+ เดือน มค.49 จงเร่งทำความดี +

รวมสารการประจักษ์แม่พระที่ลำไทร สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสุภาพ และไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใด ๆ ในบอร์ดนี้
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ เม.ย. 15, 2006 2:40 am

จงเร่งทำความดี


วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2549 เวลา 23.07-23.38

“ลูกที่รัก วันนี้ลูกได้รับการบอกกล่าวจากผู้อื่นให้ดูดวงจันทร์ใช่ไหม? (แม่พระทรงทำอัศจรรย์ในดวงจันทร์ มีหลายคนได้เห็นแม่พระทรงอุ้มพระกุมาร แทนที่รูปกระต่ายในดวงจันทร์ แต่ผมไม่มีบุญพอที่จะได้เห็นเช่นนั้น จึงเห็นได้แต่เพียงแสงสีฟ้าเข้มกระจายออกมารอบๆดวงจันทร์ ดูเหมือนกับว่าดวงจันทร์กำลังจะแยกตัวออกมาเป็นสองดวง)วันนี้แม่ต้องการ ให้ลูกทั้งหลายได้รู้ว่า แม่เฝ้ามองลูกๆทั้งหลายอยู่เสมอด้วยความรักและห่วงใย จงอย่าลืมคำที่แม่พร่ำเตือนเสมอ ให้ลูกสวดภาวนาทำพลีกรรมเพื่อชดเชยบาปของตัวลูกเองและเพื่อนมนุษย์ที่ตก อยู่ในบาปหนักทั้งหลาย ให้เขาได้กลับใจ

ลูกรักทั้งๆที่แม่มาเตือน และบอกถึงพยันตรายต่างๆที่ใกล้จะมาถึงตัวลูกโดยที่ลูกไม่ทันรู้ตัวนั้น มีสักกี่คนที่ฟังเสียงของแม่นี้ ลูกรักมันอาจจะสายเกินไปแล้วสำหรับผู้ที่ถูกจิตชั่วร้ายครอบงำอยู่จน กระทั่งเห็นดีเห็นงามไปกับมัน กระทำความชั่วโดยไม่ละอาย แม้กระทั่งต่อหน้าพระบิดาเจ้าสวรรค์ มนุษย์เหล่านั้นอาจจะถึงเวลาแล้วที่จะต้องถูกชำระล้างเสียที

แม่ พยายามขอให้ลูกๆของแม่ทุกคนสวดภาวนาขอให้เขาเหล่านั้นได้สำนึกถึงบาป กลับใจ และขอโทษต่อพระบิดาเจ้าสวรรค์ การที่พระองค์ทรงยั้งพระทัย ชะลอมิให้ มีการทำลายล้างเกิดขึ้นในตอนนี้นั้น เนื่องมาจากพระองค์ทรงได้ยินเสียงสวดภาวนาของลูกๆส่วนหนึ่งที่ขอผ่านในนาม ของแม่ ถึงแม้จะเป็นคนเพียงจำนวนไม่มากนักที่ทำการสวดภาวนา และพลีกรรมนี้ แต่ก็ทำให้พระองค์ทรงพระทัยอ่อนโยน เมตตา และยืดเวลาการทำลายล้าง นี้ออกไป

แต่น่าเศร้าใจยิ่งนัก ที่คนบาปก็ยังไม่กลับใจ และหารู้ไม่ว่าที่พวกเขาอยู่รอดมาได้นี่ก็เพราะคำภาวนาจากลูกๆขอแม่จำนวน หนึ่งเท่านั้น มนุษย์เอ๋ย จงอย่าชะล่าใจกันอีกเลย จงจำคำของแม่นี้ไว้ให้จงดีเถิด ภัยจะมาถึงตัวลูกโดยที่ลูกไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็สายไปแล้วสำหรับทุกสิ่ง ลูกจะไม่สามารถช่วยเหลือได้แม้กระทั่งตัวของลูกเองถ้าลูกไม่กลับใจ

