+ เดือนก.พ. 53 บททดสอบ +

รวมสารการประจักษ์แม่พระที่ลำไทร สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสุภาพ และไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใด ๆ ในบอร์ดนี้
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ มี.ค. 03, 2010 11:06 pm

บททดสอบ
วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 04:30-07:10

(ถึงแม้จะเป็นสารส่วนตัวเกือบทั้งหมด  แต่ข้อความในสารสามารถนำมาเป็นข้อเตือนใจแก่ทุกคนได้เป็นอย่างดี  ผมจึงขอนำมาแบ่งปัน)

“ลูกที่รัก แม่ได้ยินเสียงคำภาวนาของลูก และมองเห็นความตั้งใจจริงของลูกในการจำศีลภาวนา อดอาหาร เพื่อเป็นพลีกรรมในระหว่าง
เทศกาลมหาพรตนี้  เป็นความตั้งใจดีของลูก  แต่แม่ขอบอกความจริงแก่ลูกว่า  จงอย่าฝืนสภาพแห่งร่างกายของลูกมากเกินไป  
จงทำแต่พอดี  จงทำตามกำลังความสามารถของลูกที่ไม่ฝืนธรรมชาติของลูกมากนัก  แม่หวังว่าลูกยังคงจำสิ่งที่ลูกได้ให้สัญญากับ
พระบิดาเจ้าสวรรค์ไว้ได้ใช่ ไหม  ลูกคิดเอาเองว่า หากลูกให้สัญญากับพระองค์แล้วลูกจะรักษาสัญญาอย่างเคร่งครัดได้โดยไม่ตกหล่น  
แต่ในที่สุดก็เกิดความผิดพลาด  เมื่อลูกเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน  ลูกไม่อยู่ในสภาวะที่จะสามารถรักษาสัญญที่ลูกได้
ให้ไว้กับพระองค์ได้  ทำให้ลูกเป็นทุกข์  ในที่สุดด้วยน้ำพระทัยดีของพระองค์  พระองค์จึงบอกแก่ลูกว่า  ให้ลูกทำแต่พอดีตามกำลัง
ความสามารถของลูกเท่านั้น  ลูกไม่อาจนำผู้อื่นมาเป็นบรรทัดฐานสำหรับลูกได้หรอก

จงอยู่ในความพอ ดีเถิด  ลูกเองนั่นแหละจะรู้ว่าอะไรเหมาะสมที่สุดสำหรับลูก  ไม่ใช่ลูกจะต้องทำเพื่อให้สมตามความคาดหวังของผู้คนที่มีต่อลูก  
จงจำไว้เถิดว่าสิ่งใดที่มาจากพระองค์  สิ่งนั้นจะไม่ทำให้ลูกขาดสันติในจิตใจเลย  จงแยกให้ออกนะลูกรัก  จงอย่าทำกิจการใดที่ผู้อื่นบอก
ให้ลูกทำ  ถึงแม้กิจการนั้นจะเกี่ยวเนื่องกับการรับใช้พระบิดาเจ้าสวรรค์  หากลูกไม่มีสันติในจิตใจแล้ว  กิจการนั้นก็ไม่ใช่กิจการของลูก
ที่จะต้องกระทำ

  แม่ รู้ถึงความในใจของลูกเป็นอย่างดี  เรื่องหนังสือของแม่นั้นลูกไม่ต้องกังวลไปหรอก  แม่ขอให้ลูกนบนอบต่อพระคุณเจ้าให้มาก  ท่านมี
เหตุผลของท่านซึ่งเป็นอำนาจโดยชอบธรรม  การเผยแพร่หนังสือของแม่นั้นไม่ได้มีเฉพาะวิธีการนี้วิธีเดียวไม่ใช่หรือ  ในเมื่อพระคุณเจ้าปฏิเสธ  
ลูกจงนบนอบและอย่าทำให้ท่านต้องลำบากใจนะลูก  พระคุณเจ้าไม่ได้ปฏิเสธสารของแม่  แต่พระคุณเจ้าท้วงติงเรื่องการรับรองหนังสือเล่มนี้
จากพระศาสนจักรต่างหาก

