รายการออกอากาศของเน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) มงกุฎหนาม (Crown of Thorns)

รวมสารการประจักษ์แม่พระที่ลำไทร สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสุภาพ และไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใด ๆ ในบอร์ดนี้
ตอบกลับโพส
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

เสาร์ มี.ค. 02, 2024 2:52 pm

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทความเสริมศรัทธาและรูปภาพประกอบ ในช่วงเทศกาลมหาพรต จากรายการออกอากาศของเน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) ชื่อ ความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) เป็นรายการสารคดีแห่งความเชื่อของคริสตศาสนา โดยเฉพาะพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก เจ้าเก่า ของเรา มีสี่ตอน มงกุฎหนาม ถ้วยกาลิสศักดิ์สิทธิ์ ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของประเทศบราซิล และนักบุญข้างบ้าน

ตอนที่สอง: มงกุฎหนาม (Crown of Thorns)

ประวัติของพระธาตุมีเป็นเวลาพันๆปีและสืบต่อถึงปัจจุบัน ทุกศาสนามีการเคารพเชิดชูพระธาตุ สําหรับโรมันคาทอลิก พระธาตุเป็นเหมือนจรวด ตัวคุณลอยขึ้นและถูกส่งไปหาพระเจ้า ผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้รับอัศจรรย์กล่าวว่า: อัศจรรย์ เมื่อคุณใกล้ตายและปัจจุบันคุณกำลังพูดถึงมัน

พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกในปัจจุบันได้อนุญาตให้มีการกล่าวถึงพระธาตุต่างๆและอํานวยความสะดวกในการเข้าถึงพระธาตุของผู้ทํารายการนี้

พระธาตุเป็นเครื่องนําทางให้ผู้แสวงบุญ ส่งเสียงเรียกเหมือนกัมมันตภาพรังสี อนุญาตการเข้าถึงพระเจ้าอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะมีโรคภัยไข้เจ็บ ทุกข์ทรมาน ต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่งแบบร้อนรนทุรนทุราย และแม้กระทั่ง คําถาม พระธาตุเป็นท่อของพลังศักดาของพระเจ้าที่หลั่งไหลสู่คุณ ผู้แสวงบุญเชื่อว่า ชีวิตของเขาจะถูกเปลี่ยนแปลง และนี่ก็คือสาเหตุที่การจาริกแสวงบุญมีมาเป็นพันๆปีและสืบต่อจนถึงปัจจุบัน

มงกุฎหนามเป็นหนึ่งในพระธาตุของพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า (มงกุฎหนามศักดิ์สิทธิ์ ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ป้ายบนไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ตะปูศักดิ์สิทธิ์หนึ่งอันของสามอันที่ตรึงพระเยซูเจ้า ถ้วยกาลิสศักดิ์สิทธิ์ ผ้าพันพระศพศักดิ์สิทธิ์) มงกุฎหนามเป็นการทําขึ้นแบบไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้าของทหารโรมัน ทําแบบฉับพลันทันทีทันใด เอาเถาวัลย์หนามในละแวกนั้นดัดเป็นมงกุฎหนามและกระแทกสรวมลงหัวของนักโทษประหารที่บังอาจเป็นกบฏ " กบัตริย์ของชาวยิว" เพราะอาณาจักรโรมันมีจักรพรรดิอยู่แล้ว เป็นการดูหมิ่นและล้อเลียนพระองค์

เหตุการณ์ของวันนั้นและวันต่อๆมาเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก

จากสัญญลักษณ์แห่งความอัปยศที่ถูกเปลี่ยนเป็นสัญญลักษณ์แห่งเกียรติยศ ความรัก ความเสียสละ ให้ทุกอย่างเพื่อไถ่กู้ ชดเชยบาป แก่มนุษยชาติ เป็นอัศจรรย์ และการดํารงอยู่ของมงกุฎหนาม หนึ่งในพระธาตุของพระมหาทรมานก็เป็นอัศจรรย์เช่นกัน

