แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา

รวมสารการประจักษ์แม่พระที่ลำไทร สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสุภาพ และไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใด ๆ ในบอร์ดนี้
ตอบกลับโพส
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

เสาร์ ต.ค. 14, 2023 1:31 pm

สวัสดีครับ ผมขอเสนอ แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา แปลโดย คุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง จาก God Our Father, Consecration and Feast Day For The Father Of All Mankind by Father Michael O'Carroll C.S.S.P.

เป็นหนังสือเล่มบางที่มีพื้นฐานทุกอย่างมาจากพระวาจาและเนื้อความศักดิ์สิทธิ์ของพระคัมภีร์ไบเบิล ในพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่ สรุป: ในสภาพของลูกล้างผลาญของพระเจ้า พวกเราทั้งมวลอยู่ในการเดินทางกลับบ้านไปหาพระบิดา

ผมจะโพสต์หกวัน วันละ 10 หน้า จนจบ ทางไลน์และที่ www.newmana.com เวปบอร์ดสนทนาธรรม สามัคคีธรรม แม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ ใต้หัวข้อ "แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา"

(ผู้สนใจอยากอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ สามารถซื้อได้ที่ amazon.com หรือติดต่อผม ฟรีไม่เสียเงิน )

แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา

ภาคที่หนึ่ง: พระดํารัส

"ลูกๆ ที่รักทั้งหลาย จงเข้ามาหาเราด้วยใจซื่อๆผ่องใส จงเปิดใจของพวกลูกเข้าสู่อ้อมกอดแห่งรักของพระบิดาของพวกลูกเถิด"

"จงเรียกพระนามของเรา "พระบิดา" ด้วยความรักและมั่นใจเถิด แล้วลูกจะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างจากพระทัยพระบิดาที่ทรงพระทัยรักและอ่อนหวาน"

มีที่สงบภายในที่ลึกของวิญญาณ ที่นั่นเป็นที่ประทับสําหรับพระเจ้าเท่านั้น ทุกคนเกิดมาด้วยพระพรอันนี้ ภายในตัวเราทุกคนมีพระบัลลังก์ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น แต่มันได้ถูกฝัง ได้ถูกปนปลอม และได้ถูกครอบคลุมด้วยกระแสเสียงของโลก เพื่อเราจะได้ค้นพบที่ลึกลับและประเสริฐนี้อีกให้เราภาวนาว่า

"ลูกรักพระองค์ พระบิดาเจ้า และลูกถวายตัวแด่พระองค์"
________________________

1. ชีวิตเราคือ การกลับสู่บ้านพระบิดา

พระศาสนจักรสอนว่า พระบิดาส่งพระบุตรมาเพื่อพาเรากลับบ้านไปหาพระองค์ และยังส่งพระจิตมานําเราบนทางเดินกลับสู่บ้านพระบิดา เราได้เห็นความหมายนี้เกิดขึ้นชัดเจนในการสมโภชปียูบีลี 2000 โดยปี 1997 พระศาสนจักรยกถวายแด่พระเยซูเจ้า ปี 1998 ยกถวายแด่พระจิต และปี 1999 ยกถวายแด่พระบิดา การเดินทางของวิญญาณของเราจึงมีจุดหมายชัดแจ้งไปในทิศทางสู่บ้านพระบิดา

พระเยซูเจ้าสอนเราว่า

"เราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทําตามนํ้าใจของเรา แต่มาทําตามนํ้าใจพระบิดาผู้ทรงส่งเราลงมา และนํ้าพระทัยพระบิดาผู้ทรงส่งเรามา คือ ทุกคนที่พระองค์ทรงมอบหมายให้เรา เราจะไม่ทําให้เสียไป แต่จะทําให้พวกเขาได้กลับคืนชีพใหม่ในวันสุดท้าย" (ยน. 6, 38-39)

"ในบ้านพระบิดาของเรา มีที่อยู่มากมาย ถ้าไม่มี เราคงได้บอกท่านแล้ว เรากําลังไปเตรียมที่ให้ท่าน เมื่อเราไปเตรียมที่ให้ท่านแล้ว เราจะกลับมารับท่านไปกับเรา ให้ท่านอยู่ในที่ที่เราอยู่ด้วย...เราเป็นหนทาง สัจจะ และชีวิต ไม่มีใครมาหาพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา" (ยน. 14, 2-3)

ในพระสมณสาร Tertio Millenio Adveniente พระสันตะปาปา ยอห์นปอล ที่ 2 ทรงยืนยันว่า

"ชีวิตคริสตังทั้งชีวิตเป็นการจาริกยิ่งใหญ่ไปสู่บ้านพระบิดา พระผู้ทรงมีความรักอันไม่มีขอบเขตต่อมนุษยชาติ โดยเฉพาะต่อลูกล้างผลาญ (ลก. 15, 11-32) และเราทุกคนสามารถพบความรักของพระบิดาเช่นนี้ได้ทุกวันในชีวิตของเรา...และพระแม่มารีย์ พระมารดาของเราทรงเชื้อเชิญเราทุกคนอยู่ตลอดเวลาด้วยความรักและด้วยความเอาพระทัยใส่ให้เราลูกๆ ทุกคนกลับสู่บ้านพระบิดา และทรงสอนเราให้ฟังเสียงของพระอาจารย์ภายในใจของเราว่าจงทําทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งท่าน (ยน. 2, 5)"

2. การกลับสู่บ้านพระบิดาเป็นกระบวนการ

การกลับสู่บ้านพระบิดาได้รับการกําหนดไว้ให้เป็นขั้นตอนไป มันจึงเป็นกระบวนการที่เริ่มจากพระแม่มารีย์ทรงนําเราด้วยรักและเอาใจใส่ไปสู่องค์พระบุตร จากนั้นองค์พระเยซูทรงเมตตายกเราขึ้น ณ บนกางเขนของพระองค์นั้นเองถวายแด่องค์พระบิดา ส่วนองค์พระจิตเจ้า ทรงให้ความบรรเทาแก่เราตลอดทางเดินกลับบ้านของเรา องค์พระจิตทําให้เราบริสุทธิ์ ชําระเราให้สดใสสวยงามเพื่อให้พระบิดาเสด็จมาประทับอยู่ในตัวเราประดุจเป็นพระวิหารของพระองค์ ดังนี้ เราก็สามารถสวมสนิทในพระองค์พระบิดาเจ้าของเรา

เพื่อทําให้ขั้นตอนต่างๆ บรรลุล่วงไป เราต้องทําตรงข้ามกับบิดามารดาเดิมของเรา เพราะโดยการพูดว่า "ไม่" ต่อพระองค์ มนุษยชาติก็สูญเสียพระพรแห่งการสถิตย์อยู่ของพระเจ้า และถูกขับไล่ออกจากสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน เราต้องพูดว่า "ใช่" ต่อนํ้าพระทัยพระบิดาแห่งทุกขั้นตอน และ เสมอไป

3. เครื่องมือนําทางเราสู่บ้านพระบิดา

ในฐานะที่เป็นลูกของพระ เราได้รับเครื่องมืออันประเสริฐที่จะช่วยเรากลับสู่บ้านพระบิดา กระบวนการที่หนุนเนื่องตลอดเวลาที่ท่านนักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ต ได้บรรยายไว้ในหนังสือความลับของพระแม่มารีย์ว่า

"ถ้าเพียงแต่บรรดาที่จะหลงผิดไป และถูกชักนําเดินทางผิด ถ้าหากพวกเขาเพียงแต่ได้รู้จักเข้าหาพระแม่มารีย์ แม้ด้วยคําภาวนาวิงวอนก็ยังดี และโดยอาศัยพระนาง พวกเขาจะเข้าพบพระเยซู และโดยอาศัยพระเยซู พวกเขากลับคืนสู่อ้อมแขนของพระบิดา พวกเขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายเช่นนั้น"

"บรรดานักบุญสอนเราเสมอว่า เมื่อเราได้พบพระแม่มารีย์ โดยอาศัยพระนาง เราจะพบพระเยซูเจ้า และโดยอาศัยพระเยซูเจ้า เราจะพบพระบิดา ดังนี้ เราจะได้พบทุกสิ่งทุกอย่างที่ประเสริฐสุด"

"พวกเขาจะได้พบพระหรรษทานและความสัมพันธ์กับพระเจ้า พวกเขาจะได้ความคุ้มครองป้องกันภัยจากศัตรูทุกชนิด พวกเขาจะได้สัจจะสําหรับต่อสู้กับความเท็จทุกอย่าง พวกเขาจะได้พละกําลังยิ่งใหญ่เอาชนะความยากลำบากบนทางเดินสู่ความรอด พวกเขาจะได้รับความสะดวกสบายและความยินดีในท่ามกลางความทุกข์ยากของชีวิต"

การเดินทางของเราเป็นกระบวนการแท้จริงที่ทรงพลังที่พาเราไปโดยอาศัยพระแม่มารีย์ไปหาพระเยซูในความเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระจิต เพื่อกลับสู่บ้านพระบิดาเจ้า นี่แหละคือเหตุผลอันเดียวที่เรามีชีวิตอยู่ และถ้าเราออกไปนอกโลกและมองเข้ามายังประวัติศาสตร์แห่งความรอดของมนุษยชาติแล้ว เราจะมองเห็นชัดเจนว่ามนุษย์ได้รับการสร้างสรรค์มาเพื่อจุดหมายเดียวเท่านั้น คือ เดินทางกลับสู่พระผู้สร้างคือองค์พระบิดาเจ้า

4. พระแม่มารีย์ร่วมแผนการณ์การไถ่กู้กับองค์พระเยซูเจ้า

บทบาทยิ่งใหญ่พระแม่มารีย์ คือ โดยร่วมกับพระเยซูเจ้า นําเรากลับสู่บ้านพระบิดาและส่งเราคืนสู่อ้อมพระหัตถ์ของพระบิดา พระแม่มารีย์ทรงเป็นธิดาองค์แรกท่ามกลางบุตรธิดาของพระบิดาที่ได้ถวายคําว่า "ใช่" ( FIAT) แด่พระบิดาเจ้า พระนางจึงได้เป็นทางนําพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่เข้ามาสู่โลก พระแม่มารีย์เป็นผู้นําลูกๆของพระแม่ให้ตอบคําว่า "ใช่" แด่พระเจ้า โดยนัยความนี้ พระแม่ก็ "เหยียบหัว" ของเจ้างูร้ายที่ได้ล่อลวงมนุษยชาติให้ขัดขืนปฎิเสธพระเจ้าซึ่งเป็นเหตุให้มนุษย์ตกตํ่าสู่แดนเนรเทศ (ปฐมกาล. 3, 15)

โดยอาศัยพระแม่มารีย์ ลูกๆของพระเจ้า พระบิดา เหมือนในสมัยแรกครั้งกระโน้น จะกลับคืนสู่ที่อาศัยกับพระองค์ในสวนสวรรค์แห่งนํ้าพระทัยของพระองค์อีกครั้ง พระแม่มารีย์ทรงเป็นพระมารดาของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง ทรงร่วมแผนการณ์ความรอดกับพระเจ้าสําหรับการไถ่บาปของเรา ทรงนําเราเข้าคืนดีกับพระบิดาและรวมเราสนิทกับพระบิดาเสียใหม่ และทรงเป็นผู้ช่วยเหลือเราในการเสนอวิงวอนต่อพระบิดาเพื่อลูกๆของพระองค์ทุกคน

เหมือนกับพระมารดาของพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสคําว่า "ใช่" ต่อพระบิดาเจ้าสวรรค์ โดยคําคําเดียวนี้ พระเยซูเจ้าถวายบูชาพระองค์เองสําหรับเราแต่ละคนทุกๆคน พระมหาทรมานของพระองค์ ความตาย และการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ทําลายบาป และความตาย ซึ่งเป็นผลมาจากนํ้าใจอิสระของอาดัมและเอวาที่ได้เปล่งคําว่า "ไม่" ต่อนํ้าพระทัยพระบิดาของเรา

ดังนี้ จึงโดยอาศัยคําว่า "ใช่" ของพระเยซูและของพระมารดามารีย์ เราลูกๆก็ไม่ต้องถูกเนรเทศอีกต่อไป พระเยซูเจ้าทรงเป็น หนทาง สัจจะ และชีวิต ทั้งพระเยซูเจ้า ทั้งพระแม่มารีย์ ทั้งสองพระองค์ต่างก็รอคอยด้วยความกระวนกระวายที่จะถึงเวลานําเรากลับบ้านพระบิดาเจ้า พระองค์ทั้งสองกําลังรอคําว่า "ใช่" จากเรา

เมื่อพระองค์ทั้งสองได้เปล่งคําว่า "ใช่" แล้ว พระบิดาก็ทรงส่งพระจิตเจ้าตามที่พระเยซูเจ้าได้ทรงขอไว้ เพื่อช่วยเราไม่ให้เป็นกําพร้าอีกต่อไป พระจิตเจ้าทรงบรรเทา ทรงนำทาง และทรงชําระเราให้บริสุทธิ์ บนทางเดินกลับสู่บ้านพระบิดา โดยอาศัยคําว่า "ใช่" ของเรา พระจิตเจ้าทรงเตรียมเราให้พร้อมและเหมาะสมที่จะเป็นวิหารของพระพระเจ้าผู้ทรงชีวิต

เมื่อพระเจ้าทรงชีวิตสถิตย์อยู่ในตัวเราอย่างแท้จริง เราลูกหลานของเอวาที่ต้องเนรเทศ เราที่เป็นลูกล้างผลาญ ที่สุดเราก็ได้กลับคืนดีกับพระบิดาเจ้า ณ ที่นี้เองดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์จึงได้รับชัยชนะ ณ เวลานั้นเองพระราชัยของพระบิดาเจ้าก็มาถึง!

5. ที่อันเหมาะสมของพระบิดาอยู่ที่ใด

"บุตรย่อมให้เกียรติแก่บิดาของตน และคนใช้ย่อมให้เกียรติแก่นายของตน ถ้าเช่นนั้น เราที่เป็นพระบิดา เกียรติของเราอยู่ที่ไหน? (มลค. 1, 6)

พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกเชื่อในพระเจ้าเดียวทรงมี 3 พระบุคคล พระบิดา พระบุตร และพระจิต ตั้งแต่เริ่มแรก พระศาสนจักรเน้นไปที่พระบุคคลที่สอง องค์พระเยซูเจ้า พระบุตรพระบิดาเจ้า และมีการรื้อฟื้นศรัทธาต่อพระบุคคลที่สาม องค์พระจิตเจ้า เมื่อกลางศตวรรษที่ 20 แม้จะมีน้ำหนักน้อยกว่ามาก...แล้วพระบิดาอยู่ที่ไหน?

จริงอยู่ที่สักการะบูชามิสซาถวายแด่พระเจ้าพระบิดา และบทข้าแต่พระบิดาในมิสซาก็สวดถึงพระองค์ แต่ถามว่า เรารู้จักพระบิดาไหม? หรือเราเชื่อว่าพระเยซูเสด็จมาบังเกิดฐานะทรงเป็นพระเจ้าอวตาร แล้วเราไม่จำเป็นต้องรู้จัก รัก รับใช้ และถวายเกียรติแด่พระบิดาอีก? เราคิดว่าพระเยซูเจ้าแทนที่พระบิดาได้หรือ? หรือเรารู้สึกว่าพระบิดาขึ้นอยู่กับพระธรรมเก่าเท่านั้น และพระเยซูทรงเข้าแทนที่ในพระธรรมใหม่ เราเรียนรู้จักพระบิดาว่าทรงเป็นลักษณะโบราณ ลึกลับ ดุ ชรา และไม่น่าเข้าหาหรือ? เรารู้จักพระองค์จริงหรือ? เรารักพระองค์ไหม? เรารับใช้พระองค์หรือเปล่า? และเราถวายเกียรติอันสมควรแก่พระองค์หรือไม่? คําตอบที่ได้จากคริสตังส่วนใหญ่ย่อมชี้ให้เห็นว่า มีบางอย่างที่สำคัญขาดไปจากการรับรู้และความสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้าสวรรค์

ลองตรองดูสักหน่อยว่า เราเคยเห็นรูปหรือภาพวาดพระบิดาในวัดคาทอลิกของเราไหม? เคยมีวัดไหนที่ถวายแด่นามชื่อพระบิดาบ้าง? พระศาสนจักรคาทอลิกกําหนดวันสมโภชพระบิดาหรือไม่?