ตอน นี้จิตชั่วร้ายกลังทำงานของมันอย่างหนัก เพื่อที่จะได้ดวงวิญญาณของลูกๆของแม่ไปอยู่กับมัน จะต้องรอให้วันนั้นมาถึงก่อนหรือลูกรัก และเมื่อวันนั้นมาถึง ลูกของแม่จะไปอยู่ที่ใดเล่า ลูกคิดกันบ้างหรือไม่? จงรักซึ่งกันและกัน ความรัก การเสียสละ และช่วยเหลือเกื้อกูลนั้นจะนำมาซึ่งสันติสุขในจิตใจ จงจำไว้เถิดว่า ผู้ที่ให้โดยไม่หวังที่จะได้รับสิ่งใตตอบแทนนั้น เขาจะได้บำเหน็จรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าในสรวงสวรรค์

ลูกรัก จงเร่งทำความดี เพื่อสะสมทรัพย์สมบัติทางฝ่ายวิญญาณของลูกไว้เถิด ก่อนที่จะสายเกินไป

ขอสันติสุขจงมีแก่ลูกที่รักทั้งหลายของแม่ ทุกๆคน "
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ เม.ย. 15, 2006 2:45 am

ไม่มีความรักใดที่ยิ่งใหญ่กว่าความรักขององค์พระบิดาเจ้า
วันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2549

วันนี้ผมไม่มีโอกาสได้ไปร่วมสวดภาวนาที่หน้าถ้ำแม่พระที่ลำไทร เพราะไม่สบาย เป็นไข้หวัด ถ้าไปตากน้ำค้างและต้องอดนอนอีก ผมคงจะต้องป่วยหนักแน่ จึงได้แต่ส่งใจไปร่วมสวดภาวนาด้วยเท่านั้น ผมได้ทราบข่าวทางโทรศัพท์ว่าคืนนี้

หลังจากที่พวกเราได้สวดภาวนาเซนาเกิลแล้ว ก็ได้อธิฐานขอสาสน์จากแม่พระ

จาก หนังสือของคุณพ่อก็อบบี้ ซึ่งเปิดได้หน้าที่206

สาสน์ของแม่พระ ประทานผ่านคุณพ่อ ดอน สเตฟาโน ก็อบบี้ หน้า206-207
30พ.ค. 1993 ความบรรเทาใจท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ

“ในช่วงเวลาสุดท้ายนี้ จำเป็นที่พระศาสนจักรและมนุษยชาติจะถูกเปลี่ยนแปลงให้ เป็นกลุ่มสวดภาวนาเซนาเกิล จงทำพร้อมกับแม่ โดยผ่านทางแม่ และเมื่อนั้นพระ จิตเจ้าจะเสด็จลงมาเพื่อบรรเทาความเศร้าโศกในวันของลูก ซึ่งการทดลองอันยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นแล้ว

ท่ามกลางความเศร้าโศก ของมนุษยชาติที่ไม่มีพระเป็นเจ้า ความบรรเทาใจจะมา จากพระจิตเจ้า พระผู้ซึ่งจะเป็นผู้นำโลกไปสู่การสรรเสริญพระบิดาเจ้าสวรรค์อย่าง ครบถ้วนสมบูรณ์ พระองค์จะนำซึ่งความรักใหม่ระหว่างมนุษยชาติกับพระเป็นเจ้า ของพวกเขา พระเป็นเจ้าพระผู้สร้างของพวกเขา ผู้ไถ่กู้และพระผู้ช่วยเขาให้รอด

ท่ามกลางความเศร้าโศกเพราะการแตก แยกในพระศาสนจักร ความมืดมนและ บาดเจ็บ พระศาสนจักรจะสัมผัสได้ถึงความบรรเทาใจซึ่งพระจิตประทานให้ พระ จิตเจ้าผู้ซึ่งจะห่อหุ้มพระศาสนจักรไว้ด้วยความอดทนและปรีชาญาณ ด้วยพระ หรรษทานและความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความรักและแสงสว่าง และด้วยวิธีนี้พระ ศาสนจักรจะได้เป็นพยานที่แท้จริงของพระเยซู และมั่นคงอยู่ได้ตลอดไปจนถึงวัน สิ้นโลก

