มีใครชอบเเม่พระฟาติมามั่งคับ

สมาชิกกลุ่มลูกแกะน้อยของพระคริสตเจ้า และผู้สนใจกลุ่มลูกแกะของพระองค์
Yan Agape
โพสต์: 1240
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 12:35 pm

Holy: ชาวคาทอลิกศรัทธาต่อพระนางมารีย์  ผู้เป็นมารดาของพระเยซูคริสตเจ้า  และยกพฤษภาคมเป็นเดือนของพระนาง  ที่จะภาวนาสายประคำและรำพึงถึงพระางเป็นพิเศษ  นอกจากนี้วันที่ 13 พฤษภาคม  เป็นวันระลึกถึง " แม่พระแห่งฟาติมา "  คาทอลิกส่วนมากทราบว่า พระนางมารีย์ได้ประจักษ์มาแก่เด็กเลี้ยงแกะสามคน  ที่ตำบลฟาติมา ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม  ค.ศ. 1917

             ขณะที่สงครามโลกครั้งแรกใกล้จะสิ้นสุดลง เด็กทั้งสามคือ ด.ญ. ลูซีอา ซันโทส อายุ 10 ขวบ  ( ยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ )  และสองพี่น้องคือ  ด.ช. ฟรังซิสโก  มาร์โต  อายุ  9 ขวบ  และน้องสาวชื่อ  ยาชินทา   มาร์โต อายุ  7 ขวบ  ทั้งสองครอบคัวเป็นญาติกัน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอัลยุสเตรล  เป็นหมู่บ้านชาวนา - ชาวสวน  รวมทั้งเลี้ยงสัตว์  ตามประวัติ  แม้จะมีการเบียดเบียนศาสนาคริสต์ในประเทศนั้น โดยพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ครอบครัวของเด็กทั้งสาม  พ่อแม่เป็นคนศรัทธา  สอนคำสอนแก่ลูกให้สวดภาวนา สวดสายประคำ  มีความศรัทธาต่อพระเป็นเจ้า แม่พระและนักบุญ  เด็กทั้งสามจึงเป็นเด็กศรัทธาน่ารัก  เป็นเด็กซื่อๆ 


ด.ญ. ลูซีอา ซันโทส อายุ 10 ขวบ  ( ยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ ), died February 13, 2005,   is Sister Lucia of Jesus and of the Immaculate Heart, better known as Sister Lucia of Jesus
แก้ไขล่าสุดโดย Yan Agape เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 13, 2009 12:38 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
kohtheboy01
โพสต์: 201
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2007 9:10 am

พุธ ส.ค. 19, 2009 9:07 pm

รูปนี้เป็นรูปแม่พระฟาติมา แบบพรายน้ำ เรือนแสง และลูกตาแม่พระเป็นแบบตาแก้ว เหมือนมากๆ สวยมากมาย ที่อัสสัมมีขายใครอยากได้ซื้อเลย

รูปภาพ

แบบหน้าใกล้ๆ จะเห็นแม่พระแบบตาแก้ว

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

ศุกร์ ต.ค. 02, 2009 12:53 pm

รูปภาพ

ขอพระราชินีแห่งกวาดาลูป  ช่วยวิงวอนเทอญ

เลย์ชอบแม่พระกวาดาลูป เพราะดูแล้วท่านมีความงดงามแบบหญิงผิวดำ    : xemo016 :
Andreas เขียน: ที่บ้านผมตั้งรูปแม่พระแห่งฟาติมาเอาไว้ที่พระแท่นกลางของบ้านครับ พอดีเพิ่งเสกบ้านเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ

รูปภาพ

รูปภาพ
สวยจังครับ  : xemo026 : เลย์มีความฝันว่า ถ้าเลย์เรียนจบ  มีงานทำ มีครอบครัว เลย์อยากจะมีบ้านสักหลัง

มีห้องพระ มีกางเขนใหญ่เป็นประธาน มีรูปปั้นพระหฤทัยองค์ใหญ่องค์อยู่ตรงกลาง  รูปปั้นแม่พระ และรูปปั้นนักบุญยอแซฟ อยู่ซ้ายขวา

มีป้ายติดบอกเหนือประตูทางเข้าว่า " ห้องแห่งจิตวิญญาณ "
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ต.ค. 02, 2009 1:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
วอ
โพสต์: 1153
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 7:36 pm