คําตอบที่น่าเศร้าที่สุดคือ "ไม่"
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อาทิตย์ ต.ค. 15, 2023 11:53 am

โพสต์ อันดับสอง ของ แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา


6. ฉลองอัฐมวารถวายเกียรติแด่พระบิดา

ทําไมเราไม่ถวายเกียรติแด่พระบิดาพระผู้สร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการทําวันฉลองพระบิดา? นี่เป็นข้อถกเถียงที่ยังไม่สิ้นสุดและเป็นการไขแสดงที่รบกวนจิตใจ แต่มันเป็นอะไรที่แก้ไขได้อย่างง่ายดาย

ในฐานะที่เราเป็นลูกของพระบิดา เราสามารถที่จะจัดการตั้งวันฉลองพระบิดาขึ้นได้ เพราะเวลามาถึงแล้วที่เราจะรู้จัก รัก รับใช้และถวายเกียรติแด่พระบิดาด้วยการฉลองการถวายตัว ซึ่งเป็นการฉลองที่ให้โอกาสแก่เราที่จะถวายคําว่า "ใช่" แด่พระองค์

พันธสัญญาเดิมได้มอบรูปแบบแก่เราแล้วเพื่อจัดงานฉลองดังกล่าว เช่นงานฉลองพลับพลา (Feast of Tabernacle) และงานฉลองการถวายตน ( Feast of Dedication) (ลนต. 23, 33 - 43/ครน. 7, 1- 9/ 1 มคบ. 4, 59/ 2 มคบ. 2, 1 - 18) งานฉลองทั้งสองโอกาสประกอบด้วยการเตรียมตัว 7 วัน และทําการฉลองในวันที่แปดด้วยการชุมนุมภาวนา การเสนอการจัดงานฉลองเช่นนี้เกิดขึ้นเพื่อให้เรามีส่วนในการถวายเกียรติและในการถวายตนแด่พระบิดาตลอดวัน 8 วันเรียกว่า ฉลองอัฐมวาร ดังนี้ เราก็ได้มาซึ่งการทําอัฐมวารการฉลอง 8 วัน อย่างสง่าเพื่อการถวายตนแด่พระบิดา เป็นงานฉลองพระบิดาแห่งมวลมนุษยชาติ

การฉลอง 8 วัน แห่งการถวายตนแด่พระบิดาเจ้าเป็นงานฉลองพระบิดานี้ทําให้ความหมายของการฉลองพลับพลา และ การฉลองการถวายสมบูรณ์ไปในงานฉลองเดียวกัน คือ การรู้จัก การรัก การรับใช้ และการถวายเกียรติแด่พระเจ้าพระบิดาของเราด้วยการฉลองพระบิดานี้ พระเจ้าไม่เพียงแต่ประทับอยู่ในหีบพันธสัญญา ในโบสถ์ หรือในตู้ศีลเท่านั้น แต่พระองค์จะทรงอยู่ในใจของทุกคนที่ได้รับการชําระและถวายตนแด่พระองค์

7. งานฉลอง 8 วัน แห่งการถวายตนแด่พระบิดาคืออะไร

ความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของงานฉลองสําหรับยุคของเรา คือ มันเปิดโอกาสให้เรา

1. ถวายเกียรติแด่พระบิดา
2. ถวายคําว่า "ใช่" ของเราแต่ละคนแด่พระองค์
3. ถวายตนของเราแต่ละคนแด่พระองค์

ด้วยวิธีนี้ เรากําลังร่วมมือกับพระแม่มารีย์ในการมีชัยชนะของดวงหทัยนิรมลของพระนาง เรากําลังกลับไปหาพระบิดาของเรา เรากำลังถวายคําว่า "ใช่" ของเราแด่พระองค์โดยไม่มีเงื่อนไข เหมือนกับที่พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ได้ทรงกระทํา และเรากําลังถวายมอบตนทั้งครบแด่พระบิดา ดังที่พระองค์สมควรได้รับ ในที่สุด เราก็รู้จัก รัก รับใช้ และถวายเกียรติแด่พระองค์ พระบิดาของมวลมนุษยชาติ

8. การถวายตัวเราแด่พระบิดา

เราพบเหตุการณ์นําที่บังคับให้เราถวายตัวแด่พระบิดาด้วยการฉลอง 8 วัน ในพระวรสารในยอห์น 10, 22 - 39 พระวรสารตอนนี้บรรยายเรื่องพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในใจถวายตัว ( Dedication) และทรงแสดงพระองค์ว่า พระองค์ทรงถวายตัวแด่พระบิดา

พระเยซูเจ้าตรัสอธิบายว่าเมื่อพระองค์ทรงถวายตัวแด่พระบิดา เราก็เช่นกันสามารถถวายตัวได้ด้วยสัจจะ (ยน. 17, 19 - 21) ความคิดในการถวายตัวแด่พระบิดาเป็นปัญหาหลัก เพราะพระเยซูเจ้าตรัสว่า

"เวลากําลังมาถึง และมาถึงแล้วขณะนี้ เมื่อผู้นมัสการจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตใจและด้วยสัจจะ การนมัสการเช่นนี้แหละที่พระบิดาทรงแสวงหาเพื่อให้มานมัสการพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นจิต คนเหล่านั้นที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตใจและด้วยสัจจะ (ยน. 4, 23 - 24)"

ถ้าเราติดตามพระเยซูเจ้า ถ้าเราประพฤติตามแบบอย่างพระเยซูเจ้า เราด้วยจะไม่ถวายตัวแด่พระบิดาเจ้าหรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการฉลอง 8 วัน แห่งการถวายตัว เพื่อเราทุกคนด้วยจะได้นมัสการพระบิดาด้วยจิตและด้วยสัจจะ

9. การถวายตัวนี้จะทําอย่างไร

การฉลอง 8 วัน หรืออัฐมวารแห่งการถวายตัวมีความหมายสําคัญเพราะแสดงถึงความสัมพันธ์กับพระเจ้าตั้งแต่เริ่มประวัติศาสตร์แห่งความรอด มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พระเยซูเจ้าเลือกที่จะเผยแสดงการถวายตัวของพระองค์แด่พระบิดาในงานฉลอง 8 วัน แห่งการถวายตัว ( Feast of Dedication) เป็นที่ชัดเจนว่าเลข 8 เป็นสัญลักษณ์ถึงระยะเวลาที่ลูกๆของพระเจ้าเติบโต และความสัมพันธ์ของพระองค์กับพวกเขาเปลี่ยนไป หรือเปลี่ยนกลับคืนมาใหม่

ไม่เหมือนกับงานฉลองอื่นๆ และไม่เหมือนกับการถวายตัวอื่นๆ การฉลอง 8 วัน แห่งการถวายตัวแด่พระบิดามีภาพประวัติศาสตร์แห่งความรอดอยู่ต่อหน้าครอบคลุมชีวิตและการเดินทางของชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราทั้งหมด โดยรวมเอาพระแม่มารีย์ พระเยซูเจ้า พระผู้ไถ่ พระจิตเจ้าผู้ทําให้ศักดิ์สิทธิ์เข้าร่วมด้วยในการเดินทาง โดยมีทิศทางก้าวหน้าไปหาพระบิดาเจ้าของเรา

พระวาจาทั้งพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ หนุนความคิดของการฉลอง 8 วัน ด้วยแบบหลากหลายที่เป็นเลข 8 จากหนังสือปฐมกาลถึงหนังสือพระวรสาร เลข 8 ถูกใช้สําหรับหมายถึงความรอด พันธสัญญา การชําระ และการถวายตัว บางที่ที่สำคัญกว่าอีก เลข 8 แสดงถึงการสิ้นสุดของแต่ละยุคแล้วเริ่มต้นยุคใหม่ ซึ่งในแต่ละยุคพระเจ้าทรงพอพระทัยไขแสดง แสดงพระองค์ และประทับอยู่กับลูกๆของพระองค์ด้วยวิธีการใหม่ๆอยู่เสมอ

การฉลองอัฐมวารแห่งการถวายตัวในรูปแบบที่ทรงอานุภาพเช่นนี้ มุ่งสู่การฉลอง 8 วัน ที่จบลงด้วยวันอาทิตย์แรกของเดือนที่ 8 (สิงหาคม) การฉลองทั้งหมดควรได้รับการฉลองภายใต้ชื่อว่า วันฉลองพระบิดาเจ้าของมวลมนุษยชาติ

การถวายตัวโดยใช้รูปแบบของ 8 วันนี้สามารถทําได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องมีพิธีใดๆ

1. ร่วมมิสซาตลอด 8 วัน
2. แก้บาปวันใดวันหนึ่งก็ได้ใน 8 วัน
3. รับศีลด้วยวิญญาณบริสุทธิ์และใจสะอาด
4. สวดบทถวายตัวตามแบบบทสวดเฉพาะทั้งหมดสําหรับถวายตัวแด่พระบิดาเจ้า

ภาวนา

พระบิดาสวรรค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นความหวังชื่นใจแก่วิญญาณของลูก ขอให้พระองค์เป็นที่รู้จัก ขอให้มนุษยชาติรักและถวายเกียรติแด่พระองค์!

พระบิดาสวรรค์เจ้าข้า พระทัยดีล้นเหลือของพระองค์แผ่คลุมมวลประชาทั้งโลก ขอให้พระองค์เป็นที่รู้จัก ขอให้มนุษยชาติรักและถวายเกียรติแด่พระองค์!

พระบิดาสวรรค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นนํ้าค้างที่พระทัยดีแก่มวลมนุษย์ ขอให้พระองค์เป็นที่รู้จัก ขอให้มนุษยชาติรักและถวายเกียรติแด่พระองค์

______________________


บทภาวนาวิงวอนขอการเสด็จมาประทับขององค์พระบิดาและถวายตัว

ข้าแต่พระบิดาที่สุดรัก พระผู้สร้างและพระเจ้าของลูก พระองค์ทรงสัญญาว่า ในทุกหนทุกแห่งที่ลูกถวายพระเกียรติพระนามของพระองค์ พระองค์จะเสด็จมาเพื่ออวยพรลูกๆของพระองค์

โอ้พระบิดาเจ้า โปรดลุกขึ้นเถิด และเสด็จมาประทับอยู่กับลูกๆของพระองค์ โปรดสวมลูกด้วยเสื้อคลุมแห่งความรอด ให้ลูกได้ชื่นชมยินดีในความดีมากมายของพระองค์ โปรดอย่าหันหน้าลูกไปจากพระพักตร์ที่น่ารักของพระองค์เลยพระเจ้าข้า

หากลูกเป็นที่พอพระทัยพระองค์แล้ว โปรดแสดงพระพักตร์ของพระองค์แก่ลูกเถิด ขอให้ลูกรู้จักพระองค์และเป็นที่พอพระทัยเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ โปรดตรัสกับลูกเหมือนที่ได้ทรงตรัสกับมหาบุรุษโมเสสให้เหมือนที่คนเราพูดจากัน

ขอให้ยุคสมัยของเรารู้ว่า พระองค์คือพระบิดาของมวลมนุษยชาติ ผู้ทรงสามารถหันจิตใจของทุกหัวใจกลับมาหาพระองค์ โปรดให้เราลูกๆรู้ว่าเราเป็นลูกๆของพระองค์และปรารถนาจะทำตามนํ้าพระทัยของพระองค์ในทุกสิ่ง โปรดขานตอบลูกเถิด โปรดตรัสตอบเถิด เพื่อให้ลูกๆของพระองค์รู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้และพระบิดาของมวลมนุษยชาติ

เราต้องการกลับบ้านมาหาพระองค์ เหมือนที่ลูกล้างผลาญได้กลับสู่บ้านบิดาของตน พระบิดาเจ้าข้า โปรดวิ่งมาหาลูกเถิด โปรดโอบอุ้มลูกไว้และจูบลูกด้วยความรักเมตตาอันไม่มีเงื่อนไขของพระองค์เถิด พระเจ้าข้า

เช่นเดียวกับพระแม่มารีย์ พระธิดาของพระองค์ และพระเยซูเจ้าพระบุตรของพระองค์ ลูกรักพระองค์พระบิดาเจ้าข้า และลูกถวายตัวลูกแด่พระองค์ โดยติดตามผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์ทรงส่งมานําลูกกลับบ้านมาหาพระองค์ บัดนี้ลูกขอทําการถวายตัวเต็มไปด้วยนํ้าใจอิสระของลูกว่า

"พร้อมกับพระแม่มารีย์ ลูกน้อมกราบทูลว่า จงเป็นไปกับลูกตามพระประสงค์ของพระองค์เทอญ"

"พร้อมกับพระเยซูพระผู้ไถ่ ลูกยืนยันกับพระองค์ว่า ขออย่าเป็นไปตามใจลูก แต่ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์เทอญ"

"พร้อมกับพระจิตเจ้าพระผู้ทําให้ลูกศักดิ์สิทธิ์ ลูกร้องว่า อับบา พระบิดา"

ดังที่พระเยซูเจ้าทรงสัญญาว่า เมื่อมี 2 หรือ 3 คน อยู่ด้วยกันในนามของพระองค์ พระองค์อยู่ประทับท่ามกลางพวกเขา และเพราะว่าพระเยซูสถิตในพระองค์พระบิดา และพระองค์พระบิดาสถิตในองค์พระเยซู พระเยซูนั้นเองทรงเป็นต้นองุ่นและพวกลูกเป็นกิ่งก้าน พระบิดาเจ้าข้า โปรดสถิตอยู่กับลูกเถิด และโดยอาศัยพระจิตเจ้าโปรดประทับอยู่ในตัวลูกตลอดไปประดุจวิหารของพระองค์เถิด

โปรดอวยพรลูก พระบิดาเจ้าข้าโปรดทรงพระดำเนินท่ามกลางลูกๆของพระองค์ ขอให้พระสิริของพระองค์ประทับลงมาบนตัวลูกประดุจไฟแห่งความรักเมตตาเปลี่ยนแปลงตัวลูก บัดนี้และตลอดไป อาแมน
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

จันทร์ ต.ค. 16, 2023 1:05 pm

โพสต์อันดับสาม ของ แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา

ภาคที่สอง

สายประคํา 8 เม็ด ถวายตัวแด่พระบิดา

เดชะพระนาม

กางเขน - พระบิดาเจ้าสวรรค์ที่สุดรัก ลูกถ่อมตัวลงกราบวิงวอนขอพระองค์บนทางเดินกลับบ้านมาหาพระองค์นี้ ขอให้บรรดาเทพสวรรค์มาปกป้องคุ้มครองและนําทาง ขอให้บรรดานักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ในสวรรค์เสนอวิงวอน ขอให้บรรดาวิญญาณในไฟชําระสวดภาวนาให้ลูกเหมือนที่ลูกกําลังสวดให้พวกเขาอยู่บัดนี้ อาแมน

