+ เดือน พค. 48 ลูกคือผู้นำสาสน์ของแม่ +

รวมสารการประจักษ์แม่พระที่ลำไทร สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสุภาพ และไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใด ๆ ในบอร์ดนี้
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 20, 2006 3:55 pm

เจ้าคือผู้นำสาสน์ของเรา
วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2548 เวลา 20.45-21.15น.

ค่ำวันนี้พวกเราต่างก็กระจายไปคนละทิศละทาง เมื่อถึงเวลาสวดประจำวันที่พวกเราเคยมานั่งพร้อมกัน วันนี้มีแต่พี่สาวของผมคนเดียวที่เตรียมตัวมาพร้อมแล้ว สำหรับการสวดภาวนา พี่สาวผมมองเห็นผมนอนหลับอยู่ จึงปลุกให้ผมตื่นขึ้นมา และไปตามคนอื่น ๆ มาสวดพร้อมกัน วันนี้ในระหว่างที่กำลังสวดภาวนาอยู่นั้น พวกเราเห็นหน้าแม่พระฟาติมาเศร้ามากเหลือเกิน แม่พระคงจะมีอะไรที่จะบอกกับพวกเราในคืนนี้เป็นแน่ และแล้วผมก็ได้รับสาสน์จากแม่พระดังต่อไปนี้

“ลูกที่รักของแม่ทั้งหลาย วันนี้แม่ได้มาหาพวกลูกตามที่แม่สัญญาแล้ว

สิ่งที่ลูกจะถามแม่ ลูกรู้คำตอบดีแล้วว่ามันคืออะไร

เมื่อวานนี้สิ่งที่ลูกได้ยินคือปัญหาทั้งหมดที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายหน้า จงเข้มแข็ง แม่จะอยู่กับลูก จงอดทน จงอย่าตอบโต้ ถ้าลูกเชื่อมั่นในแม่อย่างแท้จริง ลูกจะผ่านพ้นไปได้ สิ่งที่ลูกคิดที่จะกระทำในวันพรุ่งนี้ ขอให้คิดให้รอบคอบก่อนที่ลูกจะทำอะไรลงไป

ลูกจะอยากรู้ไปทำไมว่ามัจจุราชสีแดงคืออะไร? เมื่อวานนี้ลูกได้คำตอบแล้วมิใช่ หรือ?
(มันคือจิตชั่วร้ายที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่ผมรู้จัก)

วันนี้แม่มาคอยลูกตั้งนานแล้ว เห็นลูกนอนหลับไหล เมื่อวานนี้ลูกได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง? จงแบ่งปันแก่พี่น้องของลูก จงอย่าคิดว่าเราดีแล้ว (เราในที่นี้แม่พระหมายถึงตัวผม) มีคนอื่นอีกมากมายที่เขาได้ทำงานให้แม่หนักกว่าลูก แทบตลอดชีวิตของเขา เขาไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากทำให้แม่ด้วยความรักเท่านั้น

ปัญหาในภายหน้าใกล้เข้ามาแล้ว จงมีสติ วอนขอพระปรีชาญาณจากพระผู้เป็นเจ้า จะทำให้ลูกผ่านพ้นไปได้ เมื่อวานนี้ ในหลาย ๆ เสียงที่ลูกได้ยินคือคำเตือนของแม่ จงมั่นคงในพระผู้เป็นเจ้า อย่าหวั่นไหว พระเมตตาของพระองค์จะทำให้เจ้าปลอดภัย

จงดูตัวอย่างของผู้กลับใจคนใหม่ เขาได้ถวายทั้งชีวิตแด่พระเจ้า แม้ในความทุกข์ เขาก็ยอมรับถ้าเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า จงมีความมั่นคงในจิตใจ จงดูเขาเป็นตัวอย่าง

แม่ขอบอกลูกว่าครอบครัวของลูกอาจจะได้รับผลกระทบอันนี้ จงรักกันเข้าไว้ รักกันให้มาก ๆ อย่าให้มีช่องว่างของความแตกแยก พวกลูกจะพ้นภัย
(การเผยแพร่สาสน์ของแม่พระ อาจมีอุปสรรคและส่งผลกระทบถึงครอบครัวของผม)

จงนำบทเรียนที่ลูกได้เรียนรู้เมื่อวานนี้ เขียนออกมาจากหัวใจของลูกเพื่อให้คนอื่นได้เรียนรู้ว่า ความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างสิ้นสุดจิตใจนั้นคืออะไร ถามใจพวกลูกทุกคนดูเองว่าลูกได้ทำอย่างนั้นแล้วหรือยัง? พระองค์เฝ้ามองพวกลูกอยู่ พวกลูกเคยเปิดใจหาพระองค์แล้วหรือยัง? เคยมีเวลาที่จะฟังเสียงของพระองค์หรือยัง?