อาทิตย์ ต.ค. 04, 2009 10:18 pm

งดงาม แฮะ ชอบตำนานของฟาติมา กับ กวาเดอลูป อ่ะ หากรู้ตำนานอื่นๆ แบ่งปันหน่อยสิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ต้นไม้แห่งเจสซี
โพสต์: 343
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 3:33 pm
ที่อยู่: หลุมที่4 สุสานวัดพระราชินีแห่งสันติภาพ อรัญประเทศ
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:31 am

วอ เขียน: งดงาม แฮะ ชอบตำนานของฟาติมา กับ กวาเดอลูป อ่ะ หากรู้ตำนานอื่นๆ แบ่งปันหน่อยสิ
น้องวอต้องการ พี่จัดให้..........

พระแม่ทรงประจักษ์ที่ โบแรง ในสังฆมณฑลนามูร์ ประเทศเบลเยี่ยม ค.ศ. 1932

                                  รูปภาพ

การะประจักษ์ โบแรงเป็นเมืองเล็กๆ บนเนินป่าห่างจากยีเวต์ 5 กิโลเมตร บนถนนจากนามูร์ไปยังบุยยอง ในปี 1932 ซึ่งห่างไม่ถึง 20 ปี หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 พระนางพรหมจารีได้ประจักษ์มาในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 1932 ถึง 3 มกราคม 1933

วันแรก คือวันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน เด็ก 5 คน ได้เห็นพระนางพรหมจารีประจักษ์มาคือเด็กในครอบครัววัวแซง 3 คน ได้แก่ แฟรนังด์ อายุ 15 ปี, อัลแบรต์ 11 ขวบ, ยีลแบรต์ 13 ปี และเด็กในครอบครัวแกมเบรอ อีก 2 คน คือ อังเดร 15 ปี และยิลแบรต์ 9 ขวบ ภาพนิมิตที่สุกใสนั้นเป็นสีขาวเดินมาบนสะพานข้ามทางรถไฟซึ่งจะไปยังบ้านเด็กประจำของนักบวชหญิงคณะหนึ่ง ในวันที่ 3 "พระนางมารีอา ไม่ปรากฏตัวมาอย่างลอยๆ อีกแล้ว คราวนี้ทรงปรากฏมาเกือบติดพื้นดินบริเวณพุ่มต้นโอเบปิน พระนางพูดกับเด็กๆ อย่างยิ้มแย้ม" หลายๆ ครั้งในระหว่างประจักษ์เด็กๆ คุกเข่าลงพลางร้อยว่าว "นั่นไง" ถุงเท้าขาด แต่หัวเข่า ไม่มีร่องรอยของความเจ็บปวดเลย เพราะหนังสือพิมพ์ประโคมข่าว ผู้คนจึงมาจากทั่วทุกสารทิศ และในวันพฤหัสที่ 8 ธันวาคม ฝูงชนก็เป็นพยานที่สำคัญให้แก่เด็ก ตลอดเวลา 10 นาที แห่งประจักษ์มาครั้งนี้ นายแพทย์ได้ทดสอบเด็กหลายครั้ง เช่น จุดไม้ขีดเผาแต่เด็กๆ ไม่รู้สึกเลย และไม่มีอะไรเหลือเป็นร่องรอยเลยว่าถูกไฟไหม้

พระนางพรหมจารีตอบถำถามของเด็กว่า พระนางคือ พระนางพรหมจารีผู้นิรมล พระนางปรารถนาให้มีโบสถ์หลังหนึ่งสำหรับผู้มาจาริกแสวงบุญ พระนางขอให้สวดภาวนามากๆ ตั้งแต่การประจักษ์วันที่ 29 ธันวาคม เป็นต้นไป พระนางมีหัวใจทองอยู่บนหน้าอก มีรังสีส่องสว่างยาวประมาณ 10 ซม. พุ่งออกมารอบๆ หัวใจทองพระนางมารีย์แห่งโบแรงจึงได้สมญานามว่า "พระนางพรหมจารีหัวใจทอง"

