***จงวางใจในพระเจ้า***

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ พ.ย. 02, 2007 11:17 pm

จงวางใจในพระเจ้า
โปรดปราน ( พีพี )


“อย่าให้เจ้าเดือดร้อนเพราะเหตุคนที่กระทำชั่ว อย่าอิจฉาคนที่ประพฤติผิด...
จงวางใจในพระเจ้า และกระทำความดี...” ( สดุดี 37.1,3 )


การมี “ เครดิต”ที่ทำงานไม่ว่าจะมีเครดิตกับหัวหน้างาน กับเพื่อนร่วมงาน หรือกับลูกน้อง ตลอดจนมีเครดิตกับลูกค้า คือการที่เรามี “ชื่อเสียง”ดี เป็นที่ไว้วางใจ มีชื่อเสียงว่าไม่เบี้ยว สัญญาแล้วทำตามสัญญา มั่นคง รู้จริงในสิ่งที่ทำ ไม่มั่วไม่หลอก ในทางตรงกันข้ามผู้ที่”เครดิต”ไม่ดี คือคนที่ติด “หนี้” เขาไปทั่ว หนี้ที่ว่านี้มิได้หมายถึงเงินทองเสมอไป หนี้คือการไม่ทำตามความรับผิดชอบ ในงานที่ต้องรู้จริงต้องทำเป็น ก็กลายเป็นรู้และทำแบบดำน้ำประเภทงูๆปลาๆแถมสัญญาเกินตัว พอต้องทำตามสัญญา ก็ทำแบบมั่วๆติดงานเขาไปทั่ว ผลคือ ไม่มี “เครดิต” ( อ้างอิง:พอใจ พุกกะคุปต์ คอลัมน์ ถอดรหัสธุรกิจ หนังสือพิมพ์ BizWeek ) ขณะอ่านคอลัมน์ของคุณพอใจ พุกกะคุปต์ ฉันคิดถึงพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม หลายๆตอน ทีเดียว อย่างไรก็ตามขอนำจากบทสดุดีบทที่ 37 (สดด.37:1-11 ) มาแบ่งปันเพราะมีคำแนะนำว่า เราควรทำอย่างไรจึงจะได้รับสันติสุขและมีชีวิตที่สมบูรณ์ และเกิดผล ซึ่งจะสรุปจากพระคัมภีร์ตอนนี้ ว่า “จงวางใจในพระเจ้า” แท้จริงการวางใจในพระเจ้าเป็นหัวใจที่สำคัญในชีวิตคริสตชน เนื้อหาของสดุดีบทนี้เป็นคำสอนที่ดีมาก ซึ่งได้อธิบายถึงบทยากที่สุดของหนังสือทำนายถึงอนาคต (The book of Providence) เกี่ยวกับความก้าวหน้าของคนชั่ว และความอับอายของคนดี มีเนื้อความสำคัญดังนี้

I.ไม่ต้องโกรธแค้น เพราะคนชั่ว

เรื่องใหญ่ที่ทำได้ยาก และไม่มีใครอยากทำ คือเรื่องไม่ต้องโกรธแค้นคนชั่ว เหตุผลที่เราไม่ต้องโกรธแค้น เพราะว่าเรารู้ถึงจุดจบของคนชั่วโดยการทรงสำแดงของพระเจ้าแล้ว ในทำนองเดียวกันที่คริสตชนรู้ว่าจุดจบของตัวเองเต็มไปด้วยสง่าราศี โดยความเชื่อ นับว่าเป็นเรื่องธรรมดามากเมื่อเรามองไปรอบๆ ตัวเราเองเป็นการง่ายที่จะถูกทดลอง หรือถูกยั่ว ให้เดือดร้อนใจต่อสถานการณ์ ต่างๆ ซึ่งทำให้เราผิดหวัง หมดกำลังใจ หรือเจ็บใจ ไม่ว่าเราจะมองไปในสังคมที่เราอยู่ ในประเทศของเรา ข้าราชการ รัฐบาล ตำรวจ ทหาร แม้แต่ภาคเอกชน หรือมองไปนอกประเทศ เราจะรู้สึกว่าโลกนี้มีแต่น้ำมือของคนชั่ว คนเลวกำลังทำงานอยู่ และพวกเขาประสบความสำเร็จ มีแต่ความสมบูรณ์พูนสุข มีความเจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อเรามองหรือคิดอย่างนี้แล้ว จะพบว่าตัวเองกำลังเดือดร้อนและอิจฉาริษยาอยู่

