+ เดือน กค.48 คำเตือนเรื่องภัยพิบัติ และการทำพลีกรรม +

รวมสารการประจักษ์แม่พระที่ลำไทร สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสุภาพ และไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใด ๆ ในบอร์ดนี้
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 25, 2006 2:39 am

คำเตือนเรื่องภัยพิบัติ และการทำพลีกรรม
วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2548 เวลา 22.40-22.58น.

ในค่ำวันนี้พวกเราได้สวดภาวนากันแล้ว 1 รอบ ในระหว่างที่รอพี่สาวของผมกลับมาจากที่บ้านตรอกจันทร์ เพราะพวกเราตั้งใจจะไปวัดทำนพวารที่วัดด้วยกัน แต่พี่สาวของผมกลับมาไม่ทัน เพราะอยู่ดี ๆ ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ในขณะขับรถไปส่งลูก ๆ ที่บ้านตรอกจันทร์ พี่สาวของผมสวดขอแม่พระอยู่ในใจตลอดเวลา ขอให้ได้พาครอบครัวกลับไปถึงบ้านอย่างปลอดภัย เพราะในตอนนั้นในสมองรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะไปไหนเหมือนกับขาดสติไปชั่วคราว พอถึงที่บ้านที่ตรอกจันทร์จึงต้องนอนพักทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ง่วงนอนแต่อย่างใด เหมือนกับว่ามีอะไรสักอย่างต้องการให้พี่ผมกลับมาบ้านที่เมืองนนท์ไม่ทัน จะได้ไม่มีใครออกไปวัดกันในค่ำนี้ และพวกเราก็ไม่ได้ไปวัดกันจริง ๆ

พี่สาวของผมกลับมาถึงบ้านที่เมืองนนท์อีกทีก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว พวกเราจึงชวนกันสวดอีก 1 รอบเพื่อรอฟังสาสน์จากแม่พระ คืนนี้พี่สาวของผมรู้สึกเหมือนกับว่าเห็นภาพของแม่พระนิจจานุเคราะห์แว๊บ เข้ามาในสมอง แม่พระคงต้องการบอกอะไรกับพวกเราสักอย่าง และแล้วเวลานั้นมาถึง

“ ลูกที่รักทั้งหลาย แม่ขอขอบใจที่ลูกมาสวดภาวนาและรอฟังสาสน์จากแม่ สิ่งทั้ง หลายที่ลูกได้ประสบในระยะนี้เกิดจากการกระทำของปีศาจ พวกมันจะคอยรังควาญพวกลูก ผู้ใดก็ตามที่พยายามเข้าหาพระเจ้าเท่าใด มันก็จะพยายามดึงเขาออกไปจากพระเจ้าฉันนั้น

แม่ขอขอบใจในความตั้งใจ ดีของลูก
(แม่พระหมายถึงพี่สาวของผม) การทำพลีกรรมเป็นเรื่องจำเป็น แล้วสำหรับในเวลานี้ ผู้ที่ทำพลีกรรมจะได้รับพระพรเป็นพิเศษ ปีศาจไม่สามารถทำอันตรายลูกได้ นอกจากนี้ลูกยังมีฤทธิ์กุศลที่จะส่งไปให้ผู้อื่นได้รอดจากบาปพยศชั่วต่าง ๆ ได้

แม่ได้เตือนเรื่องนี้ไว้แล้วถึง 2 หน ครั้งนี้ก็เช่นกัน แม่ยังยืนยันให้พวกเจ้าทั้งหลาย ทำพลีกรรมเพื่อชดเชยบาปของทั้งตัวลูกเอง และของคนบาปทั้งหลาย

ภัยพิบัติต่าง ๆ ได้มารออยู่เบื้องหน้าแล้ว จากความคิด จากจิตชั่วร้ายที่ทำให้มนุษย์ต้องตกอยู่ในบาป ความเห็นแก่ตัว ความอยากได้ ความอยากเป็นใหญ่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติมากมาย

พระบิดาเจ้าได้ส่งแม่ มาเตือนลูกครั้งหนึ่งแล้ว แม่ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า จะไม่มี ผู้ใดรอดพ้นจากภัยพิบัตินี้ไปได้ถ้าปราศจากการภาวนา การทำพลีกรรมอุทิศให้คนบาปทั้งหลายได้กลับใจ

ตัวลูกเป็นคนหนึ่งที่ ได้รับการเลือกสรรค์จากพระผู้เป็นเจ้าแล้ว
(แม่พระหมายถึงพี่สาวของผม) การ ทำพลีกรรมของลูกจะสามารถช่วยคนได้มากมาย ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติจากน้ำมือของมนุษย์ด้วยกันเอง

จงบอกกันต่อ ๆ ไป การทำพลีกรรมต้องมาจากจิตใจที่แท้จริง ลูกจะสามารถช่วยได้แม้กระทั่งวิญญาณที่อยู่ในไฟชำระ

จงบอกลูกหลาน ของลูก พระบิดาเจ้าไม่อยากเห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลย แต่เพราะบาปของมนุษย์และจิตชั่วร้ายทำให้มนุษย์ต้องทำลายล้างกันเอง

สถานการณ์ ตอนนี้ยังเป็นขนาดนี้ ยิ่งวันก็จะยิ่งหนักไปกว่านี้ ขอให้ทุกคนเร่งการสวดภาวนา ขออภัยต่อพระบิดาเจ้าถึงบาปที่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลายได้กระทำ พระองค์ไม่ต้องการเห็นการทำลายล้างนี้เกิดขึ้นอีกเลย

แม่ขอภาวนา ให้พวกลูกทุกคนอยู่ในศีลในพรของพระผู้เป็นเจ้าตลอดไป ”
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 25, 2006 2:51 am

ภาพลักษณ์ของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ
วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2548 เวลา 23.20-23.45น.