วันอังคารที่ 3 มกราคม พระนางพรหมจารีปรากฏมาต่อหน้าฝูงชนประมาณ 30,000 คน เป็นการประจักษ์ครั้งสุดท้ายเพื่ออำลาเด็ก และฝากความลับไว้แก่ยิลแบร์ต เดอแกมเบรอ, อัลแบรต์ วัวแซง และยิลแบร์ต วัวแซง ความลับ ซึ่งแม้ขณะนี้ ก็ยังมิได้มีการเปิดเผย แล้วพระนางตรัสกับยิลแบร์ต วัวแซงว่า "ฉันจะทำให้คนบาปกลับใจ ลาก่อนนะ!" และตรัสกับอังเดร เดอแกมเบรอว่า "ฉันคือ มารดาพระเจ้า, ราชินีแห่งสวรรค์, จงสวดภาวนาเสมอๆ ลาก่อนนะ!" วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1943 คณะกรรมการสอบสวน แห่งสังฆมณฑลนามูร์ ซึ่งมีพระคุณเจ้าชารือเป็นประธาน ได้รับรองว่าการประจักษ์เป็นเรื่องจริง และอนุญาตให้ถวายคารวกิจแด่พระแม่เจ้าแห่งโบแรงได้ จากนั้น สารของพระแม่เจ้าแห่งโบแรงก็แพร่กระจายทั่วไป มิใช่แต่ในเบลเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังแผ่ไปที่ฮอลันดาและนอกทวีปยุโรปด้วย

บันทึกด้วยมือของ เจ ลามอตต ประธานกิตติมศักดิ์ ศาลสถิตยุติธรรมแห่งเมืองดีนังต์ วันที่ 4 มกราคม 1933 สิ่งที่ผมได้เห็นและได้ยินที่โบแรงในเย็นวันอังคารที่ 3 มกราคม 1933 วันนั้น ผมไปที่โบแรงเป็นครั้งแรก หลังจากเด็กทั้ง 5 คน ได้รับการประจักษ์อย่างน้อยก็ 30 ครั้งแล้ว ผมไปพร้อมกับ นายชอฟเฟิน ผู้สังเกตการณ์ของพระเจ้าแผ่นดิน, นายเอมีล โลรังต์ รองประธานศาลสถิตยุติธรรม และนางโลรังต์พร้อมกับบุตรชายชื่อ ปิแอร์ เรามีถึงที่นั่นเวลา 5 โมงเย็นท่ามกลางแถวยาวของรถบัส รถส่วนตัวและฝูงชน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกะประมาณว่ามีจำนวนถึง 20,000 คน บริเวณริมทางรถไฟเต็มไปด้วยผู้คนที่สนใจมาดูการประจักษ์ แม้สารวัตรตำรวจจะประกาศขอทางให้พวกเราสักเท่าใดก็ตามพวกเราก็ถูกกลืนหายเข้าไปในกลุ่มฝูงชนแล้วเราก็ถูกเบียดไปจนกระทั่งเกือบถึงทางเข้าสวน แต่ต่อมา เมอสิเออร์ เชราด์ นายอำเภอ แหงดีนังต์ ได้ช่วยขอทางให้เราจนเข้าไปถึงรั้วที่กั้นเพื่อแยกเด็กทั้ง 5 จากกลุ่มชน เด็กทั้ง 5 เพิ่มมาถึงหน้าประตูทางเข้า เวลานั้นประมาณ 1 ทุ่มแล้วแม้ว่าจะพลบค่ำแล้วก็ตาม ผมก็ยังมองเห็นได้ชัดเจนเพราะห่างกันเพียง 1 เมตร ผมเพ่งความสนใจไปยังเด็ก 2 คน ที่อยู่ใกล้ที่สุด คือ ยิลแบรต์ เดอแกมเบรอ (9 ขวบ) และดังเดร เดอแกมเบรอ (14 ปี) เด็กทั้ง 5 เริ่มต้นยืนก่อสวดตามพร้อมกัน อังเดร ภาวนาด้วยความตั้งใจและศรัทธาเยี่ยงเทวดา ไม่ได้แสดงอาการวอกแวกแต่สักนิด ผมยังไม่เคยเห็นใครสวดภาวนาดีเพียงนี้เลย แต่แม่หนูยิลแบร์ต ยังวอกแวกบ้าง ผมมองๆ ดูรู้สึกว่า เด็กทั้งสองมิได้มองเพ่งสายตาไปทางเดียวกัน สวดไปได้ประมาณ 20 เม็ดเสียงสวดของเด็กเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน สวดเร็วขึ้นนิด และสีหน้าเปลี่ยนไป ตวงตาวาววับ คำภาวนามีลักษณะเป็นการอ้อนวอนมากขึ้น คราวนี้เด็กทั้งสองเพ่งสายตาไปยังพุ่มไม้ด้านซ้ายของทางเข้า เวลาเดียวกัน เด็กๆ ทั้ง 5 คุกเข่าลงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดกันเลย การประจักษ์เริ่มแล้ว อังเดรอยู่ในลักษณะของการพิศเพ่งภาวนา สงบ เอิบอิ่มไปด้วยความงามและความรักต่อพระนางมารีย์ น้ำตาคลอหน่วยทั้งสองข้าง ทั้งสองสวดวันทามารีอากันเอง โดยไม่มีการตอบรับของฝูงชน สวดไปได้สัก 20-30 เม็ด ก็หยุดทันทีพร้อมกันตรงคำที่ว่า : วันทามารีอาแล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดทั่วไปหมด เด็กสาวร้องไห้อย่างขมขื่น ส่วนน้องสาวของเธอน้ำตาไหลพราก หลังจากนั้นไม่นาน เด็กทั้ง 5 ก็ลุกขึ้น และเริ่มสวดสายประคำตามปรกติ ภคินีหลายคน ตามติดด้วยนายแพทย์ และบิดามารดาก็เข้าประตูสวนมา นายอำเภอเชราร์ดได้นำนายซอฟเฟิน และผมไปยังห้องรับรองที่กว้างใหญ่ของอาราม ซึ่งบรรดานายแพทย์และนักหนังสือพิมพ์นั่งบ้างยืนบ้างอยู่ในนั้น นายเซราร์ด บอกให้ข้าพเจ้าสอบถามพวกเด็กพร้อมกับผู้สังเกตการณ์ของพระเจ้าแผ่นดิน เขานำเด็กเข้ามาทีละคน ท่ามกลางผู้คนมากมายที่มาออกันอยู่ตามหน้าประตูและตามระเบียงห้อง ต่อไปนี้เป็นคำสอบถาม