มีคำถามว่า สมควรที่เราจะเดือดร้อนหรือตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าไหม เพราะดูเหมือนพระองค์ทรงเมตตาต่อโลกนี้ แต่ไม่ทรงเมตตาต่อบางประเทศ หรือไม่ทรงเมตตาต่อคริสตจักร หรือพระศาสนจักรของพระองค์ เช่น หลายคริสตจักรและพระศาสนจักรในประเทศเพื่อนบ้านเรา เช่น ลาว เวียดนาม หรือจีน พวกเรามักต่อว่าพระเจ้าว่าทำไมพระองค์ทรงอนุญาตให้คนชั่วเบียดเบียนพระศาสนจักรของพระองค์ และคนชั่วร้ายมีชัยต่อคริสตชน หรือเราสมควรจะอิจฉาริษยาสำหรับอิสรภาพที่พวกคนชั่วร้ายได้รับ เราทำให้พวกเขามั่งคั่ง ทั้งที่เรารู้ว่าเขาได้มาด้วยเล่ห์เหลี่ยม กลอุบายต่างๆ

รูปภาพ

แต่เมื่อเรามองไกลออกไปด้วยสายตาแห่งความเชื่อ เราจะเห็นว่าไม่มีประโยชน์เลยที่เราจะอิจฉาความสำเร็จหรือความมั่งคั่งของเหล่าคนชั่วพวกนั้น เพราะว่าเป็นความเน่าเปื่อย ความเสื่อมเสีย ความหายนะ คอยอยู่ที่ประตูพวกเขาแล้ว เขากำลังเก็บเกี่ยวผลนั้นอย่างรวดเร็ว เช่นในข้อ สดุดีบทที่ 37.2 บอกว่า เพราะไม่ช้าเขาจะเหี่ยวไปเหมือนหญ้า และแห้งไปเหมือนพืชสด คือพวกเขาได้รับความรุ่งเรืองแต่เหมือนหญ้า เหมือนพืชสด คงไม่มีใครเดือดร้อนหรืออิจฉาริษยาต้นหญ้าหรือวัชพืช เพราะเรารู้ว่าในไม่ช้ามันก็จะแห้งเหี่ยวไป หรือการพิพากษาของพระเจ้า เหมือนเคียวของชาวนา พร้อมที่จะตัดพวกคนชั่วช้าทันที นั่นเพราะว่าพวกเขา จะพินาศไปในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง เมื่อถึงเวลาของพระเจ้า โดยเหตุนี้ เราจึงไม่สมควรเดือดร้อน หรืออิจฉาริษยา ผู้ที่ทำผิดเพราะความอิจฉานั้นจะนำให้เราทำบาป มีสิ่งเดียวที่คริสตชนควรทำคือ การวางใจในพระเจ้า

ฉันสังเกตเด็กเล็กๆ จากลูกของพี่ๆ และเพื่อนๆ พวกเด็กๆจะชอบแสดงออกโดยการกระโดดจากที่สูงและเมื่อผู้ใหญ่เช่นพ่อหรือแม่สัญญากับเด็กว่ากระโดดลงมาสิพ่อจะรับ หรือแม่จะรับ เด็กเล็กๆมั่นใจและกระโดดลงมา และเมื่อผู้ใหญ่รอรับเขาอยู่ในอ้อมแขน เด็กจะมีความสุขมากที่ทำได้สำเร็จ เช่นเดียวกับเรา เราจะต้องวางใจถึงขนาดไหน เราต้องวางใจในพระเจ้าจนสุดจิตสุดใจของเรา คือวางใจทั้งหมด (สุภาษิต 3:5ก) ถ้าเราได้วางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเราแล้ว และเรารู้ถึงจุดจบของมนุษย์แล้ว เราได้เข้าใจว่า เราคือใคร ดังนั้นเราจึงไม่ต้องเดือดร้อนหรือบ่นว่า เราไม่ต้องโกรธ ถามตัวเองว่าโกรธเพื่ออะไร เพราะจะชักจูงให้เราทำแต่สิ่งที่ไม่ดี ไม่สมควร หลายคนอาจจะมีจุดอ่อนคือเป็นคนใจร้อน โกรธง่าย ยากในการควบคุมตัวเองให้พ้นจากอารมณ์ โกรธ ฉุนเฉียว ดังนั้นจากจุดอ่อนข้อนี้มักทำให้คนอื่นโจมตีได้ง่าย คนที่อยู่ในอารมณ์โกรธจะแสดงออกโดยกระทำ หรือคำพูดที่ไม่น่าดูเลย เมื่อตอนเราอยู่ในอารมณ์โกรธ ลองส่องกระจกดูตัวเอง บางครั้งอาจจะตกใจที่จะเห็นภาพอันน่าเกลียดน่ากลัวของตัวเองก็ได้ พระวาจาจากสุภาษิต 16:32 หนุนใจเราดังนี้