ถ้าลูกมีความตั้งใจจริง ลูกจะได้ยินเสียงของพระองค์ในหัวใจของลูก ความรักที่ไม่มีขอบเขต ความรักที่ต้องการเห็นลูกทั้งหลายผู้ซึ่งเป็นสิ่งสร้างของพระองค์ได้กลับมาอยู่ในพระหรรษทานของพระองค์

(ผมได้เรียนรู้ว่า ผู้ที่ยึดมั่นและรักในแม่พระ, พระเยซูเจ้า และพระบิดาเจ้าอย่างแท้จริงนั้น ในกิจการแต่ละวันเขาไม่ต้องการที่จะทำในสิ่งใด ๆ ที่ทำให้พระองค์ต้องเสียพระทัย ยอมรับในทุก ๆ สิ่งถ้าเป็นพระประสงค์ของพระองค์แล้ว เขายินดีที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระองค์เสมอ แม้ในขณะที่เขาตกอยู่ในความทุกข์ยากอย่างถึงที่สุด ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเหลือเขาได้แล้ว แต่เขาก็วางใจในพระองค์ รำพึงวิงวอนขอความช่วยเหลืออย่างซื่อตรงและสิ้นสุดจิตใจ เหมือนกับลูกที่พูดกับพ่อแม่ของตน เขาย่อมได้รับพระพรของพระองค์และได้พบแต่สันติสุขในจิตใจ)

แม่เศร้าใจยิ่งนัก ในบรรดาญาติพี่น้องของลูก มีบางคนที่ยังไม่รู้จักเปิดใจหาพระเจ้า จงสวดภาวนาให้เขาให้มากกว่านี้ แม่จะช่วยเสนอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ให้เขาได้รับพระหรรษทานของพระองค์

สิ่งที่ลูกได้สัญญาไว้ว่าลูกจะทำพลีกรรม จงอย่าลืมสัญญานี้ การกระทำของลูกและพี่สาวของลูกจะดึงเขากลับมา

(ผมและพี่สาวตั้งใจทำพลีกรรมเพื่อช่วยให้บุคคลในครอบครัวของเรา ขอให้เขาได้รับการดลใจให้กลับมาหาพระเป็นเจ้า)

แม่ได้ยินเสียงคำภาวนาของพี่สาวของลูก จงพยายามต่อไป แม้ว่าเขาจะหัวแข็ง สักปานใด แต่ไม่มีใครเอาชนะพระผู้เป็นเจ้าไปได้ จงพยายามต่อไป

(พี่สาวของผม เริ่มร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ)

แม่ให้สัญญาว่า คำภาวนาทุกครั้งที่ลูกได้ภาวนา แม่ได้วิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าแล้ว พระองค์กำลังดูกิจการทั้งหลายที่ลูกได้ทำ ลูกมีความมุ่งมั่นเพียงใด

ลูกไม่ได้เป็นวาสสุลา ไม่ต้องกลัว ลูกคือผู้นำสาสน์ของแม่

(ผมน้ำตาไหลเมื่อแม่พระพูดถึงเรื่องนี้ เพราะจิตใจผมเริ่มหวั่นไหวเนื่องจากสาสน์ที่ ผมได้รับบางส่วนในครั้งที่แล้ว เหมือนกับที่พระเยซูเจ้าพูดกับวาสสุลา ไรเด้น ผู้ซึ่งเป็นผู้บันทึกสาสน์ของพระเยซูเจ้า ท่านผู้อ่านสามารถหาอ่านได้จากหนังสือชื่อ “ชีวิตแท้ในพระเจ้า” ทำให้ผมคิดเอาเองว่าผมไปจำข้อความเหล่านั้นมาหรือเปล่า และผมได้บอกกับแม่พระว่า ผมไม่ต้องการเป็นเหมือนกับวาสสุลา แต่ต้องการเป็นตัวของผมเอง)

แม่น้อยใจที่เมื่อวานนี้ลูกไม่กล้าพูด ในขณะที่แม่กำลังจะพูดต่อหน้าคนทั้งหลาย”

ผมร้องไห้เสียใจและได้แต่บอกกับพระองค์ว่า“ลูกขอโทษ”


ในวันนั้นผมกับพี่สาวได้ไปที่บ้านพี่คนหนึ่งเพื่อไปหาแม่พระฟาติมาแห่ง บ้านซ่งแย้ เพราะก่อนหน้านี้ 1 วัน เราได้สวดภาวนาร่วมกันที่บ้านที่ตรอกจันทร์ ทั้งพี่สาวและผมได้เห็นพร้อมกันว่าแม่พระแห่งบ้านซ่งแย้ได้มาหาพวกเราถึงที่บ้าน แม่พระบอกว่า

“วันนี้ลูกมาเยี่ยมแม่ไม่ได้ แม่ก็มาหาลูกที่นี่”

ผมกับพี่สาวจึงได้ ชวนกันไปหาแม่พระอีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอบคุณแม่พระที่ได้ทรงพระเมตตามาหาพวกเราถึงที่บ้าน หลังจากที่สวดภาวนากันเสร็จแล้ว ก็ได้มีการแบ่งปันถึงประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับพระพรจากแม่พระ ในขณะนั้นเองผมรับรู้ว่า แม่พระกำลังจะให้ผมบอกกับคนทั้งหลายว่า ผมเป็นผู้นำสาสน์ของพระแม่ แม่พระบอกกับผมถึง 3 ครั้ง แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะขัดจังหวะการสนทนา และไม่กล้าพอที่จะพูดตามพระประสงค์ของแม่พระได้ นี่คือการทดลองใจของแม่พระว่า ผมจะกล้าพอที่จะทำตามน้ำพระทัยของแม่พระหรือไม่ เพราะในสถานที่นั้นมีแต่คนที่มีความเชื่อในแม่พระทั้งนั้น แต่ผมช่างอ่อนแอเสียจริง ๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ มี.ค. 20, 2006 4:05 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 20, 2006 4:00 pm

บทภาวนานี้เราตั้งใจให้แก่คนไทยทุกคน
วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2548 เวลา 21.45-22.00น.

วันนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้านนนทบุรีแต่มาอยู่ที่บ้านกับหลาน ๆ ในกรุงเทพฯ ในเมื่อผมไม่ได้กลับไปบ้านพี่สาวจึงชวนให้ผมสวดที่นี่ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนในทุก ๆ วันเสาร์ผมจะได้มีโอกาสพบกับแม่พระ พอเริ่มต้นสวดสายประคำไปได้สักครู่ผมก็ รับรู้ได้ว่าบัดนี้แม่พระได้มาตามที่พระองค์สัญญาแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าแม่พระฟาติมาองค์ที่บ้านของผม กำลังลอยอยู่ในท้องฟ้าเหนือบ้านของเราแล้ว ต่อมาแม่พระก็เริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นแม่พระฟาติมาแห่งบ้านซ่งแย้ แม่พระทรงทอดพระเนตรลงมายังพวกเราด้วยความเมตตาปรานี แล้วแม่พระก็ได้เริ่มต้นให้สาสน์แก่ผมดังนี้

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2548 เวลา 21.45-22.00น.

วันนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้านนนทบุรีแต่มาอยู่ที่บ้านกับหลาน ๆ ในกรุงเทพฯ ในเมื่อผมไม่ได้กลับไปบ้านพี่สาวจึงชวนให้ผมสวดที่นี่ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนในทุก ๆ วันเสาร์ผมจะได้มีโอกาสพบกับแม่พระ พอเริ่มต้นสวดสายประคำไปได้สักครู่ผมก็ รับรู้ได้ว่าบัดนี้แม่พระได้มาตามที่พระองค์สัญญาแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าแม่พระฟาติมาองค์ที่บ้านของผม กำลังลอยอยู่ในท้องฟ้าเหนือบ้านของเราแล้ว ต่อมาแม่พระก็เริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นแม่พระฟาติมาแห่งบ้านซ่งแย้ แม่พระทรงทอดพระเนตรลงมายังพวกเราด้วยความเมตตาปรานี แล้วแม่พระก็ได้เริ่มต้นให้สาสน์แก่ผมดังนี้

“ลูกที่รักทั้งหลายของแม่ขอบใจมากที่ได้ส่งให้พี่น้องของลูกไปส่งแม่

วันนี้แม่ปีติยิ่งนักที่เห็นลูกตั้งใจแก้บาป สารภาพบาปต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง พระองค์ให้สัญญาว่า ในทุก ๆ ครั้งที่ลูกมีความตั้งใจจริง เสียใจอย่างแท้จริง และสารภาพบาปอย่างสิ้นสุดจิตใจ พระองค์จะอยู่ที่นั้น คอยฟังเสียงแก้บาปของลูก
จงฟังเสียงคำสอนที่ลูกได้ยิน เสียงนี้ถ้าลูกปฏิบัติตามจะทำให้ชีวิตของลูกมีแต่สันติสุข

(ก่อนที่ผมจะเข้าไปแก้บาปผมได้รำพึงในใจต่อพระบิดาเจ้าว่า โปรดช่วยให้ลูกได้รู้จักพระองค์ด้วย เพราะตั้งแต่เด็กจนมาถึงปัจจุบันนี้ ผมรู้จักและรักแต่แม่พระเท่านั้น)

แม่ปีติยิ่งนักที่เห็นมีการสวดภาวนาที่บ้านหลังนี้ ลูกจำคำที่แม่พูดได้ไหม? แม่ (พระองค์หมายถึงพี่สาวของผม)ต้องเป็นตัวอย่างทำให้เขาเห็น สักวันหนึ่งพระพรนี้จากพระผู้เป็นเจ้าจะหลั่งไหลมาสู่ทุกคนในบ้านหลังนี้ เขาทั้งหลายจะกลับมาเป็น ลูกของพระองค์

คำสวดภาวนาในทุก ๆ ครั้ง พระผู้เป็นเจ้าทรงสดับฟังเสมอ ขอให้ลูกสวดมากขึ้น ๆ การสวดภาวนาจะทำให้เจ้าอยู่ในพระหรรษทานตลอดเวลา

กลับไปวันพรุ่งนี้ลูกจะได้ยินเรื่องราวมากมายจากผู้ที่ไปแสวงบุญ

(แล้วผมก็ได้ยินเรื่องราวจากผู้ที่ไปแสวงบุญมาจริง ๆ พวกเขาประทับใจกับชาวบ้านแห่งวัดอัครเทวดามีคาแอล, บ้านซ่งแย้, จังหวัดยโสธร ที่แต่ละคนมาหาแม่พระด้วยความรักอย่างบริสุทธิ์ ดอกไม้ที่เขานำมาถวายแด่แม่พระนั้นแม้จะเป็นเพียงดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ริมทาง แต่ก็ดูมีค่ามากกว่าดอกไม้ที่คนกรุงเทพฯนำไปถวาย เพราะนั่นคือ สิ่งที่ดีที่สุดพวกเขาสามารถหามาได้

พวกเขาพากันมานั่งเฝ้ามองแม่พระผู้เป็นที่รักยิ่งของพวกเขาด้วยความยินดีที่แม่พระได้กลับมาหาพวกเขาอย่างยิ่งใหญ่และสวยงาม ไม่น่าประหลาดใจเลยว่า ทำไมแม่พระถึงได้เลือกที่จะมาอยู่ท่ามกลางชาวบ้านเหล่านี้ หลายคนที่ไปร่วมการแสวงบุญครั้งนี้ ต่างก็ได้รับพระพรของแม่พระทำให้เขาได้รับความช่วยเหลืออย่างน่าอัศจรรย์ เขาเหล่านั้นจึงได้พากันมาส่งแม่พระฟาติมาแห่งบ้านซ่งแย้ ในครั้งนี้ด้วย)

ถึงแม้แม่จะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่พวกลูกสามารถมาหาแม่ได้ด้วยจิตใจของลูกเอง ลูกรู้ใช่ไหมว่าแม่คอยฟังเสียงของพวกลูกอยู่