ท่ามกลางความเศร้าโศกของ วิญญาณต่างๆ วิญญาณที่ถูกทำให้กลายเป็นทาส ของซาตาน วิญญาณที่ถูกทำให้จมอยู่ในเงาของบาปและความตาย พวกเขาจะ สุกสว่างขึ้นอีกครั้งด้วยความบรรเทาใจจากพระจิตเจ้า พระผู้ซึ่งจะประทานแสง สว่างแห่งการประทับอยู่ของพระเป็นเจ้า ชีวิตแห่งพระหรรษทานของพระองค์ และ ไฟแห่งความรัก เพื่อว่าในพวกเขา พระผู้ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด และพระตรีเอกภาพ จะได้ รับการสรรเสริญอย่างสมบูรณ์ตลอดนิรันดร์

ท่าม กลางความเศร้าโศกในการทดลองอันยิ่งใหญ่ ความบรรเทาใจจะมาถึงด้วย การประทับอยู่ของพระจิตเจ้า ผู้ซึ่งจะนำลูกไปสู่ชีวิตด้วยความมั่นใจ ความกล้า หาญ ความหวัง สันติสุขและความรัก โดยผ่านทางเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น
กับลูก

เชิญเสด็จมาพระ จิตเจ้า
เชิญเสด็จมาและเปลี่ยนโฉมหน้าของโลก
เชิญเสด็จมาโดยเร็วเถิด
เชิญ เสด็จมาในยุคสุดท้ายนี้เถิดพระเจ้าข้า
เชิญเสด็จมา เพราะบัดนี้การทดลองอันยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นแล้ว”



ผมกับพี่สาวถึงแม้จะไม่ได้ไปลำไทรแต่เราก็ได้ไปวัด เมื่อกลับมาแล้วเราก็ยังคงสวดภาวนาอยู่ที่บ้านต่อหน้าแม่พระฟาติมา ในคืนนี้ช่างเงียบเหลือเกิน จิตใจของเราสองคนสงบนิ่งอย่างมาก หรือว่าวันนี้แม่พระต้องการให้ผมอยู่ที่บ้านนี้กระมัง
เมื่อเลยเที่ยงคืนไปแล้วผมรู้สึกว่าที่นี่เงียบมาก ที่นี่ช่างเงียบอย่างผิดสังเกต เมื่อถึงเวลาที่เราสวดยกระดับจิตใจขึ้นหาพระบิดาเจ้านั้น ผมรู้สึกว่าเหว่และเศร้า ใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้รับหมายสำคัญใดๆจากพระองค์ และไม่ได้ยินหรือสัมผัส ใดๆจากแม่พระเลย ผมเริ่มถามพระองค์ว่าลูกได้ทำผิดอะไรที่ทำให้พระองค์ต้อง ขุ่นเคืองพระทัยหรือเปล่า ถ้าลูกได้ทำไปลูกก็ขอโทษต่อพระองค์ เวลานั้นเราสอง คนเศร้ามากเหลือเกิน เศร้าจนกระทั่งต้องร้องไห้ออกมาอยู่เป็นเวลานาน และแล้ว พี่สาวผมก็ได้ยินพระสุรเสียงของพระบิดาทรงตรัสตอบเราว่าดังนี้

“พ่อนี้หรือจะมีความสุขที่ต้องเห็นลูกดื้อ ไปล้มลุกคลุกคลาน ขอเพียงเจ้ากลับมา หา พ่อก็จะกอดเจ้าไว้ด้วยความรัก”
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ เม.ย. 15, 2006 2:49 am

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2549
เวลา 00.45-00.47น.

