@@ ลูกแกะ อิ่มบุญ แสวงบุญ @@
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
มาแล้ว มาแล้ว
ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในการแสวงบุญมากจริงๆคะ
น้องๆที่ไป LL เชื่อว่าได้รับพระพรทุกคน
และทุกคนมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตจิตภายในมากบ้างน้อยบ้าง
แต่ทุกคนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
คณะที่ไปมีทั้งหมด 50 ชีวิต
แต่กลุ่มลูกแกะน้อย ประกอบไปด้วย
Holy / LL1 / good nanny / Nihil
บองบอง ( ญาติผู้น้องของ LL) / พี่เบริ์ด ( ญาติผู้พี่ของLL )
เจ๊ทา Princess of wand / น้องแป้ง (น้องสาวเจ๊ทา)
คุณโรส ลูกทูนหัวมาม๊า (ผู้ซ่อมแม่พระ)
(มาม๊า / เพื่อนมาม๊า ที่ไปแต่ไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่ม)
+++++++++++++++++++++++++++
คืนวันออกเดินทาง
จริงๆแล้วไม่มีอะไรมากมายเลย
เป็นช่วงเวลาแห่งการทำความรู้จัก และ เรียนรู้กันและกันมากกว่า
พวกเราโชคดีที่หัวหน้าทัวร์จัดให้เรานั่งชั้นล่าง
ซึ่งมีเก้าอี้พอกันจำนวนคนเลย
จริงๆแล้วเพราะพวกผู้ใหญ่และป้าๆทั้งหลาย
มักไม่พอใจถ้าถูกจัดให้นั่งชั้นล่าง
เพราะเป็นที่แน่นอนว่า จะต้องถูกตัดขาดจากกิจกรรมทั้งหลาย
ที่ชั้นบนเขาทำกัน ไม่ว่าจะเล่นเกม ร้องเพลง สวด ฯลฯ
หัวหน้าทัวร์เลยบอกLLว่า..ให้พวกเรานั่งข้างล่างได้มั๊ย
ซึ่งLL ก็ไม่ซีเรียส พี่Holyก็ยินดี
เพราะเป็นส่วนตัวดี และ พอดีจำนวนคน
คืนนั้น พวกเราก็กินแหลก และ คุยแหลก
ยิ่งดึกยิ่งเป็นเรื่องเสริมศรัทธา
กว่าจะได้นอนกันจริงๆก็ปาเข้าไป ตี3
เจ๊ทาและน้อง ตี 4 ละมั๊ง
++++++++++++++++++++++++++++++
วันศุกร์ที่ 13 เมื่อเราไปถึง ซ่งแย้ ตอนประมาณ 7 โมงเช้า
เด็กๆชั้นล่างก็แจ้นไปห้องน้ำก่อนเพื่อน
เพราะขึ้นลงรถง่ายสุดๆ (จริงๆแล้วทุกครั้งเด็กๆถึงก่อนตลอด อิอิ)
ล้างหน้า แปรงฟัน (สาวๆก็โบะ Sun block กัน UV อย่างแรง)
รีบๆทานอาหารเช้าที่ทางวัดเตรียมไว้
เพื่อที่จะรีบไปแห่แม่พระตอน ประมาณ 8 โมงเช้าได้ทัน
เรามั่วแต่ล้างหน้าแปรงฟัน เลยไม่ได้เห็นว่า
พวกชาวบ้านเขามีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อตอนที่
เห็นแม่พระครั้งแรก แต่เมื่อเราไปถึงศาลาที่ตั้งแม่พระเตรียมแห่เข้าวัด
ชาวบ้าน 60-70 คน ก็นั่งกับพื้นปูนอยู่ในโรงยิม
นั่งมองแม่พระด้วยดวงตาซื่อๆอ่ะนะ
ป้าๆยายๆ ลูกเล็กเด็กแดง
ทุกคนถือดอกไม้ ดอกเข็มใหญ่ สารพัดสีที่เด็ดมาจากบ้าน หรือ ข้างทาง
นั่งมองแม่พระกันนิ่งๆ เป็นความซื่อๆของชาวบ้านจริงๆคะ
ในขณะที่พวกเรา ถือดอกกุหลาบสีแดงเข้ม สวยสด ที่เตรียมมาจากกรุงเทพฯ
แต่LL กลับเห็นว่า ดอกไม้ถูกๆที่ชาวบ้านถือกันมาเอง
กลับดูน่ารักกว่าดอกกุหลาบในมือ LL ( แอบอิจฉา และ แอบชื่นชม )
เราสวด เราเดินแห่แม่เข้าวัด
ท่ามกลางแดดยามเช้า ที่เริ่มจะร้อนนิดๆ พิธีมิสซานานถึง 2 ชั่วโมงกว่า
เพราะเราให้ชาวคณะ แบ่งปันพระพรที่ได้รับจากพระเจ้าผ่านทางแม่พระ
ให้ชาวซ่งแย้ได้รับฟัง รวมถึงพระพรที่ชาวซ่งแย้ได้รับ
หลังจากที่แม่พระไปกรุงเทพฯ แล้วนำมาให้ชาวซ่งแย้
ซ่งแย้กลายเป็นที่รู้จัก มีหลายคนตั้งใจมาเยือนซ่งแย้
และช่วยเหลือวัดซ่งแย้ที่กำลังอยู่ในระหว่างบูรณะวัด
ชาวบ้านทุกคนดีใจ เข้ามาจับไม้จับมือยิ้ม
พูดขอบอกขอบใจชาวคณะเป็นภาษาอีสานน่ารักมากๆคะ
จากนั้นเราก็ไป สองคอนกัน มีลูกแกะหลายคนไม่รู้จักสองคอน ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
LL เลยเล่าประวัติ พร้อมพาทัวร์ บริเวณรอบๆ ชมป่าศักดิ์สิทธิ์ และ บ้านซิสเตอร์บุญราศี
กลุ่มเราตะลุยสวดถึงป่าศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่พวกผู้ใหญ่
ไม่มีใครไปเลย โดนลูกแกะทุกคนเต็มใจไป
จากนั้นเราก็ไปอาสนวิหารดวงหทัยคู่ ที่พระคุณเจ้าคายน์อยู่
และวันนี้เองที่ลูกแกะทุกตัวขอแก้บาป
(น่าภูมิใจจริงๆ ลูกแกะทุกตัวขอคืนดีกับพระเจ้า)
คืนนั้นเราไปพักที่โรงแรมMJ
แต่พวกความที่ลูกแกะหลายตัวปอดแหก
จึงได้ไปหาคุณพ่อ พร้อมกับนำรูปพระที่ได้มา
(หัวหน้าทัวร์ไปฟาติมา แล้วซื้อรูปพระมาแจกบนรถ)
เอารูปพระไปให้พ่ออวยพร พ่อเลยนำอธิษฐาน ภาวนา
และอวยพรพระจิต พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ศรัทธา
จนเที่ยงคืน ถึงแยกย้ายกันกลับห้อง
++++++++++++++++++++++++++++++
วันเสาร์ที่ 14 ที่วัดแม่พระกวาดาลูเป้
วัดยังสร้างไม่เสร็จดี ผนังยังไม่มี หลังคายังไม่ได้ตีฝ้าเพดาน
เก้าอี้นั่งมีที่คุกเข่าแต่ 2 แถวแรก นอกนั้นมีแต่เก้าอี้
(ยังขาดเงินทุนอยู่มากคะ)
แต่ที่เด่น และเป็นจุดที่น่าสนใจที่สุดของวัด
ก็คือรูปแม่พระกวาดาลูเป้ ที่ถ่ายมาจากผ้าของนักบุญ ยวง ดิเอโก้
ด้วยขนาดเท่าผืนจริงที่เม็กซิโก อยุ่ข้างพระแท่นอย่างสง่าเลยคะ