11 ขวบ ขวบท่าทางปราดเปรียว ขวบท่าทางปราดเปรียวและเป็นกันเอง

ถาม วันนี้หนูเห็นอะไรหรือเปล่า?

ตอบ เห็นครับ ผมเห็น เธอก็เหมือนทุกครั้งนั่นแหละครับ แต่งตัวเหมือนกัน และอยู่ตรงพุ่มไม้นั้น

ถาม เธอได้บอกอะไรหนูหรือเปล่า?

ตอบ (ทำท่าล้อเลียนนิดๆ) บอก ครับ แต่ผมไม่บอกคุณถึงเรื่องที่เธอบอกผมแน่ๆ

ถาม ทำไมล่ะ?

ตอบ ไม่ครับ ผมไม่บอก

ถาม เธอห้ามมิให้บอกใครหรือ? เป็นความลับใช่ไหม?

ตอบ ครับ

ถาม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องบอก แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวหนูคนเดียวหรือเกี่ยวกับทุกคน?

ตอบ (เด็กชายรู้ทัน) ถ้าผมบอกคุณ คุณก็รู้

มีใครคนหนึ่งถามว่า : อย่างนั้นหนูบอกหน่อยได้ไหมว่าเป็นเรื่องเศร้าหรือเรื่องน่ายินดี?

ตอบ เศร้ามากกว่าครับ


ด.ญ. ยิลแบรต์ เดอแกมเบอ อายุ 9 ขวบ

ถาม หนูเห็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?

ตอบ เห็นค่า, เธอมีหัวใจทองเช่นที่เคย ตอนที่เธอเสด็จมาเธอประสานมือกัน

ถาม เธอพูดอะไรหรือเปล่า?

ตอบ เธอพูดว่า ลาก่อน

ถาม หนูได้ยินที่เธอพูดกับคนอื่นไหม?

ตอบ หนูไม่รู้หรอกค่ะว่าเธอพูดกับคนอื่นหรือเปล่า

ถาม หนูดีใจไหม?

ตอบ ไม่ค่ะ เพราะเธอบอกลาหนู เธอพูด ลาก่อน หนเดียว

ถาม หนูได้ยินชัดไหม?