หลังจากนั้นผมก็เริ่มได้ยินเสียงของแม่พระในเวลาที่ใกล้เคียงกัน คืนนี้แม่พระทรงประทานสาสน์ที่ยาวเป็นพิเศษ ผมรู้สึกว่าแม่พระกำลังสอนผม และในขณะเดียวกันก็ทรงสอนผู้อื่นที่กำลังสวดอยู่ที่หน้าถ้ำแม่พระที่ลำไทร ด้วยเช่นกัน เมื่อผมจดบันทึกสาสน์ของแม่พระเสร็จแล้ว จึงรีบโทรศัพท์ไปบอกสาสน์นี้ก่อนเวลา 03.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แม่พระเคยประทานสาสน์ให้ตามปกติ แม่พระทรงรู้ดีว่าผมไม่สบาย ผมคงอยู่ไม่ถึงตีสามแน่ จึงได้ทรงประทานสาสน์ให้ตั้งแต่เวลา 00.47 -01.37น. ดังนี้

“ลูก ที่รักของแม่ทั้งหลาย แม่ขอบใจในความจงรักภักดีที่มีต่อแม่ แม่มองเห็นในดวงใจของลูกทั้งหลายว่า วันนี้ลูกได้มาหาแม่ด้วยความร้อนรนและจริงใจ หลาย คนอาจจะผิดหวังที่ไม่ได้เห็นผู้นำสาสน์ของแม่ไปอยู่ร่วม ณ ที่นั่น แม่เองเป็นผู้หยุดเขาไว้เพื่อที่จะได้มีเวลาตามลำพัง ได้ใกล้ชิดสนิทกับดวงพระหฤทัยของพระบิดาเจ้าสวรรค์ เขาหลงทาง วิ่งวนมองหาทางที่จะไปอยู่เฝ้าเฉพาะพระพักต์ของพระองค์ แต่เขาก็เข้าใจผิดไปต่างๆนานา หลงวิ่งไปตามกระแสที่กำลังมาแรง แรงขึ้นมากทุกที แม้แต่ตัวเขาเองก็มิอาจต้านทานได้ แม่จึงให้เขาได้หยุดเพื่อพิจารณาตนเองให้ถ่องแท้ว่า สิ่งที่เขาแสวงหาและพระพรอันประเสริฐที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับหัวใจอันแท้จริง ของเขาเองต่างหาก เมื่อเขาเข้าใจ ยอมรับในน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้าสวรรค์ เขาก็จะรู้ว่าไม่มีความรักใดที่ยิ่งใหญ่กว่าความรักขององค์พระบิดาเจ้า สวรรค์ไปได้ เพราะด้วยความที่พระองค์ทรงโปรดปรานสิ่งสร้างขึ้นมาตามพระฉายาของพระองค์ มนุษย์จึงเป็นสิ่งสร้างที่พระองค์รักมากที่สุด เมื่อลูกๆกำลังหลงทาง จิตใจเอนเอียงไปตามคำยุยงของจิตชั่วร้าย พระองค์นี้แหละที่ได้ส่งแม่ให้ลงมาเพื่อเตือน ลูกๆ ของพระองค์ด้วยพระหทัยเมตตาสงสาร อยากให้ลูกๆของพระองค์ได้มี โอกาสกลับใจ แก้ไขความประพฤติที่ไม่ดีต่างๆของลูกเสีย เพื่อลูกจะได้มีส่วนในพระราชัยแห่งสวรรค์

ลูกรัก ในจำนวนผู้ที่มาหาแม่เองก็ตาม ก็ยังมีผู้ที่ยึดมั่นถือมั่นในตนเองสูงมาก คิดว่าแม่คงไม่รู้ไม่เห็น ลูกรัก แม่ขอบอกลูก ณ เดี๋ยวนี้ว่า แม่และพระบิดาเจ้า สวรรค์ และองค์พระบุตรสุดที่รักของแม่ ได้มองเห็นการกระทำและความตั้งใจอันนี้ ของลูกมาตลอด

