มีเรื่องของคนๆหนึ่งที่อยากจะนำมาแบ่งปันให้พี่น้องทุกคนฟัง
ที่วัดของหนูมีคุณลุงแก่ๆท่านหนึ่ง ทุกวันอาทิตย์ท่านชอบมาวัดแต่เช้า
เพื่อสวดภาวนา หนูเห็นคุณลุงนั่งสวดในวัดคนเดียว มาหลายปีแล้วค่ะ
หนุสังเกตุว่าทำไมไม่มีลูกหลานของคุณลุงท่าน มาคอยรับส่งเลยสักวัน
ในทุกๆวันที่ท่านเดินทางมาวัด ท่านก้จะเดินมาเองเป็นระยะทางไปกลับประมาณ10กิโลทุกวัน
หนูเคยถามคุณลุงว่า ถ้าคุณลุงเดินไม่ค่อยไหวขนาดนี้แล้ว
คุณลุงก้สวดภาวนาที่บ้านก็ได้นี่ค่ะ วันศุกร์ต้นเดือนคุณพ่อก็ไปส่งศลีอยุ่แล้ว
หนูก็เลยถามต่อว่า แล้วทำไมคุณลุงเดินมาวัดคนเดียวทุกครั้งเลยละค่ะลูกหลานไม่มีเหลอ
คุณลุงก็เงียบไปสักพักร้องไห้แล้วก็ตอบว่า ที่ลุงต้องมาสวดภาวนาทุกวัน และก้ต้องเดินมาไกลขนาดนี้
เพื่อแสดงให้พระเป็นเจ้าเห็นว่า คุณลุงรักพระองค์ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ทนได้ หนูก็เริ่มอึ้งแล้วละค่ะ
คุณลุงก้เลย เล่าต่ออีกว่าคุณลุงมีลูกชายคนหนึ่งเป็นลูกคนเดียว และดูแลคุณลุงมาตลอด
ลูกชายคุณลุงเป็นคนที่เชื่อในพระเจ้ามาก รักในทุกสิ่งที่เกียวกับพระองค์
คุณลุงไม่เคยคิดเลยว่า ลูกชายที่คุณลุงรักจะต้องมากจากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อประมาณปีที่แล้วก่อนเทศกาลปาสกาจะมาถึง 1อาทิตย์
คุณลุงต้องเข้าโรงพยาบาล คุณหมอตรวจพบว่า คุณลุงเป็นโรคไตขั้นรุนแรง
ต้องรับการผ่าตัด คุณหมอบอกว่าลุงอายุมากแล้ว ถ้าร่างกายไม่ยอมรับไตที่ผ่าตัดให้ใหม่
จะเป็นการเสี่ยงมาก แต่ถ้าได้ไตจากเครือญาติ หรือคนทีเป็นทายาทก้อจะมีเปอร์เซนต์ปลอดภัยสูง
ลูกชายคุณลุงจึงไม่รอช้าที่จะเสียสละไตข้างหนึ่งให้พ่อของเขา หลังจากการผ่าตัด เสร็จสิ้น
คุณลุงก็กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ในขณะที่ลูกชายของคุณลุง ก็เริ่มมีอาการแปลกแทน
เริ่มเหนื่อยหอบง่าย แต่เขาคิดว่าเป็นธรรมดาที่ เข้าต้องอ่อนแอลง เพราะเขาเหลือไตข้างเดียว
แต่เมื่อนานๆเข้า ก็แย่ลง เมื่อไปหาหมอ ก็ไดรับข่าวร้ายอย่างไม่คาดคิด เขาติดเชื่อในกระเเสเลือด
จากการผ่าตัดเปลี่ยนไตให้พ่อ หมอบอกว่าอาการเขาแย่มากแล้วคงมีเวลาอีกไม่นาน
เขาเริ่มคิดหนักว่าพ่อของเขาจะอยู่ยังไง แล้วเขาก็ตัดสินใจขอร้องกับหมอว่า เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องไป
ขอให้เอาไตอีกหนึ่งข้างให้กับพ่อ เพื่อพ่อจะได้กลับมาแข็งเรงเหมือนปกติ แต่ไม่ให้คุณหมอบอกพ่อเกี่ยวกับการติดเชื้อในกระแสเลือด
เพราะพ่ออาจจะคิดว่าเป็นความผิดของพ่อที่ ลูกชายต้องป่วยเพราะผ่าตัดเปลี่ยนไตให้เขา ผ่านไปได้แค่3วัน
คุณลุงบอกว่า เวลาช่างสั้นเหลือเกินท่านยังไม่ทันรู้อะไรด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย
ลูกชายของคุรลุงบอกเพียงว่า มีคนบริจาคไตให้คุณพ่ออีกข้างหนึ่ง แต่เขาจำเป็นต้องไปดูงานต่างประเทศสักระยะ
ขอให้คุณพ่อรับการผ่าตัด คนเดียวได้หรือไม่ คุณลุงก็เริ่มคิดว่าลูกชายไม่สนใจที่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณลุง
สักนิดเลยหรือเห็นงานสำคัญกว่าชีวิตของพ่อหรือ แต่คุรลุงก็ไม้ได้ตัดพ้อต่อว่าแต่อย่างใด
3วันต่อมาลูกชายคุณลุงก้เดินทางไปดุงาน จากนั้นมีรถจากโรวพยาบาลมารับตัวคุณลุงไปผ่าตัดมุกคนที่โรงพยาบาลดูแลคุณลุงดีมาก
คุณลุงรู้สึกว่าตนเองได้รับบริการที่ดีกว่าคนไข้คนอื่นๆมา อีกทั้งมีหมอและพยาบาลพิเศษมาดุแลท่านตลอดเวลา
เหมือนกับเป็นบุคสำคัญเมื่อการผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี คุณลุงก็พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลระยะหนึ่งจึงกลับมา บ้าน
แต่ลูกชายของคุณลุงก้อไม่กลับมาสักที คุณลุงเริ่มคิดหนักว่าเกิดอะไรกับลูงชายของท่านรึเปล่าได้แต่โทรไปถามที่มำงานลูกชายว่า
เมื่อไหร่ลูกชายของแกจะกลับมา แต่ก็ไม่ได้คำตอบ ตลอดเวลาที่คุรลุงอยุ่คนเดียวก็จะมีคนจากมูลนิธิแห่งหนึ่ง ชื่อว่ามูลนิธิเพื่อพ่อ
คุณลุงยังคืดเลยว่า คงเป็นมูลนิธิที่ตั้งขึ้นเพื่อในหลวง ที่นำอาหารมาให้คุณลุงทุกวัน ทั้งยังมาดูเเลทำความสอาดบ้านด้วย
คุณลุงก็แปลกใจว่าทำไมมีคนมาบริการคุณลุงดีอย่างนี้
จนกระทั้งมีจดหมายฉบับหนึ่งมาถึงคุรลุงเป็นจดหมายจากลูกชายคุณลุงเอง
กราบเท้าคุณพ่อที่เคารพ
เวลานี้คุรพ่อคงจะผ่าตัดเส็รจแล้ว สบายดีไหมครับ
ถึงเวลานี่ผมคงต้องบอกความจริง กับคุณพ่อสักทีว่า ให้คุณพ่อไม่ต้องห่วง
ตอนนี้ผมสบายดี และอยากจะกราบเท้าคุณพ่อใจจะขาด แต่ผมคงทำไมได้
ผมต้อง กราบขอโทดคุณพ่อด้วย ที่จากคุณพ่อมา โยที่ยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณอะไรเลย
ผมเสียใจ แต่ผมคิดว่าเวลานี้สิ่งอันน้อยนิดที่ผมสามารถให้คุณพ่อได้ก้อคือ
ชีวิตของผมเอง คุณพ่ออย่าโกรธผมเลยนะครับที่ผมทำแบบนี้ เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ผมจะให้คุณพ่อได้
ผมหวังว่าเมื่อผมได้ไปอยู่กับพระบิดาแล้วผมคงได้แต่ดูคุรพ่ออยู่เฉย
และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมทำให้คุรพ่อได้ก้คือมุลนิธิ เพื่อพ่อที่เขาจะมาดูแลคุณพ่อจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
ผมอยากบอกว่าพ่อเป็นประธานของมุลนิธินะครับ
มีแค่เท่านี้แหละครับที่ผมทำให้พ่อได้
รักคุณพ่อทุกลมหายใจ
ลูกคุณพ่อ
คุณลุงบอกว่านี่คือสิ่งที่ทำให้คุณลุงมาสวดทุกวันเพื่อหวังว่าวันหนึ่งพระองค์จะทรง
เมตราให้คุณลุงได้พบกับลูกชายอีกครั้ง
เพื่อบอกกับเขาว่า ขอบคุณในทุกลมหายใจที่ให้พ่อ
พ่อรักลูกเสมอ.......