ค่ำวันนี้ผมและพี่สาวได้ไปทำนพวารที่วัดในเวลา 19.30น. เมื่อกลับ จากวัดมาถึงบ้านก็ประมาณ21.00น. วันนี้ผมยังไม่ได้ทำพลีกรรมตามที่ได้สัญญาไว้กับแม่พระเลยว่า ในทุก ๆ วันเสาร์ผมจะสวดสายประคำ 5 สายเพื่อเป็นการทำพลีกรรมถวายแด่แม่พระ
คืนนี้ผม พี่สาว แม่และน้าสาวก็มาร่วมกันสวดทำ พลีกรรมด้วยกันจนกระทั่งสวดครบทั้ง 5 สาย น้าผมถามว่าคืนนี้แม่พระจะมามั๊ยนะ พี่สาวผมกล่าวเสริมว่าคืนนี้ยังไม่เห็นแม่พระเลย ผมจึงบอกกับทุกคนว่าขอเวลาให้ ผมหน่อย ถ้าเป็นพระประสงค์ของแม่พระแล้ว พวกเราจะได้รับสาสน์จากพระแม่เอง คืนนี้ผมนั่งรอรับสาสน์จากแม่พระเป็นเวลาค่อนข้างนานพอสมควร ไม่มีความรู้สึกใด ๆ ผ่านเข้ามาในจิตของผมเลยว่าแม่พระได้มาอยู่กับพวกเราที่นี่
ผมเฝ้ามองดูรูปปั้นของแม่พระฟาติมาอยู่ตลอดเวลา และในใจคิดแต่เพียงว่าขอให้ลูกมีโอกาสได้พบพระแม่ในคืนนี้ด้วย และแล้วจิตชั่วร้ายก็เริ่มก่อกวนผมด้วยการทำให้ความเชื่อมั่นในแม่พระเริ่ม สั่นคลอน มันทำให้ผมไม่แน่ใจว่าจะได้พบกับแม่พระในคืนนี้ นี่แหละจิตมนุษย์ช่างอ่อนไหวเสียเหลือเกิน อะไรนิดอะไรหน่อยผ่านเข้ามาก็โอนเอนตามไปเสียแล้ว แต่แม่พระก็มาช่วยผมไว้ทันก่อนที่ผมจะเสียความเชื่อไปมากกว่านี้ ผมได้ยินเสียงของแม่พระทรงตรัสกับผม รูปปั้นของแม่พระฟาติมาเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผมรู้ได้ในทันทีว่าบัดนี้แม่พระได้มาอยู่กับพวกเราแล้ว และผมก็เริ่มเปิดเครื่องบันทึกเสียงไว้ทันที

“แม่ขอขอบใจลูกทั้ง หลายที่ตั้งใจสวดภาวนาเป็นอย่างดีในวันนี้ การทำพลีกรรมต้องออกมาจากจิตใจที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะมีผล
(คืนนี้ผมกับพี่สาวคุกเข่าสวดสายประคำจนครบ 5 สาย เจ็บหัวเข่าทั้ง 2 ข้างมากและปวดหลังบางขณะก็เริ่มท้อแท้ ว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ เพราะผมไม่เคยคุกเข่าสวดนานเช่นนี้มาก่อน ท่านใดที่เคยคุกเข่าสวดเป็นเวลานาน ๆ คงจะชินและไม่บ่นอยู่ในใจเหมือนผมที่เพิ่งจะเริ่มทำ และขาดความอดทน แต่เมื่อนึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าแล้ว ความรู้สึกของผมแค่นี้เทียบอะไรไม่ได้เลยกับพระมหาทรมานของพระองค์ จึงเริ่มมีกำลังใจและได้ขอยกถวายความทรมานนี้แด่แม่พระและพระเยซูเจ้า)

สิ่ง ทั้งหลายที่ลูกวอนขอจากแม่ แม่ได้ยินโดยตลอด แม่ไม่เคยทิ้งสัญญาของแม่ที่ให้แก่ลูกไว้ว่า แม่จะมาพบพวกลูกที่นี่ทุก ๆ วันเสาร์ คืนนี้ก็เช่นกันแม่ก็ได้มาตามคำสัญญาของแม่แล้ว

ในหลาย ๆ สิ่งที่ลูกวอนขอแม่นั้น บางอย่างแม่มิสามารถให้คำตอบลูกในเวลานี้ได้และจงวอนขอพระบิดาเจ้าในสรวงสวรรค์ต่อไปเถิด เมื่อถึงเวลาอันสมควรลูกก็จะได้รับคำตอบจากพระองค์ในจิตใจของลูกเอง

สิ่งที่ลูกวอนขออยากจะเห็นแม่ในภาพลักษณ์เช่นเดียวกับที่อาเดเรียได้เห็นแม่นั้น ขึ้นอยู่กับระดับคุณค่าทางจิตใจของแต่ละคนที่มีไม่เท่ากัน
(ผมสวดขอแม่พระว่าถ้า ไปสวดที่ลำไทรสิ้นเดือนนี้ขอให้ผมได้มีโอกาสได้เห็นแม่พระเหมือนกับที่อาเด เรียได้เห็น จะได้มีรายละเอียดไปให้ช่างวาดภาพตามการประจักษ์ที่อาเดเรียได้เห็น แต่แม่พระก็ได้บอกให้ผมเข้าใจว่าทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับระดับของจิตใจของแต่ ละคนด้วย)