ลูกรัก การเข้ามาทำงานให้พระ ในหัวใจของลูกต้องมีแต่สันติสุขนะลูก จงอย่าได้เอาไฟมาเผาผู้อื่น และทำให้ลูกร้อนรนด้วยพิษสงของไฟจากจิตชั่วร้ายนี้ ถึงลูกจะคิดว่าไม่มีใครรู้ความในใจของลูกได้ แต่แม่นี่แหละรู้มาตลอดเวลา และพระบิดาเจ้าสวรค์ก็ทรงอนุญาตให้ลูกได้เลือกในสิ่งที่ลูกต้องการทำ แต่แม่ขอเตือนไว้อย่างหนึ่งว่า สิ่งใดที่ออกจากปากลูกไปแล้ว ลูกไม่สามารถนำกลับคืนไปได้อีก ลูกจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ลูกได้ก่อไว้ทั้งหมดด้วยตัวของลูกเองนะลูกรัก นี่คือคำเตือนของแม่ในวันนี้ ถ้าลูกรักแม่จริง ลูกก็จะพบแต่สันติสุขในจิตใจ, สงบ, ร่มเย็น, ไม่ว้าวุ่นใจ, ลูกจะวางใจในองค์พระบิดาเจ้าให้ทรงนำทางชีวิตของลูกอยู่เสมอ ดังนั้นคำถามต่างๆที่ได้หลั่งไหลมาถึงผู้นำสาสน์ของแม่นั้น ขอให้ลูก พิจารณาดูให้ถ่องแท้เสียก่อนว่า ลูกต้องการถามไปเพื่ออะไร มีอะไรที่จะเป็น ประโยชน์แก่จิตวิญญาณของลูกเองและผู้อื่นบ้างหรือไม่

บาง ครั้งเรื่องนี้ลูกใช้กำลังสติปัญญาอย่างมนุษย์ของลูกเอง ลูกก็สามารถรู้คำตอบ ได้ด้วยตนเองอยู่แล้ว แต่ที่ลูกถามแม่มาเพราะต้องการคำยืนยันจากแม่ใช่ไหมว่า “ใช่หรือไม่ใช่”ตามที่ลูกคิด ลูกเอ๋ย ถ้าลูกวางใจในน้ำพระทัยของพระบิดาเจ้า สวรค์ คำถามเหล่านี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นมาได้หรอกลูกรัก

วันนี้แม่ต้องแยก ตัวผู้นำสาสน์ของแม่ให้ออกมาจากสิ่งเหล่านี้ ผู้คนกำลังดึงให้เขา ตอบสนองความต้องการของเขาแต่ละคน นี่ไม่ใช่สิ่งที่แม่ได้จัดเตรียมลูกของแม่ คนนี้มาทำงานให้มนุษย์หรอกนะลูกรัก แม่ต้องการให้เขาช่วยพาดวงวิญญาณทั้ง หลายของลูกๆได้มาพบกับพระบิดาเจ้าสวรรค์ด้วยหัวใจของลูกเองต่างหาก ด้วย ความนบนอบ, ความจงรักภักดีที่ลูกได้แสดงออกเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระองค์ ต่างหากที่จะนำมาซึ่งพระพรอันมิรู้จบสิ้นมาให้แก่ลูกๆทุกคน

ต่อไปนี้ แม่ไม่อนุญาตให้ผู้นำสาสน์ของแม่ทำงานวิ่งไปตามกระแสอีก วันนี้เขาจึง ต้องพักและอยู่กับแม่ที่บ้านนี้ เพื่อให้เขาได้เข้าใจถึงพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า สวรรค์ว่าพระองค์ทรงมีพระประสงค์อย่างไร ต่อไปในภายภาคหน้าลูกๆทั้งหลาย ก็จะเข้าใจเอง