เมื่อมิสซาจบ ทาข้าวกลางวันได้สักพักฝนก็ตกกระหน่ำเลย ชุ่มฉ่ำจริงๆ
ชาวบ้านดีใจกันมากเพราะแล้งมานาน
จากนั้นเราก็ไปทานข้าวกันที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ที่กาฬสินธ์
ขณะที่ผู้ใหญ่กินข้าว ร้องคาราโอเกะ กันอย่างสนุกสนาน
กลุ่มลูกแกะ กลับไปที่วัดน้อยของโรงเรียน
ที่ที่ซิสเตอร์คณะรักกางเขนใช้สวดภาวนากัน
ทุกคนไปโดยสมัครใจ ค่อยๆเดินกันมาเอง เหมือนพระนำจริงๆ
เพราะบางคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน แต่ก็เดินตามมาทีหลัง
เหมือนใจตรงกัน มาถึงก็ต่างคนต่างสวด อ่านพระคัมภีร์ อ่านหนังสือศรัทธา
แม้แต่LL เอง..ก็ไม่คิดว่ากลุ่มเราจะทำแบบนี้
คือไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนจะมาสวดในวัดน้อย ท่ามกลางสายฝน มันเงียบสงบจริงๆ
เราอยู่กันเป็นชั่วโมง จนคุณพ่อวิจิตรเดินมา
คุณพ่อเห็นพวกเราก็ยิ้มแป้นเลย พ่อพูดว่า
พ่อภูมิใจที่พวกเราศรัทธาอย่างนี้ สมัยนี้หายากเหลือเกิน
เราอยู่ด้วยกันอีกพักใหญ่จึงเดินกลับไปที่ห้องอาหาร
คืนนั้นเราดูVCD แม่พระเหรียญอัศจรรย์กัน
ก่อนจะสวดสายประคำถึง ตี 1 ครึ่ง
จึงแยกย้ายกันไปนอน
+++++++++++++++++++++++++++++++
วันอาทิตย์ที่ 15 สมโภชพระจิตเจ้า
ระหว่างนั่งรถเดินทางต่อไป
พวกเราก็แบ่งปัน เรื่องเสริมศรัทธากันตลอด
คุยแต่เรื่องพระทั้งวัน
พวกเราทำพิธีมิสซาที่วัดแม่พระฟาติมาที่เมืองพล
เนื่องจากมีแต่พวกเรา และเป็นโอกาสพิเศษ
คุณพ่อจึงให้รับทั้งพระกายและพระโลหิต
ลูกแกะหลายตัวซึ้งจนร้องไห้ เป็นความตื้นตันใจ
ต่อจากนั้น คุณพ่อก็ให้รับพรพระจิต ซึ่งหลายคนสัมผัสได้ถึงการทรงประทับ
ลูกแกะหลายตัว ร้องไห้อีกด้วยความซาบซึ้ง
สุดท้ายคุณพ่อก็อวยพรศีลมหาสนิท
โดยนำรัศมีศีลมาอวยพรพวกเราทีละคน
และก็เป็นอีกครั้งที่ลูกแกะสัมผัส และ ร้องไห้ด้วยความซาลซึ้ง
(มีมากกว่านี้แต่ให้เจ้าตัวมาเล่าดีกว่า LL แค่เกริ่นๆนะคะ)
จากนั้นเราก็เดินทางกลับ ถึงกรุงเทพฯประมาณ 3 ทุ่ม
โดยสวัสดิภาพ~~~~~~~~~
การเปลี่ยนแปลง และ ความชิดสนิทกับพระที่มากขึ้นของพวกเรา
ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งรถถึงกับออกปากชื่นชม
หลายคนบอกว่าอยากให้ลูกหลานเป็นแบบพวกเรา
LL ไม่ได้พูดยกหางตัวเอง หรือ น้องๆ
แต่เพราะชีวิตภายในของน้องๆที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห้นได้ชัด
จากการมาแสวงบุญครั้งนี้ ทำให้ผู้ใหญ่หลายท่านรู้สึก
ซึ่งLL ก็รู้สึกว่าน้องๆสัมผัสพระได้ลึกซึ่งขึ้นทุกคน
แสวงบุญครั้งนี้ เพิ่มพูนความเชื่อให้ลูกแกะอย่างมากมายจริงๆ
ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในการแสวงบุญมากจริงๆคะ
น้องๆที่ไป LL เชื่อว่าได้รับพระพรทุกคน
และทุกคนมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตจิตภายในมากบ้างน้อยบ้าง
แต่ทุกคนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
คณะที่ไปมีทั้งหมด 50 ชีวิต
แต่กลุ่มลูกแกะน้อย ประกอบไปด้วย
Holy / LL1 / good nanny / Nihil
บองบอง ( ญาติผู้น้องของ LL) / พี่เบริ์ด ( ญาติผู้พี่ของLL )
เจ๊ทา Princess of wand / น้องแป้ง (น้องสาวเจ๊ทา)
คุณโรส ลูกทูนหัวมาม๊า (ผู้ซ่อมแม่พระ)
(มาม๊า / เพื่อนมาม๊า ที่ไปแต่ไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่ม)
+++++++++++++++++++++++++++
คืนวันออกเดินทาง
จริงๆแล้วไม่มีอะไรมากมายเลย
เป็นช่วงเวลาแห่งการทำความรู้จัก และ เรียนรู้กันและกันมากกว่า
พวกเราโชคดีที่หัวหน้าทัวร์จัดให้เรานั่งชั้นล่าง
ซึ่งมีเก้าอี้พอกันจำนวนคนเลย
จริงๆแล้วเพราะพวกผู้ใหญ่และป้าๆทั้งหลาย
มักไม่พอใจถ้าถูกจัดให้นั่งชั้นล่าง
เพราะเป็นที่แน่นอนว่า จะต้องถูกตัดขาดจากกิจกรรมทั้งหลาย
ที่ชั้นบนเขาทำกัน ไม่ว่าจะเล่นเกม ร้องเพลง สวด ฯลฯ
หัวหน้าทัวร์เลยบอกLLว่า..ให้พวกเรานั่งข้างล่างได้มั๊ย
ซึ่งLL ก็ไม่ซีเรียส พี่Holyก็ยินดี
เพราะเป็นส่วนตัวดี และ พอดีจำนวนคน
คืนนั้น พวกเราก็กินแหลก และ คุยแหลก
ยิ่งดึกยิ่งเป็นเรื่องเสริมศรัทธา
กว่าจะได้นอนกันจริงๆก็ปาเข้าไป ตี3
เจ๊ทาและน้อง ตี 4 ละมั๊ง
++++++++++++++++++++++++++++++
วันศุกร์ที่ 13 เมื่อเราไปถึง ซ่งแย้ ตอนประมาณ 7 โมงเช้า
เด็กๆชั้นล่างก็แจ้นไปห้องน้ำก่อนเพื่อน
เพราะขึ้นลงรถง่ายสุดๆ (จริงๆแล้วทุกครั้งเด็กๆถึงก่อนตลอด อิอิ)
ล้างหน้า แปรงฟัน (สาวๆก็โบะ Sun block กัน UV อย่างแรง)
รีบๆทานอาหารเช้าที่ทางวัดเตรียมไว้
เพื่อที่จะรีบไปแห่แม่พระตอน ประมาณ 8 โมงเช้าได้ทัน
เรามั่วแต่ล้างหน้าแปรงฟัน เลยไม่ได้เห็นว่า
พวกชาวบ้านเขามีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อตอนที่
เห็นแม่พระครั้งแรก แต่เมื่อเราไปถึงศาลาที่ตั้งแม่พระเตรียมแห่เข้าวัด