นั่นคือที่มาของการมองเห็นการประจักษ์ของแม่ ณ ที่เดียวกัน บางคนก็มองไม่เห็นอะไรเลย บางคนก็มองเห็นแม่ในรูปแบบที่เขาต้องการจะเห็น และบางคนก็สามารถเห็นแม่ได้ในรูปแบบที่แม่ต้องการให้เขาเห็น สิ้นเดือนนี้ 1 ในจำนวนของพวกลูกจะมีโอกาสได้เห็นแม่ในลักษณะที่ใกล้เคียงกับที่อาเดเรียได้ เคยเห็น (ผู้ที่จะได้เห็นนั้นไม่ใช่ผม) เขาจะเป็นผู้บอกแก่ลูกว่า เขามองเห็นแม่อย่างไร เป็นพระพรพิเศษจากพระบิดาเจ้าในสรวงสวรรค์ที่ประทานให้เขาผู้นั้นได้มีโอกาส เห็นแม่ในภาพลักษณ์ที่ทุกคนกำลังค้นหา

แม่ขอบอกพวกลูกว่า ไม่ว่าลูกจะเห็นแม่หรือไม่ ในรูปลักษณ์แบบใดก็ตาม จงมั่นใจเถิดว่านั่นคือแม่ที่ได้มาพบพวกลูกตามคำสัญญา (
ในบางครั้งผมก็ไม่สามารถมองเห็นแม่พระในทางจิต แต่ผมก็สัมผัสถึงพลังแห่งความรักความเมตตาของแม่พระได้)

ไม่มีผู้ใดเคยได้เห็นแม่อย่างแท้จริง ภาพที่เขาได้เห็นขึ้นอยู่กับระดับจิตใจของเขาเอง จงอย่าห่วงถึงเรื่องภาพลักษณ์ของแม่ ไม่จำเป็นที่ต้องสร้างภาพขึ้นใหม่ที่เป็น แบบเฉพาะสำหรับพวกลูกที่นี่ ในทุก ๆ ครั้งที่ลูกเห็นแม่ จากรูปภาพ จากรูปปั้น หรือ แม้แต่ในจิตใจของพวกลูก นั่นก็คือภาพของแม่ในส่วนที่ลูกพึงจะได้เห็น จงพอใจเถิดว่า ถึงแม้ลูกจะไม่ได้เห็นแม่เหมือนกับที่อาเดเรียได้เห็น แต่ลูกก็ได้ พบแม่ในจิตใจของลูกอยู่แล้ว (ผมขอบคุณแม่พระที่ทำให้ผมเข้าใจถึงการยก ระดับทางจิตใจว่า ผมคงต้องพัฒนาจิตใจอีกนานกว่าจะถึงระดับของอาเดเรียได้)

เวลานี้ มีเรื่องที่สำคัญมากกว่าคือการทำพลีกรรมเพื่อชดเชยบาปให้คนทั้งหลายได้กลับ ใจมาหาพระผู้เป็นเจ้า ฤทธิ์กุศลจากพลีกรรมจะช่วยคนทั้งหลายได้รอดจากบาป จากภยันตรายต่าง ๆ และสามารถช่วยวิญญาณทั้งหลายให้รอดได้ ขอให้พวกลูกจงเร่งทำสิ่งนี้ก่อนเถิด เมื่อถึงเวลาอันสมควรพวกลูกก็จะได้เห็นแม่ในภาพลักษณ์ที่แม่จะต้องการให้ ลูกเห็นเอง จงเร่งการสวดภาวนาและทำพลีกรรมเถิด”
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 25, 2006 2:59 am

คำเตือนครั้งที่4
ค่ำวันเสาร์ที่ 16 ผมและพี่สาวได้ไปทำนพวารที่วัดมารีสวรรค์เช่นเคย แต่กว่าจะได้กลับมาบ้านสวดพร้อมกันก็เวลาประมาณ 22.30น.เข้าไปแล้ว คืนนี้พวกเราสวดกันเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน แต่วันนี้ผมยังไม่รู้สึกง่วงนอนเพราะคิดว่าคืนนี้ผมคงได้พบกับแม่พระอีก เป็นแน่ ผมนั่งรออยู่นานพอสมควรจนกระทั่งผมเริ่มได้ยินเสียงของแม่พระทรงตรัสกับผม ว่า

“ลูกที่รักทั้งหลาย”

อยู่สองสามครั้ง ผมจึงรู้ว่าแม่พระได้มาพบพวกเราตามสัญญาแล้ว วันนี้เสียงของแม่พระเศร้าเหลือเกิน ผมรับความรู้สึกได้ว่าแม่พระทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมากที่เห็นมนุษย์ตกอยู่ ในบาปมากมายเช่นนี้ พี่สาวของผมบอกว่าในขณะที่ผมรับสาสน์อยู่นั้น พี่สาวผมเห็นแม่พระแห่งเหรียญอัศจรรย์และไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าลอยอยู่ เหนือบ้านของพวกเรา สาสน์ของแม่พระมีดังนี้

“ลูกที่รักทั้งหลาย แม่ขอขอบใจพวกลูกเป็นพิเศษในวันนี้ที่ได้ตั้งใจสวดภาวนาและทำพลีกรรมตามที่ พวกลูกได้สัญญาไว้ ถึงแม้จะเป็นคนเพียงจำนวนเล็กน้อย แต่ด้วยฤทธิ์กุศลเป็นที่พอพระทัยของพระผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก พระองค์ได้ประทานพระพรผ่านมายังพวกลูกทั้งหลาย (ไปสู่มนุษย์ทั้งมวลที่ได้ละทิ้งพระองค์ไป)

ทุกครั้งที่มีการ สวดภาวนาและการทำพลีกรรม ลูกสามารถช่วยวิญญาณได้อย่างน้อยที่สุด 1 ดวง หรืออาจจะมากกว่านี้ตามแต่ความมุ่งมั่นของลูก

เป็นพระประสงค์ของ พระองค์ให้มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่ลูกได้ประสบ ทุกอย่างเป็นพระประสงค์ของพระองค์ให้ลูกได้มีส่วนได้รับรู้และอยู่ใน เหตุการณ์ทั้งหลาย