ตอบ ชัดซีคะ หนูได้ยินกับหูเลย

ถาม เธอพูดภาษา ฝรั่งเศส หรือภาษาฝรั่งเศสที่พูดกันในประเทศนี้?

ตอบ พูดภาษาฝรั่งเศสเหมือนคุณคะ




ด.ญ. ยิลแบรต์ วัวแซง อายุ 13 ปี

ถาม วันนี้เห็นอะไรใช่ไหม?

ตอบ ใช่ค่า หนูเห็น เธออยู่ที่เดียวกันที่เธอเคยมาทุกครั้ง เธอมีแสงมากกว่าทุกครั้งและยิ้มมากกว่าด้วย หนูเห็นดวงใจสีทองดวงหนึ่งตอนที่เธอกางมือออก เธอมีลูกประคำเหมือนทุกครั้ง

ถาม เธอพูดกับหนูไหม?

ตอบ เธอบอกว่า "ฉันจะทำให้คนบาปกลับใจ" เธอพูดตอนที่เรากำลังคุกเข่าลงและพอเธอจะไป เธอก็บอกว่า "ลาก่อน" หนูก็เลยร้องไห้ (มีคนถาม) หนูได้ยินเธอพูดกับหนูนะคะ เธอพูดแค่ 2 ประโยคนี้เท่านั้น


อังเดร เดอแกมเบรอ อายุ 14 - 15 ปี

ถาม หนูเห็นใช่ไหม?

ตอบ ค่ะ. คราวนี้เธอมีแสงสว่างสุกใสมาก

ถาม เธอพูดหรือเปล่า?

ตอบ พูดค่ะ. เธอบอกว่า : ฉันเป็นมารดาพระเป็นเจ้าและราชินีสวรรค์ หรือราชินีแห่งสวรรค์ และมารดาพระเจ้า

ถาม เธอไม่ได้บอกอย่างอื่นอีกหรือ?

ตอบ ค่ะ เธอบอกให้สวดภาวนาเสมอๆ

ถาม ทำไมตอนท้ายการประจักษ์ หนูถึงร้องไห้ล่ะ? แล้วทำไมหนูจังดูเศร้านัก? (ถึงตอนนี้ เด็กสาวยกมือปิดหน้าแล้วสะอื้นไห้)

ตอบ เพราะเธอบอกหนูว่า ลาก่อน แล้วเธอก็ค่อยๆ หายไป

ถาม ตอนที่เธอพูดนั้น ทำไมหนูไม่หยุดสวดออกเสียง ทำไมหนูไม่หยุดฟังเธอพูดล่ะ?

ตอบ หนูไม่รู้ค่ะ ว่าหนูหยุดสวดหรือเปล่า (มีคนถาม) หนูไม่รู้ค่ะว่าเธอพูดกับคนอื่นหรือเปล่า

ถาม เธอได้ห้ามพูดเรื่องใดบ้างไหม?

ตอบ ไม่นี่คะ เธอไม่ได้ห้าม ก็หนูบอกคุณแล้ว (มีผู้ถาม) หนูยังไม่รู้เลยค่ะว่าวันต่อๆ ไป นั้นหนูจะกลับมาสวดที่นี่อีกไหม


แฟรนังด์ วัวแซง อายุ 15 ปี เศร้าน้อยกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด

ถาม หนูเห็นอะไรบ้างหรือเปล่า?

ตอบ ตอนแรกหนูไม่เห็นอะไรพร้อมกับคนอื่นเขา แต่ตอนหลังพวกเขาย้ายเข้ามาในสวนของซิสเตอร์หนูยังคงอยู่ที่เดิม แล้วหนูก็สวดต่อไปคนเดียว

ถาม แล้วไงต่อไปล่ะ?

ตอบ แล้วหนูก็เห็น ตรงที่ที่เธอเคยมาทุกๆ ครั้ง เป็นเหมือนเคยมาทุกๆ ครั้ง เป็นเหมือนก้อนไฟ แล้วก็ระเบิดออกมาและในแสงสว่างนั้น เธอก็ปรากฏมาเหมือนแบบที่เคย มีหัวใจทองด้วย

ถาม เธอพูดอะไรกับหนูหรือเปล่า?