ชาวบ้าน 60-70 คน ก็นั่งกับพื้นปูนอยู่ในโรงยิม
นั่งมองแม่พระด้วยดวงตาซื่อๆอ่ะนะ
ป้าๆยายๆ ลูกเล็กเด็กแดง
ทุกคนถือดอกไม้ ดอกเข็มใหญ่ สารพัดสีที่เด็ดมาจากบ้าน หรือ ข้างทาง
นั่งมองแม่พระกันนิ่งๆ เป็นความซื่อๆของชาวบ้านจริงๆคะ
ในขณะที่พวกเรา ถือดอกกุหลาบสีแดงเข้ม สวยสด ที่เตรียมมาจากกรุงเทพฯ
แต่LL กลับเห็นว่า ดอกไม้ถูกๆที่ชาวบ้านถือกันมาเอง
กลับดูน่ารักกว่าดอกกุหลาบในมือ LL ( แอบอิจฉา และ แอบชื่นชม )
เราสวด เราเดินแห่แม่เข้าวัด
ท่ามกลางแดดยามเช้า ที่เริ่มจะร้อนนิดๆ พิธีมิสซานานถึง 2 ชั่วโมงกว่า
เพราะเราให้ชาวคณะ แบ่งปันพระพรที่ได้รับจากพระเจ้าผ่านทางแม่พระ
ให้ชาวซ่งแย้ได้รับฟัง รวมถึงพระพรที่ชาวซ่งแย้ได้รับ
หลังจากที่แม่พระไปกรุงเทพฯ แล้วนำมาให้ชาวซ่งแย้
ซ่งแย้กลายเป็นที่รู้จัก มีหลายคนตั้งใจมาเยือนซ่งแย้
และช่วยเหลือวัดซ่งแย้ที่กำลังอยู่ในระหว่างบูรณะวัด
ชาวบ้านทุกคนดีใจ เข้ามาจับไม้จับมือยิ้ม
พูดขอบอกขอบใจชาวคณะเป็นภาษาอีสานน่ารักมากๆคะ
จากนั้นเราก็ไป สองคอนกัน มีลูกแกะหลายคนไม่รู้จักสองคอน ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
LL เลยเล่าประวัติ พร้อมพาทัวร์ บริเวณรอบๆ ชมป่าศักดิ์สิทธิ์ และ บ้านซิสเตอร์บุญราศี
กลุ่มเราตะลุยสวดถึงป่าศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่พวกผู้ใหญ่
ไม่มีใครไปเลย โดนลูกแกะทุกคนเต็มใจไป
จากนั้นเราก็ไปอาสนวิหารดวงหทัยคู่ ที่พระคุณเจ้าคายน์อยู่
และวันนี้เองที่ลูกแกะทุกตัวขอแก้บาป
(น่าภูมิใจจริงๆ ลูกแกะทุกตัวขอคืนดีกับพระเจ้า)
คืนนั้นเราไปพักที่โรงแรมMJ
แต่พวกความที่ลูกแกะหลายตัวปอดแหก
จึงได้ไปหาคุณพ่อ พร้อมกับนำรูปพระที่ได้มา
(หัวหน้าทัวร์ไปฟาติมา แล้วซื้อรูปพระมาแจกบนรถ)
เอารูปพระไปให้พ่ออวยพร พ่อเลยนำอธิษฐาน ภาวนา
และอวยพรพระจิต พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ศรัทธา
จนเที่ยงคืน ถึงแยกย้ายกันกลับห้อง
++++++++++++++++++++++++++++++
วันเสาร์ที่ 14 ที่วัดแม่พระกวาดาลูเป้
วัดยังสร้างไม่เสร็จดี ผนังยังไม่มี หลังคายังไม่ได้ตีฝ้าเพดาน
เก้าอี้นั่งมีที่คุกเข่าแต่ 2 แถวแรก นอกนั้นมีแต่เก้าอี้
(ยังขาดเงินทุนอยู่มากคะ)
แต่ที่เด่น และเป็นจุดที่น่าสนใจที่สุดของวัด
ก็คือรูปแม่พระกวาดาลูเป้ ที่ถ่ายมาจากผ้าของนักบุญ ยวง ดิเอโก้
ด้วยขนาดเท่าผืนจริงที่เม็กซิโก อยุ่ข้างพระแท่นอย่างสง่าเลยคะ
เมื่อมิสซาจบ ทาข้าวกลางวันได้สักพักฝนก็ตกกระหน่ำเลย ชุ่มฉ่ำจริงๆ
ชาวบ้านดีใจกันมากเพราะแล้งมานาน
จากนั้นเราก็ไปทานข้าวกันที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ที่กาฬสินธ์
ขณะที่ผู้ใหญ่กินข้าว ร้องคาราโอเกะ กันอย่างสนุกสนาน
กลุ่มลูกแกะ กลับไปที่วัดน้อยของโรงเรียน
ที่ที่ซิสเตอร์คณะรักกางเขนใช้สวดภาวนากัน
ทุกคนไปโดยสมัครใจ ค่อยๆเดินกันมาเอง เหมือนพระนำจริงๆ
เพราะบางคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน แต่ก็เดินตามมาทีหลัง
เหมือนใจตรงกัน มาถึงก็ต่างคนต่างสวด อ่านพระคัมภีร์ อ่านหนังสือศรัทธา
แม้แต่LL เอง..ก็ไม่คิดว่ากลุ่มเราจะทำแบบนี้
คือไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนจะมาสวดในวัดน้อย ท่ามกลางสายฝน มันเงียบสงบจริงๆ
เราอยู่กันเป็นชั่วโมง จนคุณพ่อวิจิตรเดินมา
คุณพ่อเห็นพวกเราก็ยิ้มแป้นเลย พ่อพูดว่า
พ่อภูมิใจที่พวกเราศรัทธาอย่างนี้ สมัยนี้หายากเหลือเกิน
เราอยู่ด้วยกันอีกพักใหญ่จึงเดินกลับไปที่ห้องอาหาร
คืนนั้นเราดูVCD แม่พระเหรียญอัศจรรย์กัน
ก่อนจะสวดสายประคำถึง ตี 1 ครึ่ง
จึงแยกย้ายกันไปนอน
+++++++++++++++++++++++++++++++
วันอาทิตย์ที่ 15 สมโภชพระจิตเจ้า
ระหว่างนั่งรถเดินทางต่อไป
พวกเราก็แบ่งปัน เรื่องเสริมศรัทธากันตลอด
คุยแต่เรื่องพระทั้งวัน
พวกเราทำพิธีมิสซาที่วัดแม่พระฟาติมาที่เมืองพล
เนื่องจากมีแต่พวกเรา และเป็นโอกาสพิเศษ
คุณพ่อจึงให้รับทั้งพระกายและพระโลหิต
ลูกแกะหลายตัวซึ้งจนร้องไห้ เป็นความตื้นตันใจ
ต่อจากนั้น คุณพ่อก็ให้รับพรพระจิต ซึ่งหลายคนสัมผัสได้ถึงการทรงประทับ
ลูกแกะหลายตัว ร้องไห้อีกด้วยความซาบซึ้ง
สุดท้ายคุณพ่อก็อวยพรศีลมหาสนิท
โดยนำรัศมีศีลมาอวยพรพวกเราทีละคน
และก็เป็นอีกครั้งที่ลูกแกะสัมผัส และ ร้องไห้ด้วยความซาลซึ้ง
(มีมากกว่านี้แต่ให้เจ้าตัวมาเล่าดีกว่า LL แค่เกริ่นๆนะคะ)
จากนั้นเราก็เดินทางกลับ ถึงกรุงเทพฯประมาณ 3 ทุ่ม
โดยสวัสดิภาพ~~~~~~~~~
การเปลี่ยนแปลง และ ความชิดสนิทกับพระที่มากขึ้นของพวกเรา
ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งรถถึงกับออกปากชื่นชม
หลายคนบอกว่าอยากให้ลูกหลานเป็นแบบพวกเรา
LL ไม่ได้พูดยกหางตัวเอง หรือ น้องๆ