จงอย่ากลัวกับเหตุการณ์ในภายหน้า พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทำให้คนของพระองค์ต้องตกในความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ ขอให้มีความเชื่อมั่นอย่างแท้จริง แล้วทุกสิ่งจะเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์

แม่ขอขอบใจอีกครั้งหนึ่ง ที่ลูกได้พยายามรื้อฟื้นนำบทภาวนาของแม่ที่ให้ไว้แก่ อาเดเรียมาสวดภาวนา
(บทภาวนาของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจเพื่อความยุติธรรมแด่ผู้ที่น่าสงสาร) บทภาวนานี้แม่ตั้งใจให้แก่คนไทยทุกคน ผู้ที่วิงวอนขอผ่านทางแม่ในบทภาวนานี้ จะได้รับพระพรจากพระผู้เป็นเจ้าเป็นพิเศษ จงเผยแพร่บทภาวนานี้ให้แพร่หลาย ให้คริสตชนในประเทศไทยได้รู้จักบทภาวนานี้

พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงบอกแก่แม่ว่า บัดนี้จิตใจลูกได้เปิดรับพระองค์แล้ว พระองค์จะเป็นผู้นำทางลูกให้ทำงานของแม่อย่างมั่นคงและมีสติ ด้วยพระปรีชาญาณของพระองค์ที่ประทานให้แก่ลูก

เห็นไหมในทุก ๆ ครั้ง งานที่ลูกได้ทำให้แม่มีอุปสรรค
(วันนี้ผมไม่มีเครื่องเล่นเทปที่สามารถอัดเสียงได้ และความจำของผมก็ไม่ค่อยดี) แต่วันนี้ ลูกก็ได้แสดงให้แม่ เห็นแล้วว่า ด้วยพระปรีชาญาณของพระองค์ ทำให้ลูกสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ขอ ให้มีการสวดภาวนาที่บ้านหลังนี้ในทุก ๆ วัน แม่จะมาหาลูกเมื่อมีการสวดภาวนา ตั้งแต่สองคนขึ้นไป แม่ให้สัญญา”
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ มี.ค. 20, 2006 4:07 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 20, 2006 4:02 pm

พบกลุ่มเยาวชนผู้แพร่ธรรม
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2548 เวลา 24.30-01.00น.

ค่ำวันนี้ผมได้ไปพบกับกลุ่มเยาวชนผู้แพร่ธรรมกลุ่มหนึ่ง น้อง ๆ เป็นเด็กที่ยังใสบริสุทธิ์ และมีความเชื่อในคริสตศาสนาอย่างจริงใจ ผมดีใจแทนพวกน้อง ๆ เหล่านี้ที่เขาได้ เลือกที่จะมาทำงานให้พระเป็นเจ้า ในขณะที่คนในวัยเดียวกันยังเป็นลูกแกะที่หลง ทางของพระเป็นเจ้าอยู่ พวกเขาได้ขอให้ผมถามแม่พระเกี่ยวกับเรื่องงานที่พวกเขา กำลังทำอยู่นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ผมขออนุญาตนำมาเปิดเผยเฉพาะบางส่วนเท่า นั้นซึ่งเป็นสาสน์ที่แม่พระได้ถามความสมัครใจของพวกเขาว่า

ค่ำวันนี้ผมได้ไปพบกับกลุ่มเยาวชนผู้แพร่ธรรมกลุ่มหนึ่ง น้อง ๆ เป็นเด็กที่ยังใสบริสุทธิ์ และมีความเชื่อในคริสตศาสนาอย่างจริงใจ ผมดีใจแทนพวกน้อง ๆ เหล่านี้ที่เขาได้ เลือกที่จะมาทำงานให้พระเป็นเจ้า ในขณะที่คนในวัยเดียวกันยังเป็นลูกแกะที่หลง ทางของพระเป็นเจ้าอยู่ พวกเขาได้ขอให้ผมถามแม่พระเกี่ยวกับเรื่องงานที่พวกเขา กำลังทำอยู่นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ผมขออนุญาตนำมาเปิดเผยเฉพาะบางส่วนเท่า นั้นซึ่งเป็นสาสน์ที่แม่พระได้ถามความสมัครใจของพวกเขาว่า

“จงถามใจลูกดูว่า ลูกพร้อมที่จะรับแบกกางเขนของพระเยซูเจ้าหรือไม่? ถ้าคำตอบ ที่ลูกได้ยินคือ “ไม่!” จงถอยออกมาเสียเถิด”

(ที่แม่พระได้บอกเช่นนี้เพราะพระองค์ต้องการเฉพาะผู้ที่ตั้งใจจริงเท่านั้น ไม่ใช่ทำไปเพราะตามเพื่อนฝูง หรือถูกบังคับ เนื่องจากงานที่ทำไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ จะมีอุปสรรค และการถูกประจญอย่างมากมายเกิดขึ้นในภายหน้า)

ผมชื่นใจเหลือเกินที่พวกน้อง ๆ ต่างได้ตอบแม่พระว่าทุกคนพร้อมที่จะทำงานนี้ต่อไป ผมดีใจแทนพวกเขาจริง ๆ ที่พวกเขามีบุญได้พบกับพระเจ้าตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เหมือนกับผมที่กว่าจะได้รู้จักกับพระองค์ก็เสียเวลาไปนับเป็นสิบ ๆ ปีทีเดียว

วันนี้ผมได้เรียนรู้อย่างมากมายว่าพระเยซูเจ้าทรงมีความรักที่ยิ่งใหญ่เพียง ใดต่อมนุษย์ทุกคน ผมต้องขอขอบคุณท่านผู้รู้ไว้ ณ. ที่นี้ด้วย ไม่อย่างนั้นผมคงเป็นลูกที่หลงทางของพระองค์ต่อไปอีกนานแสนนาน