(3 เม็ดแรก)

เม็ดที่หนึ่ง - วันทามารีย์

เม็ดที่สอง - ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระเจ้าและพระมหาไถ่ของลูก พระองค์ทรงรักลูกมาก พระองค์ตายบนไม้กางเขนเพื่อลูก เพื่อใหัลูกสามารถเดินทางกลับบ้านไปหาพระบิดา พระองค์ทรงเป็นหนทาง สัจจะ และชีวิต โดยอาศัยศีลมหาสนิทกับพระองค์ โปรดหนุน ค้ำจุน และสถิตย์อยู่กับลูกตลอดทางเดินกลับบ้านนี้ด้วยเถิด อาแมน

เม็ดที่สาม - ข้าแต่พระจิตเจ้า พระเจ้าและพระผู้ทําให้ศักดิ์สิทธิ์ของลูก พระเยซูเจ้าส่งพระองค์มาให้ลูก สําหรับการเดินทางกลับบ้านไปหาพระบิดา ขอโปรดทรงชําระลูกให้สะอาดบริสุทธิ์ โปรดทําให้ลูกสวยงามละเอียดอ่อน โปรดประทานแสงสว่างแห่งสวรรค์ โปรดจุดไฟแห่งความรัก เพื่อให้การปรากฎของพระเจ้าประทับอยู่ในตัวลูก อาแมน

ข้อรําพึงข้อที่หนึ่ง

การขัดคําสั่งและการเนรเทศของลูกๆของพระบิดาเจ้าสวรรค์

ให้เรารําพึงตามหัวข้อต่อไปนี้

1. ทางเลือกของอาดัมเอวาที่จะไม่ทําตามนํ้าพระทัยของพระบิดาเจ้า

2. อาดัมเอวาถูกเนรเทศออกจากสวนสวรรค์แผ่นดินที่พระบิดาทรงสร้างไว้ให้

3. พระบิดาทรงสัญญาว่า "สตรีที่จะเหยียบหัวงู" ที่ได้ล่อลวงอาดัมและเอวาให้ขัดคําสั่งของพระบิดา

พระบิดาทรงอยู่กับเรามนุษย์ตั้งแต่แรกในสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน ที่ทรงสร้างให้เรา - สวนสวรรค์นั้นคือ สวนสวรรค์แห่งนํ้าพระทัยของพระองค์ เมื่อถูกปีศาจซาตานล่อลวง อาดัมและเอวาเลือกทางที่จะไม่ทําตามนํ้าพระทัยของพระบิดา โดยการกระทำเช่นนี้ ท่านทั้งสองก็ปฎิเสธการสนิทสนมกับพระบิดาเจ้า ดังนั้น ท่านทั้งสองจึงต้องเนรเทศออกจากสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน

อย่างไรก็ตาม พระบิดาของเราทรงสัญญาว่า "สตรี" จะได้ชนะต่อความชั่วบาปที่ทําให้เกิดรอยแยกขาดจากพระบิดาเพราะบาปที่ได้พูด "ไม่" ต่อนํ้าพระทัยของพระบิดานั่นเอง

เม็ดใหญ่ - ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย

เม็ดเล็ก - 1. ลูกถวายสรรเสริญแด่พระบิดา
(8 เม็ด) (รับ) ลูกรักพระบิดา และถวายตัวลูกแด่พระบิดาพระเจ้า
2. ลูกถวายขอบพระคุณพระบิดา
3. ลูกถวายสิ่งสร้างทั้งมวลแด่พระบิดา
4. ลูกถวายการเป็นทุกข์กลับใจแด่พระบิดา
5. ลูกรับมรดกเป็นทายาทของพระบิดา
6. ลูกถวายคําตอบรับ "ใช่" แด่พระบิดา
7. ลูกถวายความจงรักภักดีแด่พระบิดา
8. ลูกถวายตัวทั้งสิ้นแด่พระบิดา

ข้อรําพึงข้อที่สอง

การประทับอยู่ของพระบิดา ตลอดยุคสมัยพระคัมภีร์เก่า

ให้เรารําพึงถึงการประทับอยู่ของพระบิดาตลอดยุคสมัยพระธรรมเก่า

แม้ลูกๆของพระบิดาจะถูกเนรเทศออกจากสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน เพราะทางเลือกเดินตามอําเภอใจไม่ทําตามนํ้าพระทัยของพระบิดาแล้วก็ตาม แต่พระบิดาก็ไม่เคยทอดทิ้งพวกเขาเลย พระองค์ทรงอยู่กับพวกเขาตลอดเวลาตั้งแต่แรกเริ่ม พระองค์ได้แสดงให้พวกเขารู้ว่าพระองค์ประทับอยู่กับพวกเขาโดยเสียงของพระองค์เอง ในพุ่มไม้ลุกโชติช่วงเป็นไฟ ในเสาเมฆที่ส่องแสงกลางคืน ในหีบพระบัญญัติและโดยเสียงประกาศก

หลังจากที่พระบิดาทรงช่วยลูกๆของพระองค์พ้นจากการเป็นทาสของชาวอียิปต์แล้ว พระองค์ทรงขอให้พวกเขาทําการฉลองอยู่พลับพลา ( Feast of Tabernacles) เป็นเวลาตลอด 8 วัน ทุกๆปี เพราะพระองค์ต้องการให้พวกเขาระลึกอยู่เสมอว่า 1) พระองค์ทรงรักพวกเขา 2) พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้รอด และ 3) พระองค์ทรงประทับอยู่กับพวกเขา

หลังจากนั้นพระองค์ทรงประทับท่ามกลางพวกเขาในหีบพันธสัญญาซึ่งกษัตริย์โซโลมอนได้สร้างพระวิหารให้เป็นที่ประทับของหีบพันธสัญญานั้นแล้วพระองค์ก็จัดงานฉลอง 8 วัน เป็นการถวายแด่พระบิดา ( Feast of Dedication ) การฉลองนี้กษัตริย์โซโลมอนจัดขึ้นเพื่อเตรียมประชาชนสําหรับการเสด็จมาประทับอยู่ของพระบิดาในพระวิหารที่ทรงสร้างนั้น และพระบิดาทรงตอบสนองโดยทรงแสดงพระมหิทธานุภาพยิ่งใหญ่ให้ประชาชนได้เห็นและได้รับรู้สึก ในปลายยุคของพันธสัญญาเก่า พี่น้องตระกูลแม็คคาบีส์ได้รื้อฟื้นการฉลอง 8 วันนี้ เพื่อชําระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ถูกทําลายและทําอนาจารจากนํ้ามือของชนต่างศาสนา เพื่อวิงวอนขอให้พระบิดาทรงมาประทับอยู่กับพวกเขาอีกครั้ง

ลนต. 8, 33-36, 9, 1-24; 23, 33 - 43
2 พศว. 7, 1-9
2 มคบ. 2, 1-12

ข้อรําพึงข้อที่สาม

คํา "ใช่" จากพระโอษฐ์ของพระแม่มารีย์พระมารดาของเรา

ข้อรําพึงข้อที่สาม

ให้เรารําพึงถึงชัยชนะของพระแม่มารีย์ที่ได้ตรัสคําว่า "ใช่" ต่อนํ้าพระทัยพระบิดาเจ้าและให้เรารําพึงข้อความจริงที่พระแม่ได้กลายเป็น "หีบพันธสัญญาใหม่" หีบพันธสัญญาทรงชีวิตเพื่อการประทับอยู่แบบใหม่ด้วยคือองค์พระเยซูพระบุตรพระบุคคลที่สองในพระตรีเอกภาพ ทรงเป็นพระมหาไถ่ของเราพระมหาไถ่ของลูกๆของพระบิดา

พระแม่มารีย์ตรัสคํายอมรับนํ้าพระทัยพระบิดาว่า "ค่ะ" เมื่อฑูตสวรรค์กาเบรียลมาหาเธอและขอให้เธอเป็นมารดาของพระบุตรพระเจ้า เวลานั้น พระจิตเจ้าเสด็จประทับเหนือเธอ และพระฤทธานุภาพของพระเจ้าทรงปกคลุมเธอไว้

เมื่อพระแม่ตรัสคําว่า "ค่ะ" ต่อนํ้าพระทัยพระบิดานั้น พระแม่ "สตรีที่ทรงสัญญา" ได้ยอมให้พระบิดามาประทับอยู่กับลูกๆในรูปแบบใหม่ พระแม่มารีย์กลายเป็น "หีบพันธสัญญาใหม่" หีบพันธสัญญาทรงชีวิตขององค์พระเยซูพระบุคคลที่สองในพระตรีเอกภาพ พระผู้ไถ่ของมวลมนุษยชาติ ผู้ทรงโดยอาศัยพระแม่มารีย์ จะเสด็จมาฟื้นฟูลูกๆของพระบิดาที่ต้องเนรเทศให้กลับคืนสู่พระบิดาเสียใหม่ (ลก. 1, 26-35)

ข้อรําพึงที่สี่

พระเยซูพระผู้ไถ่ พระบุตรพระเจ้า พระบุคคลที่สองในพระตรีเอกภาพทรงนอบน้อมตรัสคําว่า "ใช่" ต่อพระบิดาเจ้า

ให้เรารําพึงคําตอบรับ "ใช่" ของพระเยซู คําน้อมรับของพระองค์ต่อนํ้าพระทัยของพระบิดาเจ้า และให้เรารําพึงข้อความจริงที่พระบิดาทรงส่งพระเยซูมาไถ่บาปเรา และนําพาเรากลับบ้านพระบิดา

พระเยซูได้ถวายคําตอบรับ "ใช่" แด่พระบิดาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างมหาทรมานของพระองค์ในสวนเกทเสมานี "พระบิดาเจ้าข้า หากเป็นไปได้ ขอให้ถ้วยกาลิกซ์นี้ผ่านพ้นข้าพเจ้าไป แต่...ไม่ใช่ที่ข้าพเจ้าปราถนา แต่ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์" (มธ. 26, 39)

โดยอาศัยพระมหาทรมาน ความตายและการกลับคืนพระชนม์ชีพ พระเยซูเจ้าได้ทรงไถ่บาปเรา ทรงชนะบาปแห่งการปฎิเสธนํ้าพระทัยพระบิดา ทรงชนะความตายแห่งการเนรเทศและแยกตัวจากพระบิดา ซึ่งซาตานได้นํามาสู่โลกของพระองค์ บัดนี้เราสามารถที่จะคืนกลับสู่พระบิดาเจ้า และดังนี้จะได้รับชีวิตนิรันดร

ข้อรําพึงข้อที่ห้า

ทรงส่งพระจิตเจ้า พระผู้ทําให้ศักดิ์สิทธิ์ พระจิตของพระเจ้า พระบุคคลที่สามในพระตรีเอกภาพ

ให้เรารําพึงข้อความจริงที่พระเยซูเจ้า เมื่อพระองค์ได้ประกอบพระภารกิจตามพระประสงค์ของพระบิดาแล้ว ได้ทรงวิงวอนพระองค์ให้ทรงส่งพระจิตเจ้าเป็นการปรากฏองค์ของพระบิดาอีกรูปแบบหนึ่ง คือพระบุคคลที่สามในพระตรีเอกภาพ

พระบิดาทรงส่งพระจิตเจ้ามาเพื่อนำเราบนทางเดินกลับสู่พระบิดาเจ้าเพื่อชําระเราให้บริสุทธิ์ และทําให้เราสวยงาม เพื่อเราจะได้กลับเป็นหีบพันธสัญญาทรงชีวิตของการประทับอยู่ภายในของพระบิดา

ก่อนที่พระเยซูเจ้าจะเสด็จสู่สวรรค์กลับไปหาพระบิดาเจ้า พระองค์ได้ทรงสัญญาว่าจะไม่ทรงปล่อยทิ้งเราให้เป็นกําพร้า พระองค์จึงได้ทรงขอต่อพระบิดาใหัทรงส่งพระจิตเจ้ามา โดยการกระทำเช่นนี้ พระบิดาทรงสามารถที่จะอยู่กับเราด้วยวิธีใหม่อีก
ทําใหัพระองค์ไม่เพียงอยู่กับเราเช่นในแบบพระธรรมเก่า แต่ทรงสถิตอยู่ภายในเรา (ยน. 14, 16-17)

ข้อรําพึงข้อที่หก

ทางเลือกตัดสินใจของเราลูกล้างผลาญที่จะกลับสู่บ้านพระบิดา

ให้เรารําพึงข้อความจริงที่ว่า เราทุกคนล้วนเป็นลูกล้างผลาญของพระบิดาเจ้า และพระองค์ทรงเมตตาประทานโอกาสให้เราแต่ละคนสามารถเลือกทางเดินตัดสินใจที่จะกลับไปหาพระองค์

ในฐานะที่เป็นลูกล้างผลาญของพระบิดา เราทุกคนได้รับโอกาสทั้งโดยส่วนตัวและโดยส่วนรวม ให้ทําการตัดสินด้วยอิสระอําเภอใจที่จะกลับสู่บ้านพระบิดา การกระทำนี้หมายถึงการหันใจของเราออกจากบาป ทางโลกีย์ และกลับใจหันเข้าสู่การประทับอยู่ของพระบิดา ( ลก. 15, 11-24)
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อังคาร ต.ค. 17, 2023 12:30 pm

โพสต์อันดับสี่ ของ แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา

ข้อรําพึงข้อที่เจ็ด
การตอบรับ "ใช่" ของลูกๆของพระบิดาเจ้า ทั้งในส่วนตัวทั้งในส่วนรวมในฐานะพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า
ให้เรารําพึงข้อความจริงที่ว่า ในการถวายตัวเราแด่พระบิดา และตอบรับ "ใช่" อย่างไม่มีเงื่อนไขต่อพระบิดา เราพบหนทางกลับบ้านไปหาพระองค์ และเรากลายเป็นหีบพันธสัญญาทรงชีวิตของการประทับอยู่ภายในของพระเจ้า ในการตอบรับ "ใช่" ต่อพระบิดา ในการยอมรับทําตามนํ้าพระทัยของพระองค์ในทุกสิ่ง และในการมอบตัวทั้งครบแด่พระองค์ พระบิดาทรงเสด็จมาประทับอยู่ภายในตัวเรา และเราพักอาศัยอยู่ในพระองค์ เรากลับเป็นบ้านร่วมกับพระบิดาของเรา เรากลับเป็นบ้านของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต (2 คร. 6, 16) ในแง่หนึ่ง สวรรค์และแผ่นดินเชื่อมโยงกัน ทําให้สําเร็จไปตามพระวาจา "พระอาณาจักรจงมาถึง พระประสงค์จงสำเร็จไปในแผ่นดินดังในสวรรค์" (มธ. 6, 10)

ข้อรําพึงข้อที่แปด
การมาถึงของเยรูซาเล็มใหม่ดุจเจ้าสาว ให้เรารําพึงถึงบทสรุปในที่สุดของประวัติศาสตร์แห่งความรอดของเราคือ เยรูซาเล็มใหม่ที่ทรงสัญญาไว้ในหนังสือพระวิวรณ์ ในเยรูซาเล็มใหม่ฟ้าและดินจะเปลี่ยนรูปไป มนุษยชาติจะถูกยกคืนถวายแด่พระบิดา และองค์พระเจ้าจะทรงแสดงการประทับอยู่ของพระองค์ให้ปรากฎ และพระองค์จะประทับอยู่กับลูกๆของพระองค์ตลอดไปในรูปใหม่