แม่ขอยืนยันว่า ลูกทั้ง 2 คนได้รับการเลือกสรรรค์จากพระผู้เป็นเจ้าให้ทำงานให้พระองค์ด้วยวิธีการที่ แตกต่างกัน จงน้อมรับตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด ขอโปรดวิงวอนพระองค์ อย่าให้ทุกสิ่งเป็นไปตามความต้องการของลูกแต่ละคนเลย
(แต่ลูกขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ด้วยเถิด พระเจ้าข้า)

วันนี้ พระบุตรสุดที่รักของแม่ได้มาอยู่ต่อหน้าพวกลูกทั้งหลาย พระองค์ได้ทรงเมตตาต่อครอบครัวของลูก จงอย่าลืมว่าในทุก ๆ วัน ขอให้ลูกยกถวายกิจการทั้งหมด และแบกกางเขนร่วมกับพระมหาทรมานของพระองค์เถิด

ทั้งนี้เป็นพระ ประสงค์ของพระองค์ ที่จะให้พวกลูกได้เป็นตัวแทนของคนกลุ่มน้อย ๆ ที่มีความเชื่อมั่นและรักในพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจของลูก

แม่ยัง ยืนยันภัยพิบัติทั้งหลาย มิอาจสงบลงได้ถ้าปราศจากคำภาวนาและการทำพลีกรรมจากพวกลูกทั้งหลาย พระบิดาเจ้าทรงเศร้าพระทัยยิ่งนัก ที่เห็นมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งสร้างของพระองค์ เข่นฆ่ากันเอง ทำลายล้างกันเอง

โอ้… บาปของมนุษย์ช่างมากมายเสียจริง ๆ ในสิ่งที่เขาคิด ทุก ๆ สิ่งที่เขาตัดสินใจ และกระทำ เขาฟังจิตชั่วร้ายในตัวเขาเอง แทนที่จะฟังคำเตือนจากบรรดาเทวดาอารักษ์ขาทั้งหลาย เขาทำไปด้วยความโลภ ความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุด ความอิจฉาไม่อยากให้ใครได้ดีกว่าตนเอง บาปเหล่านี้มนุษย์ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่พวกเขาไม่เคยตระหนักใจเลยสักนิดว่าเขาได้ทำอะไรลงไป เขาเพียงแต่พอใจไปกับสิ่งที่เขาได้ทำ และได้ผลตามที่เขาคาดหวังเท่านั้น

โอ้…. มนุษย์ผู้น่าสงสาร พวกลูกกำลังถูกดึงไปจากพระเป็นเจ้า ให้ไปอยู่ในที่ไกลแสนไกล ห่างไกลจากพวกเราเหลือเกิน
(แม่พระหมายถึงห่างไกลจากชาวสวรรค์) พวกลูกไม่เคยเปิดใจฟังเสียง คำเตือน คำทักท้วง และคำวิงวอนของพวกเราชาวสวรรค์ที่ไม่อยากเห็นพวกลูกตกอยู่ในบาปเช่นนี้

แม่เศร้าใจยิ่งนัก จะมีสักกี่คนที่ยังคงเชื่อและฟังเสียงของแม่

ขอ ให้ลูกจงเผยแพร่สาสน์นี้ให้แก่ผู้ที่มีความเชื่อทั้งหลาย เพื่อเขาจะได้รู้ ได้เข้าใจว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งแม่มาเตือนเป็นครั้งที่ 4 แล้ว มนุษย์ผู้น่าสงสาร พวกลูกไม่รู้ หรือว่าลูกกำลังทำอะไรอยู่! ”
(เมื่อแม่พระพูดถึงตอนนี้ผมก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ ผมรู้ว่าแม่พระทุกข์ใจเพียงใดเพราะบาปที่มนุษย์อย่างเราได้ทำ)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร มี.ค. 28, 2006 7:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 25, 2006 3:04 am

ภับพิบัติเกิดจากน้ำมือของมนุษย์เอง
วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2548 เวลา 01.40 - 02.05น.

วันนี้ผมมีความสุขใจเมื่อได้รู้ว่าผู้ป่วยท่านหนึ่งที่กลุ่มเยาวชนกลุ่มดัง กล่าวและผมได้ไปเยี่ยมมานั้นเขามีกำลังใจดีขึ้นมาก เขาวางใจและยินดีที่จะทำพลีกรรมถวายแด่แม่พระ และน้อมรับที่จะแบกกางเขนของตนเองต่อไป ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ อาจซื้อหามาได้ด้วยเงินทอง ทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้นเช่นกันที่จะทำงานให้พระต่อไป

คืนนี้แม่ น้าสาว และผมกว่าจะสวดภาวนาเสร็จก็ประมาณ 01.20น.ซึ่งปกติเลยเวลานอนของผมไปนานแล้ว แต่ผมรู้ว่าอย่างไรเสียคืนนี้ผมจะต้องได้พบแม่พระเป็นแน่ ผมจึงเฝ้ารออยู่ที่หน้าพระรูปของพระแม่อยู่นานพอสมควร จนกระทั่งเวลา 01.40น.ผมก็เริ่มได้ยินเลียงของพระแม่ผ่านเข้ามาทางจิต พระองค์ได้ตรัสกับพวกเรา ทั้ง 3 ดังนี้

“ลูกที่รัก วันนี้แม่เฝ้ามองดูลูกอยู่เป็นเวลานานแล้ว การกระทำของลูกในทุก ๆ สิ่งที่ผ่านมาตลอดอาทิตย์นี้ แม่พอใจยิ่งนัก เป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าให้ ลูกเดินหน้าต่อไปตามเส้นทางที่พระองค์ได้ทรงกำหนดไว้ให้แล้ว