จงอย่ายึดติดที่ตัวตนของผู้นำสาสน์ของแม่ เขามิได้มีพระพรอันใดเป็นพิเศษอย่าง ที่ลูกเข้าใจ พระพรนี้มาจากการประทานให้มาจากสวรค์ต่างหาก จงเข้าใจเสียใหม่ ลูกของแม่คนนี้คือผู้ที่จะนำจิตวิญญาณของลูกๆทั้งหลายไปหาพระบิดาเจ้าสวรรค์ เมื่อจิตใจของลูกๆพร้อมที่จะรับพระองค์ อัศจรรย์ทั้งหลายก็จะบังเกิดขึ้นในจิตใจ ของลูกเอง จงจำไว้นะลูกรัก จงปล่อยให้เวลาผู้นำสาสน์ของแม่ ได้ทำหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายนี้มาให้สำเร็จด้วยเถิด เขาจะต้องไปเผยแพร่สาสน์ของแม่ นี่คืองานข้าง หน้าที่เขาจะต้องทำ ขอให้ลูกๆทั้งหลายจงเข้าใจพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า สวรรค์ให้จงดี สิ่งที่พระองค์ปรารถนามากที่สุดก็คือ เห็นลูกๆของพระองค์กลับใจ, สำนึกถึงบาปและมาขอโทษต่อพระองค์อย่างจริงใจ และตั้งใจว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ทำ บาปนั้นอีก เพียงง่ายๆแค่นี้ลูกทำให้พระองค์ได้มั๊ย?

แม่คงจะไม่พูดอะไรไป มากกว่านี้ จงอย่าลืมคำที่แม่พร่ำเตือน สวดภาวนา ทำพลีกรรมเพื่อชดเชยบาปทั้งของตัวลูกเองและมนุษย์ทั้งหลาย และด้วยความตั้งใจ กระทำดีอันนี้แหละจะส่งผลให้สันติสุขเกิดขึ้นอย่างทั่วหน้า จงรักซึ่งกันและกันดั่งที่ พระบิดาเจ้าทรงรักลูกๆของพระองค์ทุกคน เมื่อลูกๆไม่ตกอยู่ในบาปหนัก ถึงแม้จะ มีภัยพิบัติร้ายแรงใดๆเกิดขึ้น ลูกๆของแม่ก็จะปลอดภัยภายใต้พระหัตถ์ของพระ บิดาเจ้าสวรรค์นั่นเอง

สิ่ง ที่แม่เป็นห่วงก็คือ บรรดาคนบาปที่ยังไม่ยอมกลับใจต่างหาก เขาเหล่านั้นแหละ จะได้เป็นพยานยืนยันถึงคำพิพากษาที่มาจากพระบิดาเจ้าสวรรค์ ลูกรัก จงช่วยกัน สวดภาวนาให้คนเหล่านั้นด้วยเถิด พระบิดาเจ้าทรงเมตตาพวกเขาเพียงใด แต่เขา หาสำนึกไม่ แต่กลับทำชั่วร้ายหนักมากขึ้นไปทุกที ตอนนี้วิญญาณของเขาได้ถูก ครอบงำโดยจิตชั่วร้ายอย่างสิ้นเชิงแล้ว แต่แม่และชาวสวรรค์ยังเชื่อว่า ถ้าตราบ ใดยังมีผู้มีน้ำใจงดงามสวดให้ผู้ที่มีน้ำใจแข็งกระด้างต่อพระบิดาเจ้าสวรรค์ เหล่านี้ แล้ว สักวันหนึ่งเขาจะได้รับหมายสำคัญจากพระองค์และทำให้เขากลับใจ แม้แต่ ในวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นลม

จงสวดภาวนาต่อไปเถิดลูกรัก และสันติสุขจงมีแก่ลูกๆทั้งหลายของแม่ สันติสุขนี้ จะเกิดขึ้นได้เมื่อเรารวมจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน

ขอสันติสุขจงมีแก่ ลูกๆของแม่ทุกคน”
ตอบกลับโพส