"ครั้นแล้ว ฉันได้เห็นฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่ เพราะว่าฟ้าเดิมแผ่นดินเดิมได้ผ่านไปแล้ว และไม่มีทะเลอีกต่อไป
แล้วฉันได้เห็นเยรูซาเล็มใหม่ นครศักดิ์สิทธิ์ลอยออกมาจากสวรรค์มาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวแต่งตัวประดับพร้อมสำหรับเจ้าบ่าว ฉันได้ยินเสียงจากพระบัลลังก์ตรัสว่า นี่แหละที่อาศัยของพระเจ้าทรงอยู่กับมนุษย์ พระองค์จะทรงพํานักอยู่กับพวกเขา พวกเขาจะเป็นประชากรของพระองค์ และพระเจ้าพระองค์เองจะทรงสถิตย์อยู่กับพวกเขา พระองค์จะทรงเช็ดนํ้าตาให้พวกเขา จะไม่มีความตายอีกต่อไป ทั้งจะไม่มีการคร่ำครวญหรือการร้องไห้ หรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เพราะว่าระเบียบเก่าๆของสิ่งต่างๆได้ผ่านพ้นไปแล้ว
และพระองค์ซึ่งประทับบนบัลลังก์ได้ตรัสว่า ดูเถิด เราทําทุกสิ่งขึ้นใหม่อีก จงเขียนลงไป เพราะคําเหล่านี้ทรงสัจจะและไว้ใจได้ แล้วพระองค์ตรัสกับฉันว่า สําเร็จสมบูรณ์แล้ว เราคืออัลฟาและโอเมกา จุดเริ่มต้นและจุดจบของทุกสิ่ง แก่ผู้กระหาย เราจะให้นํ้าจากธารน้ำพุทรงชีวิตโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างใด ผู้ที่ชนะ จะได้รับมรดกนี้ และเราจะเป็นพระของเขา และเขาจะเป็นลูกของเรา" (วว. 21, 1-17)

สวดจบสายแล้วให้สวดบทถวายตัว

บทถวายตัวแด่พระบิดา
พระบิดาที่สุดรักเจ้าข้า โปรดรับการถวายตัวของลูก ทั้งร่างกายทั้งจิตใจและวิญญาณของลูก
ลูกขอสรรเสริญพระองค์ เพราะสิ่งสร้างของพระองค์ งานของพระองค์และสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์
ลูกขอขอบพระคุณพระองค์ เพราะพระองค์ประทานชีวิตให้ลูก และสําหรับทุกอย่างที่พระองค์กระทําให้ลูก
ลูกขอถวายแด่พระองค์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ประทานให้ลูกด้วยพระทัยกว้างขวาง
ลูกขอขมาโทษด้วยสุดหัวใจ ที่ไม่ได้รู้จัก ที่ไม่ได้รัก ที่ไม่ได้รับใช้และที่ไม่ได้ถวายพระเกียรติอย่างที่ลูกสมควรต้องทํา
ลูกสวมกอดมรดกที่เป็นของลูก ในฐานะลูกของพระองค์ ทั้งความชื่นชมยินดีและความรับผิดชอบ
ลูกขอน้อมตอบรับ "ใช่" กับพระองค์ เพื่อลูกจะได้เป็นเครื่องมือของพระประสงค์ของพระองค์
ลูกปวารณาถวายความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระองค์ และลูกขอพระหรรษทานแห่งความมั่นคง และความเพียรทนในความเชื่อของลูก
ข้าแต่พระบิดาที่สุดรัก ที่สุดห่วงใยและที่สุดจะเมตตา ต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ ลูกประกาศด้วยสุดหัวใจความรักของลูกสําหรับพระองค์ ลูกถวายตัวลูก (และครอบครัวของลูก) และลูกทําการถวายบูชาอย่างสง่าตัวลูก (และครอบครัวของลูก) แด่พระองค์ บัดนี้และตลอดไป อาแมน!
ข้าแต่พระบิดาที่สุดรัก ในฐานะลูกของพระองค์ ลูกขอให้พระองค์ทรงส่งพระแม่มารีย์มานําทางลูกไปสู่พระเยซูเจ้า และลูกขอพระเยซูเจ้าทรงส่งพระจิตเจ้ามาให้ลูก เพื่อนำทางลูกพร้อมกันมาหาพระองค์
ลูกขอให้พระองค์สถิตย์อยู่กับลูกและอยู่ในตัวลูกให้ลูกเป็นวิหารทรงชีวิตที่จัดเตรียมไว้สําหรับพระองค์โดยพระแม่มารีย์ ยกถวายแด่พระองค์โดยพระเยซูเจ้า และชําระให้บริสุทธิ์ไปโดยองค์พระจิตเจ้า และขอให้ลูกอยู่กับพระองค์และอยู่ในพระองค์ตลอดไป
ลูกขอให้พระองค์ทรงอนุญาตให้ลูกในฐานะลูกของพระองค์ ได้เป็นเพื่อนแท้และเพื่อนสนิทของพระองค์ ขอให้ลูกรักพระองค์เหนือทุกสิ่ง และขอให้พระองค์เสด็จมาหาลูกเมื่อถึงเวลาลูกตาย เพื่อนำลูกกลับมาหาพระองค์เถิดพระเจ้าข้า
ลูกยังวิงวอนขอพระองค์พระบิดาเจ้าข้า สําหรับมวลมนุษยชาติ ลูกขอพระองค์ทรงเมตตาลูกๆ ของพระองค์ทุกคน ทั้งในอดีต ทั้งในปัจจุบัน และทั้งในอนาคต ขอพระองค์ทรงนำสันติสุขมาสู่โลก และขอพระองค์รวบรวมลูกๆของพระองค์ทุกคนมายังพระองค์เถิด ลูกขอให้พระอาณาจักรของพระองค์จงมาถึงและขอให้พระประสงค์ของพระองค์จงสําเร็จไปบนแผ่นดินดังในสวรรค์เทอญ อาแมน

บทเร้าวิงวอน
ก่อ) พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
รับ) พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ก่อ) พระคริสตเจ้าทรงเมตตาเทอญ
รับ) พระคริสตเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ก่อ) พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
รับ) พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ก่อ) พระคริสตเจ้าสดับฟังเทอญ
รับ) พระคริสตเจ้าสดับฟังเทอญ
ก่อ) พระบิดาเจ้าสวรรค์เจ้าข้า
รับ) ทรงเมตตาเทอญ
ก่อ) พระบุตร พระผู้ไถ่โลกเจ้าข้า
รับ) ทรงเมตตาเทอญ
ก่อ) พระจิต พระเจ้าศักด์สิทธิ์เจ้าข้า
รับ) ทรงเมตตาเทอญ
ก่อ) พระตรีเอกภาพพระเจ้าหนึ่งเดียวเจ้าข้า
รับ) ทรงเมตตาเทอญ
ก่อ) พระบิดาทรงประกาศิตว่า ทารกชายทุกคนต้องรับศีลตัด ณ วันที่แปด เป็นเครื่องหมายของพันธสัญญาทรงกระทำกับเรา
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงปรากฏพระองค์แก่โมเสสและแก่ลูกๆของพระองค์ หลังจากที่พวกเขาได้ทําการถวายบูชาแด่พระองค์ตลอดระยะเวลา 8 วัน
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงตั้งวันฉลองพลับพลาด้วยกําหนดเวลา 8 วัน เพื่อเตือนสํานึกบรรดาลูกๆของพระองค์ว่าพระองค์ทรงอยู่กับพวกเขา ทรงรักพวกเขา และทรงนําพวกเขาพ้นจากการเป็นทาสของประเทศอียิปต์
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงพอพระทัยรับการชําระจากลูกๆของพระองค์ ณ วันที่ 8 ของจารีตการชําระบริสุทธิ์
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงรับพระสิริมงคล เมื่อกษัตริย์ดาวิดบุตรคนที่ 8 ของมหาบุรุษเจสสี ได้ทรงนําหีบพันธสัญญาเข้าสู่เมืองดาวิดท่ามกลางเพลงสรรเสริญบทพิณคู่แปด
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงรับฟังเสียงคร่ำครวญขอขมาโทษจากกษัตริย์ดาวิดผู้ทรงเล่นบทพิณ 8 สาย
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงรับพระสิริมงคล เมื่อกษัตริย์โซโลมอนสร้างพระวิหารสําเร็จ ณ เดือนที่แปดของปี
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงทําให้พระวิหารเต็มไปด้วยพระสิริของพระองค์ และทรงเสด็จมาประทับอยู่กับลูกๆของพระองค์ ณ วันที่แปดของงานสมโภชถวายพระวิหารแด่พระองค์
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงประสงค์ให้การเข้าสู่พระที่ประทับของพระองค์ต้องผ่านบันได 8 ขั้น ตามที่ได้เห็นในนิมิตโดยประกาศกเอเสเคียล
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงรับพระสิริมงคลเมื่อบุตรแมคคาบีสได้ทําการชําระพระวิหารที่ได้ถูกอนาจารและทําลาย และได้ฉลองการถวายพระวิหารอีกครั้งหนึ่งด้วยการฉลอง 8 วัน
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงทําพันธสัญญากับลูกๆของพระองค์โดยผ่านทางพระเยซูพระบุตร ผู้ทรงรับศีลตัด ณ วันที่ 8
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงแสดงองค์พระเยซูให้ปรากฎพระองค์ด้วยการปรากฏพระวรกายรุ่งโรจน์บนเขาทาบอร์ 8 วัน หลังจากทรงเลี้ยงประชาชน
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงรับพระสิริมงคล ณ เฉลียงโซโลมอนในวันที่ 8 ของงานฉลองถวายพระวิหาร เมื่อพระเยซูเจ้าทรงประกาศว่า พระองค์เป็นของพระบิดา และทั้งสองพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงรับพระสิริมงคลเมื่อพระเยซูทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่ 8 ของอาทิตย์มหาทรมานเพื่อไถ่บาปของเรา
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ก่อ) พระบิดาทรงรับพระสิริมงคล เมื่อพระเยซูทรงแสดงพระบาดแผลที่พระหัตถ์ พระบาทและพระสีข้างแก่นักบุญโทมัส 8 วันหลังจากกลับคืนพระชนม์ชีพ
รับ) เมตตาเราเทอญ พระบิดาผู้น่ารักยิ่งพระเจ้าข้า
ให้เราภาวนา

ข้าแต่พระบิดาที่สุดรัก โปรดให้ลูกรู้จัก โปรดให้ลูกรัก โปรดให้ลูกถวายเกียรติแด่พระองค์ตลอดระยะเวลา 8 วัน เพื่อการชําระตัวและถวายตัว ดั่งที่ทรงพอพระทัยให้เป็นมาตลอด โปรดให้การฉลองการถวายตัวแด่พระบิดาตลอด 8 วัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันฉลอง วันที่ 8 ซึ่งเป็นวันฉลองพระบิดาแห่งมวลมนุษยชาติ บังเกิดผลดลบันดาลให้นําลูกๆของพระองค์กลับมาหาพระองค์เถิด
ขอให้เป็นไปตามคําภาวนานี้ โดยความรักของพระองค์ โดยความรักของพระเยซู พระเจ้าและพระผู้ไถ่ โดยความรักขององค์พระจิต พระเจ้าและพระผู้ทําให้ศักดิ์สิทธิ์ และโดยความรักของพระแม่มารีย์ พระมารดาของลูกเทอญ อาแมน
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

พุธ ต.ค. 18, 2023 12:06 pm

โพสต์อันดับห้า ของ แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา


บทภาวนาประจำวันแต่ละวันตลอด 8 วัน

สวดบทนี้เมื่อสวดแต่ละวันจนจบบทเร้าวิงวอนแล้ว

วันที่หนึ่ง

-สรรเสริญ-

"ข้าจะสรรเสริญพระเจ้าตราบเท่าที่ข้ามีชีวิตอยู่ ข้าจะร้องสรรเสริญแด่พระเจ้าของข้าตลอดเวลาที่ข้ามีความเป็นตัวตนอยู่" (สดด. 146,2)

สิริจงมีแด่พระองค์ พระบิดาของลูก

พระองค์ผู้ทรงสร้างสากลจักรวาลและทุกอย่างที่อยู่ในนั้น

พระองค์ผู้ทรงสร้างดาราจรัสจ้าและที่ลึกมืดมิดแห่งมหาสมุทร

พระองค์ผู้ทรงสร้างพายุดุเดือดและลมโชยอ่อนๆแห่งฤดูร้อน

พระองค์ผู้ทรงสร้างบรรดาเทพสวรรค์ เช่นเดียวกับบรรดาสัตว์ นก และ ปลาบนพิภพโลก

พระองค์ผู้ทรงสร้างลูกมาตามพระฉายาของพระองค์

ลูกสรรเสริญพระองค์พระบิดาของลูก บัดนี้และตลอดไป อาแมน

(จงรําพึงถึงสิ่งปรากฎการณ์อัศจรรย์ต่างๆ ที่พระบิดาได้ทรงสร้าง และสรรเสริญพระองค์ด้วยความคิดและคําพูดของท่าน)

วันนี่สอง

ขอบพระคุณ

"โอ้วิญญานข้าเอ๋ย จงสรรเสริญพระเจ้า และอย่าลืมการกระทำคุณทั้งหมดของพระองค์" (สดด. 103, 2)

ลูกขอบพระคุณพระองค์ พระบิดาสุดที่รักของลูก เพราะได้ทรงโปรดปรานลูก บันดาลลูกให้มาเกิดเป็นตัวตน

ลูกขอบพระคุณพระองค์สําหรับร่างกาย จิตใจ และวิญญาณที่พระองค์ได้ประดิษฐ์สร้างมาเป็นพิเศษให้ลูก

ลูกขอบพระคุณพระองค์ สําหรับบรรดาผู้คนและสภาพแวดล้อมในชีวิตของลูก

ลูกขอบพระคุณพระองค์ เพราะได้เปิดตาเปิดหู และเปิดหัวใจของลูก เพื่อให้ลูกเห็น ได้ยิน และได้รักพระองค์

ลูกขอบพระคุณพระองค์ เพราะได้จับมือลูกไว้ และนําทางลูกอยู่ทุกวันกลับบ้านมาหาพระองค์ ผ่านอันตรายและอุปสรรคทั้งปวงของชีวิต

ลูกขอบพระคุณพระองค์ ที่ทรงรักลูกเสมอมา อาแมน

(จงรําพึงถึงทุกสิ่งที่พระบิดาประทานให้ท่าน จงกล่าวขอบพระคุณพระองค์ด้วยคําพูดของท่านเอง)

วันที่สาม

การถวาย

"และดุจเดียวกับศิลาทรงชีวิต พวกสูเจ้าจงสร้างตัวเองให้เป็นตึกแห่งจิตเพื่อจะได้เป็นสมณะสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจะได้ถวายบูชาแห่งจิตที่สบพระทัยพระเจ้าโดยอาศัยพระเยซูคริสตเจ้า" (1ปต. 2, 5)

พระบิดาเจ้าข้า พระองค์ได้ประทานทุกสิ่งแก่ลูก

พระองค์ได้ประทานตัวพระองค์เองแก่ลูก
แล้วลูกจะถวายอะไรแด่พระองค์เป็นการตอบแทนเล่า?