จงบอก แก่คนทั้งหลายว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงพอพระทัยที่เห็นมีการทำพลีกรรม การอดอาหาร การสวดภาวนาเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นการกระทำจากบุคคลจำนวนไม่มากนักก็ตาม แต่พระองค์ได้ทรงเล็งเห็นแล้วว่า พวกลูก
(แม่พระหมายถึงทุก ๆ คนที่มีส่วนร่วมในการทำพลีกรรมและสวดภาวนา) มีความรักที่เต็มเปี่ยมที่จะ เสียสละเพื่อผู้อี่น จงทำต่อไปเถิดเพราะสิ่งที่ลูกได้ทำไปนั้นจะได้บำเหน็จรางวัลมากกว่าในสรวง สวรรค์

พระบิดาเจ้าได้ให้แม่มาแจ้งแก่พวกลูกทั้งหลายว่า วิกฤติแห่งความวิบัติทั้งหลายกำลังจะจบสิ้นลง แต่จะเต็มไปด้วยความสูญเสียที่มากมาย

มนุษย์เมื่อตกในความลำบาก อย่างถึงที่สุด เขาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปทางไหนในช่วงสุดท้ายแห่งวิกฤตินั้น เขาจะกลับมาหาพระผู้เป็นเจ้า น่าเสียดายเวลาเหลือเกินที่ ก่อนหน้านี้ทำไมเขาไม่เคยนึกถึงพระองค์

มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เอง เมื่อสุขสบายก็หลงลืมพระเจ้า หลงมัวเมาไปกับความสุขที่ไม่มีแก่นสาร เป็นความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ไม่ใช่ความสุขในชีวิตนิรันดร ในวินาทีสุดท้ายที่พวกเขาต้องลำบากถึงที่สุด เขาจึงนึกถึง ขอโทษองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ให้อภัย วิงวอนพระองค์ให้ช่วยเหลือเขาให้ได้รอด

แม่เศร้าใจยิ่งนัก ทำไมมนุษย์ถึงได้หลงลืมกันมากมายเช่นนี้ รอวินาทีสุดท้ายแล้วค่อยมาขอให้พระองค์ช่วย พวกเขาจะได้อะไรจากการนี้ ในเมื่อตลอดชีวิตที่ผ่านมา พวกลูกไม่เคยคิดแม้แต่เพียงนิดเดียวว่า จะทำอย่างไรให้เป็นที่สบพระทัยของพระผู้เป็นเจ้า

ถึงแม้พระองค์จะ ให้อภัยอยู่เสมอ แต่อย่าลืมว่าสิ่งใดก็ตามที่พวกลูกได้กระทำอันเป็นบาปอย่างมากมาย ถึงพระองค์จะอภัยให้ แต่พวกลูกทั้งหลายก็ต้องชดใช้โทษ นั้นด้วยตัวของลูกเอง

ความรักที่แท้จริงคือการให้อภัย เหมือนอย่างที่พระองค์ได้ทรงให้อภัยแก่พวกลูกทั้งหลาย จงรู้สึกสำนึกเสียเถิดในเมื่อลูกยังมีโอกาสและยังไม่สายเกินไป

พระ เมตตาของพระองค์จะนำพาให้พวกลูกได้รอดจากความทุกข์ยากลำบากนี้ แต่ตราบใดก็ตามที่มนุษย์ยังฟังจิตชั่วร้ายซึ่งอยู่ในจิตใจ คอยบงการให้เขากระทำในสิ่งที่ผิด ๆ ภัยพิบัติข้างหน้าก็จะเกิดขึ้นอีกจากน้ำมือของมนุษย์เอง

มนุษย์ผู้ น่าสงสารทำไมพวกลูกถึงได้ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก บทเรียนที่พวกลูกได้รับยังไม่เพียงพออีกหรือ แม่เศร้าใจยิ่งนัก”
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 25, 2006 3:19 am

จงจำไว้ว่าพวกเจ้าคือลูกทั้งหลายของเรา

หน้าถ้ำแม่พระ วัดพระวิสุทธิวงส์, ลำไทร
วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2548 เวลา 03.30-03.58 น.

วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2548 พวกเราไปถึงลำไทรตั้งแต่ 16.30น. เวลายังมีเหลืออีกมากก่อนที่จะมีการทำนพวารแม่พระนิจจานุเคราะห์ในเวลา 19.00 น. พี่สาวจึงชวนผมไปสวดที่หน้าถ้ำแม่พระก่อนที่จะมืดค่ำ ผมตามไปหลังจากที่พี่สาวผมสวดสายประคำไปได้แล้ว 1 สาย
ในขณะที่ผมเริ่มต้นสวดสายประคำพร้อมกับพี่สาวไปได้สักครู่หนึ่ง ผมได้ยินที่สาวผมบอกว่าแม่พระมาแล้ว ผมตอบกับพี่สาวว่า ผมรู้แล้วเพราะผมเห็นองค์แม่พระวูบวาบอยู่ตลอดเวลาและที่ผนังถ้ำเป็นเหมือน กับภาพสามมิติสามารถมองลึกเข้าไปได้ ผมนึกอยู่ในใจว่าแล้วแต่น้ำพระทัยของแม่ พระที่จะให้ผมได้มีโอกาสได้มองเห็นพระแม่หรือไม่ พอนึกเท่านั้นผมก็มองเห็นองค์พระกุมารทางจิต(เป็นองค์เดียวกับที่แม่พระองค์ อุปถัมภ์ทรงอุ้มอยู่ในพระหัตถ์)
พระองค์ช่างน่ารักเหลือเกิน พระองค์ทรงกำมือเข้าและแบออกหลายครั้ง เหมือนกับเด็กเล็ก ๆ ที่กำลังชวนให้ผมเล่นตามประสาเด็ก ๆ ทำให้ผมรู้สึกว่าวันนี้พวกเราคงโชคดี หลาย ๆ คนคงจะได้เห็นแม่พระในคืนนี้
ก่อนที่จะมืดน้าสาวผมตามมาสวดสมทบด้วยอีก 1 คน ในเวลาใกล้ค่ำเช่นนี้แสงมีไม่พอที่จะมองเห็นบทรำพึง ได้แล้ว แต่พี่สาวผมก็ยังสามารถอ่านได้อย่างสะดวก (ผมมาทราบทีหลังว่าพี่สาว ผมเห็นแสงสว่างส่องลงมาให้อ่านบทรำพึงได้อย่างชัดเจน ไม่รู้เหมือนกันว่าแสงนี้มาจากไหนเพราะยังไม่มีการเปิดไฟที่หน้าถ้ำแต่อย่าง ใด) จนกระทั่งพวกเราได้ยิน เสียงระฆังวัดพวกเราจึงไปเข้าร่วมพีธีมิซซากัน

