พระรูปแม่พระร้องไห้... เพราะเหตุใด ?
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2005 8:57 pm
พระรูปแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด ที่มาจากประเทศไทยร้องไห้ที่ออสเตรเลีย
รูปแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ดนี้ ซื้อจากประเทศไทยเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้วโดย คุณแพทตี้ โพเวล (Patty Powell) เมื่อตอนที่เธอมาเยี่ยมครอบครัวของนักเรียนซึ่งเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ระหว่างโรงเรียนดรุณา ราชบุรี กับโรงเรียนที่เมืองเพิร์ธและเมืองร็อคกิงแฮม ตะวันตก ประเทศออสเตรเลีย รูปแม่พระนั้นก็มีลักษณะเหมือนดังพระรูปทั่วๆไปที่พบในประเทศไทย
เมื่อวันสมโภชนักบุญยอแซฟ 19 มีนาคม 2002 พระรูปก็ได้เริ่มร้องไห้ และเริ่มร้องไห้อีกครั้งเมื่อวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์จนถึงวันสมโภชปัสกา และเริ่มร้องไห้อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันสมโภชพระจิตเจ้า ในวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเตรียมสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ ได้มีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบตลบอบอวนทั่วไปหมด ไม่มีใครสามารถอธิบายปรากฎการณ์เหล่านี้ได้ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยซึ่งได้นำพระรูปไปตรวจสอบและวิเคราะห์โดยใช้วิธีทางเคมี และการทดสอบด้วยเสียง (Ultra Sound)
แพทตี้ได้นำพระรูปไปให้คุณพ่อเจ้าอาวาสของเธอ คุณพ่อวาลช์ (Walsh) ได้นำพระรูปไปไว้ในวัดให้บรรดาสัตบุรุษในวันเสาร์และอาทิตย์ สตรีนิกายแองกลิกันได้ใช้แว่นขยายเพื่อดูพระรูป และก็ได้สรุปว่าเป็นความมหัศจรรย์ซึ่งพระรูปนี้ร้องไห้จริงๆ น้ำตาของพระแม่ใสในตอนแรก แต่เมื่อน้ำตาเหล่านั้นไหลลงตามพระรูปก็ได้เปลี่ยนเป็นน้ำมันหอมสีเหลือง น้ำมันเหล่านี้ได้ใช้เจิมคนป่วยและอวยพร มีผู้คนเป็นจำนวนมากได้ถวายเงินให้ แต่แพทตี้กล่าวว่า เงินทั้งหมดที่ได้รับนั้น เธอจะนำไปให้กับซิสเตอร์โจน (Sr.Joan) คณะแม่พระถวายองค์ฯ (PBVM) ซึ่งทำงานกับบรรดาเด็กๆและสตรีที่ชุมชนคลองเตย กรุงเทพฯ
ทุกวันนี้ ผู้คนที่รู้เรื่องยังคงไปเคารพและสวดภาวนาที่พระรูปนี้เป็นจำนวนมาก และคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ได้กลับใจหลังจากที่ได้ทิ้งวัดมานานหลายปี พระศาสนจักรในออสเตรเลียได้ระมัดระวังมากกับเรื่องนี้ แต่ก็มิได้ปฏิเสธว่าอาจจะเป็นอัศจรรย์ก็ได้
Sr.Monica Maddox (PBVM) โดย
รูปแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ดนี้ ซื้อจากประเทศไทยเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้วโดย คุณแพทตี้ โพเวล (Patty Powell) เมื่อตอนที่เธอมาเยี่ยมครอบครัวของนักเรียนซึ่งเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ระหว่างโรงเรียนดรุณา ราชบุรี กับโรงเรียนที่เมืองเพิร์ธและเมืองร็อคกิงแฮม ตะวันตก ประเทศออสเตรเลีย รูปแม่พระนั้นก็มีลักษณะเหมือนดังพระรูปทั่วๆไปที่พบในประเทศไทย
เมื่อวันสมโภชนักบุญยอแซฟ 19 มีนาคม 2002 พระรูปก็ได้เริ่มร้องไห้ และเริ่มร้องไห้อีกครั้งเมื่อวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์จนถึงวันสมโภชปัสกา และเริ่มร้องไห้อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันสมโภชพระจิตเจ้า ในวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเตรียมสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ ได้มีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบตลบอบอวนทั่วไปหมด ไม่มีใครสามารถอธิบายปรากฎการณ์เหล่านี้ได้ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยซึ่งได้นำพระรูปไปตรวจสอบและวิเคราะห์โดยใช้วิธีทางเคมี และการทดสอบด้วยเสียง (Ultra Sound)
แพทตี้ได้นำพระรูปไปให้คุณพ่อเจ้าอาวาสของเธอ คุณพ่อวาลช์ (Walsh) ได้นำพระรูปไปไว้ในวัดให้บรรดาสัตบุรุษในวันเสาร์และอาทิตย์ สตรีนิกายแองกลิกันได้ใช้แว่นขยายเพื่อดูพระรูป และก็ได้สรุปว่าเป็นความมหัศจรรย์ซึ่งพระรูปนี้ร้องไห้จริงๆ น้ำตาของพระแม่ใสในตอนแรก แต่เมื่อน้ำตาเหล่านั้นไหลลงตามพระรูปก็ได้เปลี่ยนเป็นน้ำมันหอมสีเหลือง น้ำมันเหล่านี้ได้ใช้เจิมคนป่วยและอวยพร มีผู้คนเป็นจำนวนมากได้ถวายเงินให้ แต่แพทตี้กล่าวว่า เงินทั้งหมดที่ได้รับนั้น เธอจะนำไปให้กับซิสเตอร์โจน (Sr.Joan) คณะแม่พระถวายองค์ฯ (PBVM) ซึ่งทำงานกับบรรดาเด็กๆและสตรีที่ชุมชนคลองเตย กรุงเทพฯ
ทุกวันนี้ ผู้คนที่รู้เรื่องยังคงไปเคารพและสวดภาวนาที่พระรูปนี้เป็นจำนวนมาก และคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ได้กลับใจหลังจากที่ได้ทิ้งวัดมานานหลายปี พระศาสนจักรในออสเตรเลียได้ระมัดระวังมากกับเรื่องนี้ แต่ก็มิได้ปฏิเสธว่าอาจจะเป็นอัศจรรย์ก็ได้
Sr.Monica Maddox (PBVM) โดย