Belong to the Truth Jesus Christ

แม่พระมาประจักษ์ที่วัดพระวิสุทธิวงศ์  พระศาสนจักรน่าจะประกาศรับรองนะครับ 

ประเทศไทยเราจะได้มีผู้แสวงบุญ เหมือนกับประเทศอื่นๆที่แม่พระประจักษ์มาครับ  

พี่น้องมีความคิดเห็นอย่างไรอ่าครับ 

หุหุ

THE i 'dol เขียน: แม่พระมาประจักษ์ที่วัดพระวิสุทธิวงศ์  พระศาสนจักรน่าจะประกาศรับรองนะครับ 

ประเทศไทยเราจะได้มีผู้แสวงบุญ เหมือนกับประเทศอื่นๆที่แม่พระประจักษ์มาครับ 

พี่น้องมีความคิดเห็นอย่างไรอ่าครับ 

คาทอลิกด้วยกันเอง ก็ยังมีความเห็น และความเชื่อเรื่องนี้ต่างๆกันไปอ่ะครับเลย์ 
ตัวผมเองก็พอรู้และแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆคาทอลิกมาบ้าง จึงไม่เชื่อ และไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ร่วมแสดงความยินดีกับข่าวดี
สิ่งหนึ่ง ถ้ามันมีประโยชน์กับคนไทย หรือ พี่น้องในพระศาสนจักรทั้งหมด ไม่ใช่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก็ยิ่งดีใหญ่เลย

เหนือสิ่งอื่นใด จะประจักษ์หรือไม่ ส่วนตัวผมและคนที่เห็นด้วย ก็คือ "จะไม่ตามกระแส หรือแห่กันไปโน่นไปนี่ เชื่อโน่นเชื่อนี่" เพราะ "ไม่อยากหลง"
แต่ก็อย่างที่บอกคือ ไม่เชื่อ ไม่ปฏิเสธ แต่ร่วมแสดงความยินดีกับข่าวดี

ปล.ทั้งหมดนี้คือความเห็นส่วนตัว เนื้อหาที่อ้างอิงบุคคลที่ 3 หรือมากกว่า มาจากพี่น้องคาทอลิกคนอื่นๆนอกบอร์ดแห่งนี้

ส่วนพระศาสนจักรรับรองหรือไม่ก็...ตามความเห็น...
V
V
V
V

ของแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพระศาสนจักรหรอกครับ . . .

ขึ้นอยู่กับ

พระเจ้า

พระเจ้าจะจัดสรร เมื่อถึงเวลาอันสมควรค่ะ

ปล. ช้าๆได้พร้าสองเล่มงาม 

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพระเป็นเจ้าครับเลย์ 

เท่าที่ผมทราบกระบวนการพิจารณาจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อการประจักษ์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว แต่ในกรณีนี้ ยังไม่สิ้นสุดลงนี่ครับ


(อันนี้ผมไม่แน่ใจนะรอผู้รู้จริงดีกว่าครับ)

ข้า-พระ-เจ้า เขียน: เท่าที่ผมทราบกระบวนการพิจารณาจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อการประจักษ์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว แต่ในกรณีนี้ ยังไม่สิ้นสุดลงนี่ครับ


(อันนี้ผมไม่แน่ใจนะรอผู้รู้จริงดีกว่าครับ)

แปลง่ายๆอีกแง่คือ พระศาสนจักร มักเริ่มกระบวนการพิสูจน์ หลังผู้รับสารตายไปแล้วครับ

ตราบใดที่ยังไม่จบ ก็ไม่มีการรับรองครับ

เพราะบางครั้งปิศาจอาจ fake รอจนกระทั่งพระศาสนจักรรับรองแล้วค่อยเผยตัวก็ได้

บางครั้งผู้รับสารก็บอกเองว่า ได้พบกับแม่พระปลอม หรือทูตสวรรค์ชั่ว ฯลฯ

กรณีนักบุญก็คล้ายกันครับ

ต้องตายไปประมาณ 50 ปีถึงจะเริ่มกระบวนการได้

Edwardius เขียน: ตราบใดที่ยังไม่จบ ก็ไม่มีการรับรองครับ

เพราะบางครั้งปิศาจอาจ fake รอจนกระทั่งพระศาสนจักรรับรองแล้วค่อยเผยตัวก็ได้

บางครั้งผู้รับสารก็บอกเองว่า ได้พบกับแม่พระปลอม หรือทูตสวรรค์ชั่ว ฯลฯ

กรณีนักบุญก็คล้ายกันครับ

ต้องตายไปประมาณ 50 ปีถึงจะเริ่มกระบวนการได้

ถูกต้องค่ะ

Holy เขียน:

ข้า-พระ-เจ้า เขียน: เท่าที่ผมทราบกระบวนการพิจารณาจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อการประจักษ์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว แต่ในกรณีนี้ ยังไม่สิ้นสุดลงนี่ครับ


(อันนี้ผมไม่แน่ใจนะรอผู้รู้จริงดีกว่าครับ)

แปลง่ายๆอีกแง่คือ พระศาสนจักร มักเริ่มกระบวนการพิสูจน์ หลังผู้รับสารตายไปแล้วครับ

แล้วอย่างกรณีที่ฟาติมาล่ะคะ

Viridian เขียน:

Holy เขียน:

ข้า-พระ-เจ้า เขียน: เท่าที่ผมทราบกระบวนการพิจารณาจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อการประจักษ์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว แต่ในกรณีนี้ ยังไม่สิ้นสุดลงนี่ครับ


(อันนี้ผมไม่แน่ใจนะรอผู้รู้จริงดีกว่าครับ)

แปลง่ายๆอีกแง่คือ พระศาสนจักร มักเริ่มกระบวนการพิสูจน์ หลังผู้รับสารตายไปแล้วครับ

แล้วอย่างกรณีที่ฟาติมาล่ะคะ

After a canonical enquiry the visions of Fatima were officially declared "worthy of belief" in October 1930 by the Bishop of Leiria-Fátima.

Edwardius เขียน:

Viridian เขียน:

Holy เขียน: แปลง่ายๆอีกแง่คือ พระศาสนจักร มักเริ่มกระบวนการพิสูจน์ หลังผู้รับสารตายไปแล้วครับ

แล้วอย่างกรณีที่ฟาติมาล่ะคะ

After a canonical enquiry the visions of Fatima were officially declared "worthy of belief" in October 1930 by the Bishop of Leiria-Fátima.

ใช่ค่ะ แต่ว่า ซิสเตอร์ลูซีอา เพิ่งเสียชีวิตในปี 2005 นี่คะ...

Viridian เขียน:

Edwardius เขียน:

Viridian เขียน: แล้วอย่างกรณีที่ฟาติมาล่ะคะ

After a canonical enquiry the visions of Fatima were officially declared "worthy of belief" in October 1930 by the Bishop of Leiria-Fátima.

ใช่ค่ะ แต่ว่า ซิสเตอร์ลูซีอา เพิ่งเสียชีวิตในปี 2005 นี่คะ...

กรณีฟาติมาคือ การประจักษ์สิ้นสุดครับ คือแม่พระประจักษ์ช่วงสั้น และจบการประจักษ์ทางการแล้ว และผู้รับสารเสียชีวิตไปแล้ว2คน และทั้ง2คนได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีแล้ว

ส่วนซิสเตอรืลูซีอา บวชเป็นชีลับ มีแต่นิมิตบ้าง และการประจักษ์ส่วนบุคคลบ้างต่อซิสเตอร์ลูชีอา

ซึ่งการประจักษ์ส่วนบุคคลต่างๆของซิสเตอร์ลูซีอาในอารามหลังจากนั้น ยังไม่มีการยืนยัน หรือพูดถึงครับ เมื่อพูดถึงการประจักษ์ที่ฟาติมา จะหมายถึงการประจักษ์ทุกวันที่13 ที่เนินเขา โควาดีอีเรีย ที่เด็กทั้ง3ได้รับพร้อมกันเท่านั้น

แจ่มชัดจริงๆ ขอบคุณพี่โฮลี่มากค่ะ

Edwardius เขียน: ตราบใดที่ยังไม่จบ ก็ไม่มีการรับรองครับ

เพราะบางครั้งปิศาจอาจ fake รอจนกระทั่งพระศาสนจักรรับรองแล้วค่อยเผยตัวก็ได้

บางครั้งผู้รับสารก็บอกเองว่า ได้พบกับแม่พระปลอม หรือทูตสวรรค์ชั่ว ฯลฯ

กรณีนักบุญก็คล้ายกันครับ

ต้องตายไปประมาณ 50 ปีถึงจะเริ่มกระบวนการได้

I really like this posting from Holy: http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3174.0
การประจักษ์ในประเทศไทย

ในประเทศไทย เราเชื่อว่ามีไม่น้อยที่ แม่พระ หรือพระเยซูเจ้า ได้มาหาคนบางคน ในการประจักษ์ส่วนตัว ซึ่งจากคำพยานต่างๆ และการอัศจรรย์ที่สำแดง แต่การประจักษ์ที่เป็นการประจักษ์ใหญ่ และเป็นการประจักษ์ต่อสาธารณะชนในประเทศไทยนั้น คือการประจักษ์ของแม่พระที่ลำไทร โดยท่านสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ http://www.newmana.com/Thai/Lamsai01.htm

สารจากสวรรค์

ในการประจักษ์ต่างๆ แม่พระ มักจะประทาน "สารจากสวรรค์" ซึ่งแม่พระทรงรับใช้พระบิดาในการนำลงมาบอกลูกๆของพระองค์ โดยแม่พระ จะเลือกลูกของพระบิดาบางคน ในการรับสาร และบอกต่อให้กับบุคคลอื่นๆ และในครั้งนี้ก็เช่นกัน ได้มีสารถึงคริสตชนคนไทยด้วย และเราจึงนำมาลงไว้ณ ที่นี่

ปัญหาและความเข้าใจในเรื่องการประจักษ์ของแม่พระ

เราต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า การมาประจักษ์ของแม่พระ  มาเพื่อ นำสารจากพระเจ้าพระบิดา และผู้ที่จะลงมาจากสวรรค์เพื่อติดต่อกับมนุษย์ย่อมต้องได้รับอณุญาติจากพระบิดา หรือแม้แต่อาจได้รับพระบัญชามาจากพระบิดาเพื่อลงมาพบเรามนุษย์ ดังนั้นแม่พระไม่ได้มาเพื่อแทนที่พระเยซูเจ้า หรือมาทำตัวเป็นพระเจ้า แต่แม่พระ คือผู้รับใช้พระเจ้าเสมอมา ตั้งแต่วันแรกที่แม่ตอบรับทูตสวรรค์กาเบียรล นั่นคือการปฎิญาณนิรันดร์ว่าพระแม่จะทรงทำหน้าที่ผู้รับใช้ของพระเจ้าเสมอไป 
พระแม่มารีย์ทำสิ่งเดียวกับที่พระนางกระทำใน งานแต่งงานที่กานา (ยน 2:1-12) คือ
1.คอยวอนขอความช่วยเหลือจากพระเยซูเจ้าให้มนุษย์ผู้น่าสงสาร และ
2.บอกพวกเราว่า "จงฟัง" พระบุตรของแม่เถิด

ดังนั้น เมื่อท่านอ่านสารเหล่านี้ จงพึงระลึกว่า ทั้งหมดนั้น เพื่อนำเรากลับไปหาพระบิดาเจ้า และจงใช้พระจิตเจ้านำทางของท่าน อธิษฐานขอพระวิญญาณของพระเจ้าคือองค์พระจิตเจ้า นำทางท่านทุกถ้อยคำที่ท่านอ่าน เพื่อท่านจะพบแต่พระประสงค์ของพระองค์

ถามตัวเองเพียงว่า ถ้าท่านอ่านและปฏิบัติตามสารเหล่านี้แล้ว ชีวิตของท่าน และคนรอบข้างจะดีขึ้นหรือเลวลง ท่านจะสนิทกับพระเจ้ามากขึ้น หรือไกลห่างจากพระองค์ นี่คือการพิสูจน์ที่พระเยซูเจ้าสอนเราในพระคัมภีร์ว่าอะไรมาจากพระเจ้า

เคยมีข่าวแบบคล้ายๆ ลำไทรประจักษ์ที่จีนไหม?

สุดแล้วแต่น้ำพระทัยพระเป็นเจ้าครับ

ผมเชื่อการประจักษ์ครั้งนี้นะ

Edwardius เขียน: ตราบใดที่ยังไม่จบ ก็ไม่มีการรับรองครับ

เพราะบางครั้งปิศาจอาจ fake รอจนกระทั่งพระศาสนจักรรับรองแล้วค่อยเผยตัวก็ได้

บางครั้งผู้รับสารก็บอกเองว่า ได้พบกับแม่พระปลอม หรือทูตสวรรค์ชั่ว ฯลฯ

กรณีนักบุญก็คล้ายกันครับ

ต้องตายไปประมาณ 50 ปีถึงจะเริ่มกระบวนการได้

ถูกต้องครับ บางครั้งการเผยแสดงหลายครั้งก็อาจจะเป็นการกระทำของปีศาจจำแลงมาก็ได้(เพื่อให้มนุษย์สับสน)ก็เป็นได้

ขนาด การประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ พระศาสนจักรยังไม่ประกาศรับรองเลยครับ แม่พระประจักษ์มาทุกวันนาน25ปีแล้ว จนกระทั่งทุกวันนี้ มีหลายๆคนเดินทางไปสแวงบุญ เอาสายประคำไปให้แม่พระเสก  ขนาดนี้พระศาสนจักรยังไม่ประกาศให้เลยครับ

godlike เขียน: ขนาด การประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ พระศาสนจักรยังไม่ประกาศรับรองเลยครับ แม่พระประจักษ์มาทุกวันนาน25ปีแล้ว จนกระทั่งทุกวันนี้ มีหลายๆคนเดินทางไปสแวงบุญ เอาสายประคำไปให้แม่พระเสก  ขนาดนี้พระศาสนจักรยังไม่ประกาศให้เลยครับ

เค้าต้องการประจักษ์ จบก่อนไม่ใช่หรอพี่นัท-*-

เหมือนที่ลำไทร แม่พระก็ยังประจักษ์อยู่ ก็เลย ยังทำการสืบสวนอ่ะ-0-?

~ฮีUโปฟัuxaoxน้ๅโJ™~ เขียน:

godlike เขียน: ขนาด การประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ์ พระศาสนจักรยังไม่ประกาศรับรองเลยครับ แม่พระประจักษ์มาทุกวันนาน25ปีแล้ว จนกระทั่งทุกวันนี้ มีหลายๆคนเดินทางไปสแวงบุญ เอาสายประคำไปให้แม่พระเสก  ขนาดนี้พระศาสนจักรยังไม่ประกาศให้เลยครับ

เค้าต้องการประจักษ์ จบก่อนไม่ใช่หรอพี่นัท-*-

เหมือนที่ลำไทร แม่พระก็ยังประจักษ์อยู่ ก็เลย ยังทำการสืบสวนอ่ะ-0-?

ก็ดุหลายๆอย่าง เช่นบุคลที่แม่พระมาประจักษ์ให้เห็น ที่ต้องรอให้บุคลที่เห็นการประจักษ์เสียชีวิตก่อนก็เพราะจะรอดูพฤติกรรมของคนๆนั้น ว่ามีการประพฤติมิชอบบ้างหรือไม่ แม่พระมาประจักษ์จริงคนๆนั้นจะต้องดีพร้อม แต่ถ้าคนไหนเกิดมีความพระพฤติเสื่อมเสีย พระศาสนจักรจะแคลเซิลกระบวนการตรวจสอบทันที เพ่อความชัวร์มันก็เลยเนิ่นนานเช่นนี้

อร๊ากกกกกกกกกกกก

ไอซ์เคยอ่าน น.แบเนแด็ท ยังเอาน้ามเสกไป พรมแม่พระเลย*

คริคริ เพราะกลัวว่าแม่พระจาเป็น ปีศาจ* มาแปลงร่างอ่า*

อย่างในพระคัมภีร์ก็บอกว่า หากกิจการมาจากมนุษย์ มันก้จบสลายไปเอง แต่ถ้าหากเป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า ใครก็โค่นล้มไม่ได้ ซ้ำร้ายเขาจะเป็นผู้ต่อสู้กับพระเจ้าเสียเอง *-*อิอิอิ