แต่เพราะชีวิตภายในของน้องๆที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห้นได้ชัด
จากการมาแสวงบุญครั้งนี้ ทำให้ผู้ใหญ่หลายท่านรู้สึก
ซึ่งLL ก็รู้สึกว่าน้องๆสัมผัสพระได้ลึกซึ่งขึ้นทุกคน
แสวงบุญครั้งนี้ เพิ่มพูนความเชื่อให้ลูกแกะอย่างมากมายจริงๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ พ.ค. 16, 2005 10:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
++แบ่งปันพระพร++
สืบเนื่องจาก http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... readid=924
อยากให้ทุกคนมาเล่าประสปการ์ณของตัวเองที่กระทู้นี่ครับ ^^
แบ่งปราณๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาแล้วคร๊าบ^^ ไม่ใช่มีผมคนเดียวหรอกคนอื่นๆก็ได้รับกันทั่วหน้าเหมือนกัน ผมจะเล่าเรื่องของผมนะครับ
ก่อนอื่นต้องขอเล่าเหตุการ์ณตรงนี้ก่อน คณะทัวร์ก็ได้มีโอกาศไปเยี่ยมวัดน้อย ที่ไหนไม่รู้ - - และได้ไปเจอแม่พระองค์หนึ่งพอผมเห็นแม่พระองค์นี้ก็ประหลาดใจที่สุดเพราะแม่พระองค์นี้นอกจากใบหน้าจะเหมือนม่พระที่ผมฝันถึงแล้วท่าทางการประนมมือตอนสอนผมสวดในฝันนั้นยังเหมือนกันจนน่าประหลาดใจจนผมยังบอกพี่จิงเลยว่า"เนี๊ยะตอนในฝันแม่ทำท่านี้แหละเวลาชวนผมสวด" แต่แม่ค่อนข้างมีรอยถลอก พวกเราก็ภาวนาร่วมกันสักพักแล้วก็เตรียมตัวกลับที่พักก่อนไปผมก็มองแม่อีกสักครั้งแล้วคิดในใจว่า "ถ้าได้กลับมาเจอแม่อีกสักครั้งก็คงจะดี" ก็กำลังจะขึ้นรถกลับกันแล้วพี่ปอก็บตัดสินใจว่าจะนำแม่พระรูปนี้กลับไปซ่อมแซมให้ เพราะหลังจากพี่ปอเห็นถึงความทรุดโทรมก็เลยตัดสินใจจะนำกลับมาบูรณะอีกแล้ว(ช่างเหมือยนักบุญยอห์นเหลือเกินที่หลังจากพระเยซูตายเลยรับแม่พระมาอยู่ที่บ้านเห็นแม่ที่ไหนก็ตามต้องรับกลับมาบ้าน อิอิ *นี่คือคำพูดของพ่อวิจิตร*) ผมนี่ตกใจมาก ผมได้เจอแม่อีกครั้งแล้ว!หน่ำซ้ำแม่จะไปอยู่บ้านพี่ปอ 1 เดือนระหว่างซ่อมผมจะไปหาเมื่อไหร่ก็ได้!ผมดีใจอย่างบอกไม่ถูก ผมเลยอาสาไปช่วยพี่ปออุ้มแม่พระมาขึ้นรถด้วยตัวเองเลยครับ
วันถัดมาก็ไปโบสถ์แม่พระฟาติมาเมืองพล พี่ปอก็ได้พาแม่ที่จะเอากลับมาซ่อมแซมลงไปด้วยตั้งใว้ด้านขวาของพระแท่น
ตอนเริ่มมิสซาผมต้องบอกก่อนว่าเพิ่งตื่นและสลึมสลือมากก็เลยใจของคนเพิ่งตื่นก็ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ถวายบูชาเท่าไหร่(แต่พยายามและวอนขอพระเจ้าเพื่อจิตใจที่พร้อมจะถวายแด่พระองค์)สักพักพ่อวิจิตรก็บอกว่าใครอยากแก้บาปให้ตามพ่อมา ผมก็ไปแก้บาปและวอนข้าพระเป็นเจ้าว่า'ขอให้ลูกสำนึกในบาปด้วยเถิด"เพราะทุกครั้งที่ผมสารภาพบาปผมรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเลวขึ้นเพราะไม่ได้รู้สึกผิดในบาปเลยเหมือนแค่พูดบาปที่ตัวเองทำเฉยๆ และแล้วพอถึงภาคพิธีภวายพ่อวิจิตรก็ให้ทุกคนเดินไปจับมือทักทาย ละดอกกัน ก็ระหว่างจับมือทักทาย และสวมกอดกันนี้ ผมสัมผัสได้ถึงความรักของพระเป็นเจ้าความรักของพระแม่มารีย์อยู่ท่ามกลางเราทุกๆคน และผมก็ไปหาพ่อวิจิตร์ความรู้สึกผมตอนนี้มันแผ่ไปทั้งตัวและน้ำตาก็ไหลออกมาเองอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและรู้สึกว่าพระเยซูเจ้าและความรักของพระองค์ การอภัยบาปเมื่อสักครู่สถิตย์อยู่ในพ่อวิจิตร์จริงๆผมไหว้ที่ลงบนมือพ่อพ่อแต่ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกำลังไหว้พระเยซูอยู่เลยจริงๆและน้ำตาก็ไหลออกมารู้สึกถึงความรักของพระองค์อย่าเต็มที่ไหลออกมาไม่หยุด แล้วก็เดินไปสวมกอดน้องสาวของผม(น้องสาวแท้ๆที่พาไปด้วย)กอดกันอยู่นานเหมือนกันน้องก็ร้องให้ด้วยผมก็ร้องไม่หยุดสักพักก็ปล่อยแต่ก็ยังซึ้งๆ แล้วก็มาถึงตอนรับศีลมหาสนิทพ่อวิจิตรเค้าให้ไปคุกเข่าหน้าพระแท่นผมก็ไปก็รับศีลกัน ผอถึงตาผมทันทีที่ศีลมหาสนิทเข้าปากผมก็รู้สึกร้องให้ออกมาอย่างบังคับไม่ได้อีกแล้วนั่งร้องให้ตรงนั้นเลยลุกไม่ขึ้น(เป็นการร้องให้ที่ไม่อยากหยุดร้อง)ผมซึ้งในความรักของพระเยซูอย่างสุดๆผมก็มีความคิดขึ้นมา " ทำไมหนอ พระบุตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงต้องมาตายทั้งที่พระองค์ทรงบริสุทธ์ แต่พวกเราบาปหนาและใช้ชีวิตอย่างสบายถึงมานั่งใช้ชีวิตด้วยความบาปอยู่ตรงนี้ "แล้วผมรู้สึกว่าผมทนต่อไปไม่ได้แล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่คู่ควรกับพระองค์จริงๆ รู้สึกว่าตัวเองเป็นรองเท้าที่สกปรกที่พระเป็นเจ้าต้องสวมอยู่ทุกวัน ผมลุกไปหาแม่พระองค์ที่เหมือนแม่พระที่มาในฝันของผมผมคุกเข่าต่อหน้าทุกอย่างเหมือนในตอนนั้นเปี๋ยบเหมือนในฝัน ผมคุกเข่ามองหน้าแม่ผมร้องให้ผมเสียใจอย่างที่ได้กับบาป(เหมือนย้อนไปในฝันของตัวเองทุกอย่าง)ที่ได้เคยกระทำให้แม่ลูกของแม่พระบิดาและพระจิตต้องเสียใจผมร้องให้ออกมาอย่างเสียใจสุดๆผมก้มหน้าหลบแม่เพราะละอายใจมาก และทุกครั้งที่ผมมองหน้าแม่ใหม่ผมก็ร้องให้ออกมาอย่างกลั้นไม่ได้อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมีความรู้สึกหนึ่งแวปเข้ามา "เป็นควสามรู้สึกว่าแววตาของแม่ไม่ได้ต้องการจะลงโทษเลย เป็นแววตาของผู้ที่พร้อมจะสวดกอดเราทุกเวลาเมื่อยามเราทำพลาดพลั้งไป" แล้วผมก็สงบขึ้นจนสามารถ