ผมไม่เคยเข้าใจในความหมายของการที่พระองค์ต้องมารับความทุกข์ทรมานนี้เลย ทั้ง ๆ ที่พระองค์สามารถเลือกทำอย่างอื่นก็ได้ แต่พระองค์ก็ทรงยอมที่จะมาแบกไม้ กางเขนและรับพระมหาทรมานนี้ เนื่องจากบาปของมนุษย์เรานี่เอง

บาปด้วยวาจาของเราทำให้พระองค์ทรงถูกสบประมาท ถูกตบหน้าและถ่มน้ำลายใส่หน้าพระองค์

บาปด้วยความคิดของเราทำให้พระองค์ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยการถูกสวมมงกุฎหนาม ที่ทิ่มแทงทะลุพระเศียรของพระองค์ ทำให้พระองค์ต้องทนทุกข์ทรมานด้วย ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ผมไม่เคยคิดถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสอนใจมนุษย์ทั้งหลายในข้อนี้เลย

ร่างกายของพระองค์ต้องฉีกขาดด้วยบาดแผลที่ไม่สามารถนับได้ถ้วนเนื่องมาจาก บาปที่ผิดต่อเนื้อหนังของมนุษย์ที่ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

มือและเท้าที่พาเราไปกระทำบาป ทำให้พระองค์ต้องมาถูกตอกตะปูตรึงไว้กับไม้กางเขน พระองค์ต้องทรงทุกข์ทรมานเพียงใดเพื่อการไถ่บาปเหล่านี้ให้เรา

ผมได้ยินแล้วสะเทือนใจมากและเสียใจที่ไม่เคยรักพระองค์ เหมือนกับที่ผมมีความผูกพันและรักแม่พระ เพราะแม่พระคือแม่ของมนุษย์ทุกคน ผมไม่เคยจะนึกถึงพระเยซูเจ้าเลยแม้แต่ในยามถูกประจญ

เมื่อผมกลับมาถึงบ้าน ผมนึกถึงงานที่ผมรับอาสาว่าจะทำให้คุณพ่อวิจิตร ผมเลยไปหยิบมาดูก็ปรากฏว่า เป็นบทภาวนาต่อพระรูปของพระเยซูเจ้า และบทนพวารแด่พระหฤทัยอันศักสิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า ข้อความในบทภาวนาทำให้ผมต้องร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ บทภาวนามีดังนี้

“ ข้าแต่พระเจ้า, ลูกเชื่อในพระองค์, ลูกนมัสการพระองค์, ลูกหวังในพระองค์, และลูกรักพระองค์
ลูกกราบขอสมาโทษ, แทนคนที่ไม่เชื่อในพระองค์, ไม่นมัสการพระองค์, ไม่หวังในพระองค์, และไม่รักพระองค์ ”

พระเยซูเจ้าได้มาคอยผมอยู่ที่บ้านนี้นานแล้ว แต่ผมไม่เคยเปิดใจหาพระองค์เลยสักครั้ง ผมจึงรำพึงกับพระเยซูเจ้าว่า

“พระเยซูเจ้าข้า แม่พระได้มาสอนให้ลูกรู้จักที่จะรักพระองค์ แต่ด้วยความโง่เขลาของลูกเอง ที่ไม่สามารถทำความเข้าใจกับคำ สอนของพระแม่ได้ บัดนี้ลูกได้ตาสว่างแล้ว ลูกจะพยายามหลีกเลี่ยงการเสี่ยงต่อการถูกประจญ การต้องตกอยู่ในบาปหนักทั้งหลาย เพราะลูกได้ตระหนักใจแล้วว่าพระองค์ทรงรักมนุษย์ทุกคนเพียงใด”
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 25, 2006 1:29 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 25, 2006 1:12 am

คุณพ่อทางฝ่ายวิญญาณ
วันเสาร์ที่ 21พฤษภาคม 2548 เวลา 22.43-23.05น.

วันนี้ผมและครอบครัวไปหาคุณพ่อที่บ้านพักพระสงฆ์ตั้งแต่เวลาประมาณบ่ายสาม โมง ท่านได้กรุณาทำพิธีมิซซาให้เป็นพิเศษสำหรับญาติผู้ล่วงลับของเรา ผมประทับใจในความเมตตาของท่านมาก แม้พวกเราจะเป็นคนกลุ่มเล็กๆเพียงไม่กี่คน แต่ท่านก็ได้กรุณาสละเวลาอันมีค่าของท่านให้กับพวกเราอย่างมากมาย
ค่ำวันนั้นพวกเราได้อยู่ร่วมถวายบูชามิซซาอีกครั้งในเวลา 19.30น. หลังจากนั้นเราก็ตามคุณพ่อไปสวดสายประคำที่บ้านพักพระสงฆ์อีก ในระหว่างสวดสายประคำอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงของแม่พระบอกให้ผมขอต่อคุณพ่อ ให้ท่านได้เป็นคุณพ่อทางฝ่ายวิญญาณของผม และให้ผมคอยปกป้องคุณพ่อด้วย

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่านเป็นเวลานานถึง 7 ชั่วโมง โดยที่เราไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลยแม้แต่สักนิด

ในเวลาประมาณ 22.30น. เมื่อกลับมาถึงบ้าน บรรดาญาติพี่น้องของผมก็อยากฟังสาสน์จากแม่พระต่อกันอีก เพราะวันนี้เราได้ยินข้อความสั้น ๆ เพียง 2 ประโยคเท่านั้น ผมก็บอกว่าแม่พระได้ให้สาสน์แล้ว ถ้าขอแม่พระอีกครั้งผมก็ไม่แน่ใจว่า แม่พระจะให้สาสน์แก่เราอีกหรือไม่ ผมเฝ้ารออยู่นานพอสมควร และแล้วแม่พระ ก็ได้เริ่มต้นประทานสาสน์แก่ผมอีกครั้ง