มงกุฎหนามถูกเก็บซ่อนในมหาวิหารนอเทรอดามแห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ( Notre-Dame Cathedral, Paris, France 🇫🇷) มีความสำคัญต่อพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก คริสตชน ประเทศฝรั่งเศส และโรมันคาทอลิกทั่วโลก เชื่อว่าบรรจุพลังอัศจรรย์ของพระเจ้า เป็นพันๆปีที่จักรพรรดิ กษัตริย์ ได้ปกป้องดูแล รวมทั้งสาธุชนในปัจจุบันทั่วโลก มีชายหญิง อัศวินเก่าแก่โบราณสืบต่อดูแลป้องกันมาตลอด บางคนมีพ่อ มีปู่ มีทวด ต้นตระกูลเป็นอัศวินเช่นกัน มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใกล้ชิด ป้องกันมงกุฎหนามทุกครั้งที่ถูกนําออกให้สาธุชนเห็นและให้ความเคารพเชิดชู พูดกันว่ามงกุฎหนามเป็นสัญญลักษณ์แห่งความรักสุดยิ่งใหญ่ของพระเจ้า กษัตริย์ผู้มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้พวกเรา แล้วก็มีคําถามว่า มงกุฎหนามไปอยู่ในมหาวิหารนอเทรอดามได้อย่างไร คําตอบอยู่ในวัดส่วนพระองค์ของกษัตริย์ฝรั่งเศส ห่างจากมหาวิหารแค่ขว้างก้อนหินเล็กๆถึง

แต่ก่อนจะบรรยายรายละเอียดของมงกุฎหนามและการช่วยกู้จากไฟที่เผาไหม้ทําลายมหาวิหาร ผู้ทำรายการแทรกการแสวงบุญของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ประเทศสเปน:

คริสตินาและอเลฮานโด (Christina and Alejandro ) เป็นสองคนในจํานวนพันๆในแต่ละปี เดินจากเทือกเขาพีริเนียนตอนเหนือของสเปนไปถึงเมืองวาเลนเซียฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากเมืองฮุสก๊า ( Huesca) ระยะทางเดิน 483 กิโลเมตร/ 300 ไมล์ อาสนวิหารเมืองวาเลนเซียที่เก็บกาลิสศักดิ์สิทธิ์ เป็นเส้นทางเดียวกับเส้นทางเมื่อ 2,000 ปีที่กาลิสศักดิ์สิทธิ์ได้เดินทาง ปัจจุบันยังคงอยู่ เรียกกันว่า เส้นทางของกาลิสศักดิ์สิทธิ์ (Santo Grail, the Path of Holy Grail) สองหนุ่มสาวเดินผ่านวัดโบราณที่นักบวชขุนศึก (warrior monks) ปกป้องกาลิสศักดิ์สิทธิ์ในวัดเป็นเวลายาวนานก่อนกาลิสศักดิ์สิทธิ์จะไปอยู่ในวิหารเมืองวาเลนเซีย แล้วก็ได้เห็น ทําความเคารพ สวดภาวนาต่อหน้ากาลิสศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารวาเลนเซียสมใจ เปลี่ยนแปลงชีวิตเหมือนกับอยู่ในเวลา 2,000 ปีที่ผ่านมา เห็นเหมือนพระเยซูเจ้าทรงเห็นเมื่อ 2,000 ปีเช่นกัน ความเชื่อของคุณมีชีวิตเพราะเรื่องราวของความเชื่อของคุณมีชีวิต สิ่งที่คุณเชื่ออยู่หน้าคุณนี่เอง และการเดินทางแสวงบุญ: เป็นการช่วยการเติบโตของตัวคุณเอง ในสถานที่เงียบสงบ ใกล้กับการรําพึง

ผู้ทรงความรู้ของรายการบอกว่า: มีหลายจอกกาลิสที่บอกว่าเป็นจอกกาลิสของพระเยซูเจ้าทรงใช้ในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ความจริงไม่อาจพิสูจน์ได้ เพราะปะปนกับตํานาน คําเล่าขาน แตกต่างกันหลากหลาย ดังนั้น การแสวงหากาลิสศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าสามารถให้ความเป็นหนุ่มสาว อายุนิรันดร ยังมีอีกต่อไปในปัจจุบัน