เดินกลับมายังที่ของตัวเองได้ และคุณพ่อวิจิตรก็เรียกออกไปอวยพระพระจิตให้อีกคราวนี้ผมรู้สึกร้อนไปทั้งตัว(หลังจากได้คุยกับหลายๆคน ก็ทราบว่ารู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน) และพจบพิธีพวกเราก็มาแบ่งบันกันในรถครับ
สืบเนื่องจาก http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... readid=924
อยากให้ทุกคนมาเล่าประสปการ์ณของตัวเองที่กระทู้นี่ครับ ^^
แบ่งปราณๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาแล้วคร๊าบ^^ ไม่ใช่มีผมคนเดียวหรอกคนอื่นๆก็ได้รับกันทั่วหน้าเหมือนกัน ผมจะเล่าเรื่องของผมนะครับ
ก่อนอื่นต้องขอเล่าเหตุการ์ณตรงนี้ก่อน คณะทัวร์ก็ได้มีโอกาศไปเยี่ยมวัดน้อย ที่ไหนไม่รู้ - - และได้ไปเจอแม่พระองค์หนึ่งพอผมเห็นแม่พระองค์นี้ก็ประหลาดใจที่สุดเพราะแม่พระองค์นี้นอกจากใบหน้าจะเหมือนม่พระที่ผมฝันถึงแล้วท่าทางการประนมมือตอนสอนผมสวดในฝันนั้นยังเหมือนกันจนน่าประหลาดใจจนผมยังบอกพี่จิงเลยว่า"เนี๊ยะตอนในฝันแม่ทำท่านี้แหละเวลาชวนผมสวด" แต่แม่ค่อนข้างมีรอยถลอก พวกเราก็ภาวนาร่วมกันสักพักแล้วก็เตรียมตัวกลับที่พักก่อนไปผมก็มองแม่อีกสักครั้งแล้วคิดในใจว่า "ถ้าได้กลับมาเจอแม่อีกสักครั้งก็คงจะดี" ก็กำลังจะขึ้นรถกลับกันแล้วพี่ปอก็บตัดสินใจว่าจะนำแม่พระรูปนี้กลับไปซ่อมแซมให้ เพราะหลังจากพี่ปอเห็นถึงความทรุดโทรมก็เลยตัดสินใจจะนำกลับมาบูรณะอีกแล้ว(ช่างเหมือยนักบุญยอห์นเหลือเกินที่หลังจากพระเยซูตายเลยรับแม่พระมาอยู่ที่บ้านเห็นแม่ที่ไหนก็ตามต้องรับกลับมาบ้าน อิอิ *นี่คือคำพูดของพ่อวิจิตร*) ผมนี่ตกใจมาก ผมได้เจอแม่อีกครั้งแล้ว!หน่ำซ้ำแม่จะไปอยู่บ้านพี่ปอ 1 เดือนระหว่างซ่อมผมจะไปหาเมื่อไหร่ก็ได้!ผมดีใจอย่างบอกไม่ถูก ผมเลยอาสาไปช่วยพี่ปออุ้มแม่พระมาขึ้นรถด้วยตัวเองเลยครับ
วันถัดมาก็ไปโบสถ์แม่พระฟาติมาเมืองพล พี่ปอก็ได้พาแม่ที่จะเอากลับมาซ่อมแซมลงไปด้วยตั้งใว้ด้านขวาของพระแท่น
ตอนเริ่มมิสซาผมต้องบอกก่อนว่าเพิ่งตื่นและสลึมสลือมากก็เลยใจของคนเพิ่งตื่นก็ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ถวายบูชาเท่าไหร่(แต่พยายามและวอนขอพระเจ้าเพื่อจิตใจที่พร้อมจะถวายแด่พระองค์)สักพักพ่อวิจิตรก็บอกว่าใครอยากแก้บาปให้ตามพ่อมา ผมก็ไปแก้บาปและวอนข้าพระเป็นเจ้าว่า'ขอให้ลูกสำนึกในบาปด้วยเถิด"เพราะทุกครั้งที่ผมสารภาพบาปผมรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเลวขึ้นเพราะไม่ได้รู้สึกผิดในบาปเลยเหมือนแค่พูดบาปที่ตัวเองทำเฉยๆ และแล้วพอถึงภาคพิธีภวายพ่อวิจิตรก็ให้ทุกคนเดินไปจับมือทักทาย ละดอกกัน ก็ระหว่างจับมือทักทาย และสวมกอดกันนี้ ผมสัมผัสได้ถึงความรักของพระเป็นเจ้าความรักของพระแม่มารีย์อยู่ท่ามกลางเราทุกๆคน และผมก็ไปหาพ่อวิจิตร์ความรู้สึกผมตอนนี้มันแผ่ไปทั้งตัวและน้ำตาก็ไหลออกมาเองอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและรู้สึกว่าพระเยซูเจ้าและความรักของพระองค์ การอภัยบาปเมื่อสักครู่สถิตย์อยู่ในพ่อวิจิตร์จริงๆผมไหว้ที่ลงบนมือพ่อพ่อแต่ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกำลังไหว้พระเยซูอยู่เลยจริงๆและน้ำตาก็ไหลออกมารู้สึกถึงความรักของพระองค์อย่าเต็มที่ไหลออกมาไม่หยุด แล้วก็เดินไปสวมกอดน้องสาวของผม(น้องสาวแท้ๆที่พาไปด้วย)กอดกันอยู่นานเหมือนกันน้องก็ร้องให้ด้วยผมก็ร้องไม่หยุดสักพักก็ปล่อยแต่ก็ยังซึ้งๆ แล้วก็มาถึงตอนรับศีลมหาสนิทพ่อวิจิตรเค้าให้ไปคุกเข่าหน้าพระแท่นผมก็ไปก็รับศีลกัน ผอถึงตาผมทันทีที่ศีลมหาสนิทเข้าปากผมก็รู้สึกร้องให้ออกมาอย่างบังคับไม่ได้อีกแล้วนั่งร้องให้ตรงนั้นเลยลุกไม่ขึ้น(เป็นการร้องให้ที่ไม่อยากหยุดร้อง)ผมซึ้งในความรักของพระเยซูอย่างสุดๆผมก็มีความคิดขึ้นมา " ทำไมหนอ พระบุตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงต้องมาตายทั้งที่พระองค์ทรงบริสุทธ์ แต่พวกเราบาปหนาและใช้ชีวิตอย่างสบายถึงมานั่งใช้ชีวิตด้วยความบาปอยู่ตรงนี้ "แล้วผมรู้สึกว่าผมทนต่อไปไม่ได้แล้วรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่คู่ควรกับพระองค์จริงๆ รู้สึกว่าตัวเองเป็นรองเท้าที่สกปรกที่พระเป็นเจ้าต้องสวมอยู่ทุกวัน ผมลุกไปหาแม่พระองค์ที่เหมือนแม่พระที่มาในฝันของผมผมคุกเข่าต่อหน้าทุกอย่างเหมือนในตอนนั้นเปี๋ยบเหมือนในฝัน ผมคุกเข่ามองหน้าแม่ผมร้องให้ผมเสียใจอย่างที่ได้กับบาป(เหมือนย้อนไปในฝันของตัวเองทุกอย่าง)ที่ได้เคยกระทำให้แม่ลูกของแม่พระบิดาและพระจิตต้องเสียใจผมร้องให้ออกมาอย่างเสียใจสุดๆผมก้มหน้าหลบแม่เพราะละอายใจมาก และทุกครั้งที่ผมมองหน้าแม่ใหม่ผมก็ร้องให้ออกมาอย่างกลั้นไม่ได้อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมีความรู้สึกหนึ่งแวปเข้ามา "เป็นควสามรู้สึกว่าแววตาของแม่ไม่ได้ต้องการจะลงโทษเลย เป็นแววตาของผู้ที่พร้อมจะสวดกอดเราทุกเวลาเมื่อยามเราทำพลาดพลั้งไป" แล้วผมก็สงบขึ้นจนสามารถ