ตอบ พูดค่ะ เธอถามหนูว่า รักฉันไหม หนูก็ตอบว่า รักค่ะ เธอก็พูดต่อไปว่า รักพระบุตรของฉันไหม หนูก็ตอบอีกว่า รักค่ะ เธอเสริมว่า ทำพลีกรรมนะ

ถาม เธออยากจะบอกอะไรกับหนูล่ะ ถึงพูดอย่างนั้น? หนูเข้าใจสิ่งที่เธอขอหรือเปล่า? (เด็กสาวยิ้ม ลังเล แล้วก็นิ่งไม่ตอบอะไร และไม่อธิบายอะไรอีก) ผู้ฟังคนหนึ่ง (นายแพทย์) ถามขึ้นว่า ถ้าเขาจับหนูเข้าคุกล่ะ หนูจะพูดอย่างที่หนูพูดเมื่อครู่นี้ไหม? แล้วยังมีผู้อื่นถามเช่นเดียวกันนี้อีก 2-3 คน ผู้สังเกตการณ์ของพระเจ้าแผ่นดินเชิญให้ผมพูด ผมจึงว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่จำเลย เราถามแกตอบ ไม่ควรจะจัดการกับแกอย่างที่เราคิดไว้

ถาม หญิงนั้น ไม่ได้พูดอะไรอีกหรือ?

ตอบ พูดค่ะ ขณะที่เธอจะจากไปเธอบอกว่า ลาก่อน


คำรับรองการประจักษ์ของพระสังฆราชแห่ง นามูร์ ถึงบรรดาพระสงฆ์ในสังฆมณฑล (ปี 1949)

ประกาศคำสั่งที่ท่านกำลังจะอ่านอยู่นี้ นับเป็นวันประวัติแห่งการแสดงคารวกิจเกี่ยวกับพระมารดาแห่งโบแรง ดังที่พวกท่านได้ทราบกันอยู่แล้ว เมื่อเราได้รับรองการแสดงคารวกิจนี้อย่างเป็นทางการ คำประกาศของเรายังสงวนข้อกำหนดชัดเจนอยู่ : เรายังถือว่า (ในปี 1943) ในขณะนั้นเรายังรับรองอย่างชัดเจนไม่ได้ว่า "การประจักษ์นั้นเป็นเรื่องจริงเหนือธรรมชาติ" แต่ต่อนั้นมา เหตุน่าสงสัยก็ค่อยๆ ลดลงไปทุกที จนมาถึงวันนี้ เฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า เรากล้ากล่าวว่า ขณะนี้เรามีเครื่องหมายที่ประกาศได้อย่างมั่นใจ ทางคณะกรรมการด้านพระธรรมคำสอนของสังฆมณฑลได้อนุญาตให้ประกาศได้แล้วว่า มีการหายโรคอย่างอัศจรรย์ 2 ราย ซึ่งได้รับเพราะการวิงวอนขอต่อพระแม่แห่งโบแรง พวกท่านคงระลึกได้ถึงเรื่องอื่นๆ ของพระมารดาแห่งโบแรง ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ว่า ยังมีผู้รับพระคุณทั้งทางฝ่ายกาย และวิญญาณอีกมากด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มต้นได้รับพระคุณจากพระแม่เจ้า โดยอาศัยคำภาวนาอย่างศรัทธาร้อนรนต่อพระแม่ ก็เรื่องการหายโรคอย่างอัศจรรย์ครั้งหลังสุดนี้แหละ ที่ทำให้เรามั่นใจว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติจริง

ให้เราถวายพระพรแด่พระเป็นเจ้าและพระแม่มารีอา เราสามารถยืนยันได้อย่างรอบคอบว่า พระราชินีแห่งสวรรค์ได้ปรากฏมาให้เด็ก 5 คน แห่งโบแรงเห็นจริงในระหว่างปี 1932-1933 และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นสำหรับเราคือการปรากฏครั้งนี้ของพระนาง พระนางได้แสดงให้เราเห็นดวงพระทัยเยี่ยงมารดาที่วิตกกังวลต่อเรา ได้เรียกร้องเราให้สวดภาวนามากๆ และยังแสดงตัวเป็นผู้เสนอทรงฤทธิ์เพื่อให้คนบาปกลับใจ