ขอให้ลูกถวายแด่พระองค์ผลแรก ผลที่ดีที่สุด ของทุกสิ่งที่ลูกทําหรือได้ทํา

ขอให้ลูกๆทุกคนถวายตัวเองแด่พระองค์เป็นประดุจดั่งผลไม้งามของต้นไม้ทรงชีวิตของพระองค์ สุกหอมโดยอาศัยการพลีกรรม การทรมาน และกางเขนบนเส้นทางเดินของชีวิต

เพื่อว่า ผลลัพธ์ของการตอบปฎิเสธ "ไม่" ของลูกๆ ของพระองค์ทั้งโลก คือ ความมืดมน การแตกแยกและการไร้วินัย จะได้เปลี่ยนและกลับเป็นสิ่งใหม่ โดยอาศัยอานุภาพแห่งความรัก และแสงสว่างของพระองค์

ลูกชูมือขึ้นเป็นการถวายบูชาแด่พระองค์พระบิดาเจ้าโปรดรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ได้ประทานให้ลูกเข้าไปไว้ในดวงพระหฤทัยของพระบิดาเจ้าของลูกเทอญ อาแมน

(จงรําพึงว่าท่านสามารถถวายอะไรต่อพระบิดาเจ้า จงถวายคืนแด่พระองค์ทุกอย่างที่พระองค์ได้ประทานให้ท่าน รวมทั้งพระพร กางเขน เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้นได้รับการชูขึ้นใหม่ด้วยความรักของพระองค์)

วันที่สี่

การสํานึกผิด

"ขอสรรเสริญพระเจ้าพระบิดาขององค์พระเยซูเจ้า พระบิดาแห่งพระเมตตา และพระเจ้าแห่งองค์ความบรรเทา" (2 คร. 1, 3)

ข้าแต่พระบิดาผู้พระทัยดี พระองค์ทรงน่ารักหาที่สุดมิได้ แต่พระองค์ก็ทรงความยุติธรรม ลูกๆของพระองค์จะสามารถทําการชดเชยบาปทั้งหมดได้อย่างไร?

ลูกๆของพระองค์จะหวังทําให้ตราชั่งแห่งพระเมตตายุติธรรมสมดุลย์ได้อย่างไร โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งยุคนี้ ที่ลูกๆของพระองค์มากมายตอบปฎิเสธ "ไม่" ต่อพระองค์? ยุคนี้ลูกๆของพระองค์ปฎิเสธนํ้าพระทัยของพระองค์? ยุคนี้ที่ลูกๆของพระองค์ไม่เชื่อในพระองค์ และตั้งตัวเองเป็นพระเจ้า? ยุคนี้ที่ลูกๆของพระองค์โอบกอดและเสวยผลต้นไม้แห่งความดีและความชั่ว พวกเขาได้เทิดทูนความหลอกลวง และเสวยผลแห่งความตาย

โปรดทรงประทานพระหรรษทานและพระเมตตาเถิดพระเจ้าข้า

โปรดทรงชําระเราให้บริสุทธิ์ด้วยนํ้าตาของพระองค์

โปรดทรงช่วยเราให้เป็นนักรบแห่งพระเมตตาของพระองค์บนแผ่นดิน เพื่อให้ดาบแห่งความยุติธรรมของพระองค์จะได้กลับกลายเป็นนํ้าพุแห่งพระเมตตาเทอญ อาแมน

( จงรําพึงถึงวิธีการมากมายทั้งหมดที่ท่านได้ทําขัดเคืองพระทัยพระบิดาเจ้า จงวิงวอนต่อการอภัยและพระเมตตา จงวิงวอนขอพระหรรษทานที่จะรู้จัก รัก ปรนนิบัติ รับใช้ ถวายเกียรติและที่จะทําตามนํ้าพระทัยของพระองค์ในทุกสิ่ง)

วันที่ห้า

มรดก

"ทุกท่านที่ถูกนําโดยพระจิตเป็นลูกของพระเจ้า เพราะท่านไม่ได้รับจิตแห่งการเป็นทาสเพื่อตกไปอยู่ในความกลัว แต่ท่านได้รับพระจิตแห่งการเป็นลูก เมื่อท่านร้องเรียกอับบาพระบิดา เป็นพระจิตเจ้าเองที่ทรงเป็นพยานให้กับจิตของเราว่าเราเป็นลูกของพระเจ้า และถ้าเราเป็นลูก เราก็เป็นทายาทของพระเจ้า โดยเป็นทายาทร่วมกับพระคริสตเจ้า เพียงแต่ให้เรายอมรับทรมานกับพระองค์ เพื่อเราจะได้รับสิริมงคลร่วมกับพระองค์ ( รม. 8, 14-17)"

พระบิดาสุดที่รักของลูก ด้วยความประหม่าและด้วยความพิศวง ลูกได้เรียนรู้จักสรรเสริญพระองค์และสิ่งสร้างทั้งหมดของพระองค์ด้วยความกตัญญูรู้คุณ ลูกได้เรียนรู้จักขอบคุณพระคุณพระองค์สําหรับพระทัยดีกว้างขวางอันไม่มีขอบเขตของพระองค์

ด้วยความถ่อมตนและด้วยความรัก ลูกได้เรียนรู้จักถวายแด่พระองค์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ได้ประทานแก่ลูก

ด้วยหัวใจแห่งความทุกข์และเต็มด้วยความหวัง ลูกได้เรียนรู้จักขอขมาโทษและวิงวอนต่อพระเมตตาอ่อนหวานของพระองค์

บัดนี้ ลูกยืนยันสุดหัวใจว่าพระองค์ทรงเป็นอยู่จริง ทรงเป็นพระเจ้าและได้ทรงสร้างสากลจักรวาลนี้ทั้งสิ้นพระเจ้าข้า

นอกนั้นยังได้ทรงสร้างลูก และลูกยังได้เรียนรู้อีกว่า พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของลูก และลูกเป็นลูกของพระองค์

โอ ดวงใจของลูกจะแสดงความตื่นเต้นยินดีนี้ได้อย่างไร เพราะว่าลูกไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งสร้าง แต่ยังเป็นลูกจริงๆของพระองค์อีกด้วย

พระองค์ได้ทรงสร้างลูกมาตามพระฉายาลักษณ์ เพื่อลูกจะได้เสวยสุขนิรันดรกับพระองค์ พระองค์ได้ทรงรักลูกมากจริงๆเหลือเกิน

แต่แม้ว่าพระองค์จะได้ทรงเผยแสดงความจริงนี้ทางพระคัมภีร์และทางคําสอนของพระศาสนจักร แต่หูของลูกไม่ได้ยิน ใจของลูกแข็งกระด้าง ลูกได้หลงทางไกลออกนอกจากพระดํารัสของพระองค์ จากพระหฤทัยของพระองค์และจากความรักที่พระองค์ทรงมีต่อลูก

แต่บัดนี้ เมฆหมอกจางหายไปแล้ว ม่านบางตาถูกยกขึ้นแล้ว บัดนี้ ลูกเห็น ลูกได้ยิน และลูกเข้าใจแล้วว่าพระองค์ทรงเป็นพระบิดาแท้จริงของลูก และลูกเป็นลูกแท้จริงของพระองค์

ลูกเป็นลูกล้างผลาญ วิ่งกลับมาหาพระองค์ วิ่งกลับมายังอ้อมพระกรที่อ้าแขนต้อนรับลูกอยู่

ลูกกําลังกลับบ้าน มาหาพระบิดา มายัง ณ ที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของลูก

ขอทรงโปรดอุ้มลูกไว้แน่นแทบดวงหทัยของพระองค์ และอย่าปล่อยลูกหลุดไปเลยบัดนี้และตลอดไป อาแมน

(จงรําพึงถึงวิธีการต่างๆ ที่จะยึดพระเจ้าไว้เป็นพระบิดาแท้จริงของท่าน และวิธีการที่จะทําให้ท่านเป็นลูกแท้จริงของพระองค์ จงรําพึงถึงความหมายว่าการเป็นทายาทนี้แปลว่าอะไร? ความยินดีและความรับผิดชอบแห่งการเป็นทายาทนี้มีอะไรบ้าง?)
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

พฤหัสฯ. ต.ค. 19, 2023 12:16 pm

โพสต์อันดับหก ( สุดท้าย) ของ แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา

วันที่หก

"ใช่"

"ข้าคือข้ารับใช้ของพระเจ้า จงเป็นไปแก่ข้าพเจ้าตามคําของท่านเถิด" (ลก. 1, 38)

"พระบิดาถ้าเป็นไปได้ ขอให้ถ้วยกาลิกซ์นี้ผ่านพ้นไป แต่อย่าให้เป็นไปตามใจของข้าพเจ้า แต่จงเป็นไปตามนํ้าพระทัยของพระองค์เถิด (มธ. 26, 39)"

พระบิดาผู้พระทัยดีและน่ารักยิ่งของลูก

โปรดอนุญาตให้ลูกมีสิทธิ์ที่จะพูดตอบรับ "ใช่" กับพระองค์เถิด ลูกขอพูดตอบรับ "ใช่" กับพระองค์พระบิดาในทุกสิ่งพระเจ้าข้า

ไม่มีเงื่อนไข ไม่ใช่เฉพาะสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ต่อลูกเท่านั้น

แต่ลูกขอตอบรับ "ใช่" สําหรับทุกสิ่ง เพราะลูกรู้ว่า พระองค์ทรงเป็นความรักบริสุทธิ์ที่ทรงเปลี่ยนทุกสิ่งให้ดีงามได้เสมอ

การทําตามนํ้าพระทัย จะไม่ทําร้ายลูก

การทําตามนํ้าพระทัย จะไม่ทําร้ายใคร

การทําตามนํ้าพระทัย จะไม่แยกลูกออกจากพระองค์

การทําตามนํ้าพระทัย มีแต่จะนําบทเพลงประสานเสียงไพเราะเพราะพริ้งแห่งนํ้าพระทัยมาบนแผ่นดิน

การทําตามนํ้าพระทัย มีแต่จะนำแสงสว่างและความรักของพระองค์แผ่ไป

การทําตามนํ้าพระทัย มีแต่จะนําเราเข้าใกล้พระองค์

การทําตามนํ้าพระทัย มีแต่จะนําคนอื่นๆเข้าใกล้พระองค์

เมื่อลูกก้าวตามนํ้าพระทัยของพระองค์ ลูกมีแต่จะทําการเต้นรําตามจังหวะกฎ และการประสานเสียงในนํ้าพระทัยของพระองค์

เมื่อลูกก้าวออกจากนํ้าพระทัย ลูกมีแต่จะสดุดล้มในความยุ่งเหยิง ความสับสนและความขัดแย้งกันอยู่ในเงาแห่งความตาย

โปรดให้ลูกฟังเสียงอ่อนหวานน่ารักของพระองค์เรียกลูกและเชื้อเชิญลูกเสมอที่จะเข้าสู่นํ้าพระทัยของพระองค์

ลูกเป็นลูกของพระองค์ โปรดทํากับลูกตามพระประสงค์เถิด เพราะลูกรู้ว่านํ้าพระทัยของพระองค์คือความรัก

แม้นํ้าพระทัยของพระองค์ดูจะเจ็บปวดและไม่ยุติธรรม แต่ลูกรู้ว่าทางของพระเจ้าไม่ใช่ทางของมนุษย์ เพราะพระองค์ทรงเห็นบทรวมยอดของสิ่งสร้างทั้งหมด

มีแต่พระองค์ที่ทรงรู้ว่าทําไมลูกจึงต้องแบกกางเขน แต่แม้ว่าสิ่งต่างๆ จะปรากฏว่าไม่ยุติธรรมต่อลูก แต่ลูกวางใจในพระองค์ เพราะพระองค์เป็นพระบิดาแห่งลูก และพระองค์ทรงรักลูก และพระองค์ทรงปรารถนาแต่สิ่งดีสำหรับลูก พระองค์ต้องการให้ลูกกลับบ้านมาหาพระองค์

บัดนี้ ไม่มีอะไรในสวรรค์หรือบนแผ่นดินโลกที่ลูกต้องการมากกว่านี้อีกแล้ว ลูกต้องการพูดตอบรับ "ใช่" ..."ใช่"..."ใช่"...และ "ใช่" ต่อพระองค์เสมอไปตามจังหวะและเสียงประสานของนํ้าพระทัยของพระองค์ อาแมน

(จงรําพึงความหมายของการยอมตอบรับดนตรีจักรวาล "ใช่" ของท่านต่อพระบิดาเจ้า การตอบรับนี้จะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตของท่าน การตอบรับนี้จะเปลี่ยนแปลงท่าทีของท่านอย่างไรต่อพระเจ้า และต่อพี่น้องของท่าน?)

วันที่เจ็ด

ซื่อสัตย์จงรักภักดี

" ฉันได้ทําการรบสู้ในสงครามอย่างเข้มข้น ฉันได้บรรลุถึงปลายทางแข่งขัน ฉันได้รักษาความเชื่อของฉัน " (2 ทม. 4,7)

พระบิดาที่สุดรัก ความรักและชีวิตของลูก

ลูกขอถวายความเชื่อ ความไว้ใจและความรัก เป็นเหมือนของขวัญประเสริฐ เป็นสัญญา แห่งความซื่อสัตย์จงรักภักดีอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อพระองค์

โปรดทรงรู้ว่า ลูกไว้ใจในความรักของพระองค์ที่ทรงมีต่อลูก

โปรดประทานพละกำลัง พลังกล้าหาญ และความพากเพียรที่จะไม่สงสัย ไม่ออกนอกลู่นอกทาง และไม่สิ้นหวัง

โปรดทรงอวยพรคําสัญญานี้ และทําให้ลูกเป็นนักรบผู้อ่อนโยน รบสู้กับความมืดด้วยดาบอันอ่อนหวานแห่งความรักและพระเมตตาของพระองค์

เพราะว่าพระองค์จะไม่ทิ้งลูกเลย ลูกจึงภาวนาขออย่าให้ลูกละทิ้งพระองค์เลย และโปรดกระชับลูกไว้ให้แนบแน่นสนิทดวงหทัยของพระองค์ และอย่าปล่อยลูกเลยพระเจ้าข้า

พระบิดาลูกไว้ใจในพระองค์ อาแมน

(จงรําพึงการถวายคําสัตย์ต่อพระบิดา จงรําพึงว่าการภักดีและการยอมมอบตนแปลว่าอะไร ท่านรู้สึกยอมรับกลับมาหาพระบิดาหรือไม่? และท่านต้องการช่วยคนอื่นให้กลับมาหาพระบิดาหรือไม่? จงรําพึงว่าการเป็นนักรบผู้อ่อนโยนของความรักและพระเมตตาของพระบิดาบนแผ่นดินนี้แปลว่าอะไร? เช่นเดียวกับนักบุญเปาโล เมื่อท่านจะตาย ท่านจะรู้สึกว่าท่านได้รบสู้มาอย่างคุ้มค่าหรือไม่?)