“ลูกที่รักทั้งหลาย แม่ขอขอบใจที่คอยเฝ้าสาสน์ของแม่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้แม่เป็นผู้นำทางพวกลูกมาเอง จะมีใครคิดบ้างไหมว่า ลูกจะต้องอยู่กับคุณพ่อนานถึงขนาดนี้ เป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่ให้โอกาสลูกได้ใกล้ชิดกับคุณพ่อผู้เต็ม เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความเมตตา วันนี้แม่เองเป็นผู้ที่บอกลูกให้แจ้งแก่คุณพ่อว่า ท่านคือคุณพ่อแห่งวิญญาณของลูก

แม่ปีติยิ่งนักที่เห็นลูกได้เดิน ตามทางที่แม่กำหนดไว้มาตลอด ทุก ๆ คนที่ลูกได้พบคือคนที่แม่ต้องการให้ลูกได้รู้จัก เขาเหล่านั้นจะมีส่วนให้งานของลูกดำเนินไปได้ ถึงแม้จะมีอุปสรรค แต่ด้วยความที่เขาได้ประสบมาก่อน เขาจะสามารถแนะนำลูกได้

จง ภูมิใจเถิดว่าวันนี้ ญาติพี่น้องทั้งหมดของลูกที่ไปสวดอยู่ต่อหน้าแม่ พระผู้เป็นเจ้าทรงพอพระทัยเป็นอันมาก จงอย่าลืมคำสอนที่คุณพ่อได้ เทศน์ในวัดวันนี้ จงกลับไปทบทวนให้ดีว่าอะไรคือสาสน์จากแม่

จงให้ ความรักโดยไมมีเงื่อนไข โดยไม่หวังผลตอบแทน หลายคนซึ่งลูกแม้จะรู้ว่าเขาเหล่านั้นจะทอดทิ้งน้ำใจของลูก จงอย่าละความพยายามสวดขอภาวนาต่อพระเป็นเจ้า พลังแห่งความรักจะแผ่ทั่วไปจากตัวลูกไปถึงคนรอบข้าง จากคนรอบข้างจะกระเถิบกว้างออกไป พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงมีความรักที่ยิ่งใหญ่แก่มนุษย์ทุกคน จงพยายามเปิดใจต้อนรับพระผู้เป็นเจ้า ให้เข้ามาสถิตย์ในดวงใจของลูก ลูกจะได้พบกับสันติสุขอย่างแท้จริง

วันนี้ลูกจำได้ไหมที่คุณพ่อบอก ว่า จงขอเถิดแล้วลูกจะได้รับ จงแสวงหาเถิดแล้วลูกจะพบ จงเคาะประตูเถิดแล้วเขาจะเปิดประตูรับลูก นี่เป็นแผนการของพระองค์ ให้พวกลูกทั้งหลายได้มีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันนี้ ขอให้วางใจในพระองค์ จงมอบชีวิตและจิตใจของลูกถวายแด่พระองค์ ในกิจการแต่ละวันจงกระทำเพื่อสรรเสริญพระองค์ ขอให้ลูกแต่ละคนกลับไปทบทวนดูว่า วันนี้ลูกได้เรียนรู้อะไรบ้าง จงฟังเสียงในหัวใจของลูกแล้วจงกระทำตามนั้นเถิด

ขอบใจ แม่ได้ยินเสียงพูดของลูก
(วันนี้แม่ผมพูดเปรย ๆ ขึ้นมาว่า อยากถูก ล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ ๆ สักครั้ง เพื่อจะได้เอาเงินไปทำบุญต่อเติมหลังคาวัดที่ยังสร้างค้างทิ้งไว้อยู่) แม่ไม่ได้หวังเงินทองหรือสิ่งของอันใด ทุกอย่างจะเป็นไปตามแต่พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ขอให้เพียงแต่ใจของลูกอยู่กับพระองค์ สิ่งที่ลูกพูดถึงในวันนี้ ลองกลับไปทบทวนใหม่ว่าลูกอยากได้เงินไปเพื่ออะไร

จงพอใจในสิ่งที่ พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่ลูกและครอบครัวของลูก เงินแม้เพียงน้อยนิด แต่ถ้ามาจากหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ให้ด้วยจิตใจที่แท้จริงของลูก แม่ก็พอใจแล้ว จงเหลียวดูคนอื่นที่อยู่รอบข้างลูกว่าเขาลำบากกว่าลูกเพียงใด พวกลูกได้พระพรของพระผู้เป็นเจ้า ให้มีความสงบสุขยังไม่พอใจอีกหรือ ขอให้คิดดูให้ดี ๆ คิดเสียใหม่ พระผู้เป็นเจ้าต้องการแต่วิญญาณที่บริสุทธิ์ของพวกลูกเท่านั้น ไม่ได้หวังเงินทอง ขอให้รักพระองค์ด้วยสิ้นสุดหัวใจของลูกเท่านั้น ลูกเข้าใจคำที่แม่พูดหรือไม่ จงพอใจในสิ่งที่พระองค์ประทานให้ลูก”
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 25, 2006 1:26 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 25, 2006 1:13 am

รับสาสน์ต่อหน้าคุณพ่อเป็นครั้งแรก
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2548 เวลา 01.00-01.30น.

