเป็นเรื่องยากมาก ที่คนบาปอย่างฉันจะตัดสินว่า ใครเลวที่สุด พร้อมทั้งเสี่ยงต่อข้อกล่าวหาว่าลบหลู่สุภาพบุรุษ ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ไปรับประทานอาหารเที่ยงฝีมือ มาเซอร์คณะ คาร์เมลไลท์ ( Carmelite Pilgrim Centre “Stella Maris” Haifa-Israel ) และขึ้นไปบนภูเขาคาราเมล ที่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ฉันคิดถึง คู่สามี-ภรรยา ที่ชั่วร้าย คู่หนึ่งที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์เดิม คือ “ พระมเหสีเยเซเบล และกษัตริย์อาหับ” ก็ต้องกลับไปอ่านพระคัมภีร์เก่า ๑ พงศ์กษัตริย์ บทที่ ๑๘-๑๙ เป็นเรื่องมเหสีชั่วร้ายของกษัติรย์ อาหับ ที่ละทิ้งพระบัญญัติ หลงไปนับถือ พระบาอัล อาหับนั้นเมียทำให้หลง แต่ตัวเขาได้นำคนอิสราเอลออกห่างจากพระเจ้า ไปนับถือ ประกาศกเท็จ ถึง ๘๕๐ คน (ของพระบาอัล ๔๐๐ คนและของแม่อาเชาราห์ พระคู่พระบาอัล อีก ๔๕๐ คน ) ดังนั้นพระเจ้าทรงใช้ประกาศก เอลิยาห์ ต่อสู้กับพระราชินีชั่วร้าย เยเซเบล นายหญิง หลังบ้าน ของชายชั่วอย่างกษัตริย์อาหับ การประลองยุทธกันครั้งนั้น ระหว่าง ประกาศก เอลียาห์ และประกาศกเท็จที่ภูเขาคาราเมล เอลียาห์ชนะ เพราะพระเจ้าเที่ยงแท้ ทรงช่วยไว้ แต่ผล พระราชินี เยเซเบลลั่นวาจาว่าจะฆ่าเขาให้ได้

รูปภาพ

บทความนี้ ขอนำ เรื่องสวนองุ่นของนาโบท มาตีแผ่นิสัยของ หญิงร้าย-ชายชั่ว ( ดู ๑ พงศ์กษัตริย์ ๒๑.๑-๒๙ ) เรื่องมีดังนี้ “นาโบท”ชาวยิศเรเอลมีสวนองุ่นอยู่แปลงหนึ่ง ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ พระราชาอาหับต้องการสวนแปลงนี้ของนาโบท โดยขอซื้อ ในราคายุติธรรม หรือแลกกับที่ดินแปลงอื่นของเขา อาหับอยากได้ที่ดินแปลงนี้ เพื่อ ปลูกผัก ( ประยุกต์กับปัจจุบัน คือ พวกสถานที่หย่อนใจ ) เพราะสวนองุ่นนี้อยู่ใกล้กับพระราชวังหลังหนึ่ง อาหับต้องการใช้ในช่วงแปรพระราชฐาน นาโบทปฏิเสธพระราชา เพราะเขาเคร่งพระบัญญัติ เขายอมขัดใจพระราชาแต่ไม่ยอมขัดพระบัญญัติของพระเจ้า ( ดู กดว.๓๖.๗,ลวน.๒๕.๒๓-๒๙ ) เพราะที่ดินแปลงนี้เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ ซึ่งคนคนอิสราเอลต้องอยู่ในที่ดินมรดก ขายไม่ได้ ถ้าขายต้องให้ญาติคนถัดมาไถ่ถอน ถ้าไม่มีเงินไถ่ถอน ต้องรอปีเสียงเขาสัตว์ จึงจะได้ที่ดินคืน การขาย การแลก เป็นการทำผิดต่อน้ำพระทัยพระเป็นเจ้าและเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษ ...พระคัมภีร์ตอนนี้เราสามารถเรียนรู้ดังนี้
��
๑.ผลจากความโลภ