มงกุฎหนามได้รับการเคารพเชิดชูเมื่อประมาณ คศ 870 แล้วหายไป ศตวรรษที่ 10 พบว่าอยู่ในวัดส่วนพระองค์ของจักรพรรดิที่เมืองคอนแสตนติโนเปิ้ล ซึ่งปัจจุบันคือเมืองอิสตันบูล ( Constantinople, Istanbul ) มงกุฎหนามจะถูกนำออกมาให้ประชาชนเห็นในวันอิสเตอร์ทุกปี สาธุชนเดินทางเป็นร้อยๆกิโลเมตร และกล่าวกันว่า ได้เห็นกับตาว่ามงกุฎหนามห่อเหี่ยวแห้งตายแล้วฟื้นตัวคืนชีวิต เหมือนพระเยซูเจ้าที่ทรงสิ้นพระชนมชีพแล้วฟื้นคืนพระชนมชีพ เกิดการแสวงบุญยิ่งใหญ่ประจําปี เช่นเดียวกับการแสวงบุญเคารพเชิดชูพระธาตุอื่นๆที่เกี่ยวกับพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า

อาณาจักรไบแซนไทน์ ( Byzantine empire) เริ่มเสื่อมสลายในศัตวรรษที่ 13 จะล้มละลาย ต้องดึงแซะทองคำทองแดงจากอาสนวิหารโบราณมาหล่อแล้วขายเอาเงิน ประชาชนหิว แกมกลัวกับการถูกรุกรานโจมตี พวกขุนนางของจักรพรรดิบอลวิน ( Emperor Baldwin) แอบเอามงกุฎหนามที่อยู่ในวัดส่วนพระองค์ไปจํานํากับพ่อค้ามหาเศรษฐีเมืองเวนิสที่ไปทําการค้าในเมืองคอนแสตนติโนเปิ้ล จักรพรรดิบอลวินต้องเดินทางไปหาพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นพระญาติ ลูกพี่ลูกน้อง เสนอขายในราคา 135, 000 ลีวอ ( Livres เงินฝรั่งเศสสมัยโบราณ) เป็นจํานวนมหาศาลขนาดจะล้มละลายฝรั่งเศส พระองค์ทรงมีความศรัทธาแต่: ถ้าได้มงกุฎหนามจะมีเกียรติเหนือกว่ากษัตริย์ทุกพระองค์ พระผู้ไถ่เป็นผู้สวมมงกุฎให้พระองค์

พระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ทรงส่งนักบวชชายสองคนให้นําเงินไปไถ่มงกุฎหนาม ผิดหวังเพราะพ่อค้าชาวเวนิสได้เดินทางกลับประเทศอิตาลีพร้อมมงกุฎหนามแล้ว นักบวชสองคนต้องลงเรือฝ่าเหล่าสลัดที่ต้องการปล้นเอาเงิน ปลอดภัยไปถึงเมืองเวนิส ไถ่มงกุฎหนาม แล้วเดินทางกลับเมืองปารีส ฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์สุดปลื้มพระทัย ทรงเดินเท้าเปล่า ร่วมแบกมงกุฎหนามผ่านถนนหนทางของเมืองปารีสไปสู่วัดส่วนพระองค์ จนถึงปี คศ 1789 ปฎิวัติโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ และความเชื่อว่าอํานาจกษัตรีย์เป็นสิทธิ์ที่พระเจ้าทรงมอบให้ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กลัวมงกุฎหนามจะถูกทําลายเหมือนพระธาตุอื่นๆ ทรงแอบซ่อนไว้ แล้วพระองค์ทรงถูกตัดหัว

ปี คศ 1803 มีการค้นหาเก็บรักษาพระธาตุที่หลงเหลือไปเก็บไว้ในมหาวิหารนอเทอรดาม ไม่ใช่ของกษัตริย์ เป็นของสาธารณชน 300 ปีต่อมา...