ให้เราพิศวงถึงวิธีการแห่งพระญาณสอดส่องที่ได้ดำเนินมาเป็นเวลาถึง 7 ปี จนถึงวาระสุดท้ายของการสืบสวนนี้ เราได้ลงชื่อในเอกสาร เพื่อแสดงความศรัทธาร้อนรนในหัวใจของเรา ด้วยความเชื่อมั่นว่า บรรดาสงฆ์ในสังฆมณฑลของเรา จะร่วมสมนาคุณพระเป็นเจ้าพร้อมกับเรา ในนามของสัตบุรุษทั้งหมดของเรา เราขอย้ำถึงความวางใจที่ทวีมากขั้นของเราต่อพระมารดา : โปรดเป็นพระราชินีของเหล่าลูก ลูกเป็นของพระนาง!

พี่น้องที่เคารพรักในพระคริสตเยซูและพระแม่มารีย์

วันที่ 2 กรกฎาคม 1949

อังเดร-มารี ชารู, สังฆราชแห่งนามูร์
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:40 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ต้นไม้แห่งเจสซี
โพสต์: 343
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 3:33 pm
ที่อยู่: หลุมที่4 สุสานวัดพระราชินีแห่งสันติภาพ อรัญประเทศ
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:33 am

พระแม่ทรงประจักษ์ที่ บันเนอ ในสังฆมณฑลลิเอช ประเทศเบลเยี่ยม ค.ศ. 1933

                                        รูปภาพ

บันเนอ แม่พระทรงมอบสารธรรมดาที่เข้าใจง่าย ขณะนั้นเป็นปี 1933 หลังจาการประจักษ์ครั้งสุดท้ายที่โบแรงได้ 12 วัน
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ต้นไม้แห่งเจสซี
โพสต์: 343
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 3:33 pm
ที่อยู่: หลุมที่4 สุสานวัดพระราชินีแห่งสันติภาพ อรัญประเทศ
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:36 am

แม่พระทรงประจักษ์ ที่ตำบลลาซาแลต ในปี ค.ศ. 1846

                                          รูปภาพ รูปภาพ

แม่พระทรงประจักษ์ที่ตำบล ลาซาแลตในวันเสาร์ อนุพรต ตรงกับวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 1846 เป็นวันฉลองนักบุญยานูอารีโอ และเพื่อนมรณสักขี บทพิธีกรรมของวันนั้นมีข้อความที่อ้างอิง และอธิบายสารของแม่พระแห่ง ลาซาแลตอยู่บ้าง และเป็นไปได้ที่จะเห็นว่า คำพูดของแม่พระตรงกับข้อความในมิสซาของวันนั้น กล่าวคือ แม่พระตรัสว่า "เวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งทุกยุคทุกสมัย และเป็นการสิ้นสุดแห่งการจบสิ้นทั้งหลาย" ในขณะที่พระศาสนจักรอ่านบทจดหมายในมิสซาวันนั้นว่า "อีกไม่ช้าหรอก, อีกไม่นานนัก พระองค์ผู้ซึ่งจะต้องเสด็จมา ก็จะเสด็จมา" (ฮีบรู 10) แม่พระทรงประกาศให้ทราบว่า พระบุตรจะทรงลงอาญาโทษในไม่ช้านี้
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ต้นไม้แห่งเจสซี
โพสต์: 343
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 3:33 pm
ที่อยู่: หลุมที่4 สุสานวัดพระราชินีแห่งสันติภาพ อรัญประเทศ
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:37 am

พระแม่เจ้าทรงประจักษ์ที่เปลเลอวัวแซง ประเทศฝรั่งเศส ค.ศ. 1876

                                        รูปภาพ

แอสแตล ฟาแกต ทำงานเป็นคนใช้อยู่กับคุณนายเดอลา โรชฟูโกลด์ เธอป่วยเป็นโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบเรื้อรัง และที่สุดกลายเป็นวัณโรค ในค.ศ. 1875 แพทย์ที่เยียวยารักษาชื่อ ฮูแบร์ต เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอดและวัณโรค แพทย์ตรวจพบว่า นอกจากแอสแตลจะเป็นโรคที่เยื่อบุช่องท้องแล้ว ยังพบวัณโรคที่กระดูกแขนขวา ทำให้แขนข้างนั้นเป็นอัมพาต ขณะที่แอสแตลตกอยู่ในสภาพใกล้จะตายนี้ ก็ได้รับความช่วยเหลืออย่างมหัศจรรย์จากแม่พระและแม่พระได้มอบภารกิจอย่างหนึ่งให้เธอทำด้วย ต่อไปนี้เป็นคำบอกเล่าเรื่องราวอย่างย่อๆ ของแอสแตล
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:42 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ต้นไม้แห่งเจสซี
โพสต์: 343
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 3:33 pm
ที่อยู่: หลุมที่4 สุสานวัดพระราชินีแห่งสันติภาพ อรัญประเทศ
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:39 am

