... " สองมือแม่ " ...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 05, 2005 1:19 pm
ใกล้ถึงวันแม่แล้วผมมีเรื่องเกี่ยวกับแม่มาเล่าให้ฟังซึ่งได้อ่านเจอในหนังสือจุลธรรม เป็นเรื่องราวที่น่าจะชวนให้พวกเราทุกคนได้ระลึกถึงคุณแม่ที่น่ารักของเราทุกคน และถ้าใครอ่านจบแล้วจะระบายความรู้สึกที่มีต่อแม่ หรือจะขอพรให้แม่ก็โพสต์กันเลยนะครับ ร่วมแสดงความรักกับคุณแม่จากความรู้สึกของเราแบบคริสตชน
" สองมือแม่ "
ราวห้าสิบกว่าปีมาแล้ว ณ คลองบางน้ำชลในย่านฝั่งธน น้ำยังใสมีเรือพายขายของ ดวงดาวจะนั่งเรือไปช่วยแม่ขายของทุกเสาร์-อาทิตย์ แม่ขายผลไม้หลายอย่าง แม่จะต้มกล้วยไข่หวีเล็ก ๆ ใส่เกลือนิดหน่อยในหม้อต้ม เค็ม ๆ หวาน ๆ ดี พายเรือขายจนถึงเย็นจึงจะกลับบ้าน แม่ฝากเรือไว้ที่ท่าน้ำหน้าบ้านคุณป้าใจดี แล้วเดินเข้าไปในซอยลึก ๆ บ้านดวงดาวเป็นสลัมชั้นเดียว หลังคาแต่ละหลังแทบติดกัน สังกะสีมีรูโหว่ เวลาฝนตก แม่จะเอากระป๋อง กาละมัง มารอง ดวงดาวอยู่กับแม่สองคน ส่วนพ่อทิ้งไปตั้งแต่ดวงดาวอยู่ ป.3 ตอนกลางวันแม่จะนำกล่องข้าวไปให้ที่โรงเรียน โรงเรียนเป็นเรือนไม้โปร่ง ๆ ชั้นเดียวยาวตลอดแนว แต่แบ่งเป็นห้องเรียน 4 ชั้น มี ป.1 - ป.4 ส่วนชั้นเตรียมอนุบาลเด็กเล็กก็จะอยู่อีกหลังหนึ่ง
เวลาแม่เดินมา ดวงดาวจะเห็นแม่นำกล่องข้าวมาให้ ก็จะรีบขออนุญาตคุณครูออกไปรับกล่องข้าว เพราะไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแม่ แม่จะคลุมผ้าบาง ๆ ที่หน้าทุกวัน ใคร ๆ ก็นึกว่าแม่เป็นอิสลาม แต่ไม่ใช่ ตกกลางคืนแม่จะถอดผ้าคลุมออก แม่มีแผลเป็นที่หน้าทางแก้มซ้าย และแขนข้างซ้ายของแม่ก็มีรอยย่นเต็มไปหมด แม่จึงต้องสวมเสื้อแขนยาวเป็นประจำ ความเป็นเด็ก ดวงดาวจึงอายไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแม่ แต่พอโตขึ้นพอจะรู้อะไรบ้างแล้ว แม่ก็เล่าให้ฟังว่า
ตอนลูกยังเล็ก ๆ แม่ไปตลาด เห็นลูกนอนหลับ จึงทิ้งไว้ที่บ้าน แม่ไปตลาดไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนร้องว่า ไฟไหม้ ๆ ในซอยบ้านของแม่ แม่จึงรีบวิ่งกลับบ้าน ชาวบ้านต่างห้ามไม่ให้แม่วิ่งเข้าไปในบ้าน แม่เห็นว่าไฟยังไม่แรงนัก จึงขอผ้าขนหนูจากคนที่รู้จักชุบน้ำให้ชุ่ม แล้ววิ่งเข้าไปอุ้มลูกออกมา ลุกร้องไห้เพราะลูกตกใจ เปลวไฟเริ่มโหมแรงขึ้น เศษไม้หล่นมาใส่หน้าแม่ และแขนข้างซ้าย แต่แม่ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย ตอนนั้นแม่ห่วงลูกอย่างเดียว มีคนมาช่วยแม่ออกไป แม่นอนโรงพยาบาลเกือบอาทิตย์ ลูกปลอดภัย แม่ก็พอใจแล้ว มูลนิธิปอเต๊กตึ้งก็เอาของมาแจก กางเต้นท์ให้คนที่ถูกไฟไหม้บ้านได้พัชั่วคราว มีคุณป้าใจบุญให้แม่ไปอยู่ด้วย แม่อยู่ช่วยงานบ้านและเลี้ยงลูกไปด้วย อยู่ได้ 2 - 3 ปี แม่ก็ขอออกมาเช่าบ้านอยู่ ค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ
ดวงดาวฟังแม่เล่าก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดแขนแม่ไว้ " แม่จ๋าหนูขอโทษ แม่ช่วยชีวิตหนูไว้จริง ๆ ต่อไปนี้หนูจะไม่อายใครอีกแล้ว หนูจะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า แม่เสี่ยงชีวิตช่วยหนูออกจากกองไฟ " แม่กอดดวงดาวไว้น้ำตาคลอเบ้า " ลูกรัก แม่ขอให้ลูกเป็นคนดี ตั้งใจเรียน ทำงานที่ดี แม่ก็พอใจแล้ว "