ค่ำวันนี้ผมได้มีโอกาสไปพบกับน้อง ๆ กลุ่มเยาวชนผู้แพร่ธรรมกลุ่มเดิม ที่บ้านพักพระสงฆ์ พอผมเปิดประตูเข้าไปก็ได้สัมผัสกับความอบอุ่นและความรักที่ทุกคนมีต่อกัน ทำให้ผมอยากอายุน้อยกว่านี้สัก 30 ปีจะได้สมัครมาร่วมเป็นสมาชิกด้วย

ค่ำวันนั้นผมลืมกินยาลดความดันโลหิตไป พอยิ่งดึกประกอบกับการที่นอนพักผ่อนไม่พอติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ทำให้ผมเริ่มรู้สึกหน้าตึง ๆ ความรู้สึกข้างในตัวผมบอกว่า ผมกำลังจะวูบอีกแล้ว ผมจึงขอให้คุณพ่อกรุณาให้พรผมด้วย ผมได้ยิน เสียงสวดภาวนามาจากน้อง ๆ ทุกคนที่ล้อมรอบอยู่ในห้องนั้น ฟังเหมือนเป็นเสียงจากสวรรค์ ทำให้ผมปลื้มใจมากที่ทุกคนได้ให้ความรักแก่ผมถึงเพียงนี้
และเมื่อคุณพ่อเอามือมาปกที่หน้าผากผมก็หมดกำลังและล้มลงทันที ความรู้สึกตอนนั้น ผมลืมตาไม่ขึ้น ตัวเบา และสบายตัวเหลือเกิน ผมไม่อยากไปไหนอีกแล้วนอกจากนอนอยู่ที่นั่น ผมยังคงได้ยินเสียงสวดภาวนามาจากรอบข้างที่ทุกคนต่างส่งพลังใจให้ผม ผมขอขอบคุณทุกคนไว้ ณ ที่นี้ ผมไม่เคยได้รับความรักที่มากมาย ขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต

เป็นเพราะด้วยการหน้ามืดของผมทำให้น้อง ๆ ต้องเปลี่ยนแผน พวกเขาอยากมีโอกาสได้สัมผัสกับแม่พระ โดยผ่านทางผมซึ่งเป็นผู้รับสาสน์ของพระองค์ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่เพราะเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาจากการป่วยเอง แต่ถ้าแม่พระมี พระประสงค์ที่จะให้สาสน์แก่น้อง ๆ แล้ว ผมก็ยินดีที่จะทำตามน้ำพระทัยของแม่พระ ผมต้องขอขอบคุณน้องคนหนึ่งที่ช่วยบันทึกสาสน์ของแม่พระไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากผมไม่สามารถจดจำสาสน์ทั้งหมดได้อีกหลังจากที่แม่พระได้หยุดให้ สาสน์แล้ว ผมขออนุญาตนำมาลงไว้ ณ ที่นี้นะครับ เพื่อให้ผู้ที่ไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นี้ได้ทราบสาสน์ของแม่พระด้วยเช่น กัน ในเวลานั้นผมรู้สึกว่าแม่พระได้ลอยอยู่สูงที่ผนังห้องด้านหลังเหนือโต๊ะทำ งานของคุณพ่อ พระแม่ได้ทรงประทานสาน์แก่น้อง ๆ ดังนี้

“ลูกที่รักทั้งหลาย แม่ปีติยิ่งนักที่วันนี้พวกลูกได้มารวมตัวกันที่นี่ สิ่งทั้งหลายที่ลูกได้เห็นในวันนี้ และได้แบ่งปันในวันนี้ เป็นประสบการณ์ของลูก ซึ่งพระเจ้าได้ดลใจให้เกิดขึ้น

วันนี้เป็น วันแรกที่แม่ตั้งใจให้ลูกอยู่กับพ่อ
( แม่พระหมายถึงผม) ให้ท่านได้เห็น ท่านสามารถหยั่งรู้ได้ว่า สิ่งที่ลูกพูดเป็นความจริงหรือไม่

แม่ ปีติเหลือเกินที่เห็นลูกทั้งหลายของแม่หลายคนได้รับการดลใจให้เป็นลูกของพระ ผู้เป็นเจ้า ขอให้พวกลูกจงขอบพระคุณพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจเถิด

วันนี้ ลูกกล้าหาญมาก
(แม่พระหมายถึงผมที่กล้าพูดตามสาสน์ของพระองค์ต่อหน้าคุณพ่อ) ที่เชื่อ และมั่นใจในแม่ว่านี่คือสาสน์ของแม่

ขอให้ทุกคนอย่ากลัวแม้ภารกิจใน ภายหน้าจะยากลำบาก พระเจ้าจะเป็นผู้นำทางจงวางใจในพระองค์ ความรักที่ไม่สิ้นสุดของพระองค์ จะนำเจ้าเดินทางไปในหนทางที่พระองค์กำหนด จงวางใจในพระองค์ ”
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 25, 2006 1:57 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 02, 2010 1:36 am

การบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า
หน้าถ้ำแม่พระ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2548 เวลา 03.45-04.30 น.