ชายผู้รอความหวัง
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
โอ้ว!!!! เป็นเรื่องที่กินใจมั่กๆ!!
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
เรื่องจริงเหรอค่ะเนีย
ซึ้งจัง สักวันหนึ่งเขาคงได้พบกันในสวรรค์
ซึ้งจัง สักวันหนึ่งเขาคงได้พบกันในสวรรค์
ตอนนี้ร่างกายคุณลุงก็เริ่มอ่อนแอลงแล้วละค่ะ
เพราะตอนนี้อายุก็มากขึ้นทุกวัน แต่ท่านก็ไม่เคยจะขาดวัดสักอาทิตย์เลยนะค่ะ
หนูเองยังอายเลย เมื่อ2วันก่อนคุณลุงไม่มาวัดคุณพ่อเจ้าวัดแปลกใจมากค่ะ
เลยไปหาคุณลุงที่บ้าน ปรากฎว่าคุณลุงเริ่มอาการไม่ดีแล้วค่ะ
ร่างกายไม่มีแรงเท่าไรแต่ท่านก็สวดสายประคำทุกวันเลยนะค่ะ
หนูก็ไม่รู้จะทำไงดีก็ได้แต่สวดให้ท่านอย่างเดียวเเหละค่ะ
ยังไงก็ขอความกรุณาให้สมาชิกช่วยสวดให้คุณลุงนิดหนึ่งนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เพราะตอนนี้อายุก็มากขึ้นทุกวัน แต่ท่านก็ไม่เคยจะขาดวัดสักอาทิตย์เลยนะค่ะ
หนูเองยังอายเลย เมื่อ2วันก่อนคุณลุงไม่มาวัดคุณพ่อเจ้าวัดแปลกใจมากค่ะ
เลยไปหาคุณลุงที่บ้าน ปรากฎว่าคุณลุงเริ่มอาการไม่ดีแล้วค่ะ
ร่างกายไม่มีแรงเท่าไรแต่ท่านก็สวดสายประคำทุกวันเลยนะค่ะ
หนูก็ไม่รู้จะทำไงดีก็ได้แต่สวดให้ท่านอย่างเดียวเเหละค่ะ
ยังไงก็ขอความกรุณาให้สมาชิกช่วยสวดให้คุณลุงนิดหนึ่งนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมจะช่วยสวดให้ แต่ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยนะครับเด็กน้อยในพระวิหาร เขียน: ตอนนี้ร่างกายคุณลุงก็เริ่มอ่อนแอลงแล้วละค่ะ
เพราะตอนนี้อายุก็มากขึ้นทุกวัน แต่ท่านก็ไม่เคยจะขาดวัดสักอาทิตย์เลยนะค่ะ
หนูเองยังอายเลย เมื่อ2วันก่อนคุณลุงไม่มาวัดคุณพ่อเจ้าวัดแปลกใจมากค่ะ
เลยไปหาคุณลุงที่บ้าน ปรากฎว่าคุณลุงเริ่มอาการไม่ดีแล้วค่ะ
ร่างกายไม่มีแรงเท่าไรแต่ท่านก็สวดสายประคำทุกวันเลยนะค่ะ
หนูก็ไม่รู้จะทำไงดีก็ได้แต่สวดให้ท่านอย่างเดียวเเหละค่ะ
ยังไงก็ขอความกรุณาให้สมาชิกช่วยสวดให้คุณลุงนิดหนึ่งนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