วันที่แปด

การถวายตัว

"เพราะว่าเราเป็นวิหารของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต ดังที่พระองค์ตรัสว่า เราจะสถิตย์อยู่และดํารงชีวิตท่ามกลางพวกเขา เราจะเป็นพระของพวกเขา พวกเขาจะเป็นประชากรของเรา" (2 คร.6, 16)

พระบิดาที่สุดรักของลูก ลูกเรียกหาพระองค์ ขอพระองค์มาเป็นพยาน และร่วมในการถวายตัวของลูกแด่พระองค์ หลังจากได้เตรียมตัวมา 7 วัน ลูกเข้ามาหาพระองค์เหมือนคนที่ยังกําลังเรียนรู้ที่จะรู้จักและรักพระองค์ ที่จะสรรเสริญและขอบพระคุณพระองค์ ที่จะทูนถวายพระพรและกางเขนทั้งหมดที่พระองค์ได้ประทานให้ลูก และที่จะวิงวอนขอพระกรุณาและการอภัย

ลูกยังเข้ามาปรนนิบัติและถวายเกียรติแด่พระองค์

แต่ที่สำคัญที่สุด ลูกเข้ามาหาพระองค์เหมือนกับเด็กที่ตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความกลัวและพิศวงในความรู้ที่ว่า ลูกเป็นลูกแท้จริงของพระองค์ และพระองค์ผู้ทรงเป็นพระผู้สร้างของจักรวาลกว้างใหญ่ ทรงเป็นพระบิดาแท้จริงแล้วลูก

แม้ว่าลูกได้หลงทางเดินไปไกลจากพระองค์ในชีวิตของลูก บัดนี้ ลูกเลือกเดินกลับมาหาพระองค์ ลูกปราถนาอย่างยิ่งจะอยู่กับพระองค์ อยู่ในบ้านของพระองค์ตลอดไป

ต่อพระพักตร์ของพระองค์ ด้วยความรู้ตัวเต็มเปี่ยม และด้วยนํ้าใจอิสระเต็มที่ ลูกถวายบูชาตัวลูกแด่พระองค์วันนี้ เหมือนกับเด็กๆ ลูกเข้ามาหาพระองค์ ลูกเข้ามาอิงแนบดวงหทัยพระบิดาเจ้าของพระองค์ และลูกขอพระองค์ยึดลูกไว้ให้แน่น อย่าปล่อยลูกจากไปเลย

ขอโปรดให้ลูกเป็นวิหารสําหรับให้พระองค์อาศัยอยู่ และด้วยความรักและความอ่อนโยนที่ใหญ่ที่สุด ขอโปรดให้ลูกเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อพระองค์ เอาพระองค์ไว้ในตัวลูกตลอดชีวิตทุกวันไป

ขอโปรดให้ลูกนําพระองค์ไปให้ครอบครัวและเพื่อนๆของลูก ไปให้คนไม่รู้จักที่ลูกจะได้พบ เพื่อพวกเขาจะได้เห็นแสงสว่างของพระบิดา และได้รับรู้ความรักอ่อนหวานของพระองค์

เมื่อพระบิดาอาศัยอยู่ในลูก มีการเชื่อมโยงอันอัศจรรย์ระหว่างสวรรค์และแผ่นดิน ขอโปรดให้ลูกๆของพระองค์ยิ่งทียิ่งทวีจํานวนมากถวายตัวบูชาแด่พระองค์ ดังที่พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า "ขอให้พระอาณาจักรจงมาถึง ขอให้นํ้าพระทัยจงเป็นไปในแผ่นดินดังในสวรรค์" อาแมน

(จงรําพึงว่า การถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาเป็นอย่างไร คําว่าถวายบูชาแปลว่าทําให้ศักดิ์สิทธิ์ หรือการยกบุคคลผู้หนึ่งให้เพื่อจุดหมายศักด์สิทธิ์ ความรู้นี้เปลี่ยนแปลงชีวิตท่านอย่างไรบ้าง ความรู้นี้เปลี่ยนความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาเจ้าไปอย่างไรบ้าง? และท่านสามารถเจริญชีวิตการถวายตัวนี้อย่างไร?)

_________________________________

การถวายตัวทุกวัน

เพื่อแสดงความรักต่อพระบิดาทุกวัน จงสวดสายประคํา 8 เม็ดนี้ทุกวัน และท่านสามารถทําได้บ่อยเท่าที่ท่านอยากจะแสดงความรักต่อพระบิดา

เรามักจะสวดกันเวลา 2 ทุ่ม ตามจุดหมายของทุกคนที่เป็นบูชาแด่พระบิดา ( Victim Souls) เราสวดตามประสงค์ของคนตํ่าต้อย คนมีชีวิตอับเฉา โดดเดี่ยว ถูกทอดทิ้ง เราถวายสําหรับพี่น้องที่ป่วย ทนทุกข์ทรมานและเจ้าตรีฑูต เราสวดสําหรับคนที่ตกเป็นทาสของความมืดมน เป็นบาดแผล อกหัก ยากจน และท้อแท้

เราขอท่านร่วมกับเราในการสวดเวลา 2 ทุ่ม เพื่อเราจะได้รวมนํ้าเสียงของเรา วิงวอนขอพระบิดาสําหรับการขออภัยบาปและสําหรับความรอดของมวลมนุษย์ชาติ โดยอาศัยความรักทรงเมตตาของพระองค์

Ad Majorem Gloriam Dei Patris

______________________________________

สวดสายประคํา 8 เม็ด พร้อมข้อรําพึง 8 อัตถ์ แสดงนํ้าพระทัยพระบิดา เรียกเรากลับสู่บ้านพระบิดา

แปลจากภาษาอังกฤษ โดย บ.ล. เปโตรสุรินทร์ ชุนฟุ้ง
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

เสาร์ ม.ค. 20, 2024 1:00 pm

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอ สารพระบิดา พระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์ ฉบับที่ 27 พ่อคือสันติสุขในส่วนประกอบสําคัญ (สารของพระบิดา) จากประกาศยืนยันของ คุณคาทาลินา ริวาส (I am peace in essence. Testimony of Catalina Rivas CL-27)

ขอบคุณ: คุณเล็ก พิมพ์ ตรวจสํานวน

พ่อคือสันติสุขในส่วนประกอบสำคัญ

CL-27 9 มกราคม 1996 พระบิดาเจ้า

แม้ว่าหัวใจทุกดวงจะเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง พ่อก็จะดำเนินต่อไปด้วยความอ่อนหวานกับสิ่งสร้างของพ่อ ไม่มีผู้ใดที่สามารถผลักด้นพ่อให้โมโหเดือดดาล เพราะพ่อคือสันติสุขในส่วนประกอบสำคัญ มีแต่ผลเท่านั้นที่เรียกร้องความยุติธรรมของพ่อที่สามารถทำให้ลูกๆเชื่อว่าพ่อได้ถูกผลักดันให้โมโหเดือดดาล

บอกพ่อเถิดว่าถ้าพ่อขุ่นเคือง อะไรจะเกิดขึ้นกับโลกในขณะนี้ อย่างไรก็ตามหลักคำสอนที่พ่อต้องการให้มนุษยชาติ เมื่อยังเยาว์วัยยังคงดำเนินต่อไป กระนั้นมนุษย์ควรยังเป็นเด็กอ่อนวัยตลอดกาลหรือ ไม่ใช่นะ พวกเขาควรเติบโตและเข้าใจดีขึ้น

ภาษาคำพูดของพระบุตรของพ่อได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในอดีต และความปรารถนาที่จะปักหลักกับสิ่งเก่าๆในขณะที่รับฟังสิ่งใหม่ๆ แสดงออกว่าไม่เพียงแต่ไม่สามารถเข้าใจสิ่งใหม่แต่ไม่มีความสว่างมองสิ่งเก่าให้เห็นเมล็ดของสิ่งใหม่ในนั้น

ลูกทั้งหลาย ทำตัวให้เหมือนผู้ที่กล้าหาญ ก่อสร้างใหม่และปรับปรุงแก้ไขความรู้ของลูกๆ นี่เป็นการแสดงออกถึงความถ่อมตัวเพื่อพ่อ สำหรับพ่อให้เปิดประตูทองของพระราชวังของพ่อให้ลูกๆ

I Am Peace In Essence

CL-27 9-Jan-96 God the Father

Even if every heart would turn hard, I would always continue to be equally sweet with My creatures. No one can move Me to anger because I am Peace in essence; only through the effects, demanded by My justice, can you believe that I am moved to anger. Tell Me, if I were to become indignant, what would be of the world now?

Nevertheless, the doctrines that I wanted for humanity when it was but a child still continue. But then, should men always remain young children? No, they should grow and comprehend. The language of My Son changed all the past, and wanting to remain in the old while including listening to the new, signifies not only to not comprehend the new, but also not having the light to see in the old the seed of the new.

Children, like the valiant ones, reconstruct and revise your knowledge; this is an act of humility that is enough for Me to be able to open for you the golden door to My palace.
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อังคาร ก.พ. 06, 2024 9:28 am

พ่อคือสันติสุขในส่วนประกอบสำคัญ

CL-27 9 มกราคม 1996 พระบิดาเจ้า

แม้ว่าหัวใจทุกดวงจะเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง พ่อก็จะดำเนินต่อไปด้วยความอ่อนหวานกับสิ่งสร้างของพ่อ ไม่มีผู้ใดที่สามารถผลักด้นพ่อให้โมโหเดือดดาล เพราะพ่อคือสันติสุขในส่วนประกอบสำคัญ มีแต่ผลเท่านั้นที่เรียกร้องความยุติธรรมของพ่อที่สามารถทำให้ลูกๆเชื่อว่าพ่อได้ถูกผลักดันให้โมโหเดือดดาล

บอกพ่อเถิดว่าถ้าพ่อขุ่นเคือง อะไรจะเกิดขึ้นกับโลกในขณะนี้ อย่างไรก็ตามหลักคำสอนที่พ่อต้องการให้มนุษยชาติ เมื่อยังเยาว์วัยยังคงดำเนินต่อไป กระนั้นมนุษย์ควรยังเป็นเด็กอ่อนวัยตลอดกาลหรือ ไม่ใช่นะ พวกเขาควรเติบโตและเข้าใจดีขึ้น

ภาษาคำพูดของพระบุตรของพ่อได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในอดีต และความปรารถนาที่จะปักหลักกับสิ่งเก่าๆในขณะที่รับฟังสิ่งใหม่ๆ แสดงออกว่าไม่เพียงแต่ไม่สามารถเข้าใจสิ่งใหม่แต่ไม่มีความสว่างมองสิ่งเก่าให้เห็นเมล็ดของสิ่งใหม่ในนั้น

ลูกทั้งหลาย ทำตัวให้เหมือนผู้ที่กล้าหาญ ก่อสร้างใหม่และปรับปรุงแก้ไขความรู้ของลูกๆ นี่เป็นการแสดงออกถึงความถ่อมตัวเพื่อพ่อ สำหรับพ่อให้เปิดประตูทองของพระราชวังของพ่อให้ลูกๆ

I AM PEACE IN ESSENCE
CL-27 9-Jan-96 God the Father

Even if every heart would turn hard, I would always continue to be equally sweet with My creatures. No one can move Me to anger because I am Peace in essence; only through the effects, demanded by My justice, can you believe that I am moved to anger. Tell Me, if I were to become indignant, what would be of the world now?

Nevertheless, the doctrines that I wanted for humanity when it was but a child still continue. But then, should men always remain young children? No, they should grow and comprehend. The language of My Son changed all the past, and wanting to remain in the old while including listening to the new, signifies not only to not comprehend the new, but also not having the light to see in the old the seed of the new.

Children, like the valiant ones, reconstruct and revise your knowledge; this is an act of humility that is enough for Me to be able to open for you the golden door to My palace.
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อังคาร ก.พ. 06, 2024 9:31 am

ความเจ็บปวดทรมานเป็นของขวัญจากพระเป็นเจ้า

CL-59 12 มกราคม 1996 พระบิดาเจ้า

ลูกสาวสุดที่รักของพ่อ จงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบุตรของพ่อในความปรารถนาและการไถ่กู้ของไม้กางเขน วิญญาณของลูกทำความพึงพอใจสำหรับผู้ทำผิดในการร่วมเป็นหนึ่งเดียวในความรักที่ถูกค้นพบในความรู้ละมุนละม่อมของความดีงามของพ่อซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกับความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานของดวงใจมนุษย์ เพื่อการร่วมเป็นหนึ่งเดียวในความรักที่ไม่สิ้นสุดกับความทุกข์ทรมานที่ไม่สิ้นสุด พระเมตตาที่ไม่สิ้นสุดของพ่อทำงาน แต่มนุษย์ไม่สนใจสิ่งนี้: พวกเขาไม่ต้องการได้ยินการกล่าวถึงของความเจ็บปวดที่ได้ยอมรับไว้และความปรารถนาต่อความรักของพ่อ มันเป็นการไถ่กู้ผ่านพระบุตรของพ่อและพวกเขาเหล่านั้นที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ในการทนทุกข์ทรมานและผู้ที่เรียกแบบถ่อมตนถึงพระหฤทัยของพ่อพระบิดาได้บรรลุถึงความรู้แบบสมบูรณ์ของพวกเขาเองและของพ่อที่อยู่ในตัวของพวกเขา

จงอย่าเศร้าโศกถ้าลูกพบตัวเองในความรู้นี้และลูกอาจจะต้องเจ็บปวดทรมาน รู้เถิดว่าเป็นการพอเพียงจากการเจ็บปวดทรมานนั้นพ่อจะไม่จดจำการทำสิ่งที่ลูกล่วงเกินพ่อ และสำหรับผู้คนเหล่านั้นที่ลูกรักก็ได้เป็นความพึงพอใจของพระเมตตาของพ่อ การเจ็บปวดทุกข์ทรมานนั้นจะเตรียมพวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะได้รับของขวัญจากพ่อ

วิญญาณที่สว่างเจิดจ้าในความสูงส่งคือพวกวิญญาณที่อยู่ข้างซ้ายมือของพ่อที่พวกเขาได้เป็นหนึ่งเดียวกับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของพระบุตรของพ่อกับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของพวกเขา ร่วมชีวิตนิรันดรของพ่อพวกเขาจะอยู่ใกล้พ่อมากที่สุด

พ่อจะบอกลูกว่าอะไรคือความเจ็บปวดทรมานของหัวใจพระบุตรของพ่อ ลูกจะได้เข้าใจว่ามันเป็นของจริง แต่พ่อต้องการให้ลูกเขียนเพื่อความรู้ที่วิญญาณมากหลายที่ไม่เข้าใจว่าการเจ็บปวดทุกข์ทรมานสามารถทำให้พวกเขาศักดิ์สิทธิ์มีสภาพของพ่อพระเป็นเจ้า

ความเจ็บปวดทรมานของพระบุตรของพ่อได้ซ่อนเร้นในจักรวาลตั้งแต่เมื่อพระองค์ได้ไถ่กู้มวลมนุษยชาติและคงอยู่ตราบเท่าสิ้นสุดของเวลาถ้ามนุษย์ไม่ยอมเข้าใจว่าความเจ็บปวดทรมานเป็นของขวัญจากพ่อพระเป็นเจ้าและพวกเขาปฏิเสธ อาจเป็นไปได้ถ้าพวกเขารู้คุณค่าของความเจ็บปวดทรมานนี้ต่อหน้าพ่อ พวกเขาจะไม่ปฏิเสธแต่จะเรียกร้องขอพ่อแบบไม่หยุดหย่อน...