แม่ บอกแก่ลูกไว้ล่วงหน้าแล้วว่า  ลูกไม่ควรเร่งแจกหนังสือนี้ให้หมดโดยเร็ววัน  ลูกสมควรที่จะเลือกแจกเฉพาะผู้ที่เปิดใจและสมควรได้รับเท่านั้น  
ลูกเป็นฆารวาสแพร่ธรรม  ลูกสามารถนำหนังสือของแม่ไปได้ทุกหนทุกแห่ง มากกว่าที่ลูกจะให้พระคุณเจ้าแจกหนังสือนี้ให้ลูกเสียอีก

จงอย่า เป็นเช่นลาโง่นะลูกรัก  หนทางข้างหน้าไม่ได้มีเฉพาะแต่ทางตรงแต่อย่างเดียวเท่านั้น  เมื่อพบสิ่งกีดขวางอันเป็นอุปสรรค  ลูกไม่ควร
ใช้พละกำลังเข้าพุ่งชนหรอกนะลูก รังแต่จะเจ็บตัว  จงขอความสว่างจากองค์พระจิตเจ้าเถิด แล้วลูกจะมองเห็นหนทางที่ลูกสามารถก้าวเดิน
ต่อไปได้อย่างแน่นอน

  ความรู้สึกภายในของลูกบอกให้ลูกเตรียมจิตใจเป็นอย่างดีสำหรับการเผยแพร่จิตภาวนา นั้นเป็นการชอบแล้ว  แม่ได้บอกแก่ลูกไว้ล่วงหน้า
แล้วไม่ใช่หรือว่า ให้เตรียมพี่น้องของลูกที่ลำไทรให้พร้อม  สักวันเขาจะต้องอยู่ได้โดยไม่มีลูก

จงอย่าทำตัวเช่นพี่เลี้ยงเด็ก ที่คอยประคบประหงมอยู่ตลอดเวลา  ลูกต้องสอนให้ทุกคนยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตนเอง  บททดสอบกำลังมาถึงแล้ว  
ไปลำไทรครั้งนี้ลูกจงเป็นผู้แนะนำที่ดี  เพื่อเตรียมตัวให้ทุกคนสามารถจับปลาได้ด้วยตนเองได้แล้ว  ความรักที่ลูกมีต่อเพื่อนพี่น้องทุกคนนั้นเป็น
สิ่งที่ประเสริฐ  แต่ลูกจะต้องรู้จักใช้ความรักของลูกให้เป็นด้วยนะ  ลูกไม่สามารถอยู่กับพวกเขาเหล่านั้นได้ตลอดไป

จงอย่าคิดว่านี่คือ กางเขนที่ลูกต้องแบก  โดยแท้จริงแล้วคือกางเขนที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแบกต่างหาก  ไม่ใช่ลูกแต่เพียงผู้เดียวที่ต้อง
แบกเพื่อทุกๆคน  จงมองให้ออกนะลูกรัก  ถึงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงแล้ว  ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องเริ่มจริงจังกับจิตวิญญาณของตนเองแล้ว  
ลูกไม่สามารถรับเป็นภาระดูแลจิตวิญญาณของทุกคนได้ตลอดไปหรอกนะ

บัด นี้ถึงเวลาแล้วที่จะพิสูจน์ว่าพี่น้องของลูกจับปลาเป็นแล้วหรือยัง  ด้วยเหตุว่าไม่ใช่จับปลาเพื่อความอยู่รอดของตนเองเท่านั้น  แต่ทุกคนจะ
ต้องแบ่งปันประสบการณ์นี้เพื่อสอนให้ผู้อื่นจับปลาได้ด้วยเช่น กัน