ค่ำวันเสาร์ที่28นี้ฝนตกหนักมาก จนพวกเราต้องถอยมาตั้งหลักสวดกันที่หน้าวัดแทน ในคืนนี้พวกเราได้มีสมาชิกจากกลุ่มเยาวชนผู้เผยแพร่ธรรมกลุ่มดังกล่าวมาสมทบ เพิ่มขึ้นอีก 3 คน พวกเราได้สวดภาวนาตั้งแต่ 21.30 น. จนถึง 03.30 น. เพื่อถวายแด่แม่พระ ในระหว่างนั้นผมรู้สึกได้ว่าแม่พระได้มาอยู่ท่ามกลางพวกเรานานแล้ว ผมจึงขอให้พวกเราเงียบเสียงการสนทนาลง เพื่อที่ผมจะได้มีสมาธิในการรับสาสน์ของแม่พระ หลังจากที่เสียงเงียบลงไม่นาน ผมก็เริ่มได้รับสาสน์จากแม่พระดังนี้

“ลูกที่รักทั้งหลาย แม่ขอขอบใจ แม่ปีติยิ่งนักที่ได้มีสมาชิกใหม่มาสวดภาวนาในคืนนี้ แต่ละคนได้รับการเลือกสรรค์จากพระผู้เป็นเจ้าให้มาทำหน้าที่ในโลกนี้ แม่ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะเป็นคริสตชนด้วยความยินดียิ่งนัก(กลุ่ม เยาวชนที่มามีน้องที่กำลังจะล้างบาปด้วยคนหนึ่ง) คืนนี้แม่ได้ยินการสวด ภาวนาของพวกลูก โดยเฉพาะบทสวดภาวนาของแม่ที่ให้ไว้แก่อาเดเรีย ลูกไม่ต้องสวดบ่อยขนาดนี้ก็ได้ (แม่พระขำที่ผมนำสวดมากไป จนดูเหมือนเป็นบทสร้อย จึงขาดความศักสิทธิ์ไป) แม่ขอแต่เพียงให้เผยแพร่บทสวดนี้ให้คริสตชนชาวไทยทั้งหลายได้รู้จัก เพื่อเขาจะได้มาพึ่งพาและขอความช่วยเหลือจากแม่ ผู้ใดก็ตามที่สวดบทภาวนาของแม่นี้ จะได้พระพรจากพระผู้เป็นเจ้าเป็นพิเศษ

แม่ดีใจเหลือเกินที่พวกเจ้าแต่ละคนได้เริ่มต้นเรียนรู้ว่า แต่ละคนมีความสามารถอะไร ลูกคงไม่คิดว่าเป็นการบังเอิญใช่มั๊ยที่อยู่ ๆ ลูกก็สามารถทำอะไรขึ้นมาได้
(แม่พระหมายถึงแต่ละคนที่ได้รับพระพรจากพระผู้เป็นเจ้า เมื่อมารวมตัวกัน ทำให้สามารถทำงานที่พระองค์ได้มอบหมายได้) ผู้ที่มีความเชื่อในพระผู้ เป็นเจ้าย่อมได้รับการตอบสนองจากพระองค์เสมอ ผู้ที่เจ็บป่วยก็จะได้รับการรักษาโดยพระพรของพระเยซูเจ้า

บรรดาพวก เจ้าที่อายุมากแล้ว ร่างกายต่างทรุดโทรม แม่ขอขอบใจที่พวกลูกยังอุตส่าห์อดทนมาหาแม่ด้วยความรักอย่างแท้จริง สิ่งนี้จะเป็นพยานแห่งความเชื่อหลังจากชีวิตของพวกลูกหาไม่แล้ว เราจะได้พบกันในสวรรค์

ต่อไปนี้อาจจะถึงเวลาที่สมาชิกผู้อาวุโสหลาย คน
(แม่พระหมายถึงผู้ที่มาสวดติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานถึง16ปี) อาจจะไม่สามารถมาได้อีก (เสียงของแม่พระเศร้าลง) แต่ถึงเขามาไม่ได้ เขาสามารถส่งใจมาหาแม่ได้ แม่ให้สัญญาว่าในวันสุดท้ายแห่งชีวิตของพวกลูกมาถึง แม่จะอยู่ที่นั่น จงจำคำของแม่ไว้

สิ่งที่ลูกได้ยินวันนี้บางอย่างขอให้เปิดเผย เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น มิฉะนั้นจะเกิดผลร้ายที่ ลูกนึกไม่ถึง ….. ข้อความส่วนต่อไปนี้ขาดหายไปเพราะเป็นส่วนต้นของม้วนเทปที่อัดเสียงไม่ติด แต่ผมสวดขอแม่พระให้ทรงพระกรุณาตรัสเพิ่มเติมสาสน์ในส่วนที่ขาดหายไปด้วยดัง นี้

“... จิตใจมนุษย์แต่ละคนนั้นยากเกินกว่าที่ลูกจะเข้าใจ การแสวงหาผลประโยชน์ และไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีกว่าเกิดขึ้นได้เสมอ….”

แต่ จงอย่าหวั่นไหวในทุก ๆ สิ่ง พระผู้เป็นเจ้าได้กำหนดเส้นทางให้พวกลูกแล้ว จงเดินตามเส้นทางนั้นเถิด จงมีสติ จงอดกลั้น และให้อภัย แผ่ความรักความเมตตาในตัวลูกไปยังคนรอบข้าง ถึงแม้ลูกจะรู้ว่า เขาจะทิ้งขว้างความมีน้ำใจของลูกก็จงให้อภัย จงดูตัวอย่างของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงรักมนุษย์แค่ไหนพวกลูกก็รู้ดีใช่มั๊ย ท่านคืออาจารย์ของลูก จงเดินตามแนวทางชีวิตของท่าน แล้วชีวิตของพวกลูกจะได้พบแต่สันติสุข

นับ แต่วันนี้ไป ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น ขอให้จิตใจพวกลูกจงมั่นคง อย่าหวั่นไหว จงอยู่ในพระหรรษทานของพระผู้เป็นเจ้า จงให้ความรักแก่เพื่อนมนุษย์ทุกคน แล้วผลแห่งการแผ่เมตตาแผ่ความรักนั้นจะกลับมาหาตัวลูกเอง แม่ให้สัญญา”
ตอบกลับโพส