พีธีมิซซาเลิกประมาณ 20.30 น. พวกเราเริ่มเตรียมหาสถานที่สวดกันในคืนนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาบอกว่าจะมีผมตกอยู่ทั่วไปในระยะสองถึงสามวันนี้ พวกเราจึงเตรียมที่จะสวดกันที่หน้าวัดแทน ในขณะนั้นเองพี่ ๆ อีกหลายท่านได้มาสมทบกับเรา ผมดีใจมากที่สุดเพราะเดือนที่แล้วเราก็ได้สมาชิกมาสวดเพิ่ม 1 คน วันนี้ยังได้พี่ ๆ มาเพิ่มอีก ผมขอในใจกับแม่พระว่าขอให้พี่ ๆ เขาได้ มาหาแม่พระทุก ๆ เดือนจะได้ไหม พี่บอกว่าคืนนี้กลุ่มเยาวชนกลุ่มดังกล่าวก็จะตามมาสมทบด้วยอีกหลายคน ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของป้า ๆ คนจันทน์ว่า “ถ้าพวกเรา ตายกันหมดแล้วจะมีใครมาสวดแทนพวกเราไหม” วันนี้ผมรู้แล้วว่าต้องมีอย่างแน่นอน ขอบคุณแม่พระที่แม่ได้เตรียมหนทางที่จะนำสมาชิกใหม่มาเพิ่มให้กับพวกเรา

พวกพี่ ๆ เขาตั้งใจจะมาหาแม่พระจึงไปสวดกันที่หน้าถ้ำ ผมจึงบอกแก่บรรดาป้า ๆ ทั้งหลายว่า ผมขอไปร่วมสวดกับพี่ ๆ เขาก่อน ถ้าฝนตกแล้วจะย้ายกลับมาสวดที่หน้าวัดตามความตั้งใจแรกที่คิดกันเอาไว้ แต่ดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจที่ไม่มีเมฆฝนเลย ผมคิดในใจว่าเราคงได้อยู่หน้าถ้ำจนถึงเช้าเป็นแน่

พวกเราเริ่มต้นสวดสายประคำแม่พระมหาทุกข์พร้อมกัน แล้วจึงสวดตามด้วยบท นพวารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจ ที่คุณพ่อวิจิตรท่านได้กรุณาเรียบเรียงให้เป็น พิเศษสำหรับการสวดที่หน้าถ้ำแห่งนี้ เราสวดกันอยู่นานพอสมควรผมก็ได้เห็น น้อง ๆ กลุ่มเยาวชนกลุ่มดังกล่าว และคุณแม่ของน้องทั้งสองมาร่วมสวดกับพวกเรา ผมมีความสุขมากจึงมีแรงสวดต่อได้จนยันสว่าง

ผมสวดอยู่ที่ด้านหลังเพราะต้องอาศัยแสงไฟเพื่อก่อนำสวด เนื่องจากด้านหน้าถ้ำ ไฟคงจะเสียจึงค่อนข้างมืดพอสมควร ผมเห็นพี่ ๆ ที่มาเริ่มพูดกันอยู่ข้างหน้า ผมไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร แต่ก็เชื่อว่าพี่ ๆ เขาคงได้เห็นอัศจรรย์บาง อย่างเป็นแน่ (ผมมาทราบทีหลังว่าพี่ ๆ เขาเห็นใบหน้าของแม่พระเปลี่ยนไปเป็นองค์พระเยซูเจ้าทรงมงกุฎหนาม, พระบิดา และเห็นที่ผนังถ้ำลึกเข้าไปเป็นเหมือนกับมองเห็นภาพสามมิติ ผมต้องขออภัยที่ลืมถามพี่ ๆ เขาอย่างละเอียด เลยมีข้อ มูลมาได้เพียงเท่านี้)
จนใกล้เวลาเที่ยงคืนก็มีกลุ่มเยาวชนฯอีก 3 คนตามมาสมทบสวดเพิ่ม แม่พระคงดีใจที่เห็นมีสมาชิกใหม่มาสวดกันเพิ่มขึ้นถึงขนาดนี้ พวกน้อง ๆ ตั้งใจจะอยู่รอรับสาสน์จากแม่พระในเวลาตีสาม ผมเห็นแล้วอดดีใจแทนน้อง ๆ ไม่ได้ที่พวกเขาอายุยังน้อย แต่ได้เลือกที่จะอยู่ในศีลในพรของพระ พวกเขาโชคดีกว่าผมที่กว่าจะได้กลับใจมาหาแม่พระก็เกือบสายไปแล้ว

เวลาผ่านไปเร็วมาก ผมไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงนอนเลย และแล้วเวลาที่พวกเราเฝ้ารอก็มาถึง เมื่อแม่พระได้ทรงตรัสกับผมว่า

“แม่ พร้อมที่จะให้สาสน์แล้ว เครื่องมือที่ลูกนำมาอัดเสียงแม่นั้นพร้อมแล้วหรือยัง”