15 พฤษภาคม 2019: ไฟไหม้มหาวิหารนอเทรอดาม พนักงานดับเพลิงร่วม 500 คนต่อสู้ไฟ แต่ไฟร้อนแรงทําความเสียหายใหญ่หลวง พระธาตุต่างๆ ศาสนภัณฑ์ รูปภาพ รูปปั้นทรงคุณค่า อาจจะถูกทําลาย หน่วยเหนือมีคําสั่งให้หัวหน้าพนักงานดับเพลิงเมืองปารีสกอบกู้สิ่งเหล่านี้ ทุกอย่างมีตําแหน่งในแผนที่ของมหาวิหาร ยกเว้นมงกุฎหนามเพราะทรงคุณค่าสูงสุดไม่ต้องการให้ผู้ใดรู้กลัวจะถูกยกหาย ได้ครบทุกอย่างนอกจากมงกุฎหนามที่หัวหน้านักดับเพลิงเองก็ไม่รู้ สุ่มหาใต้พระแท่น ใต้เก้าอี้ ใต้โต๊ะ หลังรูปภาพ แล้วเขาก็เจอ อยู่ในกรอบกระจก เอาออกจากวิหาร ทุกคนเป็นปลื้ม จนกระทั่งผู้จัดการมหาวิหารบอกว่า เป็นของจําลองให้ชาวบ้านดู ของจริงอยู่ในเซฟในตู้สีเทาแต่ตื่นตระหนกตกใจจําไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน หัวหน้านักดับเพลิงความจําเฉียบจําได้ว่าเห็นตู้สีเทาที่เขานึกว่าเป็นตู้ไฟฟ้า ฝ่าตายกลับเข้ามหาวิหาร เอาตู้สีเทาออกมาแล้วขอระหัสเปิดจากผู้จัดการ ผู้จัดการจําไม่ได้ หัวหน้านักดับเพลิงบอกหน่วยเหนือให้ส่งเครื่องมือมาชําแหละเปิดตู้ เลื่อยไฟฟ้าหวุดหวิดจะเปิดตู้ได้แล้ว ผู้จัดการจําระหัสได้ เปิดตู้และเซฟ เห็นมงกุฎหนามศักดิ์สิทธิ์...

ฝูงชนชาวฝรั่งเศสดูไฟที่ไหม้ทําลายมหาวิหารแบบงงงัน เงียบสงบ แล้วก็เริ่มสวดบทถาวนา วันทามารีย์ ให้พระแม่ทรงช่วย ประธานาธิบดีมาครอนก็มาดูเช่นกัน ให้กําลังใจ ให้ความหวัง ในความเสียหายใหญ่หลวงนี้

นักเล่นปีอาโนของวงดนตรีมหาวิหารบอกว่า: สําหรับพวกเขา มหาวิหารเป็นบ้านหลังที่สองเพราะไปทุกวัน มีรายการ กว่า 1,000 ครั้งต่อปี รวมทั้งการนํามงกุฎหนามออกมาให้สาธุชนเห็น ตัวเขาเองเห็นเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ 35 ปีที่แล้ว ฝูงชนแน่นเอี้ยด คอยคิวนานมาก แต่เมื่อเห็นต่อหน้าต่อตา เหมือนกับว่าเขาอยู่คนเดียวและพระเจ้ากําลังมองเขา ร้องไห้เกือบทุกครั้งที่เห็น: พระธาตุกระตุ้น ให้ความเร่าร้อน และความเชื่อ เหมือนดนตรี

นักดับเพลิงทุกคนรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่การกอบกู้มหาวิหารที่เป็นอาคารที่สามารถสร้างใหม่ได้ เป็นการกอบกู้บางอย่างจากวิญญานของประเทศฝรั่งเศสและจากวิญญาณของคริสตศาสนา เป็นบุญที่พวกเขาชาวฝรั่งเศสมีมงกุฎหนามศักดิ์สิทธิ์นี้

อ้างอิงและขอบคุณ: เน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) รายการความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) ทุกคนที่ปรากฏในรายการ และกูเกิ้ล

กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
ตอบกลับโพส