ในวันที่ดวงดาวเขียนเรียงความเรื่อง " สองมือแม่ " เข้าประกวดได้รับรางวัลชนะเลิศ และในนั้นมีกลอนที่ดวงดาวแต่งไว้ให้แม่ว่า
สองมือแม่ทำอาหารคาวหวานป้อน
ยามลูกนอนคอยป้องปัดพัดลมให้
กลัวลูกน้อยถูกยุงกัดอีกริ้นไร
สองมือไกวเปลกล่อมถนอมมา
สองมือแม่โอบลูกไว้เมื่อภัยถึง
สองมือซึ่งกว้างใหญ่ดั่งแผ่นฟ้า
พระคุณแม่หนักยิ่งกว่าพสุธา
เหล่าลูกยาระลึกนึกถึงคุณ
สองมือแม่สอนเคารพนบนอบกราบ
ศิรราบผู้มีคุณคอยเกื้อหนุน
ครูอาจารย์ ญาติผู้ใหญ่ได้ค้ำจุน
จะเป็นบุญของลูกผูกใจจำ
แม่ผู้มีน้ำใจเลิศประเสริฐนัก
มีคนรักสรรเสริญทุกเช้าค่ำ
แม่เมตตาต่อญาติมิตรจิตน้อมนำ
สุดหาคำพรรณาค่าความดี
ดวงดาวได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่น เพราะเรียนเก่ง และมีมารยาทงาม ส่วนแม่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นประจำปี ทุกคนต่างยินดีที่ดวงดาวเป็นลูกที่กตัญญู ช่วยแม่หาเงินมาเล่าเรียน ปัจจุบันดวงดาวเป็นอาจารย์สอนแถวฝั่งธน ใกล้จะปลดเกษียณแล้ว ดวงดาวมีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกชาย และลูกผู้หญิงที่เป็นเด็กดี ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ตั้งใจเรียน เท่านี้ดวงดาวก็ภูมิใจแล้วสมกับแรงกตัญญูที่มีต่อแม่นั่นเอง ส่วนแม่ของดวงดาวได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดในจังหวัดราชบุรี และได้จากไปอย่างสงบด้วยอายุ 70 ปี
ผมหวังว่าเรื่องนี้คงจะทำให้พวกเราทุกคนรักแม่มากขึ้นนะครับ สุดท้ายนี้ผมขอพรจากพระแม่มารีย์ผู้ทรงเป็นแม่ที่ประเสริฐสุดโปรดอำนวยพรให้แม่ของผมและแม่ของเราทุกคน มีสุขภาพแข็งแรง และได้พบกับความสุขนิรันดรด้วยเทอญ
" สองมือแม่ "
ราวห้าสิบกว่าปีมาแล้ว ณ คลองบางน้ำชลในย่านฝั่งธน น้ำยังใสมีเรือพายขายของ ดวงดาวจะนั่งเรือไปช่วยแม่ขายของทุกเสาร์-อาทิตย์ แม่ขายผลไม้หลายอย่าง แม่จะต้มกล้วยไข่หวีเล็ก ๆ ใส่เกลือนิดหน่อยในหม้อต้ม เค็ม ๆ หวาน ๆ ดี พายเรือขายจนถึงเย็นจึงจะกลับบ้าน แม่ฝากเรือไว้ที่ท่าน้ำหน้าบ้านคุณป้าใจดี แล้วเดินเข้าไปในซอยลึก ๆ บ้านดวงดาวเป็นสลัมชั้นเดียว หลังคาแต่ละหลังแทบติดกัน สังกะสีมีรูโหว่ เวลาฝนตก แม่จะเอากระป๋อง กาละมัง มารอง ดวงดาวอยู่กับแม่สองคน ส่วนพ่อทิ้งไปตั้งแต่ดวงดาวอยู่ ป.3 ตอนกลางวันแม่จะนำกล่องข้าวไปให้ที่โรงเรียน โรงเรียนเป็นเรือนไม้โปร่ง ๆ ชั้นเดียวยาวตลอดแนว แต่แบ่งเป็นห้องเรียน 4 ชั้น มี ป.1 - ป.4 ส่วนชั้นเตรียมอนุบาลเด็กเล็กก็จะอยู่อีกหลังหนึ่ง
เวลาแม่เดินมา ดวงดาวจะเห็นแม่นำกล่องข้าวมาให้ ก็จะรีบขออนุญาตคุณครูออกไปรับกล่องข้าว เพราะไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแม่ แม่จะคลุมผ้าบาง ๆ ที่หน้าทุกวัน ใคร ๆ ก็นึกว่าแม่เป็นอิสลาม แต่ไม่ใช่ ตกกลางคืนแม่จะถอดผ้าคลุมออก แม่มีแผลเป็นที่หน้าทางแก้มซ้าย และแขนข้างซ้ายของแม่ก็มีรอยย่นเต็มไปหมด แม่จึงต้องสวมเสื้อแขนยาวเป็นประจำ ความเป็นเด็ก ดวงดาวจึงอายไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแม่ แต่พอโตขึ้นพอจะรู้อะไรบ้างแล้ว แม่ก็เล่าให้ฟังว่า