ผมไม่คอยแน่ใจสักเท่าไหร่ว่าจะอัดเสียงได้หรือไม่ เพราะไม่ค่อยได้ใช้เลยขอให้น้องคนหนึ่งช่วยจดบันทึกสาสน์ของแม่พระให้ที เผื่อว่าผมจะอัดเสียงไม่ติด แม่พระถามผมอีกว่า

“แม่พร้อมแล้ว ลูกล่ะพร้อมแล้วหรือยัง”

ผมจึงเริ่มทำการบันทึกเสียงทันที แม่พระได้ทรงตรัสกับพวกเราดังนี้


“ลูกที่รักทั้งหลายแม่ขอขอบใจลูก ที่พวกลูกมีน้ำใจมาร่วมการสวดภาวนา ณ ที่นี้ เพื่อถวายเกียรติแด่แม่ เพื่อขออภัยบาปแด่ชาวโลกทั้งมวล วันนี้แม่ปีติยิ่งนักที่ได้เห็นมีสมาชิกมาเพิ่มขึ้น พวกเขามาโดยไม่มีใครบังคับ พวกเขามาโดยไม่ได้หวังที่จะพบสิ่งอัศจรรย์ใด ๆ แต่พวกเขามาด้วยความรักที่มีต่อแม่ แม่ขอบใจพวกลูกทั้งหลายยิ่งนัก

ใน ช่วงตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่ได้เฝ้ามองดูพวกลูกทั้งหลายในการดำเนินชีวิตในกิจการแต่ละวันที่ลูกได้ ทำ แม่เห็นทุกสิ่ง ถึงแม้ว่าในบางครั้งลูกได้พลาดพลั้งไป จะด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อลูกได้มาหาแม่ ณ ที่นี้ มาเสนอ วิงวอนต่อแม่ ณ ที่นี้ แม่จะนำสิ่งที่พวกลูกวิงวอนขอนั้น นำเสนอต่อพระผู้เป็นเจ้า ในสวรรค์ในสิ่งต่าง ๆ ที่ลูกได้ทำผิดพลาดไป ถ้าลูกมีความเสียใจอย่างแท้จริง และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำมันอีก ลูกก็จะได้รับการอภัยจากพระบิดาเจ้าในสรวงสวรรค์

เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นและที่ได้เกิดขึ้นในส่วนต่าง ๆ ของโลกนี้ ก็เป็นผลจากบาปของมนุษย์ที่พวกเขายินดีที่จะกระทำมัน ทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่ามันจะมีผลร้ายขึ้นภายหลัง แม่หวังว่าพวกลูกยังคงจำได้ถึงคำที่แม่มาเตือนลูกให้สวดภาวนา และทำพลีกรรมเพื่อขออภัยโทษแทนพวกพ้องของลูก แม่ยังยืนยันคำนั้นอยู่ การสวดภาวนา การทำพลีกรรม ยังไม่สามารถที่จะหยุดยั้งคนใจบาปได้ แม่ได้เคยบอกว่า พระบิดาเจ้าให้มาแจ้งว่า เหตุการณ์ทั้งหลายนั้นกำลังจะจบสิ้นแล้ว มันจะจบสิ้นแต่เพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น คนที่ใจบาปทั้งหลายก็จะเริ่มทำในสิ่งที่ชั่วร้ายอีกเหมือนเดิม

แม่ จึงขอบอกแก่ลูกทั้งหลายว่า วันนี้ไม่ใช่เป็นการบังเอิญที่พวกลูกทั้งหลายได้มา รวมตัวอยู่ ณ ที่นี้ แม่ต้องการให้ลูกได้รับรู้ถึงในสิ่งที่แม่บอก ถ้าลูกมีความเชื่อจงนำสาสน์นี้ไปบอกแก่พี่น้องทั้งหลายของเจ้าเถิด

ความ สงบสุขจะมีอีกเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น แม่เศร้าใจเหลือเกินที่มีคนเพียงไม่กี่คนเข้าใจและยินดีปฏิบัติตามน้ำพระทัย ของพระเป็นเจ้า
สิ่งมัวเมาในโลกนี้มีมากเหลือเกิน แม่เป็นทุกข์ใจที่เห็นลูก ๆ ของแม่กำลังหลงทาง ขอให้พวกลูกทั้งหลายจงนำความเชื่อและความศรัทธา ช่วยกันตักเตือนผู้ที่หลงทางเหล่านั้นให้กลับมาอยู่ในอ้อมพระหัตถ์ของพระ บิดาเจ้า

พวกลูกแต่ละคนยังโชคดีที่ฟังเสียงเตือนในจิตใจของลูก ความรักของพระบิดาเจ้านั้นยิ่งใหญ่ยิ่งนัก แม้เพียงลูกคนหนึ่งของพระองค์วิงวอนและร้องขอพระองค์ก็จะสดับฟัง และไม่ลงโทษทัณฑ์แก่บุคคลที่เขาวิงวอนขอ

แม่ขอบใจในความมีน้ำใจอัน ดีของพวกลูก ถ้าปราศจากบุคคลเยี่ยงลูกแล้ว โลกนี้ก็มิอาจอยู่ได้อย่างสันติสุข

จงอย่าคิดว่าสิ่งที่แม่บอกลูก เป็นภาระอันใหญ่หลวงสำหรับพวกลูกทุกคนที่จะต้องแบก พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยให้ใครต้องทำในสิ่งที่เกินความสามารถ

ขอให้ ลูกภูมิใจเถิดพวกลูกแต่ละคน ได้รับการเลือกสรรค์ให้ทำหน้าที่แตกต่างกัน เพื่อให้โลกนี้ดำรงอยู่ได้อย่างสันติสุข พระบุตรสุดที่รักของแม่ บัดนี้ได้มาอยู่ต่อหน้าพวกลูกทั้งหลายแล้ว พระองค์ต้องการฟังความต้องการส่วนตัวของลูกแต่ละคน จงทูลขอพระองค์จากจิตใจที่แท้จริงของลูกทั้งหลายเถิด พระองค์กำลังสดับฟังอยู่”