การประจักษ์ของพระแม่เจ้าที่ปงต์แมง ประเทศฝรั่งเศส ค.ศ. 1871

                                        รูปภาพ

เออแชน บาร์แบอแด๊ต อายุ 12 ขวบ เป็นเด็กเอาจริงเอาจัง ฉลาดเฉลียว อ่อนโยนซื่อๆ และเป็นเด็กดี เขาโผล่ออกมาจากยุ้งข้าวเพื่อ "ดูเวลา" และเขาได้เห็นหญิงงามผู้หนึ่ง ปรากฏมากลางอากาศ ลอยอยู่สูงประมาณ 2-3 เมตร เหนือหลังคาบ้านข้างเคียง "เธอยิ้มให้ฉัน" เขาเล่าในภายหลัง "และฉันเพียงมองเธออย่างไม่กระดุกกระดิกเลย ฉันทั้งประหลายใจและดีใจในเวลาเดียวกัน" เออแชนบอกกับน้องชายวัย 10 ขวบ ซึ่งเป็นคนว่องไวและมีชีวิตชีว่า "ยอแซฟ น้องไม่เห็นอะไรเลยหรือ?" "เห็นซี่ ผมเห็นสตรีแสนงามคนหนึ่ง เธอสวมเสื้อยาวสีฟ้า สีฟ้าเข้มเป็นมันระยับ เหมือนสีครามที่ใช้ลงผ้าเลย" ยอแซฟและเออแชนบรรยายถึงภาพปรากฏที่น่าพิศวงนั้น "สตรีงามนั้นเป็นความงามที่น่าชื่นใจ ดูเธอช่างเยาว์วัยนัก 18-20 ปีเห็นจะได้ เสื้อยาวของเธอประดับด้วยดวงดาวสีทอง ตั้งแต่คอจดชายกระโปรง แบบเสื้อมีลักษณะกว้างและมีจีบลู่ลงมา แขนเสื้อกว้างคลุมลงมาจนถึงข้อมือ คอเสื้อเป็นแบบเรียบๆ แต่งามมาก สตรีงามสวมรองเท้าสีฟ้ามีริบบิ้นเป็นสีทอง มีผ้าคลุมศีรษะเป็นสีดำ คลุมผม

"สวมมงกุฎทองเหนือผ้าคลุม มงกุฎมองดูคล้ายๆ กับรัดเกล้าหรือเหมือนมงกุฎกลับหัวนั้นเอง มือของพระนางเล็ก และแบออกมายังเราเหมือนกับแม่พระเหรียญอัศจรรย์ พระพักตร์เรียวกลม
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ต.ค. 06, 2009 1:42 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
tach
โพสต์: 200
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 22, 2009 9:53 pm

เสาร์ พ.ค. 29, 2010 11:11 pm

ชอบ
ที่คอห้อยเเม่พระฟาติมา
มีพระรูป
และรูป
อยู่ในห้องพระ
tach
โพสต์: 200
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 22, 2009 9:53 pm

อังคาร ต.ค. 26, 2010 10:17 pm

รักเเม่พระฟาตมา มากๆๆๆๆๆ :s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ย. 11, 2012 1:48 pm

ส่วนตัวชอบแม่พระกวาดาลูปครับ เเต่แม่พระฟาติมาก็ชอบครับ : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
namoun47
โพสต์: 46
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 02, 2017 12:52 pm
ที่อยู่: 183/36 ต.ช่องสะแก อ.เมือง จ.เพชรบุรี 76000

อังคาร ต.ค. 10, 2017 12:53 pm

ผมชอบมากครับ เพราะผมมาเป็นคริสตังก็เพราะเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งนี่แหละครับ
ตอบกลับโพส