“บุคคลผู้โกรธช้าก็ดีกว่าคนมีกำลังมาก และบุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้” จึงเห็นว่าความโกรธแค้น ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มีแต่จะนำเราไปในทางที่ผิด ดังนั้นเราไม่ต้องโกรธ สำหรับคนชั่วผู้ซึ่งทำให้เราเจ็บปวด หรือทำสิ่งเลวๆ ต่อต้านเรา เพราะเรารู้ว่าจุดจบของชีวิตเขาเป็นอย่างไร หน้าที่ของเราคือต้องวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเรา

II. มีความปิติยินดีในพระเจ้า

“จงปีติยินดีในพระเจ้า และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน” (สดุดี 37.4 ) “ความยินดีในพระเจ้าเป็นกำลังของข้าฯ”ฉันคิดถึงเพลงนี้ที่เราชอบร้องกันทำนองก็สนุกครื้นเครงดี ผู้ติดตามองค์พระเยซูเจ้าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ การบังเกิดใหม่ ด้วยความเชื่อ โดยพระคุณของพระเจ้า ซึ่งเขาสามารถจะชื่นชมยินดีในความรอดของเขา แม้แต่ทูตสวรรค์ยังไม่มีโอกาสเช่นนั้น พระเจ้าทรงรักพวกเขามากทรงพิสูจน์ความรักของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์โดยความตายของพระเยซูเจ้าบนกางเขน ดังนั้นเราจึงสามารถมีความปิติยินดีในพระเจ้า พลังอำนาจ ทางจิตวิญญาณของพระเจ้าอยู่กับเรา เมื่อเรามีความปิติยินดีในพระองค์ พระเจ้าทรงประทานความปรารถนาดีในจิตใจ ซึ่งแน่นอนทีเดียวว่าทำให้จิตใจเราเต็มไปด้วยความหวังและความชื่นชมยินดี การมีความปิติยินดีในพระเจ้าหมายถึงเรารักพระองค์ ทำให้เป็นที่พอพระทัยต่อพระองค์ และมีความปรารถนาที่จะอยู่เพื่อรับใช้และสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

รูปภาพ

ดังนั้นเราไม่ต้องพูดบ่นว่าอะไร ไม่ต้องมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ต่างๆ เพียงแต่ให้เรามองที่พระเจ้า พระองค์คือเป้าหมายของเราให้เราสงบใจ นิ่ง ต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า คือไม่ต้องบ่นว่า เราไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ถ้าหากว่าเราวางใจในพระเจ้า เราสามารถจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งพระวรสาร นักบุญยอห์นบันทึกว่า พระเยซูตรัส “เราเป็นเถาองุ่นแท้ ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้ว ท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” ( ยอห์น15.5 )หรือ อัครทูตเปาโลบอก “ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” ( ฟิลิปปี 14:13 )

สิ่งที่เราควรทำคือ ต้องอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าและคาดหวังจะได้รับคำตอบจากพระองค์ และอดทนรอคอยเวลาของพระองค์ ซึ่งเชื่อแน่ว่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมเราต้องฝึกที่จะอดทน การคอยท่าเราต้องรอคอยพระองค์ด้วยความอดทน ฉันยืนยันบ่อยครั้งว่าความอดทนนี่ก็เป็นกุญแจดอกสำคัญสำหรับชีวิตคริสตชน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรู้เวลาของพระองค์ ซึ่งจะดีและเหมาะสมสำหรับแต่ละคน
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ พ.ย. 03, 2007 1:32 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ พ.ย. 02, 2007 11:18 pm

III. เราต้องทำดี

“จงสงบอยู่ต่อพระเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์อยู่อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน...
จงระงับความโกรธและทิ้งความพิโรธ อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน มีแต่จะชั่วไป” (สดุดี 37.7,8 )


อันที่จริงเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า มนุษย์ทุกคนต้องทำดี แม้แต่สุภาษิตไทยที่เราคุ้นเคยกันดีคือ “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” จากสุภาษิตบทนี้ บรรพบุรุษของเราหนุนใจชักชวนให้เรากระทำดี ทุกสิ่งทุกอย่าง ในขณะที่มีชีวิตอยู่ ทำดีจนถึงวาระที่ต้องจากโลกนี้ไป