เดินกลับมายังที่ของตัวเองได้ และคุณพ่อวิจิตรก็เรียกออกไปอวยพระพระจิตให้อีกคราวนี้ผมรู้สึกร้อนไปทั้งตัว(หลังจากได้คุยกับหลายๆคน ก็ทราบว่ารู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน) และพจบพิธีพวกเราก็มาแบ่งบันกันในรถครับ
ทราบว่า ได้แวะที่วัดฟาติมา อ.พล ใช่มั้ยครับ
เรียนถาม คุณพี่ ~@Little lamb@~ หรือทุกท่าน ทราบว่าได้แวะเข้าไปที่วัดแม่พระฟาติมา อ.พล
บริเวณ ใกล้สนามบาส เดิมทีจะเป็น รูปปั้นแม่พระ องค์ใหญ่พอประมาณ ต่อมาไม่นาน มีผู้บริหารโรงเรียนบางท่าน นำรูปปั้น นางในวรรณคดีไทย ผีเสื้อสมุทร เปลือยท่อนบน มาตั้งไว้ข้างเคียงกับรูปแม่พระ (มีรูปปั้นๆอื่นๆอีกที่เกี่ยวข้องกับวรรณคดี พระอภัยมณี)
ไม่ทราบว่ายังหลงเหลืออยู่หรือถูกเคลื่อนย้ายไปแล้ว ผมพบเห็นเมื่อ 2 ปี ที่แล้ว ช่วงหลังไม่ได้ขับรถผ่าน จึงไม่ทราบ
ช่วยบอกด้วยครับว่ามีอยู่หรือไม่
ถ้าข้อความนี้ไม่ถูกต้องหรือ ไม่เหมาะสมกับหัวข้อ ก็ลบออกด้วยครับ ถ้ายังอยู่ผมจะส่งคนไปถ่ายรูป หรือถ้าถ่ายมาด้วยกรุณาส่งให้ผมด้วย ผมจะส่งไปที่วาติกัน เพื่อตีความว่าเหมาะสมหรือไม่
ที่ถามผมเป็นห่วงของภาพ ที่อยู่คู่กัน แต่มิได้ต่อต้านเรื่องราวของวรรณคดีไทยแม้แต่น้อย สำหรับผมแล้วควรอยู่ในที่ๆเหมาะสม
เรียนถาม คุณพี่ ~@Little lamb@~ หรือทุกท่าน ทราบว่าได้แวะเข้าไปที่วัดแม่พระฟาติมา อ.พล
บริเวณ ใกล้สนามบาส เดิมทีจะเป็น รูปปั้นแม่พระ องค์ใหญ่พอประมาณ ต่อมาไม่นาน มีผู้บริหารโรงเรียนบางท่าน นำรูปปั้น นางในวรรณคดีไทย ผีเสื้อสมุทร เปลือยท่อนบน มาตั้งไว้ข้างเคียงกับรูปแม่พระ (มีรูปปั้นๆอื่นๆอีกที่เกี่ยวข้องกับวรรณคดี พระอภัยมณี)
ไม่ทราบว่ายังหลงเหลืออยู่หรือถูกเคลื่อนย้ายไปแล้ว ผมพบเห็นเมื่อ 2 ปี ที่แล้ว ช่วงหลังไม่ได้ขับรถผ่าน จึงไม่ทราบ
ช่วยบอกด้วยครับว่ามีอยู่หรือไม่
ถ้าข้อความนี้ไม่ถูกต้องหรือ ไม่เหมาะสมกับหัวข้อ ก็ลบออกด้วยครับ ถ้ายังอยู่ผมจะส่งคนไปถ่ายรูป หรือถ้าถ่ายมาด้วยกรุณาส่งให้ผมด้วย ผมจะส่งไปที่วาติกัน เพื่อตีความว่าเหมาะสมหรือไม่
ที่ถามผมเป็นห่วงของภาพ ที่อยู่คู่กัน แต่มิได้ต่อต้านเรื่องราวของวรรณคดีไทยแม้แต่น้อย สำหรับผมแล้วควรอยู่ในที่ๆเหมาะสม
- Good Nanny
- ~@
- โพสต์: 227
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 13, 2005 10:32 pm
- ที่อยู่: BKK
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของ good nanny ที่มีโอกาสได้เดินทางไปแสวงบุญค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้ล้างบาป กำลังเรียนคำสอนอยู่ค่ะ....ไปแสวงบุญครั้งนี้ รู้สึกอิ่มบุญมากๆๆ โดยเฉพาะวันสุดท้าย ที่เราได้ไปประกอบมิสซาที่วัด แม่พระฟาติมา เมืองพล ตอนที่ได้รับ อวยพรพระจิต จากคุณพ่อวิจิตร ขณะที่คุกเข่ารอการปรกมือของคุณพ่อวิจิตรก้อไม่มีอะไรรู้สึกสบาย สบาย แต่พอ ตอนที่พ่อเอามือมาวางบนหัวรู้สึกว่ามันร้อนมากเลยอ่ะ....หลังจากนั้นก้อกลับมานั่งที่ ยังรู้สึกร้อนหน้าอยู่เลย ตอนแรกก้อคิดว่า คนอื่นเค้าไม่เป็นกัน แต่พอกลับมาขึ้นรถ ก้อลองถามคนอื่นๆดู สรุปว่าคนอื่นก้อรู้สึกร้อนเหมือนกัน....เฮ้อโล่ง :o นึกว่าเป็นตัวประหลาดคนเดียวซะอีก......
จริง จริง แล้วยังมีเรื่องจะแบ่งปันอีกหลายเรื่องเลยนะ แต่ไว้รอให้เพื่อนคนอื่นๆที่เดินทางไปด้วยกันมาแบ่งปันต่อนะ ;D
จริง จริง แล้วยังมีเรื่องจะแบ่งปันอีกหลายเรื่องเลยนะ แต่ไว้รอให้เพื่อนคนอื่นๆที่เดินทางไปด้วยกันมาแบ่งปันต่อนะ ;D
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
รออ่านนะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
โอ้ มายก็อด ดีจัง ได้ฟังพยานชีวิต ของคนไปแสวงบุญ
ครั้งหน้า หนูหวังว่าจะได้ตามพี่ๆไปมั้ง
รอเจ๊จิง คนสวย มาเว้าให้ฟังเด้อ 8)
ครั้งหน้า หนูหวังว่าจะได้ตามพี่ๆไปมั้ง
รอเจ๊จิง คนสวย มาเว้าให้ฟังเด้อ 8)
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เดี๋ยวย่อรูปเสร็จแล้วจะเอามาให้ดูนะจ๊า~~~~~~
ปล.
ตอนที่ไปไม่เห็นรูปนางยักษ์นะคะ
คงเก็บไปแล้วแหละคะ
ปล.