เปโตรน้อยของแม่  จงบอกแก่ทุกคนดั่งนี้ก่อนอาหารมื้อเย็นในวันเสาร์หน้า  เพื่อว่าทุกคนจะได้เข้าใจ  ว่ากิจการแสวงบุญนี้ต้องมาจากน้ำใจอัน
แท้จริงของลูกๆทุกคน  ทุกคนต้องมีส่วนร่วมมาตั้งแต่ต้น  ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ

แม่ ไม่ต้องการให้ลูกๆเข้าใจเจตนารมณ์ของการแสวงบุญอย่างคลาดเคลื่อน  ความสะดวกสบายที่ลูกๆได้รับเกิดจากความเหนื่อยยากของผู้ที่
มีน้ำใจดีเพียง ไม่กี่คน  แล้วลูกๆ ของแม่ที่เหลืออยู่นั้นเล่า  ลูกๆได้ใช้เวลาของลูกเพื่อการอันใด  ลูกได้ใช้เวลาอันมีค่าของพระบิดาเจ้าสวรรค์
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือไม่  ลองถามน้ำใจของลูกเองดูเถิด

ลูกๆอาจจะคิดว่าลูกถูกแม่ดุเข้าให้แล้ว ไม่ใช่หรือ  ลูกที่รักทั้งหลายของแม่  หากความจริงที่แม่บอกแก่ลูกทำให้ลูกต้องกระทบกระเทือนจิตใจของลูก  
แม่นี้ต้องขอโทษแก่ลูกด้วย  หากลูกมองด้วยหัวใจที่เป็นธรรมแล้ว  มีสิ่งใดบ้างที่แม่ได้แจ้งแก่ลูกๆไปนี้ ไม่เป็นความจริงบ้าง  ลูกอาจจะมีคำถาม
และค้านแม่อยู่ในใจ  ด้วยว่าเหตุใดแม่จึงไม่แจ้ง แก่ลูกมาตั้งแต่แรก  ลูกที่รักทั้งหลายช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ของลูกมาถึงจุดทดสอบแล้ว  หากแม่
ไม่บอกแก่ลูก  อีกเมื่อใดลูกจะถึงพร้อมกันเสียที  ลูกจะต้องเป็นดั่งเทียนดวงน้อยๆ เป็นแสงสว่างส่องให้ผู้อื่น  หากลูกยังไม่สามารถจุดเทียนแห่ง
ความเชื่อนี้ให้สว่างไสวในดวงใจของลูกได้ แล้ว  ลูกจะเป็นแสงสว่างส่องโลกนี้ได้อย่างไร  ด้วยเหตุดั่งนี้แม่จึงบอกให้ลูกได้ตระหนักว่า  ลูกจะต้อง
ออกแรงในทุกๆขั้นตอนด้วยตัวของลูกเอง  ไม่มีข้อยกเว้น  ไม่มีทางลัดใดๆ                                                                                                                                                                                                                                                        
ด้วยเหตุดั่งนี้  กิจการแห่งการแสวงบุญจะต้องเริ่มต้นที่น้ำใจของลูกเองก่อน  หากลูกไม่มีเจตนารมณ์มาตั้งแต่แรก  การเดินทางมาของลูกก็ขาดองค์
ประกอบที่สำคัญไปตั้ง แต่วินาทีแรกที่ลูกได้คิดเช่นนั้นแล้ว  นี่แหละคือสาเหตุอันแท้จริง  ที่เหตุใดคำภาวนาของลูกๆไม่สัมฤทธิ์ผล  เหตุใดลูกๆจึง
ไม่เจริญก้าวหน้าทางฝ่ายจิตวิญญาณของลูก
                                                                                                                                                                             
แม่ขอให้ลูกตระหนักถึงการสวดภาวนาร่วมกันให้มากเป็น พิเศษ  การประสานใจร่วมเป็นหนึ่งเดียวนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง  จงตรองดูเถิดเหตุใด
บางครั้งลูกทำได้  บางครั้งลูกไม่อาจทำได้  จงละวางความเป็นตัวตนของลูกเสียเถิด  ลูกไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้ผู้อื่นยอมรับในความเป็นตัวตน
ของลูก  โดยที่เขาเหล่านั้นจะต้องปรับตัวเข้าหาลูก  เหตุใดลูกจึงไม่ปรับเปลี่ยนตนเอง  ร่วมใจและสวดภาวนาไปพร้อมๆกับผู้อื่นด้วยสิ้นสุดจิตใจของลูกเล่า