แต่ดูเหมือนว่ายุคนี้คนรุ่นใหม่จะยอมรับคำสอนนี้ไม่ได้เพราะว่าเมื่อเขามองไปรอบข้างตัวเขาเอง เขาเห็นแต่คนที่ทำผิด ทำชั่ว เสวยสุข ประสบความสำเร็จในชีวิต พวกคนคดโกงร่ำรวยจาก หยาดเหงื่อแรงงานของคนอื่น หรือพวกทุจริตกลับเป็นพวกที่อยู่ดีกินดี ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคม นอกจากนั้นแล้วบรรดาลูกหลานของพวกเขามีโอกาสดีกว่าคนอื่นๆ ไม่ว่าทางด้านการศึกษาหรือหน้าที่การงาน ส่วนคนดีๆยังคงยากจน ยังคงลำบาก แสนเข็ญ บางครั้งคนที่ทำดียังถูกกลั่นแกล้ง ทำให้คนดีๆ หมดกำลังใจที่จะทำดี ดูเหมือนสุภาษิตไทยบทนี้จะกลับกันคือ “ทำดีได้ชั่ว ทำชั่วได้ดี” หรือพวกคนยุคใหม่ท่องกันว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป” ดังนั้นทำให้คนที่ซื่อสัตย์ คนดี สุจริตทั้งหลายเกิดความโกรธแค้น เดือดร้อนต่อสิ่งเหล่านี้ บางครั้งทำให้บางคน เริ่มจะทำผิดไม่มีคุณธรรม ไม่มีศีลธรรม จริยธรรมต่ำ เพราะได้ลอกเลียนแบบจากคนชั่วที่เสวยสุข และไม่เห็นพวกเขาถูกลงโทษ

ในสังคมชาวคริสต์ ผู้เชื่อทุกคนมีความปรารถนาจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินสวรรค์บนดิน แต่ไม่น่าเชื่อ เพราะคนประเภทนี้อยู่สังคมชาวคริสต์ ทำให้เรารู้สึกท้อใจ สูญเสียกำลังใจ หรือบางครั้งทำให้ผู้เชื่อใหม่หรือคริสตชนที่ไม่เข้มแข็งสะดุดและหันไปจากพระเจ้า แต่คริสตชนที่เป็นผู้ใหญ่ต้องจำสิ่งนี้ คือ เราสามารถทำดีได้ตราบใดที่เราวางใจในพระเจ้า เมื่อเรามีความเชื่อที่แท้จริง ในองค์พระเยซูคริสต์ ผู้ทรงทนต่อคำคัดค้าน ของคนบาปเพื่อไม่ให้เรารู้สึกท้อถอย (ฮีบรู 12:3) เราจึงสามารถมีสันติสุขอย่างแท้จริง ในจิตใจของเรา เราต้องมีความเชื่อ ความเชื่อที่เข้มแข็ง การวางใจ คือวางใจทั้งหมดในพระเจ้า นั่นเป็นทางเดียวที่จะมีสันติสุข การรักพระเจ้า รักพระเยซู ผู้ซึ่งทรงรักษาก่อนนั้นเป็นกำลังสำคัญของเรา

รูปภาพ

การวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า เราต้องมอบทางของเราไว้กับพระองค์ เพราะพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ทรงสัพพัญญู ( Omniscience ) คือผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์ไม่ทรงจำกัดในด้านความรู้ ดังนั้นเราจึงสมควรที่จะมอบทางของเราทั้งหมดไว้กับพระองค์ คริสตชนจำนวนมากก็ชอบแขวนความเชื่อของตนเองไว้กับคนอื่น ซึ่งเมื่อคนที่เขาวางใจนั้นล้มลง เขาก็ผิดหวัง หรือบางคนล้มลงไปด้วย เมื่อเราวางใจในพระเจ้าแล้ว เราต้องมอบชีวิตทั้งชีวิตของเราอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์แล้วพระองค์จะเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองเรา เพราะนี่เป็นพระสัญญาของพระเจ้า สำหรับผู้ที่เชื่อและวางใจในพระสัญญานั้น ในสดุดี 34:15 “พระเนตรของพระเจ้าเห็นคนชอบธรรม และพระกรรณของพระองค์สดับคำอ้อนวอนของเรา และใน มัทธิว 13:43 ในคราวนั้นผู้ชอบธรรมจะส่องสว่างอยู่ในแผ่นดินพระบิดาของเขาดุจดวงอาทิตย์

ตราบใดที่เราวางใจในพระเจ้าอย่างแท้จริง ทัศนคติและบุคลิกภาพของเราจะเปลี่ยนไป เราจะไม่โกรธแค้น คนชั่ว คนอธรรม ตรงกันข้ามเราจะมีแต่ความปิติยินดีในพระเจ้า และเราจะเป็นผู้ที่ทำแต่สิ่งที่ดี เราจะคล้ายองค์พระเยซูเจ้า ผู้เป็นพระเจ้า แห่งความรอดของเรา เราจะต้องเป็นคนอ่อนสุภาพ เราสามารถที่จะแบ่งปัน ความรักและพระพรของพระเจ้าที่เราได้รับให้แก่คนอื่น และยิ่งมีความหมายมากต่อคนอ่อนแอในความเชื่อ และคนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า เราควรจำสิ่งนี้ให้ดีคือ พระเจ้าไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานการณ์ต่างๆ ก่อน แต่พระประสงค์คือการเปลี่ยนแปลง บุคลิกของเรา พระประสงค์ให้คริสตชนเหมือนพระองค์ผู้ซึ่งบริสุทธิ์และองค์สมบูรณ์


หมายเหตุ ( ตีพิมพ์ อิสระรายปักษ์ ฉบับที่ 93 ปักษ์หลัง –กันยายน 2007 หน้า 4-8 )
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ พ.ย. 03, 2007 1:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ พ.ย. 02, 2007 11:22 pm

สดุดี บทที่ 37

1อย่าให้เจ้าเดือดร้อนเพราะเหตุคนที่กระทำชั่ว   
อย่าอิจฉาคนที่ประพฤติผิด   
2เพราะไม่ช้าเขาจะเหี่ยวไปเหมือนหญ้า   
และแห้งไปเหมือนพืชสด   
3จงวางใจในพระเจ้า  และกระทำความดี   
ท่านจึงอาศัยอยู่ในแผ่นดินและชื่นบานอยู่กับความปลอดภัย   
4จงปีติยินดีในพระเจ้า   
และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน   
5จงมอบทางของท่านไว้กับพระเจ้า   
วางใจในพระองค์  และพระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ   
6พระองค์จะทรงให้ความยุติธรรมแก่ ท่านกระจ่างอย่างความสว่าง   
และให้สิทธิของท่านแจ้งอย่างเที่ยงวัน   
7จงสงบอยู่ต่อพระเจ้า  และเพียรรอคอยพระองค์อยู่   
อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อนเพราะเหตุ   ผู้ที่เจริญตามทางของเขา   
หรือเพราะเหตุผู้ที่กระทำตามอุบายชั่ว   
8จงระงับความโกรธ   และทิ้งความพิโรธ   
อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน   มีแต่จะชั่วไป   
9เพราะคนที่กระทำชั่วจะถูกตัดออกไป   
แต่บรรดาผู้ที่รอคอยพระเจ้าจะได้ แผ่นดินตกไปเป็นมรดก   
10ยังอีกหน่อยหนึ่ง  คนอธรรมจะไม่มีอีก   
แม้จะมองดูที่ที่ของเขาให้ดีเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น   
11แต่คนใจอ่อนสุภาพจะได้แผ่นดินตกไปเป็น มรดก   
และตัวเขาปีติยินดีในความเจริญอุดมสมบูรณ์   
12คนอธรรมปองร้ายคนชอบธรรม   
และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เขา   
13แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระสรวลต่อคนอธรรม   
เพราะพระองค์ทอดพระเนตรเห็นวันเวลาของเขากำลังมา   
14คนอธรรมชักดาบและโก่งคันธนู   
เพื่อเอาคนจนและคนขัดสนลง   
เพื่อสังหารคนที่เดินอย่างเที่ยงธรรม   
15ดาบของเขาจะเข้าไปในใจของเขาเอง   
และคันธนูของเขาจะหัก   
16เล็กๆน้อยๆที่คนชอบธรรมมี  ก็ดีกว่า   
ความอุดมสมบูรณ์ของคนอธรรม17เพราะแขนของคนอธรรมจะหัก   
แต่พระเจ้าทรงเชิดชูคนชอบธรรม   
18พระเจ้าทรงทราบวันเวลาของคนไร้ตำหนิ   
และมรดกของเขาจะดำรงอยู่เป็นนิตย์   
19เขาจะไม่ได้อายในยามชั่วร้าย   
ในวันกันดารเขาจะมีอุดมสมบูรณ์   
20แต่คนอธรรมจะพินาศ   
ศัตรูของพระเจ้า  เหมือนสง่าของทุ่งหญ้า   
เขาอันตรธานไป  อันตรธานไปเหมือนควัน   
21คนอธรรมขอยืม  และไม่จ่ายคืน   
แต่คนชอบธรรมนั้นใจกว้างขวางและแจกจ่าย   
22เพราะบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงอำนวยพระพร   จะได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก   
แต่บรรดาผู้ที่ถูกพระองค์สาป   จะต้องถูกตัดออกไปเสีย   
23ถ้าพระเจ้าทรงนำย่างเท้าของมนุษย์คนใด   
และคนนั้นพอใจในมรรคาของพระองค์   
24แม้เขาล้ม  เขาจะไม่ถูกเหวี่ยงลงเหยียดยาว   
เพราะว่าพระหัตถ์พระเจ้าพยุงเขาไว้   
25ข้าพเจ้าเคยหนุ่ม  และเดี๋ยวนี้แก่แล้ว   
แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง   
หรือลูกหลานของเขาขอทาน   
26เขาแจกจ่ายอย่างกว้างขวางและให้ยืมเสมอ   
และลูกหลานของเขาก็เป็นคำพร   
27จงพรากเสียจากการชั่ว  และกระทำ
ความดี   
และท่านจะดำรงอยู่เป็นนิตย์   
28เพราะพระเจ้าทรงรักความยุติธรรม   
พระองค์จะไม่ทอดทิ้งธรรมิกชนของพระองค์   
จะทรงสงวนคนเหล่านั้นไว้เป็นนิตย์   
แต่ลูกหลานของคนอธรรมจะถูกตัดออกไปเสีย   
29คนชอบธรรมจะได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก   
และอาศัยอยู่บนนั้นเป็นนิตย์   
30ปากของคนชอบธรรมเปล่งสติปัญญา   
และลิ้นของเขาพูดความยุติธรรม   
31พระธรรมของพระเจ้าอยู่ในจิตใจของเขา   
และย่างเท้าของเขาจะไม่พลาด   
32คนอธรรมเฝ้าดูคนชอบธรรม   
และแสวงที่จะสังหารเขาเสีย   
33พระเจ้าจะไม่ทรงทิ้งเขาไว้ในมือของเขา   
หรือให้เขาถูกปรับโทษเมื่อเขาขึ้นศาล   
34จงรอคอยพระเจ้า  และรักษาทางของพระองค์ไว้   
และพระองค์จะยกย่องท่านให้ได้แผ่นดินตกไปเป็นมรดก   
ท่านจะมองเห็นการที่คนอธรรมถูกทำลาย   
35ข้าพเจ้าเห็นคนอธรรมมีอำนาจมากยิ่ง   
และสูงเด่นอย่างต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน   
36เขาได้ผ่านไป  และนี่แน่ะ  ไม่มีเขาเสียแล้ว   
ถึงข้าพเจ้าจะแสวงหาเขา  ก็ไม่พบเขา   
37จงหมายคนไร้ตำหนิไว้  และมองดูคนเที่ยงธรรม   
เพราะสันติชนจะมีอนาคต   
38แต่ผู้ละเมิดจะถูกทำลายเสียด้วยกัน   
อนาคตของคนอธรรมจะถูกตัดออกไปเสีย   
39ความรอดของคนชอบธรรมมาจากพระเจ้า   
พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของเขาในเวลายากลำบาก   
40พระเจ้าทรงช่วยเขาและทรงช่วยกู้เขา   
พระองค์ทรงช่วยกู้เขาจากคนอธรรมและทรงช่วยเขาให้รอด   
เพราะเขาทั้งหลายเข้าลี้ภัยในพระองค์ เป็นอันมาก 
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ พ.ย. 03, 2007 1:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ พ.ย. 03, 2007 12:25 am

บทความนี้เข้ากับสถานการณ์ในบอร์ดช่วงนี้มากทีเดียว
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ พ.ย. 03, 2007 10:10 am

คิดถึงเรื่องหนึ่ง ที่เจี๊ยบถูกบังคับให้ไปฟัง การบรรยาย เกี่ยวกับ คำสอนของพระเจ้าอยู่หัว โดย ศ.นพ.เกษมองคมนตรี

ซึ่งหมอเกษมพูดได้แบ่งเป็นชุดๆ หลายชุดด้วยกัน เจี๊ยบจำสะเปะสะปะไปหมด หลักๆที่อยู่ในสมอง และคิดถึงบ่อยครั้ง เช่น

"การทำดีเพื่อความดี" ในหลวงทรงสอนเรื่องการทำดี ไม่ว่าใครจะตอบแทนเลวร้ายอย่างไร เราก็ต้องทำดี
เพราะความดี ก็คือความดี ทำดีก็เพื่อความดี   วันนั้นหมอเกษมเกรงว่าคนเขลาอย่างพวกเราอาจจะไม่เข้าใจ ท่านเลยยกตัวอย่าง
สมัยหมอเกษม เป็นคณะบดี ที่ ม.เชียงใหม่ มีแม่เลี้ยงท่านหนึ่ง เป็นแม่เลี้ยงที่ใจกว้างใจดี ให้ทุนนักศึกษแพทย์ ม.ช.หลายทุนด้วยกัน
ทุกเดือนแม่เลี้ยงจะเชิญนักศึกษาทุนไปทานอาหารด้วย เพื่อพบปะและเบิกเงินเดือน (ของทุน ) จนกระทั่งวันหนึ่งแม่เลี้ยงป่วย ไปหาหมอ
ขึ้นลิฟด้วยกันกับอดีตนักศึกษาทุนของท่าน ตอนนี้เขาเป็นหมอเต็มตัวที่รพ.ที่แม่เลี้ยงไปหาหมอ ปรากฏว่า เจ้าหมอรายนั้นไม่ทักแม่เลี้ยงสักคำ
ทำเป็นไม่รู้จัก  เมื่อออกจากลิฟ แม่เลี้ยงเจอหมอเกษม ก็ต่อว่า ด่าพวกนักศึกษาทุนว่า อกตัญญู ต่อไปนี้ "เปิ้ล" ไม่ให้ทุนแล้ว และจริงๆ
แม่เลี้ยงยกเลิกทุน น.ศ.แพทย์ทั้งหมด ..............เพราะเจ้าหมออกตัญญูคนนั้นคนเดียว :cry: หมอเกษม เลยกล่าวว่า ถ้าเราทำดีเพื่อความดี
แม่เลี้ยงไม่ต้องท้อไปยกเลิกทุน เพราะแม่เลี้ยงให้ทุนเพราะทำดี ซึ่งทุกๆคนก็นับถือน้ำใจและยกย่องอยู่แล้ว

ขอเราภาวนาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระพี่นางต่อไป ครับ :wink:
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ เสาร์ พ.ย. 03, 2007 10:20 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ พ.ย. 03, 2007 11:14 am

ยากเหมือนกันนะ  แต่ถ้าได้ลองวางใจซักครั้ง  มันก็จะเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ  พระองค์ทำอะไรไม่มากกว่าเรา  และเหนือความคาดหมาย

ชอบอันนี้อ่ะ ...
ตราบใดที่เราวางใจในพระเจ้าอย่างแท้จริง ทัศนคติและบุคลิกภาพของเราจะเปลี่ยนไป เราจะไม่โกรธแค้น คนชั่ว คนอธรรม ตรงกันข้ามเราจะมีแต่ความปิติยินดีในพระเจ้า และเราจะเป็นผู้ที่ทำแต่สิ่งที่ดี เราจะคล้ายองค์พระเยซูเจ้า ผู้เป็นพระเจ้า แห่งความรอดของเรา เราจะต้องเป็นคนอ่อนสุภาพ เราสามารถที่จะแบ่งปัน ความรักและพระพรของพระเจ้าที่เราได้รับให้แก่คนอื่น และยิ่งมีความหมายมากต่อคนอ่อนแอในความเชื่อ และคนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า เราควรจำสิ่งนี้ให้ดีคือ พระเจ้าไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานการณ์ต่างๆ ก่อน แต่พระประสงค์คือการเปลี่ยนแปลง บุคลิกของเรา พระประสงค์ให้คริสตชนเหมือนพระองค์ผู้ซึ่งบริสุทธิ์และองค์สมบูรณ์
ขอบคุณมากค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

เสาร์ พ.ย. 03, 2007 2:14 pm

ชอบมาก
เราชอบเอาพระวาจาของพระเจ้า สั้นๆๆที่ได้ใจความ  ไปเขียนแปะตู้เย็น
เพื่อพ่อแม่จะได้มาอ่านน และเข้าใจ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ พ.ย. 03, 2007 3:40 pm

แบกะดิน เขียน: ชอบมาก
เราชอบเอาพระวาจาของพระเจ้า สั้นๆๆที่ได้ใจความ  ไปเขียนแปะตู้เย็น
เพื่อพ่อแม่จะได้มาอ่านน และเข้าใจ
เหมือนกับกลุ่ม โฟโคลาเร (ถูกเปล่า ) ใช้พระวาจาทรงชีวิต ที่บ้านได้รับ นะครับ พระวาจา เดือนนี้ "ไม่มีชาติยิ่งใหญ่ชาติใด มีบทบัญญัติเหมือนดังที่ข้าพเจ้าสอนพวกท่านอยู่ทุกวันนี้ " (ฉธบ.4.8 )
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ พ.ย. 03, 2007 7:56 pm

Buddy เขียน: ยากเหมือนกันนะ  แต่ถ้าได้ลองวางใจซักครั้ง  มันก็จะเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ  พระองค์ทำอะไรไม่มากกว่าเรา  และเหนือความคาดหมาย

ชอบอันนี้อ่ะ ...
ตราบใดที่เราวางใจในพระเจ้าอย่างแท้จริง ทัศนคติและบุคลิกภาพของเราจะเปลี่ยนไป เราจะไม่โกรธแค้น คนชั่ว คนอธรรม ตรงกันข้ามเราจะมีแต่ความปิติยินดีในพระเจ้า และเราจะเป็นผู้ที่ทำแต่สิ่งที่ดี เราจะคล้ายองค์พระเยซูเจ้า ผู้เป็นพระเจ้า แห่งความรอดของเรา เราจะต้องเป็นคนอ่อนสุภาพ เราสามารถที่จะแบ่งปัน ความรักและพระพรของพระเจ้าที่เราได้รับให้แก่คนอื่น และยิ่งมีความหมายมากต่อคนอ่อนแอในความเชื่อ และคนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า เราควรจำสิ่งนี้ให้ดีคือ พระเจ้าไม่ประสงค์เปลี่ยนสถานการณ์ต่างๆ ก่อน แต่พระประสงค์คือการเปลี่ยนแปลง บุคลิกของเรา พระประสงค์ให้คริสตชนเหมือนพระองค์ผู้ซึ่งบริสุทธิ์และองค์สมบูรณ์
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ น้องบัดดี้ที่อ่านอย่างละเอียด และเราคงต้องฝึกกันต่อไป :cheesy:
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ พ.ย. 03, 2007 8:01 pm

Jeab Agape เขียน: คิดถึงเรื่องหนึ่ง ที่เจี๊ยบถูกบังคับให้ไปฟัง การบรรยาย เกี่ยวกับ คำสอนของพระเจ้าอยู่หัว โดย ศ.นพ.เกษมองคมนตรี

ซึ่งหมอเกษมพูดได้แบ่งเป็นชุดๆ หลายชุดด้วยกัน เจี๊ยบจำสะเปะสะปะไปหมด หลักๆที่อยู่ในสมอง และคิดถึงบ่อยครั้ง เช่น

"การทำดีเพื่อความดี" ในหลวงทรงสอนเรื่องการทำดี ไม่ว่าใครจะตอบแทนเลวร้ายอย่างไร เราก็ต้องทำดี
เพราะความดี ก็คือความดี ทำดีก็เพื่อความดี   
พระบรมราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงชี้ให้ทำดีเพื่อความดี พระองค์ทรงยกตัวอย่าง "การติดทองหลังพระ" ความว่า

"คนโดยมากไม่ชอบปิดทองหลังพระนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย
พระจะเป็นพระที่สมบูรณ์ไป ไม่ได้ "
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ พ.ย. 03, 2007 9:59 pm

Prod Pran เขียน:
ขอบคุณค่ะ น้องบัดดี้ที่อ่านอย่างละเอียด และเราคงต้องฝึกกันต่อไป :cheesy:
ไม่รู้พี่เคยเขียนเรื่อง  บุญลาภ 8 ประการ (Beattitudes) รึยังนะคะ  อยากอ่านค่ะ  ( request นิดนึงนะคะ  : xemo016 :)
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ พ.ย. 04, 2007 7:13 am

Buddy เขียน:
Prod Pran เขียน:
ขอบคุณค่ะ น้องบัดดี้ที่อ่านอย่างละเอียด และเราคงต้องฝึกกันต่อไป :cheesy:
ไม่รู้พี่เคยเขียนเรื่อง  บุญลาภ 8 ประการ (Beattitudes) รึยังนะคะ  อยากอ่านค่ะ  ( request นิดนึงนะคะ  : xemo016 :)
กำลังเขียนค่ะ พี่แบ่งเป็น 2 ตอน เขียนเสร็จแล้ว 1 ตอน เหลือ อีก 1 ตอน กะว่าจะลงอิสระรายปักษ์ ต้นปีหน้าค่ะ

ขอบคุณค่ะน้อง ที่สนับสนุน นักเขียนหน้าใหม่ :cheesy: อีกวันสองวัน คงได้อ่าน เรื่อง น้ำธำรงชีวิต
ตอนนี้น่าจะออกจากโรงพิมพ์แล้ว ไม่กล้าตัดหน้าอิสระ เดี๋ยว บก.จะฉุนเอา :grin:
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ย. 05, 2007 3:09 pm

แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ จันทร์ พ.ย. 05, 2007 3:36 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ย. 05, 2007 8:24 pm

"ฉันได้วางใจในพระเจ้า เดินไปกับพระองค์  ฉันไม่ล้มลงเพราะพระทรงนำพา" : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

พุธ พ.ย. 07, 2007 7:20 pm

จงวางใจในพระยาเวห์ เพราะข้าจะสรรเสริญพระองค์อีก พระองค์ทรงเป็นความรอด พระเจ้าของข้า
nologocom77
โพสต์: 20
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 30, 2007 12:34 pm

ศุกร์ พ.ย. 16, 2007 2:12 pm

:afro:
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ก.ค. 23, 2010 3:29 pm

"พระเยซูเจ้า ลูกวางใจในพระองค์"

JESUS I TRUST IN YOU.
ตอบกลับโพส