จากการมอบชีวิตของพระองค์เพื่อวิญญาณทั้งหลายและได้กลายเป็นมนุษย์เพื่อที่จะได้สามารถรับความเจ็บปวดทรมานและไถ่กู้พวกเขา พระบุตรของพ่อได้ยกความมีเกียรติศักดิ์ของความเจ็บปวดทรมานให้สูงส่งขึ้น พระองค์ได้ยกระดับถึงขนาดที่วิญญาณได้ยินดีน้อมรับและได้เป็นแพะรับบาป วิญญาณนั้นได้น้อมรับแบบฉับพลันทันใดถึงความเจ็บปวดทรมานของพระบุตรของพ่อที่ดำรงอยู่ตลอดนิรันดรในการไถ่กู้ของมนุษยชาติ ไม่ใช่ของพวกเขากันเอง

การเจ็บปวดทรมานมีส่วนประกอบของตัวมันดังนี้: ความสว่าง ความรัก และความรู้ของความจริง หัวใจของพระบุตรของพ่อไม่เจ็บปวดทุกข์ทรมานแล้ว แต่ความเจ็บปวดของพระองค์จะดำรงอยู่ในจักรวาลตราบเท่าที่มนุษย์ยืนยันไม่เห็นความสว่าง ในความเกลียดชังและในความไม่ต้องการจะเข้าใจว่าพ่อคือความจริง

สายพระเนตรของพ่อมองรู้ถึงสิ่งอะไรในอดีตสิ่งอะไรในปัจจุบัน และสิ่งที่จะเป็นอะไรในอนาคตด้วยความแจ่มแจ้งที่ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรต่อหน้าพ่อในชั่วขณะเดียวกันที่ไม่มีขอบเขตช่องว่างที่ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความผิดพลาดแต่ไม่มีการปะปนสับสน...นี่คือสิ่งที่พ่อบอกลูกว่าตั้งแต่การไถ่กู้ของมวลมนุษยชาติโดยพระบุตรของพ่อ เราต้องการให้ความเจ็บปวด ความระทมใจความทุกข์ทรมาน และการเสียสละทรมานสิ้นชีพให้ดำรงอยู่ในกาลเวลาเพื่อที่ดวงวิญญาณที่ได้รับการเลือกสรรตั้งหน้าตั้งตามีส่วนร่วมในความทุกข์ทรมานเหล่านี้และจะได้สามารถมีส่วนร่วมในการไถ่กู้ของพระองค์

เมื่อไม่มีวิญญาณดวงใดที่ต้องการได้รับการไถ่กู้และการสิ้นสุดของกาลเวลาได้มาถึง ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของพระเป็นเจ้า-มนุษย์องค์นี้ก็จะสลายหายไป

ลูกสาวพ่อและนี่คือเหตุผลที่พ่อต้องการให้ลูกเห็นการเจ็บปวดทรมานของพระเยซูเจ้าได้เป็นที่พึงพอใจ...ความเจ็บปวดที่พระบุตรของพ่อทนทรมานเป็นน้ำพุที่ไม่สิ้นสุด ของสิ่ง ของ ของขวัญของพระเป็นเจ้า บ่อเกิดแห่งความศักดิ์สิทธิ์และชีวิตนิรันดรของผู้คนเหล่านั้นที่ชี้จำแนกกับความทุกข์ทรมานด้วยความรักสุดเร่าร้อนของพระองค์รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ และพร้อมกับพระองค์ยอมทนและเจ็บปวดของการเสียสละทรมานสิ้นชีพที่ช้าแต่รุนแรงในอานุภาพของมัน

นี่ก็คือการทนความเจ็บปวดทรมานของร่างกายและจิตวิญญาณโดยปราศจากการสูญสิ้นสติ ยิ้มต่อความเจ็บปวด หวังที่จะแบ่งให้พระเยซูเจ้าเพื่อความรอดพ้นของวิญญาณทั้งหลายตราบจนกระทั่งวันสุดท้ายของพวกเขา

เป็นที่น่าเสียดายที่มนุษยชาติปฏิเสธความเจ็บปวดและยิ่งทีก็ยิ่งแสวงหาวิธีต่างๆที่วิทยาศาสตร์ค้นพบ สยบความเจ็บปวดด้วยความว้าวุ่นใจ มนุษยชาติไม่ต้องการรับความเจ็บปวดในชีวิต และเพราะเหตุนี้การปฏิเสธกุศลผลบุญของความเจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยความรักสุดเร่าร้อนของพระบุตรของพ่อและความเจ็บปวดทรมานสิ้นชีพของพระองค์ในการไถ่กู้ของมวลมนุษย์ก็ติดตามมาแบบยโสอหังไร้มารยาท ในความทะนงโอหังของพวกเขา พวกเขาต้องการมาหาพ่อโดยปราศจากการมาหาผ่านพระผู้ไถ่...พวกเขาไม่ต้องการพระเป็นเจ้าที่ถูกทำร้ายมีบาดแผลและถูกตรึงบนไม้กางเขน
เตือนพวกเขาให้ระลึกถึงสิ่งที่พระองค์เจ็บปวดทรมานเพื่อพวกเขาซึ่งเป็นการบังคับพวกเขาให้รับรู้ว่าพวกเขาเป็นหนี้บุญคุณต่อพระองค์ เพื่อการรอดพ้นของพวกเขา

พวกเขาต้องการพระเป็นเจ้าที่ห่างไกลและพระเป็นเจ้าที่ไม่รบกวนพวกเขา ไม่ต้องการความทรงจำตักเตือนที่เจ็บปวดที่จะทำให้พวกเขาเกิดความสำนึกเสียใจในบาป พวกเขาต้องการพระเป็นเจ้าที่ยอมรับว่าพวกเขาที่ปราศจากพระองค์ เมื่อได้ค้นพบสิ่งลึกลับแฝงเร้นต่างๆของธรรมชาติกำลังควบคุมบังคับพลังแอบแฝงอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล เพื่อให้เกิดขึ้น พวกเขาไม่ต้องการพระองค์เพราะพวกเขาเฉลียวฉลาดและเป็นสิ่งสร้างอิสระ พวกเขาไม่สนใจรับรู้ว่าพ่อคือผู้ประทานความเฉลียวฉลาดให้พวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะสามารถทำงานเพื่อพ่อในงานยิ่งใหญ่ของจักรวาล

อีกทั้งผู้คนเหล่านั้นที่พ่อได้ยกให้สูงสุดของความมีศักดิ์ศรีเกียรติยศต้องการหลอมหล่อพระเป็นเจ้าที่สยบต่อความทะเยอทะยานและความต้องการแปลกๆของพวกเขาและของผู้อื่น พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงพระศาสนจักรให้เป็นจังหวะการเต้นของสิ่งของฝ่ายโลก เสนอนำพระศาสนจักรด้วยหนทางประเพณีที่อยู่ในขอบเขตของการนอกรีตและความผิดพลาด อิสรภาพไม่ควรหมายถึงความเป็นอิสระและตัณหาผิดศีลธรรม..วิวัฒนาการไม่ได้รวมถึงการเปลี่ยนความเชื่อเพื่อที่พระศาสนจักรจะดีขึ้น ตั้งแต่การก่อตั้งของพระศาสนจักรโดยพระผู้ไถ่และการประทานความสว่างของพระจิตเจ้า พระศาสนจักรได้บรรทุกเมล็ดของพระเป็นเจ้าทั้งมวลที่จะค่อยๆเจริญเติบโตของยุคสมัยต่างๆและวิวัฒนาการของพระเป็นเจ้าในวิญญาณต่างๆที่หลอมหล่อพระศาสนจักร และดำรงสืบต่อในพวกเขา ทุกสิ่งที่เป็นนิรันดรที่สามารถพาพวกเขาไปสู่พระเป็นเจ้าของพวกเขา

เมื่อพวกเขาผละจากคูต่างๆที่ได้ถูกวางแผนสร้างโดยพระหัตถ์ของพระเยซูเจ้า พวกเขาหักเหแบบอันตรายไปสู่ความนอกรีต ต่อสู้กฎหมายของพระเป็นเจ้า และยโสโอหังไม่ทำตามกฎหมายของพระศาสนาจักร เมื่อพวกเขาเลือกที่จะฟื้นฟูพระศาสนจักรของพวกเขาด้วยตัวของพวกเขาเอง

ในการมาสู่พ่อ ความสว่างที่ไม่อาจเอื้อมถึง มันเป็นความจำเป็นที่จะต้องผ่านพระผู้ไถ่และพระแม่มารีย์ ผู้คนต้องเดินตามรอยพระบาทของสองพระองค์และเคารพนบน้อมต่อแผนการของพระเป็นเจ้าอย่างถ่อมตน นี่คือวิธีที่ผู้มีความเชื่อภักดีต้องยอมรับถ้าเขาต้องการพบพ่อผู้ซึ่งร่วมกับพระบุตรพระเป็นเจ้าของพ่อและพระจิตเจ้า เราผู้เป็นพระเป็นเจ้าองค์เดียว เพราะสิ่งนี้ พระหฤทัยของพระบุตรของพ่อที่ได้หลั่งพระโลหิตหยดสุดท้ายของพระองค์เพื่อมนุษย์ทั้งหลายต้องการดำรงอยู่ในจักรวาลด้วยการเจ็บปวดทุกข์ทรมานต่างๆของพระองค์ที่ยังดำรงอยู่สืบไปและคงอยู่เพื่อเป็นความช่วย
เหลือและให้กำลังใจสนับสนุนต่อวิญญาณทั้งหลายที่หิวโหยพระเป็นเจ้าและต้องการเป็นหนึ่งเดียวของพวกเขากับพระองค์ในการไถ่กู้

ด้วยวิธีนี้ความรักที่เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาของพระองค์เปลี่ยนเป็นการดำรงอยู่และการไถ่กู้ของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดนิรันดรเพื่อวิญญาณหลากหลายในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตตามครรลองของเวลาทุกยุคทุกสมัย

จงเจ็บปวดทรมานเงียบๆ ด้วยความถ่อมตน สัมผัสความหิวโหยของการรอดพ้นของวิญญาณต่างๆ และผ่านพ้นความทุกข์ทรมานต่างๆถึงขั้นที่พ่อต้องการส่งมาให้ลูก ด้วยวิธีนี้ลูกจะเป็นหนึ่งเดียวกับความเจ็บปวดทรมานกับพระบุตรของพ่อ และพ่อจะรู้ว่าลูกแสวงหาพระอาณาจักรพระเป็นเจ้าในวิญญาณทั้งหลาย


SUFFERING IS A GIFT FROM GOD

CL-59 12-Jan-96 God the Father

Most beloved daughter, united with My Son in the desire and redemption of the Cross, your soul satisfies for the guilt in the uniting love, found in the tender knowledge of My Goodness which is united to the grief and suffering of the human heart; for by infinite love united to infinite suffering, My infinite Mercy works. But man ignores this: he does not want to hear talk of pain accepted and desired for love of Me. It is redemption through My Son and of those who are united to Him in suffering, and who calling humbly to My Fatherly Heart, achieve perfect knowledge of themselves, of Me in them.

Do not be sad if finding yourself in this knowledge that you may have to suffer. Suffice to know that for that suffering, I will no longer remember how you may have offended Me. And for those for whom your love has satisfied My Mercy, that suffering will prepare them so that they may receive My gifts. The luminous souls of high stature that are at My left are the souls that unite themselves to My Son’s pains with their own. Sharing in My eternal Life, they will be and are very close to Me.

I will tell you what the suffering of My Son’s Heart is. You will understand that it is a reality. But I want you to write it for the knowledge of so many souls that do not understand how suffering could make them divine. My Son’s suffering is latent in the universe ever since He redeemed the human race, and it will be so till the end of time if they do not come to understand that suffering is a gift from God and they reject it. Perhaps if they knew the value that this suffering has before My eyes, then not only would they not reject it, but they would insistently ask Me for it…

Upon giving His life for souls and becoming man in order to be able to suffer and redeem them, My Son elevated the nobility of suffering. He elevated it to such a degree that on being accepted voluntarily by a soul and becoming a scapegoat, the soul instantaneously takes upon itself not its own sufferings but rather part of My Son’s, which live forever for the redemption of man.

Suffering involves in itself: light, love, and knowledge of the truth. My Son’s Heart no longer suffers, but His pain will live in the universe as long as men insist on not seeing the light, in hating, and in not wanting to understand that I am the Truth.

My vision takes in what was, what is, and what will be, with such clarity that no one will be able to understand what is all before Me at the same time, without limitation nor space, and that can not only not make a mistake but not even get mixed up… This is why I tell you that, since the redemption of the human race by My Son, We have wanted for His pains, anguishes, sufferings, and martyrdom to remain in time, so that those elected souls, continue partaking of these tribulations and are able to be part of His redemption. When not one soul is left to redeem and the end of time comes, then the suffering of the God-Man will disappear.

That is why, My daughter, I have wanted to make you see how Jesus’ suffering satisfies… The pain endured by My Son is an inexhaustible fountain of divine goods and gifts, source of sanctity, and eternal life for those who, identified with His Passion, unite themselves to Him, and with Him endure and suffer a martyrdom that is slow but intense in its effectiveness. That is, to bear the physical and spiritual suffering without fainting, smiling at the pain, and wishing to share it with Jesus for the salvation of souls until the end of their days.

Unfortunately, humanity refuses pain more and more and anxiously seeks all the means that science discovers to suppress it. It does not want to accept pain in life and comes in its audacity to reject the merits of My Son’s Passion and Martyrdom in the redemption of man. In his pride and rebelliousness he wants to come to Me without going through Christ… He does not want a wounded and crucified God to remind him of what He suffered for all men, forcing him to recognize that he is indebted to Him for his redemption.

They want a distant God and a God that will not bother them, without any painful reminders that could cause them remorse. They want God to admit that they, without Him, upon discovering all the mysteries of nature, are taking control of the great hidden force in the universe; to do so, they do not need Him, for they are intelligent and free beings. They ignore that I gave them that intelligence so that they could work for Me in the great work of the universe.

Also those I elevated to the highest dignity want to forge for themselves and others, a God that will submit to their ambitions and whims. They want to change the Church to the materialistic rhythm of the world, introducing in her, ways and customs that border on heresy and error. Liberty should not mean independence and licentiousness… Evolution does not consist in changing the faith so that the Church will be better.

Ever since the Church was founded by Christ and illuminated by the Holy Spirit, it carries in itself all the divine seeds for its gradual development in the ages and for its divine evolution in the souls that form her; and continuing in them everything that, being eternal, can take them to their God. When they leave the trenches designed by the hand of Jesus, they deviate dangerously towards heresy, rebellion to the divine laws, the arrogance to not follow its laws when they elect themselves to renew their Church.

To come to Me, Light unreachable, it is necessary to go through Christ and Mary. One has to follow Their footsteps and humbly obey the divine designs. That is how the faithful man must accept it if he wants to find Me who, with My Divine Son and the Holy Spirit, We are one God. For this, My Son’s Heart that gave the last drops of His Blood for men, wants to remain in the universe by means of His sufferings that live on and remain as help and encouragement for the souls that hunger for the Divine and want to unite themselves to Him in the redemption. In this way His merciful Love becomes present and His redemption everlasting to so many souls that were, are, and will be in the course of all ages.

Suffer silently, humbly, feeling the hunger for the salvation of souls, and going through all the tribulations to the extent that I want to send them. In this way you will unite with the suffering of My Son and I will know that you seek the Kingdom of God in souls.
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อังคาร ก.พ. 06, 2024 9:35 am

ด้วยพระเยซูเจ้า...ลูกทุกคนเป็นที่รักของพ่อ

CL-72 15 มกราคม 1996 พระบิดาเจ้า

มันเป็นการออกแรงแห่งความรักของพ่อที่ได้ทําให้ลูกเคลื่อนไปในหนทางที่เป็นอันตรายจนกระทั่งถึงระดับหนึ่ง และมันก็ได้ถูกวัดปริมาณว่าเป็นหนึ่งในสามของการเดินทาง

ลูกรู้ว่าบนหนทางนั้นพ่อได้กักกันตัวลูกหลายครั้งหลายหนเพราะลูกต้องการจะหวนกลับไปสู่วังวนของบาป...ลูก คนบาปเก่า ต้องการเป็นศัตรูของพ่อแบบประกาศก้อง และพ่อขอบอกลูกว่า ลูกจะเป็นศัตรูของพ่อที่เข้มแข็งผู้หนึ่ง และจะยืนในแนวหน้าของผู้ที่เกลียดชังพ่อ...พ่อเอ่ยถึงเพื่อที่จะให้ลูกยอมรับว่าในแต่ละขณะของเวลาเป็นการเลือกระหว่างความเลวร้ายและความดีงาม ลูกรู้หรือไม่ว่าทําไมพ่อถึงอนุญาตให้ลูกแกว่งไหวระหว่าง "ไม่" และ "ใช่" - เพื่อที่จะเสริมกำลัง "ใช่" ของลูก เกมนี้ทําความอึดอัดใจให้กับลูก แต่มันเป็นสิ่งที่จําเป็น ศัตรูเห่อเหิมและร้ายแรง แต่ลูกจะต้องเคยชินกับสิ่งนี้ มีดวงวิญญานมากมายกําลังรอคอยสัญญานจากพ่อที่จะให้เกียรติลูกในสวรรค์! แต่สิ่งนี้จะสําเร็จลงเมื่อถึงเวลาอันสมควร และงานของพ่อจะปรากฏในความสว่างแห่งความรักของพ่อ ท่ามกลางบทเพลงสรรเสริญของลูกพ่อทุกคน และการเทิดพระเกียรติของแม่ผู้เป็นที่รักสุดของลูกๆ พ่อจะให้เกียรติทุกคนที่ให้เกียรติพ่อ และทุกคนที่กราบนมัสการพ่อ จะได้รับความรักของทุกคนที่ให้เกียรติพ่อ

โอ้...ลูกสาวของพ่อ มันช่างเป็นความสวยงามที่ได้ยินชื่อของพ่อได้ทําให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยริมฝีปากและหัวใจที่ร้อนรน! ไม่มีอะไรมีคุณค่าเท่ากับคําภาวนาที่พุ่งตรงมาที่พ่อด้วยจุดประสงค์อันเดียวที่ทําให้โลกรู้จักพ่อ เพื่อที่ริมฝีปากอื่นๆจะอ้อนวอนและสรรเสริญพ่อ

ถูกแล้ว ด้วยวิธีนี้ชื่อของพ่อจะได้ทําให้ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อลูกทอดถอนใจ วอนขอให้พระอาณาจักรของพ่อได้มาถึง พ่อขอรับประกันว่า ลูกจะมีส่วนร่วมโดยตรงกับอุปสรรคความยากลำบากทุกอย่างของผู้ได้รับการเลือกสรรของพ่อ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่หนใดก็ตาม และลูกก็คืออัครสาวกคนหนึ่ง ทุกครั้งที่ลูกดิ้นรน แล้วลูกบอกพ่อด้วยความเชื่อมั่นใกล้ชิดว่า: ขอให้พระประสงค์ของพระองค์จงสําเร็จลง พ่อพูด อัครสาวก เพราะลูกไปด้วย " พระบรมราชโองการของพ่อ" ของวิญญานทุกดวงที่ดิ้นรนและถูกควบคุมด้วยความปรารถนาของพ่อ เหมือนกับความดีของลูกเป็นความดีของทุกคนที่รักพ่อ เฉกเช่นเดียวกับความดีของผู้คนที่ป่าวประกาศอาณาจักรของพ่อคือความดีของลูก แลกเปลี่ยนกันในทางนี้ก็คือสมบัติล้ำค่าต่างๆที่ถูกบรรจุไว้ในพระบรมราชโองการของพ่อ

ลูกจะงุนงงฉงนและรู้ถึงความดีของพ่อมากขึ้น เมื่อพ่อจะให้ลูกเห็นความหมายของบทภาวนาเหล่านี้ที่อยู่ท่ามกลางความทุกข์ทรมานที่ลูกส่งถึงพ่อ ถูกแล้ว: ในท่ามกลางลูกๆของพ่อที่พ่อรัก พ่อมีพระเยซูเจ้าผู้เป็นที่รักของพ่อ ที่พ่อรักมากถึงขนาดว่าพระองค์เป็นที่พอเพียงสําหรับพ่อ แต่พ่อก็รักผู้อื่นด้วยความชอบเป็นลําดับ และพ่อไม่ได้ปิดปังจากลูกว่า ลูกและพี่น้องของลูกก็อยู่ในจํานวนนั้น

ลูกสาวของพ่อ มีพี่น้องจํานวนมากมายของลูกที่อยู่ในโทษบาปแห่งความตาย จงอ้อนวอนเพื่อพวกเขา พ่ออวยพรลูก ลูกและพวกเขา และพ่อวางพวกเขาในมือที่บริสุทธิ์ของเธอ ผู้สั่นระรัวด้วยความรัก กอดพระเยซูเจ้าผู้เป็นที่รักของพ่อ


WITH JESUS… YOU ALL ARE MY BELOVED

CL-72 15-Jan-96 God the Father

It has been a labor of My Love to have made you move along the dangerous road until reaching a certain level, and it can be assessed as one third of the journey.

You know that on the road I have had to detain you many times because you wanted to return to the whirlwind of sin… You, old sinner, wanted to become My declared enemy and, I tell you, you would have been a strong one and would possibly positioned yourself up front among those who hate Me… I mention this to convince you that each moment is for you an alternative of evil and good. And do you know why I allow you to oscillate between “no” and “yes” - in order to strengthen your “yes”. The game bothers you but it is necessary; the enemy is vain and violent, but you must get used to this. So many souls are waiting for a sign from Me to honor you in Heaven! But this will be done in due course and My work will appear in the light of My Love among the canticle of all My children and the praises of your most beloved Mother. I will honor whoever honors Me, and whoever worships Me, will be loved by all who honor Me.

Oh, My daughter, how beautiful it is to hear My name sanctified with fervent lips and heart! Nothing is worth more than prayer directed at Me with the sole purpose of making the world know Me, so that other lips will invoke Me and praise Me.

Indeed, in this way My name sanctified and, when you, sighing, ask My Kingdom to come, I assure you that you will directly participate in all of the hardships of My chosen ones, wherever they may be. And you are an apostle each time that, struggling, you tell Me with intimate conviction: Your Will be done. I say apostle because you go with the “FIAT” of all the souls who, also struggling, are regulated by My Desire. And as your good is the good of all who loves Me, so is the good of all the proclaimers of My Kingdom your good, exchanging in this way the treasures contained in the FIAT.

You will be astonished and know My goodness even more when I show you the meaning of these prayers that amid suffering you address to Me. It is right: among all My children I love, I have Jesus My beloved, so beloved that He would be enough for Me. But I have also loved others with preference and, I do not conceal from you that you and your brethren are among these.

My daughter, many brethren are in sin’s penalty of death. Implore for them and I bless you, you and them, and I place them on the most pure hands of she, who trembling with love, embraced My beloved Jesus.
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อังคาร ก.พ. 06, 2024 9:45 am

พ่อดลใจงานที่งามพร้อมบริบูรณ์ ลูกเป็นอิสระที่จะทําหรือไม่ทํา

CL-80 15 มกราคม 1996 พระบิดาเจ้า

การเริ่มต้นและกิจการของมนุษย์ในช่วงชีวิต เป็นการเคลื่อนไหวที่พ่อได้ประทับในตัวของสิ่งสร้างทั้งหลาย มนุษย์ที่พ่อทําให้เป็นอิสระและควบคุมตัวเอง ไม่คิดว่าการทํางานของเขา การมอง การคิด และแม้แต่ความเจ็บปวดทรมานของเขา เป็นการกระทําที่ขึ้นอยู่กับต้นเหตุอันแรกที่บงการเหนือสิ่งเหล่านั้น แต่มันเป็นการบงการที่อ่อนโยน ที่ผลิตของขวัญล้ำค่าที่ไม่ถูกทําลาย ที่พ่อได้มอบให้พวกเขา: อิสรภาพ เพราะเหตุฉะนี้ มนุษย์จึงเคลื่อนไหวเป็นอิสระในจิตวิญญานและในร่างกาย แต่ในขณะที่เขาใช้ความอิสรภาพของเขาแบบเต็มที่ เขาถูกขับเคลื่อนด้วยพ่อ เขามีความเอนเอียง แต่ไม่ถูกผูกมัดเป็นภาระหน้าที่ เพราะเขากระทําแบบเสรี

มีการเคลื่อนไหวแบบไม่ตั้งใจล่วงหน้า ที่สิ่งสร้างไม่สามารถตอบโต้ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ของพ่อทั้งหมด หรือของมนุษย์ทั้งหมดเช่นกัน พ่อจะอธิบาย ในความรักไม่สิ้นสุดของพ่อที่มีต่อสิ่งสร้าง พ่อต้องการในบางโอกาสที่การกระทําต่างๆได้สําเร็จลุล่วงไปโดยปราศจากความบกพร่องที่เป็นปกติธรรมดา การปฎิเสธแบบเคยชิน เพื่อที่สิ่งสร้างจะมีในสินทรัพย์ของเขา
การกระทําและการคิดที่คล้ายกับความต้องการของพ่อแบบบริบูรณ์

บางสิ่งบางอย่างที่เป็นที่ประจักษ์ที่พ่อได้นํามาในตัวนักบุญต่างๆของพ่อ ก็คือตัวอย่างของสิ่งเหล่านี้ แต่ผู้คนไม่ควรจะคัดค้านว่า อําเภอใจของพวกเขาไม่มีในสิ่งนี้ แต่มันเป็นสิ่งตรงกันข้าม อําเภอใจในกรณีเหล่านี้ได้ติดแน่นเต็มเปี่ยมกับพ่อ และถ้ามันกระทําด้วยพันธะ ด้วยเหตุผลนี้ มันไม่ได้หยุดการกระทำแบบเสรี นี่ก็คือหนทางในสวรรค์ เมื่อมันได้ถูกทําบนโลก มันเป็นสิ่งที่สวรรค์ได้คาดการเอาไว้แล้ว...สิ่งเหล่านี้ก็คือสิ่งที่พ่อได้เรียกว่า เป็นการกระทําแบบไม่ตั้งใจต่างๆของพ่อ ดังนั้นมันเป็นหนทางที่เป็นตัวของพวกมันเอง

แต่มันมีสิ่งต่างๆอีก และมันเป็นของมนุษยชาติ: การวืเคราะห์ที่ทําให้มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ถ้ามีสิ่งที่ดีที่ไม่ตั้งใจ ส่วนยิ่งใหญ่สุดของผลงานของมันเป็นของพ่อ ในความเลวร้าย หรือของมนุษยชาติ ส่วนยิ่งใหญ่สุดคือของลูก ดังนั้นวิญญาณที่เปลี่ยนแปลง โน้มเอียงเข้าหาความเลวร้าย สามารถกระทําตามนิสัยไม่ดีต่างๆเท่านั้น มันได้สมัครใจและค่อยๆได้รับ

นี่คือวิธีที่วิญญานพบตัวเองว่าอยู่กับพ่อแบบบริบูรณ์ หรือว่าเมื่ออยู่กับตัวเขาเอง

แต่ลูกรู้ว่าในการสร้าง เคลื่อนไหว และเตรียมให้กับผู้เป็นที่รักของพ่อทั้งหลาย พ่อมีเป้าหมายอันหนึ่ง นั่นก็คือสิริโรจน์ของพระบุตรสุดที่รักของพ่อ มากกว่านี้อีก ด้วยการมองเห็นล่วงหน้าว่า ลูกแต่ละคนจะไม่ทําอะไรมากมาย เพื่อให้ความต้องการของพ่อสําเร็จลุล่วงไป พ่อได้สร้างสิ่งสร้างหนึ่งที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์ ที่ตัวเธอเองเหนือกว่าสิ่งสร้างอื่นๆ และตามลําพัง เธอให้สิริโรจน์แก่พระบุตรของพ่อมากกว่าทุกสิ่งสร้างรวมกัน สิ่งสร้างนี้เหมือนกระจกที่ฉายแสงเจิดจ้า ที่พระวจนาตถ์เปล่งสะท้อนเหมือนกับกระจกอื่นๆ สะท้อนตอบแสงของความสว่างและไฟ ที่เหมือนกับว่า มันไม่ใช่กระจก แต่เป็นความสว่างและไฟ เขา พระบุตรของพ่อ สามารถมีรูปลักษณ์ต่างๆของพระองค์ แต่รูปลักษณ์นั้นจะเป็นที่สับสนกับของจริง โอ...มันช่างเป็นความพึงพอใจแบบใหญ่หลวงที่มีต่อพ่อ ในการถอดแบบพระวจนาตถ์!

ลูกเห็นแล้วรึยังว่า พระประสงค์ของพ่อชี้ไปทางไหน และความหยุมหยิมของเหตุผลของมนุษย์? เหตุผลของมนุษย์เปรียบเทียบกับความต้องการของพ่อพระเป็นเจ้าได้อย่างไร? ความรักต่อตัวเอง และเหตุผลของตัวเอง ไม่เหมือนกับกลางคืน ในการเปรียบเทียบ ที่เหมือนกับกลางวันที่สว่างเจิดจ้า ที่เป็นเหตุผลของพ่อ และพระประสงค์ของพ่อดอกหรือ..? มนุษย์ได้โต้เถียงจุดนี้แบบมากมายก่ายกอง! ตราบใดที่พวกเขาไม่ละทิ้งตัวของเขา เขาจะไม่มีสันติสุข ปฎิเสธตัวเอง สูญเสียตัวเองในพ่อ ละลายตัวเองในพ่อ และสิ่งสร้างจะยังชีพจากพ่อ...


I INSPIRE PERFECT WORK, YOU ARE FREE TO FULFILL IT OR NOT

CL-80 15-Jan-96 God the Father

The beginning and lifetime of human actions is the motion that I imprint on all creatures. The man whom I have made free and autonomous does not think that his working, seeing, thinking, and even his suffering are actions dependent of a first cause that has control over all those things. But it is a most gentle control that produces unimpaired, the great gift I have given them: freedom. Because of that man moves freely, in spirit and in body. But while he makes full use of his freedom, he is moved by Me, he has the inclination but is not obligated because he acts freely.

There are involuntary movements before which the creature is not able to react, but they are either all Mine or all human. I will explain. In My infinite Love for the creature, I desire that sometimes actions be fulfilled without the usual defects, the customary renouncements, so that the creature may have in his assets, actions and thoughts that are perfectly similar to My Desire. Then I diffuse Myself in such a way that his work and desire is truly My work and My desire.

Certain manifestations that I bring about in My saints are an example of these things. But one should not object that their will is lacking in this, on the contrary. The will in these cases is fully adhered to Me and if it acts with obligation, for this reason it does not stop acting freely. This is the way it is in Heaven; when it is also done on earth, it is Heaven anticipated… These are what I have called involuntary things of Mine; therefore, that is the way they are.

But there are other things and they are the human things: the discourse that changes. If in the involuntary good things, the greatest part of the work is Mine; in the evil or human things, the greatest part is yours. And so the soul, having become totally inclined towards evil, can only act according to the bad habits that it has voluntarily and gradually acquired.

This is how the soul finds itself when it is completely with Me and when it is by itself.

But you know that upon creating, moving, and providing for My beloved ones, I have as an aim, mainly the Glory of My beloved Son. Furthermore, foreseeing that each one of you would not do much to fulfill My Desire, I created a creature so beautiful and holy that by herself she surpasses all creatures and alone gives more glory to My Son than all the others together. This creature is the shining mirror on which the Word reflects and, like all mirrors, reflects such rays of light and fire that it does not really seem to be a mirror but light and fire. He, My Son, could have many images of Himself, but one would be such that it would be confused with the original. Oh, how it pleases Me to reproduce the Word!

Do you see then what My Will points to and how petty is man’s reasoning? But, what is human reasoning in comparison to Divine Desire? Is love for oneself and one's reasoning not like the night in comparison to the radiant day that is My reasoning and My Desire...? How man argues over this point! But as long as he does not leave himself, he will have no peace. Renounce himself, lose himself in Me, dissolve himself in Me and the creature will live off Me…
ตอบกลับโพส