ตอนที่ไปไม่เห็นรูปนางยักษ์นะคะ
คงเก็บไปแล้วแหละคะ
รอดูรูป :D ครับ
ไว้เดี๋ยวมาเล่าด้วย แต่ท่าจะยาวขอติดไว้ก่อนนะงับ
ไว้เดี๋ยวมาเล่าด้วย แต่ท่าจะยาวขอติดไว้ก่อนนะงับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
วันเดินทางมีนิมิตหมายสวยงามบนท้องฟ้า สวยงามจริงๆ
ดูเอาเถอะคะ ไม่รู้ว่าจะบรรยาว่ายังงัยดี สวยงามจน
พวกเราต้องจอดรถข้างทางเป็นระยะๆเพื่อถ่ายรูปไว้
แม่พระคืนสู่ชาวซ่งแย้ที่รักของแม่ ชาวกรุงเทพฯได้แต่อิจฉา
ขอพรเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจาก
อัครเทวดามีคาแอล ประจำวัดอัครเทวดามีคาแอล ซ่งแย้
ดูเอาเถอะคะ ไม่รู้ว่าจะบรรยาว่ายังงัยดี สวยงามจน
พวกเราต้องจอดรถข้างทางเป็นระยะๆเพื่อถ่ายรูปไว้
แม่พระคืนสู่ชาวซ่งแย้ที่รักของแม่ ชาวกรุงเทพฯได้แต่อิจฉา
ขอพรเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจาก
อัครเทวดามีคาแอล ประจำวัดอัครเทวดามีคาแอล ซ่งแย้
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ก.ค. 03, 2005 11:48 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ไปสองคอนจ๊า~~~~~~ โลงแก้วภายในสักการะสถาน
อวยพรศีลมหาสนิทหน้าพระแท่นในสักการะสถาน
ลูกแกะบองบอง ร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง หลังการอวยพร (คนที่สอง)
ลูกแกะบองบอง ยังร้องไห้ไม่เลิก ต่อหน้าพระแท่น
ลูกแกะเรนเจอร์ 5 สี BLUE PINK ORANGE WHITE VIOLET
ปล. ลูกแกะม่วงเหมือนมีผมAlfoสีฟ้าบานบนหัวเลย *omg
เยี่ยมชมบ้านซิสเตอร์
ลูกแกะในป่าศักดิ์สิทธิ์
อวยพรศีลมหาสนิทหน้าพระแท่นในสักการะสถาน
ลูกแกะบองบอง ร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง หลังการอวยพร (คนที่สอง)
ลูกแกะบองบอง ยังร้องไห้ไม่เลิก ต่อหน้าพระแท่น
ลูกแกะเรนเจอร์ 5 สี BLUE PINK ORANGE WHITE VIOLET
ปล. ลูกแกะม่วงเหมือนมีผมAlfoสีฟ้าบานบนหัวเลย *omg
เยี่ยมชมบ้านซิสเตอร์
ลูกแกะในป่าศักดิ์สิทธิ์
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
พี่Holy อบรม Nihil หน้าตู้ศีลในวัดน้อยของซิสเตอร์คณะรักกางเขน
ลูกแกะบองบอง กับ แม่พระกวาดาลูเป้
พระแท่นวัดแม่พระกวาดาลูเป้
รูปแม่พระกวาดาลูเป้ ขนาดเท่าของจริง ที่ถ่ายมาจากผ้าจริง
รอพระคุณเจ้าปล่อยลูกโป่ง
แถวถวายเครื่องบูชา
วัดแม่พระฟาติมาที่เมืองพล
รูปแม่พระฟาติมา หน้าตาน่ารักที่สุดเท่าที่LL เคยเห็นมา ทำไมแม่น่ารักอย่างนี้หนอ
ลูกแกะบองบอง กับ แม่พระกวาดาลูเป้
พระแท่นวัดแม่พระกวาดาลูเป้
รูปแม่พระกวาดาลูเป้ ขนาดเท่าของจริง ที่ถ่ายมาจากผ้าจริง
รอพระคุณเจ้าปล่อยลูกโป่ง
แถวถวายเครื่องบูชา
วัดแม่พระฟาติมาที่เมืองพล
รูปแม่พระฟาติมา หน้าตาน่ารักที่สุดเท่าที่LL เคยเห็นมา ทำไมแม่น่ารักอย่างนี้หนอ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
คร่อก~~~~~~~~~ ขณะที่น้องฮ่องเต้ เอ้ย..น้องลิงNihil กำลังนอนหลับ
ในฝันนั้น........น้องลิง ฝันว่า น้องลิงน้อยปีนต้นไม้ คร่อก ๆ
คร่อก~~~~~ ลิงน้อยฝันว่าอ้าปากหยิบเห็บกิน....แหง่บๆๆ ฟี้~~~
มายกอด~~~~~~ เห็บอร่อยเยี่ยมยอด แม้ตื่นรสชาติก็ยังติดปาก เจี๊ยกค่อกๆ
สองพี่น้องสุดจะแนว.....แต่หน้ามันไปนิด..เพราะแดดร้อนมั่กๆ
ในฝันนั้น........น้องลิง ฝันว่า น้องลิงน้อยปีนต้นไม้ คร่อก ๆ
คร่อก~~~~~ ลิงน้อยฝันว่าอ้าปากหยิบเห็บกิน....แหง่บๆๆ ฟี้~~~
มายกอด~~~~~~ เห็บอร่อยเยี่ยมยอด แม้ตื่นรสชาติก็ยังติดปาก เจี๊ยกค่อกๆ
สองพี่น้องสุดจะแนว.....แต่หน้ามันไปนิด..เพราะแดดร้อนมั่กๆ
- fizzy vippie
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am
ท่าทางน่าหนุกเนอะ .... ไว้คราวหน้ามียังงี้ช่วยบอกกันเนิ่นๆหน่อยนะคะ
คือพี่ลางานยากมากเลย ... กว่าจะได้แต่ละเลือดตาแทบกระเด็น
และก็ .....
จิงจิง ... มี copy มั้ย ของดูมั่ง ส่งมาให้หน่อย
หรือจะให้ไปเอาที่บ้านตอนไปสวดรูปแม่พระอีกก็ได้
(ค่อนข้างชัวร์ว่าได้ไปแน่)
อ้อ ... ฝากบอก ม่าม้า ของจิงด้วยว่า ทำสายประคำเสร็จแล้ว
เดี๋ยววันอาทิตย์เอาไปให้พ่อเสกแล้วจะส่งไปให้จ้า
คือพี่ลางานยากมากเลย ... กว่าจะได้แต่ละเลือดตาแทบกระเด็น
และก็ .....
~@Little lamb@~ เขียน:
คืนนั้นเราดูVCD แม่พระเหรียญอัศจรรย์กัน
ก่อนจะสวดสายประคำถึง ตี 1 ครึ่ง
จึงแยกย้ายกันไปนอน
จิงจิง ... มี copy มั้ย ของดูมั่ง ส่งมาให้หน่อย
หรือจะให้ไปเอาที่บ้านตอนไปสวดรูปแม่พระอีกก็ได้
(ค่อนข้างชัวร์ว่าได้ไปแน่)
อ้อ ... ฝากบอก ม่าม้า ของจิงด้วยว่า ทำสายประคำเสร็จแล้ว
เดี๋ยววันอาทิตย์เอาไปให้พ่อเสกแล้วจะส่งไปให้จ้า
แก้ไขล่าสุดโดย fizzy vippie เมื่อ อังคาร พ.ค. 17, 2005 12:48 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ได้จ๊า~~~~~~~
เดี๋ยวจะWriteให้
จะมาเมื่อไหร่ก็บอกด้วย จะได้ทำให้ทันคะ
เดี๋ยวจะWriteให้
จะมาเมื่อไหร่ก็บอกด้วย จะได้ทำให้ทันคะ
รูปตอนหลับ *omg
พี่จิงเอาออกเถอะฮะ :P
พี่จิงเอาออกเถอะฮะ :P
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
อาราย~~~~~~~~
เนี่ย..ความบันเทิงของบอร์ดเชียวนะ
รับรอง...ลิงแจ้งเกิดเพราะรูปนี้แน่ๆ ;D
เนี่ย..ความบันเทิงของบอร์ดเชียวนะ
รับรอง...ลิงแจ้งเกิดเพราะรูปนี้แน่ๆ ;D
-
- ~@
- โพสต์: 698
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm
*heh Thanks Jing for foto and good story. *no1
แก้ไขล่าสุดโดย MarioAntonio เมื่อ พุธ พ.ค. 18, 2005 8:43 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ง่า อยากไปด้วยๆ คราวหน้าไม่น่าจะพลาดละ เพราะผมน่าจะจบปีนี้แหละครับ ;D
เรียนจบเมื่อไหร่ก็ซำบายละ(มั้ง) แต่ต้องไปทนทุกข์บวชพระก่อนนี่จิ ><
เรียนจบเมื่อไหร่ก็ซำบายละ(มั้ง) แต่ต้องไปทนทุกข์บวชพระก่อนนี่จิ ><
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อย่ากังวลเลยฮะพี่เอก พี่อาจจะได้บวช เป็นพระสงฆ์คริสตัง ก็ได้ งับMichaelPaul เขียน: ง่า อยากไปด้วยๆ คราวหน้าไม่น่าจะพลาดละ เพราะผมน่าจะจบปีนี้แหละครับ ;D
เรียนจบเมื่อไหร่ก็ซำบายละ(มั้ง) แต่ต้องไปทนทุกข์บวชพระก่อนนี่จิ ><
ใครบอกว่าเรียนจบซำบายฮะ พี่ต้องทำงานเลี้ยงปากท้อง เลี้ยงน้องนุ่ง และดูแล พ่อ แม่คั๊บ 8)
ดูรูปแล้ว น่าไปจังเลย ท่าจะสนุกนะ หนูบองร้องไห้เลยเหรอ
เคยไปแต่ที่สองคอนที่เดียวเอง ขอบคุณที่เอารูปมาลงและแชร์ประสบการณ์ให้อ่านนะคะ
ไม่เคยคิดเลยว่าคนเราจะศรัทธาได้ขนาดนี้ น่านับถือและเอาเป็นแบบอย่างจริงๆค่ะ
อีกอย่าง รูปแม่พระฟาติมาที่เมืองพล หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักจริงๆด้วย
เคยไปแต่ที่สองคอนที่เดียวเอง ขอบคุณที่เอารูปมาลงและแชร์ประสบการณ์ให้อ่านนะคะ
ไม่เคยคิดเลยว่าคนเราจะศรัทธาได้ขนาดนี้ น่านับถือและเอาเป็นแบบอย่างจริงๆค่ะ
อีกอย่าง รูปแม่พระฟาติมาที่เมืองพล หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักจริงๆด้วย
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เอ๊า~~~ ยังขาดใครอีก
จะจิกมาเล่าให้หมด
จะจิกมาเล่าให้หมด
LL,
วันเสาร์ที่ 14 ที่วัดแม่พระกวาดาลูเป้
วัดยังสร้างไม่เสร็จดี ผนังยังไม่มี หลังคายังไม่ได้ตีฝ้าเพดาน
เก้าอี้นั่งมีที่คุกเข่าแต่ 2 แถวแรก นอกนั้นมีแต่เก้าอี้
(ยังขาดเงินทุนอยู่มากคะ)
แต่ที่เด่น และเป็นจุดที่น่าสนใจที่สุดของวัด
ก็คือรูปแม่พระกวาดาลูเป้ ที่ถ่ายมาจากผ้าของนักบุญ ยวง ดิเอโก้
ด้วยขนาดเท่าผืนจริงที่เม็กซิโก อยุ่ข้างพระแท่นอย่างสง่าเลยคะ
Please find out more about the church and e-mail me the address.