ด้วย เหตุดั่งนี้การสวดภาวนาที่เร็วหรือช้ากว่าผู้อื่นนั้น  จึงไม่ใช่การร่วมใจเป็นหนึ่ง เดียวกันหรอกนะลูก  ด้วยว่าลูกขาดความเห็นใจผู้อื่นที่เขาต้อง
อดทนต่อการภาวนาของลูก  เมื่อเป็นดั่งนี้แล้วลูกจะได้รับฤิทธิ์กุศลจากการภาวนาของลูกอีกหรือ  จงตรองดูเถิดลูกที่รักทั้งหลาย

ถึงเวลาแล้วนะ  ลูกที่รักทั้งหลาย  ขอลูกจงเป็นดั่งเทียนดวงน้อยส่องแสงสว่างในยามมืดมนนี้เถิด  อย่าปล่อยให้คำสอนของแม่ต้องสูญเปล่า  
ลูกจะต้องนำตนเองและผู้อื่น ให้ได้รอด


ด้วยควาามรักจากสิ้นสุดหัวใจของแม่
มารดาผู้เห็นอกเห็นใจของลูกๆทุกคน”

************
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มี.ค. 03, 2010 11:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ มี.ค. 03, 2010 11:06 pm

จงเฝ้าระวังเถิด
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 03:07-03:51 น.

(ผมมาลำไทรในวันเสาร์ที่27กุมภาพันธ์2010 พร้อมกับนำสารของแม่วันที่21กุมภาพันธ์เพื่อมาทำความเข้าใจกับพี่น้อง
ที่มาร่วมสวดภาวนาในคืนนี้ว่าแม่มีพระประสงค์ให้ทุกคนฝึกฝนการทำสมาธิจิตภาวนา เพื่อเข้าถึงการภาวนาอย่างแท้จริงและเป็นความเจริญ
ก้าวหน้าทางฝ่ายจิตวิญญาณ เมื่อนำไปปฏิบัติในชีวิตจริงได้แล้วทุกคนก็สามารถนำวิธีการนี้ไปสอนผู้อื่น ได้อีกด้วย ทุกคนควรมีส่วนร่วม
ในการมาแสวงบุญ  ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่พวกเรามารวมตัวกันเพื่อร่วมใจกันสวดภาวนาสำหรับผู้ อื่นโดยใช้ทุกๆเวลานาทีอย่างมีค่า
คืนนี้เป็นคืนที่พิเศษเพราะเรามีพระรูปของพระบิดาที่คุณมานิตย์กรุณาส่งมา ให้เป็นกำลังใจอยู่ท่ามกลางพวกเราทุกคน ก่อนเวลาตีสาม
เมฆสีดำลอยตัวอย่างรวดเร็วมาปกคลุมท้องฟ้ามืดมิดดำสนิทไปหมด เหมือนกับจะมีพายุฝนตกหนัก ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศช่วงเวลาก่อน
ที่พระเยซูเจ้าจะสิ้นพระชนม์ ผมเลยชวนพี่น้องให้ทำสมาธิจิตภาวนาอีกครั้งเพื่อการสวดบทภาวนาเวลาบ่ายสาม โมงที่เราจะสวดในเวลา
ตีสามเพื่อวิงวอนขอพระเมตตาจากองค์พระเยซูเจ้าสำหรับ เพื่อนพี่น้องและวิญญาณในไฟชำระทั้งหลายจะได้เป็นไปได้อย่างดี  สักครู่เดียว
ท้องฟ้าก็เริ่มเปิดออกมองเห็นที่ดวงจันทร์ที่สว่างไสวและท้อง เมฆสีดำค่อยๆสลายตัวไปจนหมด ในขณะที่ผมรับสารนั้นมีลมแรงพัดนำ
ความเย็นเข้ามาให้สัมผัสได้อยู่ตลอดเวลา และพี่น้องทุกคนก็อยู่ในความสงบเพื่อสวดภาวนาขอพรจากแม่พระเป็นการส่วนตัว  สิ่งที่ผม
บันทึกต่อไปนี้ผมได้ยินเช่นนั้นจริงๆ และนี่คือความเชื่อส่วนบุคคลของผมแต่เพียงผู้เดียว)

“เปโตรน้อย  เราขอบใจเจ้าที่วันนี้เจ้าได้เป็นผู้แนะนำที่ดี  เจ้าเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทบทวนคิดพิจารณาในทุกๆขั้นตอนของ
การทำจิตภาวนา และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการภาวนาอย่างแท้จริง เป็นการชอบแล้วที่เจ้าเตือนให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความ
สำคัญของการภาวนาอย่างแท้จริง

พวกเจ้าคงไม่รู้หรอกว่า ณ ค่ำคืนนี้เราได้มาอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าตั้งแต่ต้น เรามองเห็นพฤติกรรมและความตั้งใจของเจ้าแต่ละคน ไม่ต้องตกใจไปหรอก
เราไม่ได้มาพิพากษาพวกเจ้า  หากแต่เรามาเพื่อให้พวกเจ้าได้ตระหนักว่าความรักที่เรามีต่อพวกเจ้าและมวล มนุษย์ทั้งหลายนั้นมากมายเพียงใด  
เจ้าอาจจะยังไม่รู้ด้วยว่าเจ้ายังไม่อาจสัมผัสได้จนกว่าเจ้าจะได้ฝึกปฏิบัติ การทำจิตภาวนานี้ให้เป็นชีวิตของเจ้า  และเมื่อนั้นแหละ  เจ้าจะเข้าใจ
ถึงความล้ำลึกแห่งการภาวนาอย่างแท้จริง

เราอวยพรให้พวก เจ้าในค่ำคืนนี้ทุกๆคน สุดแต่น้ำใจของเจ้าแต่ละคนเองที่จะรักษาพรนี้ไว้กับตัวเจ้าได้นานเท่าใด  จงจำไว้เถิดว่าตราบใดที่เจ้ายังคง
รักษาความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเจ้าไว้ได้  พรนี้ก็จะอยู่กับเจ้าเสมอ  เอาละเราจะให้เจ้าได้ฟังเสียงจากแม่ของพวกเจ้าเสียที”

“ลูกที่รัก ทั้งหลาย บททดสอบในวันนี้ลูกรู้สึกเช่นใดบ้าง ลูกคงนึกไม่ถึงซินะว่าในที่สุดลูกก็เข้าใจถึงวิธีการทำจิตภาวนากันอย่างถ้วนหน้าแล้ว  
ตอนนี้จึงเหลือแต่เพียงการฝึกฝนที่ลูกๆแต่ละคนจะนำไปปฏิบัติเป็นการส่วน ตัว  ทุกอย่างอยู่ที่ความหมั่นเพียรของลูกเอง  ฝึกมากก็ได้ผลมาก
ฝึกน้อยก็จะได้ผลแก่ลูกน้อยลงตามลำดับ

แม่ขอบอกความจริงแก่ลูกว่า  หากลูกจะเป็นแสงสว่างส่องโลก ลูกจะต้องจุดประกายแห่งความสว่างนี้ให้มาเกิดขึ้นในจิตวิญญาณของลูกเองก่อน  
ไม่มีผู้ใดสามารถทำแทนลูกได้หรอก  เหลือเวลาอีกไม่มากนัก  ลูกจะต้องร่วมใจกันสวดภาวนาให้มากสำหรับสันติภาพในโลกนี้  แต่ลูกจะไม่สามารถ
ทำได้เลย  หากสันตินั้นยังไม่บังเกิดในดวงใจของลูกทั้งหลาย  


(ผม รู้สึกใจหายกับเวลาเตรียมตัวที่เหลืออยู่ไม่มากนักของพวกเรา  นานแล้วที่แม่
ไม่ได้บอกอะไรตรงๆอย่างเช่นครั้งนี้  เพราะเหตุนี้เองกระมังแม่จึงมีพระประสงค์ให้พวกเราใช้จิตภาวนาเพื่อการภาวนา ร่วมกันของพวกเราจะได้
สัมฤทธิ์ผล ขอพี่น้องอย่าได้ตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึงไปเลย ผมเชื่อว่าคำภาวนาที่ออกมาจากหัวใจของพวกเรานั้นจะดังไปถึงพระบิดาเจ้าสวรรค์อย่างแน่นอน)

จงมองดูเถิด  เกิดอะไรขึ้นรอบๆตัวของลูกบ้าง  เกิดอะไรขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมืองของลูกบ้าง เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อน
พี่น้องร่วมโลกนี้ของลูกบ้าง  ทุกอย่างเป็นเหตุและเป็นผลซึ่งกันและกัน  มีที่มาและมีที่ไปเสมอ


(จริง อย่างที่แม่พูดทุกอย่าง ขณะนี้วิกฤติต่างๆเริ่มเข้มข้นมากขึ้นทุกที  และสาเหตุที่แท้จริงนั้นมาจากความมืดในจิตใจของมนุษย์นั่นเอง)

แม่ขอให้ลูกๆทุกคนจงอยู่ในความสงบและสันติเถิด  ไม่ต้องหวั่นเกรงภยันตรายใดๆ ภัยในจิตใจของลูกเองนั่นแหละที่น่ากลัว
กว่าสิ่งใดๆทั้งหมด จงรู้เท่าทันและอย่าตกเป็นเครื่องมือของภัยมืดที่แฝงอยู่ในจิตใจของลูกเป็น อันขาด  จงเฝ้าระวังและหมั่นชำระจิตใจของ
ลูกให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ  นี่คือวิธีเดียวเท่านั้นที่ลูกจะเอาชนะภัยมืดนี้ได้


(ปีศาจ กำลังโจมตีอย่างหนักใจจิตใจของมนุษย์ทุกคน  เราจึงเห็นเรื่องที่เลวร้ายต่างๆเกิดขึ้นอย่างน่าตกใจ  มันไม่ต้องการให้
พวกเราอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข  มันจึงหาทางทำลายพวกเราทุกคนโดยเริ่มต้นที่จุดอ่อนในใจของเรานั่นเอง หากทุกคนตกอยู่ใต้อิทธิพล
แห่งความมืดในจิตใจแล้ว  มันก็จะง่ายในการกวาดต้อนผู้คนเหล่านั้นไปสู่อาณาจักรแห่งความมืดชั่ว นิรันดร ขอให้เราหมั่นสำรวจมโนธรรม
บ่อยๆเพื่อเราจะได้รู้เท่าทันว่าขณะนี้เรากำลัง ออกนอกเส้นทางไปสู่บ้านแท้ของเราในสวรรค์มากน้อยเพียงใดแล้ว)

ขอให้เทศกาลมหาพรตนี้เป็นช่วงเวลาที่ลูกจะชำระจิตวิญญาณของลูก  และเฝ้าติดตามองค์พระบุตรสุดที่รักของแม่อย่าง
ใกล้ชิด เมื่อวันแห่งความรุ่งเรืองมาถึง ลูกๆจะรู้ซึ้งถึงความปิติยินดีพร้อมกับเหล่าเทวดาและชาวสวรรค์  ทุกสิ่งที่ลูกได้ทำถวายเป็นพลีกรรม
แด่พระองค์นั้นจะได้รับบำเหน็จรางวัลใน สวรรค์อย่างแน่นอน
 

(แม่สอนให้พวกเราอยู่กับ ปัจจุบันเสมอ ดังนั้นการเตรียมจิตใจในช่วงเทศกาลมหาพรตจึงเป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำอย่างยิ่ง  
เราคงต้องเตรียมจิตวิญญาณของเราให้ถึงพร้อมอยู่เสมอ  เพื่อว่าเราจะไม่หวั่นไหว  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม  สิ่งที่แม่ได้บอกแก่พวกเรา
คือทุกสิ่งที่เราได้ทำเพื่อถวายเป็นพลีกรรมแด่พระ เยซูเจ้าจะได้รับการตอบแทนในสวรรค์อย่างแน่ นอน)

ใครเป็นผู้ บอกลูกเล่าว่าสวรรค์นั้นไปได้ยาก  ไม่จริงหรอก  อยู่ที่น้ำใจของลูกเองต่าง หากว่าในแต่ละวัน ในแต่ละชั่วโมง
ในแต่ละนาทีนั้น  ลูกได้เลือกเส้นทางเดินไปสู่สวรรค์หรือไม่  สิ่งแรกที่ลูกจะได้สัมผัสก็คือสวรรค์ในใจของลูกนั่นเอง หากลูกมีความสงบ
และสันติสุข ไม่รุ่มร้อนใจนับได้ว่าลูกได้สัมผัสกับสวรรค์ในใจของลูกแล้ว  ในทำนองเดียวกัน  หากลูกร้อนรุ่มอยู่ในใจ มีแต่ความอิจฉาริษยา
อาฆาตมาดร้าย นึกแต่จะกอบโกยผลประโยชน์เข้าสู่ตนแต่เพียงถ่ายเดียวโดยไม่คำนึงถึงความ เดือดร้อนของผู้อื่นแล้วไซร้  ลูกก็ได้ชื่อว่า
ลูกได้นำไฟร้อนแห่งนรกมาเผาดวงใจของลูกเองแล้ว  ลูกเห็นหรือยังว่าลูกคือผู้กำหนดชีวิตด้วยตัวของลูกเอง

แม่หวังว่า  เมื่อลูกกลับไปยังบ้านเรือนแห่งตนแล้ว  ลูกยังคงจำสิ่งที่แม่ได้แจ้งแก่ลูกนี้เป็นอย่างดี

ขอสันติสุขจงเป็นของลูกที่รักทั้งหลาย  จากแม่ของลูก  มารดาผู้เห็นอกเห็นใจฯของลูกๆทุกคน”

************




Be Watchful
Sunday, February 28, 2010, 3:07 – 3:51 a.m.

(Mother Mary’s messenger:  I came to Lamsai on Saturday, February 27, 2010 and brought Mother Mary’s message for Sunday, February 21, 2010 with me to make it clear to the brothers and sisters coming to pray together tonight that Mother Mary wanted every one of us practice the mental prayer (mediating and contemplating) to understand the real meaning of praying and also a progress of spiritual life. When we can use it in our real lives, every one of us can use it to teach other people too.

Everyone should pitch in as a part of pilgrimage which is a golden opportunity for us to gather to pray for others by spending every minute to be most valuable.

Tonight was special because we had a portrait of the Heavenly Father in our midst, given by Manit (a friend of ours) for encouragement.

Before 3:00 a.m., all of a sudden, there was a dark cloud quickly moved to cover the sky, blackening it completely and it looked like there was going to be a big storm. It reminded me of the atmosphere before Lord Jesus died.

So I invited all the brothers and sisters to do the mental prayer again in order to pray the “3:00 p.m. prayer” which we usually pray at 3:00 a.m. to ask for Lord Jesus’ mercy for our friends, relatives and all the souls in the purgatory for their wellbeing.

A moment later, the sky started to clear up. We could see the moon shining brightly and the dark cloud gradually disappeared.

While I was receiving the message, there was a strong wind bringing coolness that we could feel the whole time. Every brother and sister was calm in order to privately pray for the blessing from Mother Mary.

What I recorded next was what I really heard and was my own personal belief.”


The Heavenly Father’s Message

Little Peter, thank you for being a good advisor, giving everyone an opportunity to review and think over every step of the mental prayer and for giving everyone an opportunity to take part in the real praying. You were right to remind everyone the importance of the real praying.

You might not know that tonight I have been in your midst since the very beginning. I saw the actions and intentions of each one of you. Do not be afraid. I did not come to judge all of you. On the contrary, I came to let you realize how great my love for you and other human beings is.

You might not know and able to feel it until you have practiced the mental prayer and make it your life. And then you will truly understand the deep meaning of praying.

I bless every one of you tonight. It is up to your own will for how long you will keep this blessing inside you. Remember that as long as you keep your holiness, the blessing will always be with you. OK, I will now let you listen to your Mother‘s voice.

Mother Mary’s Message

My dear children, how do you feel about today’s test?  You might have not expected that finally all of you would know how to do the mental prayer. Now it is only the practice left for you to do at your own privacy. Everything depends on your effort. Practice more, get more result. Practice less, get less result.

I tell you the truth that if you want to be the light shining for the world, you must light up the light in your hearts and souls first. Nobody can do it for you. There is not much time left. You must join in praying more for peace in this world. But you will not be able to do it, if peace was not yet born in your hearts.


(Mother Mary’s messenger:  I was so scared that there was not much time left for us to get ready. It has been a long time since Mother told us right up front like this. And perhaps this was why Mother wanted us to use mental prayer to join in praying in order for our prayers to be effective. Brothers and sisters, don’t be frightened with the events in the future. I believe that the prayers coming from our hearts will surely be heard by the Heavenly Father.)

Look around and see what happens in your country and to your brothers and sisters around the world. There is a cause and effect; a source of coming and going, always.
(Mother Mary’s messenger: Everything Mother said was true. Currently, crises are getting worse and the true source is the darkness of human hearts.)

I want every one of you to be in peace and serenity. Don’t worry about any other danger because the danger in your hearts is the most terrifying thing of all.

Be watchful and not to turn into the tool of the dark danger hiding in your hearts. Be alert and constantly clean up your hearts to be pure all the time. And this is the only way to win this dark danger.


(Mother Mary’s messenger: The devil is heavily attacking every human’s heart. And that is why we see a lot of terrifyingly evil things. He does not want us to live in peace and harmony. He tries to destroy us by first exploiting the weakness in our hearts. If everyone falls under the influence of the darkness of the heart, it will be very easy for the devil to herd them toward the kingdom of eternal darkness. We must constantly check our conscience in order to realize how far we are off the path that leads us to our true home in heaven.)

Let Lent be the time for you to clean up your hearts and souls and to follow my Dearest Son closely. When the day of glory arrives, you will truly understand the joy along with all the angels and those in heaven. Whatever you do for penance for the Lord will be surely rewarded in heaven.

(Mother Mary’s messenger: Mother teaches us to always live in present. So prepping our minds during Lent is something we must hurry up to do. We must prep our minds to be in the state of readiness all the time so we will not be wobbly, regardless of what happens.  What Mother told us is whatever we do as a penance offering to Lord Jesus will be surely rewarded in heaven.)

Who told you that going to heaven is hard? It is not true! It is up to your own will whether you have chosen the path leading to heaven in each day, each hour and each minute.

The first thing you will feel is heaven in your hearts if you have peace and tranquility and not being anxious. So that is how you feel heaven in your hearts. By the same token, if you are anxious, full of jealousy, being vengeful and want only to rake in profit for yourselves without thinking about others’ hardship, you have brought the fire of hell to burn up your own hearts.

So, do you see that you are the one who controls your own lives?

I hope that when you go home you will remember well what I told you.


May peace be with you,

Your Compassionate Mother
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มี.ค. 10, 2010 1:59 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ มี.ค. 03, 2010 11:06 pm

สำรอง
ตอบกลับโพส