ความโลภ นำไปสู่ความหายนะ พระราชาอาหับเมื่อถูกราษฏรอย่าง นาโบท ปฏิเสธ ก็เสียหน้า ทำให้เขาไม่พอใจ กลัดกลุ้มใจทั้งๆที่เขามีทรัพย์สินมากมาย แต่เขาเป็นโรคจิตที่ไม่พอใจต่อสิ่งที่ตัวเองมี เขา ยังแสวงหาความพอใจด้วยการครอบครองที่ดินมากยิ่งๆขึ้น ไม่รู้จักพอ
ฝ่ายเยเซเบลพระราชินีชั่วร้าย ก็ปลอบใจ สามี บอกว่าความเป็นกษัตริย์ของอาหับนั้นมีอำนาจจะได้ทุกๆอย่างที่เขาต้องการ ดังนั้นนางจึงใช้กฏหมายบทบัญญัติของโมเสส เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองบังหน้า คือพระนางได้เอาศาสนามาบังหน้า สั่งผ่านเจ้านาย และผู้ใหญ่ในเมืองยิศราเอลประกาศให้ประชาชนถืออดอาหาร แล้วให้เชิญนาโบท มาร่วมในพิธีอดอาหาร ให้เชิญนาโบทได้นั่งในที่มีเกียรติ เพื่อแสดงว่านาโบทเป็นที่นับถือของคนในเมืองนั้น แผนต่อมาให้คนถ่อย หรือคนเลวมานั่งตรงข้ามนาโบทและด่าว่าเขาอย่างเสียหาย ด้วยถ้อยคำหยาบคาย เนื้อความที่ฟ้องร้องว่านาโบทคือ “นาโบทแช่งด่าพระเจ้า และพระราชา”นั่นคือดูหมิ่นพระเจ้า และพระราชา ซึ่งตามบัญญัติของโมเสสแล้ว ผู้นั้นจะต้องถูกหินขว้างตาย ( ดู ฉธบ.๑๗.๖,๑๙.๑๕,อพย.๒๒.๒๘,ลวต.๒๔.๑๖ ) ในที่สุดทั้งนาโบทและลูกชายทั้งสองคน ก็เสียชีวิตไปเพราะคำตัดสินที่ไม่ชอบธรรม ( ๒ พกษ.๙.๒๖ )

เจ้านายและพวกผู้ใหญ่ได้หลงกล พระราชินีเยเซเบล ที่มีจดหมายไปถึงพวกเขาในเมืองให้ถืออดอาหาร จนมีคนถ่อยมาโกหก แช่งด่าและฟ้องร้องนาโบท แล้วพวกผู้ใหญ่รีบตัดสินใช้บัญญัติของโมเสสจัดการกับคนไร้ความผิด ซึ่งน่าเสียดายที่พวกผู้ใหญ่ และผู้ปกครองเมือง หูเบา ไม่ได้ปกป้องคนชอบธรรม กลับเข้าข้างคนอธรรม โดยไม่ยอมไต่ถามความจริง ปล่อยให้คนคดโกงอาศัยช่องว่าง ตีความทางพระบัญญัติ เป็นจุดของการทำผิดบาป

เมื่อ เดือน กุมภาพันธ์ ๒๐๐๖ ฉันมีโอกาส ร่วมทีมกับเพื่อนชาวอินเดียเสนอผลงานวิชาการทางศาสนศาสตร์ ( Theology )เกี่ยว กับ ชนกลุ่มน้อย ชาวเขา ชาวเผ่า ในเอเชีย ณ ประเทศ บราซิล เราเสนอบทความในมุมมองของ ชนกลุ่มน้อยที่ดินแดนต้องตกไปอยู่ในกำมือของนักล่าเมืองขึ้น และนายทุนส่วนของบทความที่ชนเผ่าสอนลูกหลานว่า “ที่ดินเป็นของพระผู้อยู่เหนือธรรมชาติ ไม่มีใครร่ำรวยจากการขายผืนดิน อย่าโลภเรื่องที่ดินถ้าอยากมีอายุยืนยาว ผืนดินคือชีวิต คนที่ไม่มีที่ดินมักจะโกง และเขาจะเป็นพลเมืองที่เลว ผืนดินจะร้องไห้ ถ้ามันตกอยู่ในมือของคนโลภ ผืนดินไม่เคยโกหก ใครที่ปล้นผืนดินของผู้อื่นจะอายุสั้น ผืนดินจะเหมือนนก มันจะบินไปจากมือคนโลภ คุณสามารถขายอะไรก็ได้ ไม่ใช่ผืนดิน”
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร มิ.ย. 13, 2006 12:48 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 11:31 am

๒.กล้าตักเตือน

ประกาศก คือใคร ทำหน้าที่อะไร ท่านที่อ่านพระคัมภีร์เก่าสม่ำเสมอ จะเห็นบทบาทของประกาศกชัดเจนในพระคัมภีร์ว่า พวกเขามีหน้าที่ ๑ ) เป็นตัวแทนของพระเจ้าที่รับพระวาจา มาบอกกับคนอิสราเอล ๒) มีหน้าที่แนะนำ พระราชา และผู้ปกครองในการปกครองบ้านเมืองให้ยุติธรรม และนำคนให้อยู่ในทางของพระเจ้า ๓ ) ตักเตือนประชาชนให้ดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า และ ๔ ) กล่าวโทษ เมื่อพวกเขาทำผิดไม่ยอมกลับใจจากสิ่งชั่วร้ายหรือความผิดบาป

ตอนนี้พระเจ้าทรงใช้ประกาศกเอลียาห์ ไปกล่าวตำหนิการกระทำของพระราชาอาหับ ซึ่ง อาหับโกรธมาก ถึงกับเรียกเอลียาห์ว่า “โอ ศัตรูของข้าเอ๋ย เจ้าพบข้าเข้าแล้วหรือ” (ข้อ ๒๐ ) ความเดิมคือ อาหับยังเคียดแค้นไม่หาย ในกรณี ที่ท้าพิสูจน์ที่ภูเขาคารเมล พระราชาอาหับยังไม่ยอมกลับใจมานมัสการพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ อย่างไรก็ตามประกาศกเอลียาห์ ยังอาจหาญที่ ตักเตือน หญิงร้าย ชายชั่วคู่นี้อีกว่า “สุนัขที่เลียโลหิตของนาโบท ก็จะเลียโลหิตของอาหับด้วย ส่วนนางหญิงร้ายเยเซเบล สุนัขก็จะกินในเขตยิศราเอล วงศ์วานของเขาตายในเมืองสุนัขจะกิน ตายในทุ่งนา นกจะกิน” สรุปง่ายๆคือคนในตระกูลนี้ ต้องตายโหง การที่ถูกลงโทษเช่นนี้ เพราะทำผิดพระบัญญัติของพระเจ้า เนื่องด้วยสามี ภรรยา คู่นี้เป็นคนโลภ หวังแต่ได้ เอาแต่ใจตัวเอง หาความสุขจากความทุกข์ยากลำบากของคนอื่น ใช้อำนาจะและอิทธิพลในการกลั่นแกล้ง ใช้ศาสนาและพระบัญญัติบังหน้าเพื่อตัวเองเท่านั้น

รูปภาพ

ฉันคิดถึง พระคัมภีร์สุภาษิต ๒.๒๐-๒๑ “เจ้าควรจะดำเนินในทางของคนดี และรักษาวิถีของคนชอบธรรม เพราะว่าคนที่เที่ยงธรรมจะได้อยู่ในแผ่นดิน และคนซื่อสัตย์จะคงอยู่ในนั้น”

๓.จึงกลับใจ

การกลับใจเป็นท่าทีที่สำคัญมาก เพราะจะนำให้เกิดดารเปลี่ยนแปลง เช่นในเรื่องของประกาศกโยนาห์ กับปลายักษ์ ทั้งๆที่เขาประกาศอย่างขอไปที ว่า “ อีกสี่สิบ นีนะเวห์จะถูกคว่ำ” ( โยนาห์ ๓.๔ ) ปรากฏว่าชาวนีนะเวห์ได้เชื่อฟังพระเจ้า ทั้งพระราชาและประชาชน กลับใจ จากการประพฤติชั่ว เลิกการทารุณกรรม เมื่อ พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นการกระทำของพวกเขาจึงกลับพระทัยไม่ลงโทษพวกเขาตามที่ตรัสไว้

หรือกษัตริย์ดาวิดทรงกระทำบาป เรื่องล่วงประเวณี และฆ่าคน เมื่อประกาศกนาธัน แจ้งให้พระองค์ทราบว่าพระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย ( ดู ๒ ซมอ.๑๒.๑-๑๕ ) ดาวิดกลับใจ สารภาพความผิดบาป ต่อพระเจ้า ขอการตั้งต้นชีวิตใหม่ทันที อย่างไรก็ตามผลของการกระทำบาปที่ดูหมิ่นพระเจ้า ก็ยังตามมาหลายอย่างซึ่งพระเจ้าตรัสบอกผ่านนาธันอย่างชัดเจน

พระราชาอาหับเมื่อรับทราบเรื่องคำกล่าวโทษเช่นนั้น ก็ ฉีกเสื้อผ้า นุ่งกระสอบไว้ทุกข์ ถืออดอาหาร ถ่อมตัวลงต่อพระเจ้า สารภาพบาปผิด ( ข้อ ๒๗-๒๙ ) แล้วพระเจ้าทรงยกโทษอภัยบาปให้อาหับ นี่คือการแสดงความรักมั่นคงของพระเจ้า พระองค์ทรงอภัยอาหับ และไม่ทรงลงโทษเขา แต่เหตุร้ายจะมาเหนือราชวงศ์ของเขา

ผลของความบาป เมื่ออ่านพระคัมภีร์ ถึงตอนนี้เราจะมีคำถามว่าทำไมพระเจ้า ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักและความเมตตา ถึงต้องลงโทษลูกหลานของเขา คำตอบคือแม้อาหับจะสำนึก สารภาพบาปผิดแล้วก็ตาม แต่เพราะอาหับไม่ได้ดำเนินชีวิตใหม่ในแนวทางที่พระเจ้าทรงสอน เพราะว่า “การสารภาพบาปเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก แต่การเลิก กระทำบาป ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญกว่า” ( สุภาษิต ๒๘.๑๓ ) สำหรับอาหับนอกจากไม่เลิกทำบาปแล้ว เขาก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดี แก่ลูกหลานของเขา ไม่ได้อบรมลูกหลานให้ดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า และนี่คือเหตุร้ายที่มาถึงพงศ์พันธุ์ของอาหับ มาดูการทำบาปหลายอย่างปัจจุบันผลจะส่งถึงลูกหลาน หรือคนรอบข้างทันที เช่นกรณี สามีเป็นเอดส์จากการสำส่อนทางเพศ ถึงแม้เขาสารภาพบาปผิดต่อพระเจ้าแล้ว แต่เชื้อ เอช ไอ วี ยังแพร่ไปที่ภรรยา และลูกที่เกิดมาได้

ดังนั้นชีวิตคริสตชน เราต้องดำเนินชีวิต ตามคำสอนของพระเจ้า ผ่านพระวาจา ผ่านผู้รับใช้พระเจ้าคือบาทหลวง และศิษยาภิบาล หรือ ผ่านพระศาสนจักร และคริสตจักร เพราะพระเยซูเจ้าทรงวางแบบชีวิต โดยพระชนม์ชีพของพระองค์เอง และคำสอนในพระคัมภีร์ เพราะ ยิ่งกว่านั้นในครอบครัวของผู้เชื่อ การดำเนินชีวิตของ บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ส่งผลต่อความเชื่อของลูกหลานมากทีเดียว ดังภาษิตไทยที่ว่า “ลูกไม้หล่น ไม่ไกลต้น” ในทำนองเดียวกัน เราต้องเข้าใจว่า การสารภาพบาป เป็นสิ่งจำเป็น แต่การเลิกกระทำบาปนั้นจำเป็นและสำคัญที่สุด เราคริสตชนต้องลบภาพ ที่เพื่อนบ้านศาสนิกอื่นๆตั้งข้อสังเกตว่า ชาวคริสต์ คือคน ชอบทำบาป เพราะวันอาทิตย์เขาไปแก้บาปได้ แล้วกลับมาทำความผิดบาปอีกในวันอื่นๆ แท้จริงแล้ว การกลับใจใหม่เลิกทำบาป นั้น คือ พระประสงค์ของพระคริสตเจ้า ซึ่ง น.เปาโลยืนยันว่า “ผู้ที่อยู่ในพระคริสต์ ก็ถูกสร้างใหม่ ซึ่งถูกวางรากของพระเยซูคริสต์ไว้แล้ว”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


หมายเหตุ: ตีพิมพ์ ในอิสระรายปักษ์ ฉบับ เดือน เมษายน 2006
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร มิ.ย. 13, 2006 12:49 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

จันทร์ มิ.ย. 12, 2006 10:59 pm

Thanks a lot for a good article na ka.. P' PP.. :)

I have couples of questions ka..

1. Why the "LAND" is so important?

The first time I've heard about the importantce of the land is from the New Testament in the parable of 'the prodigal son'.

(Luke 15:12) and the younger son said to his father, 'Father, give me the share of your estate that should come to me.' So the father divided the property between them.

This is the meaning of sin.

And I've also heard from the Old Testament bible class in the parish that the "land" is a part of the covenant.

And also in this article that Naboth didn't want to sell his land.. I've heard some of these but I'm not quite sure I understood... Could you explain more about the importance of the land?

2. What is ปีเสียงเขาสัตว์ ?

Thanks a lot ka.. :-*
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ มิ.ย. 17, 2006 6:19 am

พี่บัดดี้ ฮะ พี่พีพีฝากบอก ว่า ขออภัย ที่ยังไม่ได้ตอบ เพราะที่บ้าน (ตอนนี้ ) คอมพ์ เจ้ง จึงไม่มีเน็ตใช้

ต้องรอนิดหนึ่ง ขอรับพี่ ;D
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ มิ.ย. 17, 2006 9:10 am

Jeab Agape เขียน:
พี่บัดดี้ ฮะ พี่พีพีฝากบอก ว่า ขออภัย ที่ยังไม่ได้ตอบ เพราะที่บ้าน (ตอนนี้ ) คอมพ์ เจ้ง จึงไม่มีเน็ตใช้

ต้องรอนิดหนึ่ง ขอรับพี่ ;D
Thanks, Jeab... and thanks P' PP ka.. It's all right.. I can wait... :)
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ มิ.ย. 17, 2006 9:33 pm

Buddy เขียน:

Thanks, Jeab... and thanks P' PP ka.. It's all right.. I can wait... :)
พี่พีพีฝากแนะนำให้ พี่ บัดดี้อ่าน พระคัมภีร์เก่า คือ เลวีนิติ ( Leviticus ) บทที่ 25 ทั้งบท

คาดว่าคนเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาของพระเจ้า อย่างเหลือล้น ก็จะเข้าใจ เรื่องสิทธิในที่ดิน
ของคนอิสราเอล ฮะ พี่บัดดี้จะเข้าใจ ปี สะบาโต ( The Seventh Year ) และปีเสียงเขาสัตว์ ( The Year of Restoration )

ขอพระเจ้าทรงอวยพร ฮะ
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 12:57 am

Jeab Agape เขียน:
Buddy เขียน:

Thanks, Jeab... and thanks P' PP ka.. It's all right.. I can wait... :)
พี่พีพีฝากแนะนำให้ พี่ บัดดี้อ่าน พระคัมภีร์เก่า คือ เลวีนิติ ( Leviticus ) บทที่ 25 ทั้งบท

คาดว่าคนเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาของพระเจ้า อย่างเหลือล้น ก็จะเข้าใจ เรื่องสิทธิในที่ดิน
ของคนอิสราเอล ฮะ พี่บัดดี้จะเข้าใจ ปี สะบาโต ( The Seventh Year ) และปีเสียงเขาสัตว์ ( The Year of Restoration )

ขอพระเจ้าทรงอวยพร ฮะ
555 น้องเจี๊ยบจ๋า เป็นสื่อให้พี่พีพีเชียวนะ *heh5555555555
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อาทิตย์ มิ.ย. 18, 2006 9:20 am

Jeab Agape เขียน:
Buddy เขียน:

Thanks, Jeab... and thanks P' PP ka.. It's all right.. I can wait... :)
พี่พีพีฝากแนะนำให้ พี่ บัดดี้อ่าน พระคัมภีร์เก่า คือ เลวีนิติ ( Leviticus ) บทที่ 25 ทั้งบท

คาดว่าคนเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาของพระเจ้า อย่างเหลือล้น ก็จะเข้าใจ เรื่องสิทธิในที่ดิน
ของคนอิสราเอล ฮะ พี่บัดดี้จะเข้าใจ ปี สะบาโต ( The Seventh Year ) และปีเสียงเขาสัตว์ ( The Year of Restoration )

ขอพระเจ้าทรงอวยพร ฮะ
Thanks a lot na ja.. Nong Jeab.. and also P' PP.. :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
โพสต์: 681
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 01, 2006 5:02 am

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:10 pm

ปี สะบาโต ( The Seventh Year ) และปีเสียงเขาสัตว์ ( The Year of Restoration )
อธิบายให้ฟังหน่อยสิคับ ผมไม่มีคัมภีร์เก่าไว้ศึกษาด้วยสิ
Buddy.

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:50 pm

Y u K i เขียน: ปี สะบาโต ( The Seventh Year ) และปีเสียงเขาสัตว์ ( The Year of Restoration )
อธิบายให้ฟังหน่อยสิคับ ผมไม่มีคัมภีร์เก่าไว้ศึกษาด้วยสิ
Read below na ka... and you may go to this link to read the whole Chapter 25... In this translation, ปีเสียงเขาสัตว์ = ปีเสียงแตร .... Sometimes it translates as the Jubilee Year ( like in the New American Bible).. :)

And I'd recommed you to read Chapter 26 too.. I found it very useful in reminding us of keeping the commandment... The Chapter says about Obedience and Disobedience... (I have to thank P' PP again for recommending this scripture.. :) )

http://www.bibledbdata.org/onlinebibles/thai/03_025.htm

เลวีนิติ 25

25:1 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสที่ภูเขาซีนายว่า
25:2 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า เมื่อเจ้าทั้งหลายเข้าแผ่นดินที่เราให้เจ้านั้น จงให้แผ่นดินนั้นถือสะบาโตแด่พระเยโฮวาห์
25:3 เจ้าจงหว่านพืชในนาของเจ้าหกปี และจงลิดแขนงสวนองุ่นของเจ้าและเก็บผลหกปี
25:4 แต่ในปีที่เจ็ดนั้นเป็นปีสะบาโตแห่งการหยุดพักผ่อนสำหรับแผ่นดิน เป็นปีสะบาโตแด่พระเยโฮวาห์ เจ้าอย่าหว่านพืชในนา หรือลิดแขนงสวนองุ่นของเจ้า
25:5 สิ่งใดที่งอกขึ้นมาเอง เจ้าอย่าเก็บเกี่ยว องุ่นอันเกิดอยู่ที่เถาอันเจ้ามิได้ตกแต่งก็อย่าเก็บ ให้เป็นปีที่แผ่นดินหยุดพักสงบ
25:6 แผ่นดินในปีสะบาโตนั้นจะยังพืชผลให้แก่เจ้าทั้งหลาย คือแก่ตัวเจ้าเอง แก่ทาสชายทาสหญิงของเจ้า แก่ลูกจ้างของเจ้า และแก่คนต่างด้าวที่อยู่กับเจ้า
25:7 พืชผลแห่งแผ่นดินทั้งสิ้น จะเป็นอาหารของสัตว์เลี้ยงของเจ้า และของสัตว์ป่าที่อยู่ในแผ่นดินของเจ้า
25:8 เจ้าจงนับปีสะบาโตเจ็ดปีคือเจ็ดคูณเจ็ดปี เวลาปีสะบาโตเจ็ดปีจึงเป็นสี่สิบเก้าปีแก่เจ้า
25:9 เจ้าจงให้เป่าแตรดังสนั่นในวันที่สิบเดือนที่เจ็ด เจ้าจงให้เป่าแตรทั่วแผ่นดินในวันทำการลบมลทิน
25:10 เจ้าจงถือปีที่ห้าสิบไว้เป็นปีบริสุทธิ์ และประกาศอิสรภาพแก่บรรดาคนที่อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินของเจ้า ให้เป็นปีเสียงแตรแก่เจ้า ให้ทุกคนกลับไปยังภูมิลำเนาอันเป็นทรัพย์สินของตน และกลับไปสู่ครอบครัวของตน
25:11 ปีที่ห้าสิบนั้นเป็นปีเสียงแตรของเจ้า ในปีนั้นเจ้าอย่าหว่านพืชหรือเกี่ยวเก็บผลที่เกิดขึ้นมาเอง หรือเก็บองุ่นจากเถาที่มิได้ตกแต่ง
25:12 เพราะเป็นปีเสียงแตร จะเป็นปีบริสุทธิ์แก่เจ้า เจ้าจงรับประทานพืชผลที่งอกมาจากนาในปีนั้น
25:13 ในปีเสียงแตรนี้ให้ทุกคนกลับไปสู่ภูมิลำเนาอันเป็นทรัพย์สินของตน
25:14 ถ้าเจ้าขายนาให้เพื่อนบ้านก็ดี หรือซื้อจากเพื่อนบ้านก็ดี เจ้าอย่าโกงกัน
25:15 ตามจำนวนปีหลังจากปีเสียงแตร เจ้าจงซื้อนาจากเพื่อนบ้านของเจ้าและให้เขาขายแก่เจ้าตามจำนวนปีที่ปลูกพืชได้
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 6:39 am

Joseph เขียน:

555 น้องเจี๊ยบจ๋า เป็นสื่อให้พี่พีพีเชียวนะ *heh5555555555
พอดี พี่พีพี ไม่มีเน็ตใช้ ในช่วงนี้ ฮะ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 6:44 am

Buddy. เขียน:
Y u K i เขียน: ปี สะบาโต ( The Seventh Year ) และปีเสียงเขาสัตว์ ( The Year of Restoration )
อธิบายให้ฟังหน่อยสิคับ ผมไม่มีคัมภีร์เก่าไว้ศึกษาด้วยสิ
Read below na ka... and you may go to this link to read the whole Chapter 25... In this translation, ปีเสียงเขาสัตว์ = ปีเสียงแตร .... Sometimes it translates as the Jubilee Year ( like in the New American Bible).. :)

And I'd recommed you to read Chapter 26 too.. I found it very useful in reminding us of keeping the commandment... The Chapter says about Obedience and Disobedience... (I have to thank P' PP again for recommending this scripture.. :) )
เมื่อ พี่บัดดี้ชอบ อ่านบทที่ 26 หนูขอ humble แนะนำว่า ให้พี่ไปอ่าน เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 28 ด้วย เพราะ เป็นการนำ บัญญัติของ เลวีนิติ บทที่ 26 มาตักเตือนใหม่ก่อน ที่โมเสสจะให้โยชูวาจะนำ ลูกหลานอิสราเอล เข้าดินแดนพันธสัญญา ฮะ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 9:48 pm

Jeab Agape เขียน:
Buddy. เขียน:
Y u K i เขียน: ปี สะบาโต ( The Seventh Year ) และปีเสียงเขาสัตว์ ( The Year of Restoration )
อธิบายให้ฟังหน่อยสิคับ ผมไม่มีคัมภีร์เก่าไว้ศึกษาด้วยสิ
Read below na ka... and you may go to this link to read the whole Chapter 25... In this translation, ปีเสียงเขาสัตว์ = ปีเสียงแตร .... Sometimes it translates as the Jubilee Year ( like in the New American Bible).. :)

And I'd recommed you to read Chapter 26 too.. I found it very useful in reminding us of keeping the commandment... The Chapter says about Obedience and Disobedience... (I have to thank P' PP again for recommending this scripture.. :) )
เมื่อ พี่บัดดี้ชอบ อ่านบทที่ 26 หนูขอ humble แนะนำว่า ให้พี่ไปอ่าน เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 28 ด้วย เพราะ เป็นการนำ บัญญัติของ เลวีนิติ บทที่ 26 มาตักเตือนใหม่ก่อน ที่โมเสสจะให้โยชูวาจะนำ ลูกหลานอิสราเอล เข้าดินแดนพันธสัญญา ฮะ
OK ja.. I will... Thanks a lot na ja.. N' Jeab... :-*

If you have any other interesting scriptures to suggest me, please feel free to do so na ja.. :)
ตอบกลับโพส