;D
วันเสาร์ที่ 14 ที่วัดแม่พระกวาดาลูเป้
วัดยังสร้างไม่เสร็จดี ผนังยังไม่มี หลังคายังไม่ได้ตีฝ้าเพดาน
เก้าอี้นั่งมีที่คุกเข่าแต่ 2 แถวแรก นอกนั้นมีแต่เก้าอี้
(ยังขาดเงินทุนอยู่มากคะ)
แต่ที่เด่น และเป็นจุดที่น่าสนใจที่สุดของวัด
ก็คือรูปแม่พระกวาดาลูเป้ ที่ถ่ายมาจากผ้าของนักบุญ ยวง ดิเอโก้
ด้วยขนาดเท่าผืนจริงที่เม็กซิโก อยุ่ข้างพระแท่นอย่างสง่าเลยคะ
Please find out more about the church and e-mail me the address.
;D
รูปปั้นพระแม่ฟาติมาองค์นี้ สวยมากเลยครับ ผมเพิ่งเคยเห็นแม่สวยขนาดนี้ แต่พระแม่ตัวจริงต้องสวยกว่ามากๆเลย เยี่ยมมากเลยครับ ดีใจที่ยังมีลูกแกะที่รักพระองค์มากถึงขนาดหลั่งน้ำตาต่อหน้าธารกำนัลเลย ความรักนี่เป็นสิ่งที่เยี่ยมที่สุดเลยครับ *no1
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ชัวร์ หนูคิดว่า สวยกว่าสตรีใดๆในโลกหล้า ฮะ :Dcho เขียน: รูปปั้นพระแม่ฟาติมาองค์นี้ สวยมากเลยครับ ผมเพิ่งเคยเห็นแม่สวยขนาดนี้ แต่พระแม่ตัวจริงต้องสวยกว่ามากๆเลย
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
แง*sob เสียดายจัง
เอาไว้โอกาสหน้านะครับพี่จิง เสียดายจังเลย คงสนุกน่าดู
ปล.ไม่ต้องเอารูปลิงออกหรอกพี่ ฮาดีออก
เอาไว้โอกาสหน้านะครับพี่จิง เสียดายจังเลย คงสนุกน่าดู
ปล.ไม่ต้องเอารูปลิงออกหรอกพี่ ฮาดีออก
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
Yan Agape เขียน:
Please find out more about the church and e-mail me the address.
;D
เดี่ยวพรุ่งนี้หนูเอามาลงให้นะคะ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ทำไมจึงสร้างวัดแม่พระกวาดาลูเป้
เหตุผลก็เพราะ เมื่อตอนที่พระคุณเจ้าคายน์ไปอเมริกา
ที่ LA มีจัดนิทรรศการชีวิตชาวเม็กซิโก
ปรากฏว่ามีห้องๆหนึ่ง
ศิลปินคนหนึ่งได้วาดรูปแม่พระกวาดาลูเป้เปลือย
ขนาดใหญ่แปะไว้กลางห้อง
พระคุณเจ้าโกรธมากๆ
ท่านว่าทำไม อเมริกามีคาดินัลเยอะแยะ สังฆราชเยอะแยะ
แต่ทำไมถึงปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ทำไมไม่ทำเรื่องให้เขาเอาภาพลง
ปล่อยให้คนเป็นหมื่นคนเข้ามาดูความหยาบช้านี้
ก็ได้รับคำตอบว่า เพราะความเสรีของที่นี่ ใครจะทำอะไรก็ได้
พระคุณเจ้าจึงพูดว่า
ดี..ถ้าที่อเมริกาไม่ให้เกียรติแม่พระ
เมืองไทย สังฆมณฑลของท่านจะชดเชยเกียรติของแม่เอง
เมื่อท่านกลับมา จึงตัดสินใจ
สร้างวัดแม่พระแห่งกวาดาลูเป้ขึ้น
เพื่อเป็นการชดเชยการกระทำหยาบช้าของศิลปินคนนั้น
นี่เองเป็นที่มาของวัดแม่พระแห่งนี้คะ :D
เหตุผลก็เพราะ เมื่อตอนที่พระคุณเจ้าคายน์ไปอเมริกา
ที่ LA มีจัดนิทรรศการชีวิตชาวเม็กซิโก
ปรากฏว่ามีห้องๆหนึ่ง
ศิลปินคนหนึ่งได้วาดรูปแม่พระกวาดาลูเป้เปลือย
ขนาดใหญ่แปะไว้กลางห้อง
พระคุณเจ้าโกรธมากๆ
ท่านว่าทำไม อเมริกามีคาดินัลเยอะแยะ สังฆราชเยอะแยะ
แต่ทำไมถึงปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ทำไมไม่ทำเรื่องให้เขาเอาภาพลง
ปล่อยให้คนเป็นหมื่นคนเข้ามาดูความหยาบช้านี้
ก็ได้รับคำตอบว่า เพราะความเสรีของที่นี่ ใครจะทำอะไรก็ได้
พระคุณเจ้าจึงพูดว่า
ดี..ถ้าที่อเมริกาไม่ให้เกียรติแม่พระ
เมืองไทย สังฆมณฑลของท่านจะชดเชยเกียรติของแม่เอง
เมื่อท่านกลับมา จึงตัดสินใจ
สร้างวัดแม่พระแห่งกวาดาลูเป้ขึ้น
เพื่อเป็นการชดเชยการกระทำหยาบช้าของศิลปินคนนั้น
นี่เองเป็นที่มาของวัดแม่พระแห่งนี้คะ :D
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
แล้ววัดนี้อยู่ที่ไหนละเจ๊ หมายถึงพระคุณเจ้าคายน์สร้างที่วัดที่จังหวัด อำเภอ ???
...และขอความกรุณาช่วยลงประวัติสั้นๆของแม่พระกาวดาลูเป้ด้วยค่ะ
พี่เคยอ่านสมัยสาวๆ ตอนนี้จำได้แค่หางอึ่งอ่ะ ;D
...และขอความกรุณาช่วยลงประวัติสั้นๆของแม่พระกาวดาลูเป้ด้วยค่ะ
พี่เคยอ่านสมัยสาวๆ ตอนนี้จำได้แค่หางอึ่งอ่ะ ;D
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ พุธ พ.ค. 18, 2005 8:01 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.