ตอนลูกยังเล็ก ๆ แม่ไปตลาด เห็นลูกนอนหลับ จึงทิ้งไว้ที่บ้าน แม่ไปตลาดไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนร้องว่า ไฟไหม้ ๆ ในซอยบ้านของแม่ แม่จึงรีบวิ่งกลับบ้าน ชาวบ้านต่างห้ามไม่ให้แม่วิ่งเข้าไปในบ้าน แม่เห็นว่าไฟยังไม่แรงนัก จึงขอผ้าขนหนูจากคนที่รู้จักชุบน้ำให้ชุ่ม แล้ววิ่งเข้าไปอุ้มลูกออกมา ลุกร้องไห้เพราะลูกตกใจ เปลวไฟเริ่มโหมแรงขึ้น เศษไม้หล่นมาใส่หน้าแม่ และแขนข้างซ้าย แต่แม่ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย ตอนนั้นแม่ห่วงลูกอย่างเดียว มีคนมาช่วยแม่ออกไป แม่นอนโรงพยาบาลเกือบอาทิตย์ ลูกปลอดภัย แม่ก็พอใจแล้ว มูลนิธิปอเต๊กตึ้งก็เอาของมาแจก กางเต้นท์ให้คนที่ถูกไฟไหม้บ้านได้พัชั่วคราว มีคุณป้าใจบุญให้แม่ไปอยู่ด้วย แม่อยู่ช่วยงานบ้านและเลี้ยงลูกไปด้วย อยู่ได้ 2 - 3 ปี แม่ก็ขอออกมาเช่าบ้านอยู่ ค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ
ดวงดาวฟังแม่เล่าก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดแขนแม่ไว้ " แม่จ๋าหนูขอโทษ แม่ช่วยชีวิตหนูไว้จริง ๆ ต่อไปนี้หนูจะไม่อายใครอีกแล้ว หนูจะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า แม่เสี่ยงชีวิตช่วยหนูออกจากกองไฟ " แม่กอดดวงดาวไว้น้ำตาคลอเบ้า " ลูกรัก แม่ขอให้ลูกเป็นคนดี ตั้งใจเรียน ทำงานที่ดี แม่ก็พอใจแล้ว "
ในวันที่ดวงดาวเขียนเรียงความเรื่อง " สองมือแม่ " เข้าประกวดได้รับรางวัลชนะเลิศ และในนั้นมีกลอนที่ดวงดาวแต่งไว้ให้แม่ว่า
สองมือแม่ทำอาหารคาวหวานป้อน
ยามลูกนอนคอยป้องปัดพัดลมให้
กลัวลูกน้อยถูกยุงกัดอีกริ้นไร
สองมือไกวเปลกล่อมถนอมมา
สองมือแม่โอบลูกไว้เมื่อภัยถึง
สองมือซึ่งกว้างใหญ่ดั่งแผ่นฟ้า
พระคุณแม่หนักยิ่งกว่าพสุธา
เหล่าลูกยาระลึกนึกถึงคุณ
สองมือแม่สอนเคารพนบนอบกราบ
ศิรราบผู้มีคุณคอยเกื้อหนุน
ครูอาจารย์ ญาติผู้ใหญ่ได้ค้ำจุน
จะเป็นบุญของลูกผูกใจจำ
แม่ผู้มีน้ำใจเลิศประเสริฐนัก
มีคนรักสรรเสริญทุกเช้าค่ำ
แม่เมตตาต่อญาติมิตรจิตน้อมนำ
สุดหาคำพรรณาค่าความดี
ดวงดาวได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่น เพราะเรียนเก่ง และมีมารยาทงาม ส่วนแม่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นประจำปี ทุกคนต่างยินดีที่ดวงดาวเป็นลูกที่กตัญญู ช่วยแม่หาเงินมาเล่าเรียน ปัจจุบันดวงดาวเป็นอาจารย์สอนแถวฝั่งธน ใกล้จะปลดเกษียณแล้ว ดวงดาวมีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกชาย และลูกผู้หญิงที่เป็นเด็กดี ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ตั้งใจเรียน เท่านี้ดวงดาวก็ภูมิใจแล้วสมกับแรงกตัญญูที่มีต่อแม่นั่นเอง ส่วนแม่ของดวงดาวได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดในจังหวัดราชบุรี และได้จากไปอย่างสงบด้วยอายุ 70 ปี
ผมหวังว่าเรื่องนี้คงจะทำให้พวกเราทุกคนรักแม่มากขึ้นนะครับ สุดท้ายนี้ผมขอพรจากพระแม่มารีย์ผู้ทรงเป็นแม่ที่ประเสริฐสุดโปรดอำนวยพรให้แม่ของผมและแม่ของเราทุกคน มีสุขภาพแข็งแรง และได้พบกับความสุขนิรันดรด้วยเทอญ