ผมบอกให้ทุกคนเสนอความต้องการส่วนตัวของแต่ละคน และขอพระพรจากพระเยซูเจ้า ผมได้สัมผัสถึงพลังแห่งความเมตตาและความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ผมจำได้ไม่หมดว่าผมขออะไรพระองค์บ้าง นึกอะไรได้ก็บอกกับพระองค์ไปจนหมดสิ้น แต่ที่จำได้แน่ ๆ ก็คือพระองค์ได้ทรงเมตตาให้พระพรแก่พวกเราทุกคนอยู่นานพอสมควร แล้วพระองค์ก็เริ่มตรัสกับผมว่า

“ในทุก ๆ ครั้งที่มีการร่วมใจกันสวดภาวนา ฤทธิ์กุศลนี้จะสามารถบรรเทาได้ทุก ๆ สิ่ง คนเจ็บป่วยก็จะได้รับความบรรเทา สิ่งที่เลวร้ายในชีวิตก็จะได้รับการช่วยเหลือ จงอย่าลืมพลังแห่งความศรัทธาและมั่นคงต่อพระบิดาเจ้าในสรวงสวรรค์เถิด

โดย ปกติแล้วลูกจะไม่ได้ยินเสียงของเรา
( พระองค์หมายถึงผม) แต่ วันนี้เราต้องการให้ลูกรู้ว่า เราเฝ้าดูการกระทำของลูกโดยตลอดเช่นกัน มีหลายครั้งที่ลูกกำลังจะเดินออกนอกทางที่เรากำหนดไว้ แต่ลูกยังกลับตัวทันและฟังเสียงในจิตใจของลูก จงจำไว้ว่าพวกลูกคือลูกทั้งหลายของเรา เราจะไม่มีวันทิ้งขว้างผู้ใดผู้หนึ่งเป็นอันขาด ขอเพียงแต่ลูกระลึกถึงเราบ้าง อย่าให้เราต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกเลย”

ผมได้ยินพระองค์พูดถึงตอนนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เสียใจที่ทำให้พระองค์ต้องผิดหวังและทำให้พระองค์ต้องเจ็บปวดทรมาน นึกถึงบทที่จะสวดต่อไปไม่ออก ได้แต่ร้องไห้และเสียใจที่ผมไม่เข้มแข็งพอ ไม่สมกับที่พระองค์ได้ทรงพระกรุณาดึงผมมาจากที่ ๆ ต่ำต้อยเมื่อสามปีที่แล้ว ผมขอขอบคุณแม่พระที่ไม่เคยทอดทิ้งผม แม้ว่าผมจะเป็นคนบาป และขอบคุณพระเยซูเจ้าที่พระองค์ได้เสด็จมาอยู่ท่ามกลางพวกเราในคืนวันนี้ ผมจะไม่มีวันลืมความกรุณาของพระองค์ในครั้งนี้เลย

ณ เวลาที่ผมพิมพ์สาสน์ของแม่พระอยู่นี้ ทำให้ผมนึกถึงบทเพลงสรรเสริญแม่พระ และองค์พระเยซูคริสตเจ้าดังนี้

ใคร รักเท่าแม่ (หนังสือปรารถนา หน้า 217)

1. แม่รักลูกยิ่งสิ่งใด ลูกวอนขออะไรแม่ให้ดังปรารถนา
ชีวิตแม่พลีได้ทุกเวลา ใครเล่าหนารักเราเท่าแม่รักเอย
2. โอ้แม่มารีย์ยอดสตรีเหนือใครทั้งปวง พระแม่ทรงเป็นห่วงเหล่าพวกลูกที่อ่อนแอ
แม้มีศัตรูร้ายจู่โจมคอยรังแก แม่ผันแปรโอ้พระแม่คอยช่วยเรา
3. โอ้แม่มารีย์ราชินีของชาวคริสตัง พระแม่เป็นพลังหนุนนำให้ลูกทำดี
จึงขอสรรเสริญเทิดเทินพระแม่มารีย์ ลูกยินดีฉลองพระนามในวันนี้เอย
4. แม่ขอให้ลูกอย่าทำความชั่ว บาปเมามัวอย่าได้กลัวสู้มัน
อย่าหนีจงสู้สุดชีวัน แม่เป็นประกันบาปมันจะพ่ายแพ้เอย


พักพิงในพระเจ้า (หนังสือปรารถนาหน้า 412)

1. ดั่งทะเลเจอมรสุมแปรปรวน ทุุกคนมีชีวิตเป็นเช่นนั้น
ยามทุกข์เจียนตายดั่งคลื่นและลมซัดพา ขาดคนคุ้มครองป้องกันพักพิง
2. แต่อย่าลืมพระองค์เฝ้ามองเราอยู่ พร้อมจะเชิดชูใจที่อ่อนแรงระอา
จงหันคืนสู่พระพักตร์ที่แสนเมตตา มอบชีวาให้พระเจ้านำพา
3. พักพิงในพระเจ้า พักพิงในพระองค์ พระทรงเป็นศิลามั่นคง
พระองค์เป็นพระเจ้า พระองค์เป็นพลัง โปรดเป็นโล่เป็นกำบังที่เข้มแข็ง
ต่อไปนี้ฉันจะไม่ ต่อสู้เพียงลำพัง หตุพระองค์ผู้กอบเกียรติชัย
ในความตายความบาปโปรดเดินเคียงข้างฉัน

ขอแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจสุดที่รักของลูก และองค์พระเยซูคริสตเจ้า โปรดรับคำวิงวอนของพวกลูกทั้งหลาย และทรงพระกรุณาช่วยโลกนี้ให้พ้นภัยด้วยเทอญ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร มี.ค. 28, 2006 7:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอบกลับโพส