~@~ความลับของความทุกข์ยาก~@~

รวม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
เข้าใจ พระคัมภีร์ ชีวิต และคำสั่งสอนของพระเยซูคริสต์ ตามลำดับ อย่างง่ายๆ
ตอบกลับโพส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ม.ค. 25, 2005 8:02 am

“ ความลับของความทุกข์ยาก ภาค 1”"

เราได้บอกความจริงเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบ
ความทุกข์ยากลำบาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว " ( ยอห์น 16:38 )

พี่พีพีมีโอกาสอ่านหนังสือหนุนใจของคริสเตียนชื่อ " ทุกขภาพ และสันติภาพ " จึงอยากจะนำบางส่วนาเล่าสู่กันฟัง....... เคล็ดลับของความทุกข์ยากลำบาก.............

เชื่อว่าทุกๆคนพอใจในสันติสุข และไม่ชอบความทุกข์ยากลำบากแน่นอน แต่ทว่า"ความทุกข์ยากลำบากและสันติสุข อยู่ภายในแผนงานของพระเจ้า " คนทั่วๆไปกลัวความทุกข์ยากลำบาก แต่ถ้าท่านเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้า ท่านจะได้สัมผัสกับคุณค่าของความทุกข์ยากลำบาก

ความทุกข์ยากลำบากคืออะไร

ที่เราเรียกว่า "ทุกข์" ก็คือทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ที่กระทบถูกจิตวิญญาณจิต ( อารมณ์ความรู้สึก ) และร่างกาย ทำให้เกิดความไม่สบาย เช่นโรคถัย ไข้เจ็บ พิการ พิการแต่กำเนิด ถูกทารุณทุบตี หนาวและหิวกระหาย ความอับอาย สิ้นเนื้อประดาตัว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือความทุกข์ฝ่ายกาย ยังมีความทุกข์ฝ่ายจิตวิญญาณ เช่น คนที่แสดงท่าทีไม่ดีต่อสิ่งที่เราเชื่อ ความรู้สึก ผิด-ถูก รู้จักอับอาย ถุกทำลายชื่อเสียง โดนใส่ร้ายป้ายสี ถูกเข้าใจผิด ฯลฯ ซึ่งเป็นความปวดเร้าอย่างยิ่ง

พระเยซูคริสต์ทรงได้รับทุกข์ทรมานมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์พระคริสต์ทรงได้รับความทุกข์ยากลำบากมากที่สุด เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า แล้วถ่อมพระกายมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ในด้านวรกาย ทรงสภาพต่ำต้อยที่สุด ทรงยากจน ไม่มีที่ซุกหัวนอน วันที่เสด็จเข้าสู่เยรูซาเล็มเพื่อทำพันธกิจที่ยิ่งใหญ่ ก็ไม่มีพาหนะของตัวเอง ทรงให้สาวกยืมลูกลา เมื่อถึงวันสุดท้าย ถูกประจานให้อับอายหลังจากคลื่นมหาชนม์ ช่วยกันพิพากษา ให้ตรึงที่กางเขน บนถนนไปสู่ความตาย ถูกเยาะเย้ย ด้วยมงกุฏหนาม การเฆี่ยนตี การถ่มน้ำลายรดพระพักตร์ เมื่อสิ้นพระชนม์ ยังไม่มีอุโมงค์ฝังพระศพ จึงต้องยืมหลุมคนอื่น ภาพของพระเยซูคริสต์ที่เราอ่านจากพระกิตติคุณทั้ง 4 เล่ม เริ่มต้นด้วยความทุกข์ สิ้นสุดด้วยความทุกข์ทรมานแสนสาหัส แต่นั่นคือพันธกิจ การทรงไถ่ เพื่อมวลมนุษยชาติ ที่สามารถกลับไปหาพระเจ้าพระบิดาได้ โดยทางพระองค์ ผู้ซึ่งจ่ายค่าจ้างของความบาปด้วยชีวิตของพระองค์เอง
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ม.ค. 25, 2005 8:04 am

“ ความลับของความทุกข์ยาก ภาค 2”

ความทุกข์ทรมานแบ่งออกได้ 4 ประเภทดังนี้

1.ความทุกข์ที่ผ่านมาจากตัวเรา ( ที่กล่าวว่าตัวเราหมายถึงตัวบุคคลทั้งคน ) ความทุกข์เหล่านี้เป็นความทุกข์ทั่วๆไปเช่น โดนลมพายุพัดผ่าน ต้นไม้ใหญ่ล้ม รถตีลังกาหงายท้อง เรือจมทะเล ไม่ทราบหลายคนเข้าใจหรือไม่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า เมื่อพายุผ่านไป พายุก็ได้เอาเชื้อโรคและโรคภัยไข้เจ็บในสถานที่นั้นไปหมด และทำให้อากาศสิ่งแวดล้อมแปรเปลี่ยนใหม่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์มาก
ตัวอย่างที่ดี คือโยบ เมื่อได้รับทุกข์อย่างแสนสาหัส โยบ 42.10 " พระเจ้าให้โยบกลับคืนสู่สภาพดี...และพระเจ้าทรงประทานให้โยบมีมากเป็นสองเท่าของที่มีอยู่ก่อน " ถ้าเรามีความทุกข์เช่นนี้ไม่น่าวิตกกังวล

2.เป็นความทุกข์ที่เราได้รับจากคนอื่น .....ความทุกข์เช่นนี้เปรียบเหมือนแม่น้ำสายหนึ่งมาขวางกั้นเรา ถ้าเราอยากจะข้ามไปอีกฝั่ง เราจำเป็นต้องลุยน้ำนี้ ชีวิตมนุษย์เหมือนหนทางที่ยาวไกล ต้องเดินบนที่ราบ ปีนป่ายภูเขา เดินผ่านถิ่นทุรกันดาร ข้ามลำห้วย ฯลฯ ชีวิตล้มลุกคลุกคลานซึ่งบางคนเรียกสิ่งนี้ว่าชะตาชีวิต

โยบ 5.7 "แต่มนุษย์เกิดมาเพื่อความยากลำบาก..." การที่มนุษยืไม่สามารถรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง เป็นการดี มิฉะนั้นเราจะวิตกกังวล และไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป แต่การที่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตบ้าง เราจึงไม่วิตกกังวลมากนัก หรือเราสามารถพึ่งพาพระเจ้าอย่างใจจดจ่อได้

3.ความทุกข์ลำบากที่อยู่รอบๆตัวเราเสมอ แต่ไม่สามารถเข้าใกล้เราได้ เมื่ออ่านเรื่องของดาวิด ที่ถูกกษัตริย์ซาอูลตามล่าตลอดชีวิต ซาอูลเองทรงทราบว่าพระเจ้าทรงเจิมเด็กหนุ่มคนนี้เพื่อจะเป็นกษัติริย์แทนพระองค์ จึงอยากทำลายชีวิตเขา พระคัมภีร์บันทึกว่า ดาวิดหลบการทำร้ายของกษัตริย์ซาอูลถึง 8 ครั้ง แต่ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย แม้ว่าบางครั้งเขาถูกห้อมล้อมไปด้วยทหารของกษัตริย์ซาอูล " ข้าแด่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นโล่ ล้อมรอบตัวข้าพเจ้า ป้องกันศรีษะของข้าพระองค์ และทรงเป็นผู้ชูศรีษะของข้าพระองค์ไว้...." ( สดุดี 3.3 ) และข้อ 6 กล่าวว่า "ข้าพเจ้าไม่กลัวคนเป็นหมื่นๆ ซึ่งตั้งตน่อสู้ข้าพเจ้าอยู่รอบด้าน"

4.ความทุกข์ยากลำบากที่อยู่กับเราตลอดเวลา นี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่ายมาก บางคนมีร่างกายที่พิการ และมีปมด้อยว่าทำไมตัวเองไม่สมประกอบเหมือนคนอื่นๆ รู้สึกเสียใจ บางคนหาทางแก้ไขข้อบกพร่องนั้น แต่บางคนแก้ไม่ได้ต้องเป็นอย่างนั้นตลอดชีวิต จึงรู้สึกละอาย วิตกกังวล

หรือบ่อยครั้งในบางครอบครัวมักจะมีเรื่องต่างๆให้วิตกกังวลเสมอ หรือบางคนมีปัญหากับสุขภาพของตัวเอง ซึ่งมีแต่ความเจ็บป่วยบ่อยๆ ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน.....หรือบางคนมักถูกโจมตีเสมอๆ หรือบางครั้งถูกทำร้ายข้างหลัง บางคนมีชีวิตที่ยากจนทุกข์ลำบากเสมอๆ มักจะมีคำถามว่า "ทำไมฉันเกิดมาไม่เคยสุขสบายเหมือนเพื่อนๆเขา"

นักบุญเปาโล กล่าวใน 2 โครินธ์ 12.7 " พระองค์ทรงประทานหนามใหญ่ ในเนื้อของข้าพเจ้า " หนามใหญ่ที่นักบุญเปาโลกล่าวถึง คือความทุกข์ทรมานที่อยู่กับท่านตลอดชีวิต หนามใหญ่นี้ อาจจะไม่ใช่เชื้อโรคเสมอไป หนามนี้อาจจะเป็นทูตของซาตาน ซึ่งคอยทุบตีและโจมตีท่าน ถามว่านักบุญเปาโลท้อแท้ไหม คำตอบไม่เลย เพราะท่านพึ่งในพระเจ้า ผู้ทรงมี "พระคุณเพียงพอแก่ท่าน" และ"ฤทธิ์เดชที่ครบถ้วน" ดังนั้นจึงทำให้นักบุญเปาโลมีความอดทนอย่างเพียงพอ เพราะว่าพระคุณของพระเจ้านั้นเพียงพอ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ม.ค. 25, 2005 8:06 am

“ ความลับของความทุกข์ยาก ภาค 3 “

แหล่งของความทุกข์ยากลำบาก


1.มาจากการฝึกฝนของพระเจ้า:

เพราะพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้สาวกของพระองค์ สะอาด บริสุทธิ์ และดีรอบคอบ ยิ่งกว่านั้นคือรู้จักพระเจ้าดียิ่งขี้น ดังนั้นความทุกข์ยากลำบากเป็นอุปกรณ์ฝึกฝนผู้ที่เชื่อทั้งหลาย และทรงอนุญาตให้ผู้เชื่อประสบความทุกข์ยาก ซึ่งเป็นน้ำพระทัยที่ดีของพระองค์ เหมือนเวลาที่เราเจ็บป่วยและไปให้หมอรักษา เช่นต้องทำการผ่าตัด การผ่าตัดของหมอ คือ กระบวนการรักษา ไม่ใช่เพื่อการฆ่า ดังนั้นดูตัวอย่างเรื่องของโยบ เขาเองพบสัจธรรมอย่างหนึ่งคือ "...แม้ถ้าเขาผ่านการทดสอบของพระเจ้าได้แล้ว เขาจะมีค่ามากกว่าทองคำ "

2.มาจากการโจมตีของมาร:

มารก็เป็นศัตรูตัวร้ายกาจ ที่ไม่พอใจที่จะเห็นธรรมิกชนได้รับพระคุณ ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง ถวายเกียรติ แด่พระเจ้า มารได้ฟ้องร้องพี่น้องต่อพระพักตร์ พระเจ้าทั้งวันและคืน มารยังไปๆมาๆ บนแผ่นดินโลก มันค้นหาร้อยแปด พันวิธี ในการทำลายธรรมิกชน ในยากอบ 4.7 เราต้องต่อสู้กับมาร แล้วมันจะหนีไป 1 เปโตร 5.9 เราต้องอาศัยความเชื่อที่แน่วแน่ ่อสู้กับมาร

3.มาจากการรบกวนของมนุษย์:

ทุกข์ชนิดนี้คือ พวกเรากันเอง หรือก่อทุกข์ให้ตัวเอง เช่นภรรยาของโยบว่า "ยังจะซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าอีกหรือ จงทิ้งพระเจ้าและตายเสียเถอะ " ( โยบ 2.9 ) ทำให้เห็นว่าภรรยาของโยบอ้าปากกล่าวร้ายแทนมารร้าย มุงหวังที่จะให้โยบท้อหมดกำลังใจ

มีหลายคนเมื่อประสบความยากลำบาก ได้แสดงออก ถึงท่าทีต่างๆที่ไม่สมควร เช่นการบ่นต่อว่าฟ้าและ ดิน โกรธจัดและด่าหยาบคาย และเย็นชาลงต่อพระเจ้า สงสัยความรักของพระเจ้า หน้านิ่วคิ้วขมวด มองอะไรก็ห่อเหี่ยว ใจหดหู่ แล้วตัดสินใจทำความผิดบาป แต่ผู้ที่มีความเชื่อเข้มแข็ง ยกให้พระเจ้าเป็นหนึ่งไม่หันซ้ายเอียงขวา มีความเชื่อและวางใจต่อพระเจ้าตลอดเวลา พึ่งพาพระองค์แต่ผู้เดียว
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ม.ค. 25, 2005 8:08 am

“ ความลับของความทุกข์ยาก ภาค 4 “

ความทุกมีประโยชน์ 3 ประการ

1.ทำให้เรารู้จักสารภาพบาป และแสวงหาความบริสุทธิ์ เมื่อเราได้รับความทุกข์ เราต้องตรวจสอบตัวเอง ตัวเองอาจจะมีบาป เมื่อค้นพบแล้ว จึงสารภาพแล้วกลับใจใหม่

2.ทำให้คนกลับใจ กระตือรือร้นรับใช้พระเจ้า บางครั้งเราอาจจะเย็นชากับพระเจ้า ค่อยๆห่างเหินออกไปจากพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงอาศัยทูตของพระองค์มาเฆี่ยนตีเรา เพื่อทำให้เรากลับใจและกระตือรือร้น

3. ทำให้เกิดการเห็นอกเห็นใจ และมีความรักกัน มีความเข้าใจความเจ็บปวดของคนอื่น เนื่องจากตัวเองก็เคยอยู่ในสภาพนั้นมาก่อน จึงมีจิตใจเอื้ออาทร จิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความเข้าใจ

%% ไม่ว่าจะได้รับพระพรหรือภัยภิบัติ ก็ยังสรรเสริญโมทนา

เมื่อถึงจุดนี้จิตวิญญาณของโยบสูงขึ้น เขาเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้า เมื่อเขาได้ยินเสียงรายงานจากทาส เขาจึงรู้ทันทีว่าตัวเองควรจะสนองตอบเช่นไร ดังนั้น เขาจึง

1.ฉีกเสื้อคลุมของตัวเอง แสดงถึงความเจ็บปวดและโศกเศร้า
2.โกนศรีษะให้ล้าน แสดงออกถึงความอัปยศไร้เกียรติ
3.ก้มกราบลงถึงดิน แสดงถึงการจำยอมต่อพระเจ้าทุกอย่าง

ถึงแม่โยบอยู่ในภาวะทุกข์มากมายแต่เขาก็ไม่โอดครวญ แต่ได้กล่าวประกาศว่า "ข้าพเจ้ามาจากครรภ์มารดาของข้าพเจ้าตัวเปล่า และข้าพเจ้าจะกลับไปตัวเปล่า พระเจ้าประทานและพระเจ้าเอาคืนไปเสีย สาธุการพระนามพระเจ้า " ( โยบ 1.21 ) ในอดีตโยบได้รับพระพรมากมายเขาสรรเสริญพระเจ้า แต่บัดนี้ท่านสูญเสียก็ยังสรรเสริญพระเจ้า "เราได้รับสิ่งดีจากพระหัตถ์พระเจ้า และไม่รับของไม่ดีบ้างหรือ" ( บทที่ 2.10 ) โยบเข้าใจความหมายของชีวิตว่า

ก.) ความเล็กน้อยของมนุษย์ เราเกิดมาในโลกนี้ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย...ต่อมาได้ครอบครองทรัพย์สินมากมาย..วันหนึ่งหมดวาระขัย เมื่อหมดลมหายใจไปก็เอาอะไรกลับไปไม่ได้อีก

ข.)มนุษย์ไม่อาจแย่งชิงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เวลาที่พระเจ้าทรงประกอบกิจตามน้ำพระทัยของพระองค์ท่าทีของเราคือ ยินยอมแต่ไม่ใช่ทวงขอเพื่อรู้เหตุผล

ค.) มนุษย์กับพระเจ้าควรมีความสัมพันธ์สนิทชิดชอบให้มากขึ้น พระองค์ทรงพอพระทัยจะทำอะไรกับตัวข้า ฯ ได้ทั้งนั้นเพราะข้าฯเชื่อและวางใจว่าพระองค์ทรงรักข้าฯตลอดไป
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ม.ค. 25, 2005 8:11 am

“ ความลับของความทุกข์ยาก ภาค 5 “

จิตวิญญาณสูงขึ้นไม่กลัวความทุกข์ยาก

นำตัวอย่างเรื่องของโยบมาศึกษา พวกเราคงคิดว่า จิตวิญญาณท่านสูงส่งมาก และเราเอื้อมไม่ถึงแน่ๆ คนธรรมดาอย่างเราๆคงทำไม่ได้ มาดูว่าสิ่งที่เราเรียนรู้จากชีวิตของโยบได้คือ

1.ความเชื่อของท่านมั่นคง คน คนหนึ่งเมื่อจิตวิญญาณสูงขึ้นเขากลายเป็นมิตรสหายของพระเจ้า เขาไม่ได้อยู่ภายใต้ความกดดันของสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าสถานการณ์รอบตัวของเขาเป็นอย่างไร ไม่ได้เป็นอุปสรรค โยบไม่ได้ตกใจ หรือร้องไห้โวยวายคร่ำครวญ ท่านยังใช้คำสรรเสริญแทนการโศกเศร้า โยบมีท่าทีเหมือนเด็กไร้เดียงสา ซ่อนตัวอยู่ภายใต้อ้อมอกแห่งความรักของมารดา

2.ประยุกต์ความอดทนมาเป็นการเสวยสุข ใครก็ตามที่มีปัญหาแบบโยบคงจะมีเหตุผลกว่า 100 ประการที่จะแสดงออกถึงความโศกเศร้า เช่นบางคนจิตวิญญาณดีหน่อยก็ยอมรับด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม ยอมรับและอดทน แต่หน้าตาและจิตใจแสดงออก เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โยบใช้ท่าทีที่เสวยสุขมานานอนทนต่อความยากลำบาก เพราะเข้าใจว่าพระเจ้าไม่ทรงหลับสนิท และไม่ทรงกระทำผิดพลาด พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีๆเสมอ การลำบากเล็กๆน้อยๆเมื่อเทียบกับพระพร ที่จะมานั้นล้ำเลิศกว่า

3.ใช้เวลาเงียบสงบต่อสู้กับมารร้าย "โยบไม่ได้ทำบาป ไม่ได้กล่าวโทษพระเจ้า" พระคัมภีร์ยืนยันโยบเข้าใจถึงความรักของพระเจ้า ที่มีต่อเขาว่าเสมอต้นเสมอปลาย แม้ว่ามารร้ายไม่พอใจ พยายามเอาชนะ พยายามทำให้สัมพันธภาพระหว่างโยบขาดสะบั้น แต่มารต้องพ่ายแพ้ เพราะโยบยังมั่นใจใดความรักของพระเจ้า และเขาได้รักษาความจงรักภักดีต่อพระเจ้าและมั่นใจว่าพระองค์ทรงรักเขามาก

พระพรที่อยู่เบื้องหน้า

1.เมื่อทดสอบแล้วโยบยังเป็นทองคำอยู่ ( โยบ 23.10 ) ท่านเปโตรเองก็บอกว่าเมื่อทดสอบความเชื่อสาวกแล้ว ประเสริฐยิ่งกว่าทองคำ ( 1เปโตร 1.7 )

2.โยบประกาศว่าได้ยิน และได้เห็นพระองค์ รางวัลของเขาคือได้พบพระพักตร์ของพระเจ้า ( โยบ 42.5 )

3.ได้รับรางวัลงามเกินความคาดคิด บทเรียนที่โยบทิ้งเป็นมรดกแห่งความเชื่อให้เราคือ
ก.) โยบ 5.8-9 "ส่วนข้าฯ ข้าฯจะแสวงหาพระเจ้า และมอบเรื่องราวของข้าฯไว้กับพระเจ้า ผู้กระทำการใหญ่ เหลือที่จะยั่งรู้ การอัศจรรย์อย่างนับไม่ถ้วน"
ข.)โยบ 5.17 "ดูเถิดมนุษย์คนใดที่พระเจ้าทรงติเตือนก็เป็นสุข เพราะฉะนั้นอย่าดูหมิ่นการตีสอนของผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์"

**จบทั้งหมด....อาเมน**

&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
spirit

อังคาร ม.ค. 25, 2005 9:22 am

ก.) โยบ 5.8-9
"8 I would seek unto God, and unto God would I commit my cause:

9 Which doeth great things and unsearchable; marvellous things without number:

"
2 Cor 12:9 He said "My grace is sufficient for you, for My strength is made perfect in weakness"

เป็นบทความที่ดีมากค่ะ สอนใจทุกวันว่าเราต้องถ่อมใจลง ไม่อวดตน อีกทั้งต้องพักพิงในพรองค์
แก้ไขล่าสุดโดย spirit เมื่อ อังคาร ม.ค. 25, 2005 9:23 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
:+:Regina Pacis:+:
.
.
โพสต์: 944
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm

เสาร์ พ.ค. 19, 2007 11:25 pm

ขอบคุณค่ะ  ::001::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อาทิตย์ พ.ค. 20, 2007 5:39 pm

บางครั้ง ผมก็เคยถามตัวเองแบบนี้เหมือนกัน วันนี้เข้าใจแล้วครับ

ขอบคุณครับ : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 20, 2007 11:25 pm

ขอบคุณค่ะ  : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
KathaRoS
โพสต์: 218
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 20, 2007 12:35 am
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ค. 21, 2007 5:52 pm

ขอบคุณค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

จันทร์ พ.ค. 21, 2007 6:59 pm

ขอบคุณค่ะ : xemo026 :

ว่าแต่ เจ๊พีพีหายไปไหนน่ะ
ไม่เหนเปนอาทิตย์ละ คิดถึ๊ง คิดถึง
ว่าจะฝากตัวเปนสิดท่านจอมยุทธ
ขอฝึกวรยุทธซะหน่อย  ::006::
(ช่วงนี้ดูหนังจีนเยอะไปหน่อย)
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ต.ค. 08, 2007 6:11 am

บางคนที่ไม่เคยอ่าน กระทู้นี้จะตอบคำถามเรื่องความทุกข์คร้าบ :grin:
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

จันทร์ ต.ค. 08, 2007 10:44 am

[quote="Prod Pran"]
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

อังคาร ต.ค. 09, 2007 12:23 pm

ไหนไหนก็ขุดขึ้นมาแล้วแล้ว...

ภารดาจีโอวันนี่ถามภารดาฟรันซิสบิดาผู้ยากจน เรื่องความยินดีบริบูรณ์

บิดาผู้ยากจนได้เดินทางมาไกลแสนไกลจนถึงอารามวัดนักบุญดามีอาโน และได้พบภารดาจีโอวันนี่ในรุ่งเช้า
"ท่านบิดา อะไรคือความยินดีบริบูรณ์เล่า " ภารดาจีโอวันนี่ถาม
ภารดาฟรันซิสตอบ "เราเดินมาจากหมู่บ้านที่แสนไกลมายังสถานที่แห่งนี้ในเวลากลางคืน ด้วยชุดนักบวชเพียงตัวเดียวที่ชุ่มน้ำฝน อากาศหนาวมากจนจมูกของเราแดง และน้ำแข็งก็เกาะเท้าของเราจนเืลือดออก..." "...แต่นั่นยังไม่ใช่ความยินดีบริบูรณ์"

ภารดาจีโอวันนี่จึงถามอีกครั้ง "ถ้าเช่นนั้น ความยินดีบริบูรณ์คืออะไรเล่า"
ท่านบิดาตอบอีกครั้ง "หลังจากที่เราเดินมาถึงวัดนักบุญดามีอาโน เราเคาะประตูสามครั้งเรียกให้ภารดาคนอื่นมาเปิดให้ เมื่อเขาถามว่าเราคือใคร เราก็ตอบว่า 'เราคือภารดาฟรันซิส' แต่เขากลับปิดประตูใส่หน้าเรา และไม่เชื่อว่าเราคือภารดาฟรันซิส..." "...แต่นั่นยังไม่ใช่ความยินดีบริบูรณ์"

ภารดาจีโอวันนี่ถามอีกครั้งหนึ่งด้วยคำถามเดิม
ท่านบิดาจึงตอบ "เรายืนอยู่หน้าประตูอารามอีกนับชั่วโมง ท่ามกลางอากาศหนาว และชุดนักบวชที่เปียกปอน เราจึงเคาะประตูอีกครั้ง เขาถามเราอีกครั้ง เราก็ตอบเขาด้วยคำตอบเดิม ครั้งนี้เขากลับเอาไม้ฟาดเรา และโยนเราออกไปหน้าเขตอาราม ทำให้เราต้องอยู่นอกอารามจนถึงเช้า..." "...แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ความดีบริบูรณ์"

ภารดาจีโอวันนี่จึงถามอีก"แล้วเช่นนั้นความยินดีบริบูรณ์จะเป็นอย่างไรเล่า ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ"
ท่านบิดาผู้ยากจนจึงตอบว่า "จีโอวันนี่เอ๋ย ความยินดีบริบูรณ์ของเรานั่นก็คือ การที่เรามีเสื้อผ้าเนื้อหยาบใส่เพียงชั้นเดียว อยู่ท่ามกลางอากาศหนาวที่แม้แต่สัตว์ยังต้องหลบอยู่ในถ้ำ โดนปิดประตูใส่ โดนขับไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ร่างกายของเราเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เท้าของเราก็เป็นแผลและเลือดออกจนเดินไม่ไหว และก็จำต้องนอนอยู่ข้างนอกอารามท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด ทนทุกข์ทั้งร่างกายและจิตใจ นั่นแหละภารดาจีโอวันนี่! นั่นแหละคือความยินดีบริบูรณ์!..."

credit : บ่อเกิดฟรันซิสกันเล่มที่ 5

May the Peace be on Earth
แก้ไขล่าสุดโดย sasuke เมื่อ อังคาร ต.ค. 09, 2007 12:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ต.ค. 09, 2007 9:10 pm

sasuke เขียน: ไหนไหนก็ขุดขึ้นมาแล้วแล้ว...

ภารดาจีโอวันนี่ถามภารดาฟรันซิสบิดาผู้ยากจน เรื่องความยินดีบริบูรณ์

บิดาผู้ยากจนได้เดินทางมาไกลแสนไกลจนถึงอารามวัดนักบุญดามีอาโน และได้พบภารดาจีโอวันนี่ในรุ่งเช้า
"ท่านบิดา อะไรคือความยินดีบริบูรณ์เล่า " ภารดาจีโอวันนี่ถาม
ภารดาฟรันซิสตอบ "เราเดินมาจากหมู่บ้านที่แสนไกลมายังสถานที่แห่งนี้ในเวลากลางคืน ด้วยชุดนักบวชเพียงตัวเดียวที่ชุ่มน้ำฝน อากาศหนาวมากจนจมูกของเราแดง และน้ำแข็งก็เกาะเท้าของเราจนเืลือดออก..." "...แต่นั่นยังไม่ใช่ความยินดีบริบูรณ์"

ภารดาจีโอวันนี่จึงถามอีกครั้ง "ถ้าเช่นนั้น ความยินดีบริบูรณ์คืออะไรเล่า"
ท่านบิดาตอบอีกครั้ง "หลังจากที่เราเดินมาถึงวัดนักบุญดามีอาโน เราเคาะประตูสามครั้งเรียกให้ภารดาคนอื่นมาเปิดให้ เมื่อเขาถามว่าเราคือใคร เราก็ตอบว่า 'เราคือภารดาฟรันซิส' แต่เขากลับปิดประตูใส่หน้าเรา และไม่เชื่อว่าเราคือภารดาฟรันซิส..." "...แต่นั่นยังไม่ใช่ความยินดีบริบูรณ์"

ภารดาจีโอวันนี่ถามอีกครั้งหนึ่งด้วยคำถามเดิม
ท่านบิดาจึงตอบ "เรายืนอยู่หน้าประตูอารามอีกนับชั่วโมง ท่ามกลางอากาศหนาว และชุดนักบวชที่เปียกปอน เราจึงเคาะประตูอีกครั้ง เขาถามเราอีกครั้ง เราก็ตอบเขาด้วยคำตอบเดิม ครั้งนี้เขากลับเอาไม้ฟาดเรา และโยนเราออกไปหน้าเขตอาราม ทำให้เราต้องอยู่นอกอารามจนถึงเช้า..." "...แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ความดีบริบูรณ์"

ภารดาจีโอวันนี่จึงถามอีก"แล้วเช่นนั้นความยินดีบริบูรณ์จะเป็นอย่างไรเล่า ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ"
ท่านบิดาผู้ยากจนจึงตอบว่า "จีโอวันนี่เอ๋ย ความยินดีบริบูรณ์ของเรานั่นก็คือ การที่เรามีเสื้อผ้าเนื้อหยาบใส่เพียงชั้นเดียว อยู่ท่ามกลางอากาศหนาวที่แม้แต่สัตว์ยังต้องหลบอยู่ในถ้ำ โดนปิดประตูใส่ โดนขับไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ร่างกายของเราเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เท้าของเราก็เป็นแผลและเลือดออกจนเดินไม่ไหว และก็จำต้องนอนอยู่ข้างนอกอารามท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด ทนทุกข์ทั้งร่างกายและจิตใจ นั่นแหละภารดาจีโอวันนี่! นั่นแหละคือความยินดีบริบูรณ์!..."

credit : บ่อเกิดฟรันซิสกันเล่มที่ 5

May the Peace be on Earth
ขอบคุณมาก ๆ ครับ ::013::
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 2:53 pm

ขออนุญาตขุดขึ้นมานะคะ รู้สึกว่าน่าจะเป็นประโยชน์ดีกับหลายๆ คนค่ะ : emo045 :
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 5:13 pm

ขอบคุณมากคับ
APaladin
โพสต์: 204
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 1:59 am

จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 11:34 pm

กินใจลึกซึ้ง ชอบมากมาย ถ้าศึกษาถึงพระทัยของพระเจ้าอย่างจริงจัง เราสามารถดำเนินชีวิตแบบโยบได้แน่นอน ตะหนักถึงพระทัยพระเจ้าแล้วเราจะไม่สั่นคลอนจากความทุกข์ยากใดๆ ขอบคุณมากครับเป็นตัวอย่างที่ดีของศรัทธาเลย : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mminnano
โพสต์: 221
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 06, 2007 10:24 pm
ติดต่อ:

พุธ มิ.ย. 03, 2009 11:52 pm

ขอบคุณนะคะ แต่ว่าสงสัยยังโง่อยู่มาก ก็เลยยังมีข้อสงสัย และยังไม่ค่อยเข้าใจในบางอย่าง และยังสับสนอยู่ค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 9:00 am

อ่านแล้วไม่ค่อยอยากจะ "ยินดีบริบูรณ์"เท่าไหร่เลยครับ

::010::
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 9:50 am

Mminnano เขียน: ขอบคุณนะคะ แต่ว่าสงสัยยังโง่อยู่มาก ก็เลยยังมีข้อสงสัย และยังไม่ค่อยเข้าใจในบางอย่าง และยังสับสนอยู่ค่ะ
อย่าบอกว่าตัวเองโง่เลยค่ะ ไม่มีใครรู้ดีไปหมดทุกอย่างตั้งแต่ออกจากท้องแม่แน่นอน ::004::

ถ้ามีข้อสงสัยอะไร ลองถามพี่น้องในบอร์ดก็ได้นี่คะ เชื่อว่าทุกคนเต็มใจตอบคำถามค่ะ : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Sha-
โพสต์: 39
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 09, 2008 4:19 pm

จันทร์ ก.ค. 13, 2009 10:43 am

ขอบคุณมากครับผม
ตอบกลับโพส